ไม่กี่นาทีต่อมา_
"กูบอกให้ดูแลรินกับเพื่อนกูดีๆไง พวกมึงนี่นะแมร่งน่าโดนถีบฉิบหาย!" เอเดนเริ่มหัวเสียตอนกลับมาที่โต๊ะ แต่ไม่พบใครสักคนเดียว หลังไปเคลียร์สินค้าคู่กับเบนไม่ถึงชั่วโมงดี แม้อาการมึนเมาเริ่มมีพอประปราย เขายังอยากนั่งดื่มพูดคุยสนุกต่อ
"เห็นพนักงานบอกว่าเดินไปที่ห้องนายนะครับ" เสียงบอดี้การ์ดคนนึงบอก ก่อนหน้านี้เจอลูกค้าโต๊ะข้างๆดูเหมือนจะทะเลาะกันเลยเข้าห้ามระงับเหตุ
"เออๆ...รอบหน้าให้ไอเบนตัดเงินเดือนแมร่งเลย" ร่างสูงพูดอย่างไม่ได้ใส่ใจ โบกมือไล่ในอากาศไปมา ก่อนสาวเท้ายาวไปตามทางห้องทำงาน จะมีเส้นทางพิเศษสำหรับเขาใช้คนเดียวไม่ปนกับลูกค้า
"เดี๋ยวนี้ต้องมีมารยาทขนาดนี้ไหมว่ะ" เอเดนนึกหัวเราะเบาๆ เขายังเดินไม่ถึงห้องทำงานด้วยซ้ำ แต่ดันมีรองเท้าสองคู่วางเรียงกันหน้าห้องพักสำหรับพวกลูกค้าวีไอพี ทว่าใจแกร่งกลับรู้สึกตะหงิดถึงเหตุการณ์ผิดปกติ เพราะเขาจำได้ว่าส้นสูงคู่นี้เคยซื้อให้แฟนสาว แล้วด้านข้างคือรองเท้าหนังเพื่อนชายใส่ไซส์พอดีกันกับเขา
"กูเมาไปป่าวว่ะ เอาใหม่ดิ!" สันมือหนาตบท้ายทอยใหญ่เรียกสติ ก้มลงเพ่งสายตาจดจ่อรองเท้าสองคู่หน้าห้องพัก ใจแกร่งยิ่งเต้นกระหน่ำรัว เขาไม่อยากคิดไปไกลกว่านี้ถ้าไม่เห็นความจริง รีบจับกลอนประตูเปิดกว้าง พุ่งเข้าไปในห้องทันที
"ไอเชี้ยคลิน!!" น้ำเสียงเข้มก่นพูด เมื่อภาพตรงหน้าคือมาคลินและรินเซ่กำลังนอนกอดกัน เสื้อผ้าหลุดรุ่ยและรอบปากทั้งสองมีลิปสติกสีเดียวเปลื้อนอยู่ มันบ่งบอกว่าเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย
"หื้ม..อะไรของมึงไอเดน เห้ยริน!ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้อ่ะ กูมานอนห้องนี้ได้ไง?" คนหลับถูกกระชากเสื้อเชิ้ตอย่างรุนแรง จนมาคลินสะดุ้งตัวตื่นแล้วก็ต้องตกใจขึ้นไปอีก ตอนหันมาพบรินเซ่นอนข้างกายสภาพชุดเดรสหลุดรุ่ย ผมสลวยยุ่งเหยิงเหมือนพึ่งเสร็จเรื่องบนเตียง
"เดนโวยวายทำไม ..กรี๊ดดด!มันคือเรื่องอะไรเนี้ยคลิน! เราไม่ได้ทำไรเลยนะเดน!" นางแบบสาวพึ่งลืมตาตื่นตอนได้ยินเสียงดังรบกวน แม้ยังรู้สึกหนักศรีษะเหมือนโดนสารบางชนิดควบคุม เธอรีบโกยผ้าห่มปกปิดเรือนร่างทันที ตอนเห็นร่างกายวับแวมสภาพล่อแหลม ก้อนใจดวงน้อยอ่อนลงยวบเดียว
"มึงแทงข้างหลังกูได้ไงว่ะ มึงทำแบบนี้ได้ไงไอเชี้ยคลิน!กูเป็นเพื่อนเพื่อนมึงนะเว้ย!" เอเดนโวยวายเสียงดัง เหยียดนิ้วชี้ยาวจ่อสลับทั้งชายและหญิงบนเตียง
"เราไม่รู้เรื่องจริงๆนะเดน มันเกิดอะไรขึ้นเราไม่รู้จริงๆ" รินเซ่รีบเอ่ยบอก มันสับสนไปหมดทุกอย่างจริงๆ แถมเอเดนยังดูน่ากลัวโมโหแบบไม่เคยแสดงออก
เธอทั้งรู้สึกผิดที่ทำคนรักเสียใจและไม่เข้าใจว่ามันเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง ในเมื่อตอนแรกมาคลินคล้ายว่าหลับไปก่อนเธอตั้งแต่หน้าห้องเสียอีก
"กูก็ไม่รู้เรื่องนะเว้ย มึงหยุดโวยวายดิว่ะ ตั้งสติก่อน" มาคลินบอก เขารีบจับกระดุมเสื้อเชิ้ตติดลวกๆ มันน่าแปลกใจจริงๆที่ตื่นมามีรินเซ่นอนข้างกาย เขาแน่ใจว่าไม่เคยล่วงเกินเธอด้วยซ้ำ
"ให้กูตั้งสติเชี้ยไรว่ะ มึงแอบแทงข้างหลังกู เอากับมันสนุกใช่ไหมว่ะริน ทีกับเราสะดีดสะดิ้งเพื่อไรว่ะ พวกมึงแมร่งโครตเลวเลย" เอเดนระบายความเสียใจบอก เขาก้าวขาถอยหลังยามเพื่อนชายจะเดินมาหา อาการมึนเมาก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง ความเจ็บกำลังแล่นแทรกเข้าในอกแกร่งแทนที่
"กูไม่เคยทำไรรินนะเว้ย มึงพูดกับรินดีๆดิว่ะไอเดน"
"ให้กูพูดดีทำเชี้ยไรว่ะ มึงไม่ได้มาเป็นกูนะเว้ย!"
"มึงจะมากไปแล้วนะไอเชี้ยเดน รินเป็นแฟนมึง มึงต้องให้เกียรติเธอดิว่ะ?" เขาไม่รู้จะอธิบายยังไงด้วยซ้ำ พยามตั้งสติให้มากที่สุด ทั้งที่มันหนักหัวเหลือเกิน พอเห็นใบหน้าตัวเองในกระจกเปลื้อนคราบลิปสติกรอบปากหยัก ร่างกายดันแข็งทื่อเพราะมันคือสีเดียวกันที่รินเซ่ทาอยู่
"เราไม่รู้เรื่องจริงๆนะเดน เราเข้ามาที่นี่ได้ไงยังไม่รู้เลย แล้วเราจะไปทำอะไรกับคลินไม่ได้หรอก" รินเซ่หลุดเสียงร้องไห้ ดูเหมือนเหตุการณ์กำลังเลวร้ายไปทุกวินาที เธอกำลังจะเสียคนรักไปทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
"นับตั้งแต่วันนี้ มึงกับกูขาดกัน ส่วนเธออย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกจำไว้!" เอเดนพูดเน้นชัด เขารีบก้าวออกประตูไปทั้งที่ปวดหนึบทั่วใจแกร่ง ความรู้สึกผิดหวังและถูกหักหลักประเดประดังพร้อมกัน ทิ้งให้สองบุคคลในห้องจัดการกันต่อเอง
"มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ไงอ่ะคลิน ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้..อึกฮือ" ฝ่ามือเรียวบางกำจิกผ้าห่มแน่น ก้อนใจดวงน้อยแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี คนรักไม่ยอมฟังถ้อยคำอธิบาย เหมือนทิ้งให้เธอตัดสินความสัมพันธ์เอง น้ำตาเม็ดโตไหลเป็นทางยาว ซุกใบหน้าใส่หัวเข่าปล่อยเสียงร่ำไห้
"เราไม่รู้จริงๆริน ตื่นมามันก็เป็นแบบนี้แล้ว ไอเชี้ยเดนแมร่งไม่ฟังเลย!" เขาเองก็เจ็บปวดใจไม่น้อยไปกว่าใคร วันคืนดีๆของพวกเขาดันถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี ร่างสูงตรงไปนั่งทิ้งกายตรงปลายเตียง หันมองร่างอรชรกำลังฟุบหน้าร้องไห้อย่างน่าสงสาร ฝ่ามือหนาได้แต่ประสานแน่น ครั้นจะไปปลอบใจยังรู้ว่าตัวเองไม่เหมาะสม
"เราไม่อยากเลิกกับเดน เรารักเดน...ฮือ" น้ำเสียงหวานสะอื้นบอก ซุกหน้าใส่ผ้าห่มร้องจนตัวสั่นระริกปานขาดใจ ท่ามกลางสายตาคมมองอยู่วินาที
.....................................
ช่วงเย็น_ "พี่รินระวังสะดุดหินนะคะ เมื่อกี้พิพิมพึ่งโยนก้อนหินมาทางนี้" เพชรพลอยรีบเอ่ยเตือน ยามเห็นคนท้องก้าวเท้ามาทางสวนข้างบ้าน เธอเกรงว่าอาจเกิดอุบัติเหตุแล้วกระทบแก่ทารกในครรภ์ ยิ่งดูเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นพี่ชายหวงแหนนัก"พี่ซื้อของเล่นมาฝากพิพิมด้วยนะ แต่มาคลินเอาไปไว้ไหนไม่รู้" ก่อนกลับเข้ามาบ้าน เธอบังคับให้สามีหนุ่มพาแวะห้างสรรพสินค้า เลือกซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ดั่งที่เด็กหญิงชอบเล่น"ไม่ต้องเดินไปซื้อให้เหนื่อยหรอกริน เธอท้องอยู่นะ เดี๋ยวไอคลินมาบ่นอีก" เอเดนเอ่ยบอก เขาพึ่งวิ่งไล่จับลูกสาววัยเกือบสองขวบ ใบหน้ายังมีเม็ดเหงื่อไหล แต่ภรรยาสาวดันอมยิ้มชอบใจ"คลินไม่บ่นเลย แค่โดนรินบังคับเอง เพื่อหลานหน่ะเดน" รินเซ่รีบพุ่งไปบีบแก้มป่องๆของพิพิม เปรียบเสมือนดวงใจของเอเดนและเพชรพลอย จนเธออยากให้ถึงวันที่คลอดบุตรเร็วๆ อยากรู้ว่ามาคลินจะตื่นเต้นขนาดไหน"ปะป้า..อะอิน...ขะขาา" แต่แล้วเสียงเด็กหญิงก็รีบเรียกชื่อ เพราะรินเซ่ชอบเล่นกับเธอมาตั้งแต่เกิด พยามยืดแขนป้อมๆเขาหาผู้เป็นป้า แต่เอเดนล็อคไว้ไม่อยากให้คนท้องต้องแบกรับน้ำหนักเยอะ"ป้ารินมีน้องอยู่นะพิพิม ป้ารินอุ้มเด็กอ้วนไม่ไหวหรอก" เพชรพลอย
หนึ่งปีผ่านไป_บริษัท Makin Group"สามีบอกให้เลิกไปถ่ายแบบได้แล้วไงครับ...คุณรินเซ่" น้ำเสียงเข้มของสามีหนุ่มกำชับบอก ขณะเคลียร์งานเซ็นต์เอกสารสำคัญบนโต๊ะ หลังได้รับตำแหน่งประธานบริษัทเต็มตัว ปล่อยบิดาให้พักผ่อนช่วยน้องสาวเลี้ยงหลานอยู่บ้านเขาวางแผนแล้วว่าให้ภรรยาสาวลาวงการ เพราะพึ่งทราบว่าเธอตั้งครรภ์อ่อนๆอยู่ แต่โชคดีที่ยังไม่ถึงขั้นมีอาการแพ้ใดใด"คลินคะ....รินพักก็ได้ แต่ต้องรีบกลับบ้านกันนะ รินคิดถึงน้องพิพิมจะแย่แล้ว" น้ำเสียงหวานออดอ้อนบอก เธอเองก็เริ่มติดลูกสาวของเพชรพลอย ช่วยดูแลประหนึ่งลูกตัวเอง ร่างอรชรยังสวยสมบูรณ์แม่ตั้งครรภ์อยู่ ตรงไปนั่งบนตักแกร่งยียวน ลูบคลำตรงเป้าตุงหยอกล้อ"แน่ใจนะว่าอยากกลับบ้านเพราะคิดถึงหลาน" ใบหน้าคมคายอมยิ้มอย่างรู้ทัน เมียรักเริ่มมีอารมณ์หื่นกามตั้งแต่รู้ว่าตัวเองท้อง และเขาก็ชอบด้วยที่ได้ปรนเปรอเธอทุกคืน ฝ่ามือหนาเริ่มล้วงเข้าใต้กระโปรงทรงเอสีครีม แหวกเพนตี้ตัวจิ๋วก่อนส่งนิ้วยาว ทักทายกลีบดอกไม้งาม"คะคลิน..." ดั่งอารมณ์ตอบสนองรวดเร็ว คนท้องรีบหันข้างวางใบหน้าสวยใส่ซอกคอหนา น้ำเสียงกระเซ้าเรียกสามี ทำอีกฝ่ายมีความต้องการตาม"ในห้องทำงานผมก็ค
ช่วงค่ำ_ "ขอบใจนะที่เดนยอมดูกล้องวงจรปิดคืนนั้น" น้ำเสียงหวานของคนที่ยังรู้สึกว่ามีตราบาปได้ละลายหายไป ยามอดีตคนรักได้พูดคุยดีกับเธอ พร้อมยอมรับว่าตัวเองนั่นแหละ ที่ไม่ยอมฟังคำอธิบายบ้าง"เราขอโทษนะสำหรับเรื่องในอดีต ถ้ารู้ว่ามันกล้าวางยาเธอกับไอคลิน ฉันตามไปฆ่ามันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว" เอเดนพูดน้ำเสียงเบา เขายังมองเห็นเธอเป็นคนเดิม แต่ไม่ใช่ฐานะคนรัก เพราะตอนนี้เขารักเพชรพลอยจนสุดหัวใจแล้ว ถ้าตอนนั้นเขาลดทิฐิลงสักเล็กน้อย คงไม่เสียเวลาทำลายความผูกพันธ์ระหว่างเพื่อนไป ป่านนี้คงหาอะไรสนุกทำร่วมกันนานแล้ว"ไปเป็นไรเลยเดน ตอนนี้เรากับคลินก็รักกันจริงๆด้วยแหละ ต้องขอบใจคืนนั้นเหมือนกัน แค่รู้ว่าเดนไม่โกรธกันก็พอแล้ว" หัวใจดวงน้อยสั่นไหวยามพูดถึงแฟนหนุ่ม เธอพยามมองหาเขาอยู่แต่ไม่รู้ทำอะไร เผื่อหันมาเจอเธอนั่งคุยกับเอเดน จะทำตัวหวงก้างเป็นเรื่องใหญ่อีก ทว่าในทางกลับกัน เขาแอบยืนยิ้มอยู่ระยะใกล้หลังต้นไม้ใหญ่ กับคำพูดของรินเซ่ที่ทำลายความสับสนของเขาลงให้กระจ่างสักที และหลังจบเรื่องคาลาสไป เขากับเอเดนจึงไร้ปัญหาแต่เพียงหยั่งเชิงไว้แกล้งกันสนุกก็พอ"ดีใจนะที่เธอกับไอคลินรักกัน" เอเดนบอกจากใ
หลายวันต่อมา_ "คุณพ่อค่อยๆเดินนะคะ ถ้าล้มขึ้นมานี่แย่เลย" รินเซ่พูดบอก ตอนช่วยประคองทศพลมานั่งหน้าทีวี มีมาคลินช่วยอยู่ข้างๆ หลังท่านออกจากโรงพยาบาลแต่ร่างกายยังต้องพักฟื้นอยู่ เพราะป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะลุกลาม"พ่อไม่เป็นขนาดนั้นหรอก แต่พวกเราไปเตรียมสวนไว้นะ พ่อชวนพลอยมากินบาบีคิวกับเราเย็นนี้" ผู้เป็นบิดาบอก หลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็ดูเหมือนว่าพี่น้องคู่นี้จะเริ่มกันดีแล้ว ส่วนรินเซ่เองก็แวะมาบ้านท่านบ่อยขึ้น จนอยากจับจองเป็นสะใภ้เต็มทน"ครับ""งั้นคุณพ่อต้องนอนพักนะคะ กว่าจะเย็นต้องง่วงแน่ๆเลย" หญิงสาวบอกอย่างเป็นห่วง เธอเป็นคนช่วยป้าแม่บ้านจัดยาให้ท่านตอนเที่ยง เลยทราบดีว่าฤทธิ์ยาต้องทำให้ง่วงนอนมาก"พ่อจะนอนพักก็ได้ ถ้าได้หนูรินมาดูแลอยู่บ้านเราตลอด คงจะดีไม่น้อยเนอะตาคลินว่าไหม?" แต่ผู้เป็นพ่อวกกลับมาทางลูกชาย ท่านรู้ว่าพูดถูกใจเขาขนาดไหน"นั่นสิครับคุณพ่อ เอาแบบจัดพิธีใหญ่ๆ ด้วยนะครับ" น้ำเสียงเข้มยิ่งพูดเสริม พอเห็นคนตัวเล็กมีสีหน้าเขินอาย เขายิ่งหมั่นเขี้ยวอยากบีบแก้มเนียนซ้ำ"พอเลยคลิน ให้คุณพ่อนอนพักก่อน ไปช่วยรินเตรียมบาบีคิวกันดีกว่านะ อ้อ...หนังสือเล่มนั้นเรายังอ่านไม่จ
เวลาต่อมา_ แค่เพียงไม่นานดี น้องสาวต่างมารดาก็มาพร้อมอดีตเพื่อนชาย ที่เขาตราหน้าว่าเป็นศัตรู มาคลินรีบลุกยืนจากเก้าอี้จ้องมอง เขาเคยสั่งห้ามน้องสาวไม่ให้ยุ่งกับมันด้วยซ้ำไป"ไอเดน!/พี่คลิน" มาคลินส่งเสียงดัง อย่างไม่พอใจกับการกระทำของน้องสาวแบบนี้ ซึ่งเอเดนไม่ได้สะทกสะท้านตีหน้านิ่งราวเย้าเย้ยกัน"พามันมาด้วยทำไม?" น้ำเสียงเข้มยังถามต่อ จ้องใบหน้าน้องสาวอย่างเอาเรื่อง ในเวลายากลำบากของครอบครัว เธอดันดึงมือศัตรูเข้ามาเกี่ยวข้อง จนเขารู้สึกโมโหเป็นไหนๆ"พลอยจำเป็นต้องติดรถเขามา มันมีเรื่องฉุกเฉินหน่ะค่ะ คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ" เพชรพลอยพยามจะเอื้อมมือไปจับกับพี่ชายทว่าเขาชักกับทันที เหตุใดเธอแสร้งไม่สนใจคำสั่งของเขาบ้าง"ไอระยำ!" แต่เอเดนขบฟันกรามพูด"มึงสิไอเวร!" เรื่องอะไรที่เขาจะต้องยอมอีกฝ่ายด้วย มาคลินยกมือชี้หน้าด่ากลับทันที เขาไม่ชอบจริงๆที่มายุ่งกับน้องสาว"ถ้าจะกัดกันไปข้างนอกนะคะ อย่าให้พลอยต้องดุนะ" น้องสาวสบัดตัวถอยหลัง เธอไม่ยืนคั่นกลางห้ามใครตอนนี้ มือบางกรีดนิ้วชี้ไปทางประตูบานเลื่อน สื่อความหมายว่าไล่จริงจังไม่แคร์สายตาใคร นับเป็นครั้งแรกที่เธอโมโหจนน่ากลัว ทำชายบุรุษสองค
วันต่อมา_บริษัท Makin Group "คุณมาคลินครับ นี่คือแฟ้มเอกสารสรุปการประชุม ช่วงที่คุณคลินไม่อยู่ครับ" เลขาคนสนิทรีบถือแฟ้มเอกสารเข้ารายงาน ภายในห้องทำงานท่านรองประธาน แม้ว่าจะส่งผ่านทางอีเมล์ ไปให้เจ้านายอ่านอยู่รอบ แต่เพื่อแน่ชัดจึงอยากนำฉบับจริงให้ดูอีกครั้ง"อืม ทำไมฝ่ายจัดซื้อไม่สั่งพักงานคนทำผิด หรือคำสั่งของฉันไม่มีผลแล้ว" ขณะเอื้อมไปหยิบแฟ้มเอกสารมาเปิดอ่าน เขาพึ่งนึกได้ตอนเข้าบริษัท เมื่อเช้าตรู่พบว่าฟรานตอกบัตรทำงานแล้ว ทั้งที่เพิ่งจะสั่งพักงานไปได้เดือนเดียวเอง"คุณฟรานแจ้งกับหัวหน้าว่า คุณมาคลินอนุญาตให้กลับมาทำงานแล้วครับ ทางหัวหน้าเลยไม่กล้าขัดเผื่อเป็นคำสั่งของคุณมาคลินครับ""นั่นก็เท่ากับว่า ถ้าใครอ้างชื่อหรืออ้างว่ารู้จักฉัน แปลว่าจะไม่โดนโทษหรอกเหรอ?" รองประธานจงใจใช้ประโยคเชิงตำหนิ ถ้ามีใครเอาชื่อเขามาอ้างไปซะหมด ระบบการทำงานจะเป็นเช่นไร ไม่ต้องแบ่งกฏระเบียบให้ยุ่งยากดีกว่าไหม"ขอโทษครับ" เมฆก้มหน้าเอ่ยบอก"ไปจัดการที่ฉันสั่ง แล้วเรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง" เขาพึ่งนึกอะไรได้ ต่อให้คนอื่นไปจัดการเรื่องของฟรานแทนก็คงจะอ้างเหตุผลเดิมซ้ำๆ เพราะเขาเคยสนิมสนม ถึงขั้นชวนลง