LOGIN"กระผม ร้อยเอกขุนเขา อนันต์ชัย รายงานตัวครับท่าน"
ผู้กองขุนเขา ทำความเคารพผู้บังคับบัญชา "ยินดีต้อนรับ ผู้กอง เรายินดีมากเลยที่ได้ฝีมือระดับพระกาฬ อย่างคุณมาร่วมทีม ผู้ร้ายคงต้องคิดหนักหน่อยล่ะเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับคุณ" วันนี้ผู้กองขุนเขาได้เข้ามารายงานตัวที่หน่วยการได้กลับมาประจำการที่บ้านเกิดครานี้เรื่องงานเขาไม่ได้หนักใจแม้แต่น้อย ที่เขาหนักใจคือเรื่องพ่อของเขากับแม่จันทร์หอมมากกว่า อีกอย่างคือมันเหมือนมีอะไรบางอย่างในใจของเขา เกี่ยวกับแม่คนนั้น มันมีแต่จะคอยคิดถึงใบหน้าที่น้ำตาคลอของเธอ ในวันที่เขาไปส่งเธอในวันนั้นอยู่ร่ำไป เขาก็ได้แต่คิดปลอบใจตัวเองว่า เป็นเพราะเขาเกลียดเธอจึงทำให้เขามักจะนึกถึงเธออยู่บ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และเขาได้ตั้งปนิธานเอาไว้ว่า เรื่องพ่อของเขากับจันทร์หอมเขาจะขัดขวางให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ๆ ก็ตาม "พี่จันทร์เร็ว ๆ ขึ้นรถ" วริษาตะโกนพลางกวักมือเรียกเธอ จันทร์หอมจึงเร่งฝีเท้าเดินไปทางวริษาที่ยืนอยู่ข้างปิคอัพสี่ประตูสีดำ ยี่ห้อยอดนิยมคันหนึ่ง "น่ารักจังวันนี้" เธอทักวริษา วันนี้วริษาใส่เสื้อแขนตุ๊กตาสีชมพูเอาชายเสื้อทับในกางเกงยีนส์ขาดทรงเดพ ทำให้ดูเป็นสาวน้อยน่ารัก สดใสขึ้นมาทันที "พี่จันทร์ก็สวย" จันทร์หอมใส่เสื้อเชิ้ต คอจีนสีขาว ปิดกระดุมคอถึงเม็ดสุดท้าย สวมยีนส์ทรงบอยขาดเข่ายัดชายเสื้อเข้าในกางเกง ดูทะมัดทะแมง เหมาะกับงานที่ต้องไปเผชิญวันนี้ "ปากหวาน แล้ว ต้อมกับแทนล่ะ " "อยู่บนรถแล้วค่ะพี่" วริษาตอบ เธอจึงก้าวขึ้นรถไป ในรถมีน้าชาติคนขับ แทน ต้อม วริษา รวมเธอด้วยก็ห้าคน วันนี้พวกเธอจะไปปลูกป่า ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริ โดยการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และกองทัพ ทุกคนที่ศูนย์จึงไปปลูกป่าบนภูเขาร่วมกับ คณะครู นักเรียน ชาวบ้าน มีท่านนายอำเภอมาให้เกียรติเป็นประธาน งานนี้น่าสนุก เธอจำได้ว่าตอนที่เธออยู่ชั้นประถม เธอก็เคยไปปลูกป่าแบบนี้แหละ ป่านนี้ต้นไม้ที่เธอปลูกมันจะยังมีชีวิตรอดไหมหนอ ถ้ามันยังเหลือรอดป่านนี้คงโตน่าดู เธอคิดถึงอดีตในวัยเด็ก "น้าชาติ คะ แล้วท่านนายก อบต. ล่ะคะ" เธอเอ่ยปากถามคนขับรถ เพราะรถคันนี้เป็นรถประจำศูนย์ อบต. "ท่านขับรถไปเอง" น้าชาติตอบเธอแล้วก็ตั้งใจขับรถต่อเพราะทางที่ต้องไปค่อนข้างชัน ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาก็ถึงสถานที่ที่จะทำการปลูกป่ากัน จันทร์หอมกับพรรคพวกจึงเดินไปที่เต๊นท์ที่เขาเตรียมไว้ ในนั้นมีเก้าอี้พลาสติกวางเรียงเป็นแถวไว้สำหรับนั่ง จันทร์หอมกับเพื่อน จึงเลือกนั่งแถวหลังสุด สโลแกนที่ว่า มาก่อนนั่งหลัง มาทีหลังนั่งหน้ายังใช้ได้ผลอยู่ วริษาควักโทรศัพท์ออกมาแล้วก็ทำการเซลฟี่ พร้อมกับชวนจันทร์หอมมาถ่ายรูป ส่วนแทนกับต้อม ก็มองหนุ่ม ๆ แล้วก็ส่งตาหวานไปให้เด็กนักเรียนม.ปลายกลุ่มหนึ่ง แปดโมงเช้า ทุกคนร่วมร้องเพลงชาติ ท่านนายอำเภอกล่าวเปิดงานโดยมีใจความว่า "กราบสวัสดีทุกท่าน ขณะนี้ป่าไม้ในประเทศของเรากำลังถูกทำลาย ในหลวงของเราทรงเล็งเห็นความสำคัญของต้นไม้ พระองค์ท่านจึงมีโครงการปลูกป่า เพื่อทดแทน ต้นไม้ที่ถูกทำลายไป กระผม จึงอยากขอความร่วมมือพวกเราทุกคนให้ช่วยกัน เป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแลอย่าให้ใครมาทำลายป่าไม้ของเรา ขอให้ช่วยกันอนุรักษ์ไว้เพื่อลูกหลานของเราสืบไป ขอบคุณครับ" หลังท่านนายอำเภอกล่าวจบ ทหารหลายนายก็นำพันธ์ุไม้มาแจกจ่าย พร้อมอุปกรณ์ในการปลูก เช่น จอบ เสียม และบัวรดน้ำ หนึ่งในนายทหารเหล่านั้นก็มีคนที่จันทร์หอมไม่อยากเจอที่สุดรวมอยู่ด้วย ร่างสูงใหญ่นั้นยืนอยู่ท่ามกลางลูกน้อง เขาสั่งการอะไรบางอย่างเสร็จแล้วจึงเดินตรงมาทางท่านนายก อบต.จังหวะเดียวกับที่ท่านนายก อบต.ก็กวักมือเรียกจันทร์หอม เธอจึงเดินไปถึงตัวท่าน นายก อบต.พร้อมกับเขาพอดี "จันทร์หอมมาเอาต้นไม้นี่ไปปลูกไป" ท่านบอกจันทร์หอม พร้อมยื่นต้นไม้มาให้เธอ สามต้น เธอรับมาถือไว้ แล้วท่านก็เดินมาลูบหัวเธอ พลางหันไปทำหน้ายิ้ม ๆใส่ลูกชาย ส่งผลให้ผู้กองขี้เก๊ก หน้าดูเข้มขึ้นไปอีกหลายส่วน "ไอ้เสือ ไปช่วยหนูจันทร์ปลูกต้นไม้ด้วยนะ เดี๋ยวพ่อจะไปคุยกับท่านนายอำเภอสักหน่อย" ท่านพูดแล้วก็เดินจากไปทิ้งให้เธอกับเขาอยู่กันตามลำพัง โดยที่ท่านคงไม่รู้ว่ากำลังจะมีสงครามการปะทะคารมกันเกิดขึ้น "ระริกระรี้เชียวนะ แสดงว่าเธอยังไม่เข็ด" เขาเค้นเสียงถามเธอ "ตรงใหนที่บ่งบอกว่าฉันริกรี้" ไม่รอฟังคำตอบ เธอเดินเลี่ยงเข้าไปในบริเวณที่จะทำการปลูกต้นไม้ จันทร์หอมวางต้นไม้ลงในหลุมที่มีคนขุดไว้ แล้วก็ใช้มือโกยดินกลบโคนต้นไม้ ขุนเขาเดินตามเธอมา สองคนจึงช่วยกันปลูกต้นที่เหลือ หยุดการปะทะคารม กันชั่วคราว ขุนเขาจ้องมองเธออย่างพิจารณา เขาก็พบว่าความจริงแล้วผู้หญิงตรงหน้าเขาที่กำลังขะมักเขม้นกับการปลูกต้นไม้คนนี้ ก็แลดูน่ารัก และไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรเลย ในทางตรงข้าม เธอกลับดูสดใส ดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงมาก ทั้ง ๆที่เธอก็อายุ ยี่สิบแปดปีแล้ว แต่ก็อย่างว่าแหละ มารยาผู้หญิง เห็นนิ่ง ๆอย่างนี้อาจจะร้ายกว่าที่เขาคิดก็ได้ไม่งั้นพ่อเขาจะหลงเธอหัวปักหัวปำจนคิดจะแต่งงานใหม่หรอกหรือ "ผู้กองครับ" พลฯ ทหารรายหนึ่งเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับยื่นกล้าไม้มาให้เขาอีกสามต้น "ท่านนายก อบต. ฝากมาให้ผู้กองครับ " เขาจึงยื่นมือไปรับกล้าไม้มาถือไว้ พลฯ ทหารนายนั้นจึงเดินออกไป "คุณ ยังไม่หมดเหรอ " จันทร์หอมตะโกนถามเขา เพราะเห็นต้นไม้ที่เขาถืออยู่ "มีคนเอามาให้เพิ่ม" เขาตอบเธอ เธอจึงเดินเข้ามาหาเขา "รีบเอาไปปลูกสิคุณ มาฉันช่วย" เธอพูดพร้อมกับยื่นมือไปดึงกล้าไม้จากมือเขามาถือไว้ และออกเดินนำหน้าเขาไปยังบริเวณที่จะปลูกต้นไม้ พอไปถึงหลุมที่มีคนขุดเตรียมไว้เธอก็คุกเข่าลง นำต้นไม้วางลงก้นหลุมและใช้มือโกยดินเพื่อกลบโคนต้นไม้ ..ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่ามีตัวอะไรบางอย่างใต่ที่มือเธอ เท่านั้นแหละ "กกกรี๊ดดด!!" จันทร์หอมกรี๊ดออกมาเสียงดังพร้อมกับหลับหูหลับตาวิ่งเข้าไปกระโดดกอดคนตัวใหญ่ไว้ทันที "จันทร์หอม เธอเป็นอะไร" ขุนเขาเอ่ยปากถามเธอ "กะ กะกิ้งกือ " เธอยังไม่ยอมลืมตาพลางชี้มือไปทางหลุมต้นไม้ต้นนั้น ขุนเขาเขย่าตัวเธอเบา ๆ พร้อมกับกระซิบบอกเธอว่า "มันไปแล้ว" จันทร์หอมถึงได้ยอมลืมตาขึ้น แต่ยังไม่ยอมปล่อยจากการเกาะกุมเขา หน้าเธอยังซุกอยู่ที่อกแกร่งของเขาอยู่ "นี่แม่ คู๊ณ..กะอิแค่กิ้งกือตัวเล็ก ๆก็กลัว นี่คงจะเป็นหนึ่งในมารยาของเธอล่ะสิ" ได้ผลจันทร์หอมผละจากอ้อมอกเขาทันทีพลางมองเขาด้วยตาเขียวปั้ด และก็เดินหนีไปทันที "ไม่ป่งไม่ปลูกมันแล้วต้นไม้ คุณปลูกเองเถอะ" จันทร์หอมบอกเขาและเธอก็เดินตรงไปทางเต๊นท์ และก็นั่งอยู่ในนั้นจนกระทั่งการปลูกต้นไม้เสร็จสิ้น "มีใครเห็นบ้างรึเปล่านะ เดี๋ยวคนอื่นก็รู้กันหมดว่าเรากลัวกิ้งกือ เดี๋ยวได้โดนแกล้งกันพอดี" จันทร์หอมมีประสบการณ์เคยโดนแกล้งตอนมัธยมต้น พอเพื่อน ๆในห้องรู้ว่าเธอกลัวกิ้งกือพวกผู้ชายที่แก่น ๆมักจะจับมาใส่เธอบ่อย ๆ ทำให้เธอหลอนมากมาจนทุกวันนี้วริษาขี่มอร์'ไซค์กลับจากตลาด แต่น้ำมันรถหมด จึงเข็นรถไปตามข้างทางเอี๊ยดดด.. เสียงล้อรถบดพื้นถนนที่เกิดจากการเบรกกะทันหัน"รถเป็นอะไรครับคนสวย"ผู้กองแทนไทลดกระจกลง พลางชะโงกหน้าออกมามอง เขาจำได้ว่าเป็นวริษา สาวน้อยหน้าสวยที่เขาเจอในวันงานสู่ขวัญเพื่อนรักเขานั่นเอง"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ น่าจะน้ำมันหมด"วริษาตอบเขาไปพลางทำหน้าเซ็ง ๆ เธอก้ม ๆ เงย ๆ ก่อนจะเข็นรถไปช้า ๆ"นี่คุณ หยุดก่อน เดี๋ยวผมช่วยดู"วริษาจึงหยุด ผู้กองแทนไท เปิดประตูรถลงมาและเข้าไปดูรถให้เธอ"น้ำมันหมดจริง ๆ ด้วยเกลี้ยงถังเลย"เขาพูดพลางปิดเบาะรถ มอร์'ไซค์ลง"ขี่เป็นอย่างเดียวจริง ๆ"เขาพึมพำเบา ๆ ส่งผลให้วริษาหน้าบึ้ง"เรื่องของหนู ลุงไม่กี่ยว"วริษาตอบไปอย่างไม่พอใจ"นี่ลุง ลุงเป็นทหาร น่าจะให้ความช่วยเหลือประชาชนนะ ไม่ใช่มาว่ากันแบบนี้"เธอว่าเขาบ้าง"ก็กำลังจะช่วยอยู่นี่ไงล่ะ มีปั๊มอยู่แถวนี้ไหม""มีค่ะ ทางเข้าหมู่บ้าน น่าจะอีกสัก สามกิโลได้"เธอตอบเขา ผู้กองแทนไทจึงหันไปบอกกับพล ฯทหารที่นั่งรถมากับเขา ให้มาขี่ 'มอร์ ไซค์ของวริษา และจับท้ายรถของเขาลากไปให้ถึงปั๊ม และก็ผายมือเชิญวริษาขึ้นรถเขา"เชิญครับ "วริษาจึงก้า
"กระผม ร้อยเอกขุนเขา อนันต์ชัย รายงานตัวครับท่าน"ผู้กองขุนเขา ทำความเคารพผู้บังคับบัญชา"ยินดีต้อนรับ ผู้กอง เรายินดีมากเลยที่ได้ฝีมือระดับพระกาฬ อย่างคุณมาร่วมทีม ผู้ร้ายคงต้องคิดหนักหน่อยล่ะเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับคุณ"วันนี้ผู้กองขุนเขาได้เข้ามารายงานตัวที่หน่วยการได้กลับมาประจำการที่บ้านเกิดครานี้เรื่องงานเขาไม่ได้หนักใจแม้แต่น้อย ที่เขาหนักใจคือเรื่องพ่อของเขากับแม่จันทร์หอมมากกว่า อีกอย่างคือมันเหมือนมีอะไรบางอย่างในใจของเขา เกี่ยวกับแม่คนนั้น มันมีแต่จะคอยคิดถึงใบหน้าที่น้ำตาคลอของเธอ ในวันที่เขาไปส่งเธอในวันนั้นอยู่ร่ำไป เขาก็ได้แต่คิดปลอบใจตัวเองว่า เป็นเพราะเขาเกลียดเธอจึงทำให้เขามักจะนึกถึงเธออยู่บ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และเขาได้ตั้งปนิธานเอาไว้ว่า เรื่องพ่อของเขากับจันทร์หอมเขาจะขัดขวางให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ๆ ก็ตาม"พี่จันทร์เร็ว ๆ ขึ้นรถ"วริษาตะโกนพลางกวักมือเรียกเธอ จันทร์หอมจึงเร่งฝีเท้าเดินไปทางวริษาที่ยืนอยู่ข้างปิคอัพสี่ประตูสีดำ ยี่ห้อยอดนิยมคันหนึ่ง"น่ารักจังวันนี้" เธอทักวริษา วันนี้วริษาใส่เสื้อแขนตุ๊กตาสีชมพูเอาชายเสื้อทับในกางเกงยีนส์ขาดทรงเดพ ท
"กลับมาแล้วบ่ อิหล่า"แม่ของเธอถามหลังจากที่เธอเดินเข้ามาในบ้าน "ไผมาส่งล่ะหล่า""คนที่ศูนย์ อบต. จ้ะแม่ " เธอบอกแม่ของเธออกไป แต่ไม่บอกความจริงว่าใครมาส่งเธอ"ตุ๊ต๊ะ กลับก่อนทำไมไม่บอกพี่"เธอหันไปถามน้องชาย "ก็บอกยัยษาไว้แล้ว มันไม่ได้บอกพี่เหรอ""บอกตอนจะกลับแล้ว""ก็หลวงตาน่ะสิพี่จันทร์ จะพิมพ์ซองผ้าป่า ท่านเลยให้เด็กโทรตามผม เอาไปพิมพ์ให้" ตุ๊ต๊ะบอกเหตุผลกับพี่สาว จากนั้นก็หันไปดูทีวีต่อ"อื้อ ถ้างั้นหนูอาบน้ำนอนก่อนนะแม่ ราตรีสวัสดิ์จ้ะแม่"จันทร์หอมบอกแม่กับน้องแล้วก็ขึ้นไปนอนหลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว จันทร์หอมก็มานอนกระสับกระส่ายบนเตียง เรื่องข่าวลือระหว่างเธอ กับท่านนายก อบต. มีหรือเธอจะไม่รู้ เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น แต่เธอคิดว่า ไม่จำเป็นต้องไปอธิบาย หรือแก้ข่าว เพราะมันไม่ใช่ความจริง เธอคิดว่าสักวันความจริงมันจะปรากฏออกมาเอง แต่คราวนี้เห็นทีว่าเธอคงคิดผิดเรื่องระหว่างเธอกับท่าน นายก อบต.มันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด ท่านก็แค่เอ็นดูเธอในฐานะลูกน้อง และอีกอย่างจันทร์หอมก็ทำงานไม่เคยให้ท่านต้องกังวลใจ ท่านไม่เคยแสดงท่าทีในเชิงชู้สาวกับเธอเลย จันทร์หอมก็ระวังในเรื
เก้าโมงเช้าได้ฤกษ์สู่ขวัญแล้ว ขุนเขาเข้าไปนั่งต่อหน้าหมอสู่ขวัญ พนมมือ "ศรี ๆ มื้อนี่เป็นมื้อสันต์วันดี"หมอสู่ขวัญกล่าวคำบายศรีสู่ขวัญ แขกเหรื่อเริ่มทยอยเข้ามาในงาน ผ่านไปสักพักพิธีการก็เสร็จสิ้น ต่อไปก็เป็นช่วงผูกแขน (ผูกข้อมือ โดยใช้สายสิญจ์ที่เตรียมไว้) พวกผู่เฒ่าผู้แก่ก็ทยอยเข้ามาผูกแขนให้ผู้กองหนุ่ม ท่านนายก อบต.ก็ยิ้มเบิกบานผู้คนเริ่มจะซาลงจากการมาผูกแขนให้ผู้กองขุนเขาแล้ว ก็ถึงคิวของลูกน้องของท่านนายก อบต. รวมถึงพวกจันทร์หอมด้วย "พี่จันทร์ ป้ะไปผูกแขนลูกท่าน กันเถอะ"วริษาเอ่ยชวน พลางมาลากเธอไปด้วย"พี่ว่าจะไม่ผูกล่ะ"จันทร์หอมปฎิเสธ "อื้อ ตามใจ งั้นหนูไปผูกละนะ"วริษาเดินเข้าไปผูกแขนให้ผู้กองขุนเขา เมื่อเสร็จแล้วเธอก็เดินออกมา แต่พอดีท่านนายก อบต. เรียกไว้"ไปเรียกหนูจันทร์มาให้ลุงหน่อย" ท่านบอกกับวริษาแต่คำนั้นทำให้คนบางคนหูผึ่งและเพิ่มความไม่พอใจในตัว จันทร์หอมมากขึ้น วริษาจึงเดินไปตามจันทร์หอมมา"พี่จันทร์ เจ้านายเรียก" จันทร์หอมจึงเดินตามวริษาเข้าไปตรงบริเวณที่ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ เธอคลานเข่าเข้ามา "ผูกแขนให้พี่เขาหน่อยสิหนูจันทร์"ท่านนายก อบต.บอกกับจันทร์หอม พลาง
เช้าวันนี้ เธอตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัว เพื่อไปช่วยงานที่บ้านของท่านนายก อบต. โดยเธอไปกับตุ๊ต๊ะ ส่วนเด็ก ๆ พวกนั้นนัดกันจะไปเจอที่บ้านงานเลย วันนี้จันทร์หอมใส่ผ้าถุง ที่ตัดสำเร็จสีเข้มใส่เสื้อลูกไม้สีขาว ดูเรียบร้อยแปลกตาไปอีกแบบ ส่วนตุ๊ต๊ะ ก็แต่งตัวเรียบร้อยแบบไปงานที่เป็นทางการทั่วไป แม่ของเธอก็ได้ฝากซองช่วยไปด้วยเพราะไม่สะดวกไปร่วมงาน ที่บ้านงาน พวกของจันทร์หอมมาถึงก็ช่วยกันเสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟข้าว เก็บถ้วยจานชาม บ้างหั่นผัก สับมะละกอ ล้างผัก ก็สนุกสนานไปอีกแบบ งานนี้มีคนมาช่วยงานเยอะ เป็นงานหา ไม่ได้ว่าจ้าง จันทร์หอมรู้สึกปลื้มใจมากที่ประเพณีของอีสานบ้านเฮายังเหนียวแน่นแบบนี้ พิธีบายศรีสู่ขวัญจะเริ่มในเวลาเก้าโมงเช้า หมอธรรมเป็นคุณตาอายุราว ๆ เจ็ดสิบ แต่ยังแข็งแรงดีมาก เธอเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้เพิ่งเจ็ดโมงครึ่ง เมื่อจัดเตรียมของในงานเสร็จแล้วเธอจึงไปนั่งพักในครัว กลุ่มเพื่อน ๆก็อยู่ที่นั่นนอกจากนี้ก็ยังมีพวกพี่ ๆ ที่ทำงานที่ศูนย์อบต.มาช่วยงานกันหลายคน จึงคุ้นเคยสนิทสนมกันเป็นอย่างดี"พี่จันทร์ มา ๆ มานั่งนี่"ต้อมเรียกเธอพลางรินเบียร์ใส่แก้ว แล้วก็ยกมาให้เธอ"แก้เมื่อย"เข
วันนี้จันทร์หอมกับพรรคพวกก็มาช่วยงานที่บ้านท่านนายก อบต.เหมือนเคย "ตกลงท่านจะสู่ขวัญใครวะ"แทนเอ่ยถาม "นั่นดิ้ แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงรู้แหละว่าท่านจะสู่ขวัญใคร"ต้อมเอ่ยขึ้นมาบ้าง "แต่วันนี้รู้สึกคึกคักเป็นพิเศษนะว่ามั้ย" วริษาพูดพลางบุ้ยปากไปทางกลุ่มชายหนุ่มสี่ห้าคนที่กำลังช่วยกันยกโต๊ะอยู่ตรงลานหน้าบ้าน "แต่ละคนน่าเก็บมาทำพ่อของลูก อิอิ " วริษาพูดตาเป็นประกาย ทุกคนจึงมองไปทางนั้นพลางหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน จันทร์หอมก็ได้แต่ส่ายหน้าให้กับความทะเล้นของเด็ก ๆพวกนั้น โดยหารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองมาอย่างไม่พอใจอย่างมากพลางพึมพำ"หน้าไม่อาย" แล้วเดินเข้าไปในบ้าน"จันทร์หอม เอ้ย " ป้านภาเรียกเธอ จันทร์หอมจึงวิ่งไปพลางขานรับ "ขา.. ป้าว่าไงคะ" "ช่วยไปหยิบผ้าปูโต๊ะหมู่บูชาในห้องเก็บของให้ป้าหน่อยจ้ะ ทางโน้น" ป้านภาชี้มือเข้าไปในตัวบ้าน เธอจึงเดินตามไปทางที่ป้านภาชี้ "เอาไงดีหว่า" จันทร์หอมเกาหัว เพราะมันมีสองห้องครั้นจะกลับไปถามป้านภาก็เกรงแกจะว่าใช้ไม่ดำไม่แดง เธอจึงเสี่ยงเปิดประตูที่ใกล้ตรงหน้าเธอที่สุด แอ๊ด .... เสียงเปิดประตูของจันทร์หอม ทำให้คนที่อยู่ในห้องนั้นลุกขึ้นจากเต







