ซ่างเซี่ยนทำสีหน้าตกใจไม่น้อย
“ตั้งแต่ ข้าน้อยอยู่กับนายหญิงนายหญิงก็ไม่เคยปริปาก ใช้แต่ภาษามือ”
“เจ้าไปตามหมอหลวงมาดูอาการของนาง”
หวาซงออกคำสั่ง อู่หงถิงส่ายหน้าไปมาเหมือนจะบอกว่าไม่ต้อง ทำให้ฟางหลุนลังเล
“รีบไปเดี๋ยวนี้เลย หากชายารองเป็นอะไรมากไปกว่านี้เกรงว่าเจ้านั่นล่ะที่จะมีความผิด”คราวนี้เป็น ฟางหลุนที่รีบวิ่งออกไปทันที
“ซ่างเซี่ยนรีบดึงแขน อู่หงถิงให้เข้าไปในห้องนั่งลงบนแท่นนอนหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ หวาซงได้แต่อยู่ด้านนอกมองเข้าไป
“เป็นอะไรไปท่านอ๋องทำอะไรเจ้า เจ้าจึงพูดไม่ได้เช่นนี้บอกข้ามาเถิด”
ช่างเซี่ยนสงสัยว่าจะเป็นหวาเซียงอ๋องที่ทำให้อู่หงถิงพูดไม่ได้ แต่อู่หงถิงไม่เข้าใจคำถามด้วยความห่วงใยของซ่างเซียน จึงส่ายหน้าไปมาเสีย
“บอกข้ามาข้ายินดีปกป้องเจ้า แต่อย่าได้บอกกับคนอื่นว่าท่านอ๋องกักขังและทำร้ายเจ้าเช่นนั้นเรื่องนี้หากแพร่ออกไปเกรงว่าจะไม่เป็นการดีต่อท่านอ๋อง”
อู่หงถิงยังคงส่ายหน้าซ่างเซี่ยนถอนหายใจ ท่านหมอเข้ามาพอดี
“ท่านหมอตรวจดูให้ถ้วนถี่ทำไมชายารองจึงไม่ยอมปริปาก มีสิ่งใดผิดปกติกัน”หมอหลวงประสานมือ ทำการตรวจดูทั้งหูคอและปากก่อนจะถอยออกมาตรงหน้าเหอซ่างเซี่ยนและหวาซงที่ยืนรอข้างนอก
“พระชายา ชายารองไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ แต่กระหม่อมเกรงว่าจะมีเรื่องใดที่กระทบจิตใจนางอย่างมากจึงไม่ยอมปริปาก”
“กระทบจิตใจ”หวาซงอ๋องทวนคำช้าๆ แววตาครุ่นคิด
“หลังจากที่ตรวจดูแล้วการได้ยินก็ยังใช้ได้ อีกทั้งลิ้นไก่ของนางก็ปกติ แต่...ชายารองนางไม่ยอมเปล่งเสียง กระหม่อมเองก็จนปัญญา มีเพียงตัวชายารองเท้านั้นจึงจะรู้ว่าทำไมตัวเองถึงไม่ยอมพูด และอีกวิธีคือหากข้าน้อยรู้สาเหตุอาจแก้ไขได้ในไม่ช้า”
ซ่างเซี่ยนได้แต่เพียงโบกมือให้หมอหลวงไปเสีย
“ชายาเอก ท่านคิดว่านางเป็นอะไร”
“ข้าคิดว่านางเพียงแค่ไม่อยากพูด อาจมีบางอย่างที่ทำให้นาง หวาดกลัวหรือตกใจ”
คิดไปถึงสิ่งที่หวาเซียงอ๋องทำกับ อู่หงถิง
เย็นมากแล้วหวาเซียงอ๋องเดินกลับเข้ามาที่พำนักพร้อมด้วยเสี่ยวกุน เหอซ่างเซี่ยนยืนรออยู่ที่หน้าห้อง พยุงซ่างเซี่ยนเข้าไปข้างใน
“หวางเฟยอากาศเริ่มเย็นออกมายืนรอข้า จะไม่สบายเอาได้”
“ท่านอ๋องเจ้าหรู นางๆๆ ”
หวาเซียงอ๋องขมวดคิ้ว
“นางแผลงฤทธิ์กับเจ้าหรือไร ข้าเห็นจะต้องลงทัณฑ์นางอีกแล้ว”
“ไม่ใช่อย่างที่ท่านอ๋องคิด แต่นางตอนนี้ไม่ยอมปริปากวันๆส่งภาษามือเหมือนคนเป็นใบ้ เกรงว่าใต้เท้ากวงรู้เข้าอาจไม่พอใจที่ท่านอ๋องแต่งนางเข้ามาไม่ทันไรนางกลับป่วยไข้”
“ข้าไม่ได้ทำอะไรนาง มีแต่นางที่คิดสังหารข้า”
“ท่านพี่ ท่านดีกับนางมากหน่อย ข้าคิดว่าไม่นานนางจะพูดได้วันนี้ข้าให้หมอหลวงมาตรวจดูอาการของนางหวาซงอ๋องก็อยู่ที่นี่”
มือใหญ่กำมัดแน่น
“หวาซงอ๋อง นึกแล้วไม่ผิดข่าวลือนั่น”
“ข่าวลือใดกัน เซี่ยนเซี่ยนไม่เคยได้ยิน”
“ข่าวรือเรื่องความสัมพันธ์ของ หวาซงกับกวงเจ้าหรูก่อนหน้านั้น นี่คงอดอยากได้ไม่นานจึงคิดมาเริงรักกันให้หายคิดถึงไม่น่าเชื่อว่าจะกล้ามาถึงจวนของข้า”
“ท่านพี่ข้ามองนางไม่ผิด นางยังพิสุทธิ์เช่นไรท่านถึงคิดว่านาง…”
“เซี่ยนเซี่ยนเจ้าเป็นคนจิตใจดีเพียงนี้ คงยังไม่รู้ว่าในวังหลวงล้วนมีเรื่องคาวโลกีย์มากมาย”
“ท่านอ๋อง หากจะปรักปรำนางคงไม่เหมาะ”
ยิ้มหยันที่ใบหน้า
“เจ้ารอดูว่าสิ่งที่ข้าพูดจะจริงเท็จแค่ไหน ตอนนี้ยังไม่ต้องเชื่อช้าก็ได้”
เหอซ่างเซี่ยนถอนหายใจหากเป็นเช่นที่หวาเซียงอ๋องพูดแสดงว่าซ่างเซี่ยนมองคนผิดไป หวาเซียงอ๋องก้าวขายาวๆ ตรงไปยังห้องของอู่หงถิงผลักประตูเข้าไป โบกมือไล่ฟางหลุน อู่หงถิงกับนอนขดตัวนิ่งบนแท่นนอน เมื่อเห้นว่าคนที่มาเป็นใครก็ใช้มือสองข้างกอดรอบเข่าไว้แน่นไม่แม้แต่จะหันมอง ในเมื่อตอนนี้กำลังวางแผนและกำลังหาทางที่จะหลุดพ้นความคิดของตัวเองที่ห่วงใยมารดาและน้องไหนจะเรื่องที่ต้องลงมือฆ่าหวาเซียงอ๋องจึงรู้สึกว่าตัวเองเศร้าสร้อยอย่างประหลาด
“ลุกขึ้น”
น้ำเสียงเต็มไปด้วยโทสะ อู่หงถิงยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นงอตัวให้คุ้ดคู้กว่าเดิม
"ข้าบอกให้ลุกขึ้น"
กระชากแขนที่กอดหัวเข่าไว้แน่น ร่างบางบัดนี้เป็นเพียงก้อนเนื้อกลมๆ ที่มองเพียงแว๊บแรกเหมือนไร้ซึ่งชีวิตหากไม่ติดที่ใบหน้างดงามนั้น
“เสี่ยวกุนปิดประตู”
หันไปสั่งเสี่ยวกุน อู๋หงถิงยังนอนนิ่งไม่ไหวติงคิดว่าจะขู่ได้แต่ไม่เป็นผล
“แสร้งป่วยไข้เรียกร้องความสนใจ ข้าจะดูว่าเจ้าจะไม่ยอมปริปากได้นานแค่ไหน”ลากร่างบางลงไปกองกับพื้นอ้อมแขนเล็กหลุดออกจากหัวเข่า เจ็บจนจุกแต่ก็ยังไม่เปล่งเสียง ยิ่งยั่วโทสะของอีกคน
“ซ่างเซี่ยนบอกให้ดีกับเจ้าหน่อย แต่ข้าว่าคงไม่เป็นผล”
ขึ้นคร่อมร่างบาง มือแข็งแรงจับมือบางทั้งสองข้างให้กางออกขาแกร่งกดทับหน้าขาของอู๋หงถิงจนเจ็บ อู๋หงถิงดิ้นรนกระเสือกกระสนแต่ถูกรวบลงไปนอนใต้ร่างของหวาเซียง
“จะทนได้กี่น้ำ”
มือใหญ่อีกข้างดึงทึ้งเสื้อผ้าออกจนออกเกือบจะเปล่าเปลือย อู่หงถิงแม้จะมีแววตาตื่นตระหนกแต่กับไม่มีเสียงร้อง ขยับตัวหนีความกักขฬะของอีกคน หวาเซียงกดเอวแนบกับเอวของอู๋หงถิงยิ้มหยันเมื่ออู่หงถิงไม่อาจขยับตัวได้ แต่หันหน้าหนีไม่ยอมมองหน้าเขา เขาจ้องมองเนินเนื้ออวบอิ่มตรงหน้าที่เขาเพิ่งจะดึงอาภรณ์ออกไป กลืนน้ำลายลงคอ
“ช่างเก่งเสียจริง ข้าน่ารังเกียจมากถึงกลับอยากให้ตายเลยหรือไร”
ดวงตาของอู่หงถิงเป็นประกายวาววับ หากฆ่าเขาตอนนี้ก็จะมีคนเป็นพยานทั้งเสี่ยวคุนและฟางหลุนที่อยู่ด้านอกคงได้ยินว่าหวาเซียงอ๋องข่มเหงอู่หงถิง
ตาเหลือบมองแจกันบนโต๊ะข้างแท่นนอนอันไม่เล็กนักหยุดดิ้นพักเอาแรงหันหน้ามาเผชิญหน้ากับอีกคนที่จ้องมองอยู่ก่อนแล้วตากลมเปล่งประกายวาวโรจน์ กับตาคมของหวาเซียงอ๋องที่มองอู่หงถิง
“หมดฤทธิ์แล้วหรือไร”
ตาจ้องมองริมฝีปากสีชมพูระเรื่อตาไม่กะพริบ บางอย่างในกายที่ห่างหายมานานเริ่มตื่นตัว พยายามหักห้ามใจแต่ไม่เป็นอย่างที่ใจต้องการร่างกายหาบังคับได้ไม่ หวาเซียงอ๋องขยับเอวกดกระแทกทั้งๆ ที่ยังมีอาภรณ์เหมือนตั้งใจแกล้งอู่หงถิง ยิ้มหยันที่อู่หงถิงไม่อยากเห็น ลอยอยู่ตรงหน้า
“จะดูว่าจะไม่พูดได้นานแค่ไหน ร้องสิหากไม่ชอบก็ร้องหากเจ้าไม่ร้องข้าจะถือว่าเจ้าเต็มใจและชอบที่ข้าทำแบบนี้”
อู่หงถิงใช้เท้าถีบพื้น เอาศีรษะชนกับโต๊ะที่ข้างแท่นนอน แจกันใบใหญ่ร่วงลงบนพื้น หวาเซียงอ๋องซบหน้าลงกับอกอุ่นนุ่ม มือเล็กถูกปล่อยให้เป็นอิสระอู่หงถิงคว้าแจกัน ด้วยมือเดียวทุบเข้าไปที่ศีรษะของหวาเซียงอ๋องอย่างจัง
“เพล้ง”
หวาเซียงอ๋องผุดลุกขึ้นคลำที่กลางศีรษะของเหลวอุ่นๆไหลออกจากบาดแผลที่เจ็บจี้ดถึงหัวใจ อู่หงถิงยืนตัวสั่นงันงก
เสี่ยวกุนกับฟางหลุนวิ่งเข้ามาพร้อมกัน ฟางหลุนถลาเข้าไปกอดรวบร่างเล็กของอู่หงถิงไว้แน่นตั้งใจปกป้องเพราะรู้ว่าหวาเซียงอ๋องโมโหเพียงใดในตอนนี้ เหอซ่างเซี่ยนเดินแกมวิ่งจากห้องของนาง มองคนนู้นทีคนนี้ที
หวาเซียงอ๋องจ้องมองมาที่อู่หงถิงสายตาแค้นเคือง แต่เพียงครู่ก็ยิ้มหยัน ยิ้มหยันที่ริมฝีปาก
“ขังนางห้ามส่งข้าวส่งน้ำ จนกว่าข้าจะสั่ง”
เหอซ่างเซี่ยนถลาเข้าหาหวาเซียงอ๋องที่ล้มทั้งยืนด้วยเสียเลือดมาก เลือดสดๆไหลนองพื้นสีแดงฉาน ฟางหลุนกอดอู่หงถิงแน่นขึ้นกว่าเดิมเพื่อปลอบใจ เมื่อเห็นว่าใบหน้าบางซีดเผือด
ผลไม้รสเปรี้ยวรสชาติดีไม่น้อยหงถิงคิดหวาเซียงอ๋องได้มาจากที่แห่งใด คนอย่างเขาเช่นไรจึงเสาะแสวงหาของแบบนี้มาได้หรือสั่งให้ใครไปเก้บมากันแน่แต่ก้ไม่ได้ถามไถ่“นายหญิง ไม่เสวยอะไร กินได้เพียงผลไม้รสเปรี้ยวเจ้าค่ะ”เสียงฟางหลุนคุยกับหวาเซียงอ๋องด้านนอกห้องโดยที่อีกคนไม่กล้าเข้ามาในเมื่อรู้ว่าหงถิงแพ้ท้องและแพ้ลามมาถึงเขาด้วยหลังจากที่รู้จึงทำได้เพียงอยุ่ห่างๆวันๆก็แค่แวะเวียนมาไม่กล้าเข้าไปหาเหมือนเคย“ยาบำรุง ข้าให้ท่านหมอจัดยาบำรุงที่ดีที่สุดในแคว้นฉานให้นายหญิงของเจ้า อย่าลืมเคี่ยวให้หงถิงดื่มเช้าเย็น ยานี้ยังช่วยเรื่องอาการแพ้ท้อง กว่าข้าจะได้มันมาต้องอาสาไปช่วยท่านหมอที่ไปเก็บสมุนไพรอยู่บนเขาห่างออกไปหลายลี้”ฟางหลุนยิ้มไม่อยากเชื่อว่าความรักเปลี่ยนคนได้เพียงนี้ท่านอ๋องเดิมเฉยชาไม่ใส่ใจผู้ใดมาบัดนี้กลับเปลี่ยนจากคนเฉยชาเป็นคนที่ใส่ใจผู้อื่นยิ่งนัก"เจ้าค่ะท่านอ๋อง"ย่อกายลงรับบัญชา“นางผอมลงหรือไม่”น้ำเสียงห่วงใยไม่เปลี่ยน"เจ้าค่ะก็กินได้แค่ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างอื่นไม่อาจแตะต้องเครื่องหอมยังต้องโยนทิ้ง"เสียงฟางหลุนตอบเบาๆ"นางลำบากเพียงนี้เชียวหรือข้าจะแบ่งเบานางได้เช่นไรกัน"น้ำเสียง
หวาเซียงอ๋องก้าวเท้ายาวๆยังห้องของหงถิง ข้างหน้านั่นกลับเงียบจนน่าในหาย นางจะเป็นอย่างบ้าง อาการบาดเจ็บที่เขาเห็นรุนแรงไม่น้อย แต่ใจกลับกระหวัดคิดไปถึงเหอซ่างเซี่ยน ความครุกรุ่นบังเกิดขึ้นในใจก้าวขาออกไปจากตรงนั้นทันที“ท่านอ๋อง ชายารองบาดเจ็บถึงเพียงนั้นท่านยังใจร้ายกับนาง”กัวเฉา ประสานมือตัดสินใจอยู่นานกว่าจะกล้าพูด“นางทำให้เซี่ยนเซี่ยนตาย”“ท่านอ๋อง พระชายาเอกนางรู้ว่าตัวเองไม่แข็งแรงจึงนับว่าตัดสินใจไปแล้วด้วยความเด็ดเดี่ยวออกไปตามพระชายารองด้วยความเป็นห่วง ตอนที่กัวเฉาเจอพระชายารองนั้น นางพยายามส่งภาษามือให้กัวเฉาไปช่วยพระชายาเหอซ่างเซี่ยนแต่ว่ากัวเฉาไม่อาจรู้ว่านางต้องการจะบอกอะไรหากท่านอ๋องจะโกรธใครสักคนขอให้เป็น กัวเฉาเถิด ที่โง่งมไม่สามารถเข้าใจภาษามือ”“เจ้าจงใจพูดแทนนาง มีความหมายใดหรือไม่”“ท่านอ่องนางอาภัพ พูดไม่ได้อีกทั้งแต่งเข้ามาในจวนอ๋องหวังว่าท่านอ๋องจะดีกับนาง แค่แต่งมาเป็นชายารองก็นับว่ารันทดพอแล้วยิ่งเป็นชายารองของท่านอ๋องที่มีสายตามองแต่เพียง ชายาเอกยิ่งทำให้นางน่าสงสาร”“กัวเฉา”ตวาดลั่น“ท่านอ๋องหากกัวเฉา เป็นคนอื่นจึงมิกล้าพูดกับท่านอ่องแบบนี้ ท่านอ๋องเคยสงสั
กระท่อมกลางป่า“พระชายา เอ่อ ๆๆ ไท่จือเฟย ไท่จือเชิญท่านที่ตำหนักบูรพา”เสี่ยวกุน ประสานมือท่าทีนอบน้อม“ไท่จือ”หงถิงเลิกคิ้วสูง“ไท่จือ..เอ่อ..ไท่จือหวาเซียง ท่านอ๋องบัดนี้รั้งตำแหน่งไท่จือให้พระชายาเอ่อพูดผิดตลอด ให้ไท่จือเฟยเตรียมตัวย้ายเข้าไปที่ตำหนักบูรพา”หงถิงยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น“อย่างไรก็ต้องเข้าตำหนักบูรพาในวันนี้ในวันฤกษ์งามยามดี แต่ผิดกันที่ ….สามีเป็นข้า”กอดหงถิงจากด้านหลังไว้แน่น“ท่านพี่ ไหนบอกหงถิงว่าเราสองคนจะเร้นกาย”หงถิงทวงสัญญา“ข้าอยากไปแต่ตอนนี้เสด็จพ่อยังไร้คนที่วางใจได้”“ท่านพี่ ท่านก็เลยไม่วางใจ”“ข้า เกรงใจเจ้าไม่น้อย เจ้ายินดีเป็นไท่จือเฟยของข้าไหมไม่ว่าจะภูเขาดาบทะเลเพลิงเจ้ายังจะอยู่ข้างข้าอีกไหม”ก้มลงกระซิบข้างหู“ไม่ว่า ท่านพี่จะเป็นยาจกหรือฮ่องเต้ หงถิงยังจะเคียงข้าง บอกแล้วมิใช่หรือว่าแม้จะเร้นกายหงถิงก็จะเคียงข้างในเมื่อตอนนี้ท่านพี่เลือกที่จะกตัญญูต่อฝ่าบาทหงถิงจึงไม่อาจคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยยังพร้อมเคียงข้างเสมอ”“ขอบใจเจ้าอย่างไรจึงจะพอกับสิ่งที่เจ้าทำให้ข้า เจ้ายอมเคียงข้างข้าคนที่... เคยร้ายกับเจ้ามาก่อน”“แค่ได้อยู่ข้างกันหงถิงก็พอแล้วไม่ต้อ
“เจ้าเลิกพูดจาให้ร้ายข้า แล้วหาหลักฐานมายืนยันความผิดของข้า”“ข้านี่อย่างไรเล่าหลักฐานท่านพูดเองว่าข้าสมควรตายยาพิษที่ท่านใส่มันลงในอาหารแต่เป็นเพราะสวรรค์มีตา สาวใช้ของข้านางจึงยอมตายแทนเพื่อให้ข้าได้หนีมาเปิดโปงความผิดของท่านเป็นเช่นนี้ข้าจึงทำลายใบหน้าตัวเองเสีย สวรรค์มีตามือสังหารผู้นั้น ได้ลงชื่อสารภาพทุกอย่างไม่อย่างนั้นข้าจะรู้ได้อย่างไรว่า เขาทำงานผิดพลาดแล้วท่านเป็นคนสั่งให้เขาวางเพลิง ข้าแม้อยากให้นางตายเพียงใดก็ไม่คิดที่จะทำเช่นนั้น ท่านอาศัยคำขู่ของข้าเพื่อใส่ความข้า”ยื่นร่างคำสารภาพไปมาตรงหน้า หวาเซียงอ๋อง รับมันก่อนจะก้าวขึ้นไปบนบัลลังก์ ์ส่งถึงมือฮ่องเต้“กวงเจ้าหลัว ชั่วช้าเกินไปแล้ว แม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไขท่านยังใช้เป็นเครื่องมือ ทหารนำตัวไปคุมขังรอวันประหาร”“ฝ่าบาทกวงเจ้าหลัวขอความเป็นธรรม เจ้าหรูข้าก็มิได้บังคับให้นางต้องตายแต่เป็นเพราะหวาจิ้งอ๋อง เห็นว่านางกำลังตั้งครรภ์เกรงว่าหากหวาเซียงอ๋องรู้ว่านางตั้งครรภ์กับใคร เขาจะถูกลงทัณฑ์อีกทั้งคดียักยอกเงินในคลังหลวงในตอนนั้นเป็นหวาจิ้งอ๋องที่อยู่เบื้องหลัง จึงวางแผนให้เจ้าหรูเข้าไปขโมย หลักฐานจากจวนหวาเซียงอ๋องมาเจ้าห
“เสด็จพ่อ”หวาซงอ๋องพยายามเร่งรัดให้มอบเสื้อคลุมมังกรกับเขา“ลูกถูกหวาซง และมือสังหารของเขาล้อมกรอบแต่เป็นเพราะคมกระบี่ของหวาซงที่ทำให้ลูกเสียหลักตกลงไปที่หน้าผาสูง”“ฝ่าบาท ข้าเคยบอกแล้วว่ามือสังหารเหล่านั้นไม่ใช่ของข้า”หวาจิ้งอ๋องได้ที“หุบปากเจ้าเสียน้องรองไหนว่าจะจะอยู่ข้างข้า หากข้าช่วยให้เจ้าพ้นผิดเรื่องที่ฆ่ากวงเจ้าหรู”หวาซงอ๋องหันไปเล่นงานหวาจิ้งอ๋อง“พี่ใหญ่แผนของท่านรัดกุมก็จริง แต่หารู้ไม่ว่าข้าที่รอดมาได้ เพราะท่านไม่เคยจริงใจกับใครแม้แต่มือสังหารที่ทำงานให้ท่าน ท่านยังกำจัดพวกเขาเสียจนสิ้นข้าจึงได้โอกาสสวมรอยอาศัยศพของพวกเขาในการเร้นกายเพื่อรักษาตัว”“ไม่จริงเสด็จพ่อสิ่งที่หวาเซียงอ๋องพูดมาไม่เป็นความจริง”“เสด็จพ่อลูกอาศัยเปลี่ยนอาภรณ์และห้อยป้ายหยกให้กับศพของมือสังหารนายหนึ่งที่ใบหน้าแหลกเหลวจากการตกจากหน้าผา หนีรอดมาได้ เพราะรู้ดีว่าคนของหวาซงอ๋องจะต้องถูกส่งมาให้ค้นหาศพลูก”“หวาซงจริงหรือไม่”“เสด็จพ่อไม่เป็นความจริง หวาเซียงอ๋องพลัดตกจากเหวเอง ลูกไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขากัวเฉา ลากเอามือสังหารที่รอดชีวิตในวันเดียวกับหวาเซียงอ๋องเข้ามา“พูด”“ฝ่าบาท กระหม่อมเป็นมือสังห
“ก็…”กดริมฝีปากปิดปากบางไว้“ไม่ต้องพูดแล้ว แค่เจ้าไม่ยอมเป็นของหวาซง ข้าก็รู้ว่าเจ้ารักข้าเพียงใด ต้องขอบคุณคำพูดของหวาซง ที่บอกว่าจะดูแลชายารองของข้าตอนนั้นเองที่ทำให้ข้าคิดว่าข้าจะตายไม่ได้ทั้งที่เจ็บเจียนตาย เพื่อสิ่งที่เขาคิดจะได้ไม่มีทางเป็นจริงสิ่งเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อคือการที่ได้กลับมากอดเจ้าแบบนี้ แต่ก็กลัวเหลือเกินว่า เจ้าจะเห็นแก่ลาภยศยอมแต่งเข้าตำหนักบูรพา”“ไม่ ไม่ ไม่หงถิงยอมตาย”ตอบเร็วรี่“ ข้ารู้ ว่าเจ้าไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าจะต้องเป็นของข้า และให้ข้าได้รักเจ้าแบบนี้ตลอดไปข้าเองต่อจากนี้จะมีมีสายตาไว้มองใคร”หงถิงหน้าเศร้า เมื่อคิดถึงเหอซ่างเซี่ยน“ชายาเอกของท่านเล่า”หวาเซียงอ๋องยิ้มกว้าง“หงถิงหึงข้า ข้าดีใจที่สุด เซี่ยนเซี่ยนนางเป็นดั่งเพื่อนที่คอยหวังดี และเข้าใจข้ามาตลอด ป่านนี้นางก็คงดีใจที่ข้ารักเจ้าได้มากขนาดนี้ แม้เจ้าไม่ใช่เจ้าหรูเพราะความผิดพลาดแต่ความผิดพลาดน้้นกลับทำให้ข้ามีความสุขเพียงนี้"จุมพิตเบาๆ ที่หน้าผาก“คิดถึงหงถิง แล้วก้อนแป้งน้อยในท้องของพ่อเป็นอย่างไรบ้างโก้งโค้งจุมพิตที่หน้าท้องเปลือยเปล่า ที่มองเห็นมาป๋องนูนออกมาเพียงนิด“เจ้