Share

พบหน้า

Author: lianlian
last update Last Updated: 2025-07-05 07:50:58

โบราณว่า "พบศัตรูบนทางแคบ" ไม่ว่าจะเกลียดคนผู้นั้นมากเพียงใดจะหลบเลี่ยงเพียงไหนก็ยังมีโอกาสพบเจอ แล้วประสาอะไรกับฉางซื่อหลางที่ตอนนี้ยังเป็นคู่หมั้นคู่หมายของนาง

"คุณหนู คุณชายฉางมาขอพบเจ้าค่ะ" เด็กสาวผูกมวยผมสองข้างหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเดินเข้ามาในบ้านด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก นางคือ หลินหลาง สาวใช้ที่บิดาของนางซื้อตัวมาในขณะหลินหลางคุกเข่าข้างศพมารดา ประกาศตนว่าจะขอขายตัวเป็นข้ารับใช้หรือเป็นม้าเป็นวัวจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ทั้งนางและหลินหลางสนิทสนมรักใคร่ราวกับพี่น้องร่วมอุทรก็ไม่ปาน

ทว่าหลังจากที่หานฉงหรงถูกเรียกตัวมายังเมืองหลวง ในระหว่างที่นางตั้งครรภ์ซื่อหลางจึงเรียกหลินหลางมาเพื่ออยู่ปรนนิบัติรับใช้นางระหว่างตั้งครรภ์ แต่ใครจะคาดคิดว่า วันหนึ่งของการตั้งครรภ์ในเดือนที่ห้า หลินหลางกลับมาที่ห้องด้วยสภาพที่บอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ หลังจากที่หานฉงหรงคาดคั้นอยู่นานนางจึงยอมสารภาพว่า ฉางซื่อหลางเมามาย องค์หญิงเวินอี๋สุขภาพมิสู้ดีไม่ยินยอมปรนนิบัติ ส่วนนางตั้งครรภ์มิอาจร่วมอภิรมย์บนเตียงได้ ซื่อหลางจึงฉุดคร่านางเข้าห้อง ใช้กำลังบังคับนางด้วยแรงกำหนัดกล้าโดยที่หลินหลางมิยินยอม ตอนนั้นฉงหรงหมายไปเอาเรื่องแต่ถูกอีกฝ่ายห้ามเอาไว้ทั้งน้ำตาเพราะไม่อยากให้สองสามีภรรยาต้องมีนางเป็นต้นเหตุของความบาดหมาง จากนั้นไม่นานนักหลินหลางก็กระโดดน้ำฆ่าตัวตายที่บ่อน้ำหลังจวน โดยที่นางยังไม่ได้พูดคุยกับซื่อหลางที่จะเลื่อนหลินหลางขึ้นเป็นเผยฝาง (เผยฝาง (陪房) หมายถึงสาวใช้ของภรรยาเอกที่ติดตามมาและช่วยปรนนิบัติเรื่องบนเตียงให้ฝ่ายชายตามคำสั่งของภรรยาเอก)

นั่นคือฉากหน้าที่นางล่วงรู้...

หลังจากรู้ว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน นางสงสัยมาพักหนึ่งแล้วว่า ตัวนางตอนที่อยู่ในจวนราชบุตรเขยระมัดระวังเรื่องหยูกยาและอาหารการกินแทบทุกอย่างจนแทบเข้าขั้นหวาดระแวง ไฉนนางถึงยังได้ถูกลอบวางยาพิษจนอาการป่วยทรุดหนักเช่นนั้น

นอกจากจะมีเกลือเป็นหนอน...

"คุณหนูเจ้าคะ" น้ำเสียงหวานใสของหลินหลางดังขึ้นอีกครั้ง

ครานี้หานฉงหรงจึงขานรับเบาๆ ทีหนึ่ง ท่าทางเกียจคร้านอย่างยิ่ง "ซื่อหลางมาหรือ ก็ให้เขามาสิ"

หลินหลางเลิกคิ้วท่าทางประหลาดใจ ปกติเวลาที่นางมารายงานคุณหนูของนางว่าฉางซื่อหลางมาหา ยังมิทันได้เห็นหน้าฉงหรงก็ยิ้มกว้างเสียยิ่งกว่ากว้าง ตั้งหน้าตั้งตารอคอยด้วยใจจดจ่อ ไม่มีทางมีท่าทีเช่นนี้ให้เห็นมาก่อนเด็ดขาด

หานฉงหรงเมินท่าทีของหลินหลาง พลางโบกมือเบาๆ ให้เด็กสาวไปพาอาคันตุกะคนใหม่เข้ามา หลินหลางทำตามคำสั่งอย่างคล่องแคล่วว่องไว ปล่อยให้หานฉงหรงจมจ่อมกับความคิดตนเอง

ปลายเล็บสีชมพูอ่อนจากน้ำคั้นดอกเทียนบ้านเขี่ยขอบถ้วยชาเบาๆ จนเกิดเสียงก้องกังวานใส คล้ายต้องการให้เสียงนั้นทำให้นางจิตใจสงบลง

ก่อนที่นางจะกลับมายังอดีต เทพเซียนที่ทำให้นางสมความปรารถนาถามย้ำกับนางครั้งหนึ่งว่านางทำใจที่จะเผชิญหน้ากับฉางซื่อหลางโดยไม่กระโดดเข้าบีบคออีกฝ่ายด้วยความโกรธแค้นได้หรือไม่

นับว่าเป็นโอกาสดีที่จะทดสอบตนเอง

เนื่องจากหลินหลางบอกนางเพิ่มว่าวันนี้เป็นวันหยุดของฉางซื่อหลาง ทำให้หานฉงหรงได้เห็นอีกฝ่ายในชุดธรรมดาสามัญที่มิใช่ชุดมือปราบเหมือนที่เคยเห็นในทุกๆ วัน ชายหนุ่มสวมชุดหลันผาวสีน้ำเงินเข้ม พร้อมหมวกสีดำครอบมวยเรียบร้อยเหมาะสมเข้ากับหน้าตาหล่อเหลาสะอาดสะอ้าน ที่เอวประดับด้วยถุงหอมปักลายนกสาลิกาเคียงกิ่งหลานฮวาที่หานฉงหรงมอบให้เพื่อสื่อถึงความรักที่หอมหวานสดชื่นของพวกนาง

แต่ในยามนี้นางอยากตีมือคู่นี้ของตนให้หัก ฐานไม่รักดีไปนั่งหลังขดหลังแข็งปักถุงหอมให้ชายชั่วตรงหน้าพรรค์นี้ทำไมกัน!

แม้ในใจจะคิดเช่นนี้ แต่คำพูดที่เอ่ยออกมาหลังจากลอบถอนหายใจยาวเหยียดกลับเป็นคำพูดที่แฝงเร้นด้วยความปีติยินดีพร้อมทั้งใบหน้างามที่ปรับเป็นแช่มชื่นหลังจากที่งอง้ำไม่น่าดู “ซื่อหลาง เจ้ามาแล้วหรือ”

“ข้าเองก็มาหาเจ้าก่อนไปทำงานทุกวัน ยังทำท่าดีอกดีใจถึงปานนี้ ยังไม่คุ้นชินอีกหรือ” ซื่อหลางจับมือหานฉงหรงพลางดุเสียงอ่อน แต่ก็จับได้ถึงความรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องที่มีหญิงรอคอยเขาอย่างใจจดใจจ่อเช่นนี้

“เจ้าอย่าได้ดุข้านักเลย ข้าดีใจที่เจอเจ้าทุกวัน จะให้ทำอย่างไรก็ไม่คุ้นชินหรอก” หานฉงหรงตอบเสียงอ่อนหวานพร้อมชักมือตนเองกลับคืนโดยไม่ลืมลอบเช็ดมือของตนกับกระโปรงสีฟ้าอ่อนปักลายปุยดอกหลิ่วพลิ้วพรายพร้อยไปทั้งผืน ทว่าพอทิ้งมือของตนตกลงข้างตัว ฉางซื่อหลางก็รีบคว้ามือนางไปอีกครั้งพร้อมกับของบางอย่างในมือ

