LOGIN*ร้านค้าขายปลีกส่งแยมมี่*
แสงไฟบนหน้าจอกระทบแว่นตาเกือบหนึ่งชั่วโมง แยมนั่งตรวจสอบบัญชีอย่างมีสมาธิ จู่ๆ สมองของเธอกลับมีคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของแพนด้าเสียอย่างนั้น เธอกดบันทึกไฟล์เอกสารและปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลง ก่อนจะใช้สองมือเล็กดันโต๊ะสำนักงาน จนเก้าอี้ล้อเลื่อนถอยหลังอย่างเชื่องช้า แอบชำเลืองสายตามองสาวน้อย อยู่ตรงบริเวณหน้าจอคอมพิวเตอร์ "เจ๊มีอะไรหรือเปล่าคะ หนูทำบัญชีไม่เรียบร้อยใช่ไหมคะ" แพนด้าวิ่งพรวดพราดมาใกล้บริเวณโต๊ะที่แยมนั่ง ด้วยท่าทางตื่นตระหนกเพราะกลัวโดนดุ แยมเอื้อมแขนยาวไปตรงแผ่นหลังสาวน้อย ก่อนจะยกฝ่ามือลูบแผ่วเบา ราวกับปลอบโยนไม่ให้แพนด้าตื่นเต้นเกินเหตุ "เจ๊..แค่มีคำถามที่สงสัยต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานเลย" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แพนด้ากลับยืนขนลุกซู่ราวกับถูกกดดัน "เจ๊รีบถามมาเลยเถอะ ท่าทางแบบนี้ของเจ๊ มันทำให้หนูอึดอัดเกินไปนะคะ" แพนด้าตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เปลี่ยนทิศทางสายตาเบนลงต่ำแทน "เจ๊ยังจำได้อยู่นะ คราวก่อน..แพนด้ามาคุยเล่นกับเจ๊น่ะ เหมือนจะมีเพื่อนหนุ่มจอมเกเรตามจีบไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมดันมาคบหากับยอดได้ล่ะ แค่ยังสงสัยว่าหนูไม่ได้คบซ้อนใช่หรือเปล่า" "อ๋อ! มีคนบ้าที่ไหนจะไปคบกับคนประเภทนี้กันคะ แล้วเจ๊รู้จักกับเฮียยูโรได้อย่างไรเหรอคะ" "สงสัยว่า..คนบ้านั่น! จะเป็นเจ๊แหละนะ.." แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงยานคางพลางยิ้มแห้งส่งให้เธอ "จริงเหรอคะเนี่ย!! ไม่คิดว่าจะมีความหลังกับเฮียยูโรแบบนี้ ขอโทษด้วยค่ะ หนูไม่ได้.." "ช่างมันเถอะ ฮ่าๆ แค่ถามเพื่อไม่ให้หนูทำอะไรผิดพลาดน่ะ" "สบายใจได้เลยค่ะ!! หนูชอบพี่ยอดเพราะนิสัยเขาดีมาก และที่สำคัญหนูไม่คิดนอกใจพี่เขาหรอกค่ะ" บทสนทนาระหว่างพวกเราต้องจบลง เมื่อประตูห้องเอกสารถูกเปิดโดยลูกน้องชาย เขาถือซองสีขาวมาส่งให้แยม ทำให้ต้องเลิกคิ้วมองก่อนจะถาม "คงไม่ใช่!!! ซองผ้าป่าหรอกใช่ไหมนั่น!!" แยมกล่าวเสียงดังลั่นห้อง ทำให้ลูกน้องทั้งสองหัวเราะร่าออกมา "คุณบรรเจิดเขาฝากมาให้ต่างหากล่ะครับ ผมไม่ได้จะชวนเจ๊ไปสร้างบุญกุศลหรอกนะครับ!!" "แล้วไปเฮ้อ~ เดือนนี้เจ๊ได้ซองผ้าป่ามาจะครบร้อยซองแล้วเนี่ย" "เจ๊อย่าแกล้งคุณลุงสิคะ หากแกหัวเราะจนหายใจติดขัด ต้องเรียกรถพยาบาลมาอีกนะคะ" แพนด้ากล่าวเสริม ก่อนจะเดินไปนั่งหน้าคอมพิวเตอร์และทำงานอีกครั้ง ส่วนลูกน้องชายก็เดินออกจากห้องไปทันที แยมเปิดซองจดหมายจึงเข้าใจสถานการณ์ [วันนี้ของปีนี้..อย่าลืมมาฉลองวันเกิดเรานะ] ..