กานดาราสังเกตุว่า วันนี้พี่ชายของเธอมีท่าทีผ่อนคลายมาก เธอแอบสำรวจและสังเกตุพี่ชายเธอเงียบ ๆ ระหว่างนั่งกินข้าวเย็นด้วยกัน นางดุจเดือนชอบทำอาหารกินเอง ลูกชายกับลูกสาวนางติดรสมือทำกับข้าวของนางมาก ทำอะไรก็อร่อยทุกอย่าง และทำได้หลากหลายเมนู ลูกชายนางแทบจะไม่ออกไปกินอาหารนอกบ้านเลย
แม่ครับสิ้นเดือนนี้ไปนครนายกกันไหมครับ เผื่อแม่อยากไปเยี่ยมเพื่อนเก่า ผมก็อยากไปพักผ่อนเหมือนกัน พอดีกับที่ยายกานสอบเสร็จ แม่กับน้องจะได้ไปเปิดหูเปิดตา แม่ว่ายังไงครับ เขาพูดไปกินข้าวไปด้วยท่าทางสบายๆ ท่าทางแบบนี้นางดุจเดือนไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ปกติเขาจะนิ่งและเงียบขรึมอยู่ตลอดเวลา
ก็ดีนะลูก แม่ได้หมดไปบ้านหนูปรายใช่ไหม ดีเหมือนกันนะ หลายปีมากแล้วตั้งแต่พ่อไม่อยู่ แม่ก็ไม่ได้เจอน้าทั้งสองเลย ไปเมื่อไหร่ก็บอกแม่อีกทีนะ นางดุจเดือนตามใจลูกอยุ่แล้ว นางรู้สึกว่าลูกชาย ไม่ค่อยเคร่งเครียด ดูเขานิ่งๆ นางดีใจกับลูกชายที่เขาเปลี่ยนไป และยิ่งกว่านั้นลูกสาวของนางมีความสุข สดใส ร่าเริง แค่นี้คนเป็นแม่ก็ดีใจ มีความสุขมากแล้ว นางรู้สึกยินดีที่เด็กสาวอย่างปรายลดา เขามามีบทบาทในบ้านของนาง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง
จริงใช่ไหม่คะแม่ พี่ตะวัน กานดีใจจังเลยค่ะ เดี๋ยวกานโทรหาปรายก่อนนะคะ กานไม่แน่ใจว่าปรายสอบเสร็จหรือยัง ของกานเหลือสอบอีก 2 วันก็เรียบร้อยค่ะ แต่ปรายบอกว่า บางทีสอบเสร็จก็อาจกลับบ้านเลย ตายแล้วปรายยิ่งทำอะไรรวดเร็ว ทีแรกบอกว่าจะกลับใกล้ๆ ไปฝึกงาน แต่เห็นว่าที่บ้านงานเยอะ เลยอยากกลับไปช่วยพ่อกับแม่ กานรีบโทรหาปรายก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวไม่ทัน เด็กสาวรีบกดโทรศัพท์หาปรายลดาทันที
ฮัลโหล...ปรายอยู่ไหน ดีจังเหลืออีกกี่วัน เท่ากับกานเลย ตกลงสอบเสร็จกานไปเที่ยวบ้านปรายนะ แม่กับพี่ตะวันไปด้วย ดีใจที่สุด อย่าลืมทำตามที่บอกนะพากานไปเที่ยวกานดารา ไม่ลืมที่จะเปิดเสียงโทรศัพท์สุดเสียง เพราะเธอรู้ ว่าพี่ชายเธออยากรู้ว่าเธอกับปรายคุยอะไรกันบ้าง เอาเถอะแค่นี้เธอทำได้ ขอให้พี่ชายเธอใจดีแบบนี้ตลอดไป
ได้เลยปรายจะพาเที่ยวให้ฉ่ำปอดเลยล่ะ เดี๋ยวปรายโทรบอกแม่กับพ่อเอง ดีเลยช่วงที่เราไป ผลไม้เยอะมาก ดูอีกทีนะ ว่าปรายต้องเอารถกลับไหม หรือจะไปกับครอบครัวกานดี ปรายอยากขนของบางส่วนกลับบ้านด้วย เทอมหน้าปรายฝึกงานหลายเดือน ขอคิดก่อนเหลือสอบอีก 2 วันก็เสร็จ มหาวิทยาลัยหยุด 15 วัน อยู่ให้ครบเลยเนาะ อุตสาห์ได้ออกจากบ้านทั้งทีเอาให้คุ้ม ดีใจจังแม่จะได้เจอคุณป้า ปรายดีใจกับกานด้วยที่ลุงยอมให้ไปพักผ่อนสมอง เรียนมาตั้งนาน เที่ยวบ้างเนาะ เดี๋ยวกานก็จะรู้ว่าอากาศต่างจังหวัดมันดีขนาดไหน ดีไม่ดี โรคภูมิแพ้ที่กานเป็นอาจดีขึ้นก็ได้
