LOGIN*ร้านคาราโอเกะ*
แสงไฟนีออนดวงสีชมพูม่วงกะพริบระยิบระยับ เสียงดนตรีจากห้องข้างๆ ดังลอดมาเป็นจังหวะ ยูโรนั่งอยู่ตรงมุมเคาน์เตอร์บาร์แก้ววิสกี้ในมือแทบไม่เคยว่าง เขาคอยรินซ้ำจนของเหลวสีทองขลุกขลิกเกือบล้นขอบแก้ว ภายในหัวใจของเขา.. ยังคงวนเวียนกับภาพแยมกำลังยืนหัวเราะเคียงข้างบรรเจิด หรือว่าเธอไม่เห็นความหมายของการรอคอยที่เราทำมาตลอดเลย เขาเอาแต่นั่งตัดพ้อตัวเองอยู่ซ้ำๆ หญิงสาวรูปร่างเพรียวบางหน้าตาดีคนหนึ่ง เธอสวมชุดกระโปรงสีทองแบบกระชับลำตัว เดินเข้ามานั่งอยู่ตรงด้านข้างเขา กลิ่นน้ำหอมแสนหวานช่างเย้ายวนราวกับกลิ่นไวน์เก่าแก่ "ยูโร! ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!" น้ำเสียงสดใสเอ่ยทักทายคนนั่งสับสน เธอกำลังเท้าคางมองแววตาเป็นประกาย เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจำได้ "เรไร" อดีตเพื่อนสนิทของแยมสมัยเรียนมัธยม พวกเธอทั้งสองเคยไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ และยังเคยเป็นแฟนเก่าของเขาด้วยเช่นกัน "อืม!" ยูโรตอบเสียงแหบแสนจะแผ่วเบาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ "นายมานั่งดื่มคนเดียว แต่ทำไมหน้าตาบึ้งตึงเชียว" เรไรหัวเราะน้อยๆ มือเรียวแตะไหล่เขาเป็นเชิงหยอกล้อ ยูโรไม่ได้ผลักไสเพราะเคยพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว เพียงปล่อยให้เธอเทเหล้าเพิ่มลงภายในแก้วของเขาต่อไป แสงไฟสลัวสะท้อนบนดวงตาคมที่หม่นลงตามลมหายใจขุ่นมัว เขาหยิบแก้วขึ้นมาจิบอีกครั้ง ราวกับจะล้างความคิดวนเวียนอันยุ่งเหยิงนี้ออกทิ้ง ถ้าหากแยมสนุกกับบรรเจิดจริง เราจะเป็นแค่คนรอที่ไร้ความหมายหรือเปล่านะ เขายังคงคิดตัดพ้อไม่เลิก เสียงเปิดประตูดังขึ้นอีกครั้ง แยมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นพยายามกวาดสายตามองหาเขา ใบหน้าเธอซีดขาวจากการวิ่งตามหายูโรมาหลายแห่งหน จนสุดท้ายได้รับเบาะแสว่าเขาอยู่ที่นี่ ภาพที่เห็นตรงหน้าราวกับมีดกรีดกลางหัวใจ ยูโรนั่งเคียงข้างหญิงสาวที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี "เรไร" เพื่อนรักสมัยเรียนที่เคยสาบานว่าจะไม่ปิดบังกัน มือของเรไรพาดอยู่บนไหล่เขา ขณะยูโรหลุบตามองแก้วเหล้าบนฝ่ามืออย่างไม่ละสายตา "ยูโร…" เสียงเธอแทบไม่ออกพ้นจากลำคอ น้ำตาคลอเบ้าอย่างห้ามไม่อยู่ "แยม…" ยูโรเงยใบหน้าขึ้นมองอย่างเชื่องช้า ตาคมพร่าเลือนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ เหมือนเขากำลังสับสนปนน้อยใจคลุกเคล้ากันเสียอย่างนั้น "แยม…ดีใจจังที่ได้เจอกันอีกครั้ง" เรไรกล่าวชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เธอยังคงฝืนยิ้มบางๆ คล้ายจะแสดงความเป็นมิตรออกมา ซึ่งเหมือนการเสแสร้งแกล้งทำน่าจะเหมาะกว่า "แต่ฉันไม่ได้รู้สึกดีใจ.. กับคนที่เคยแกล้งแสดงเป็นเพื่อนรักกันมานานหรอกนะ" แยมกล่าวทั้งที่แววตามีแต่ไฟแค้นภายในอดีต "ซึ่งการที่เอาช็อกโกแลตของคนอื่นมาให้ แล้วบอกว่าเป็นของตัวเองก็น่ารังเกียจพอสมควร ไหนจะเคยมีความสัมพันธ์กับแฟนเพื่อนสนิทก็ยิ่งไม่ควรสักนิด หึ!" แยมกล่าวพร้อมคว้าแอลกอฮอล์สีแดงสดเทราดศีรษะเรไร จนยูโรต้องสะดุ้งโหยงตามกับการกระทำอันดิบเถื่อนนี้ แยมรีบถอยหลังออกไปแค่เพียงหนึ่งก้าวเท่านั้น ความเจ็บแปลบแล่นผ่านทรวงอกได้แต่เพียงคิดอยู่ภายในใจ นี่หรือ..คือภาพที่เราตามหามาหลายชั่วโมงด้วยความเป็นห่วง หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกเธอพยายามสะกดกลั้นน้ำตาอยู่ "ขอโทษนะยูโร…แยมคงมาผิดเวลาเอง!" เธอกระซิบเสียงสั่น ก่อนจะหันหลังเตรียมเดินหนีออก "เดี๋ยวก่อนสิแยม…" ยูโรพยายามลุกตามแต่ร่างกายหนักอึ้งเพราะฤทธิ์สุรา มือที่เอื้อมไปแทบไม่ทันได้คว้าข้อมือเธอ แยมรีบก้าวออกจากร้านคาราโอเกะ สายตาร้อนผ่าวและหัวใจเต้นแรงจนแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ แสงไฟนีออนด้านนอกสาดสีฉูดฉาดลงบนพื้นทางเดินที่เงียบงัน เธอกอดตัวเองแน่น เสียงหัวเราะของเรไรกับภาพสายตาพร่าเลือนของยูโร มันยังคงสะท้อนอยู่ภายในหัวใจดวงน้อย เราแค่ติดธุระที่ร้านเพราะลูกค้า… แต่เขากลับ… ทุกย่างก้าวที่เดินห่างออกจากร้าน เต็มไปด้วยความเจ็บปวดผสมความสับสน รักที่เหมือนจะเริ่มลงตัวแล้วกลับต้องพังทลาย เพียงเพราะช่วงเวลาพลาดพลั้งเพียงเสี้ยวเดียว แยมเดินพาร่างอันสั่นเทาออกมาพร้อมหัวใจที่แตกละเอียด จากเสียงเพลงภายในร้านที่ยังคงก้องสะท้อนอยู่ในหู ได้แปรเปลี่ยนเป็นเพียงเสียงลมหายใจสะอื้นของตนเท่านั้น หยาดน้ำใสอุ่นรินไหลผ่านแก้มป่องเธอกำสองมือเล็กจนแน่น ราวกับบีบความรู้สึกทั้งมวลให้หายไปพร้อมกัน "เจ๊แยม!!" เสียงคุ้นหูดังมาจากอีกฝั่งของถนน เป็นแพนด้าลูกน้องสาวคนสนิทจอมซื่อบื้อ เธอวิ่งปรี่เข้ามาอย่างร้อนรนจนแทบสะดุดขอบฟุตปาธ แต่ก็ยังฝืนลากร่างกายมาหยุดอยู่ตรงหน้าแยมทันที "เจ๊จะไปไหนคะ" เธอถามพลางยืนเท้าสะเอวหอบแฮกๆ ดวงตากลมโตสั่นระริกด้วยความเป็นห่วง เพราะสถานการณ์ภายในร้านสาวน้อยได้เห็นเองทั้งหมด "เจ๊กำลังจะกลับบ้านน่ะสิ! ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่ออีกแล้ว!" แยมตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พร้อมยกฝ่ามือเช็ดคราบน้ำตาป้อยๆ เธอเตรียมตัวจะเดินไปที่รถยนต์อย่างว่องไว "ไม่ได้นะ! เจ๊จะหนีไปแบบนี้ไม่ได้!" แพนด้ากล่าวคัดค้านเสียงแข็ง เธอรีบยื่นแขนยาวขวางแยมเอาไว้ทันที "แพนด้า!!" แม้แยมจะส่งเสียงเชิงดุเล็กน้อยแต่กลับพยายามฝืนยิ้มจางๆ ซึ่งดวงตาคู่สวยยังคงพร่าเลือนด้วยหยาดน้ำใส "ไม่! หนูไม่ยอมให้เจ๊ทำแบบนี้!" แพนด้ารีบส่ายหน้าปฏิเสธ น้ำเสียงเธอสั่นเครือเต็มไปด้วยทั้งความโกรธและความหวังดี "เจ๊แยมที่หนูรู้จัก! จะไม่มีวันยอมแพ้ให้กับอุปสรรคใดภายในชีวิตเด็ดขาด เจ๊รักเฮียยูโรมากขนาดนั้น ทำไมถึงไม่รู้จักพาเขากลับมาด้วยกัน มันเป็นเพราะอะไรกันแน่คะ ถึงได้ยอมปล่อยมือเขาไปง่ายดายเช่นนี้" แพนด้ากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หวังเพียงได้เตือนสติเจ้านายสุดที่รักของตนเอง "หนูไม่รู้หรอกนะ เมื่อก่อนพวกเจ๊เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน แต่ถ้าหากเป็นหนู... คงจะไม่มีวันปล่อยมือคนรักให้แก่คนอื่นแน่ หากเขาไม่ได้เต็มใจที่จะไปเอง!" แพนด้ากัดริมฝีปากแน่น เสียงสะท้อนกลางถนนภายในยามค่ำคืน กลับเต็มไปด้วยแรงสั่นสะเทือนของความเป็นจริง คำพูดเหล่านั้นเหมือนแรงสะกิดแทงลึกลงกลางอก แยมยืนนิ่งไปชั่วขณะ ภาพยูโรนั่งเหม่อข้างเรไรสะท้อนซ้ำอยู่ภายในหัว แต่ระหว่างความเจ็บปวดกับความรัก เธอย่อมรู้ดีกว่าใครว่าหัวใจของเขา มันไม่เคยอยากจากเธอไปจริงๆ แม้เพียงสักครั้ง "ขอบใจมากเลยนะแพนด้า ขอบใจที่ยังเชื่อมั่นในตัวเจ๊อยู่!" แยมสูดลมหายใจเข้าลึกพยายามเรียกสติตัวเองกลับคืนมา เธอยืนเช็ดคราบน้ำตาออกจนหมด แล้วเงยใบหน้าสวยขึ้นอย่างเชื่องช้า ดวงตาเปล่งประกายพร้อมความมุ่งมั่นกลับมาอีกครั้ง "หนูไม่ใช่คนเก่งอะไรหรอกค่ะ แต่หนูรู้ว่า..รักแท้! มันไม่ควรจะจบลงด้วยความเข้าใจผิดต่อกันจาก..คนอื่น!" แพนด้ากล่าวด้วยโทนเสียงปกติ เธอยิ้มหวานให้ทั้งที่น้ำเค็มคลอเบ้าตา เมื่อก่อนเป็นสาวน้อยที่ไม่เคยสนใจใคร แต่มาตอนนี้กลับรู้สึกเป็นห่วงเจ้านายตนเอง คล้ายจะเป็นเรื่องที่หาได้ยากมากพอสมควร แยมพยักหน้าตอบ ก่อนจะหันหลังกลับไปทางร้านคาราโอเกะอีกครั้ง รองเท้าส้นเตี้ยกระทบพื้นทางเดินดังอย่างมั่นคงทุกย่างก้าว สองมือเล็กกำจนแน่นเรียกกำลังใจตนเองให้ฮึกเหิมอีกครั้ง เมื่อประตูถูกเปิดออก แสงไฟสีชมพูม่วงสาดลงบนเรือนผมของเธอ แยมเดินตรงเข้าไปโดยไม่สนใจกับเสียงพูดคุย หรือแม้กระทั่งสายตาผู้คนภายในร้านอีกต่อไป เธอตัดสินใจจะพายูโรกลับบ้าน ไม่ว่าต้องเผชิญกับอะไรข้างหน้าอีกก็ตาม คนมีอาการเมาจากแอลกอฮอล์เงยหน้าขึ้นเห็นเธออีกครั้ง คราวนี้... แยมไม่ได้มาพร้อมน้ำตา แต่พร้อมหัวใจที่แน่วแน่จะพาเขากลับไปด้วยกัน ฝ่ามือเล็กสัมผัสกับฝ่ามือหนาออกแรงดึงเล็กน้อย จนร่างกายสูงใหญ่เซถลาเข้าไปโอบกอดร่างบางแทน "ผมช่วยเจ๊เองครับ!" ยอดวิ่งเข้ามาหาทั้งคู่ก่อนจะช่วยพยุงร่างกายลูกพี่ตนไว้ แยมพยักหน้าตอบกลับเธอไม่สนใจเรไรที่เอาแต่นั่งนิ่งเฉย เมื่อถึงรถยนต์จึงแยกย้ายกันกลับบ้าน เพราะยอดต้องแวะไปส่งแพนด้า ไหนจะต้องพาใหญ่มาเอารถมอเตอร์ไซค์ของเจ้านายตนอีกแสงไฟระยิบระยับจากโคมระย้าคริสตัล