ไม่นานหลังจากเหตุการณ์ชุลมุนที่คาเฟ่ ดารินก็ได้พบกับ อาชา ในที่สุด เธอเดินเข้าไปหาเขาด้วยรอยยิ้มหวานหยด ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอนั่งรออาชาหลายชั่วโมงกว่าที่อาชาจะยอมให้เธอเข้าพบ
"อาชาคะ ดาคิดถึงคุณจังเลยค่ะ" ดารินเอ่ยเสียงหวาน พร้อมกับทำท่าจะโผเข้ากอด แต่อาชากลับถอยห่างออกมาเล็กน้อย สีหน้าเรียบเฉย "คุณดาริน มาทำอะไรที่นี่" อาชาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่ต้องการจะข้องแวะกับอดีตที่เลวร้าย "อะไรกันคะอาชา ทำไมพูดกับดาแบบนี้ล่ะคะ ดาก็แค่อยากมาเยี่ยมคุณ มาทวงถามความรักเก่า ๆ ของเราคืน" ดารินแสร้งทำเป็นตัดพ้อ ใบหน้าแสดงความเศร้าสร้อยอย่างจงใจ "สงสัยความรักที่ผมเรียกคุณไป 10 ล้านคงไม่พอซะแล้วมั้ง คุณยังมีแรงมาระรานวุ่นวายกับผมอยู่แบบนี้"อาชาพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยันและรู้สึกรังเกียจผู้หญิงอย่างดารินที่สุด "โธ่อาชาคะ คุณไม่เห็นจะต้องแจ้งความเอาเรื่องดารินขนาดนั้นเลยค่ะ คุณก็รู้ว่าดารินไม่มีอะไรที่จะสู้กับคุณได้" "ดารินแค่อยากมาถามหาความเห็นใจจากคุณบ้างก็เท่านั้น ใจดีกับดารินหน่อยนะคะ" ดารินเกาะแข้งเกาะขาอาชาไม่ยอมปล่อยเอาแต่ทำท่าทีออดอ้อนออเซาะเพื่อให้อาชาใจอ่อน เหมือนฝันของดารินกำลังจะสลายมลายลงไป เมื่ออยู่ดี ๆ ก็มีเสียงเปิดประตูดังแกร๊กเข้ามาในห้องอย่างไม่ได้รับอนุญาตเด็กน้อยหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มที่ตาแดงก่ำจากการที่ผึ้งร้องไห้วิ่งเข้ามาในห้อง "ตายแล้วนี่เด็กคนนี้อีกแล้ว อีเด็กไร้มารยาท นี่ลูกแม่บ้านที่ไหนคะเดินเพ่นพ่านไปหมด" ดารินพ่นคำหยาบคายออกมาต่อหน้าอาชาโดยที่ไม่ได้รู้สึกกระดากใจที่ได้พูดจาทำร้ายจิตใจหนูน้อยลิลลี่เลย "ลูกแม่บ้านหรอ..? เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า"อาชาแกล้งถามเมื่อได้ยินว่าดารินทร์เรียกหลานสาวแก้วตาดวงใจของตัวเองจิกหัว "ก็อีนางเด็กคนนี้ วิ่งถือขนมอะไรสักอย่างมา แล้วก็วิ่งชนเข้ากับดาค่ะ ดูสิคะชายเสื้อดาเนี่ยยังเลอะไม่หายเลย"ดารินเล่าเรื่องทุกอย่างให้กับอาชาฟังต่อหน้าเด็กคนนี้ "แล้วคุณพูดอะไรต่อหรือเปล่า" อาชาอยากจะรู้ว่าดารินได้ต่อว่าหลานสาวเขาหรือไม่เพราะตาของหนูน้อยลิลลี่แดงก่ำบ่งบอกถึงการร้องไห้มาอย่างหนัก "ก็ไม่ได้พูดอะไรมากหรอกค่ะ ก็แค่สั่งสอนไปนิดหน่อย แล้วเหมือนจะมีผู้หญิงอีกคนนึงมายืนเถียงฉอด ๆ แทนนางเด็กนี่ด้วยนะคะ"ดารินก็เล่าต่อไปเพราะเธออยากให้อาชาไล่ทั้งผู้หญิงคนที่ปกป้องเด็กคนนี้และเด็กคนนี้ออกไปให้พ้นหูพ้นตาเธอสักที "เดี๋ยวถ้าดารินเจอดารินจะชี้ให้คุณไล่มันออกเลย"ดารินทั้งที่ยังไม่ได้ใจของอาชากลับมากลับแสดงอำนาจบาตรใหญ่อยากจะทำร้ายคนอื่นซะแล้ว "คุณน้าคนนั้นนี่..! "ลิลลี่ตกใจทำหน้าเสียเธอจะร้องไห้อีกครั้งเมื่อเห็นคนใจร้ายอย่าง ดาริน "ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าอีกหนึ่งคนที่อยู่ด้านหลังหนูน้อยลิลลี่คือเหมยพี่ถือกระเป๋าสีชมพูมาให้กับหนูน้อยลิลลี่ "คุณครูขา..คุณน้าใจร้ายคนนั้นมาอยู่กับ คุณลุงได้ยังไงคะ" หนูน้อยลิลลี่รีบเดินไปหลบหลังเหมยเพราะเห็นปากที่แดงหน้านิ่วคิ้วขมวดของดารินทำให้ลิลลี่เกิดอาการตกใจกลัว "นี่ไงคะอาชา นางผู้หญิงคนนี้แหละที่ดา บอกคุณ มายืนเถียงแทนนางลูกแม่บ้านคนนี้"ดารินหันไปชี้เหมือนที่เดินตามหลังมา "ไม่เป็นไรค่ะลิลลี่ขา..ไม่เป็นไรนะคะ ไม่ต้องกลัว คุณครูอยู่นี่แล้ว"เหมยย่อตัวลงไปแล้วอุ้มลิลลี่เอาไว้ในอ้อมอกลิลลี่ถึงกับซุกหน้าไม่หันมามองอาชาเลย อาชาลุกพรวดพราดออกจากโต๊ะแล้วรีบตรงไปหาเหมยกับลิลลี่เพื่อถามไถ่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมลิลลี่ถึงมีอาการตกใจกลัวแบบนี้ "เกิดอะไรขึ้นครับเหมย" อาชาถามเสียงเรียบและรีบเข้าไปอุ้มลิลลี่ออกจากอกของเหมย "เหมยว่าคุณอาชาถามลิลลี่เอาเองนะคะเหมยก็ไม่รู้จะบอกว่ายังไง" เหมยที่เห็นหน้าดารินอย่างชัดเจนเธอก็รู้แล้วว่านั่นน่าจะเป็นอดีตของอาชาที่อาชาเคยเล่าให้ฟังคนที่เคยวางยาอาชาในวันนั้น ลิลลี่ที่ได้มาสู่อ้อมอกของคุณลุงอีกครั้งเธอก็ยังมีอาการสะอึกสะอื้นและกลัวที่จะพบหน้ากับดารินตรงๆ "เป็นอะไรคะ คนดีไหนบอกลุงซิว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมตาแดงแบบนี้ค่ะ" อาชาพูดปลอบประโลมลิลลี่ด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและอ่อนโยน ดารินที่ได้ฟังสรรพนามต่าง ๆ ก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ เธอถึงกับหน้าซีดเผือกเพราะรู้ว่าคนที่วิ่งชนเธอคือหลานของอาชาแน่ๆ ส่วนผู้หญิงที่เถียงกับเธอฉอดๆอยู่ด้านหน้าคาเฟ่ก็คือผู้หญิงที่เธอตั้งใจจะมาทำลายความสัมพันธ์ให้พังพินาศ "คุณน้าคนนี้ ลิลลี่วิ่งชนเขาค่ะคุณลุง แต่ลิลลี่ขอโทษแล้วนะคะ แต่ว่า....คุณน้าไม่ยอมแถมต่อว่าลิลลี่ด้วยถ้อยคำไม่น่ารักด้วยค่ะ"ลิลลี่ซุกไปที่ซอกคอของอาชาแต่ก็พูดออกมาอย่างฉะฉาน "ไม่เป็นไรนะเดี๋ยวคุณลุงจัดการเอง ลิลลี่ไปรอคุณลุงที่ห้องนั่งเล่นนะคะ" อาชาที่วางลิลลี่ลงแล้วให้เหมยพากลับไปในห้องที่ทั้งสองเพิ่งออกมา "ค่ะคุณลุงงั้นลิลลี่ไปสั่งเค้กกับไอศครีมกินดีกว่า"เหมือนลิลลี่ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้กลางห้องทำงานของอาชา "เออมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนะคะอาชาฟังดาก่อนนะ" ดารินพยายามจะอธิบายและแก้ตัวแต่ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่เข้าล็อคและสายเกินไป "ไสหัวไปซะ..! อย่าให้ผมต้องลากคุณออกไปจากที่นี่ด้วยการเรียกบอดี้การ์ดมาลากออกไป" อาชาพูดกับดารินอย่างไร้เยื่อใย อาชาเอื้อมมือยกหูโทรศัพท์ขึ้นและเรียกบอดี้การ์ดที่อยู่บริเวณนั้นมาลากตัวดารินออกไป ใครอยู่ด้านนอกเข้ามาหากูหน่อยผ่านไปสักไม่ถึง 5 นาทีบอดี้การ์ดที่อยู่บริเวณด้านนอกเดินเข้ามาในห้อง "ครับนาย" "ลากตัวผู้หญิงคนนี้ออกไป แล้วอยากให้เธอกลับเข้ามาที่ไร่ชาของฉันอีกแม้แต่เงาก็ห้ามให้มาเหยียบ..!"อาชาตวาดลั่น "ไม่นะ อาชา..! ดาขอร้อง"ดารินพยายามร้องขอความเมตตาจากอาชาแต่เขาไม่มีเหลือแม้แต่เศษเมตตาที่จะให้กับผู้หญิงที่ทำร้ายจิตใจหลานสาวของเขา "คนอย่างเธอไม่ควรได้รับสิ่งดี ๆ ตอบแทนดาริน"อาชาพูดกับตัวเองเบา ๆ อย่างรู้สึกสะใจที่ได้เห็นผู้หญิงอย่างดารินซมซานกลับมา ในขณะนั้นเอง ธง ที่แอบสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ก็รู้สึกพอใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเห็นว่าดารินกำลังสร้างปัญหาให้กับอาชาตามแผนการที่วางไว้แต่กลับไม่รู้ว่าภายในห้องทำงานของอาชาดารินกำลังตกที่นั่งลำบาก อาชารู้สึกไม่พอใจกับการปรากฏตัวของดารินเป็นอย่างมาก ยิ่งเธอพยายามอ้างสิทธิ์ในตัวเขามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้อาชารู้สึกขยะแขยงมากขึ้นเท่านั้น เขารู้ดีว่าดารินเป็นคนอย่างไร และเจตนาของเธอก็ไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอนยิ่งมาให้กูว่าดารินได้ทำให้หนูน้อยลิลลี่ร้องไห้อาชายิ่งไม่หลงเหลือความเมตตาให้กับเธอเลย ในขณะเดียวกัน เสือ ก็คอยจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของธงและดาริน เขาเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ และเริ่มสงสัยว่าทั้งสองคนอาจจะร่วมมือกันเพื่อทำลายอาชา.....ทางด้านธงและดารินก็ยังคงไม่ยอมแพ้ แม้ว่าดารินจะแพ้อย่างราบคาบเมื่อเจออาชาเล่นไม้แข็ง ให้บอดี้การ์ดลากเธอออกจากไร่ชาพรหมเทพอย่างไม่ใยดี แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ดารินเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตของเขาอีก ขณะที่ทั้งสองกำลังพลอดรักกันอยู่ที่โรงแรมเดิม ธงที่รู้สึกถึงแรงแค้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะยิ่งวิ่งเข้าใกล้เหมยมากเท่าไหร่ เหมยก็ยิ่งวิ่งออกห่างเขามากเท่านั้น ธงรู้สึกเหมือนเสียศักดิ์ศรีและโดนหยามหน้า "ดารินครับ ทำไมคุณถึงได้ทำพลาดขนาดนั้น คุณไม่เคยรู้เลยเหรอว่าไอ้อาชามีหลานสาว" ธงที่นอนอยู่บนตักของดารินก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ "แล้วใครมันจะไปรู้ล่ะคะ ว่าอีเด็กเปรตนั่นจะเป็นหลานสาวของอาชา" ดารินก็รู้สึกโมโหไม่น้อยที่อยู่ดี ๆ ก็ต้องมาล้มละลายเพียงเพราะเด็กคนเดียว "แล้วเราจะทำยังไงต่อไปล่ะครับดาไหนจะมีไอ้เมฆินทร์อีกคนนึงที่มาตามป้วนเปี้ยนจีบเหมย" ธงก็ยังคงอยากเอาชนะอาชาและเมฆินทร์อยู่ โดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของเหมยและอาชาได้ก้าวหน้าเกินกว่าที่เขาจะแตะถึง "เหลือแต่คุณแล้วค่ะที่ต้องเข้าไปทำลายความสัมพันธ์ของสองคนนั้น เอาให้ทั้งสองคนมันแตกหัก ไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันยิ่งดี แล้ว
เมฆินทร์ที่กลับจากการทำธุระของตัวเองก็คิดถึงเหมยไม่แพ้อาชาหรือธง วันนี้เขาตั้งใจจะเข้าไปเจอเหมยที่คาเฟ่และซื้อของมากมายกลับมาฝากเธอ “ถังลี่ วันนี้กูจะเข้าไปที่ไร่ชาพรหมเทพ จะเอาของที่กูซื้อไปฝากคุณเหมย มึงให้เด็กเอาของขึ้นรถให้กูด้วย” เมฆินทร์หันไปสั่งบอดี้การ์ดคู่ใจ “ผมจัดการให้นายเรียบร้อยแล้วครับ นายจะไปเลยไหมครับ” ถังลี่หันมาถามผู้เป็นนาย เมฆินทร์พยักหน้า เขาลุกออกจากห้องนั่งเล่นในคฤหาสน์หรูแล้วก้าวขึ้นรถสไตล์ยุโรป ใจของเขาอยากจะเจอหน้าสวย ๆ ของเหมย และเขาก็อยากจะเข้าไปสืบหาเรื่องราวของอาชาที่จะทำการเซ็นสัญญากับมิสเตอร์จางเพื่อตัดหน้าบริษัทของเขาด้วย “ได้ครับนาย แต่ว่านายมั่นใจเรื่องที่ดินที่เราซื้อไว้ให้มิสเตอร์จางจริง ๆ ใช่ไหมครับ” ถังลี่รู้สึกว่าอาชามีความเงียบผิดปกติ “มีอะไรหรือเปล่าวะ” เมฆินทร์หันมาถามขณะกำลังดูตารางงานอยู่ด้านหลังรถ “ผมว่าบอดี้การ์ดของไอ้อาชาและตัวมันเงียบผิดปกติ เพราะโครงการนี้มันเคยคิดจะสู้กับเราหลายหน ทำไมมันถึงเงียบหายไป” ถังลี่รู้สึกถึงความผิดสังเกต “มันก็จริงอย่างที่มึงพูด ส่งคนของเราจับตาดูมันทุกฝีก้าว ลองดูว่ามันจะบินไปสิงคโปร์เมื่อไหร่
อาชาปลดพันธนาการที่ข้อมือเหมยออก ช้า ๆ แต่ยังคงจับมือเธอไว้มั่น เขายิ้มเจ้าเล่ห์ "เราลองเปลี่ยนท่ากันหน่อยดีไหมครับคนดีของพี่..." เหมยพยักหน้าเล็กน้อยด้วยใบหน้าแดง ระเรื่อ เธอเชื่อใจเขาอย่างเต็มเปี่ยม อาชาจึงค่อย ๆ พลิกร่างบางของเหมยให้นอนคว่ำลงช้า ๆ จากนั้นใช้เนคไทผูกข้อมือทั้งสองข้างของเธอไขว้ไปด้านหลังอย่างชำนาญ การถูกมัดในท่านี้ทำให้เหมยรู้สึกอ่อนแอแต่ก็ตื่นเต้นจนหัวใจเต้นระรัว "แบบนี้... เราจะรู้สึกถึงพี่ได้ชัดเจนขึ้น พี่จะเอาเหมยจน เหมยร้องขอให้พี่หยุด..." อาชากระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูของเหมย ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาทำให้ขนอ่อน ๆ ทั่วร่างของเธอตั้งชัน เหมยพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงก็ติดอยู่ในลำคอ อาชาโน้มตัวลงไปจูบแผ่นหลังเนียนนุ่มของเหมยช้า ๆ ไล่ขึ้นไปตามกระดูกสันหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสอันเร่าร้อนของเขาทำให้เหมยบิดกายเล็กน้อยด้วยความรู้สึกที่พุ่งพล่านขนลุกซู่ไปทั้งกาย "พะ พี่... อาชาขา.....อ้าส์ ซี๊ด..." เหมยครางชื่อเขาเบา ๆ น้ำเสียงแหบพร่าด้วยอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้ "ใช่ครับ... พี่อยู่นี่แล้ว" อาชาตอบ พลางใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามแนวสะโพกผายของเธออย่างยั่วยวน เ
หลังจากผ่านพ้นเรื่องของดารินไปอาชาสั่งห้ามบอดี้การ์ดทุกคนห้ามให้ดารินกลับมาเหยียบไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยทุกพื้นที่ของตระกูลเขา ห้ามดารินเข้ามาก้าวก่ายโดยเด็ดขาด "ไอ้เสือบอกบอดี้การ์ดทุกคน ถ่ายทอดคำสั่งของกูลงไป ห้ามให้ดารินเหยียบเข้ามาทุกพื้นที่ของตระกูลกู แม้แต่เงาก็ห้ามให้มาใกล้..! อาชาเขารู้ว่าผู้หญิงอย่างดารินทั้งอันตรายและเจ้าเล่ห์จึงเลือกที่จะปกป้องเหมยและลิลลี่ให้ออกห่างจากผู้หญิงอย่างดาริน "ครับนายผมจะรีบถ่ายทอดคำสั่งของนายทุกคำออกไปในกลุ่มบอดี้การ์ดของเราครับนาย" "คืนนี้ผมว่าเป็นคืนที่ดีนะครับนาย" "มันเป็นคืนที่ดียังไงวะ" อาชาสงสัยเล็กน้อยเมื่ออยู่ๆเสือก็พูดขึ้นมา "เพราะคืนนี้นายธงมักจะออกไปทุกคืน วันเสาร์และกลับมาในวันจันทร์เช้า เพื่อทำงาน ผมอาจจะใช้โอกาสทองและจังหวะนี้" "ในการหาข้อสงสัยของผมเพราะมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลที่ผมสัมผัสได้" เสือรายงานบางอย่างให้กับอาชาได้ฟังเพราะเขาก็แอบสงสัยพฤติกรรมของธงมานานแล้ว "ดีกูเองก็ไม่ไว้ใจมัน มันจงใจปล่อยข่าวเสียหายให้กับเหมย เรื่องของมันกับเหมยในอดีตกูคงจะยอมง่าย ๆ ไม่ได้หรอก" อาชาเองก็ไม่ได้ละทิ้งเรื่องพวกนี้แต่เขาให้มันเป็นเพี
ไม่นานหลังจากเหตุการณ์ชุลมุนที่คาเฟ่ ดารินก็ได้พบกับ อาชา ในที่สุด เธอเดินเข้าไปหาเขาด้วยรอยยิ้มหวานหยด ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอนั่งรออาชาหลายชั่วโมงกว่าที่อาชาจะยอมให้เธอเข้าพบ "อาชาคะ ดาคิดถึงคุณจังเลยค่ะ" ดารินเอ่ยเสียงหวาน พร้อมกับทำท่าจะโผเข้ากอด แต่อาชากลับถอยห่างออกมาเล็กน้อย สีหน้าเรียบเฉย "คุณดาริน มาทำอะไรที่นี่" อาชาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่ต้องการจะข้องแวะกับอดีตที่เลวร้าย "อะไรกันคะอาชา ทำไมพูดกับดาแบบนี้ล่ะคะ ดาก็แค่อยากมาเยี่ยมคุณ มาทวงถามความรักเก่า ๆ ของเราคืน" ดารินแสร้งทำเป็นตัดพ้อ ใบหน้าแสดงความเศร้าสร้อยอย่างจงใจ "สงสัยความรักที่ผมเรียกคุณไป 10 ล้านคงไม่พอซะแล้วมั้ง คุณยังมีแรงมาระรานวุ่นวายกับผมอยู่แบบนี้"อาชาพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยันและรู้สึกรังเกียจผู้หญิงอย่างดารินที่สุด "โธ่อาชาคะ คุณไม่เห็นจะต้องแจ้งความเอาเรื่องดารินขนาดนั้นเลยค่ะ คุณก็รู้ว่าดารินไม่มีอะไรที่จะสู้กับคุณได้" "ดารินแค่อยากมาถามหาความเห็นใจจากคุณบ้างก็เท่านั้น ใจดีกับดารินหน่อยนะคะ" ดารินเกาะแข้งเกาะขาอาชาไม่ยอมปล่อยเอาแต่ทำท่าทีออดอ้อนออเซาะเพื่อให้อาชาใจอ่อน เหมือนฝันของดารินกำ
ธงเริ่มปฏิบัติการตามแผนของดารินอย่างเคร่งครัด เขายังคงส่งของขวัญและดอกไม้ให้เหมยเช่นเคย แต่คราวนี้มาพร้อมข้อความที่ดูเหมือนจะเข้าใจและเห็นอกเห็นใจเหมยมากยิ่งขึ้น เช่น "รู้ว่าเธอเหนื่อย พักผ่อนบ้างนะ" หรือ "หวังว่าดอกไม้ช่อนี้จะทำให้วันของเธอสดใสขึ้นมาบ้าง" ซึ่งเป็นข้อความที่ดารินแนะนำให้ใช้เพื่อสร้างความรู้สึกผูกพันทางอารมณ์"พี่ส่งดอกไม้ให้ครูเหมยทุกวันเลยอ่ะผมเป็นครูเหมยนี้ผมละลายหมดแล้วนะ"ไอ้เต้เดินมาแซวธงเมื่อเห็นว่ายังคงใช้ให้เต้ไปส่งดอกไม้"มันก็ต้องขยันหน่อยเว้ย.!!อยากได้เขากลับมาก็ต้องเอาใจเขาบ้าง"ธงพูดลอยๆ"คราบพี่" ไอ้เต้กับไอ้ต้นหนาวถึงกับหลุดหัวเราะในขณะเดียวกัน ธงก็เริ่มหาโอกาสพูดคุยกับเหมยมากขึ้น โดยอาศัยสถานการณ์ที่พบกันโดยบังเอิญในที่ทำงาน หรืออ้างเรื่องงานเข้ามาพูดคุย "อรุณสวัสดิ์ครับเหมย" ธงที่มาคาเฟ่แต่เช้าเพื่อมาดักรอเหมยและลิลลี่ที่จะมานั่งในห้องประจำเพื่อเรียนหนังสือเปลี่ยนบรรยากาศไม่ใช่ภายในบ้านพักตากอากาศ"อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ธง"เหมยยิ้มให้อย่างเป็นมิตรช่วงนี้เธออาจจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย