เสียงโทรศัพท์นางกรกนกดังขึ้น โทรมาเวลามืดค่ำแบบนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากลูกสาวคนโตของนาง"สวัสดีค่ะแม่ ปราณลดา หรือปราณ วีดีโอคอลมาหาแม่ พ่อไม่อยู่เหรอคะแม่""อยู่จ๊ะลูก พวกเรากำลังกินข้าวเย็น วันนี้มีป้าดุจเดือนลูกชาย และลูกสาว มาเยี่ยมเราที่บ้านจ๊ะ มาพร้อมน้องปรายเมื่อบ่ายนี้เอง สวัสดีป้าดุจเดือนหน่อยนะ" นางหันกล้องโทรศัพท์ไปทางนายอลงกต และนางดุจเดือน ไล่ไปจนถึงปรายลดา"สวัสดีค่ะพ่อ คุณป้าดุจเดือน พี่ตะวัน น้องกาน สวัสดีทุกคนนะคะ" ปราณลดายกมือไหว้ทุกคน"มีอะไรหรือเปล่าลูก วันนี้โทรมาแต่วันเลยปกติจะค่ำกว่านี้ ข่าวดีไหม" นางกรกนกพูดยิ้มๆ"ค่ะแม่ เดือนหน้าหน้าพี่ธานินทร์ได้วันลาหลายวัน ตรงกับโรงเรียนปราณปิดเทอมพอดี เราคุยกันว่าจะขึ้นไปหาพ่อกับแม่ที่บ้านค่ะ พี่ธานินทร์ อยากได้ฤกษ์แต่งแล้วค่ะแม่" เสียงลูกสาวนางบอกมาอย่างมีความสุข ซึ่งทุกๆ คนได้ยินกันหมด"ไชโย.....พี่ปราณจะได้แต่งงานแล้ว พ่อขา แม่ขา ปรายจะได้อุ้มหลานแล้วใช่ไหมคะ" ปรายลดายกมือปิดปากตัวเอง เมื่อรู้สึกตัวว่า เสียงดังเกินไป เธอลืมไปว่ามีแขก "เอ่อ...ปรายขอโทษค่ะ" หญิงสาวยกมือไหว้ ก่อนที่จะหันไปหากานดารา แล้วยิ้มให้ กระซิบเบาๆ ว
ชายหนุ่มขยับตัว เขานอนอยู่บนเตียงใหญ่ มือก็ควานหาหมอนข้างประจำตัว เขารู้สึกว่าไม่ได้นอนที่บ้านนี่นา เขาอยู่ที่ไร วงษ์นราตะวันหลับสนิทมาก เมื่อคืนเขาจำได้ว่าไม่ได้เปิดแอร์ เพราะก่อนนอนหลังอาบน้ำเสร็จแล้ว เห็นว่าอากาศเย็นมาก น่าจะ 18 องศาได้ เขาดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือ เผลอหลับจนเช้าเลย ปกติตะวันไม่ชอบนอนห่มผ้า แต่เมื่อคืนเผลอตัวห่มผ้าตอนไหน ผ้าห่มผืนหนาหอมนุ่มผืนใหญ่ คลุมอยู่บนร่างของเขา ตะวันหลับสนิท เขาไม่เคยหลับสบาย และผ่อนคลายแบบนี้มานานมากชายหนุ่มลุกขึ้นเมื่อรู้สึกว่าลมเย็นพัดเข้ามาทางหน้าต่าง สรุปว่าเขาไม่ได้ปิดหน้าต่างสักบาน ดีที่มีมุ้งลวด คิดว่าแม่กับน้องของคงหลับสบายเหมือนกัน เสียงนกร้องดังมาจากต้นประดู่ต้นใหญ่ ที่ขึ้นอยู่ข้างๆ บ้าน เขาลุกขึ้นมายืนมองออกไปนอกหน้าต่าง ตั้งใจจะนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นตรงนี้เกือบหกโมงเช้าแล้ว ปกติอยู่บ้านเขานอนเกือบตีหนึ่งบ้าง ตีสองบ้าง ตื่นก็ราวๆ เก้าโมเช้า ถ้าเขาได้นอนติดต่อกันแบบนี้หลายๆ วันอาการที่นอนไม่ค่อยหลับน่าจะดีขึ้นแน่ๆ ชายหนุ่มคิดแบบนั้นสายตาเขาเหลือบไปเห็นใครบางคน ท่าทางทะมัดทะแมง เดินเข็นรถมอเตอร์ไซค์ อยู่ที่ถนนข้างบ้าน ตะวันรีบหยิบกล้
