@ หนึ่งเดือนต่อมา
กริ่ง~ กริ่ง~ เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าของมาคลินดังขึ้นภายในห้องทำงาน ทำให้นักธุรกิจหนุ่มร่างสูงวางปากกาลงเลิกตาคมมองตามสัญชาตญาณ"ฮัลโหลครับ" มือหนาเอื้อมกดรับสายทันที เพราะเบอร์ที่โทรมาคือครอบครัวของรินเซ่ แม้ตอนนี้ต่างคนต่างมุ่งมั่นในการทำงาน จนปล่อยเรื่องคืนวันนั้นละเลือนไป ฝ่ายเอเดนเองหายเงียบอย่างกับไร้ตัวตน
~คลินลูก...แม่ติดต่อรินไม่ได้เลย คลินได้เจอกับรินบ้างไหมลูก~ ปลายสายมีน้ำเสียงร้อนใจ ท่านคือมารดารินเซ่พักอาศัยอยู่ต่างประเทศเนื่องจากสามีเป็นคนอังกฤษ
"ไม่ได้คุยเลยครับ เดี๋ยวผมลองโทรให้นะครับ" ยอมรับว่าใจแกร่งเกิดความรู้สึกเอนไหว ปิดแฟ้มเอกสารลงอย่างไร้ความหมาย หลังพยามทำตัวให้ยุ่งกับงานเพื่อแกล้งลืมคืนวันนั้นเช่นกัน
~ตั้งแต่รินเลิกกับเอเดนไป แม่รู้นะว่ารินเสียใจขนาดไหน รินไม่ค่อยกลับคอนโดแถมผู้จัดการยังบอกว่าเธอเก็บตัวด้วย แม่เป็นห่วงรินเหลือเกินมาคลิน~ น้ำเสียงโทนอบอุ่นยังพูดอย่างกังวล
"เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ เดี๋ยวเลิกงานผมแวะไปหารินที่คอนโดแล้วผมจะโทรหาคุณอานะครับ" เขายกข้อมือขึ้นดูเวลาจากนาฬิกาเรือนหรู คาดคะเนความสำคัญระหว่างงานที่เหลือ
~แม่ฝากคลินด้วยนะลูก แม่ก็ไม่กล้าโทรไปหาเอเดนเหมือนกัน~
"ครับ" พอจบบทสนทนาร่างสูงสง่าในชุดทำงานเนียบเอนพิงกาย ถอนลมหายใจเหนื่อยหน่าย ใครจะรู้กันเล่าว่าสุดท้ายแล้วเขาคงหนีความรู้สึกตัวเองไม่พ้น
@ คอนโดรินเซ่
นับว่าช่างบังเอิญจริงๆ เมื่อมาคลินขับรถยนต์ส่วนตัวมาเพียงคนเดียว ซึ่งเห็นนางแบบสาวกำลังจะก้าวย่างเข้าคอนโด ทั้งที่เขาไม่ได้โทรมานัดก่อนอย่างใด"ริน!" เขารีบลงจากรถตามไปร่างบางในทันที ใบหน้าสวยยังงดงามดูเปล่งประกายมากกว่าเดิม มีเพียงดวงตากลมเท่านั้นที่ยังซ่อนความรู้สึกในใจอยู่
"คลินมาที่นี่ได้ไงหรือมีธุระเลยแวะมาหาเรา" รินเซ่แสดงอาการตกใจนิดเดียว พอเห็นหน้าเขาทำให้นึกพลันเรื่องคืนวันนั้น สองมือบางรวบเอกสารขึ้นแนบอกอวบ เก็บอารมณ์พลั่งพลูดิ่งลึกในใจดวงน้อย
"อืม คุณอาเป็นห่วงอ่ะให้เราแวะมาดู"
"ขอโทษทีนะสงสัยโทรศัพท์มีปัญหา แต่เราสบายดีคลินกลับไปเถอะอย่าห่วงเลย" น้ำเสียงหวานเอ่ยบอก ราวเกรงใจ เธอไม่อยากให้คนอื่นต้องลำบากเรื่องของเธออีกแล้ว ส่วนเอเดนเองต่อให้เขาจะหายไปไม่ยอมฟังคำอธิบายก็คงต้องทำใจ
"ใครว่าเราห่วง เราหิวต่างหากเลยมาหาเพื่อนกินข้าว" คนตัวสูงเปลี่ยนบทสนทนาทันที เขาสังเกตุออกว่าหญิงสาวกำลังปิดบังและแสดงออกว่าหวงเอกสารในอกขนาดไหน
"คลินก็รู้ว่ารินต้องรักษาหุ่นอย่าชวนให้ยากเลย" เธอไม่มีเวลาให้ใครหรอก เหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมงดีเธอจะได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทิ้งความทรงจำไว้กับอดีตอันน่าเศร้าก็พอ
"เสียใจด้วยนะ รอบนี้เราบังคับถ้ายุ่งงั้นสั่งไปกินข้างบนไหม เดี๋ยวให้ลูกน้องเอามาส่ง" เขาเสนอความคิด ตอนเรียนมหาลัยยังเคยขึ้นไปบนที่พักหญิงสาว ช่วงใกล้สอบต้องอ่านหนังสือหนัก แม้คราวนั้นยังมีเอเดนอยู่ด้วย
"แต่..." เธอละล่ำละลักบอกคล้ายอึดอัดใจ
"นำไปสิ อย่าชักช้าถ้าเราเป็นลมได้แบกยาวเลยนะ" มาคลินพูดท่าทีเล่นสลับเอาจริง ร่างบางดูซูบผอมกว่าเดิมถึงใบหน้าจะสวยขนาดไหน ท่อนแขนแกร่งเหยียดยื่นมือผายออก บังคับอีกฝ่ายให้จำใจยอมเดินนำไปสแกนรหัสเข้าอาคาร
................................
ช่วงเย็น_ "พี่รินระวังสะดุดหินนะคะ เมื่อกี้พิพิมพึ่งโยนก้อนหินมาทางนี้" เพชรพลอยรีบเอ่ยเตือน ยามเห็นคนท้องก้าวเท้ามาทางสวนข้างบ้าน เธอเกรงว่าอาจเกิดอุบัติเหตุแล้วกระทบแก่ทารกในครรภ์ ยิ่งดูเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นพี่ชายหวงแหนนัก"พี่ซื้อของเล่นมาฝากพิพิมด้วยนะ แต่มาคลินเอาไปไว้ไหนไม่รู้" ก่อนกลับเข้ามาบ้าน เธอบังคับให้สามีหนุ่มพาแวะห้างสรรพสินค้า เลือกซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ดั่งที่เด็กหญิงชอบเล่น"ไม่ต้องเดินไปซื้อให้เหนื่อยหรอกริน เธอท้องอยู่นะ เดี๋ยวไอคลินมาบ่นอีก" เอเดนเอ่ยบอก เขาพึ่งวิ่งไล่จับลูกสาววัยเกือบสองขวบ ใบหน้ายังมีเม็ดเหงื่อไหล แต่ภรรยาสาวดันอมยิ้มชอบใจ"คลินไม่บ่นเลย แค่โดนรินบังคับเอง เพื่อหลานหน่ะเดน" รินเซ่รีบพุ่งไปบีบแก้มป่องๆของพิพิม เปรียบเสมือนดวงใจของเอเดนและเพชรพลอย จนเธออยากให้ถึงวันที่คลอดบุตรเร็วๆ อยากรู้ว่ามาคลินจะตื่นเต้นขนาดไหน"ปะป้า..อะอิน...ขะขาา" แต่แล้วเสียงเด็กหญิงก็รีบเรียกชื่อ เพราะรินเซ่ชอบเล่นกับเธอมาตั้งแต่เกิด พยามยืดแขนป้อมๆเขาหาผู้เป็นป้า แต่เอเดนล็อคไว้ไม่อยากให้คนท้องต้องแบกรับน้ำหนักเยอะ"ป้ารินมีน้องอยู่นะพิพิม ป้ารินอุ้มเด็กอ้วนไม่ไหวหรอก" เพชรพลอย
หนึ่งปีผ่านไป_บริษัท Makin Group"สามีบอกให้เลิกไปถ่ายแบบได้แล้วไงครับ...คุณรินเซ่" น้ำเสียงเข้มของสามีหนุ่มกำชับบอก ขณะเคลียร์งานเซ็นต์เอกสารสำคัญบนโต๊ะ หลังได้รับตำแหน่งประธานบริษัทเต็มตัว ปล่อยบิดาให้พักผ่อนช่วยน้องสาวเลี้ยงหลานอยู่บ้านเขาวางแผนแล้วว่าให้ภรรยาสาวลาวงการ เพราะพึ่งทราบว่าเธอตั้งครรภ์อ่อนๆอยู่ แต่โชคดีที่ยังไม่ถึงขั้นมีอาการแพ้ใดใด"คลินคะ....รินพักก็ได้ แต่ต้องรีบกลับบ้านกันนะ รินคิดถึงน้องพิพิมจะแย่แล้ว" น้ำเสียงหวานออดอ้อนบอก เธอเองก็เริ่มติดลูกสาวของเพชรพลอย ช่วยดูแลประหนึ่งลูกตัวเอง ร่างอรชรยังสวยสมบูรณ์แม่ตั้งครรภ์อยู่ ตรงไปนั่งบนตักแกร่งยียวน ลูบคลำตรงเป้าตุงหยอกล้อ"แน่ใจนะว่าอยากกลับบ้านเพราะคิดถึงหลาน" ใบหน้าคมคายอมยิ้มอย่างรู้ทัน เมียรักเริ่มมีอารมณ์หื่นกามตั้งแต่รู้ว่าตัวเองท้อง และเขาก็ชอบด้วยที่ได้ปรนเปรอเธอทุกคืน ฝ่ามือหนาเริ่มล้วงเข้าใต้กระโปรงทรงเอสีครีม แหวกเพนตี้ตัวจิ๋วก่อนส่งนิ้วยาว ทักทายกลีบดอกไม้งาม"คะคลิน..." ดั่งอารมณ์ตอบสนองรวดเร็ว คนท้องรีบหันข้างวางใบหน้าสวยใส่ซอกคอหนา น้ำเสียงกระเซ้าเรียกสามี ทำอีกฝ่ายมีความต้องการตาม"ในห้องทำงานผมก็ค
ช่วงค่ำ_ "ขอบใจนะที่เดนยอมดูกล้องวงจรปิดคืนนั้น" น้ำเสียงหวานของคนที่ยังรู้สึกว่ามีตราบาปได้ละลายหายไป ยามอดีตคนรักได้พูดคุยดีกับเธอ พร้อมยอมรับว่าตัวเองนั่นแหละ ที่ไม่ยอมฟังคำอธิบายบ้าง"เราขอโทษนะสำหรับเรื่องในอดีต ถ้ารู้ว่ามันกล้าวางยาเธอกับไอคลิน ฉันตามไปฆ่ามันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว" เอเดนพูดน้ำเสียงเบา เขายังมองเห็นเธอเป็นคนเดิม แต่ไม่ใช่ฐานะคนรัก เพราะตอนนี้เขารักเพชรพลอยจนสุดหัวใจแล้ว ถ้าตอนนั้นเขาลดทิฐิลงสักเล็กน้อย คงไม่เสียเวลาทำลายความผูกพันธ์ระหว่างเพื่อนไป ป่านนี้คงหาอะไรสนุกทำร่วมกันนานแล้ว"ไปเป็นไรเลยเดน ตอนนี้เรากับคลินก็รักกันจริงๆด้วยแหละ ต้องขอบใจคืนนั้นเหมือนกัน แค่รู้ว่าเดนไม่โกรธกันก็พอแล้ว" หัวใจดวงน้อยสั่นไหวยามพูดถึงแฟนหนุ่ม เธอพยามมองหาเขาอยู่แต่ไม่รู้ทำอะไร เผื่อหันมาเจอเธอนั่งคุยกับเอเดน จะทำตัวหวงก้างเป็นเรื่องใหญ่อีก ทว่าในทางกลับกัน เขาแอบยืนยิ้มอยู่ระยะใกล้หลังต้นไม้ใหญ่ กับคำพูดของรินเซ่ที่ทำลายความสับสนของเขาลงให้กระจ่างสักที และหลังจบเรื่องคาลาสไป เขากับเอเดนจึงไร้ปัญหาแต่เพียงหยั่งเชิงไว้แกล้งกันสนุกก็พอ"ดีใจนะที่เธอกับไอคลินรักกัน" เอเดนบอกจากใ
หลายวันต่อมา_ "คุณพ่อค่อยๆเดินนะคะ ถ้าล้มขึ้นมานี่แย่เลย" รินเซ่พูดบอก ตอนช่วยประคองทศพลมานั่งหน้าทีวี มีมาคลินช่วยอยู่ข้างๆ หลังท่านออกจากโรงพยาบาลแต่ร่างกายยังต้องพักฟื้นอยู่ เพราะป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะลุกลาม"พ่อไม่เป็นขนาดนั้นหรอก แต่พวกเราไปเตรียมสวนไว้นะ พ่อชวนพลอยมากินบาบีคิวกับเราเย็นนี้" ผู้เป็นบิดาบอก หลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็ดูเหมือนว่าพี่น้องคู่นี้จะเริ่มกันดีแล้ว ส่วนรินเซ่เองก็แวะมาบ้านท่านบ่อยขึ้น จนอยากจับจองเป็นสะใภ้เต็มทน"ครับ""งั้นคุณพ่อต้องนอนพักนะคะ กว่าจะเย็นต้องง่วงแน่ๆเลย" หญิงสาวบอกอย่างเป็นห่วง เธอเป็นคนช่วยป้าแม่บ้านจัดยาให้ท่านตอนเที่ยง เลยทราบดีว่าฤทธิ์ยาต้องทำให้ง่วงนอนมาก"พ่อจะนอนพักก็ได้ ถ้าได้หนูรินมาดูแลอยู่บ้านเราตลอด คงจะดีไม่น้อยเนอะตาคลินว่าไหม?" แต่ผู้เป็นพ่อวกกลับมาทางลูกชาย ท่านรู้ว่าพูดถูกใจเขาขนาดไหน"นั่นสิครับคุณพ่อ เอาแบบจัดพิธีใหญ่ๆ ด้วยนะครับ" น้ำเสียงเข้มยิ่งพูดเสริม พอเห็นคนตัวเล็กมีสีหน้าเขินอาย เขายิ่งหมั่นเขี้ยวอยากบีบแก้มเนียนซ้ำ"พอเลยคลิน ให้คุณพ่อนอนพักก่อน ไปช่วยรินเตรียมบาบีคิวกันดีกว่านะ อ้อ...หนังสือเล่มนั้นเรายังอ่านไม่จ
เวลาต่อมา_ แค่เพียงไม่นานดี น้องสาวต่างมารดาก็มาพร้อมอดีตเพื่อนชาย ที่เขาตราหน้าว่าเป็นศัตรู มาคลินรีบลุกยืนจากเก้าอี้จ้องมอง เขาเคยสั่งห้ามน้องสาวไม่ให้ยุ่งกับมันด้วยซ้ำไป"ไอเดน!/พี่คลิน" มาคลินส่งเสียงดัง อย่างไม่พอใจกับการกระทำของน้องสาวแบบนี้ ซึ่งเอเดนไม่ได้สะทกสะท้านตีหน้านิ่งราวเย้าเย้ยกัน"พามันมาด้วยทำไม?" น้ำเสียงเข้มยังถามต่อ จ้องใบหน้าน้องสาวอย่างเอาเรื่อง ในเวลายากลำบากของครอบครัว เธอดันดึงมือศัตรูเข้ามาเกี่ยวข้อง จนเขารู้สึกโมโหเป็นไหนๆ"พลอยจำเป็นต้องติดรถเขามา มันมีเรื่องฉุกเฉินหน่ะค่ะ คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ" เพชรพลอยพยามจะเอื้อมมือไปจับกับพี่ชายทว่าเขาชักกับทันที เหตุใดเธอแสร้งไม่สนใจคำสั่งของเขาบ้าง"ไอระยำ!" แต่เอเดนขบฟันกรามพูด"มึงสิไอเวร!" เรื่องอะไรที่เขาจะต้องยอมอีกฝ่ายด้วย มาคลินยกมือชี้หน้าด่ากลับทันที เขาไม่ชอบจริงๆที่มายุ่งกับน้องสาว"ถ้าจะกัดกันไปข้างนอกนะคะ อย่าให้พลอยต้องดุนะ" น้องสาวสบัดตัวถอยหลัง เธอไม่ยืนคั่นกลางห้ามใครตอนนี้ มือบางกรีดนิ้วชี้ไปทางประตูบานเลื่อน สื่อความหมายว่าไล่จริงจังไม่แคร์สายตาใคร นับเป็นครั้งแรกที่เธอโมโหจนน่ากลัว ทำชายบุรุษสองค
วันต่อมา_บริษัท Makin Group "คุณมาคลินครับ นี่คือแฟ้มเอกสารสรุปการประชุม ช่วงที่คุณคลินไม่อยู่ครับ" เลขาคนสนิทรีบถือแฟ้มเอกสารเข้ารายงาน ภายในห้องทำงานท่านรองประธาน แม้ว่าจะส่งผ่านทางอีเมล์ ไปให้เจ้านายอ่านอยู่รอบ แต่เพื่อแน่ชัดจึงอยากนำฉบับจริงให้ดูอีกครั้ง"อืม ทำไมฝ่ายจัดซื้อไม่สั่งพักงานคนทำผิด หรือคำสั่งของฉันไม่มีผลแล้ว" ขณะเอื้อมไปหยิบแฟ้มเอกสารมาเปิดอ่าน เขาพึ่งนึกได้ตอนเข้าบริษัท เมื่อเช้าตรู่พบว่าฟรานตอกบัตรทำงานแล้ว ทั้งที่เพิ่งจะสั่งพักงานไปได้เดือนเดียวเอง"คุณฟรานแจ้งกับหัวหน้าว่า คุณมาคลินอนุญาตให้กลับมาทำงานแล้วครับ ทางหัวหน้าเลยไม่กล้าขัดเผื่อเป็นคำสั่งของคุณมาคลินครับ""นั่นก็เท่ากับว่า ถ้าใครอ้างชื่อหรืออ้างว่ารู้จักฉัน แปลว่าจะไม่โดนโทษหรอกเหรอ?" รองประธานจงใจใช้ประโยคเชิงตำหนิ ถ้ามีใครเอาชื่อเขามาอ้างไปซะหมด ระบบการทำงานจะเป็นเช่นไร ไม่ต้องแบ่งกฏระเบียบให้ยุ่งยากดีกว่าไหม"ขอโทษครับ" เมฆก้มหน้าเอ่ยบอก"ไปจัดการที่ฉันสั่ง แล้วเรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง" เขาพึ่งนึกอะไรได้ ต่อให้คนอื่นไปจัดการเรื่องของฟรานแทนก็คงจะอ้างเหตุผลเดิมซ้ำๆ เพราะเขาเคยสนิมสนม ถึงขั้นชวนลง