ส่วนหนูกลุ่มหลังที่ว่านฉีซานปล่อยเข้ามา ทันทีที่ได้รับอิสระก็รีบพุ่งตรงไปที่เถิงเซียงกับพวกแม่นมทันทีดูเหมือนว่าบนร่างกายของเถิงเซียงกับเหล่าแม่นมจะมีจุดที่พวกมันสนใจ หนูพวกนั้นกระโดดไปบนตัวของเถิงเซียงกับพวกแม่นมทันทีพวกนางมีหรือจะเคยเจอเรื่องเช่นนี้จึงตกใจจนกรีดร้องออกมาทันทีในความตกใจและผลักกันไปมา เถิงเซียงกับแม่นมสองคนก็ล้มลงไปที่พื้นแต่หนูมิได้สนใจ พวกมันกัดกินที่เสื้อผ้า ใบหน้าและผิวหนังของพวกนางอย่างบ้าคลั่ง...เถิงเซียงกับแม่นมเหล่านั้นล้วนถูกหนูกัดจนกรีดร้องออกภาพนี้มิเพียงแต่ทำให้เหล่าขุนนางตกตะลึง แม้แต่ไท่เฟยเส้ากับเหล่าสตรีทั้งหลายก็ตกตะลึงไปเช่นกัน ต่างก็ตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าวศพของไทฮองไทเฮาก็ถูกกัดกินเช่นนี้!เซียวหลินเทียนโกรธมาก พยายามที่จะระงับความโกรธของตนไว้ เขากลัวว่าจะควบคุมตนเองมิอยู่แล้วผลักไท่เฟยเส้าเข้าไปในกรงให้นางได้สัมผัสความเจ็บปวดของการถูกหนูกัดกินดู“ช่วยด้วย!”เถิงเซียงกับพวกแม่นมรีบมิไหวต่างก็ร้องออกมาองค์ชายคังขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าจะทนมองพวกเถิงเซียงถูกทรมานเช่นนี้มิค่อยไหวนักผู้ตรวจการพันเองก็ทนมิไหวจึงเอ่ยถาม “ท่านอ๋องเฉิง นี่ท่
องค์ชายคังเห็นว่าเซียวหลินเทียนมุ่งเป้าไปที่ไท่เฟยเส้าเช่นนี้ก็ทนมิได้ จึงก้าวเข้าไปพลางเอ่ย “ฝ่าบาท ผู้ใดก็มิอาจหลีกเลี่ยงมิให้ข้างกายมีคนมิดี การที่ไท่เฟยเส้ามิรู้เรื่องเหล่านี้ที่เถิงเซียงทำอยู่เบื้องหลังของพระนางก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เช่นนี้ก็หมายความว่าคนในตำหนักไท่เฟยเส้าล้วนน่าสงสัยมิใช่หรือ!”เซียวหลินเทียนมองเขา กำลังรอให้เขาเอ่ยปากอยู่เลย!“องค์ชายคัง ข้ายังพูดมิจบ! เมื่อครู่ท่านอ๋องเฉิงตรวจสอบความจริงเรื่องการตายของหนูแล้ว! แต่ยังมีคนที่ทำลายฝาโลงแล้วใส่หนูเข้าไปที่เป็นคนร้ายเช่นกัน!”“และคนที่จัดการเรื่องการเฝ้าศพเมื่อคืนก็คือคนที่ไท่เฟยเส้าส่งมา ละเลยเถิงเซียงไปคนหนึ่งเรียกว่าละเลย แต่ต่อมาก็มีการกระทำผิดทำลายฝาโลงอยู่ใต้จมูกอีก นี่ยังใช้คำว่าละเลยมาอธิบายได้อีกหรือ?”เซียวหลินเทียนตะคอกอย่างโมโห “ไทฮองไทเฮาสิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการพระทัยวายเฉียบพลันอยู่ชัด ๆ ก็ยังมีคนต้องการให้ขุนนางเข้าใจผิดว่าพระนางถูกวางยาพิษ อีกทั้งยังประสงค์ที่จะระบุมาที่ข้ากับฮองเฮาอีก หากนี่มิใช่เจตนาร้ายแล้วจะเป็นสิ่งใดเล่า?”“ตอนนี้ท่านอ๋องเฉิงได้ตรวจสอบสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของไทฮองไทเฮาแน่ช
แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอดทนมิพูดอะไรสักคำ สิ่งนี้ทำให้หลิงอวี๋จนปัญญาเช่นกันหลิงอวี๋มิรู้ ในใจของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเองก็เสียใจเป็นอย่างมาก วางหมากพลาดตัวเดียวกลับต้องแพ้ทั้งกระดาน!เจตนาเดิมในครานี้คือทำให้ไทฮองไทเฮาสิ้นพระชนม์ ซึ่งนางทำสำเร็จแล้ว!ผลก็คือไท่เฟยเส้าทำเรื่องที่มิจำเป็นเพิ่มขึ้นมาเพื่อจะใส่ร้ายหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียน จึงทำให้ตนต้องมาร่วมมือด้วยหากก่อนหน้าไท่เฟยเส้าบอกกับตนก่อนว่าจะอาศัยเรื่องการตายของไทฮองไทเฮามาใส่ร้ายหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียน เช่นนั้นนางก็จะมิใช้วิธีการเช่นนี้ แล้วจะวางยาพิษไทฮองไทเฮาไปเลยให้หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนไม่มีข้อแก้ตัวนี่คือความผิดพลาดที่หนึ่ง!และเรื่องน้ำหอมพิษกันหนูคือความผิดพลาดที่สอง!นางแพ้เดิมพันแล้ว ทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋เก่งกาจยิ่งกว่าที่ตนจินตนาการไว้มากนัก!ใจที่คิดว่าตนเหนือกว่าผู้อื่นมาตลอดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยถูกโจมตีเข้าอย่างจัง!แต่นางก็ยังมิยอมรับว่าหลิงอวี๋แข็งแกร่งกว่าตน!เมื่อนับรวมครานี้ นี่เป็นครั้งที่สองที่นางลงมือกับหลิงอวี๋แล้วล้มเหลวในขั้นสุดท้าย ครั้งที่สามที่ข้าลงมืออีกครั้ง จะไม่มีทางล้มเหลวอย่างแน่นอน!ใจ
องค์ชายคังโกรธจนตัวสั่น กำลังคิดจะพุ่งเข้าไปช่วยมารดาพูดก็ถูกแม่ทัพฟางห้ามไว้“องค์ชายคัง ใจเย็นพ่ะย่ะค่ะ… ยังจำคำที่องค์จักรพรรดิตรัสไว้เมื่อครู่ได้หรือไม่?”แม่ทัพฟางเอ่ยเตือนเรียบ ๆ “ท่านทำให้องค์จักรพรรดิพิโรธไปแล้ว หากออกหน้าอีกที ยศองค์ชายของท่านก็จะรักษาไว้มิอยู่จริง ๆ แล้ว!”“ตราบใดที่มีชีวิตก็ย่อมมีความหวัง ขอเพียงท่านมีอำนาจอยู่ ไท่เฟยเส้าจะกลับมาได้หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ท่านเอ่ยปากได้มิใช่หรือ?”องค์ชายคังจึงใจเย็นลง แล้วเหลือบมองเซียวหลินเทียนด้วยสายตาโหดเหี้ยม พร้อมกับกำหมัดแน่นเพื่อหมู่เฟย เพื่อตนเอง เขาจะต้องแย่งตำแหน่งนั้นมาให้ได้!เซียวหลินเทียน เจ้าไร้ความเมตตา ก็อย่ามาหาว่าข้าไร้ความชอบธรรม!คดีเรื่องไทฮองไทเฮาถูกวางยาพิษจึงจบลงตรงนี้ จากนั้นหลิงอวี๋ก็หาคนมาจัดการห้องโถงที่ตั้งศพใหม่เซียวหลินเทียนก็พาเหล่าขุนนางและสตรีบรรดาศักดิ์ออกไปกินอาหารหนึ่งชั่วยามผ่านไป ห้องโถงที่ตั้งศพก็กลับคืนสู่การเฝ้าศพ และทุกอย่างก็ดำเนินต่อไปอย่างเป็นระเบียบไท่เฟยเส้าโกรธจนกัดฟันแทบแตก นางอดทนเฝ้าศพอยู่สักพักหนึ่งแล้วจึงอ้างว่าปวดหัวมากแล้วไปพักผ่อนจ้าวหรุ่ยหรุ่ยยืนหยัดเฝ
ดูเหมือนว่าเสี่ยวเป่าของจูหลานจะมีความรู้สึกคุ้นเคยกับหลิงอวี๋อย่างอธิบายมิถูก เมื่อเห็นหลิงอวี๋ก็ยิ้มจนตาเป็นขีดเดียวและเผยให้เห็นฟันน้ำนมที่เพิ่งขึ้นมาหลิงอวี๋รับเขามา เสี่ยวเป่าก็ซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของหลิงอวี๋หลิงอวี๋เห็นเสี่ยวเป่าใกล้ชิดกับตนเช่นนี้ก็รู้สึกอบอุ่นใจและเมื่อเห็นเสี่ยวเป่ามีอาการท้องเสียและหัวพาดที่บนบ่าของตนอย่างหมดเรี่ยวแรง หลิงอวี๋ก็กังวลใจนางจับชีพจรเสี่ยวเป่า แล้วหลิงอวี๋ก็ไปเอาน้ำตาลมาป้อนเสี่ยวเป่าไปพร้อมกับยาจูหลานมองอยู่ด้านข้างก็เต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณหลิงอวี๋เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น หลิงอวี๋ก็มิได้คลางแคลงใจกับตน ยังคงพยายามรักษาเสี่ยวเป่าอย่างเต็มที่ คนที่จิตใจดีเช่นนี้เหตุใดไท่เฟยเส้าจึงต้องบีบคั้นให้ตายด้วยเล่าพูดไปพูดมาก็เพื่อตำแหน่งนั้นมิใช่หรือ?“เจ้าเก็บน้ำตาลเหล่านี้ไว้ เสี่ยวเป่าท้องเสียจนขาดน้ำ ในทุกครึ่งชั่วยามให้ป้อนน้ำตาลนี้กับเขา หากยังคงท้องเสียมิหยุดก็ให้คนไปตามข้ามาอีกที!”หลิงอวี๋ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีก จึงอธิบายให้จูหลานฟังแล้วออกไปเสี่ยวฮุ่ยนางรับใช้คนสนิทของจูหลานเห็นว่าหลิงอวี๋ไปแล้วก็เอ่ยด้วยเสียงต่ำ “พระชายา ท่านว
ไท่เฟยเส้าถูกลงโทษ ทำให้จิตใจมุ่งร้ายของผู้ที่มิหวังดีล้วนสงบลง การเฝ้าศพในหลายวันที่เหลือจึงเป็นไปอย่างราบรื่นแม้ว่าเมืองหลวงจะระงับงานรื่นเริงและงานมงคลสมรสทั้งหมด แต่การเพาะปลูกในวสันตฤดูก็ดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบนี่คือเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเก็บเกี่ยวในปีหน้า มิอาจล่าช้าได้เซียวหลินเทียนจึงดำเนินการเรื่องการเพาะปลูกฤดูใบไม้ผลิไปพร้อมกันการเฝ้าศพด้วยกระทั่งส่งโลงศพของไทฮองไทเฮาไปที่สุสานจักรพรรดิแล้ว ไท่เฟยเส้าก็ถูกส่งตัวไปที่ศาลบูรพกษัตริย์เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ต่างก็รู้ว่าไท่เฟยเส้ามิได้ไปที่ศาลบูรพกษัตริย์ด้วยใจที่ยินยอม จึงคอยระวังอยู่ตลอดว่าก่อนไปนางจะเล่นลูกไม้อะไรแต่ตลอดเวลาจนถึงตอนไป ไท่เฟยเส้ามิได้มีสร้างเรื่องใด ๆ สิ่งนี้ทำให้หลิงอวี๋ยิ่งรู้สึกว่าผิดปกติไท่เฟยเส้าจะไปเงียบ ๆ ได้อย่างไรกัน?องค์ชายคังเองก็เช่นกัน ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งนั้นแต่สายลับที่จับตาดูองค์ชายคังอยู่ตลอดมารายงานว่า องค์ชายคังราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน เขาแนบแน่นอยู่กับพระชายาคังคนใหม่มาก ทั้งยังออกไปเล่นเที่ยวเล่นกับพระชายาคังอยู่บ่อย ๆ ด้วยหลิงอวี๋ก็ยิ่งระวังกับวิธีการข
เรียกได้ว่าการที่เซียวหลินเทียนลงโทษไท่เฟยเส้าให้ไปสวดภาวนาให้ไทฮองไทเฮาที่ศาลบูรพกษัตริย์ครานี้ ถือเป็นการช่วยเหลือตระกูลจ้าวไปโดยมิรู้ตัวด้วยทว่าหลิงอวี๋กลับได้กลิ่นความผิดปกติจากสิ่งนี้หากองค์ชายคังอยากจะทำการใหญ่ การที่ไท่เฟยเส้าอยู่ในวังก็ต้องมีประโยชน์อย่างแน่นอนแต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกลับมิสนใจในจุดนี้!นอกเสียจากว่านางจะมิได้มีความทะเยอทะยานให้องค์ชายคังเป็นจักรพรรดิ มิเช่นนั้นเหตุใดจึงมิสนใจกับสิ่งที่ไท่เฟยเส้าประสบเล่า!มีเพียงความเป็นไปได้เดียว นั่นก็คือจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิชอบวิธีการของไท่เฟยเส้า จึงอยากจะควบคุมพรรคพวกของจ้าวฮุยไว้ในกำมือของตนเมื่อเห็นองค์ชายคังภักดีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยถึงเพียงนั้น ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยทำให้ผู้คนเชื่อฟังได้เก่ง!กอปรกับเรื่องที่คราก่อนจ้าวเจินเจินถูกลากไปตายโดยไม่มีความผิด ทำให้หลิงอวี๋คาดเดาได้ว่าตระกูลจ้าวลังเลใจกับองค์ชายคังแล้วเมื่อเทียบกับการพึ่งพาภูเขาที่ล้ม จะมีสิ่งใดที่ดียิ่งไปกว่าการควบคุมชะตากรรมของตนไว้ในกำมือตนอีกเล่า!องค์ชายคังในตอนนี้กับบทบาทของเขาเมื่อก่อนนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว เขามิใช่ผู้ที่ออกคำสั่งอีกต่อไปแล้ว แ
เซียวหลินเทียนรู้ว่าวิธีการนี้ค่อนข้างเลวทราม แต่ก็พูดออกไปอย่างมิลังเล“ผลก็คือคนของข้าล้มเหลว ฮูเหยียนเสวี่ยหนีไปได้… นางน่าจะคาดเดาความคิดของข้าได้จึงมิกลับกันกู่ แล้วระหว่างทางก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!“สองวันก่อนข้าได้รายงานลับบอกว่า องค์ชายอิงจากเว่ยเหนือพากำลังพลมุ่งหน้าไปที่กันกู่ บอกว่าต่อไปกันกู่จะได้ความคุ้มครองจากเว่ยเหนือ!”หลิงอวี๋ได้ยินก็ตะลึง นี่หมายความว่าฮูเหยียนเสวี่ยหันไปพึ่งองค์ชายอิงแล้วตอนแรกองค์ชายอิงจะขอแต่งงานกับเซียวทง เพราะรู้สึกว่าเซียวทงเปิดเผยตรงไปตรงมาดี ตรงกับรสนิยมของเขาฮูเหยียนเสวี่ยดุร้ายยิ่งกว่าเซียวทงเสียอีก นี่น่าจะถูกรสนิยมขององค์ชายอิงมากกว่าองค์ชายอิงมาเข้าร่วมการแข่งขันทางทหารของสี่แคว้นที่ฉินตะวันตกเมื่อครั้งที่แล้ว แม้ว่ากองกำลังของเขาจะมิได้ชนะ แต่ความสามารถก็มิได้ด้อยไปกว่าฉินตะวันตกและฉีตะวันออกครานี้เขากล้าเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้งว่าจะคุ้มครองกันกู่ เช่นนั้นก็ประกาศสงครามกับฉินตะวันตกอย่างชัดเจนแล้วยามนี้ฉินตะวันตกส่งผู้แทนพระองค์ไปเป็นทูตที่แคว้นเล็ก ๆ โดยรอบ หากคนที่ส่งไปเป็นหลี่ว์เซียง เขาจะต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการรักษาคว
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี