LOGIN"นะ..นี่มันอะไรกันคะ ?"
กระถินชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวขาลงบันไดทันทีที่เห็นว่าบ้านหลังใหญ่ที่เคยเงียบเหงาเพราะอยู่กันแค่สองยายหลาน บัดนี้มีผู้คนมาจากไหนกันก็ไม่รู้เยอะแยะเลย โซฟาที่เธอเคยคิดว่ามันตัวใหญ่มากบัดนี้ดูแคบไปถนัดตาเมื่อมีผู้อาวุโสหลายคนนั่งรายล้อมกันอยู่รวมถึงยายจันทร์ยายของเธอด้วย
กระถินตื่นมาหกโมงกว่าอาบน้ำแต่งตัวเสร็จกะว่าจะเดินไปดูที่แปลงผักของหนุ่มหน้าหนวดเสียหน่อยกลับกลายเป็นว่าต้องมาอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย
แล้วนั่นอะไรกัน ? บรรดาคุณหญิงคุณนายมาจากที่ไหนแล้วมาทำอะไรกันที่บ้านของเธอทั้งสงสัยทั้งแปลกใจ เพราะแต่ละคนอย่างกะลิเกหลงเวที แสงเพชรส่องประกายวิบวับกันใหญ่ หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบๆพลางตบแก้มตัวเองสองทีเพื่อทดสอบว่าเธอยังหลับแล้วฝันอยู่หรือว่ากำลังตื่นแล้วกันแน่
แปะๆ !
"อ๊ะ..โอ๊ะก็เจ็บนี่นาไม่ได้ฝันอยู่น่ี" พึมพำเบาๆอย่างงงงวย
"ถินมานี่สิลูก" ยายจันทร์เรียกหลานสาวให้เข้าไปหาน้ำเสียงตื้นตันและปิติ ใบหน้าหญิงชราเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความภูมิใจเหลือล้น
"ยายจ๋า..มีอะไรกันหรอจ๊ะ" กระถินสาวเท้าเข้าไปหาผู้เป็นยายก่อนจะชะงักเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งพับเพียบลงตรงหน้ายายและใครอีกหลายคน
'เอ..หน้าคุ้นๆจัง'
ใบหน้าขาวใสยิ่งมองยิ่งคุ้นแต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน รอยยิ้มที่ส่งมาให้เธอมันก็ช่างคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก แต่พยายามมองอย่างจริงจังกระถินก็ยังค่อนข้างมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักกับเขามาก่อนนี่นา โดยเฉพาะหล่อๆแบบนี้นอกจากพี่หน้าหนวดของเธอแล้วก็...
แต่เอ๊ะ ! หรือว่า...
"กระถิน..." เสียงเรียกอันคุ้นเคยที่เคยได้ยินมานานนับเดือนเรียกชื่อเธอขึ้น
กระถินเหลียวซ้ายแลขวาเหลียวหน้าเหลียวหลังมองหาพี่หนวดแฟนของเธอแต่ก็ไม่เจอเขาอยู่ตรงนี้เลย มีแต่ผู้ชายหน้าหล่อตรงหน้าที่ขยับปากเรียกชื่อเธอหลายครั้ง
"เห้ย !" กระถินแหกปากร้องอยากตกใจท่ามกลางเสียงหัวเราะที่ดังมาจากรอบๆข้าง
"พี่เองพี่หนวดของหนูไง" เสียงทุ้มที่คุ้นเคยเอ่ยกระซิบข้างหูขณะคว้ามือเธอไปจับ
"ไม่แปลกหรอกลูกที่หนูจะจำไม่ได้ ตอนที่พี่เขาไปหาพ่อกับแม่บอกให้มาสู่ขอหนูให้แม่เองยังตกกะใจเลยตอนเห็นสภาพเขาทีแรกก็นึกว่าโจรป่าที่ไหน แม่หัวใจเกือบวายแหนะ" คนตรงหน้าที่ท่าทางดูดีมีชาติตระกูลพูดกับกระถินสีหน้าเอ็นดูพลางหัวเราะไปด้วย
"เอ่อ...คือ..." กระถินพูดอะไรไม่ออกได้แต่เหลียวมองไปทางนู้นทีทางนี้ทีอย่างทำตัวไม่ถูก
"หนู...พี่พาพ่อกับแม่มาสู่ขอหนูแล้วไง" เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยกับคนตัวเล็กของเขาอย่างเอ็นดูในความทำอะไรไม่ถูกของเจ้าตัว
"นะ..หนูนึกว่าพี่พูดเล่น" ใช่ ! เธอคิดว่าเขาแค่พูดเล่น ตอนนั้นที่เขาขอแต่งงานเธอคิดว่าเขาแค่พูดเล่นเฉยๆใครจะคิดว่าสองสามวันที่เค้าหายไปจะไปแอบพาพ่อแม่มาสู่ขอเร็วขนาดนี้
"อ้าว...แล้วตกลงจะแต่งไหมล่ะ"
"แต่งค่ะ"
"อ้าวเฮๆๆๆๆ"
พอกระถินตกปากรับคำว่าจะแต่งเสียงเฮก็ดังลั่นบ้าน พร้อมกับวงแขนกว้างที่ดึงร่างบางของเธอไปกอด เธอเพิ่งจะสังเกตุเห็นว่าวันนี้คนของเธอหล่อมากกก เขาใส่ชุดสูทสีขาวเต็มยศหวีผมเรียบแปล้ หนวดเคราที่เคยมีรกรุงรังก็ถูกโกนจนเกลี้ยงเกลา
ก็ไหนว่าเขาจนไม่ใช่หรือไง ? แล้วนี่อะไรคือพ่อแม่พี่น้องท่าทางผู้ดีมีสกุลมาจากไหนเยอะแยะกันนักล่ะ
"พี่กล้า...นี่เอาเงินที่ไหนไปจ้างคนมาเยอะแยะขนาดนี้อ่ะก็บอกแล้วไงว่าหนูรักพี่ถึงไม่มีอะไรมาขอหนูก็จะแต่งงานกับพี่อยู่ดีนั่นแหละ" เสียงใสกระซิบถามเขาเบาๆแต่ทว่าบรรดาคนที่นั่งบนโซาต่างก็ได้ยินกันถ้วนหน้า
เล่นใหญ่เหมือนกันนะเนี่ยแฟนเธอเนี่ย ! กระถินคิดในใจคนเดียว
"..." กล้านิ่งไปก่อนจะหัวเราะออกมาเต็มเสียงอย่างห้ามไม่อยู่ ส่วนคนอื่นๆก็กระแอมไอไปตามๆกัน ขณะที่ยายจันทร์ผู้เป็นยายได้แต่ยิ้มอ่อนให้กับความอ๊องของหลานสาว
"ถิน...นี่คุณพ่อกับคุณแม่ของพี่เอง ส่วนนี่ว่าที่ลูกสะไภ้ของพ่อกับแม่นะครับ" กล้าเงยหน้าขึ้นแนะนำให้ทั้งฝ่ายที่เป็นที่รักของเขาได้รู้จักกัน
"สะ..สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่" กระถินยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างเป็นทางการก่อนจะหันไปไหว้รอบๆตัวที่มีทั้งปู่ย่าตายายพี่ป้าน้าอาของเขาที่ขนยกโขยงมากันทั้งหมด
หลังจากนั้นพิธีหมั้นหมายก็เริ่มขึ้นทั้งที่กระถินยังอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงวอล์มขายาวเตรียมไปสวนผักทั้งอย่างนั้น ฤกษ์งามยามดีถูกกำหนดขึ้นตอนแปดโมงหนึ่งนาที ว่าที่เจ้าบ้านแต่งตัวหล่อมาเต็มในขณะที่ว่าที่เจ้าสาวหน้าสดออกมาเลยกับชุดเสื้อยืดกางเกงขายาว
ตอนเธอบอกว่าขอไปแต่งตัวแต่งหน้าก่อนได้ไหมผู้ใหญ่ก็บอกว่าเดี๋ยวจะเลยฤกษ์เธอก็ยอมเข้าพิธีหมั้นทั้งแบบนั้นแหละ
เห้อ...ไม่เห็นเหมือนในละครที่เคยดูเลยล่ะ!
กระถินคิดอย่างห่อเหี่ยวใจ
"เอาน่าเดี๋ยววันแต่งหนูจะต้องสวยที่สุดแน่ๆเชื่อพี่" กล้าปลอบใจว่าที่เจ้าสาวของเขาเสียงนุ่มนวล
"จริงหรอ..."
"จริงสิ"
เอาน่าอย่างน้อยๆวันแต่งเธอมั่นใจว่าในงานเธอต้องสวยที่สุดแน่ๆ
แล้วกระถินกับยายจันทร์ก็ต้องตาค้างกันอีกรอบ เมื่อสินสอดทองหมั้นที่ฝ่ายชายนำมามอบให้เป็นของหมั้นเจ้าสาวของเขารวมๆแล้วเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่าสิบล้านบาทแน่ๆทั้งแหวนหมั้นหลายกะรัต สร้อยคอทองคำ สร้อยเพชรเม็ดโตเงินสดโฉนดบ้านที่ดิน...
โอยยยย ! อีถินจะเป็นลม
คุณพระ ! นี่พี่กล้าของเธอเป็นใครกันแน่ทำไมถึงได้รวยมีเงินมากมายขนาดนี้กัน !
แต่ในความตกใจประหลาดใจหรืออะไรก็ตาม ลึกๆแล้วเธอนึกขอบคุณที่ตัวเองเลือกคนไม่ผิด เธอใช้หัวใจเลือกเขาโดยที่ไม่ได้มองรูปลักษณ์หรือฐานะของเขาเลยทำให้เธอมาเจอคนที่ดีที่สำคัญรวยมากๆอย่างคาดไม่ถึงเชียวล่ะ
ใครเล่าจะคิดว่าผู้ชายหน้าหนวดที่ใครๆต่างก็พากันดูถูกดูแคลนจะกลับกลายมาเป็นเศรษฐีลูกผู้ดีมีอันจะกินเข้า อย่างว่าแหละเนอะบุญวาสนาคนเรามันต่างกัน
อีถินปลื้มปลิ่มมม ! อิอิ
ส่วนยายจันทร์ก็ยิ้มกว้างเป็นจานดาวเทียมไปแล้ว ปลื้มปิติที่หลานสาวกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝากับคนดีๆพ่วงตำแหน่งคนมีสตางค์มากๆอย่างพ่อกล้าที่แกไม่เคยกีดกันแม้ว่าเขาตอนนั้นจะจนกว่าแกกับหลานก็ตาม
นี่แหละที่เค้าว่าคนทำดีย่อมได้ดี
ส่วนใครทำไม่ดีก็จะย่อมได้รับผลกรรมเอง !
. . หนึ่งอาทิตย์งานแต่งกระถินถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ พ่อแม่ว่าที่สามีที่รักและเอ็นดูลูกสะไภ้มากยอมจ่ายทุกอย่างเพื่อให้งานออกมาดีที่สุดและต้องมีความสุขที่สุด นั่นเพราะกระถินช่วยดึงลูกชายที่โดนหักอกจนไม่เป็นผู้เป็นคนให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ดังนั้นต่อให้ว่าที่ลูกสะไภ้ต้องการอะไรขอแค่บ้าง พ่อแม่พร้อมจัดหามาให้ทุกอย่างงานเช้าจัดกันที่บ้านของกระถินพิธีแห่ขันหมากมาพร้อมของหมั้นที่ถูกจัดมาให้อีกชุด ทั่วทั้งจังหวัดต่างกล่าวขานถึงความร่ำรวยของหลานเขยยายจันทร์กันยกใหญ่ ไม่เว้นแม้กระทั่งบ้านคุณนายนวลศรีกับลูกสาวที่ถึงกับเซไปไม่เป็นท่ายามได้รู้ว่าผู้ชายที่เคยดูถูกดูแคลนกลับกลายมาเป็นมหาเศรษฐีที่หนีช้ำมาจากเมืองกรุงเสียอย่างนั้น
และการ์ดเชิญงานแต่งของบ่าวสาวก็ถูกร่อนเชิญไปถึงหน้าบ้านพวกเขา มีเรื่องที่พีคยิ่งกว่านั้นก็คือคนรักที่วิไลรำภาตั้งใจชวนมาเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้เธอนั้นดันเป็นลูกชายของเลขาพ่อของกล้าเสียอย่างนั้น กลับกลายเป็นว่าตอนนี้กระถินอยู่เหนือกว่าเธอทุกอย่างนั่นเลยทำให้วิไลรำภารับไม่ได้ หญิงสาวเดินหนีออกจากงานไปหน้าตาเฉยๆ ส่วนทุกคนก็คร้านจะใส่ใจเพราะว่าวันนี้เป็นวันสำคัญวันมงคลของคู่บ่าวสาวเค้า
กระถินอยู่ในชุดไทยสไบสีทองขับผิวขาวให้นวลผ่องเป็นยองใย ใบหน้าสวยหวานถูกช่างแต่งหน้าจับตบแต่งให้สวยหยามเยิ้มราวกับนางฟ้ามาจุติ ส่วนเจ้าบ่าวสุดหล่อก็อยู่ในชุดไทยราชปะแตนสีเดียวกันกับเจ้าสาวของเขา ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มกริ่มบนใบหน้าตลอดเวลา
วินาทีแรกที่เขาได้เห็นเจ้าสาวคนสวยของเขาโผล่โฉมมาให้ได้ยล กล้ารู้สึกเหมือนราวกับว่าโลกมันหยุดหมุนไปชั่วครู่ ใบหน้าขาวใสที่เคยเห็นแต่หน้าสดๆบ่อยก็ว่าหน้ารักแล้ว ยามที่ถูกจับมาแปลงโฉมไม่อยากจะบอกเลยว่ามันน่ามองขนาดไหน ถึงขนาดที่ว่าอยากจูงเข้าหอแล้วเก็บไว้มองแค่คนเดียว !
รัก...
ความรู้สึกที่มีมันเด่นชัดในใจเขามากขึ้น ก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งถูกทรยศหักหลังจากผู้หญิงที่รักกันมานานกว่าสี่ปี ที่ผ่านมาเขาทุ่มเทความรักให้ทุกอย่างกับผู้หญิงคนนั้นมาโดยตลอดไม่ว่าเธอจะขออะไร กระเป๋ารองเท้าหรือแก้วแหวนเงินทอง แต่แล้วเขาก็ถูกทรยศจนได้
จนกระทั่งได้มาเจอผู้หญิงซื่อๆแรกๆก็ดูร้ายๆแต่ทว่าโคตรมีน้ำใจและไม่มองคนที่ภายนอก ไม่รังเกียจแม้เขาจะมีสภาพเหมือนโจรหรือแม้กระทั่งไม่มีอะไรเลยมีแค่ตัวเปล่าเธอก็ยังรับได้แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขารักได้ยังไง ?
นี่สิ...คู่ชีวิตของเขา ถึงจะยังเด็กไปบ้างแต่ก็เชื่อว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขได้
บ่าวสาวเข้าพิธีรดน้ำสังฆ์ผูกข้อมือใบหน้าของทั้งคู่เปื้อนรอยยิ้มตลอดเวลา สายตาจ้องสบกันอย่างมีความหมาย เจ้าบ่าวได้แต่ภาวนาให้ถึงเวลาได้เข้าหอไวๆสักทีอยากขยำขยี้ร่างงามจะแย่
พิธีล่วงเลยไปจนถึงเวลาค่ำเป็นการจัดเลี้ยงพิธีมงคลสมรสโต๊ะจีนกว่าห้าร้อยโต๊ะเชิญเกือบทั้งจังหวัดก็ว่าได้ล่ะเพราะยายจันทร์ก็เป็นคนมีหน้ามีตาด้วยอยู่แล้ว อีกทั้งญาติเจ้าบ่าวที่ยกขบวนมากันอย่างอุ่นหนาฝาครั่ง เรียกได้ว่าเป็นงานช้างที่สุดที่เคยมีมาทั้งจังหวัดเลย
เจ้าสาวสุดสวยในชุดสีขาวบานฟูฟ่องยืนน้ำตาไหลพรากอย่างตื้นตัน ในช่วงเวลาที่เจ้าบ่าวคุกเข่าให้คำสัญญาว่าจะรักและดูแลไปตราบชั่วชีวิตจะหาไม่ พร้อมจะดูแลสองยายหลานคู่นี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
"จูบเลยๆๆๆๆ" เสียงแขกผู้มีเกียรติตะโกนก้องให้คู่บ่าวสาวจูบเอาฤกษ์เอาชัย ไม่รอช้าเจ้าบ่าวสุดหล่อก็ช้อนต้นคอเล็กแล้วก้มลงแนบริมฝีปากประทับจูบอย่างดูดดื่มโดยไม่สนใจสายตาใคร เสียงวี๊ดว๊ายกรี๊ดกร๊าดดังเกรียวกราวอย่างอิจฉาเจ้าสาวคนสวยที่ได้สามีทั้งหล่อและรวยแถมยังแซ่บมากอีกด้วย
ปกติก็แซ่บอยู่แล้วแต่คืนนี้จะได้รู้กันว่าจะแซ่บมากกว่าที่คิดไหม ? กระถินยิ้มกรุ้มกริ่มรอคอยเข้าหอคืนนี้...
. .ติ้ดๆๆๆ"ค่ะแม่"(ร่าเป็นอะไรลูกทำไมเสียงเนือยๆแบบนี้)"เปล่าค่ะแม่ร่าแค่...ฮ่ะ..ฮึ่กๆ"ไม่ไหว...อดไม่ได้ที่จะสะอื้นออกมาให้แม่ได้ยิน แค่ได้ฟังเสียงหวานๆที่สะท้อนความรักและห่วงใยมาให้หัวใจฉันก็สั่งให้ร้องไห้ออกมาเอง(ทะเลาะกับตาไทน์มาใช่ไหม ?)"เปล่าค่ะเราไม่ได้ทะเลาะกัน"(แล้วเป็นอะไรล่ะลูกมีอะไรหนูคุยกับแม่ได้ทุกเรื่องนะ)"คือ..."ตั้งแต่วันนั้นเราทั้งคู่ก็กลับมาดีกันเหมือนเดิมอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมอาจจะดูเหมือนรักกันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ตอนนี้ฉันเองก็เรียนจบแล้วแต่เฮียไทน์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขอฉันแต่งงานกันเหมือนเมื่อก่อนเลยฉันอึดอัดพาลคิดไปหมดเลยว่าเขาจะไม่อยากแต่งงานกับฉันแล้วหรือเปล่า บางทีฉันก็คิดนะว่าตัวเองเป็นไพโบล่าหรือเปล่าตอนที่เขามาขอแต่งงานฉันก็ไม่พร้อมไม่อยากแต่ง แต่พอเขาเฉยๆไม่มีทีท่าว่าอยากจะขอฉันกลับรู้สึกใจแป้ว แม้ทุกวันนี้เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแต่ระหว่างเราฉันรู้สึกเหมือนว่าเรามีเส้นใยบางๆบางอย่างมาคั่นกลางเอาไว้"แม่เคยเสียใจไหมที่เลือกพ่อมาเป็นคู่ชีวิตแต่พ่อก็ทำให้แม่ผิดหวัง"ฉันไม่เคยถามเรื่องพ่อกับแม่สักครั้งนั่นเพราะรู้อยู่แล้วว่าทุกครั้งที่พูดถึงพ่อแล้
"เฮียขอโทษอย่าเกลียดเฮียเลย...เฮียไม่อยากได้ยิน" เฮียไทน์ที่คล่อมทับบนตัวฉันกำลังก้มหน้าซบแนบกับต้นคอฉันแล้วพูดเสียงสั่นเครือ"ถ้าร่ามาไม่ทันป่านนี้เฮียคงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว" ฉันอดคิดถึงภาพนั้นไม่ได้จริงๆยิ่งนึกยิ่งรู้สึกลมออกหูจนยั้งมือไว้ไม่ทัน"โอ๊ยร่าเฮียเจ็บๆๆๆ !"เฮียไทน์ร้องเสียงหลงเมื่อถูกฉันยื่นมือไปบิดหูทั้งสองข้างเต็มแรง เขาพยายามดันมือฉันออกจนมือฉันหลุดออกจากหูเขาทั้งสองข้างจนได้แล้วเขาก็เริ่มเอาคืนฉันด้วยการงับลงบนเนินอกฉันเต็มแรง"โอ๊ยยย...อื้อ"เริ่มจากการกัดเต็มปากเต็มคำแล้วหลังจากนั้นเขาก็ปาดเลียบนผิวเนื้อเนินอกช้าๆ ขนอ่อนในกายลุกวาบสยิวซ่านไปทั้งร่างกาย มือไม้หยาบใหญ่ค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าฉันออกช้าๆจนเนื้อตัวส่วนบนเปลือยเปล่า"ดะ..เดี๋ยวสิเฮีย ! นี่เฮียหายเมาแล้วหรอ ?" ฉันดันใบหน้าเฮียไทน์ออกจากซอกคอตัวเองออกก่อนจะถามอย่างข้องใจ"เอาจริงๆนะเฮียเริ่มหายเมาตั้งแต่เห็นหนูฟ้อนเล็บใส่ผู้หญิงคนนั้นแล้ว""เมื่อกี้เฮียเกือบจะเอากับมันไปแล้วนะแล้วตอนนี้เฮียจะมาเอากับหนูอีกหรอ ?""ร่าเฮียไม่ได้ตั้งใจ ! เฮียสาบานให้ตายห่าเลยก็ได้เฮียคิดว่าเป็นหนูจริงๆทั้งเมาทั้งคิดถึงเฮียก็เ
"ฮ้าววว"เสียงฉันเองแหละที่รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยขัดเล็กน้อยพลางอ้าปากหาวอย่างง่วงทั้งเหนื่อยและล้าเมิื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปค่อนแจ้ง มองหาคนที่ต้นเหตุก็พบว่าเขาตื่นอยู่ก่อนแล้วแถมตอนนี้ยังนอนตะแคงเท้าแขนมองหน้าฉันอยู่อีกด้วย"ไง""เฮีย ! เล่นหนูหนักไปไหมเนี่ย" อดที่จะบ่นเขาไม่ได้คนบ้าอะไรอึดเหลือเกินจริงๆ"ช่วยไม่ได้มึงดื้อเอง !""หนูเปล่า"ปากเขาพูกแต่ดวงตาเขาจับจ้องอยู่ที่... หน้าอกของฉัน !"เฮีย ! หื่นแต่เช้าอีกแล้วนะ" ฉันลืมตัวไงว่าตัวเองยังโป๊อยู่ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีอะไรปกปิดเลยมีแค่ผ้าห่มคลุมตั้งแต่ช่วงเอวลงมาก่อนที่ฉันจะรีบคว้าชายผ้าห่มขึ้นมาคลุมช่วงอกเอาไว้ไว้ใจไม่ได้เกิดเขาอยากต่อเช้าขึ้นมามีหวังฉันคงฟ้าเหลืองตายแน่ๆ"ร่า..."อยู่ๆเฮียไทน์เรียกชื่อฉันเสียงอ่อนโยนเบาๆ"ขาา" ฉันครางรับเบาๆพลางช้อนสายตามองหน้าผู้ชายที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยแววตาอ่อนโยน"แต่งงานกันไหม ?""เฮีย..."จังหวะนี้ทุกคนคงคิดว่าฉันกำลังซาบซึ้งและดีใจที่ถูกขอแต่งงานแต่เปล่าเลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาขอฉันแต่งแต่ฉันยังไม่พร้อมจริงๆถ้านับครั้งนี้ด้วยนี่คงเป็นครั้งที่สามแล้ว"ว่าไงจะแต่งไ
"เดินดีๆอย่าซนได้ไหม" เสียงทุ้มที่ค่อนข้างฟังดูแหบพร่าเอ่ยปรามฉันเบาๆในขณะที่มือซนๆของฉันมันดันไปลวนลามที่ใต้กางเกงของเฮียไทน์"อื้อ...ใครซนนี่มันเป็นของหนูหนูจะจับมันตอนไหนก็ได้""แต่มึงจะจับมันตอนนี้ไม่ได้ นี่มันหน้าร้านมึงดูคนมองใหญ่แล้ว" เฮียไทน?กระซิบเสียงพร่าขณะจับมือซนๆของฉันเอาไว้แนบอกแกร่ง"อ้าวหรอแหะๆงั้นรอถึงที่รถก่อนก็ได้เนอะ"เดินซบอกเขาจนมาถึงที่รถฉันเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านข้างคนขับแล้วผวาเข้าหาเฮียไทน์ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ"อื้อ"เสียงเฮียครางฮือในลำคอขณะที่ถูกฉันจู่โจมด้วยการโถมเข้าไปจูบที่ริมฝีปากเต็มแรง เวลาเมาฉันนิสัยเสียอยู่อย่างก็คืออารมณ์ขึ้นง่าย แต่ไม่ใช่ไปขึ้นกับใครก็ได้นะ ถ้าหน้าไม่เหมือนเฮียไทน์ก็ใช่ว่าฉันจะขึ้นได้"จ๊วบๆ" เสียงดึงดูดริมฝีปากของเราสองคนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ โซนที่เราจอดรถค่อนข้างลึกพอสมควรทำให้ไม่ค่อยมีรถคนเข้ามาจอดสักเท่าไหร่จะมีแค่คันสองคันเท่านั้นเอง"ฮื้มมม...ถ้ามึงยังไม่หยุดกู 'เอา' มึงที่ลานจอดจริงๆนะ" เฮียไทน์เลื่อนริมฝีปากออกแล้วกระซิบชิดใบหูฉัน"แล้ว...ได้ไหมล่ะ" ฉันกระซิบตอบเบาๆขณะเลื่อนฝ่ามือลงไปที่เป้ากางเกงเพื่อรู
Sara_eiei >> [ตัวเองงง...วันนี้เค้าทำงานกลุ่มมาเหนื่อยมากๆเลยเค้าขอนอนก่อนนะ]ผัวอีซาร่า >> [อืม...เหนื่อยมากไหม]Sara_eiei >> เหนื่อยมากกกตาเค้าจะปิดอยู่แล้วเนี่ยผัวอีซาร่า >> อืม...แต่ตอนนี้กูอยู่ร้านเหล้าSara_eiei >> อ้าวหรองั้นตัวเองอย่าดื่มเยอะนะขับรถกลับดีๆด้วยนะเค้าเป็นห่วง งั้นเค้านอนก่อนน๊าาผัวอีซาร่า >> แต่กูนั่งอยู่โต๊ะข้างหลังมึงนะอีร่า !Sara_eiei >> ........."ซวยแล้วพวกมึงผัวกูจับได้แล้วว่ากูหนีเที่ยวอ่ะ"ฉันชื่อซาร่าหรืออีร่าที่คนในไลน์เรียกนี่แหละกำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่บรรดาเพื่อนๆที่เสือกชวนออกมาเที่ยวในคืนนี้ ก่อนจะทำใจดีสู้เสือกันหน้าไปยิ่มหวานสุดฤทธิ์ให้โต๊ะที่อยู่ติดกันทางด้านหลัง"ไฮ้...ที่รักคิดถึงเค้าไหม ?" แหะๆก็รู้แหละว่าแก้ตัวอะไรไม่ทันแล้วแต่ก็ปะเหลาะอีผัวตัวดีมันไว้ก่อนอ่ะเนอะ"มึงไม่ต้องมาตอแหลว่าคิดถึงกูหรอกหนอยทำเป็นเหนื่อยง่วงจะหลับแล้วที่ไหนได้หนีมาเที่ยวนี่เอง"'เอ๊อะ ! โดนไปอีกชุดสะอึกเลยกู'"กะ..ก็เค้าไม่ได้อยากมาหรอกนะอีฟ้าสิชวนเค้ามา" กูขอโทษนะเพื่อนขอแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนแล้วกัน พูดไปพลางส่งสายตาอ้อนวอนให้มันตามไปติดๆ"โยนให้กูตลอดเลยนะอ
สองเดือนต่อมา"นิชา..นิชาครับหนูหายไปไหนมาพี่ตามหาหนูเสียทั่วเลยแต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ คนดีพี่ขอโทษจริงๆที่ทำให้หนูเสียใจหนูจะให้โอกาสพี่อีกครั้งได้ไหมพี่รักหนูจริงๆนะ"เสียงไตรคุณที่วันนี้บังเอิญมาเจอนิชาที่โรงพยาบาลเข้าพอดีเพราะมาเยี่ยมเพื่อนที่ภรรยาเพิ่งคลอดลูกเขารีบตรงเข้ามาหาเธอพลางสาธยายพร่ำพรรณาถึงความรักต่างๆนาๆที่มีต่อเธอ"ขอโทษนะคะพี่ไตรนิชากลับไปหาพี่ไม่ได้อีกแล้ว""ทำไมล่ะหรือว่านิชายังโกรธพี่อยู่""ไม่ใช่เพราะว่านิชายังโกรธอยู่หรอกค่ะแต่มันเป็นเพราะว่า...""นิชาเค้าแต่งงานมีสามีแล้วยังไงล่ะ ขอโทษนะครับคนนี้เมียผม"เสียงผู้กองตี๋ที่เดินมาจากทางด้านหลังของนิชาตอบแทนพลางเดินมาหยุดยืนข้างๆคนตัวเล็กแล้วรั้งเอวบางเข้ามากอดแนบแน่นต่อหน้าไตรคุณ โดยที่นิชาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร"นี่..หมายความว่ายังไงครับนิชา" ไตรคุณที่ยังมีสีหน้าเหวออยู่ถามน้ำเสียงสั่นๆเกือบสามเดือนที่ผ่านมาก่อนหน้านั้นเขาเอาแต่เมินเฉยไม่ง้อไม่โทรตามเพราะคิดว่านิชาจะต้องมาง้อเพราะคงขาดผู้ชายอย่างเขาไม่ได้แน่ จนกระทั่งเดือนที่แล้วที่เขาทนรอเฉยๆไม่ไหวจึงพยายามไปตามหาเธอทุกที่แต่ก็ไม่พบ แต่อยู่มาเจอกันอีกทีก็พบว่านิชาแต่