ทอดเงาวูบไหวตามบนเพดานสูงของห้องจัดเลี้ยง เสียงดนตรีคลาสสิกบรรเลงคลอเบาๆ แทรกอยู่ระหว่างเสียงหัวเราะและคำอวยพร จากแขกผู้มีเกียรติยามค่ำคืนนี้งานวันเกิดของบรรเจิด ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติยศ ไม่ใช่เพียงแค่เขาเป็นบุตรชายของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด หากแต่ยังเพราะเขาเพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่ด้วย ซึ่งคือ..รองผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างเป็นทางการแยมยืนอยู่หน้าประตูห้องจัดเลี้ยง เธอสวมชุดกระโปรงสีน้ำเงิน แม้จะดูน่ารักเข้ากับรูปร่างเพรียวบางแต่ก็เรียบหรู สองมือประคองกล่องของขวัญทรงสี่เหลี่ยมผูกโบสีทองแน่นความรู้สึกประหม่าแล่นวาบภายในกลางอก เมื่อสายตาเธอกวาดมองบรรยากาศล้อมรอบตัว แขกภายในงานล้วนเป็น.. นักการเมืองกับข้าราชการระดับสูงและนักธุรกิจชื่อดัง ทุกคนดูสง่างามและคุ้นเคยกับโลกใบนี้ ต่างจากเธอที่ยังรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกเสมอแต่แล้วสายตาแยมก็หยุดลงที่ร่างสูงโปร่ง เขาสวมสูทสีดำอย่างเป็นทางการ บรรเจิดยืนอยู่กลางกลุ่มผู้ใหญ่ สีหน้าเปื้อนรอยยิ้มสุภาพ ดวงตาอบอุ่นเป็นประกายแม้จะต้องรับมือกับคำยินดีและคำอวยพรไม่ขาดสาย เขายังคงดูผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด ราวกับไม่ใช่งานให
*ร้านค้าขายปลีกส่งแยมมี่*แสงไฟบนหน้าจอกระทบแว่นตาเกือบหนึ่งชั่วโมง แยมนั่งตรวจสอบบัญชีอย่างมีสมาธิ จู่ๆ สมองของเธอกลับมีคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของแพนด้าเสียอย่างนั้นเธอกดบันทึกไฟล์เอกสารและปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลง ก่อนจะใช้สองมือเล็กดันโต๊ะสำนักงาน จนเก้าอี้ล้อเลื่อนถอยหลังอย่างเชื่องช้า แอบชำเลืองสายตามองสาวน้อย อยู่ตรงบริเวณหน้าจอคอมพิวเตอร์"เจ๊มีอะไรหรือเปล่าคะ หนูทำบัญชีไม่เรียบร้อยใช่ไหมคะ" แพนด้าวิ่งพรวดพราดมาใกล้บริเวณโต๊ะที่แยมนั่ง ด้วยท่าทางตื่นตระหนกเพราะกลัวโดนดุแยมเอื้อมแขนยาวไปตรงแผ่นหลังสาวน้อย ก่อนจะยกฝ่ามือลูบแผ่วเบา ราวกับปลอบโยนไม่ให้แพนด้าตื่นเต้นเกินเหตุ"เจ๊..แค่มีคำถามที่สงสัยต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานเลย" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แพนด้ากลับยืนขนลุกซู่ราวกับถูกกดดัน"เจ๊รีบถามมาเลยเถอะ ท่าทางแบบนี้ของเจ๊ มันทำให้หนูอึดอัดเกินไปนะคะ" แพนด้าตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เปลี่ยนทิศทางสายตาเบนลงต่ำแทน"เจ๊ยังจำได้อยู่นะ คราวก่อน..แพนด้ามาคุยเล่นกับเจ๊น่ะ เหมือนจะมีเพื่อนหนุ่มจอมเกเรตามจีบไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมดันมาคบหากับยอดได้ล่ะ แค่ยังสงสัยว่าหนูไม่ได้คบซ้อนใช
*อาคารสองชั้นสุดหรู*เสียงเครื่องยนต์จอดนิ่งและดับสนิทลงท่ามกลางความมืดมิด แยมเปิดประตูฝั่งคนขับออกมายืนเท้าสะเอวมองอย่างชั่งใจ หัวคิ้วคนสวยขมวดมุ่นเธอเบะปากราวกับโมโหยูโรอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าสองขาเรียวเล็กกลับเดินไปเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร เธอแบกร่างกายอันหนาเตอะของชายขี้เมาออกมาทันที"เอามา!" แยมตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมแสดงสีหน้าโกรธเคือง เธอยื่นฝ่ามือเล็กแบออกอยู่ตรงหน้าเขา แต่กลับโดนอีกฝ่ายเอาคางมาเกยแทน"จะเอาหัวใจของผมเหรอครับคนสวย~" ยูโรกล่าวด้วยน้ำเสียงยานคางเขายิ้มหวานอย่างกวนอารมณ์"นายอยากตายมากนักเหรอ ฉันเป็นใครกันแน่ นายช่วยลืมตาดูหน่อยเถอะนะ" แยมสวนกลับทันควัน เพราะคิดว่าเขายังเอาแต่คิดถึงสาวร้านคาราโอเกะอีก"คุณเป็น..ภรรยาของผมน่ะสิ!" ยูโรยิ้มแป้นตาแทบปิด เตรียมจะยกฝ่ามือหนาลูบละไล้ดวงหน้าเห่อร้อนของเธอ แต่แยมเลือกที่จะผลักเขานอนลงกับพื้นปูนซีเมนต์แทน"ส่งกุญแจมาสักที! ยุงกัดจะตายอยู่แล้วเนี่ย!" แยมตวาดใส่แก้เขินอาย เธอยืนเม้มริมฝีปากแน่นพร้อมกอดอกตนเอง หวังเพียงให้ดวงใจเต้นอย่างสงบลงเขารีบล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้เธออย่างว่าง่าย เมื่อประตูบานเล็กถูกเปิดออกแยมจึงลากยูโรเข้
*ร้านคาราโอเกะ*แสงไฟนีออนดวงสีชมพูม่วงกะพริบระยิบระยับ เสียงดนตรีจากห้องข้างๆ ดังลอดมาเป็นจังหวะ ยูโรนั่งอยู่ตรงมุมเคาน์เตอร์บาร์แก้ววิสกี้ในมือแทบไม่เคยว่าง เขาคอยรินซ้ำจนของเหลวสีทองขลุกขลิกเกือบล้นขอบแก้วภายในหัวใจของเขา.. ยังคงวนเวียนกับภาพแยมกำลังยืนหัวเราะเคียงข้างบรรเจิด หรือว่าเธอไม่เห็นความหมายของการรอคอยที่เราทำมาตลอดเลย เขาเอาแต่นั่งตัดพ้อตัวเองอยู่ซ้ำๆหญิงสาวรูปร่างเพรียวบางหน้าตาดีคนหนึ่ง เธอสวมชุดกระโปรงสีทองแบบกระชับลำตัว เดินเข้ามานั่งอยู่ตรงด้านข้างเขา กลิ่นน้ำหอมแสนหวานช่างเย้ายวนราวกับกลิ่นไวน์เก่าแก่"ยูโร! ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!" น้ำเสียงสดใสเอ่ยทักทายคนนั่งสับสน เธอกำลังเท้าคางมองแววตาเป็นประกาย เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจำได้ "เรไร" อดีตเพื่อนสนิทของแยมสมัยเรียนมัธยม พวกเธอทั้งสองเคยไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ และยังเคยเป็นแฟนเก่าของเขาด้วยเช่นกัน"อืม!" ยูโรตอบเสียงแหบแสนจะแผ่วเบาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์"นายมานั่งดื่มคนเดียว แต่ทำไมหน้าตาบึ้งตึงเชียว" เรไรหัวเราะน้อยๆ มือเรียวแตะไหล่เขาเป็นเชิงหยอกล้อ ยูโรไม่ได้ผลักไสเพราะเคยพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว เพียงปล่อยให้เ
*ร้านค้าขายปลีกส่งแยมมี่*เสียงกระดิ่งเหนือประตูไม้เริ่มดังเมื่อมีลูกค้าเปิดเข้ามาอีกครั้ง กลิ่นหอมกรุ่นจากขนมปังสดกับใบตองที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งร้าน ผสมกับเสียงเครื่องคิดเลขดังไม่หยุด ทำให้บรรยากาศดูคึกคักกว่ายามปกติแยมจัดเรียงขนมปังกรอบลงตะกร้าใหญ่ พลางเหลือบมองนาฬิกาแขวนบนฝาผนังเป็นระยะ เข็มสั้นชี้ที่เลขห้าเข็มยาวเกือบแตะเลขสิบสอง ใจเธอเต้นแผ่วแรงด้วยความคาดหวังอีกเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ยูโรก็คงมารออยู่ตรงหน้าร้านเหมือนทุกวัน ตั้งแต่เขาออกจากโรงพยาบาลมา ทั้งสองมักจะเดินเล่นรับลมยามเย็นด้วยกัน จนเป็นดั่งกิจวัตรประจำวันเลยเหล่าลูกน้องต่างกระวีกระวาดทำงาน เพราะใกล้ได้เวลาเลิกงานแล้วเช่นกัน คงไม่อยากทำงานล่วงเวลาเหมือนอย่างเคย ทุกสิ่งเป็นได้แค่เพียงความคิดเท่านั้น เมื่อได้ยินเสียงสวรรค์จากลูกค้ารายสุดท้ายมาเยือน"สวัสดีครับแยม~" เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นบริเวณตรงหน้าประตูหญิงสาวเงยใบหน้าขึ้นมอง เห็นร่างสูงในเสื้อเชิ้ตแขนพับสีขาวกับกางเกงผ้าเรียบ "บรรเจิด" เพื่อนสมัยมัธยมและเป็นคนที่เคยทำให้หัวใจเธอแกว่งไกวอยู่พักหนึ่ง เขากำลังยืนยิ้มอย่างจริงใจ"อ้าว! บรรเจิด! มาซื้อของเหรอ หายหน้าห
*ภัตตาคารสุดหรู*เสียงไวโอลินบรรเลงคลอเบาๆ ท่ามกลางแสงไฟสลัวมองแล้วย่อมอบอุ่นสายตา ภายในภัตตาคารหรูหราริมแม่น้ำถูกตกแต่งด้วยโทนสีครีมทอง ประกายวิบวับจากแชนเดอเลียร์เหนือศีรษะห้อยระย้าจากบนเพดาน ส่องแสงกระทบแก้วไวน์จนระยิบระยับ แยมเอาแต่ยืนเกร็งตัวอยู่ด้านหน้า ใจเธอเต้นแรงราวกับเด็กที่ถูกครูใหญ่เรียกพบ"ไม่ต้องกังวลนะหนูแยม พ่อแค่พามาทานอาหารอร่อยกัน ปล่อยตัวตามสบายเถอะนะ" เสียงสุภาพของเปโซเอ่ยขึ้น เขาเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ ผมขาวแซมขมับแต่งตัวด้วยสูทเข้ารูป ดูภูมิฐานจนใครๆ ต้องเหลียวมองข้างกายคือดีนาร์ เธอเป็นภรรยาของเขา หญิงวัยกลางคนที่ยังคงงดงามในชุดกระโปรงผ้าไหมสีงาช้าง ใบหน้าสงบและอ่อนโยน เธอยื่นมือมาสัมผัสแขนแยมเบาๆ แทนกำลังใจ"แม่เองก็ตั้งใจอยากจะเจอหนูมานานแล้ว วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีเลยนะ" ดีนาร์กล่าวพร้อมยิ้มหวานแยมกะพริบตาปริบๆ มือเรียวกำสายกระเป๋าสะพายไหล่จนแน่น เธอสวมชุดกระโปรงเรียบง่ายที่พยายามเลือกอย่างคัดสรรให้ดีที่สุดแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกไม่คู่ควรกับสถานที่และบรรยากาศเลย เพราะออกจากโรงพยาบาลมาได้ ก็ถูกคุณแม่ของยูโรแปลงโฉมภายในห้างสรรพสินค้าทันที"ขอบคุณมากเลยค่ะ