กานรู้ไหมว่าที่ไร่ ปรายมีกระท่อมส่วนตัวด้วย บรรยากาศดีสุดๆ เอาไว้แอบพ่อกับแม่เวลาเมา ไปนอนที่นั่น เดี๋ยวปรายพาไปขับรถ ที่ไร่มีรถทุกอย่างเลย ไม่แน่อนาคต เทวดา นางฟ้า อาจส่งพระเอกของกานมาให้ และเขาคนนั้นอาจเป็นเจ้าของไร่กว้างใหญ่ก็ได้ ใครจะไปรู้ใช่ไหม ปรายนึกออกแล้ว เราไปเที่ยววังน้ำเขียวดีกว่า แหล่งโอโซนที่ดีที่สุดเลยนะกาน เธอเตรียมกระเป๋าไว้เลย พรุ่งนี้ปรายจะโทรบอกพ่อกับแม่ ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวปรายทักไป แต่ตอนนี้ขอตัวอ่านหนังสือทบทวนสักหน่อย บายจ้า.
กานดาราเงยหน้ามองพี่ชายเธอ และยิ้มแหย่ๆ เห็นพี่ชายเธอทำหน้าเฉยๆ พี่ตะวันไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ไม่โกรธปรายเหรอคะ อย่าโกรธปรายเลยนะคะพี่ ปรายเป็นคนทำอะไรเร็ว คิดเร็ว พูดเร็ว
โกรธเรื่องอะไร ชายหนุ่มถามกลับน้องสาว
ก็ปรายเรียกพี่ว่าลุง กานดาราหันไปมองหน้ามารดา ก็เห็นนางยิ้ม
อยากให้พี่โกรธไหมล่ะ เอาเบอร์โทรมาเดี๋ยวพี่คุยกับเขาเรื่องที่พักเอง อะไรกันเรื่องสำคัญไม่คุย คุยกันแต่เรื่องเที่ยว เด็กสมัยนี้ เขาบ่นเบาๆ ได้เบอร์โทรของปรายลดา แล้วเขาก็เดินบ่นออกไป เข้าห้องพักของตัวเอง เขาไม่ได้จะโทรหาเด็กนั้นหรอก แต่ด้วยอะไรก็ไม่รู้ ที่ทำให้เขาขอเบอร์โทรของปรายลดาจากน้องสาวเขา
แม่คะ....นี่กานตาฝาด หูฝาดไปรึเปล่าคะ เป็นไปได้ยังไง พี่ตะวันไม่มีอาการโกรธที่ปรายพูดเลย นี่พี่ตะวันเปลี่ยนไปมากเลยนะคะแม่ กานดีใจที่สุดเลยค่ะ มีความสุขที่สุดหญิงสาวเข้าไปกอดเอวมารดา ไม่คิดว่าจะมีวันดีๆ แบบนี้เลยค่ะแม่ กานขอตัวไปนอนก่อนนะคะแม่ กานเหลือสอบอีกสองวัน กานจะตั้งใจทำให้เต็มที่เลยค่ะ
นางดุจเดือนมองตามหลังลูกสาวคนเล็กไป และยิ้มอย่างมีความสุข ลูกชายนางก็เปลี่ยนไป จะด้วยเหตุใดก็ตาม แต่ทำให้คนในบ้านผ่อนคลาย นางก็มีความสุขแล้ว ตั้งแต่สามีนางเสียชีวิต บ้านก็ไม่มีชีวิตชีวาเลย ลูกชายนางกลายเป็นผู้นำ ถึงแม้ว่าธุรกิจจะอยู่ตัวแล้วเขาก็ยังคง เคร่งขรึมตลอดมา จนกระทั่งมีเด็กสาวอย่างปรายลดาเข้ามา เหมือนมาทำให้ครอบครัวนางมีชีวิตชีวาอีกครั้ง นางดูคนไม่ผิด ปรายลดา เป็นเด็กดี ดีเหมือนพ่อกับแม่เขา บางทีการที่ได้เจอ และได้รู้จักปรายลดา อาจทำให้ทัศนคติของลูกชายนางเปลี่ยนไป ปล่อยวางกับบางเรื่อง ยิ่งปล่อยวางได้เมื่อไร ชีวิตก็จะมีความสุขเร็วมากขึ้น นางคิดแบบนั้น
ด้วยสัญชาตญาณของคนที่เป็นแม่ และผ่านโลกมาก่อน นางเชื่อว่าอีกไม่นาน ระหว่างลูกชายของนาง กับหนูปรายลดา ต้องมีเหตุได้พัวพันกันแน่ๆ มันเหมือนมีลางสังหรณ์ ลูกชายนางไม่เคยให้ความสนใจผู้หญิงคนไหน มากขนาดนี้ แรกๆ เขาแสดงออกมาชัดเจนเลยว่า ไม่ชอบปรายลดา แต่พอได้พบหน้า และพูดคุยกันไม่กี่คำ ลูกชายนางก็เปลี่ยนไปเลย รวมถึงกานดาราลูกสาวคนเล็กของนาง ก็ดูท่าจะติดปรายลดามาก ไม่แพ้พี่ชายเหมือนกัน อย่าว่าแต่ลูกๆ ของนาง พอใจเลย นางก็รู้สึกถูกชะตากับปรายลดาตั้งแต่แรกที่ได้เห็นหน้าแล้ว
หลังจากคู่ของประภาษไปฮันนีมูลที่ญี่ปุ่นกลับมา นางดุจเดือนก็ไปสู่ขอปรายลดาให้กับตะวัน จัดงานแบบเรียบง่าย ตามที่ทั้งสองต้องการ ตะวันย้ายมาอยู่ที่บ้านของปรายลดา เขายังคงดูแลบริษัทฯ โรงงาน เหมือนเดิม หลังแต่งงาน กิจการของเขาจะดีวันดีคืนส่วนปรายลดา ช่วยพ่อกับแม่ดูแลไร่ ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านกาแฟ ร้านขายผ้ามือสอง อย่างเต็มตัว ร้านของเธอเป็นรายใหญ่ ของภาคตะวันออก ให้นายอลงกต และนางกรกนกได้พักจริงๆ เสียที แต่นิสัยของทั้งพ่อและแม่ก็ยังคงขยันเหมือนเดิม ทำไปทำมา นางดุจเดือนและนางกรกนก ก็เปิดร้านขายอาหารจนได้ หญิงสูงวัยทั้งสองคนมีความสุขในบั้นปลายของชีวิตส่วนประภาษก็ยังคงทำงานของตัวเองเหมือนเดิม ดูร้านกาแฟบ้าง ตะวันให้ประภาษเข้าไปช่วยงานบริหารในส่วนของงานบัญชี เพราะเห็นว่าทั้งประภาษและกานดารา เรียนบัญชีด้วยกันทั้งคู่ ส่วนเขาเอง รับผิดชอบแค่ที่โรงงานเป็นหลักกานดารานอกจากจะช่วยงานสามีทำงานที่บริษัทฯ แล้ว ยังมีร้านที่ต้องทำร่วมกันกับปรายลดา และเปิดร้านกาแฟอีก 1 ร้าน เป็นสาขาที่สองวันนี้เป็นวันดี ทั้งสามครอบครัว เดินทางมามอบอาคารเรียน ห้องน้ำ โรงอาหาร มอบทุนกาศึกษ
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง เธอเห็นเขาหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น เธอไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆตะวันลืมตา เขามองข้างๆ ตัว และหันมาตามเสียงของปรายลดา หน้าสดชื่นมาก ตาสุกใสเป็นประกาย เขานั่งมองมาจากบนเตียงนอน เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกลงกระเป๋า“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปในห้องน้ำ สักครู่ก็แต่งตัวเรียบร้อย“ขามาพี่มีเสื้อผ้ามาสองชุด ขากลับนี่คงเพิ่มหลายชุดแน่เลย เขาพูดเบาๆ” อย่างคนที่มีความสุข“น้องปราย ตื่นเช้าเหมือนเดิมเลยนะครับ ไม่เปลี่ยนเลย พี่ซะอีกโรคนอนไม่หลับกลับมาอีกแล้ว ““ไม่เป็นไรค่ะ กลับบ้
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง คนข้างๆ เธอหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น ไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆ ค่อยๆ ย่องลงมาเก็บของใช้จุกจิกใส่กระเป๋า พยายามทำทุกอย่างให้เบามือที่สุด ทักเขาเมื่อเห็นว่าขยับตัวตะวันรู้สึกตัวลืมตาตื่น งงว่าตัวเองอยู่ในความฝันหรือความจริง จำได้ว่าปรายลดานอนอยู่ข้างๆ นี่นา ลองมองด้านข้างปรายลดาหายไป ชายหนุ่มรีบลุก เขาหลับรวดเดียวไม่รู้สึกตัวเลย รีบลุกขึ้นมองไปทางเสียง เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกเตรียมใส่กระเป๋า หน้าตาสดใสและสดชื่นมาก ถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป เป็นเสียงของปรายลดาจริงๆ“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปใน
วันนี้ปรายลดาปิดงานเสร็จเรียบร้อย อีก 2 วัน หญิงสาวจะต้องเดินทางกลับบ้าน จ่ายค่าที่พักเรียบร้อย ยังมีเวลา เหมือนเดิม เธอรีบไปที่ร้านผ้า เพื่อคัดผ้าที่เหลืออีกสักหน่อย และให้ร้านแพคส่งกลับที่ประเทศไทย หญิงสาวได้หนังสือดีๆ อีกมากมาย เจอค่าส่งก็เกือบถอดใจ แต่มันเป็นหนังสือที่หายาก และเธอก็รักมันมากสมัยเรียนมัธยม ปรายลดามีหนังสืออยู่ 2 เล่ม จำไม่ได้ว่าชื่อเรื่องอะไร เพราะนานมาก เนื้อเรื่องพระเอกเป็นเจ้าผู้ครองนคร นางเอกเป็นหมอ พ่อเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนในเมืองไทย นางเอกเจอพระเอกที่เมืองไทย เขาพาภรรยามารักษาตัว แต่ภรรยาเสียชีวิต นางเอกไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เข้าใจว่าเป็นองค์รักษ์ เนื้อเรื่องอ่านแล้วประทับใจมาก เธอเสียดายมาก พยายามหาก็ยังไงก็หาไม่เจอ แต่คิดไว้แล้วว่า จะต้องหาซื้อมือสองมาเก็บไว้อีก ก็ยังไม่มีโอกาสสักที กลับบ้านครั้งนี้แหละ จะต้องหามาเก็บไว้ในชั้นหนังสือให้ได้ที่ร้านผ้ามือสอง ระหว่างที่คัดผ้า ใจก็คิดถึงคราวที่ไปคัดผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ เอาจริงๆ เธอก็ไม่เคยลืมเขาเลย ตะวันเป็นรักแรกของเธอ ถ้าไม่ติดตรงที่เขาทำผิด จะด้วยอะไรก็ตาม ประชด เอาแต่ใจตัวเอง คนอายุเท่าเขา มีตำแห
