LOGIN"กลับมาแล้วบ่ อิหล่า"
แม่ของเธอถามหลังจากที่เธอเดินเข้ามาในบ้าน "ไผมาส่งล่ะหล่า" "คนที่ศูนย์ อบต. จ้ะแม่ " เธอบอกแม่ของเธออกไป แต่ไม่บอกความจริงว่าใครมาส่งเธอ "ตุ๊ต๊ะ กลับก่อนทำไมไม่บอกพี่" เธอหันไปถามน้องชาย "ก็บอกยัยษาไว้แล้ว มันไม่ได้บอกพี่เหรอ" "บอกตอนจะกลับแล้ว" "ก็หลวงตาน่ะสิพี่จันทร์ จะพิมพ์ซองผ้าป่า ท่านเลยให้เด็กโทรตามผม เอาไปพิมพ์ให้" ตุ๊ต๊ะบอกเหตุผลกับพี่สาว จากนั้นก็หันไปดูทีวีต่อ "อื้อ ถ้างั้นหนูอาบน้ำนอนก่อนนะแม่ ราตรีสวัสดิ์จ้ะแม่" จันทร์หอมบอกแม่กับน้องแล้วก็ขึ้นไปนอน หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว จันทร์หอมก็มานอนกระสับกระส่ายบนเตียง เรื่องข่าวลือระหว่างเธอ กับท่านนายก อบต. มีหรือเธอจะไม่รู้ เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น แต่เธอคิดว่า ไม่จำเป็นต้องไปอธิบาย หรือแก้ข่าว เพราะมันไม่ใช่ความจริง เธอคิดว่าสักวันความจริงมันจะปรากฏออกมาเอง แต่คราวนี้เห็นทีว่าเธอคงคิดผิด เรื่องระหว่างเธอกับท่าน นายก อบต.มันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด ท่านก็แค่เอ็นดูเธอในฐานะลูกน้อง และอีกอย่างจันทร์หอมก็ทำงานไม่เคยให้ท่านต้องกังวลใจ ท่านไม่เคยแสดงท่าทีในเชิงชู้สาวกับเธอเลย จันทร์หอมก็ระวังในเรื่องนี้มากในทางกลับกัน จันทร์หอมกับคิดว่าท่านนายก อบต.เป็นแค่คนแก่ขี้เหงาคนหนึ่งเท่านั้น ท่านมักจะเอาสิ่งของไปมอบให้ที่ศูนย์เด็กเล็กบ่อย ๆ ท่านชอบเด็กเล็ก เธอยังเคยถามท่านว่า ท่านอยากมีหลานใช่มั้ย ท่านก็บอกว่าคงอีกนานถึงจะมี ท่านพูดแค่นั้น "แล้วนี่จะทำไงดี หรือจะอธิบายกับตานั่นให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยนะ " เธอคิด "แต่นายนั่นจะฟังเหรอ" เธอได้แต่คิดกลับไปกลับมาจนนอนหลับไปในช่วงใกล้สว่าง ทางด้านผู้กองหนุ่ม เมื่อมาส่งจันทร์หอมแล้ว เขาก็มานั่งดื่มต่อเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือ แทบจะรินให้ไม่ทัน จนเพื่อน และลูกน้องตกใจ "เบา ๆ หน่อยโว้ยขุน นายเป็นไรเนี่ย เดี๋ยวก็ได้เมาหัวทิ่มหรอก" แทนไท ปรามเพื่อน แต่ดูเหมือนจะไม่เข้าหูเขาสักนิด "รินมาอีก" เขากลับเร่ง พลทหาร ธนู แก้วกล้าให้รินเบียร์ให้เขาเร็ว ๆ ทุกคนได้แต่ส่ายหัวให้กับความไม่ปกติของผู้กองหน้าดุ "สงสัยไปเจออะไรมา" แทนไทพึมพำ "เดี๋ยวได้น็อคกลางอากาศกันพอดี" ผ่านไปราวเที่ยงคืน ผู้กองขุนเขาก็น็อคจริง ๆ ลำบากลูกน้องกับ ผู้กองแทนไท ต้องหามเขาเข้าไปนอน ส่วนท่านนายก อบต. ได้แต่ส่ายหัว แต่ก็เหมือนจะพึงพอใจอะไรบางอย่าง เมื่อเห็นลูกชายมีสภาพแบบนี้ "ไม่จริง มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด" ผู้กองขุนเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดหัวในตอนสายโด่งของอีกวัน "หนอยยัยแม่มด ขนาดตอนหลับ ยังตามมาหลอกหลอน รังควาญ ฉันอีกเหรอ" ขุนเขาพึมพำพลางคิดถึงรสจูบ และเนื้อตัวนุ่มนิ่ม กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่เหมือนจะติดจมูกเขาไม่เลือนหาย ..เธอตื่นสาย ทั้งที่ในชีวิตนี้ไม่เคยเลย สักครั้ง "แม่ ทำไมไม่ปลุกหนูคะ ปล่อยให้หนูนอนอยู่ได้" ถามแม่พร้อมกับชงกาแฟไปด้วย "แม่เห็นเป็นวันหยุดเลยไม่ปลุก อีกอย่างเพิ่งจะเจ็ดโมงเองนะ" แม่ตอบคำถามเธอ "ตุ๊ต๊ะล่ะแม่ ไปวัดเหรอ หนูก็ว่าจะไปวัดเหมือนกัน กลับตื่นสายซะได้" เธอบ่นและเริ่มลงมือทำกับข้าวง่าย ๆ สองอย่างนั่นคือ น้ำพริกปลาทู และไข่เจียว ส่วนข้าวแม่ของเธอนึ่งไว้แล้ว ( ข้าวเหนียว) "ตื่นแล้วเหรอ ไอ้เสือ" ท่านนายก อบต.เอ่ยปากถามลูกชาย เมื่อเห็นเขาเดินเข้าครัวมา "กาแฟไหม" "ก็ดีครับพ่อ" เขาตอบไปพร้อมยื่นมือออกไปรับแก้วจากท่าน "เมื่อคืนแกเป็นอะไร แค่ให้ไปส่งหนูจันทร์หอมแค่นี้ แกถึงกับกินเหล้าเหมือนจะเมาให้ตายไปเลยหรือไง" ท่านถามลูกชายเสียงเข้ม เขาปรายตามองพ่อแต่ไม่พูดอะไร "แล้วจะไปรายงานตัวที่หน่วยวันใหน" ท่านถาม "อีกสามวันครับพ่อ" เขาตอบพ่อไป และจ้องหน้าพ่อ เหมือนจะรู้ ตัวท่านนายก อบต.จึงเอ่ยปากออกมา "มีอะไรก็พูดมาตามตรง เป็นชายชาติทหาร อย่ามัวอ้ำอึ้ง" "ถึงไม่ถาม ผมก็รู้ว่าพ่อคิดอะไร กับแม่จันทร์หอมจันทร์เหม็นนั่น" ผู้กองพูดออกมา แต่ในใจเขารู้ดีว่าเธอหอมแค่ใหน "เธอชื่อจันทร์หอม" ท่านนายก อบต.บอกลูกชายพร้อมกลั้วหัวเราะ "ว่าแต่แกเถอะ เมื่อไหร่จะมีเมีย พ่ออยากอุ้มหลานแล้ว หรือแกจะแต่งกับปืน กับอุดมการณ์ของแกหรือไง " เขาได้แต่เงียบ ไม่ได้ตอบคำถามพ่อตัวเองแต่กับจมอยู่กับความคิด เหอะ..งานเสี่ยงตายอย่างเขาจะมีใครมายอมจมปลักอยู่ด้วย ขนาดผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด คิดจะร่วมหัวจมท้ายด้วย กลับมาขอแยกทางกับเขา เพียงแค่เพราะเขาบอกว่าจะอาสาไปสามจังหวัดชายแดนใต้ เท่านั้นเอง ตั้งแต่นั้นมาเขาก็เฉยชากับผู้หญิง จริงจังกับงาน งานใหนเสี่ยงเขามักจะอาสาเสมอ แต่ที่เขายอมกลับมาประจำการที่บ้านเกิดในตอนนี้ก็เพราะ ข่าวลือเกี่ยวกับพ่อของเขา ที่คิดจะเคี้ยวหญ้าอ่อน แถมหญ้าอ่อนคนนั้นยังอายุน้อยกว่าเขาซะอีก สบโอกาสที่หน่วยงานของเขาเปิดโอกาสให้คนที่ประจำพื้นที่เสี่ยง มานานได้ย้ายกลับมายังพื้นที่ส่วนอื่นบ้าง เขาจึงทำเรื่องขอย้ายมา เห็นลูกชายเงียบ ท่านนายก อบต. ก็ไม่เซ้าซี้ ท่านจึงเดินออกมาจากห้องครัว ปล่อยให้เขาจมอยู่กับความคิดตัวเอง "ผู้กองครับ จะทานข้าวเลยไหม" พลฯ ธนู เดินเข้ามาถามเขา ผู้กองขุนเขาจึงออกจากภวังค์ความคิด "ป้านภาให้มาถามครับ ผู้กองแทนไท รอที่โต๊ะแล้วครับ" "เอ้อ กินตอนนี้เลย" ....... "พี่จันทร์ ๆ " วริษา ตะโกนเรียกเธอเสียงดังพลางวิ่งมาหาเธอที่ลานจอดรถ มอร์'ไซค์ ในศูนย์ อบต. "มีอะไรเหรอ ษา เสียงดังแต่เช้า" เธอถามวริษา "วันนั้น เป็นไงบ้างพี่จันทร์ มีหนุ่มในเครื่องแบบไปส่ง ฟินไหม เหมือนในซีรี่ย์เกาหลีรึเปล่า" วริษาถามพลางทำท่าทางเพ้อฝัน จันทร์หอมส่ายหน้า ในความขี้มโนของเพื่อนรุ่นน้อง "จะมีอะไร ล่ะ ท่านนายก อบต. ก็แค่ให้เขาไปส่งพี่เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรหรอก" เธอตอบคำถามเด็กสาวไป "แต่เขาก็หล่อนะพี่จันทร์ ถึงจะหน้าดุไปหน่อยเถอะ พี่ไม่หวั่นไหวบ้างเลยเหรอ " จันทร์หอมส่ายหน้า "อย่าคิดอะไรเหลวไหล เรามันคนละชั้น" จันทร์หอมกล่าวติดตลก "ไปทำงานกันเถอะ ปะ" สองสาวจึงเดินควงกันเข้าไปในศูนย์ อบต.วริษาขี่มอร์'ไซค์กลับจากตลาด แต่น้ำมันรถหมด จึงเข็นรถไปตามข้างทางเอี๊ยดดด.. เสียงล้อรถบดพื้นถนนที่เกิดจากการเบรกกะทันหัน"รถเป็นอะไรครับคนสวย"ผู้กองแทนไทลดกระจกลง พลางชะโงกหน้าออกมามอง เขาจำได้ว่าเป็นวริษา สาวน้อยหน้าสวยที่เขาเจอในวันงานสู่ขวัญเพื่อนรักเขานั่นเอง"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ น่าจะน้ำมันหมด"วริษาตอบเขาไปพลางทำหน้าเซ็ง ๆ เธอก้ม ๆ เงย ๆ ก่อนจะเข็นรถไปช้า ๆ"นี่คุณ หยุดก่อน เดี๋ยวผมช่วยดู"วริษาจึงหยุด ผู้กองแทนไท เปิดประตูรถลงมาและเข้าไปดูรถให้เธอ"น้ำมันหมดจริง ๆ ด้วยเกลี้ยงถังเลย"เขาพูดพลางปิดเบาะรถ มอร์'ไซค์ลง"ขี่เป็นอย่างเดียวจริง ๆ"เขาพึมพำเบา ๆ ส่งผลให้วริษาหน้าบึ้ง"เรื่องของหนู ลุงไม่กี่ยว"วริษาตอบไปอย่างไม่พอใจ"นี่ลุง ลุงเป็นทหาร น่าจะให้ความช่วยเหลือประชาชนนะ ไม่ใช่มาว่ากันแบบนี้"เธอว่าเขาบ้าง"ก็กำลังจะช่วยอยู่นี่ไงล่ะ มีปั๊มอยู่แถวนี้ไหม""มีค่ะ ทางเข้าหมู่บ้าน น่าจะอีกสัก สามกิโลได้"เธอตอบเขา ผู้กองแทนไทจึงหันไปบอกกับพล ฯทหารที่นั่งรถมากับเขา ให้มาขี่ 'มอร์ ไซค์ของวริษา และจับท้ายรถของเขาลากไปให้ถึงปั๊ม และก็ผายมือเชิญวริษาขึ้นรถเขา"เชิญครับ "วริษาจึงก้า
"กระผม ร้อยเอกขุนเขา อนันต์ชัย รายงานตัวครับท่าน"ผู้กองขุนเขา ทำความเคารพผู้บังคับบัญชา"ยินดีต้อนรับ ผู้กอง เรายินดีมากเลยที่ได้ฝีมือระดับพระกาฬ อย่างคุณมาร่วมทีม ผู้ร้ายคงต้องคิดหนักหน่อยล่ะเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับคุณ"วันนี้ผู้กองขุนเขาได้เข้ามารายงานตัวที่หน่วยการได้กลับมาประจำการที่บ้านเกิดครานี้เรื่องงานเขาไม่ได้หนักใจแม้แต่น้อย ที่เขาหนักใจคือเรื่องพ่อของเขากับแม่จันทร์หอมมากกว่า อีกอย่างคือมันเหมือนมีอะไรบางอย่างในใจของเขา เกี่ยวกับแม่คนนั้น มันมีแต่จะคอยคิดถึงใบหน้าที่น้ำตาคลอของเธอ ในวันที่เขาไปส่งเธอในวันนั้นอยู่ร่ำไป เขาก็ได้แต่คิดปลอบใจตัวเองว่า เป็นเพราะเขาเกลียดเธอจึงทำให้เขามักจะนึกถึงเธออยู่บ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และเขาได้ตั้งปนิธานเอาไว้ว่า เรื่องพ่อของเขากับจันทร์หอมเขาจะขัดขวางให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ๆ ก็ตาม"พี่จันทร์เร็ว ๆ ขึ้นรถ"วริษาตะโกนพลางกวักมือเรียกเธอ จันทร์หอมจึงเร่งฝีเท้าเดินไปทางวริษาที่ยืนอยู่ข้างปิคอัพสี่ประตูสีดำ ยี่ห้อยอดนิยมคันหนึ่ง"น่ารักจังวันนี้" เธอทักวริษา วันนี้วริษาใส่เสื้อแขนตุ๊กตาสีชมพูเอาชายเสื้อทับในกางเกงยีนส์ขาดทรงเดพ ท
"กลับมาแล้วบ่ อิหล่า"แม่ของเธอถามหลังจากที่เธอเดินเข้ามาในบ้าน "ไผมาส่งล่ะหล่า""คนที่ศูนย์ อบต. จ้ะแม่ " เธอบอกแม่ของเธออกไป แต่ไม่บอกความจริงว่าใครมาส่งเธอ"ตุ๊ต๊ะ กลับก่อนทำไมไม่บอกพี่"เธอหันไปถามน้องชาย "ก็บอกยัยษาไว้แล้ว มันไม่ได้บอกพี่เหรอ""บอกตอนจะกลับแล้ว""ก็หลวงตาน่ะสิพี่จันทร์ จะพิมพ์ซองผ้าป่า ท่านเลยให้เด็กโทรตามผม เอาไปพิมพ์ให้" ตุ๊ต๊ะบอกเหตุผลกับพี่สาว จากนั้นก็หันไปดูทีวีต่อ"อื้อ ถ้างั้นหนูอาบน้ำนอนก่อนนะแม่ ราตรีสวัสดิ์จ้ะแม่"จันทร์หอมบอกแม่กับน้องแล้วก็ขึ้นไปนอนหลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว จันทร์หอมก็มานอนกระสับกระส่ายบนเตียง เรื่องข่าวลือระหว่างเธอ กับท่านนายก อบต. มีหรือเธอจะไม่รู้ เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น แต่เธอคิดว่า ไม่จำเป็นต้องไปอธิบาย หรือแก้ข่าว เพราะมันไม่ใช่ความจริง เธอคิดว่าสักวันความจริงมันจะปรากฏออกมาเอง แต่คราวนี้เห็นทีว่าเธอคงคิดผิดเรื่องระหว่างเธอกับท่าน นายก อบต.มันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด ท่านก็แค่เอ็นดูเธอในฐานะลูกน้อง และอีกอย่างจันทร์หอมก็ทำงานไม่เคยให้ท่านต้องกังวลใจ ท่านไม่เคยแสดงท่าทีในเชิงชู้สาวกับเธอเลย จันทร์หอมก็ระวังในเรื
เก้าโมงเช้าได้ฤกษ์สู่ขวัญแล้ว ขุนเขาเข้าไปนั่งต่อหน้าหมอสู่ขวัญ พนมมือ "ศรี ๆ มื้อนี่เป็นมื้อสันต์วันดี"หมอสู่ขวัญกล่าวคำบายศรีสู่ขวัญ แขกเหรื่อเริ่มทยอยเข้ามาในงาน ผ่านไปสักพักพิธีการก็เสร็จสิ้น ต่อไปก็เป็นช่วงผูกแขน (ผูกข้อมือ โดยใช้สายสิญจ์ที่เตรียมไว้) พวกผู่เฒ่าผู้แก่ก็ทยอยเข้ามาผูกแขนให้ผู้กองหนุ่ม ท่านนายก อบต.ก็ยิ้มเบิกบานผู้คนเริ่มจะซาลงจากการมาผูกแขนให้ผู้กองขุนเขาแล้ว ก็ถึงคิวของลูกน้องของท่านนายก อบต. รวมถึงพวกจันทร์หอมด้วย "พี่จันทร์ ป้ะไปผูกแขนลูกท่าน กันเถอะ"วริษาเอ่ยชวน พลางมาลากเธอไปด้วย"พี่ว่าจะไม่ผูกล่ะ"จันทร์หอมปฎิเสธ "อื้อ ตามใจ งั้นหนูไปผูกละนะ"วริษาเดินเข้าไปผูกแขนให้ผู้กองขุนเขา เมื่อเสร็จแล้วเธอก็เดินออกมา แต่พอดีท่านนายก อบต. เรียกไว้"ไปเรียกหนูจันทร์มาให้ลุงหน่อย" ท่านบอกกับวริษาแต่คำนั้นทำให้คนบางคนหูผึ่งและเพิ่มความไม่พอใจในตัว จันทร์หอมมากขึ้น วริษาจึงเดินไปตามจันทร์หอมมา"พี่จันทร์ เจ้านายเรียก" จันทร์หอมจึงเดินตามวริษาเข้าไปตรงบริเวณที่ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ เธอคลานเข่าเข้ามา "ผูกแขนให้พี่เขาหน่อยสิหนูจันทร์"ท่านนายก อบต.บอกกับจันทร์หอม พลาง
เช้าวันนี้ เธอตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัว เพื่อไปช่วยงานที่บ้านของท่านนายก อบต. โดยเธอไปกับตุ๊ต๊ะ ส่วนเด็ก ๆ พวกนั้นนัดกันจะไปเจอที่บ้านงานเลย วันนี้จันทร์หอมใส่ผ้าถุง ที่ตัดสำเร็จสีเข้มใส่เสื้อลูกไม้สีขาว ดูเรียบร้อยแปลกตาไปอีกแบบ ส่วนตุ๊ต๊ะ ก็แต่งตัวเรียบร้อยแบบไปงานที่เป็นทางการทั่วไป แม่ของเธอก็ได้ฝากซองช่วยไปด้วยเพราะไม่สะดวกไปร่วมงาน ที่บ้านงาน พวกของจันทร์หอมมาถึงก็ช่วยกันเสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟข้าว เก็บถ้วยจานชาม บ้างหั่นผัก สับมะละกอ ล้างผัก ก็สนุกสนานไปอีกแบบ งานนี้มีคนมาช่วยงานเยอะ เป็นงานหา ไม่ได้ว่าจ้าง จันทร์หอมรู้สึกปลื้มใจมากที่ประเพณีของอีสานบ้านเฮายังเหนียวแน่นแบบนี้ พิธีบายศรีสู่ขวัญจะเริ่มในเวลาเก้าโมงเช้า หมอธรรมเป็นคุณตาอายุราว ๆ เจ็ดสิบ แต่ยังแข็งแรงดีมาก เธอเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้เพิ่งเจ็ดโมงครึ่ง เมื่อจัดเตรียมของในงานเสร็จแล้วเธอจึงไปนั่งพักในครัว กลุ่มเพื่อน ๆก็อยู่ที่นั่นนอกจากนี้ก็ยังมีพวกพี่ ๆ ที่ทำงานที่ศูนย์อบต.มาช่วยงานกันหลายคน จึงคุ้นเคยสนิทสนมกันเป็นอย่างดี"พี่จันทร์ มา ๆ มานั่งนี่"ต้อมเรียกเธอพลางรินเบียร์ใส่แก้ว แล้วก็ยกมาให้เธอ"แก้เมื่อย"เข
วันนี้จันทร์หอมกับพรรคพวกก็มาช่วยงานที่บ้านท่านนายก อบต.เหมือนเคย "ตกลงท่านจะสู่ขวัญใครวะ"แทนเอ่ยถาม "นั่นดิ้ แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงรู้แหละว่าท่านจะสู่ขวัญใคร"ต้อมเอ่ยขึ้นมาบ้าง "แต่วันนี้รู้สึกคึกคักเป็นพิเศษนะว่ามั้ย" วริษาพูดพลางบุ้ยปากไปทางกลุ่มชายหนุ่มสี่ห้าคนที่กำลังช่วยกันยกโต๊ะอยู่ตรงลานหน้าบ้าน "แต่ละคนน่าเก็บมาทำพ่อของลูก อิอิ " วริษาพูดตาเป็นประกาย ทุกคนจึงมองไปทางนั้นพลางหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน จันทร์หอมก็ได้แต่ส่ายหน้าให้กับความทะเล้นของเด็ก ๆพวกนั้น โดยหารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองมาอย่างไม่พอใจอย่างมากพลางพึมพำ"หน้าไม่อาย" แล้วเดินเข้าไปในบ้าน"จันทร์หอม เอ้ย " ป้านภาเรียกเธอ จันทร์หอมจึงวิ่งไปพลางขานรับ "ขา.. ป้าว่าไงคะ" "ช่วยไปหยิบผ้าปูโต๊ะหมู่บูชาในห้องเก็บของให้ป้าหน่อยจ้ะ ทางโน้น" ป้านภาชี้มือเข้าไปในตัวบ้าน เธอจึงเดินตามไปทางที่ป้านภาชี้ "เอาไงดีหว่า" จันทร์หอมเกาหัว เพราะมันมีสองห้องครั้นจะกลับไปถามป้านภาก็เกรงแกจะว่าใช้ไม่ดำไม่แดง เธอจึงเสี่ยงเปิดประตูที่ใกล้ตรงหน้าเธอที่สุด แอ๊ด .... เสียงเปิดประตูของจันทร์หอม ทำให้คนที่อยู่ในห้องนั้นลุกขึ้นจากเต