จากบรรเจิด เธอเม้มริมฝีปากขมวดคิ้วมุ่นอยู่สักพัก เพราะไม่รู้จะบอกยูโรดีไหม แต่หากปฏิเสธก็เหมือนจะไร้น้ำใจไปหน่อย แค่ไปปรากฏชั่วครู่พร้อมของขวัญสักชิ้นแล้วกลับ ถึงยูโรจะรู้เขาอาจจะไม่โกรธก็ได้ เมื่อหยิบกระเป๋าสะพายและโทรศัพท์ได้ ก็ยืนมองแพนด้าทำงานอย่างมุ่งมั่นอยู่ เธอจึงเดินเข้าไปใกล้ทันที "แพนด้าวันนี้เจ๊ฝากปิดร้านให้หน่อยนะ ถ้ายูโรมาหาเจ๊ช่วงเวลาร้านปิด บอกเขาไปว่า.. เจ๊ไปงานวันเกิดของบรรเจิดนะ" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริง "แต่เฮียยูโรจะไม่โกรธเอาเหรอคะ หนูเคยได้ยินพี่ยอดบอกให้ฟังว่า.. เฮียยูโรไม่ชอบหน้าคุณบรรเจิดสักเท่าไรน่ะ" แพนด้าเอ่ยทักท้วงเจ้านายทันควัน "น่าจะโกรธแหละ แต่เขาส่งการ์ดเชิญมาย่อมต้องไปนี่นา อีกอย่างเขาเป็นทั้งเพื่อนสนิทสมัยเด็ก และตอนนี้ยังเป็นลูกค้ารายใหญ่ของร้านเราด้วย ถ้าปฏิเสธคงน่ารังเกียจมากเลยแหละเนอะ" "ถ้าหลังเจ๊ไปแล้วใครมาหา หนูจะบอกว่าเจ๊ไปเลือกซื้อสินค้าเข้าร้านดีไหมคะ แต่ถ้าเป็นช่วงปิดร้านค่อยสารภาพความจริง อย่างน้อย.. เฮียยูโรคงไม่โกรธมาก ถ้าเจ๊กลับมาทันก่อนร้านเราจะปิด" "ขอบใจมากนะเด็กดี!!! จะแวะซื้อขนมอร่อยมาฝากนะ" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริง "ไม่ต้องซื้อหรอกค่ะ กลับมาให้ทันเวลาก่อนเถอะ การที่หนูช่วยโกหกแทนเนี่ย รู้สึกเป็นเด็กนิสัยไม่ดีเลย" "เขาเรียกว่าเป็นคนซื่อสัตย์ต่อเจ้านายต่างหาก เจ๊ไปแล้ว!!! ฝากดูแลร้านแทนด้วยนะ" "รีบกลับมานะคะเจ๊!!!" แพนด้าตะโกนบอกตามหลัง พร้อมใช้ริมฝีปากเม้มปลายนิ้วอย่างกระวนกระวายใจ ด่านเฮียยูโรไม่ใช่จะยากเย็นอะไร แต่การปิดบังพี่ยอดเหมือนจะเป็นเรื่องอันตราย สาวน้อยขมวดคิ้วมุ่นจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ สิบนิ้วเรียวเล็กกดแป้นพิมพ์พร้อมความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะไม่รู้ว่าความลับนี้ควรจะบอกความจริงดีไหม คนสวยเร่งฝีเท้าไปทางด้านหลังร้าน หวังเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสีน้ำเงินน่ารัก และเตรียมเปิดประตูรถยนต์ ก่อนจะเหยียบคันเร่งไปอีกอำเภอ ซึ่งต้องแวะบ้านเก่าตนเองสักหน่อย เพื่อดูความเรียบร้อยของช่างที่มาต่อเติม เนื่องจากวันพรุ่งนี้ต้องจ่ายเงินก้อนสุดท้าย ทุกอย่างตรงหน้าเหมือนกลับสู่ห้วงอดีตอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการพบเจอเรไรและบรรเจิดพร้อมกัน ไหนจะบ้านเก่าหลังเดิมได้ซ่อมแซมจนเป็นสภาพ เหมือนช่วงวัยเยาว์อีกครั้ง เมื่อสำรวจบ้านเกือบทุกซอกทุกมุมแล้ว เธอจึงไปเลือกซื้อของขวัญวันเกิดมอบให้สหาย ความจริงสาเหตุที่ยูโรกับบรรเจิดทะเลาะกัน คงหนีไม่พ้นความผิดพลาดของแยมด้วย จึงอยากหาวิธีทำให้พวกเขาทั้งสอง ได้กลับมาปรองดองกันอีกครั้ง ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหรือเปล่า แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าพวกเขาน่าจะให้อภัยกันได้ หากทุกสิ่งต้องเดินไปสู่ทางตันจริงๆ อย่างน้อยก็ยังไม่ต้องรู้สึกเสียดายสักเท่าไร เพราะถือว่าได้พยายามจนถึงที่สุดแล้ว เพราะความผิดครั้งนั้น แยมเองก็ยังคงรู้สึกผิดตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ( เรื่องความผิดพลาดย้อนกลับไปอ่านบทที่ 10 ได้เลยค่ะ )แสงไฟระยิบระยับจากโคมระย้าคริสตัล ทอดเงาวูบไหวตามบนเพดานสูงของห้องจัดเลี้ยง เสียงดนตรีคลาสสิกบรรเลงคลอเบาๆ แทรกอยู่ระหว่างเสียงหัวเราะและคำอวยพร จากแขกผู้มีเกียรติยามค่ำคืนนี้งานวันเกิดของบรรเจิด ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติยศ ไม่ใช่เพียงแค่เขาเป็นบุตรชายของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด หากแต่ยังเพราะเขาเพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่ด้วย ซึ่งคือ..รองผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างเป็นทางการแยมยืนอยู่หน้าประตูห้องจัดเลี้ยง เธอสวมชุดกระโปรงสีน้ำเงิน แม้จะดูน่ารักเข้ากับรูปร่างเพรียวบางแต่ก็เรียบหรู สองมือประคองกล่องของขวัญทรงสี่เหลี่ยมผูกโบสีทองแน่นความรู้สึกประหม่าแล่นวาบภายในกลางอก เมื่อสายตาเธอกวาดมองบรรยากาศล้อมรอบตัว แขกภายในงานล้วนเป็น.. นักการเมืองกับข้าราชการระดับสูงและนักธุรกิจชื่อดัง ทุกคนดูสง่างามและคุ้นเคยกับโลกใบนี้ ต่างจากเธอที่ยังรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกเสมอแต่แล้วสายตาแยมก็หยุดลงที่ร่างสูงโปร่ง เขาสวมสูทสีดำอย่างเป็นทางการ บรรเจิดยืนอยู่กลางกลุ่มผู้ใหญ่ สีหน้าเปื้อนรอยยิ้มสุภาพ ดวงตาอบอุ่นเป็นประกายแม้จะต้องรับมือกับคำยินดีและคำอวยพรไม่ขาดสาย เขายังคงดูผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด ราวกับไม่ใช่งานให
*ร้านค้าขายปลีกส่งแยมมี่*แสงไฟบนหน้าจอกระทบแว่นตาเกือบหนึ่งชั่วโมง แยมนั่งตรวจสอบบัญชีอย่างมีสมาธิ จู่ๆ สมองของเธอกลับมีคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของแพนด้าเสียอย่างนั้นเธอกดบันทึกไฟล์เอกสารและปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลง ก่อนจะใช้สองมือเล็กดันโต๊ะสำนักงาน จนเก้าอี้ล้อเลื่อนถอยหลังอย่างเชื่องช้า แอบชำเลืองสายตามองสาวน้อย อยู่ตรงบริเวณหน้าจอคอมพิวเตอร์"เจ๊มีอะไรหรือเปล่าคะ หนูทำบัญชีไม่เรียบร้อยใช่ไหมคะ" แพนด้าวิ่งพรวดพราดมาใกล้บริเวณโต๊ะที่แยมนั่ง ด้วยท่าทางตื่นตระหนกเพราะกลัวโดนดุแยมเอื้อมแขนยาวไปตรงแผ่นหลังสาวน้อย ก่อนจะยกฝ่ามือลูบแผ่วเบา ราวกับปลอบโยนไม่ให้แพนด้าตื่นเต้นเกินเหตุ"เจ๊..แค่มีคำถามที่สงสัยต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานเลย" แยมกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แพนด้ากลับยืนขนลุกซู่ราวกับถูกกดดัน"เจ๊รีบถามมาเลยเถอะ ท่าทางแบบนี้ของเจ๊ มันทำให้หนูอึดอัดเกินไปนะคะ" แพนด้าตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เปลี่ยนทิศทางสายตาเบนลงต่ำแทน"เจ๊ยังจำได้อยู่นะ คราวก่อน..แพนด้ามาคุยเล่นกับเจ๊น่ะ เหมือนจะมีเพื่อนหนุ่มจอมเกเรตามจีบไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมดันมาคบหากับยอดได้ล่ะ แค่ยังสงสัยว่าหนูไม่ได้คบซ้อนใช
*อาคารสองชั้นสุดหรู*เสียงเครื่องยนต์จอดนิ่งและดับสนิทลงท่ามกลางความมืดมิด แยมเปิดประตูฝั่งคนขับออกมายืนเท้าสะเอวมองอย่างชั่งใจ หัวคิ้วคนสวยขมวดมุ่นเธอเบะปากราวกับโมโหยูโรอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าสองขาเรียวเล็กกลับเดินไปเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร เธอแบกร่างกายอันหนาเตอะของชายขี้เมาออกมาทันที"เอามา!" แยมตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมแสดงสีหน้าโกรธเคือง เธอยื่นฝ่ามือเล็กแบออกอยู่ตรงหน้าเขา แต่กลับโดนอีกฝ่ายเอาคางมาเกยแทน"จะเอาหัวใจของผมเหรอครับคนสวย~" ยูโรกล่าวด้วยน้ำเสียงยานคางเขายิ้มหวานอย่างกวนอารมณ์"นายอยากตายมากนักเหรอ ฉันเป็นใครกันแน่ นายช่วยลืมตาดูหน่อยเถอะนะ" แยมสวนกลับทันควัน เพราะคิดว่าเขายังเอาแต่คิดถึงสาวร้านคาราโอเกะอีก"คุณเป็น..ภรรยาของผมน่ะสิ!" ยูโรยิ้มแป้นตาแทบปิด เตรียมจะยกฝ่ามือหนาลูบละไล้ดวงหน้าเห่อร้อนของเธอ แต่แยมเลือกที่จะผลักเขานอนลงกับพื้นปูนซีเมนต์แทน"ส่งกุญแจมาสักที! ยุงกัดจะตายอยู่แล้วเนี่ย!" แยมตวาดใส่แก้เขินอาย เธอยืนเม้มริมฝีปากแน่นพร้อมกอดอกตนเอง หวังเพียงให้ดวงใจเต้นอย่างสงบลงเขารีบล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้เธออย่างว่าง่าย เมื่อประตูบานเล็กถูกเปิดออกแยมจึงลากยูโรเข้
*ร้านคาราโอเกะ*แสงไฟนีออนดวงสีชมพูม่วงกะพริบระยิบระยับ เสียงดนตรีจากห้องข้างๆ ดังลอดมาเป็นจังหวะ ยูโรนั่งอยู่ตรงมุมเคาน์เตอร์บาร์แก้ววิสกี้ในมือแทบไม่เคยว่าง เขาคอยรินซ้ำจนของเหลวสีทองขลุกขลิกเกือบล้นขอบแก้วภายในหัวใจของเขา.. ยังคงวนเวียนกับภาพแยมกำลังยืนหัวเราะเคียงข้างบรรเจิด หรือว่าเธอไม่เห็นความหมายของการรอคอยที่เราทำมาตลอดเลย เขาเอาแต่นั่งตัดพ้อตัวเองอยู่ซ้ำๆหญิงสาวรูปร่างเพรียวบางหน้าตาดีคนหนึ่ง เธอสวมชุดกระโปรงสีทองแบบกระชับลำตัว เดินเข้ามานั่งอยู่ตรงด้านข้างเขา กลิ่นน้ำหอมแสนหวานช่างเย้ายวนราวกับกลิ่นไวน์เก่าแก่"ยูโร! ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!" น้ำเสียงสดใสเอ่ยทักทายคนนั่งสับสน เธอกำลังเท้าคางมองแววตาเป็นประกาย เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจำได้ "เรไร" อดีตเพื่อนสนิทของแยมสมัยเรียนมัธยม พวกเธอทั้งสองเคยไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ และยังเคยเป็นแฟนเก่าของเขาด้วยเช่นกัน"อืม!" ยูโรตอบเสียงแหบแสนจะแผ่วเบาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์"นายมานั่งดื่มคนเดียว แต่ทำไมหน้าตาบึ้งตึงเชียว" เรไรหัวเราะน้อยๆ มือเรียวแตะไหล่เขาเป็นเชิงหยอกล้อ ยูโรไม่ได้ผลักไสเพราะเคยพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว เพียงปล่อยให้เ
