“ อีณิหลามึงทำกูเสียหน้าหมด ไม่ใช่แค่กูที่เสียหน้า พี่สาวมึงก็เสียหน้าไปด้วย “ สลาพ่อของวรรณวิสาและวรรณิหลา ต่อว่าลูกสาววัย 10 ขวบ หลังจากที่กลับมาถึงบ้าน เพราะณิหลาไปสร้างวีรกรรมอันเจ็บแสบให้กับผู้มีพระคุณของเขา
“ ก็ณิหลาบอกพ่อไปแล้วไง ว่าณิหลาไม่อยากทำ พ่อก็ยังบังคับณิหลาให้ปลอมเป็นวิสาเอง ณิหลาไม่ได้เต็มใจสักหน่อย “ ณิหลาโวยวายใหญ่ เนื่องจากวันนี้พี่สาวฝาแฝดของเธอไม่สบาย พ่อจึงให้ณิหลาใส่กระโปรงสวมรอยเป็นวิสาไปเต้นแร้งเต้นกาให้คนอื่นดู ทั้งที่เด็กหญิงไม่อยากจะทำ แล้วมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกเสียด้วย หลายครั้งเลยที่วิสาไม่สบายขึ้นมา สลาก็จะให้ณิหลาปลอมเป็นพี่สาวเพื่อให้เธอไปเอาใจเจ้านายของเขา ซึ่งผู้มีพระคุณคนนั้นก็ให้ทุนการศึกษามา แต่ให้แค่วิสา ส่วนณิหลากลับไม่ได้อะไรเลย
“ นี้มึงกล้าเถียงกูเหรอห๊ะ! “ สลาเอามือหยิกแก้มลูกสาวด้วยความโมโห ทำไมลูกสาวของเขาไม่เกิดมาน่ารักเรียบร้อยเหมือนกัน ทำไมถึงได้มีเจ้าเด็กดื้อคนนี้มาด้วย
“ ที่กูให้มึงทำแบบนี้ก็เพราะอนาคตของพวกมึงสองพี่น้องนะ “
“ อนาคตของวิสาคนเดียวน่ะสิ พ่อก็บอกณิหลาทุกวันว่าจะให้ณิหลาเรียนถึงแค่มัธยม แล้วจะให้วิสาเรียนต่อคนเดียว “
“ แล้วตอนนี้มึงจบมัธยมแล้วเหรอ หรือมึงอยากจะจบแค่ประถมห๊ะอีณิหลา กูไม่มีเงินส่งพวกมึงสองคนเรียนพร้อมกันหรอกน่ะ “ สลาพูดแล้วใช้มือฟาดไปที่หลังหูของลูกสาว ณิหลาก็มองพ่อด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
“ การที่พวกแกคนใดคนหนึ่งมีคนมอบทุนส่งเสียให้เรียน มันก็ช่วยแบ่งเบาภาระฉัน พวกแกถึงจะได้เรียนไปพร้อมกันไง มันไม่ดีหรือ “ พอเห็นว่าลูกสาวจะร้องไห้ สลาก็รีบอธิบายให้ลูกเข้าใจ
“ แต่ณิหลาไม่อยากเป็นตัวแทนของวิสานี่ ถ้าวิสาไม่สบายทำไมพ่อไม่ยกเลิกนัด ณิหลาไม่อยากแสร้งทำเป็นคนอื่น “ ณิหลาร้องไห้ดุพ่อทั้งน้ำตาจากนั้นจึงวิ่งหนีไป มาแอบหลบร้องไห้คนเดียวที่หน้าบ้าน วิสาที่ได้ยินเสียงพ่อกับน้องทะเลาะกันก็ลุกจากเตียงเดินมาหาน้อง
“ ณิหลา วิสาขอโทษที่ทำให้ณิหลาต้องลำบากแล้วต้องโดนพ่อด่าแบบนี้ “
“ ไม่ต้องมายุ่ง ถ้ารู้สึกผิดจริง ทำไมแกถึงไม่สบายทุกครั้งที่ต้องไปกับพ่อ ทำไม “ ณิหลาที่โมโหลุกดึงผมเปียของวิสา จนเจ้าของร่างร้องโอดโอย
“ โอ้ยเจ็บ! ณิหลา!วิสาเจ็บ! “
“ อ้าวๆ สองพี่น้องเนี่ยทำอะไรกัน “ สากรณ์ที่อยู่บ้านหลังข้างกันไปยินเสียงเด็กหญิงทั้งสองทะเลาะหยุมหัวกันจึงรีบเดินมาห้าม
“ อย่ามายุ่ง ผู้ใหญ่ก็อยู่ส่วนผู้ใหญ่สิ จะมายุ่งเรื่องของเด็กทำไม “ ณิหลาก็หันไปปากแซ่บใส่เด็กหนุ่มรุ่นพี่ทันที
“ อ้าว ไม่ยุ่งไม่ได้ ถ้าสองคนตีกันตายขึ้นมาจะทำยังไง พี่ก็บาปดิที่ไม่ยอมห้ามนะ “
“ ตอนนี้อีวิสามันเรียนมัธยมปีสุดท้ายแล้วใช่มั้ย “ วิสิตถามกับมะลิในวงเหล้า
“ เอ้อใช่แล้ว ถ้ามึงอยากได้มันทำเมีย มันเรียนจบมึงก็ไปขอเอามันมาทำเมียสิ “
“ บ้าเหรอ ไอ้สลามันจะยอมรับกูเป็นลูกเขยหรือไง นี่มะลิกูมีอะไรอยากให้มึงช่วย “ วิสิตจับเอาสร้อยทองในกระเป๋ามาให้แก่มะลิ หวังติดสินบนห้ามไม่ให้มะลิกล้าปฏิเสธ คำร้องขอของเขา
วันหนึ่งณิหลา กลับมาจากการไปติวหนังสือที่บ้านเพื่อน กลับมาก็มืดค่ำแถมยังไม่มีใครอยู่บ้านเพราะช่วงนี้พ่อของพวกเธอต้องไปทำงานต่างจังหวัดนานๆ ถึงจะกลับที ข้างนอกเองฟ้าก็กำลังมืดอึมครึมเนื่องจากฝนตก
“ คนที่กลับมาไม่ใช่อีวิสาเหรอ “ มะลิเองกำลังยืนแอบอยู่หน้าบ้าน
“ มันอยู่ในบ้านเหรอ? “ ไอ้วิสิตเดินถือแก้วเหล้าเข้ามาหา มะลิที่เห็นก็มีท่าทีตกใจเพราะไม่คิดว่ามันจะมาไวขนาดนี้
“ ใช่ อีวิสามันอยู่ในบ้าน “
“ งั้นกูไปก่อน “ วิสิตยิ้มอย่างชอบใจแล้วเดินดุ่มๆ เข้าไปในบ้าน
“ เมื่อไหร่วิสาจะกลับมาเนี่ย เดี๋ยวก็ได้ตากฝนกลับแน่เลย ชักช้าตลอด “ สาวน้อยรวบผมขึ้นสูง วรรณิหลากำลังเดินปิดประตูหน้าต่างไปทั่วบ้าน เพราะตอนนี้ฝนเริ่มตกหนักขึ้นเหมือนพายุจะมาอยู่รอมร่อ
“ อะ! ลุงวิสิต มาหาใคร พ่อไม่อยู่นะ “ ณิหลาสะดุ้งเมื่อหันไปเห็นร่างของวิสิตเดินเข้ามาทางประตูบ้าน
“ กูมาหามึงนั่นแหละวิสา “ วิสิตวางแก้วเหล้าในมือไว้ที่โต๊ะ แล้ววิ่งพุ่งตัวมาใส่หญิงสาว ณิหลาเห็นแบบนั้นก็ตั้งท่าจะวิ่งหนีแต่ดันถูกไอ้วิสิตดึงขาจนเธอล้มลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น
“ แกจะทำอะไร!! “
“ ก็เอามึงทำเมียไง วิสา! “ หญิงสาวส่ายหน้า
“ อย่านะ! “ ณิหลาดิ้นรนสุดชีวิต ทั้งถีบทั้งเตะเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากคนถ่อย แต่แรงหญิงตัวเล็กๆ มันจะไปสู้แรงชายได้อย่างไร ไอ้วิสิตขึ้นคร่อมเธอ มือของมันดึงเสื้อเชิ้ตนักเรียนของเธอจนกระดุมขาดไปหลายเม็ด หน้าของมันก้มลงมาถูไถซุกไซ้ตามแก้มใส
“ อย่า!! “ มือเล็กรีบดันมันออก “ ช่วยด้วย!! ช่วยฉัน—โอ้ย “ ณิหลาพยายามโวยวายร้องเรียกให้คนช่วย แต่ก็โดนไอ้วิสิตชกเข้าที่หน้าท้อง เธอจุกจนขดตัวโค้งงอ มือใหญ่ของมันพยายามที่จะแตะต้องลวนลามเธอ วินาทีนั้นณิหลาคิดว่าเธอคงไม่รอด คงจะได้เสียตัวในวันนั้นแล้ว
“ แกจะทำอะไรให้น้องฉัน “ แต่วิสาที่เพิ่งกลับมาถึง หญิงสาววิ่งเข้ามาใช้ไม้ฟาดไปที่หัวของไอ้วิสิตเต็มแรง พอมันหลีกตัวหลบเพราะเจ็บ วิสาก็รีบจูงน้องสาววิ่งมาหลบในห้องนอน ปิดประตูลงกลอนเอาไว้แน่น ฝนที่กำลังตกห่าใหญ่ ส่งเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด
“ ณิหลา ณิหลาไม่ต้องกลัวนะพี่อยู่นี่แล้ว “ วิสาที่เห็นว่าน้องสาวตัวสั่นด้วยความกลัวเธอก็เดินเข้ามาสวมกอดน้องสาวเอาไว้
“ มึงเปิดประตูให้กูเดี๋ยวนี้อีวิสา! “ สองพี่น้องสะดุ้งแรงเมื่อมีเสียงทุบประตูดังลั่น
“ ทำยังไงดี “ ณิหลาหันมาถามพี่สาวอย่างสั่นกลัว
“ ไม่ต้องกลัวนะณิหลา เดี๋ยวป้ามะลิก็กลับมาแล้ว “ สองพี่น้องยังคงคาดหวังว่าคนเป็นแม่เลี้ยงจะมาช่วยพวกเธอ
ปั่ง! เสียงประตูถูกถีบออกพร้อมกับร่างของไอ้วิสิตที่เดินกรอกเหล้าใส่ปากเข้ามาที่ประตู แสงฟ้าแลบก็สว่างขึ้นมาเป็นรอบๆ ยิ่งสร้างความหน้าหวาดกลัวให้สองสาวพี่น้องเข้าไปใหญ่
“ เอายังไงดี “ ณิหลาหันมาถามกับวิสาทั้งคู่ต่างหวาดกลัวไม่ต่างกัน แค่วิสานั้นมีสติมากกว่าเท่านั้นเอง
“ นับหนึ่งถึงสามแล้วรีบวิ่งออกจากห้องเลยนะ “ วิสาหันมากระซิบบอกกับน้อง เมื่อเห็นไอ้วิสิตเดินผ่านเข้าประตูมา วิสาก็เริ่มนับ
“ หนึ่ง! สอง!! สาม!! “ สองพี่น้องวิ่งผ่านไอ้วิสิตไปคนละทางทำให้ไอ้วิสิตที่สับสนแยกไม่ออกว่าคนใดคือวิสา บวกกับมือของมันถือขวดเหล้าอยู่ จึงจับสองสาวไว้ไม่ทัน สองสาวคิดว่าตัวเองจะรอดแล้ว แต่ประตูทุกบานรวมถึงหน้าต่างล้วนถูกล็อคจากด้านนอก
“ ป้ามะลิ! ป้าทำอะไร! “ วิสาที่เหลียวเห็นว่าใครเป็นคนล็อคประตูขังพวกเธอ เธอก็รีบร้องเรียก
“ เปิด! เปิดประตู! “ ณิหลาทุบไปที่ประตูตาหวานก็เหลือบมองหลังไปดูไอ้วิสิตเป็นพักๆ
“ ฮาฮ่า พวกแกหนีฉันไม่รอดหรอก ตอนแรกว่าจะเอาแค่อีวิสาคนเดียว แต่ได้มารวบสองเสียได้ “ วิสิตยืนแสยะยิ้มมองสองสาว
“ ช่วยด้วย ช่วยพวกเราด้วย ช่วยด้วย “ วิสาร้องโวยวาย สองพี่น้องพากันจับมือวิ่งไปทั่วบ้าน ไอ้วิสิตที่มือของมันถือขวดเหล้าวิ่งเข้าใส่พวกเธอ แววตาของมันนั้นเต็มไปด้วยตัณหา
“ มึงจะไปไหน “ ร่างของชายแก่วิ่งมายืนประจันหน้ากับหญิงสาว
“ อย่าทำอะไรให้ฉันเลย ขอร้องละ “
“ ฮาฮ่า กูต้องฟังมึงด้วยหรือไง “
“ อ๊าย! “ วิสาโดนไอ้วิสิตดึงผมเปียของเธอ ที่น้องสาวเพิ่งจะถักให้เมื่อเช้า หญิงสาวถูกลากให้นอนหงายลงที่พื้น
“ อย่า! หนีไป!! ณิหลา เข้าห้องไป! “ วิสาที่ถูกไอ้วิสิตขึ้นคร่อมรีบร้องเรียกสติน้องสาวที่เอาแต่ยืนตัวสั่น ณิหลาที่กำลังหวาดกลัวรีบหันหลังวิ่งหนี แต่เธอก็ถูกไอ้วิสิตขว้างแก้วเหล้าใส่กลางหลังจนร่างของเธอล้มลงไปนอนคว่ำที่พื้น เนื่องจากความเจ็บ เลือดสีแดงสดอาบขึ้นมาที่กลางแผ่นหลัง
“ ณิหลา รีบลุกแล้วหนีไป! “ ณิหลาหันหน้าไปมองพี่สาวที่กำลังถูกไอ้วิสิตทำร้าย มันต่อยเข้าที่ท้องเธอ ถอดเสื้อผ้าของเธอออกแล้วกำลังเริ่มบทสวาทข่มเหงรังแกหญิงสาว ณิหลาที่ทั้งเจ็บและกลัวรีบคลานเข้าห้องของคนเป็นพ่อแล้วล็อคประตูขังตัวเองเอาไว้ข้างใน
“ อ๊า..อย่า โอ้ย เจ็บ อือ อา…อือ “ ณิหลาตัวสั่นหวาดกลัวรีบเอามือขึ้นอุดหู เธอต้องทนฟังเสียงพี่สาวร้องครางโอดโอยเพราะโดนคนเลวย่ำยีทั้งที่ตัวเธอไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย วรรณิหลาตอนนี้เจ็บแสบไปทั้งตัว สติสตางของเธอเลื่อนลอย ดวงใจเต้นตุ๊บๆ เหมือนมันจะระเบิดออกมาอย่างไรอย่างนั้น
“ อ๊าย!!!!! “ เมื่อมันกลัวจนถึงขีดสุด เธอก็กรีดร้องออกมาอย่างอัดอั้น แม้ณิหลาจะกรี๊ดดังที่สุดเท่าที่ชีวิตของเธอจะเคยมี แต่ทว่ากลับไม่มีใครได้ยินเสียงเพราะฟ้าฝนที่มันเป็นใจให้คนชั่ว โหมกระหน่ำฝนเม็ดใหญ่พร้อมดลบันดาลเสียงฟ้าร้องดังสนั่น จนคนอื่นที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงยังไม่มีใครร่วงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ
เวลาผ่านล่วงเลยไป ฟ้าฝนเริ่มผ่อนแรงกระหน่ำลง เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของพี่สาวฝาแฝดที่เงียบไป ทำให้สติของวรรณิหลาที่หลุดลอยไปนานแล้ววนกลับมาเยือนร่าง จนเธอที่เหม่อเหมือนไร้วิญญาณเริ่มมีสติ ณิหลาเปิดแง้มประตู มองออกไปก็เห็นวิสาที่ร่างกายเปื่อยเปล่านอนหายใจโรยรินอยู่กลางบ้าน
“ วิสา!! “ ณิหลาเห็นแบบนั้นหัวใจของเธอก็แตกสลาย เธอรีบวิ่งเข้าไปพยุงร่างพี่สาว ให้ลุกนั่ง ตากลมจ้องไปที่ร่างสวยของคนพี่ที่บัดนี้เต็มไปรอยช้ำแดง และคราบเลือดที่บริเวณมุมปากและหว่างขา ณิหลาน้ำตาท่วมแก้มยกมือขึ้นปาดคราบเลือดตรงมุมปากของพี่สาว
“ ณิหลาขอโทษ “ สิ่งเดียวที่ณิหลาทำได้ตอนนี้คือพร่ำเพ้อขอโทษคนในอ้อมแขน วิสาที่นอนนิ่งทั้งเหนื่อยกายเหนื่อยใจหายใจโรยรินเหมือนคนใจจะขาด สองพี่น้องนั่งกอดกันร้องไห้จนฟ้าสาง
สองร่างยืนเบียดกันอยู่ที่ประตูกระจกทางออกไปยังระเบียงห้องหอ คุณหมอสวมกอดภรรยาของเขาแนบแน่นแล้วจรดจมูกหอมลงบนแก้มนิ่มหอมแล้ว ก็หอมอีก เหมือนกับว่ามันไม่อาจเพียงพอต่อความต้องการในตัวเขา“ พี่หมอ ณิหลาจั๊กจี้น่า “ หญิงสาวเบี่ยงตัวหนีพร้อมเดินออกมาจากอ้อมแขนของเขา ไนยะเห็นเช่นนั้นก็เผยยิ้มรีบปิดผ้าม่านเอาไว้แล้วจ้องมาที่ร่างบาง“ พี่หมอ วันนี้งดไม่ได้หรือคะ “ “ บ้า วันนี้วันเข้าหอนะ ขนาดวันธรรมดาพี่ยังทำทุกคืน วันเข้าหอแบบนี้พี่จะพลาดได้ยังไง “ เขาเดินมายืนต่อหน้าของหญิงสาว ณิหลาก้มหน้าหงุดคิดหาทางรอด “ งั้นณิหลาไปอาบน้ำก่อนนะคะ “ หญิงสาวว่าจบก็รีบจับผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ “ เฮ้ยเดี๋ยว! น้องคิดว่าจะหนีพี่พ้นเหรอ “ เขาก็รีบวิ่งตามเธอเข้าไป ผ่านไปหลายชั่วโมงสองร่างของคู่รักก็มานอนกอดกันอยู่บนเตียง “ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าวันที่ณิหลาถูกวางยาแล้วมาเจอกับพี่..จะทำให้เรามีวันนี้ “ หญิงสาวที่นึกคิดถึงความหลังเรื่องราวเลวร้ายและคนชั่วร้ายที่เคยเข้ามาในชีวิตเธอ บัดนี้มันได้หายไปหมดสิ้น ทุกคนที่เคยทำร้ายเธอต่างได้รับโทษกรรม บ้างก็ติดคุกบ้างก็หายสาบสูญ เหลือไว้ก็แค่คนที่ดีและรักเธอจริงๆ หน
หลายวันต่อมาคุณหมอณัฐชัยเพิ่งกลับมาจากทำงาน ลงจากรถเขาก็รีบออกตามหาเมียไปทั่วบ้าน“ ณิหลาครับพี่กลับมาแล้ว ไปไหนเนี่ย ? “ เมื่อหาจนทั่วแล้วไม่เจอเธอ เขาจึงจะเดินไปหาที่บ้านแม่ แต่ทว่าเมื่อเขาเดินออกมายังหน้าบ้าน ก็เห็นว่าที่ภรรยาเดินกลับมาจากจุดหมายที่เขากำลังจะไปพอดี “ ทำไมมาสภาพนี้? “ ไนยะเดินเข้าไปประคองเธอที่กำลังเดินเซ ใบหน้าแดงแจ๋เพราะฤทธิ์เมา หญิงสาวซบลงตรงหน้าอกของคนตรงหน้า ไนยะก็รีบกอดเธอเอาไว้ “ แม่ชวนไปเลือกบัดเชิญงานแต่งมานะคะ แล้วคุณแม่ก็เอายาดองสูตรเด็ดมาแบ่งณิหลาจิบๆ “ มือน้อยยกขึ้นจับจีบตรงหน้าแฟนเพื่อจะบอกเขาไปว่าจิบแค่นี้ “ นี่แม่ชวนน้องเมาเหรอ “ “ ใช่ แต่แค่นิดหน่อยเอง จิบๆ “ “ ไม่จิบ ไม่หน่อยแล้วมั้งแบบนี้นะ “ เขาอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าหญิง แล้วพามาส่งที่โซฟาในบ้าน เมื่อวางเธอนั่งลงปุ๊บมือเล็กก็ทาบลงตรงหว่างขาของเขาทันที “ หยุดๆ ณิหลา !” เขารีบปรามเธอที่กำลังบีบตรงนั้นของเขาเล่น จนเขาเกิดมีอารมณ์“ ทำไม? มันแข็งแล้วนี่ค่ะ “ ไนยะรีบดึงแขนของเธอออกจากเป้าเขา“ อย่าดื้อได้มั้ยตัวแสบ “ แต่คนเมาหาได้ฟังเขาไม่ มือเล็กดึงเขามานั่งข้างเธอจากนั้นจึงซุกหน้าลงหว่างขาของเขา
“ พี่หมอตื่นได้แล้ว มันจะแปดโมงแล้วนะคะ “ ณิหลาที่ตื่นมาได้สักพักแล้ว รีบปลุกคนที่ยังคงหลับคาเต้าของเธอให้มีสติ“ พี่ไน!!! “ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ขยับเธอจึงตะคอกใส่เขาเสียงดัง จนชายหนุ่มสะดุ้งลืมตา“ หา ห๊ะ!! “ ไนยะโงหัวขึ้นมาจ้องหน้าเมีย “ อีกสิบนาทีจะแปดโมง วันนี้ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลเหรอ “ มือใหญ่ยกขึ้นลูบผมตัวเองที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ดวงตาที่กึ่งหลับกึ่งตื่นโตขึ้น“ ไปสิ พี่มีนัดผ่าตัดตอนเก้าโมงด้วย “ เขาคลานลงจากเตียงแล้วยืนบิดขี้เกียจ วรรณิหลาจ้องเขาด้วยใบหน้าร้อนผ่าว เหตุเพราะเขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แล้วเจ้านั้นมันก็แกว่งไปแกว่งมาเวลาที่เขาขยับ“ พี่อาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวจะไปไม่ทัน “ คนโดนมองไม่รู้ตัวเลย เขารีบจับเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำให้หญิงสาวได้สติ รีบส่ายหน้า“ พี่ให้ณิหลาเตรียมอะไรไว้ให้กินมั้ยคะ “ “ ไม่เป็นไร น้องนอนต่อเถอะ “ ณิหลานั่งอมยิ้มมองไปที่ประตู ซึ่งที่เป็นแบบนี้เพราะเมื่อคืนแม้จะเคลิ้มหลับกันไปแล้ว แต่ตอนเขาหายเหนื่อยได้สติตื่นขึ้นมา เขาก็สะกิดเธอทั้งคืน คิดได้แบบนั้นเธอก็เปิดผ้าห่มก้มมองหว่างขาตัวเอง ที่ตอนนี้เหมือนมันจะปวดแสบปวดร้อนไปหมด เขากะจะให้เธ
บ้านคุณหมอ“ ณิหลาครับ “ คุณหมอณัฐชัยที่เพิ่งจะอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จ เดินเข้ามาหาแฟนสาวที่กำลังยืนเหม่ออยู่ตรงระเบียงห้องนอน เมื่อร่างของเขาเดินมาถึงตัวเธอก็เข้าแนบชิดด้วยการสวมกอดใบหน้าคมซุกใส่ซอกคอขาวเพื่อสูดดมคนรัก“ เหม่ออะไรอยู่ครับที่รักของหมอไน “ เขาจรดจมูกหอมไปที่แก้มของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้ากินได้เขาคงจะกลืนเธอลงท้องไปแล้ว “ พี่หมอ กลืนณิหลาลงท้องไปเลยไหมคะ “ “ ถ้าทำได้พี่ก็คงทำไปนานแล้วละ แต่น้องยังไม่ให้คำตอบพี่เลยนะ ว่ายืนคิดอะไรอยู่ “ มือใหญ่สองข้างจับที่ราวระเบียงแล้วให้คนตัวน้อยอยู่ตรงกลางระหว่างแขนของเขา“ ณิหลาก็แค่กำลังคิด เรารู้จักกันมาได้แค่ 3-4 เดือนแต่จะแต่งงานกันแล้ว ณิหลาเลยอยากรู้ว่าอะไรทำให้พี่หมอคิดว่า ณิหลาคือคนที่ใช่ของพี่ คนที่พี่อยากแต่งงานด้วย “ ร่างเล็กหันมาแล้วเงยหน้าจ้องคนที่เธอถาม “ ก็คงจะเป็นคำตอบเดียวกัน ถ้าพี่ถามน้องกลับว่าทำไมน้องถึงได้ตกลงจะแต่งกับพี่ “ คนฟังเผยยิ้ม “ ก็เพราะความรู้สึกยังไงละค่ะ เพราะณิหลารู้สึกอยากแต่งแล้วก็ใช้ชีวิตร่วมกับพี่ “ คนพี่ก้มลงมาจ้องตากลม“ ใช่ พี่เองก็รู้สึกแบบเดียวกับน้องนั่นแหละ ถึงได้ขอน้องแต่งงาน เพราะพี่เอ
“ เอ้า ยืนยิ้มกันอยู่นั้นแหละ “ หนึ่งเดียวที่เห็นเพื่อนมัวแต่ยืนเขินจ้องหน้าณิหลา จึงยื่นมือมาดันหลังให้เพื่อนขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น ไนยะอมยิ้มเขินให้คนตรงหน้าเล็กน้อย “ ณิหลา รู้มั้ยครับ ว่าวันนั้นพี่รอดมาได้ยังไง “ เสียงทุ้มแผ่วถาม คนฟังก็ส่ายหน้า “ เพราะเสียงของน้อง ณิหลา เสียงของน้องเป็นแสงนำทางให้พี่กลับมา แล้วนี่ ดอกไม้สำหรับผู้หญิงของหมอไนครับ “ เขายื่นช่อดอกไม้ในมือส่งให้เธอ น้องก็เผยยิ้มให้แล้วรับมา “ ทำไมถึงเป็นดอกเดซี่ด้วยล่ะคะ “ “ น้องไม่รู้ความหมายของมันเหรอ “ “ ถ้าอยากให้รู้ก็บอกมาสิคะ “ “ ดอกเดซี่ หมายถึงเราจะอยู่ให้กำลังใจ และอยู่เคียงข้างกันตลอดไป แทนความรู้สึกของพี่ที่มีต่อน้อง แต่งงานกับพี่นะครับ “ เขาจับแหวนเพรชขึ้นมาโชว์ต่อหน้าเธอ หญิงสาวรีบยกมือปิดปากด้วยความซาบซึ้งตาของเธอแดงก่ำแต่บ่งบอกว่าเต็มไปด้วยความสุข หน้ามนรีบหันไปมองสนุ๊กกับพลอยซึ่งเป็นดั่งครอบครัวของเธอที่ยังเหลืออยู่ ทั้งสองคนรีบพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม “ ตกลง ณิหลาแต่งค่ะ “ เสียงหวานสั่นหันมายิ้มให้คนตรงหน้า ไนยะเห็นแบบนั้นก็รีบสวมแหวน พร้อมกับรีบสวมกอดเธอท่ามกลางเสียงตบมือยินดีของทุกคน“ เสี่ยคะ
สองอาทิตย์ต่อมา บ้านของหมอไนยะวรรณิหลาในชุดเดรสลูกไม้สีขาวยืนซึม เก็บหนังสือเรียน หนังสือการ์ตูนในตู้หนังสือของหมอไนยะออกมาใส่กล่อง “ ณิหลา เสร็จหมดหรือยัง “ ครีมหอมเดินเข้ามาหาณิหลาในบ้าน คนโดนเรียกรีบหันไปจ้องคนมาใหม่ “ อ้าว มากันแล้วเหรอ “ “ อืม ตอนนี้แม่ณัฐกับพี่เจนรออยู่ที่รถ เสร็จหมดแล้วหรือยัง มีแค่สองกล่องนี้เหรอ “ ครีมหอมจ้องมองที่กล่องบนโต๊ะ แล้วรีบช่วยณิหลาอุ้มเอากล่องออกมา“ แล้วพลอยกับลุงสนุ๊กของเราไปหรือยัง “ ณัฐลีถามเมื่อทั้งหมดขึ้นรถกันมาแล้ว “ เห็นว่าออกมาแล้ว ป่านนี้ก็คงจะถึงแล้วละค่ะ “ ณิหลาหันไปตอบคุณหญิง จากนั้นในรถก็เงียบไป เพราะคนพูดเก่งอย่างพลอยเจนต้องตั้งใจขับรถ ครีมหอมก็นั่งอยู่ด้านหน้า ทำให้ด้านหลังที่มีเพียงสาวอายุเยอะ กับวรรณิหลาที่ยังซึมๆ จึงไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกันมากนัก เมื่อรถขับใกล้ถึงโรงพยาบาล ณิหลาก็เกิดความสงสัย “ เราแค่มาแจกของให้เด็ก ทำไมต้องแต่งตัวชุดสวย หรูหราอย่างกับจะไปงานแต่งด้วยล่ะคะ “ หญิงสาวพูดพร้อมกับรอยยิ้มขบขันไม่เข้าใจ ครีมหอมกับพลอยเจนที่นั่งอยู่ข้างหน้าก็หันไปจ้องหน้ากันแล้วแอบอมยิ้ม“ เดี๋ยวพอเราไปถึงก็รู้เองแหละณิหลา “ ณ