จวนแม่ทัพตะวันออก เหลียนม่งหยานั่งนิ่งฟังการายงานจากคนส่งข่าว หญิงสาวรู้สึกสมเพชกับโชคชะตาของตนเองยิ่งนัก คนทางเมืองหลวงคงคิดว่านางโง่เขลามากเลยทีเดียว เพียงบิดายื่นหยกชิ้นนั้นใส่มือ นางได้ให้คนออกสืบคนทุกสิ่งอย่างมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีคำบอกเล่า สำหรับสายตาคนอื่นคือการมอบของขวัญจากพ่อให้แก่ลูก แต่สำหรับนางกับบิดา มันคือการส่งสาสน์ให้แก่กัน โดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากให้มากความ เรื่องนี้นางเองก็พอจะระแคะระคายมาบ้างแล้ว แต่เมื่อมินานมานี้ทุกอย่างก็ได้กระจ่างแก่ใจ และครั้งนี้คนผู้นั้นหาญกล้าใช้ชีวิตสตรี ที่เสียสละทุกสิ่งอย่างปกป้องนางมาเป็นตัวล่อ เพื่อกำจัดนางให้พ้นทาง “สั่งคนของเรา ดูแลท่านแม่ให้ดีก่อนที่ข้าจะถึงเมืองหลวง” “น้อมรับคำสั่งขอรับนายหญิง” เสียงเชียงเชียงเรียกขานเจ้าของจวน ดังเข้ามาให้ได้ยิน ร่างในชุดดำได้หายไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงเจ้าของห้องที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่เช่นเดิม ร่างสูงก้าวพ้นประตูเข้ามาด้านในห้อง ทุกสิ่งอย่างบนใบหน้าหล่อเหลายังคงเดิม สองสามีภรรยาสบตากันนิ่ง ทว่ากลับมันกลับเ
เมืองหลวง ณ ชายป่า สตรีสองนางได้ยืนเผชิญหน้ากัน ทั้งคู่มีใบหน้าอันคล้ายคลึงกันอยู่หลายส่วน แต่ทว่าไม่อาจทำให้คนมองรู้สึกถึงความเหมือนนั้นเลย เมื่อแววของทั้งคู่นั้นแตกต่างกันยิ่งนัก “น้องพี่เจ้าสบายดีนะ” น้ำเสียงหวานละมุนนั้น ไม่ได้ทำให้คนฟังรู้สึกดีเลยแม้แต่น้อย เพราะหากฟังให้ดีแล้วมันแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน “น้องเช่นนั้นรึ หลี่หลิวหลี เจ้ายังกล้าเรียกข้าว่าน้องอยู่อีกหรืออย่างไร” หลี่ชินเหมยแค่นเสียงในลำคอ นางไม่อยากจะเชื่อว่าคนตรงหน้าคือพี่สาวร่วมสายเลือด พี่สาวที่สวมรอยเป็นเจ้าสาวแทนนาง ก้าวไปอยู่เคียงข้างบุรุษที่นางรัก และเขาก็รักนางอยู่เช่นกัน “เจ้ายังไม่ลืมเรื่องเก่า ๆ อยู่อีกหรืออย่างไรกัน” หลี่หลิวหลี เอ่ยถามน้องสาวด้วยน้ำเสียงปนขำขัน เรื่องราวในอดีตทำให้นางเหมือนจะมีความสุข ทว่าไม่เลยเพราะเมื่อพระสวามีรู้ความจริง ทุกสิ่งอย่างก็ได้เปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง แม้จะมาเสพสมกับนาง แต่ก็มิใช่ด้วยความรัก แต่เพราะนางเหมือนกับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าในตอนนี้มากกว่า เมื่อตั้งครรภ์นางนางกลับต้องซ้ำใจอีกครั
ขวับ! ปลายแส้เปลี่ยนทิศอย่างรวดเร็ว มีดสั้นที่ควรจะพุ่งไปยังทิศทางของสามี มันกลับถูกทำให้พุ่งไปยังทิศทางเดิม ฉึก! องค์ชายฉิงหานดวงตาเบิกโพลง เมื่อแรงเฮือกสุดท้าย ที่เขาตั้งใจจะฉวยโอกาส ลงมือต่อศัตรูคู่แค้นอย่างถงเจี้ยนหลาง กลับถูกขัดขวางและกลายเป็นเขาที่ต้องตาย มีดสั้นที่ปักยังลำคอ ทำให้ฉิงหานไม่อาจเปล่งเสียงใดออกมาได้ ดวงตาที่เบิกกว้างไม่อาจหลับลงได้ ร่างสูงในชุดเกราะสีทองทรุดลงกับพื้นดิน ก่อนจะแน่นิ่งไปโดยที่ดวงตาไม่อาจปิดลงได้ นักฆ่าหนุ่มเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทว่าเขาก็มิอาจที่จะหลีกหนีจากตรงนี้ได้เลย สิ่งเดียวที่ทำได้คือต้องฝ่าออกไปเท่านั้น องค์ชายฉิงหานนั่นขลาดเขลา ไม่ว่าผู้ใดตักเตือนก็มิคิดจะฟัง การสิ้นใจด้วยมือสตรีนับว่าโชคดีกว่าตายด้วยมือเด็ก ฉึก! นักฆ่าหนุ่มดวงตาเบิกโพลง เลือดสีดำคล้ำค่อย ๆ ไหลออกจากมุมปาก ชายหนุ่มไม่จำเป็นต้องคิดให้มากความ นี่คือการปิดปากเขาได้ดีที่สุด เหลียนม่งหยา ขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อเห็นนักฆ่าหนุ่ม ทรุดลงกับพื้นดินเบื้องหน้านาง หญิงสาวก้าวเข้าไปยืนมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเห็นใจ แต่จะทำอย่างไรได้ ทุกคนล้วนมีหน้าที่ต
“สุนัขต่ำช้าเช่นเจ้า สมควรได้รับการสั่งสอน” ฟึ่บ! ฉิงหานหายถูกกระชาก ให้ออกห่างจากถงเจี้ยนหลางอย่างไม่รวดเร็ว ชายหนุ่มมองไปยังผู้มาใหม่ด้วยสายตาคลั่งแค้น เขาไม่คิดว่าจะมีผู้ใดขัดขวางเป้าหมายของเขาเช่นนี้ “สอดมือเรื่องผู้อื่นคงเพื่อหวังรางวัลสินะ เช่นนั้นข้าให้สิบเท่าสำหรับค่าหัวของถงเจี้ยนหลาง” “เจ้าเก็บเอาไปไว้ใช้ในนรกเถอะฉิงหาน ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าแตะต้องเขา แม้เพียงปลายขนสักเส้นข้าก็ไม่ยินยอม” “คือใคร...อึก” “สวะเช่นเจ้าไม่มีสิทธิ์ถาม” ฉิงหานเซถอยหลังไปหลายก้าว เมื่อแส้สีดำกระทบร่างเขาอีกครั้ง การต่อสู้ของทั้งคู่จึงเริ่มขึ้นอย่างดุเดือด ฉิงหานรู้แล้วว่าหากเขามัวช้า อาจต้องเป็นฝ่ายเพรี้ยงพร้ำอย่างแน่นอน ถงเจี้ยนหลางขมวดคิ้วเป็นปม เมื่อมองเห็นคนที่เข้ามาช่วยชีวิต แม้จะอยู่ห่างกันพอสมควร แต่เขากลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างไรไม่รู้ แต่ด้วยการต่อสู้ที่ดุดันและกำลังติดพัน แม่ทัพหนุ่มจำต้องละสายตาจากร่างในชุดเกราะสีดำนั้นเสียก่อน “อ้ากกก!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดขององค์ชายฉิงหาน ทำให้นักฆ่
ทางด้านฉีเหอ พ่อบ้านจวนแม่ทัพกำลังซุ่มมองกองทัพของศัตรู พร้อมการหยั่งเชิง จากที่เขามองในตอนนี้ กำลังคนขององค์ชายฉิงหานเองก็ไม่ได้มากมาย ทว่าทุกคนกลับเป็นขุนพลมือดี ที่ถูกคัดเลือกมาในศึกครานี้โดยเฉพาะ หากไม่ใช่เหตุบังเอิญ เขาก็คงไม่มีวันรู้เลยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นผู้ใด แต่ถึงกระนั้นมันก็สายไปที่จะแจ้งให้แก่ผู้เป็นนายได้ทราบ เขาไม่อาจนำเรื่องที่รู้มาหารือผู้ใดได้เลย เพราะไม่อาจรู้ได้ว่านอกจากแม่ทัพจางซินแล้ว ยังมีผู้อื่นอีกหรือไม่ที่ร่วมมือ ทางเดียวในตอนนั้นคือคิดหาหนทางเข้าช่วยเหลือผู้เป็นนาย แต่เขาไม่คิดเลยว่าฮูยินในท่านแม่ทัพ จะเป็นผู้ลงมือด้วยตนเอง ท่านหญิงเหลียนไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ เขาไม่แปลกใจเลยทำไมพระชายาถงลู่ลู่ ถึงเลือกนางมาเป็นน้องสะใภ้ “เตรียมตัวให้พร้อม เราจะเข้าจู่โจมเพื่อเบนความสนใจของทหารบางส่วนเท่านั้น กำลังของพวกเราไม่อาจที่จะล้มคนขององค์ชายฉิงหานได้ทั้งหมด” “ขอรับท่านฉีเหอ” เวลาผ่านไปเพียงครึ่งก้านธูป เสียงการระเบิดก้พลันเกิดขึ้น ฉีเหอขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัย ใ
เหลียนม่งหยาไม่คิดที่จะเสียเวลาเล่นกับคนตรงหน้า นางต้องการที่จะจบทุกอย่างให้เร็วที่สุด เพื่อเร่งเดินทางไปช่วยเหลือสามีให้ทันเวลา ตามจริงแล้วเรื่องของจางซิน นางรอให้สามีกลับมาจัดการก็ย่อมได้ แต่ทว่านางไม่อยากที่จะเสี่ยง ปล่อยคนเช่นนี้เอาไว้ ในเวลาที่นางต้องฝ่ากองทัพศัตรูเข้าช่วยเหลือสามี เพราะคนเช่นจางซินพร้อมที่จะลอบกัดนางได้ทุกเมื่อ ดังนั้นการกำจัดเขาเสียก่อน ย่อมเป็นการดีที่สุด จางซินพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ด้วยความดุดันไม่แพ้กัน ผลของการปะมือในครั้งนี้ มีเพียงหนึ่งคน ที่จะยังมีลมหายใจต่อไปได้ และมันจะต้องเป็นเขาเท่านั้น ที่จะยังคงรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ทั้งคู่ต่างรุกไล่กันอย่างไม่มีฝ่ายใดยอมออมมือ โดยผู้ติดตามของทั้งสองฝ่าย คอยเฝ้าดูอยู่มิห่างเช่นกัน สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือปกป้องผู้เป็นนาย เวลาผ่านไปกว่าครึ่งก้านธูป ผลแพ้ชนะยังไม่อาจรู้แน่ชัด ทว่าการเพรี่ยงพร้ำดูเหมือนจะชัดเจนแล้วในตอนนี้ว่าเป็นฝ่ายใด ทหารติดตามแม่ทัพจางซิน พุ่งออกจากแนวป่า เพื่อช่วยเหลือผู้เป็นนาย กึก! ทว่า... “นิสัยสุนัข นายเป็นเช่นไร บ่าวก็มิต่างกัน”