“อาอวี๋ ดูเหมือนสภาพจิตใจเจ้าจะดีขึ้นมากแล้ว!”เซียวหลินเทียนเห็นใบหน้าของหลิงอวี๋มีสีเลือดฝาดก็รู้สึกโล่งใจเขาให้หานเหมยกับคนอื่น ๆ ออกไปแล้วก็รีบเอ่ย “เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว! อาอวี๋ เจ้ารีบช่วยข้าคิดหาวิธีว่าจะช่วยพระสนมฮุ่ยกับราชองครักษ์ผางได้อย่างไรทีเถิด!”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างสับสน “เกิดเรื่องอันใดขึ้นเพคะ?”เซียวหลินเทียนรีบเล่าเรื่องที่ราชองครักษ์ผางบอกกับตนให้หลิงอวี๋ฟังอย่างรวดเร็วแล้วสุดท้ายก็เอ่ย“ข้าเชื่อว่าสิ่งที่ราชองครักษ์ผางพูดคือความจริง! แต่ข้ามิค่อยเชื่อสิ่งที่พระสนมฮุ่ยบอกนัก!”“คนเราหากไม่มีความสัมพันธ์กับคนอื่นจะท้องโดยไม่มีเหตุผลได้เยี่ยงไรกัน!”ครั้งที่แล้วหลิงอวี๋ได้รับบุญคุณของพระสนมฮุ่ย ยังคิดอยู่ว่าจะตอบแทนพระสนมฮุ่ยอย่างไร หลังจากฟังคำพูดของเซียวหลินเทียน นางก็สูดลมหายใจและเป็นกังวลแทนพระสนมฮุ่ย“พระสนมฮุ่ยตั้งครรภ์จริงหรือเพคะ? มิได้เข้าใจผิดใช่หรือไม่?”ในวังมิเท่าข้างนอก หากพระสนมฮุ่ยถูกคนลอบวางแผนจริง ๆ หลังจากเกิดเรื่องนางจะมิสังเกตเห็นได้เยี่ยงไร!ยิ่งไปกว่านั้น คนที่สามารถรับใช้ในตำหนักพระสนมฮุ่ยได้ ก็น่าจะเป็นคนสนิทของนางมิใช่หรือ หรือพวก
เซียวหลินเทียนตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ใต้หล้านี้มีเรื่องเช่นนี้จริง ๆ หรือ?แต่หลิงอวี๋บอกว่ามี เช่นนั้นก็น่าจะมีกระมัง“ถึงกระนั้นเจ้าก็มิสามารถเข้าวังตอนนี้ได้! นั่นจะมิทำให้เกิดความสงสัยหรือ?”เซียวหลินเทียนสงบลง เขากดหลิงอวี๋ไว้พลางรีบคิดหามาตรการตอบโต้ต้องทำอย่างไรถึงจะให้หลิงอวี๋ตรวจว่าพระสนมฮุ่ยตั้งครรภ์จริง ๆ หรือเป็นอาการป่วยในเวลานั้นเองภายในวังมินานหลังจากที่ราชองครักษ์ผางส่งเซียวหลินเทียนกลับไป เขาก็เห็นขันทีฉางพารองราชองครักษ์เฮ่อจู้และองครักษ์กองทัพหลวงอีกสิบกว่านาย ด้วยใบหน้าบึ้งตึงแย่แล้ว!ราชองครักษ์ผางหัวใจเต้นแรง แต่มิแสดงสีหน้าใด ๆ เขาลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม “ขันทีฉาง รองราชองครักษ์เฮ่อ นี่มีเรื่องอะไรหรือ? พวกเจ้าสองคนถึงมาด้วยกันได้!”เฮ่อจู้ยืนอยู่ข้างหลังขันทีฉางด้วยรอยยิ้มมิพูดอะไร แต่มือของเขากดลงบนดาบอย่างตั้งใจและมิตั้งใจ“ราชองครักษ์ผาง องค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้ท่านไปพูดคุยที่พระตำหนักฮุ่ยจู๋!”ขันทีฉางเองก็มีสีหน้าเศร้าหมองเช่นกัน เขาถ่ายทอดคำสั่งของจักรพรรดิอู่อันแล้วหันหลังเดินออกไปราชองครักษ์ผางเหลือบมองเหยียนเจ๋อ มิพูดอะไรแล้วเดินตามขันทีฉา