เมื่อฉงหรงยกมือขึ้นมองก็พบว่าในมือนางเป็นปิ่นอวิ๋นเหยาทำจากเงินแท้มากราคาประดับด้วยพลอยและหยกเม็ดจิ๋ว ดูกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารักน่าเอ็นดูอย่างยิ่ง

แม้จะรู้สึกอยากขว้างไปให้พ้นตาไม่ต่างจากปิ่นของหมั้นที่นางโยนทิ้งอย่างไม่แยแสอยู่ในห้อง แต่หานฉงหรงเองก็ต้องทำหน้าซาบซึ้งเหมือนจะร้องไห้ “งดงามยิ่ง เจ้าซื้อมาเพื่อข้าเช่นนั้นหรือ”

ฉางซื่อหลางส่ายหน้า “ไม่ใช่ของที่หาซื้อได้จากตลาด หากแต่เป็นของที่สั่งทำเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ”

ถึงในใจจะนึกเคลือบแคลง แต่หานฉงหรงก็จำใจเล่นไปตามน้ำ ตรงเข้าสวมกอดฉางซื่อหลางอย่างอ่อนโยน “ซื่อหลาง เจ้าดีกับข้ายิ่ง ข้าโชคดีนักที่จะได้แต่งงานเป็นภรรยาของเจ้า”

ฉางซื่อหลางคลี่ยิ้มอ่อนโยนก่อนกอดตอบหญิงสาวอย่างเปี่ยมรัก ทว่าในชั่วเสี้ยววิบตานั้นหานฉงหรงกลับเห็นความผิดปกติอย่างหนึ่ง

หลินหลาง...สาวใช้ของนางกำลังทำหน้าบึ้งตึงคล้ายไม่รู้สึกยินดี มือบอบบางยกขึ้นขยำสาบเสื้อแน่นจนสิ่งที่ซ่อนอยู่โผล่แพลมออกมา เป็นโลหะเงินแวววาวลายเมฆขดแบบเดียวกับปิ่นอวิ๋นเหยาที่หานฉงหรงเพิ่งได้รับมา...หานฉงหรงเห็นดังนั้นจึงอดลอบถอนใจอย่างสมเพชไม่ได้

ตัวบัดซบฉางซื่อหลาง...แท้จริงของที่สั่งทำนั้นมิใช่เพื่อข้าโดยเฉพาะ...

นอกจากข้าแล้ว แม้แต่สาวใช้ หญิงชาวบ้านร้านตลาด หรือแม้แต่นางคณิกาในย่านเริงรมย์ คงมีปิ่นอวิ๋นเหยาแบบเดียวกันนี้ประดับเรือนผมทั่วเมืองแล้วกระมัง...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เจ้าแผนการ

    ในขณะเดียวกันกับที่การหาต้นตอของโรคระบาดในเมืองจี๋หลินควบคู่ไปกับการรักษาอยู่นั้น รถม้าหลากหลายขนาดที่ประดับประดาอย่างวิจิตรงามตระการสมตามฐานะของเจ้าของกำลังเคลื่อนตัวเป็นทิวแถวอย่างเป็นระเบียบผ่านทิวทัศน์ป่าเขาที่ชอุ่มร่มรื่น รอบนอกเป็นเหล่าทหารองครักษ์และเจ้าหน้าที่จากที่ว่าการจี๋หลินคอยอารักขา รองลงมาเป็นเหล่านางกำนัลขันทีและผู้ติดตาม และในสุดจึงเป็นบุคคลสำคัญอย่างฮ่องเต้และเหล่าเชื้อพระวงศ์กับขุนนางระดับสูงทุกผู้ต่างเดินเท้าด้วยจังหวะและความเร็วที่สม่ำเสมอเพื่อที่จะได้ถึงเมืองหลวงโดยเร็วที่สุดตามรับสั่งของโอรสสวรรค์ ซึ่งในบรรดารถม้านั้น มีรถม้าที่ประดับประดาอย่างวิจิตรหรูหราไม่แพ้ราชรถของฮ่องเต้และหวงไทโฮ่ว เนื่องจากเป็นฤดูร้อน ม่านรถม้าจะเปลี่ยนผ้าเนื้อหนาหนักกันลมเป็นผ้าโปร่งปักลายดอกเหมยเขียวด้วยด้ายเงินดูน่ารักกระจุ๋มจิ๋ม ตรงชายผ้าม่านยังประดับพู่ไหมทองทำให้ภายในรถม้าเย็นสบายกอปรกับยามม่านโปร่งพลิกพลิ้วตามลมจนเห็นข้าวของเครื่องใช้ในรถม้าที่มีทั้งเครื่องเงินและกาสุราทองคำชั่วขณะหนึ่งยิ่งส่งเสริมให้รถม้าคันนี้ทั้งหรูหรามีระดับสมฐานะของเชื้อพระวงศ์หญิงระดับสูงของแคว้นชิ่ง หญิงสา

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   วิกฤติผ่านพ้น

    หลายวันต่อมา เมื่อสถานการณ์โรคระบาดในเมืองจี๋หลินคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นและเป่ยหนานหวังอวิ๋นรุ่นเริ่มต้นการสอบสวนหาต้นตอที่มาของโรคระบาด รองผู้ว่าการเมืองจี๋หลินก็รีบมาคุกเข่าโขกศีรษะให้กับอวิ๋นรุ่นทั้งน้ำตา ข้างตัวมีชายหนุ่มคนหนึ่งถูกมัดมือมัดเท้าปานขนมจ้าง อีกทั้งใบหน้าและตลอดทั้งเนื้อตัวที่โผล่พ้นเสื้อผ้ามีแต่รอยฟกช้ำเขียวม่วงพร้อยพรายคล้ายถูกทำร้ายจนสะบักสะบอม โดยเฉพาะที่ปากนั้นบวมเป่งใหญ่กว่ากว่าปากคนปกติเกือบเท่าตัว เมื่อมองไปยังด้านหลังยังคงเห็นคราบเลือดและเศษฟันที่คายทิ้งตามรายทางชวนให้ขนพองสยองเกล้าอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาซากสังขารที่ยังมีลมหายใจเสร็จสิ้น อวิ๋นรุ่นที่ถามสถานการณ์พอเป็นพิธีก็เริ่มล้างหูรอฟังชายชราตรงหน้าแผดเสียงสารภาพหมดเปลือก จับใจความได้ว่าคนที่นอนเป็นซากอยู่ตรงนั้นเป็นหลานชายของตระกูลสายรองของตน นิสัยเลวร้ายเสเพลซ้ำยังลอบค้าขายผงห้าศิลา เมื่อไม่นานมานี้ถูกทางการกวาดล้างจนไม่สามารถหาผงห้าศิลามาขายได้เพิ่ม จึงผูกใจเจ็บ ลอบวางยากำมะถันผสมกับผงห้าศิลาลงในบ่อน้ำจนทำให้ผู้คนเดือดร้อนไปทั่ว พอรู้ว่าเป็นฝีมือของคนชั่วผู้นี้ก็รีบจับมารับโทษกับท่านอ๋อง ขอให้ท่านอ๋องคน

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   โรคระบาด 6

    “ผงห้าศิลาที่เป็นยาเสพติดที่ทางการสั่งห้ามประชนใช้อย่างเด็ดขาดน่ะหรือเพคะ” หานฉงหรงเลิกคิ้วถาม นางเคยอ่านเจอผ่านๆ ในตำราแพทย์ที่รวบรวมอยู่ภายในหอตำรา กำลังคิดว่าหลังจากที่โรคระบาดเสร็จสิ้นจะศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม แต่ไม่นึกว่าจะได้มาเห็นของจริงเร็วเพียงนี้อวิ๋นรุ่นพยักหน้า “เดิมผงห้าศิลาเป็นยาสำหรับรักษาโรคบางชนิด แต่มีคนหัวหมอนำไปขายให้กับเหล่าชนชั้นสูงและเชื้อพระวงศ์ เพราะทำให้คึกคัก เสพติด มึนเมาเคลิบเคลิ้มเห็นภาพหลอน นักกวีบางคนก็ใช้มันเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ในทีแรกทางการก็มิได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่เมื่อผงห้าศิลาเริ่มระบาดไปยังขุนนางระดับสูงถึงระดับกลางไปจนถึงบัณฑิตนักปราชญ์ บางรายถึงขั้นคลุ้มคลั่งทำร้ายสังหารคน นั่นล่ะถึงได้นั่งกันไม่ติดตื่นตัวปราบปราม”“ผงห้าศิลาเป็นของหายากราคาก็มิใช่น้อย ส่วนประกอบของมันจะมาอยู่ตรงก้นบ่อน้ำในตลาดได้อย่างไรกัน หรือว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ...”“ถ้าเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ คงไม่มีส่วนประกอบของผงห้าศิลาอยู่ในดินโคลนก้นบ่อมากถึงขนาดนี้แน่ขอรับ” หยวนเคอแย้งก่อนยื่นรายงานที่เพิ่งเขียนเสร็จให้กับท่านอ๋องหนุ่ม “บางทีอาจเป็นที่พวกท่านสันน

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   โรคระบาด 5

    เวลาผ่านไปถึงช่วงเย็น รายงานสภาพน้ำของแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อน้ำทั่วเมืองจี๋หลินก็ถูกส่งมาถึงมือของอวิ๋นรุ่น ในขณะเดียวกันตัวอย่างดินโคลนก้นบ่อสาธารณะและบ่อน้ำกินน้ำใช้ในแต่ละบ้านเรือนก็วางเรียงรายเต็มโต๊ะยาว หลังจากรับประทานซาลาเปาไส้เนื้อสับต้นหอมเป็นอาหารเย็นแล้ว ทั้งสองก็เริ่มลงมือทำงานทันที“ดินโคลนก้นบ่อที่รวบรวมมาได้ หม่อมฉันได้แยกออกเป็นเขตต่างๆ ในเมืองจี๋หลินเพื่อสะดวกในการตรวจสอบแล้วเพคะ” หานฉงหรงยิ้มเอ่ยหลังจากเขียกชื่อเขตเขตสุดท้ายของเมืองจี๋หลินลงบนแผ่นไม้แล้ววางไว้ที่กองก้อนโคลนที่เขียนชื่อสถานที่กำกับเอาไว้อวิ๋นรุ่นพยักหน้า ก่อนเรียกให้บุรุษผู้หนึ่งเข้ามา “นี่คือ หยวนเคอ เป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลการขุดเหมืองแร่ส่งเข้าวังหลวงโดยตรง มีความสามารถในการจำแนกสินแร่ได้อย่างถูกต้องแม่นยำแม้ว่าจะเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเพียงใดก็ตาม เขาจะมาช่วยเจ้าจำแนกสินแร่ที่ผิดปกติหรือไม่ชอบมาพากลได้”หยวนเคอและหานฉงหรงทักทายตามมารยาทพอสมควร ทั้งสองจึงเริ่มทำงานทันที หยวนเคอถึงแม้เป็นขุนนาง แต่ก็มีพื้นเพมาจากตระกูลสามัญชน อาศัยความสามารถและความจริงใจอาศัยฝ่าคลื่นลมมรสุมที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิง

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   โรคระบาด 4

    เป่ยหนานหวังหันไปถามอีกฝ่ายเสียงเรียบ “ยังมีที่ใดอีก” แต่นางกลับไม่ตอบเขาทันที เพียงเดินไปทางด้านหลังเรือน ตรงไปยังบ่อน้ำที่ใช้กินใช้ภายในเรือน “ถ้าพูดถึงแหล่งน้ำ ที่จี๋หลินมิได้มีเพียงแต่แหล่งน้ำธรรมชาติอย่างเดียว ยังมีบ่อน้ำที่ทางการสร้างเอาไว้ใช้เพื่อสาธารณะ และบ่อน้ำที่ชาวบ้านขุดเอาไว้ใช้เองที่บ้าน ท่านพ่อเคยบอกว่าบ่อน้ำทุกบ่อในเมืองจี๋หลินแห่งนี้ต่างใช้น้ำใต้ดินสายเดียวกัน ถ้าบ่อหนึ่งมีปัญหา บ่อน้ำที่เหลือก็ไม่น่าจะปลอดภัย”เพราะถ้าแหล่งน้ำธรรมชาติไม่มีความผิดปกติ แต่มีเฉพาะน้ำบ่อ ก็เป็นไปได้ว่าโรคระบาดในครานี้อาจเป็นฝีมือของมนุษย์...“เรื่องนั้นข้าก็คิดเหมือนกันกับเจ้า เลยสั่งให้คนไปสำรวจน้ำในบริเวณบ่อน้ำกินน้ำใช้ของแต่ละบ้านด้วย” อวิ๋นรุ่นกล่าว “ที่เจ้าพูดถึงเรื่องนี้เพราะกลัวว่าโรคระบาดคราวนี้จะเป็นฝีมือมนุษย์ใช่หรือไม่”หานฉงหรงพยักหน้ารับเขาจึงได้เข้าใจ ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายเท่าใดนัก แต่เขาก็อดพอใจมิได้ที่นางคิดการเผื่อเขาอย่างรอบคอบเช่นนี้หญิงสาวกลับส่ายหน้าช้าๆ “ยังไม่พอเพคะ ถ้าจะให้ดีหม่อมฉันอยากให้ตรวจสอบดินโคลนก้นบ่อด้วย ถ้าเกิดว่าต้นตอของโรคระบาดเกิด

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   โรคระบาด 3

    “ถึงเป็นเช่นนั้นหม่อมฉันก็รู้สึกซาบซึ้งในตัวพระองค์จากใจจริงเพคะ” หานฉงหรงยิ้มแย้มก่อนรินชาอีกจอกเทินส่งให้เขาอีกครา “หม่อมฉันขอใช้ชาจอกนี้แทนคำสัตย์สาบาน จะขอช่วยเหลือท่านอ๋องและหมอหลวงทุกท่านในการหาต้นตอของโรคระบาดให้พบให้ได้ เพื่อตอบแทนในพระกรุณาในครานี้”“เป็นเช่นนั้นก็ดี แต่อย่าได้หักโหมจนล้มป่วยไปอีกคน เจ้าเป็นลูกสาวของว่าที่ขุนนางคนสำคัญ เกิดล้มหายตายจากไปข้าคงไม่มีปัญญาชดใช้ให้”นางอมยิ้มพลางพยักหน้ารับไม่หยุด จนอวิ๋นรุ่นขมวดคิ้วสงสัยว่าอีกฝ่ายจะอารมณ์ดีอันใดหนักหนา หานฉงหรงก็กล่าวเพียงว่า“วันนี้หม่อมฉันได้พบเจอคนดี ได้รับฟังแต่เรื่องน่ายินดี จึงได้อารมณ์ดีเช่นนี้ และอาจจะเป็นเช่นนี้ไปอีกหลายวัน ขอท่านอ๋องทรงโปรดอย่าได้ถือสาหม่อมฉันเลยเพคะ”หญิงชาวบ้านที่หานฉงหรงเคยช่วยบุตรชายของนางเอาไว้ที่ตลาดวันก่อนกลับมาหานางที่สถานศึกษาสกุลหานเพื่อรายงานอาการและจำนวนผู้ป่วยในอีกหนึ่งวันหลังจากนั้น ที่ทิ้งช่วงนานข้ามวันกว่าจะกล้ามาอาจเป็นเพราะว่ากำลังรอดูอาการบุตรชายที่กินยาของนางเข้าไปจะได้ผลดีมากน้อยเพียงใด พอเห็นว่าปลอดภัยในระดับหนึ่งจึงยอมวางใจให้ความร่วมมือ ดังนั้นสิ่งที่ต้องคิดต่อจา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status