เกรียงไกร เดินหน้าเครียดออกมาจากห้องประชุม เขาไม่เข้าใจหัวหน้าเขาเลย ทำไมต้องให้พาพวกเด็กฝึกงานที่เป็นผู้หญิงไปฝึกลาดตระเวนด้วย หัวหน้าเขาไม่รู้รึไงว่าเด็กพวกนี้ร้าย และเป็นภาระมาก แล้วทำไมเขาจะต้องมารับผิดชอบงานพวกนี้ เขาอยากย้ายไปทำอย่างอื่นบ้าง ให้ไปประจำที่ไหนก็ได้ เขาเบื่อหน้าที่นีี้แล้ว ไม่อยากทำ ครั้งนี้มีเด็กผู้หญิงมาหลายคนด้วย ดูแลยากจะตาย ที่สำคัญเข้าป่านานๆ แบบนี้ เขาห่วงกัญญา ยิ่งช่วงนี้ทะเลาะกันบ่อย ๆ เขาไม่ไว้ใจเธอเลย"เป็นไงครับคุณพี่เลี้ยง หน้างอออกมาเลย เดินทางวันไหนเพื่อน ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า ไม่ใช่ว่าพวกเราจะไปกันแค่นี้ อาจารย์พ่อเอย อาจารย์แม่เอย มาเต็ม ไม่เหงาหรอก ไหนจะพวกเด็กๆ อีก หรือมีอะไรหนักใจมากกว่าการรับมือกับพวกเด็กๆ" ครรชิตเข้ามาเกาะบ่าเพื่อนสนิท"เออ...ใช่ กูห่วงกัญญา ช่วงนี้ยิ่งมีปัญหาบ่อยๆ กูไม่สบายใจเลย" เกรียงไกรบอกความในใจกับเพื่อนสนิท"เฮ้ย...มึงก็อย่าคิดมาก คงไม่มีอะไรหรอก ครรชิต" ตบบ่าเพื่อนรักเกรียงไกรกับครรชิด เป็นเพื่อนกันมานานสมัยประถม ตัวติดกัน เรียนก็เรียนด้วยกัน โชคดีอีกได้มาทำงานที่เดียวกัน เขามีหน้าที่ดูแลน้องนักศึกษาฝึกงาน และน้องใหม่
"สวัสดีครับ....กิ่งกาล มีธุระด่วนไหม พอดีผมมาต่างจังหวัดครับ ถ้าด่วนก็ฝากเรื่องไว้ที่เลขาผมได้เลยนะครับ อีกหลายวันกว่าผมจะกลับกรุงเทพฯ ผมพาครอบครัวมาพักผ่อน""แหม.....ตะวันคะ ไม่มีเรื่องงานกิ่งโทรหาคุณไม่ได้เหรอคะ เราไม่ได้เจอกันนานแล้ว ตะวันเมื่อไหร่ คุณจะมีเวลาให้กิ่งสักทีคะ นี่ไปพักผ่อนต่างจังหวัดก็ไม่ชวนกิ่งเลย ไปพักผ่อนที่ไหนคะ กิ่งตามไปได้นะคะ จะได้เจอคุณแม่และน้องสาวคุณด้วย""คุณสบายดีไหมครับ อยู่ที่ไหน วันนี้ไม่ได้ทำงานเหรอ อ้อ...วันนี้วันหยุดนี่นา ไปเที่ยวไหนครับ""วันนี้กิ่งอยู่บ้านค่ะตะวัน วันหยุด ถึงได้โทรหาคุณไงคะ กิ่งอยากเจอคุณ คิดถึงนะคะ""ผมยังไม่สะดวกครับกิ่ง ไว้ให้ผมกลับจากต่างจังหวัดก่อนนะครับ เราค่อยเจอกัน""แล้วเมื่อไหร่ล่ะคะตะวัน นับวันๆ คุณยิ่งห่างกิ่งออกไปทุกที เราก็อายุมากขึ้นทุกวันแล้วนะคะ อะไรๆ ก็คาราคาซัง ไม่ชัดเจนเลย แต่ขอให้คุณรู้ไว้นะคะ ว่ากิ่งรักคุณเสมอค่ะ งั้นแค่นี้นะคะตะวัน กิ่งจะออกไปสระผมค่ะ"กิ่งกาล สาระสิทธิ์ เป็นลูกสาวคนเดียวของเศรษฐี เมืองชล บ้านพ่อเธอทำกิจการโรงแรม และอีกหลายอย่าง ส่วนกิ่งกาล ทำงานบริษัทซึ่งเป็นของพ่อเธอ ที่มีสาขาอยู่ที่กรุงเทพ
"กาน พรุ่งนี้ปรายพาไปเที่ยวเขาใหญ่ อย่าลืมขอคุณป้ากับคุณพี่ของเธอไว้นะ"ปรายลดาบอกเพื่อนระหว่างที่หัดขับรถอยู่ในไร่ วันนี้เธอให้กานดาราขับรถหกล้อเกียร์ธรรมดา เธออยากให้เพื่อนขับเกียร์แบบนี้เป็น เวลาจะไปขับเกียร์ออโต้มันจะง่ายมากๆ กานดาราเรียนรู้ได้เร็ว หัดขับไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถขับได้ เหมือนตอนที่เธอหัดขับ พ่อของเธอหัดให้ภายในไร่ ใช้เวลาสามชั่วโมงก็ขับได้ พ่อเธอให้ขับขึ้นถนนใหญ่เลย ตอนนั้นจำได้ว่าตื่นเต้นมากๆ"จริงเหรอปราย ไปๆ เดี๋ยวกินข้าวเที่ยงฉันจะลองขออนุญาติแม่กับพี่ตะวันนะ ""หวังว่าเธอจะได้รับข่าวดีนะกาน ฉันอยากพาไปอากาศกำลังดี หรือเราจะไปกางเต้นท์กันดีกาน อุปกรณ์ก็พร้อมทุกอย่าง ถ้าได้ไปเราเตรียมอาหารไปทำกินกันดีกว่านะ พูดแล้วฉันก็ตื่นเต้น เธอว่าพี่ชายเธอจะให้ไปไหม ปรายลดาถามย้ำ""กานไม่รู้แต่ว่าตั้งแต่มาที่บ้านปราย พี่ตะวันเปลี่ยนไปเยอะมากนะ ตามใจ ใจดี กานชอบแบบนี้ ไม่อยากให้พี่ตะวันดุ อยากให้หน้ายิ้มบ้าง กานรู้ว่าพี่ตะวันเครียดหลายอย่าง แต่พอมาที่นี่ผ่อนคลายไปเยอะมาก ไปกันเถอะปราย ฉันว่าฉันขับคล่องแล้ว ตื่นเต้นมากเลยตอนนี้ นี่ฉันจะได้ไปเที่ยวมรดกโลกแล้วเหรอเนี้ย ดีใจจังเลยปร
หลังจากที่กินข้าวเช้ากันแล้ว หนึ่งหนุ่ม สองสาวก็เตรียมตัวขึ้นเขาใหญ่ทันที เพราะกานดาราตื่นเต้นมาก ๆ เร่งให้ทั้งพี่ชายและปรายลดา พาขึ้นไปเร็ว ๆ"เดินทางปลอดภัยกันนะลูก เที่ยวให้สนุก ถึงแล้วก็โทรหาแม่ด้วยนะ""ได้ครับแม่เดี๋ยวถึงแล้วผมโทรหานะครับ ไปนะครับคุณน้า ตะวันยกมือไหว้ทั้งสามคน""สวัสดีค่ะคุณป้า ปรายจะเที่ยวเผื่อนะค"ะ"กานไปก่อนนะคะ แม่ คุณน้าทั้งสอง ตอนนี้ยังตื่นเต้นไม่หายเลยค่ะ""เดินทางกันปลอดภัยนะลูก ไปกันได้แล้ว" นายอลงกตบอกกับทั้งสามคน"เดี๋ยวปรายขับเองนะคะ ขากลับพี่ตะวันค่อยขับค่ะ"พูดจบก็ปีนขึ้นรถ ชายหนุ่มขึ้นไปนั่งข้างหน้าคู่คนขับ ทำให้กานดาราต้องปีนขึ้นไปนั่งข้างหลัง"ปรายจะขับอย่างระมัดระวัง ทางบางช่วงคดเคี้ยว เดี๋ยวคนนั่งหลังจะเมารถเอา เปิดกระจกดีกว่านะคะ ลมเย็นมากๆ หวังว่าเราจะไม่เจอช้างกันกลางทาง แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ถ้าเจอก็จะมีเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยตลอดเวลา ถ้าเราไม่ทำอะไรเขา เขาก็ไม่ทำอะไรเราหรอกค่ะ"ทางคดเคี้ยวอย่างที่หญิงสาวบอกจริงๆ เขารู้เลยว่าปรายลดาขับรถเก่งมาก ถ้าให้เขาขับก็คงต้องค่อยๆ ไป เพราะไม่ชินทาง ปล่อยให้หญิงสาวขับไปดีกว่า น่าจะปลอดภัยกว่าเขาขับระยะทางไม่
เกือบห้าทุ่มแล้ว ด้วยว่านักท่องเที่ยวน้อย ทำให้บรรยากาศกลางคืนเงียบสนิท หลังจากที่เก็บอุปกรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว สองสาวเข้านอนคุยกันต่อในเต้นท์"ปรายมาเที่ยวบนนี้บ่อยไหม ต้องบ่อยมากเลยใช่ไหม" กานดาราถามเพื่อนสาว"บ่อยมาก ว่างเมื่อไหร่ปรายก็ขึ้นมา บางทีก็ใช้มอเตอร์ไซค์ บางทีก็รถกระบะ""อยากได้เที่ยวเหมือนปรายจังเลย กานไม่ค่อยมีโอกาสไป ส่วนมากก็ไปกับแม่ พี่ตะวัน ช่วงมัธยมยิ่งไม่มีโอกาสไปไหนเลย เรียน กลับบ้าน กินข้าวกับแม่สองคน เพราะพี่ตะวันไม่ค่อยว่าง ก็อย่างที่ปรายเห็นพี่ตะวันเครียดตลอด งานเยอะ สมัยพ่อเสียใหม่ๆ บ้านเราไม่ได้สบายเหมือนตอนนี้ กานอิจฉาปรายจัง""ไม่เห็นเป็นไรเลย เธอก็เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ที่ผ่านมาอย่าไปคิดมากนะ ปรายเข้าใจ แต่ต่อจากนี้ไป ถ้าปรายว่าง จะต้องมีกานได้ด้วยตลอด ปรายสัญญา นี่ถ้ากานเรียนที่เดียวกับปราย เราคงได้ไปฝึกงานด้วยกันเนาะ กานรู้ไหมว่า เป็นความไฝ่ฝันของปรายเลย มาเที่ยวที่นี่ตั้งแต่เด็กๆ บ้านปรายกับบ้านพี่ภาษสนิทกัน พ่อกับแม่เราก็สนิทกัน เวลาไปเที่ยวก็ไปด้วยกัน ไม่เหมือนเพื่อน เหมือนพี่น้องมากกว่า""เวลามากับเพื่อนๆ ถ้าบอกว่ามากับพี่ภาษ พ่อกับแม่จะสบายใจเพรา
เวลาประมาณตีห้า เช้านี้ที่เขาใหญ่อากาศดีมาก สดชื่นที่สุดเท่าที่เคยได้เจอมาในรอบหลายปี ตะวันตื่นก่อนประภาษ เขาได้ยินเสียงกุกกักนอกเต้นท์ เลยออกมาดู เจอปรายลดา ในชุดนอนผ้าสำลีแขนขายาวสีเหลืองสดทั้งตัว มีหมวกไหมพรมสีเหลือง มีที่ครอบหูสีเหลือง ถุงเท้าเหลือง กำลังสาละวนทำอาหารเช้า น้องสาวเขาน่าจะยังไม่ตื่น เพราะเห็นปรายลดาง่วนอยู่คนเดียว เขาไม่ลืมที่จะหยิบกล้องถ่ายรูป ถ่ายขณะที่หญิงสาวทำอาหาร คนอะไรใส่สีเหลืองทั้งตัว"อ้าวพี่ตะวัน สวัสดียามเช้าที่หนาวเหน็บค่ะ ทำไมตื่นเช้าจังคะ ปรายกำลังจะทำต้มข้าวต้มเครื่องค่ะ มีขนมปัง ใส้กรอก ไข่ดาว แฮม กาแฟ นม พี่ตะวันรับอะไรดีคะ เดี๋ยวปรายจัดการให้ กำลังหอมเลยค่ะ "หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองคนที่กำลังถือกล้องถ่ายรูป เห็นเขาเข้ามาถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะที่เธอทำไว้"ขอบคุณครับน้องปราย ชายหนุ่มพูดสั้นๆ" เมื่อรับแก้วกาแฟจากปรายลดาเขาตั้งใจถ่ายวีดีโอ ในขณะที่เธอทำอาหาร เขาไม่ได้ตั้งใจถ่ายรูปอาหารที่ทำเสร็จแล้วสักหน่อย"น้องปรายครับเงยหน้าหน่อย พี่ขอถ่ายไว้ให้แม่กับน้องกานดูหน่อยนะครับ""ได้เลยค่ะพี่ตะวัน ตามสบายค่ะ "หญิงสาวตักข้าวต้มเครื่องใส่ถ้วย ไปวางไว้บนโต๊ะ ส
หลังจากคู่ของประภาษไปฮันนีมูลที่ญี่ปุ่นกลับมา นางดุจเดือนก็ไปสู่ขอปรายลดาให้กับตะวัน จัดงานแบบเรียบง่าย ตามที่ทั้งสองต้องการ ตะวันย้ายมาอยู่ที่บ้านของปรายลดา เขายังคงดูแลบริษัทฯ โรงงาน เหมือนเดิม หลังแต่งงาน กิจการของเขาจะดีวันดีคืนส่วนปรายลดา ช่วยพ่อกับแม่ดูแลไร่ ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านกาแฟ ร้านขายผ้ามือสอง อย่างเต็มตัว ร้านของเธอเป็นรายใหญ่ ของภาคตะวันออก ให้นายอลงกต และนางกรกนกได้พักจริงๆ เสียที แต่นิสัยของทั้งพ่อและแม่ก็ยังคงขยันเหมือนเดิม ทำไปทำมา นางดุจเดือนและนางกรกนก ก็เปิดร้านขายอาหารจนได้ หญิงสูงวัยทั้งสองคนมีความสุขในบั้นปลายของชีวิตส่วนประภาษก็ยังคงทำงานของตัวเองเหมือนเดิม ดูร้านกาแฟบ้าง ตะวันให้ประภาษเข้าไปช่วยงานบริหารในส่วนของงานบัญชี เพราะเห็นว่าทั้งประภาษและกานดารา เรียนบัญชีด้วยกันทั้งคู่ ส่วนเขาเอง รับผิดชอบแค่ที่โรงงานเป็นหลักกานดารานอกจากจะช่วยงานสามีทำงานที่บริษัทฯ แล้ว ยังมีร้านที่ต้องทำร่วมกันกับปรายลดา และเปิดร้านกาแฟอีก 1 ร้าน เป็นสาขาที่สองวันนี้เป็นวันดี ทั้งสามครอบครัว เดินทางมามอบอาคารเรียน ห้องน้ำ โรงอาหาร มอบทุนกาศึกษ
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง เธอเห็นเขาหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น เธอไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆตะวันลืมตา เขามองข้างๆ ตัว และหันมาตามเสียงของปรายลดา หน้าสดชื่นมาก ตาสุกใสเป็นประกาย เขานั่งมองมาจากบนเตียงนอน เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกลงกระเป๋า“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปในห้องน้ำ สักครู่ก็แต่งตัวเรียบร้อย“ขามาพี่มีเสื้อผ้ามาสองชุด ขากลับนี่คงเพิ่มหลายชุดแน่เลย เขาพูดเบาๆ” อย่างคนที่มีความสุข“น้องปราย ตื่นเช้าเหมือนเดิมเลยนะครับ ไม่เปลี่ยนเลย พี่ซะอีกโรคนอนไม่หลับกลับมาอีกแล้ว ““ไม่เป็นไรค่ะ กลับบ้
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง คนข้างๆ เธอหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น ไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆ ค่อยๆ ย่องลงมาเก็บของใช้จุกจิกใส่กระเป๋า พยายามทำทุกอย่างให้เบามือที่สุด ทักเขาเมื่อเห็นว่าขยับตัวตะวันรู้สึกตัวลืมตาตื่น งงว่าตัวเองอยู่ในความฝันหรือความจริง จำได้ว่าปรายลดานอนอยู่ข้างๆ นี่นา ลองมองด้านข้างปรายลดาหายไป ชายหนุ่มรีบลุก เขาหลับรวดเดียวไม่รู้สึกตัวเลย รีบลุกขึ้นมองไปทางเสียง เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกเตรียมใส่กระเป๋า หน้าตาสดใสและสดชื่นมาก ถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป เป็นเสียงของปรายลดาจริงๆ“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปใน
วันนี้ปรายลดาปิดงานเสร็จเรียบร้อย อีก 2 วัน หญิงสาวจะต้องเดินทางกลับบ้าน จ่ายค่าที่พักเรียบร้อย ยังมีเวลา เหมือนเดิม เธอรีบไปที่ร้านผ้า เพื่อคัดผ้าที่เหลืออีกสักหน่อย และให้ร้านแพคส่งกลับที่ประเทศไทย หญิงสาวได้หนังสือดีๆ อีกมากมาย เจอค่าส่งก็เกือบถอดใจ แต่มันเป็นหนังสือที่หายาก และเธอก็รักมันมากสมัยเรียนมัธยม ปรายลดามีหนังสืออยู่ 2 เล่ม จำไม่ได้ว่าชื่อเรื่องอะไร เพราะนานมาก เนื้อเรื่องพระเอกเป็นเจ้าผู้ครองนคร นางเอกเป็นหมอ พ่อเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนในเมืองไทย นางเอกเจอพระเอกที่เมืองไทย เขาพาภรรยามารักษาตัว แต่ภรรยาเสียชีวิต นางเอกไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เข้าใจว่าเป็นองค์รักษ์ เนื้อเรื่องอ่านแล้วประทับใจมาก เธอเสียดายมาก พยายามหาก็ยังไงก็หาไม่เจอ แต่คิดไว้แล้วว่า จะต้องหาซื้อมือสองมาเก็บไว้อีก ก็ยังไม่มีโอกาสสักที กลับบ้านครั้งนี้แหละ จะต้องหามาเก็บไว้ในชั้นหนังสือให้ได้ที่ร้านผ้ามือสอง ระหว่างที่คัดผ้า ใจก็คิดถึงคราวที่ไปคัดผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ เอาจริงๆ เธอก็ไม่เคยลืมเขาเลย ตะวันเป็นรักแรกของเธอ ถ้าไม่ติดตรงที่เขาทำผิด จะด้วยอะไรก็ตาม ประชด เอาแต่ใจตัวเอง คนอายุเท่าเขา มีตำแห
“อ่ะ.....อะไรเธอ” ปรายลดาเข้าไปเม้นในไอจีของ กานดารา รูปที่ลงล่าสุด นิ้วนางข้างซ้ายมีแหวนเพชรวงกำลังดี สวยงามมาก แค่นั้นหญิงสาวก็ทำงานต่อปรายลดาแปลเอกสารต่อ เธอชอบงานนี้รองลงมาจากงานขายของ เกาะแห่งนี้เงียบสงบมากๆ เหมาะกับงานที่เธอทำ เธอคิดว่าเสร็จจากงานนี้แล้วจะเดินทางกลับบ้านเกือบสามเดือนหลังจากที่กานกับก้อยกลับไปแล้ว ปรายลดาก็อยู่คนเดียว ทำงานคนเดียว เที่ยวคนเดียว ที่มาเลย์นี่ผ้าเยอะมาก เสร็จจากงานแปลเอกสาร เธอก็ไปหาคัดผ้า ได้พอสมควรก็ทยอยส่งกลับไทย“ว่าไงเธอ มีอะไรจะบอกฉันไหม” ปรายลดารับสายเมื่อกานดาราโทรไลน์หาเธอ“ก็อยากที่ปรายเห็นนั่นแหละ” กานดาราตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ดูมีความสุขมาก“นี่อย่าบอกนะว่าหมั้นกับพี่ภาษ” ปรายลดาส่งเสียงดีใจถามเพื่อนสาว“ใช่ ปรายเข้าใจไม่ผิด เมื่อวานนี่เอง กานไม่อยากรบกวนปราย อยากให้ปรายเร่งงานให้เสร็จจะได้กลับบ้านทีเดียวเลย ไม่ต้องมางานหมั้น มาตอนแต่งเลยดีกว่า งานหมั้นเล็กๆ มีแค่พวกเรา ไม่ได้บอกใคร เดี๋ยวได้ฤกษ์แต่งเมื่อไหร่ กานจะส่งข่าวนะปราย”“โห....เสียดายอ่ะ แต่ทำไงได้ ฉันเลือกเอง ไม่เป็นไรหรอก งานใกล้เสร็จแล้ว งานแต่งกานปรายได้ไปแน่ๆ รับรองไม่พลา
“พ่อครับ แม่ครับ ไปบ้านคุณป้าดุจเดือนอีกรอบให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ผมว่าน่าจะสมควรแก่เวลาแล้ว ผมเกริ่นๆ กับตะวันไว้แล้ว เหลือแต่ไปคุยกับคุณป้า ให้เป็นเรื่องเป็นราวครับ” ประภาษ เอ่ยกับนายเกริกและนางยุรี“เฮ้อ....พ่อกับแม่ก็รอวันนี้มานานแล้ว คุยกับหนูกานดีแล้วใช่ไหมภาษ ไม่ใช่พ่อกับแม่ไปแล้วหน้าแตกกลับมานะ” นายเกริกหันมาพูดกับลูกชาย“ไม่หรอกครับพ่อ ผมคุยกับน้องกานแล้วครับ จริงๆ ว่าจะรอให้น้องปรายกลับมาก่อน ป่านนี้ยังไม่มาเลย ผมไม่รอแล้วครับ แรกๆ น้องกานห่วงคุณป้าดุจเดือน กลัวว่าแต่งงานแล้ว จะไม่มีคนดูแล แต่ตะวัน รับปากและยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าถ้าน้องกานมาอยู่บ้านเรา เขาจะดูแลคุณป้าดุจเดือนเอง”“ส่วนผมแล้วแต่น้องกานเลยว่าแต่งแล้วจะมาอยู่บ้านเรา หรืออยู่บ้านเขา น้องกานอยู่ที่ไหนผมก็อยู่ได้หมด หรือพ่อกับแม่ว่าไงครับ”“แม่ไม่ว่าอะไรหรอก เห็นใจบ้านโน้นเขาเหมือนกัน เพราะเดี๋ยวตะวันเขาแต่งกันหนูปราย ก็ต้องไปอยูบ้านหนูปรายใช่ไหม พ่อกับแม่น้องปราย ก็ไม่มีใคร ทางนี้ พ่อกับแม่ก็มีน้องตั้งสองคน ภาษไม่ต้องห่วงหรอกลูก เราอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไม่มีปัญหาหรอก ใช่ไหมพ่อ” นางยุรีหันไปหาสามี“พ่อก็ไม่มีปัญหา
ที่ตรอกเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก ถ้าเป็นคนต่างถิ่นมา จะไม่รู้เลยว่า อาคารที่เรียงรายกันสองฝั่ง นี่คือโกดังผ้ามือสอง ที่มีผ้าเยอะมากๆ มันเป็นที่ๆ ปรายลดาคุ้นเคยอีกที่หนึ่ง เวลาที่ได้คัดผ้า มันเหมือนกับเธอได้หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง อาจจะดูเวอร์เกินไป ถ้าจะไปเล่าให้คนอื่นฟัง ว่ามีความรู้สึกแบบนี้ก็เหมือนคนเรา ชอบอะไรบางอย่างนั่นแหละ ชอบอ่านหนังสือ เวลาอ่านหนังสือก็จะอยู่แต่กับหนังสือ ไม่สนใจใคร คนเล่นเกมส์ก็จะมีความสุขกับการเล่นเกมส์ คนที่ชอบเย็บปักถักร้อย เวลาถักก็จะมีความสุข เพลิดเพลินกับสิ่งที่กำลังทำ“ของทั้งหมดนี้เราจะขนกลับไปยังไงอ่ะปราย ในเมื่อเราต้องไปเบตง และเราจะไปยังไง ขับรถไปเองหรือยังไง ก้อยยังคิดไม่ออกเลย”“จริงด้วย กานว่าจะถามหลายวันแล้ว แต่ไม่ได้ถามสักที” กานดาราเอ่ยขึ้นบ้างผ้านี่ปรายจะให้ร้านส่งไปที่บ้าน บอกพ่อกับแม่ไว้แล้ว เราจะเช่ารถตู้ไปเบตง เพราะเราคงขับกันเองไม่ไหว ไม่ชำนาญทาง ขากลับปรายจะให้ก้อยกับกาน ขึ้นเครื่องกลับ ส่วนรถคันนี้ปรายจะฝากไว้ที่ปัตตานี ปรายมีเพื่อนที่นั่น ฝากได้ จนกว่าปรายจะกลับบ้าน เราจะเช่ารถตู้จากปัตตานีไปเบตงกันนะสาวๆ ค้างที่ปัตตานี เที่ยวในเมือง ที่ปัตต
เช้านี้ที่บ้านไร่ ทุกคนรวมตัวกันที่ลานจอดรถหน้าบ้านปรายลดา“น้องปราย น้องก้อย ป้าฝากน้องกานด้วยนะลูก น้องกานอย่าลืมโทรบอกพี่เขาด้วยนะ เขาจะได้ไม่เป็นห่วง” นางดุจเดือนบอกลูกสาว นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวนางเดินทางท่องเที่ยว โดยที่ไม่มีแม่และพี่ชายไปด้วย นางเชื่อมั่นในตัวกานดารา ตั้งแต่ลูกสาวนางรู้จักคบหากับปรายลดา ลูกสาวนางเข้มแข็ง และแข็งแรงมาก เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วยเอาจริงนางก็ห่วง แต่ไม่ห่วงมาก เพราะมีน้องปราย น้องก้อยไปด้วย เด็กทั้งสองคนไว้ใจได้“เดี๋ยวปรายขับเองนะ ไว้ถึงประจวบค่อยให้กานขับ ทางตรงไม่ใช่หน้าเทศกาล กานขับได้อยู่แล้ว ถึงชุมพรค่อยให้ก้อยขับ ดีไหมทุกคน”ปรายลดาถามเพื่อนทั้งสองคน“ได้เลย ก้อยไม่มีปัญหา ถ้าปรายเหนื่อยตอนไหน ก้อยเปลี่ยนก็ได้ สบายมาก”“กานก็ไม่มีปัญหาเลย ตกลงตามนี้นะ “สามสาวออกเดินทางจากนครนายก นางดุจเดือน และนางกรกนก เตรียมอาหาร ให้สามสาวเต็มที่ มีแต่ขอชอบ งของทุกคนทั้งนั้น รถจิ๊ปของปรายลดาคันใหญ่ จุของได้เยอะมากปรายลดาใส่ชุดฮาวายสีเหลืองสด ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว ชุดที่เธอใส่ไม่ได้เข้ากับรถที่ขับเลย แต่เธอไม่ได้สนใจเพราะชอบ เธอชอบใส่เดรสหลวมๆ มากกว่าใส่กางเ
“น้องปราย จะไปนานไหมลูก” นายอลงกตถามลูกสาว ขณะที่สามคนพ่อแม่ลูกอยู่ในห้องพัก“ปรายว่าจะค่อยๆ เดินทางไปเรื่อยๆ ค่ะพ่อ แต่จะพักที่หาดใหญ่หลายวันหน่อย เพราะว่าปรายกับกานคุยกันว่าจะคัดผ้าค่ะ หลังจากนั้นจะไปต่อที่เบตง คิดว่าจะข้ามไปฝั่งมาเลย์ และปรายจะอยู่ที่นั่นสักพัก ส่วนก้อยกับกาน จะกลับมาก่อนค่ะ”“แล้วมีที่อยู่เหรอ ไว้ใจได้ไหมลูก” นางกรกนกลูบหัวลูกสาวด้วยความรักหญิงสาวลุกขึ้นนั่ง หลังจากที่นอนตักมารดามาสักพัก“ปรายมีเพื่อนอยู่ที่นั่นค่ะแม่ เรียนรุ่นเดียวกัน ค้าขายอยู่ทางโน้น เขาแต่งงานได้สามีเป็นคนมาเลย์ค่ะ ปรายเคยไปเที่ยวสมัยเรียน แถบที่เขาอยู่ค้าขายได้สบายเลยค่ะแม่"“พ่อกับแม่ขอให้ลูกเดินทางปลอดภัย ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำนะลูก แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามพ่อกับแม่ก็ยังรอลูกกลับบ้านเสมอ พ่อกับแม่จะปล่อยให้ลูกไปทำในสิ่งที่อยากทำ”“แล้วเรื่องพ่อตะวันล่ะลูก น้องปรายพูดให้แม่ฟังหน่อยซิ จะเอายังไงต่อไป เพราะแม่ดูแล้วว่าพ่อตะวันเขาก็คงไม่ปล่อยเราแน่ๆ โกรธและเกลียดเขามากเหรอลูก ถ้าน้องปรายรักพี่เขา เราก็ต้องปล่อยวางบ้างนะ ให้อภัยได้ก็ให้อภัยเขา แม่รู้ว่าน้องปรายไม่ชอบคนที่ไม่มีเหตุผล และคนที่เห็น