“อ่ะ.....อะไรเธอ” ปรายลดาเข้าไปเม้นในไอจีของ กานดารา รูปที่ลงล่าสุด นิ้วนางข้างซ้ายมีแหวนเพชรวงกำลังดี สวยงามมาก แค่นั้นหญิงสาวก็ทำงานต่อปรายลดาแปลเอกสารต่อ เธอชอบงานนี้รองลงมาจากงานขายของ เกาะแห่งนี้เงียบสงบมากๆ เหมาะกับงานที่เธอทำ เธอคิดว่าเสร็จจากงานนี้แล้วจะเดินทางกลับบ้านเกือบสามเดือนหลังจากที่กานกับก้อยกลับไปแล้ว ปรายลดาก็อยู่คนเดียว ทำงานคนเดียว เที่ยวคนเดียว ที่มาเลย์นี่ผ้าเยอะมาก เสร็จจากงานแปลเอกสาร เธอก็ไปหาคัดผ้า ได้พอสมควรก็ทยอยส่งกลับไทย“ว่าไงเธอ มีอะไรจะบอกฉันไหม” ปรายลดารับสายเมื่อกานดาราโทรไลน์หาเธอ“ก็อยากที่ปรายเห็นนั่นแหละ” กานดาราตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ดูมีความสุขมาก“นี่อย่าบอกนะว่าหมั้นกับพี่ภาษ” ปรายลดาส่งเสียงดีใจถามเพื่อนสาว“ใช่ ปรายเข้าใจไม่ผิด เมื่อวานนี่เอง กานไม่อยากรบกวนปราย อยากให้ปรายเร่งงานให้เสร็จจะได้กลับบ้านทีเดียวเลย ไม่ต้องมางานหมั้น มาตอนแต่งเลยดีกว่า งานหมั้นเล็กๆ มีแค่พวกเรา ไม่ได้บอกใคร เดี๋ยวได้ฤกษ์แต่งเมื่อไหร่ กานจะส่งข่าวนะปราย”“โห....เสียดายอ่ะ แต่ทำไงได้ ฉันเลือกเอง ไม่เป็นไรหรอก งานใกล้เสร็จแล้ว งานแต่งกานปรายได้ไปแน่ๆ รับรองไม่พลา
“พ่อครับ แม่ครับ ไปบ้านคุณป้าดุจเดือนอีกรอบให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ผมว่าน่าจะสมควรแก่เวลาแล้ว ผมเกริ่นๆ กับตะวันไว้แล้ว เหลือแต่ไปคุยกับคุณป้า ให้เป็นเรื่องเป็นราวครับ” ประภาษ เอ่ยกับนายเกริกและนางยุรี“เฮ้อ....พ่อกับแม่ก็รอวันนี้มานานแล้ว คุยกับหนูกานดีแล้วใช่ไหมภาษ ไม่ใช่พ่อกับแม่ไปแล้วหน้าแตกกลับมานะ” นายเกริกหันมาพูดกับลูกชาย“ไม่หรอกครับพ่อ ผมคุยกับน้องกานแล้วครับ จริงๆ ว่าจะรอให้น้องปรายกลับมาก่อน ป่านนี้ยังไม่มาเลย ผมไม่รอแล้วครับ แรกๆ น้องกานห่วงคุณป้าดุจเดือน กลัวว่าแต่งงานแล้ว จะไม่มีคนดูแล แต่ตะวัน รับปากและยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าถ้าน้องกานมาอยู่บ้านเรา เขาจะดูแลคุณป้าดุจเดือนเอง”“ส่วนผมแล้วแต่น้องกานเลยว่าแต่งแล้วจะมาอยู่บ้านเรา หรืออยู่บ้านเขา น้องกานอยู่ที่ไหนผมก็อยู่ได้หมด หรือพ่อกับแม่ว่าไงครับ”“แม่ไม่ว่าอะไรหรอก เห็นใจบ้านโน้นเขาเหมือนกัน เพราะเดี๋ยวตะวันเขาแต่งกันหนูปราย ก็ต้องไปอยูบ้านหนูปรายใช่ไหม พ่อกับแม่น้องปราย ก็ไม่มีใคร ทางนี้ พ่อกับแม่ก็มีน้องตั้งสองคน ภาษไม่ต้องห่วงหรอกลูก เราอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไม่มีปัญหาหรอก ใช่ไหมพ่อ” นางยุรีหันไปหาสามี“พ่อก็ไม่มีปัญหา