ทันใดนั้นกลิ่นอายสังหารที่รุนแรงก็พุ่งออกมาจากดวงตาที่หลุบต่ำของผางเซิง…เขาเสี่ยงชีวิตนับครั้งมิถ้วนเพื่อช่วยชีวิตจักรพรรดิอู่อัน!หากทรราชนั่นนึกถึงความดีของตน ก็คงจะใจกว้างเปิดโอกาสให้ตนกับพระสนมฮุ่ยไปแล้วหากทนพระสนมฮุ่ยมิได้จริง ๆ เช่นนั้นเขาก็คงต้องเสี่ยงชีวิตฆ่าเขาเสียก่อน...กลุ่มคนก้าวเดินกันไปที่พระตำหนักฮุ่ยจู๋องครักษ์กองทัพหลวงบางส่วนที่ลาดตระเวนในวังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของราชองครักษ์ผาง เมื่อเห็นสิ่งนี้ก็ตกใจกันท่าทางของราชองครักษ์ผาง ดูอย่างไรก็เหมือนกำลังถูกรองราชองครักษ์เฮ่อพาตัวไป!นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น?กระทั่งราชองครักษ์ผางเดินไปถึงที่พระตำหนักฮุ่ยจู๋ เพิ่งก้าวผ่านประตูไปก็รู้สึกได้ถึงเสียงลมที่มาจากด้านหลัง...วินาทีต่อมา ราชองครักษ์ผางก็ถูกเฮ่อจู้กับองครักษ์กองทัพหลวงหลายคนตรึงลงกับพื้นเฮ่อจู้เอื้อมมือออกไปคว้าดาบของราชองครักษ์ผางออกไปอย่างรวดเร็ว เขากดเข่าลงบนหลังของราชองครักษ์ผาง พลางเอ่ยอย่างแปลก ๆ“ผางเซิง เรื่องของท่านมันแดงแล้ว... องค์จักรพรรดิเห็นแก่ที่ท่านร่วมรบกับเขา จึงให้โอกาสท่านได้อธิบาย... ส่วนดาบนี่ข้าจะเก็บไว้ให้ท่านก่อน!”ราชองค
หมอหลี่ดูแก่ลงกว่าก่อนหน้านี้มาก เขาเหลือบมองราชองครักษ์ผางแล้วคุกเข่าลงพื้นเสียงดัง“ฝ่าบาท กระหม่อมบอกไปแล้วว่า… พระสนมฮุ่ยกำลังตั้งครรภ์ นางกลัวว่าจะถูกเปิดโปง จึงขอให้กระหม่อมสั่งยาทำแท้งให้ อีกทั้งนางยังให้เงินกระหม่อมแล้วให้ลาออกและกลับบ้านเกิดไปพ่ะย่ะค่ะ…”หมอหลี่กลัวจนตัวสั่น พลางเอ่ยอย่างสะเปะสะปะ “ฝ่าบาท กระหม่อมมิบังอาจปิดบังฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ แต่ราชองครักษ์ผางบอกว่าหากกระหม่อมกล้าแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปเขาจะฆ่าทั้งครอบครัวของกระหม่อม...”“กระหม่อมไม่มีทางเลือก! ขอฝ่าบาทโปรดเข้าใจด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ราชองครักษ์ผางจ้องมองตรงไป เขาเคยบอกว่าจะฆ่าครอบครัวหมอหลี่เมื่อใดกัน?หากเขาเป็นคนเลวทรามเช่นนั้น เขาจะปล่อยหมอหลี่ไปหรือ?“ปั้ก...”ทันใดนั้นถ้วยชาก็ตกลงมากระแทกหัวราชองครักษ์ผางน้ำชาร้อน ๆ รดลงบนหัวกับใบหน้าของราชองครักษ์ผางทันทีหากเป็นราชองครักษ์ผางสมัยหนุ่ม เขาคงจะโกรธขึ้นมาแล้ว แต่เขามิใช่คนหุนหันพลันแล่นเช่นในตอนนั้นอีกต่อไปแล้วราชองครักษ์ผางแอบกัดฟันแล้วมองจักรพรรดิอู่อันอย่างสงบ พลางเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ“ฝ่าบาท นี่มันหมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ? เหตุใดจู่ ๆ ห
หลังจากนั้นมินาน ถังถีเตี่ยนกับหมอจางก็เดินเข้ามาด้วยกันจักรพรรดิอู่อันมิพูดอะไร ถือเป็นการอนุญาตโดยปริยายเขาอารมณ์มิดีมากแล้ว นี่จะทำให้ทุกคนรู้โดยทั่วกันว่าตนถูกสวมเขาหรือ?เขาแค่อยากจะจัดการพระสนมฮุ่ยกับราชองครักษ์ผางอย่างเงียบ ๆแต่ฮองเฮาเว่ยบอกว่า ราชองครักษ์ผางควบคุมกองทัพหลวงมาหลายปี หากฆ่าราชองครักษ์ผางไปโดยไม่มีหลักฐานใด ๆ รังแต่จะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาเคียดแค้น...องครักษ์มากมายถึงเพียงนี้ ต่อไปใครไว้วางใจได้หรือไว้วางใจมิได้ เรื่องนี้คือสิ่งที่จะมาทดสอบ!จักรพรรดิอู่อันไม่มีทางที่จะเปลี่ยนองครักษ์กองทัพหลวงทั้งหมดได้ทันที ดังนั้นจึงอยากใช้โอกาสนี้เพื่อดูว่าใครในบรรดาองครักษ์กองทัพหลวงเหล่านี้ที่คู่ควรกับการไว้วางใจ!“ถังถีเตี่ยน หมอจาง พวกท่านผลัดกันขึ้นไปตรวจชีพจรของพระสนมฮุ่ย!”ฮองเฮาเว่ยออกคำสั่งถังถีเตี่ยนกลืนน้ำลายแล้วก้าวไปข้างหน้าแม้ว่าเขาจะถูกกองทัพหลวงเรียกตัวมาจากสถาบันหมอหลวง แต่ก็มิรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นแต่หลังจากคลุกคลีอยู่ในวังมาหลายปี ถังถีเตี่ยนได้กลิ่นแปลก ๆเขาเดินไปหาพระสนมฮุ่ย เห็นพระสนมฮุ่ยคุกเข่าอยู่ที่พื้น ถังถีเตี่ยนจึงทำได้เพ
“ถังถีเตี่ยน ท่านมิเก่งนรีเวชวิทยาใช่หรือไม่? มิน่าท่านถึงได้รับผิดชอบในการรักษาองค์จักรพรรดิ…”“ชีพจรของชายและหญิงนั้นแตกต่างกันมาก ถังถีเตี่ยนหากท่านจับแล้วมิรู้ก็ตำหนิอะไรท่านมิได้เช่นกัน!”เมื่อหมอจางได้ยินดังนั้นก็รีบขัดจังหวะถังถีเตี่ยนทันที“ฝ่าบาท ฮองเฮา กระหม่อมได้ศึกษาทางนรีเวชวิทยามาบ้างแล้ว ชีพจรของพระสนมฮุ่ยเลือดลมพร่องเป็นผลมาจากการแท้งบุตรพ่ะย่ะค่ะ!”“เนื่องจากการดูแลที่มิเหมาะสม ทั้งยังมีการอุดตันของน้ำคาวปลา ดังนั้นชีพจรจึงสะดุดดังที่ถังถีเตี่ยนว่าไว้พ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมเชื่อในการวินิจฉัยของตน แม้ว่าจะหาหมอผู้อื่นมาพวกเขาก็จะต้องเห็นด้วยกับการวินิจฉัยของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ!”ฮองเฮาเว่ยแค่อยากจะกดพระสนมฮุ่ยให้ตาย ขอเพียงหมอจางเออออไปกับตนเรื่องที่พระสนมฮุ่ยตั้งครรภ์ นางจะให้พระสนมฮุ่ยไปหาหมอหลวงคนอื่นให้มีปัญหาใหม่สอดแทรกมาด้วยเหตุใดเล่า“พระสนมฮุ่ย หลักฐานแน่นหนา เจ้ายังจะพูดตลบตะแลงอีกรึ? บอกมา ชายชู้ของเจ้าคือราชองครักษ์ผางใช่หรือไม่?”“เขากับองค์ชายเย่ช่วยเจ้าให้ทำแท้ง คิดจะหลอกลวงองค์จักรพรรดิใช่หรือไม่?”พระสนมฮุ่ยฟังคำที่ฮองเฮาเว่ยพูดยืนยันออกมาอย่างชัดถ้
“ฝ่าบาท! กระหม่อมจงรักภักดีต่อพระองค์ พระองค์จะอาศัยคำพูดที่ไม่มีเหตุผลมาบอกให้กระหม่อมยอมรับในเรื่องตนมิได้ทำหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ผางเซิงมิสนตรงคอที่มีเลือดไหลออกมาแล้วตะคอกด้วยความเศร้าและความโกรธ“กระหม่อมจะไม่มีวันยอมรับผิด… กระหม่อมจะไม่มีวันให้ครอบครัวของกระหม่อมต้องมารับความอัปยศอดสูเช่นนี้ไปกับกระหม่อม!”“คุกเข่าลง...”เฮ่อจู้เห็นว่าเลือดของผางเซิงไหลลงมาที่คอจนเปื้อนเสื้อผ้าของเขาเป็นสีแดงแล้ว แต่เขาก็ยังตั้งคอตรงตะโกนใส่องค์จักรพรรดิอยู่เขาทั้งตกใจทั้งกังวล เกรงว่าตนจะปรามผางเซิงมิอยู่แล้วทำให้เขาไปทำร้ายองค์จักรพรรดิได้“ใครก็ได้ ให้เขาคุกเข่าลง!”พวกองครักษ์กองทัพหลวงรีบพุ่งเข้ามา กดหัวและมือของเขาเอาไว้แล้วเตะที่ขาคิดจะกดผางเซิงลงทันใดนั้น ผางเซิงก็ยกแขนขึ้นพลิกให้หลายคนล้มลงไปกับพื้นจักรพรรดิอู่อันเห็นดวงตาของผางเซิงเป็นสีแดงเลือดและท่าทางดุร้ายเช่นนั้นก็ทำให้จักรพรรดิอู่อันตระหนกตกใจ นี่ผางเซิงคิดจะปลงพระชนม์จริง ๆ หรือ?“คุ้มกันเร็วเข้า!”ขันทีฉางที่ดูอยู่ด้านข้างรีบวิ่งไปตรงหน้าจักรพรรดิอู่อัน เหยียดแขนสองข้างออกทำท่าทางป้องกันพระสนมฮุ่ยมองภาพนี้อย่างมึนงง น
เมื่อราชองครักษ์ผางเห็นฮองเฮาเว่ยบิดเบือนคำพูดของตนครั้งแล้วครั้งเล่า คิดจะยุยงให้องค์จักรพรรดิโกรธตนยิ่งขึ้นเขาก็มิสามารถควบคุมความโกรธของตนได้อีกต่อไป จึงตะคอกใส่ฮองเฮาเว่ย“ฮองเฮา ผางเซิงมิได้จะทวงบุญคุณ ผางเซิงมั่นคงแน่วแน่ว่าชีวิตนี้จะภักดีต่อองค์จักรพรรดิ!”“แม้แต่คนธรรมดาทั่วไปทำเรื่องผิดพลาด ขุนนางที่สอบสวนคดีก็ยังให้โอกาสเขาได้พูด! กระหม่อมผางเซิงมิได้มีความดีความชอบต่อฉินตะวันตกแต่ก็ทำงานอย่างหนัก!”“หรือกระหม่อมจะไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะโต้แย้งให้ตัวกระหม่อมเองเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ฮองเฮา ท่านมิทรงทราบว่าอะไรถูกอะไรผิดเช่นนี้ แต่ยืนกรานที่จะตำหนิผางเซิง ท่านมีเจตนาอันใดหรือ?”“อ๋อ หรือว่าผางเซิงเป็นหัวหน้าราชองครักษ์กองทัพหลวงแล้วไปทำให้ท่านเสียเรื่อง? หากกำจัดกระหม่อมไป ท่านก็สามารถเลื่อนตำแหน่งเฮ่อจู้ให้เป็นหัวหน้าราชองครักษ์ได้กระนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”คำพูดของผางเซิงทำให้ฮองเฮาเว่ยโกรธและใจมิเป็นสุข เฮ่อจู้เองได้ยินดังนั้นก็เหงื่อตกเช่นกันนี่มิได้เป็นการบอกว่าตนกับฮองเฮาเว่ยสมรู้ร่วมคิดกันใส่ร้ายราชองครักษ์ผางหรอกหรือ?“ผางเซิง จะพูดอะไรก็พูดมา ท่านจะลากข้าไปเกี่ยวเพื่อ
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี