“ข้ากับท่านอ๋องหาใช่ความรักล้วนมีเพียงความผูกพันข้านับวันยิ่งห่าง ท่านอ๋องเอง หลายปีมานี้ไม่ปรากฏรอยยิ้ม ข้าจึงขอร้องฝ่าบาทประทานชายารองให้เขาเสียเพื่อแบ่งเบาข้า แต่เรื่องนี้ห้ามรู้ถึงหูท่านอ๋องเป็นอันขาด ว่าทั้งหมดเป็นความคิดของข้า ข้าเองร่างกายอ่อนแอ จะอยู่ปรนนิบัติได้สักกี่วันต่อจากนี้ ชายารองเป็นคนของฝ่าบาทจึงดี หากท่านอ๋องโปรดปรานจึงนับว่านางช่วยสมานรอยร้าวกับฝ่าบาทได้ดีไม่น้อย ข้าหวังเพียงแค่เสด็จพี่ไม่หวาดระแวงในตัวท่านอ๋องแม้ตายก็หมดห่วง แต่หากข้าตายไปท่านอ๋องกับฝ่าบาทร้าวฉานข้าเกรงว่าจะตายตาไม่หลับ ฝ่าบาท เชื่อในคำฑูดของใต้เท้ากวงจึงพลอยบึ้งตึงกับท่านอ๋องไปด้วย”
“โถ ...พระชายาท่านช่างดีกับท่านอ๋องเสียจริงไม่เสียแรงที่ท่านอ๋องรักเทิดทูนท่านเหนือใคร”
อู๋หงถิง มองสำรวจรอบๆห้อง สาวใช้ฟางหลุนเก็บพับผ้าไปมาไม่ได้สนใจว่าอู่หงถิงจะทำอะไร
“นายหญิง ท่านอายุเท่าไหร่”อยู่ๆนางก็ถามขึ้น อู่หงถิงส่งภาษามือ
“นายหญิงท่านไม่อยากพูด หรือว่าไม่เคยพูดหากไม่อยากพูดทำไมท่านถึงเก่งการใช้ภาษามือแต่เดิมข้าเคยได้ยินมาว่าคนเป็นใบ้มักจะพูดไม่ได้ เพราะไม่เคยได้ยินแต่บางคนได้ยินแต่ไม่ยอมพูดเพราะสั่งตัวเองไม่ให้พูด เป็นเพราะว่าเจอเหตุการณ์ร้ายๆ มาก่อนนายหญิงท่านไม่เคยพูดมาก่อนใช่ไหม”
อู่หงถิงพยักหน้า จำไม่ได้ว่าตัวเองเคยพูดมาก่อนหรือไม่ ความจริงเคยหลายครั้งที่พยายามเปล่งเสียง แต่ก็รู้สึกไม่กล้า สุดท้ายก็เลิกล้มความตั้งใจอู่หงถิงได้ยินทุกอย่างเข้าใจความหมายของคำพูดแต่พูดไม่ได้ มารดาเองก็เคยสอนให้ออกเสียงแต่อู่หงถิงกับทำได้เพียงแต่ส่งภาษามือกลับไป
“ท่านอ๋องเป็นคนอารมณ์ร้อน หากท่านไม่พูดยิ่งเท่ากับยั่วโทสะท่านอ๋องเช่นนั้นบ่าวอยากจะบอกนายหญิงว่าหากท่านพูดได้ก็ให้พูดโต้ตอบท่านอ๋องไปเสียจึงดี”
อู่หงถิงส่งภาษามือบอกว่า อู่หงถิงหาสนใจไม่ว่าเขาจะมีโทสะหรือเปล่า สาวใช้ส่ายหน้าไม่มาหากเป็นเช่นนี้ ทำไมต้องแต่งเข้าจวนอ๋องด้วยทำไมไม่ปฏิเสธเสียตั้งแต่แรก
หวาจิ้งอ๋องสาวเท้าเข้ามา ในจวนหวาเซียงอ๋อง
“น้องสาม เพิ่งจะแต่งชายารอง ข้ามีเรื่องหารือจึงจะต้องมาถึงนี่ คาดว่าน้องสามคงไม่ไปไหนแน่”องค์ชายรองหวาจิ้งอ๋องทักขึ้น เมื่อเห็นหวาเซียงอ๋องนั่งอ่านตำราอยู่ ในศาลาริมน้ำ
“พี่รอง มาถึงนี่ต้องมีเรื่องสำคัญ”
รอฟังคำตอบ
“ไม่ไม่ไม่ แค่อยากจะมาดูว่าชายารองของเจ้าอยู่สบายดีไหม”
หวาเซียงอ๋องขมวดคิ้วนึกโมโหอู่หงถิง คิดว่านางปากโป้งเล่าเรื่องเมื่อคืนวันเข้าหอให้คนอื่นฟัง
“ทำไมพี่รองถามแบบนั้น”
“555ชายารอง งามล่มเมืองอีกทั้งหวาเซียงอ๋องของเรารู้ๆ กันอยู่ชายาเอกล้มป่วยเสียนานขาดการปรนนิบัติ พี่รองเลยอยากรู้ว่าชายารอง... ป่านนี้มิโดนสูบลมปราณจนหมดตัวแล้วหรือ555”
อารมณ์ขันของหวาจิ้งอ๋องมีมากมายจนบางที คนที่เขาคุยด้วยตามไม่ทัน หวาเซียงอ๋องได้แต่ยิ้มบางๆ
“นางยังอยู่เรี่ยวแรงยังเหลือเฟือ ข้ายังไม่ได้แตะต้องนาง”
องค์ชายรองเลิกคิ้วสูง
“ไม่ดีแน่แบบนี้ เจ้าปล่อยตัวเองเสียนาน มิใช่จะตายด้านไปแล้วหรือข้ามียาดี หลายขนาน ไว้จะแบ่งมาให้เจ้าหรือว่าจะให้เสี่ยวกุนไปรับมาเคี่ยวให้เจ้าดื่มเสียทันทีทิ้งไว้นานอาการย่อมกำเริบ”
หวาเซียงอ๋องส่ายหน้าไปมา
“พี่รองไม่ต้องกังวลข้ากับนาง ยังต้องใช้เวลานางเองไม่ได้เต็มใจแต่งเป็นเมียข้าอย่างที่รู้ๆกัน ส่วนข้าเองไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าก็ยังมีซ่างเซี่ยนในใจเสมอ”
“เฮ้อ เป็นสามีภรรยากัน แต่เจ้ากับพูดแบบนี้เกรงว่าหากชายารองของเจ้ามาได้ยินนางคงเสียใจไม่น้อย”
หวาเซียงอ๋องได้แต่ยิ้มหยัน อยากจะบอกเหลือเกินว่านางถึงกับจะสังหารเขานางคงไม่มีสักนิดที่จะเสียใจในคำพูดของเขา
องค์ชายใหญ่หวาซงอ๋องก้าวข้าเข้ามาในตำหนักท่าทีองอาจ แต่แทนที่เขาจะเข้าไปหาหวาเซียงอ๋องเขากลับเดินลัดเลาะไปเมียงมองยังที่พำนักของอู่หงถิง
“ท่านอ๋องลมอะไรหอบมาถึงนี่”
ซ่างเซี่ยนเอ่ยปากทักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ชายาเอกหวาเซียงอ๋องวันนี้หน้าตาสดชื่น อาการป่วยคาดว่าจะเป็นปกติแล้วใช่หรือไม่”
ยิ้มด้วยสีหน้าเป็นมิตร
“ท่านอ๋องอยู่ที่ห้องทำงาน เชิญท่านที่นั่นจะดีกว่าที่นี่เป็นที่พำนักของข้ากับท่านอ๋อง”
“แล้วชายารองของหวาซียงอ๋องเล่าพำนักที่ใด”
“อ๋อนางอยู่ห้องทางซ้ายมือ ไม่ทราบว่าหวาซงอยากพบนางใช่หรือไม่”
“ข้าหาต้องการพบนาง แค่เพียงสงสัยเพราะชายาท่านบอกว่าเป็นที่พำนักของหวาเซียงอ๋องกับเจ้า เกรงว่านางเป็นชายารองอาจมีที่พำนักอยู่ที่อื่นเป็นแน่”
อู่หงถิงก้าวขาออกมาข้างนอกพร้อมด้วยฟางหลุน หวาซงอ๋องชายาตามองอู่หงถิงเพียงแว็บเดียว ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก้มหัวลงช้าๆ อู่หงถิงเองก็ย่อตัวให้ด้วยความเกรงใจ
“สบายดีไหม”
อู่หงถิงเลิกคิ้วก่อนจะส่งภาษามือหวาซงขมวดคิ้ว
“นายหญิง พูดไม่ได้เจ้าค่ะ”ฟางฟลุนตอบแทน
“ตามหมอหลวงหรือยังมีสิ่งใดผิดปกติกันน้องหญิงถึงไม่พูด”
ผลไม้รสเปรี้ยวรสชาติดีไม่น้อยหงถิงคิดหวาเซียงอ๋องได้มาจากที่แห่งใด คนอย่างเขาเช่นไรจึงเสาะแสวงหาของแบบนี้มาได้หรือสั่งให้ใครไปเก้บมากันแน่แต่ก้ไม่ได้ถามไถ่“นายหญิง ไม่เสวยอะไร กินได้เพียงผลไม้รสเปรี้ยวเจ้าค่ะ”เสียงฟางหลุนคุยกับหวาเซียงอ๋องด้านนอกห้องโดยที่อีกคนไม่กล้าเข้ามาในเมื่อรู้ว่าหงถิงแพ้ท้องและแพ้ลามมาถึงเขาด้วยหลังจากที่รู้จึงทำได้เพียงอยุ่ห่างๆวันๆก็แค่แวะเวียนมาไม่กล้าเข้าไปหาเหมือนเคย“ยาบำรุง ข้าให้ท่านหมอจัดยาบำรุงที่ดีที่สุดในแคว้นฉานให้นายหญิงของเจ้า อย่าลืมเคี่ยวให้หงถิงดื่มเช้าเย็น ยานี้ยังช่วยเรื่องอาการแพ้ท้อง กว่าข้าจะได้มันมาต้องอาสาไปช่วยท่านหมอที่ไปเก็บสมุนไพรอยู่บนเขาห่างออกไปหลายลี้”ฟางหลุนยิ้มไม่อยากเชื่อว่าความรักเปลี่ยนคนได้เพียงนี้ท่านอ๋องเดิมเฉยชาไม่ใส่ใจผู้ใดมาบัดนี้กลับเปลี่ยนจากคนเฉยชาเป็นคนที่ใส่ใจผู้อื่นยิ่งนัก"เจ้าค่ะท่านอ๋อง"ย่อกายลงรับบัญชา“นางผอมลงหรือไม่”น้ำเสียงห่วงใยไม่เปลี่ยน"เจ้าค่ะก็กินได้แค่ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างอื่นไม่อาจแตะต้องเครื่องหอมยังต้องโยนทิ้ง"เสียงฟางหลุนตอบเบาๆ"นางลำบากเพียงนี้เชียวหรือข้าจะแบ่งเบานางได้เช่นไรกัน"น้ำเสียง
หวาเซียงอ๋องก้าวเท้ายาวๆยังห้องของหงถิง ข้างหน้านั่นกลับเงียบจนน่าในหาย นางจะเป็นอย่างบ้าง อาการบาดเจ็บที่เขาเห็นรุนแรงไม่น้อย แต่ใจกลับกระหวัดคิดไปถึงเหอซ่างเซี่ยน ความครุกรุ่นบังเกิดขึ้นในใจก้าวขาออกไปจากตรงนั้นทันที“ท่านอ๋อง ชายารองบาดเจ็บถึงเพียงนั้นท่านยังใจร้ายกับนาง”กัวเฉา ประสานมือตัดสินใจอยู่นานกว่าจะกล้าพูด“นางทำให้เซี่ยนเซี่ยนตาย”“ท่านอ๋อง พระชายาเอกนางรู้ว่าตัวเองไม่แข็งแรงจึงนับว่าตัดสินใจไปแล้วด้วยความเด็ดเดี่ยวออกไปตามพระชายารองด้วยความเป็นห่วง ตอนที่กัวเฉาเจอพระชายารองนั้น นางพยายามส่งภาษามือให้กัวเฉาไปช่วยพระชายาเหอซ่างเซี่ยนแต่ว่ากัวเฉาไม่อาจรู้ว่านางต้องการจะบอกอะไรหากท่านอ๋องจะโกรธใครสักคนขอให้เป็น กัวเฉาเถิด ที่โง่งมไม่สามารถเข้าใจภาษามือ”“เจ้าจงใจพูดแทนนาง มีความหมายใดหรือไม่”“ท่านอ่องนางอาภัพ พูดไม่ได้อีกทั้งแต่งเข้ามาในจวนอ๋องหวังว่าท่านอ๋องจะดีกับนาง แค่แต่งมาเป็นชายารองก็นับว่ารันทดพอแล้วยิ่งเป็นชายารองของท่านอ๋องที่มีสายตามองแต่เพียง ชายาเอกยิ่งทำให้นางน่าสงสาร”“กัวเฉา”ตวาดลั่น“ท่านอ๋องหากกัวเฉา เป็นคนอื่นจึงมิกล้าพูดกับท่านอ่องแบบนี้ ท่านอ๋องเคยสงสั
กระท่อมกลางป่า“พระชายา เอ่อ ๆๆ ไท่จือเฟย ไท่จือเชิญท่านที่ตำหนักบูรพา”เสี่ยวกุน ประสานมือท่าทีนอบน้อม“ไท่จือ”หงถิงเลิกคิ้วสูง“ไท่จือ..เอ่อ..ไท่จือหวาเซียง ท่านอ๋องบัดนี้รั้งตำแหน่งไท่จือให้พระชายาเอ่อพูดผิดตลอด ให้ไท่จือเฟยเตรียมตัวย้ายเข้าไปที่ตำหนักบูรพา”หงถิงยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น“อย่างไรก็ต้องเข้าตำหนักบูรพาในวันนี้ในวันฤกษ์งามยามดี แต่ผิดกันที่ ….สามีเป็นข้า”กอดหงถิงจากด้านหลังไว้แน่น“ท่านพี่ ไหนบอกหงถิงว่าเราสองคนจะเร้นกาย”หงถิงทวงสัญญา“ข้าอยากไปแต่ตอนนี้เสด็จพ่อยังไร้คนที่วางใจได้”“ท่านพี่ ท่านก็เลยไม่วางใจ”“ข้า เกรงใจเจ้าไม่น้อย เจ้ายินดีเป็นไท่จือเฟยของข้าไหมไม่ว่าจะภูเขาดาบทะเลเพลิงเจ้ายังจะอยู่ข้างข้าอีกไหม”ก้มลงกระซิบข้างหู“ไม่ว่า ท่านพี่จะเป็นยาจกหรือฮ่องเต้ หงถิงยังจะเคียงข้าง บอกแล้วมิใช่หรือว่าแม้จะเร้นกายหงถิงก็จะเคียงข้างในเมื่อตอนนี้ท่านพี่เลือกที่จะกตัญญูต่อฝ่าบาทหงถิงจึงไม่อาจคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยยังพร้อมเคียงข้างเสมอ”“ขอบใจเจ้าอย่างไรจึงจะพอกับสิ่งที่เจ้าทำให้ข้า เจ้ายอมเคียงข้างข้าคนที่... เคยร้ายกับเจ้ามาก่อน”“แค่ได้อยู่ข้างกันหงถิงก็พอแล้วไม่ต้อ
“เจ้าเลิกพูดจาให้ร้ายข้า แล้วหาหลักฐานมายืนยันความผิดของข้า”“ข้านี่อย่างไรเล่าหลักฐานท่านพูดเองว่าข้าสมควรตายยาพิษที่ท่านใส่มันลงในอาหารแต่เป็นเพราะสวรรค์มีตา สาวใช้ของข้านางจึงยอมตายแทนเพื่อให้ข้าได้หนีมาเปิดโปงความผิดของท่านเป็นเช่นนี้ข้าจึงทำลายใบหน้าตัวเองเสีย สวรรค์มีตามือสังหารผู้นั้น ได้ลงชื่อสารภาพทุกอย่างไม่อย่างนั้นข้าจะรู้ได้อย่างไรว่า เขาทำงานผิดพลาดแล้วท่านเป็นคนสั่งให้เขาวางเพลิง ข้าแม้อยากให้นางตายเพียงใดก็ไม่คิดที่จะทำเช่นนั้น ท่านอาศัยคำขู่ของข้าเพื่อใส่ความข้า”ยื่นร่างคำสารภาพไปมาตรงหน้า หวาเซียงอ๋อง รับมันก่อนจะก้าวขึ้นไปบนบัลลังก์ ์ส่งถึงมือฮ่องเต้“กวงเจ้าหลัว ชั่วช้าเกินไปแล้ว แม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไขท่านยังใช้เป็นเครื่องมือ ทหารนำตัวไปคุมขังรอวันประหาร”“ฝ่าบาทกวงเจ้าหลัวขอความเป็นธรรม เจ้าหรูข้าก็มิได้บังคับให้นางต้องตายแต่เป็นเพราะหวาจิ้งอ๋อง เห็นว่านางกำลังตั้งครรภ์เกรงว่าหากหวาเซียงอ๋องรู้ว่านางตั้งครรภ์กับใคร เขาจะถูกลงทัณฑ์อีกทั้งคดียักยอกเงินในคลังหลวงในตอนนั้นเป็นหวาจิ้งอ๋องที่อยู่เบื้องหลัง จึงวางแผนให้เจ้าหรูเข้าไปขโมย หลักฐานจากจวนหวาเซียงอ๋องมาเจ้าห
“เสด็จพ่อ”หวาซงอ๋องพยายามเร่งรัดให้มอบเสื้อคลุมมังกรกับเขา“ลูกถูกหวาซง และมือสังหารของเขาล้อมกรอบแต่เป็นเพราะคมกระบี่ของหวาซงที่ทำให้ลูกเสียหลักตกลงไปที่หน้าผาสูง”“ฝ่าบาท ข้าเคยบอกแล้วว่ามือสังหารเหล่านั้นไม่ใช่ของข้า”หวาจิ้งอ๋องได้ที“หุบปากเจ้าเสียน้องรองไหนว่าจะจะอยู่ข้างข้า หากข้าช่วยให้เจ้าพ้นผิดเรื่องที่ฆ่ากวงเจ้าหรู”หวาซงอ๋องหันไปเล่นงานหวาจิ้งอ๋อง“พี่ใหญ่แผนของท่านรัดกุมก็จริง แต่หารู้ไม่ว่าข้าที่รอดมาได้ เพราะท่านไม่เคยจริงใจกับใครแม้แต่มือสังหารที่ทำงานให้ท่าน ท่านยังกำจัดพวกเขาเสียจนสิ้นข้าจึงได้โอกาสสวมรอยอาศัยศพของพวกเขาในการเร้นกายเพื่อรักษาตัว”“ไม่จริงเสด็จพ่อสิ่งที่หวาเซียงอ๋องพูดมาไม่เป็นความจริง”“เสด็จพ่อลูกอาศัยเปลี่ยนอาภรณ์และห้อยป้ายหยกให้กับศพของมือสังหารนายหนึ่งที่ใบหน้าแหลกเหลวจากการตกจากหน้าผา หนีรอดมาได้ เพราะรู้ดีว่าคนของหวาซงอ๋องจะต้องถูกส่งมาให้ค้นหาศพลูก”“หวาซงจริงหรือไม่”“เสด็จพ่อไม่เป็นความจริง หวาเซียงอ๋องพลัดตกจากเหวเอง ลูกไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขากัวเฉา ลากเอามือสังหารที่รอดชีวิตในวันเดียวกับหวาเซียงอ๋องเข้ามา“พูด”“ฝ่าบาท กระหม่อมเป็นมือสังห
“ก็…”กดริมฝีปากปิดปากบางไว้“ไม่ต้องพูดแล้ว แค่เจ้าไม่ยอมเป็นของหวาซง ข้าก็รู้ว่าเจ้ารักข้าเพียงใด ต้องขอบคุณคำพูดของหวาซง ที่บอกว่าจะดูแลชายารองของข้าตอนนั้นเองที่ทำให้ข้าคิดว่าข้าจะตายไม่ได้ทั้งที่เจ็บเจียนตาย เพื่อสิ่งที่เขาคิดจะได้ไม่มีทางเป็นจริงสิ่งเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อคือการที่ได้กลับมากอดเจ้าแบบนี้ แต่ก็กลัวเหลือเกินว่า เจ้าจะเห็นแก่ลาภยศยอมแต่งเข้าตำหนักบูรพา”“ไม่ ไม่ ไม่หงถิงยอมตาย”ตอบเร็วรี่“ ข้ารู้ ว่าเจ้าไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าจะต้องเป็นของข้า และให้ข้าได้รักเจ้าแบบนี้ตลอดไปข้าเองต่อจากนี้จะมีมีสายตาไว้มองใคร”หงถิงหน้าเศร้า เมื่อคิดถึงเหอซ่างเซี่ยน“ชายาเอกของท่านเล่า”หวาเซียงอ๋องยิ้มกว้าง“หงถิงหึงข้า ข้าดีใจที่สุด เซี่ยนเซี่ยนนางเป็นดั่งเพื่อนที่คอยหวังดี และเข้าใจข้ามาตลอด ป่านนี้นางก็คงดีใจที่ข้ารักเจ้าได้มากขนาดนี้ แม้เจ้าไม่ใช่เจ้าหรูเพราะความผิดพลาดแต่ความผิดพลาดน้้นกลับทำให้ข้ามีความสุขเพียงนี้"จุมพิตเบาๆ ที่หน้าผาก“คิดถึงหงถิง แล้วก้อนแป้งน้อยในท้องของพ่อเป็นอย่างไรบ้างโก้งโค้งจุมพิตที่หน้าท้องเปลือยเปล่า ที่มองเห็นมาป๋องนูนออกมาเพียงนิด“เจ้