*ร้านค้าขายปลีกส่งแยมมี่*เสียงกระดิ่งเหนือประตูไม้เริ่มดังเมื่อมีลูกค้าเปิดเข้ามาอีกครั้ง กลิ่นหอมกรุ่นจากขนมปังสดกับใบตองที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งร้าน ผสมกับเสียงเครื่องคิดเลขดังไม่หยุด ทำให้บรรยากาศดูคึกคักกว่ายามปกติแยมจัดเรียงขนมปังกรอบลงตะกร้าใหญ่ พลางเหลือบมองนาฬิกาแขวนบนฝาผนังเป็นระยะ เข็มสั้นชี้ที่เลขห้าเข็มยาวเกือบแตะเลขสิบสอง ใจเธอเต้นแผ่วแรงด้วยความคาดหวังอีกเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ยูโรก็คงมารออยู่ตรงหน้าร้านเหมือนทุกวัน ตั้งแต่เขาออกจากโรงพยาบาลมา ทั้งสองมักจะเดินเล่นรับลมยามเย็นด้วยกัน จนเป็นดั่งกิจวัตรประจำวันเลยเหล่าลูกน้องต่างกระวีกระวาดทำงาน เพราะใกล้ได้เวลาเลิกงานแล้วเช่นกัน คงไม่อยากทำงานล่วงเวลาเหมือนอย่างเคย ทุกสิ่งเป็นได้แค่เพียงความคิดเท่านั้น เมื่อได้ยินเสียงสวรรค์จากลูกค้ารายสุดท้ายมาเยือน"สวัสดีครับแยม~" เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นบริเวณตรงหน้าประตูหญิงสาวเงยใบหน้าขึ้นมอง เห็นร่างสูงในเสื้อเชิ้ตแขนพับสีขาวกับกางเกงผ้าเรียบ "บรรเจิด" เพื่อนสมัยมัธยมและเป็นคนที่เคยทำให้หัวใจเธอแกว่งไกวอยู่พักหนึ่ง เขากำลังยืนยิ้มอย่างจริงใจ"อ้าว! บรรเจิด! มาซื้อของเหรอ หายหน้าห
*ภัตตาคารสุดหรู*เสียงไวโอลินบรรเลงคลอเบาๆ ท่ามกลางแสงไฟสลัวมองแล้วย่อมอบอุ่นสายตา ภายในภัตตาคารหรูหราริมแม่น้ำถูกตกแต่งด้วยโทนสีครีมทอง ประกายวิบวับจากแชนเดอเลียร์เหนือศีรษะห้อยระย้าจากบนเพดาน ส่องแสงกระทบแก้วไวน์จนระยิบระยับ แยมเอาแต่ยืนเกร็งตัวอยู่ด้านหน้า ใจเธอเต้นแรงราวกับเด็กที่ถูกครูใหญ่เรียกพบ"ไม่ต้องกังวลนะหนูแยม พ่อแค่พามาทานอาหารอร่อยกัน ปล่อยตัวตามสบายเถอะนะ" เสียงสุภาพของเปโซเอ่ยขึ้น เขาเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ ผมขาวแซมขมับแต่งตัวด้วยสูทเข้ารูป ดูภูมิฐานจนใครๆ ต้องเหลียวมองข้างกายคือดีนาร์ เธอเป็นภรรยาของเขา หญิงวัยกลางคนที่ยังคงงดงามในชุดกระโปรงผ้าไหมสีงาช้าง ใบหน้าสงบและอ่อนโยน เธอยื่นมือมาสัมผัสแขนแยมเบาๆ แทนกำลังใจ"แม่เองก็ตั้งใจอยากจะเจอหนูมานานแล้ว วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีเลยนะ" ดีนาร์กล่าวพร้อมยิ้มหวานแยมกะพริบตาปริบๆ มือเรียวกำสายกระเป๋าสะพายไหล่จนแน่น เธอสวมชุดกระโปรงเรียบง่ายที่พยายามเลือกอย่างคัดสรรให้ดีที่สุดแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกไม่คู่ควรกับสถานที่และบรรยากาศเลย เพราะออกจากโรงพยาบาลมาได้ ก็ถูกคุณแม่ของยูโรแปลงโฉมภายในห้างสรรพสินค้าทันที"ขอบคุณมากเลยค่ะ







