Home / มาเฟีย / รักสุดท้ายของอาชา / หววว่าที่เมียดุจจงอางหวงไข่

Share

หววว่าที่เมียดุจจงอางหวงไข่

last update Last Updated: 2025-08-25 11:23:01

หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายบนชายหาด อาชาพาเหมยและคุณพ่อคุณแม่ของเขากลับมาที่โรงแรมเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะนัดแนะไปดินเนอร์กันที่ร้านอาหารริมทะเลในตอนค่ำ บรรยากาศของร้านเต็มไปด้วยความโรแมนติก แสงไฟจากโคมไฟระยิบระยับสะท้อนผิวน้ำทะเลที่มืดสนิท อาชาจับมือเหมยไว้แน่นตลอดเวลาที่เดินไปที่โต๊ะ ราวกับจะย้ำเตือนกับทุกคนว่าเธอคือคนของเขา

"คุณแม่คะ เหมยขอโทษนะคะที่ทำให้วุ่นวาย" เหมยพูดขึ้นด้วยความรู้สึกผิด

คุณหญิงวสุธรยิ้มอย่างอ่อนโยน "ไม่เป็นไรหรอกหนูเหมย แม่รู้ว่าหนูไม่ได้ตั้งใจ" ท่านหันไปมองหน้าลูกชายที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ "แต่ตาชานี่สิ...นิสัยไม่ดีเลย!"

อาชาได้แต่ทำหน้ามุ่ย ไม่ได้เถียงอะไรออกมา แต่ก็ยังคงกุมมือเหมยไว้ไม่ปล่อย ตลอดมื้ออาหาร อาชาคอยตักอาหารให้เหมยและดูแลเธอไม่ห่างสายตา คุณบุญรอดและคุณหญิงวสุธรที่เห็นภาพนั้นก็ยิ้มอย่างมีความสุข

หลังจากทานอาหารเสร็จ อาชาชวนเหมยไปเดินเล่นที่ตลาดกลางคืน เหมยตื่นเต้นมาก เพราะเธอไม่เคยมาเที่ยวตลาดกลางคืนที่พัทยามาก่อน อาชาจูงมือเธอเดินชมร้านค้าต่าง ๆ มากมาย ทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า และร้านอาหารข้างทาง

ขณะที่ทั้งคู่กำลังเลือกซื้อของที่ระลึกอยู่ เหมยก็รู้สึกเหมือนมีใครกำลังจ้องมองเธออยู่ เธอหันไปมองรอบ ๆ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นผู้ชายคนเดิมที่เข้ามาขอเบอร์เธอเมื่อช่วงบ่าย เขายืนอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา พร้อมกับส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้

เหมยรีบจับแขนอาชาไว้แน่น แล้วกระซิบข้างหูเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "พี่อาชาคะ...คนนั้นอีกแล้วค่ะ"

อาชาหันไปมองตามสายตาของเหมย แล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ เขาโอบไหล่เหมยเข้ามาใกล้ แล้วออกปากไล่ชายหนุ่มคนนั้นด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด

"นี่คุณ! ผมขอร้องให้คุณเลิกยุ่งกับแฟนผมได้แล้วนะครับ"

แต่ชายหนุ่มคนนั้นกลับหัวเราะในลำคอ พร้อมกับก้าวเข้ามาหาพวกเขาอย่างไม่เกรงกลัว "ทำไมล่ะครับคุณ...ผมแค่มาทักทายเฉย ๆ"

"ผมว่าคุณควรไปให้พ้นจากที่นี่ ก่อนที่ผมจะหมดความอดทน" อาชาพูดเสียงต่ำ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธ

เหล่าบรรดาบอดี้การ์ดที่เดินรายล้อมรอบตัวของอาชาเตรียมพร้อมเข้าชาร์จอาชามักจะบอกให้ทุกคนทำตัวเป็นธรรมชาติไม่ใส่ชุดดำตลอดเวลาแต่ไม่ได้แปลว่าไม่ปกป้องครอบครัวของเขาเสือที่มองเหตุการณ์อยู่ห่างๆก็จับมือไปที่ปลายกระบอกปืนที่เหน็บอยู่หลังเอวในชุดเสื้อโปโล

เสือส่งสัญญาณพยักหน้าให้ทุกคนราวกับเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อเจ้านายของตัวเองถูกรบกวนทุกคนหันมองหน้ากันในทิศทางที่ไม่ไกลนักบอดี้การ์ดนับ 10 คนเตรียมจู่โจม

ชายหนุ่มทำเป็นไม่สนใจคำเตือนของอาชา แล้วหันไปพูดกับเหมยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน "ผมชื่อเวสตินครับคุณ...แล้วคุณล่ะชื่ออะไร"

เหมยอึ้งไปเล็กน้อย ไม่ทันได้ตอบอะไร อาชาก็ชกหน้าชายหนุ่มคนนั้นเข้าอย่างจังจนเขาล้มลงไปกองกับพื้น ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็หยุดยืนดูเหตุการณ์อย่างตกใจ

"กูบอกให้คุณไปให้พ้น!" อาชาคำรามเสียงลั่น

เวสตินยลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ แล้วเดินเข้ามาจะต่อยอาชาคืน แต่ก็มีชายฉกรรจ์สองสามคนวิ่งเข้ามาจับตัวเขาไว้ก่อน

"คุณเวสติน...คุณโอเคไหมครับ" หนึ่งในชายฉกรรจ์ถามแล้วหันมามองอาชาเตรียมจะทำร้ายอาชาเช่นกันแปลว่าผู้ชายตรงหน้าคนนี้ก็ไม่ธรรมดาที่มีบอดี้การ์ด 2-3 คนรายล้อมส่วนบอดี้การ์ดของอาชาทุกคนก็เตรียมพร้อมที่จะบวกเช่นกัน

เวสตินสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะหันมาจ้องหน้าอาชาด้วยความแค้นเคือง "มึง!...มึงเป็นใครวะ"

อาชาโอบไหล่เหมยไว้แน่น แล้วพูดเสียงดังฟังชัด "กูเป็นใครไม่สำคัญ แต่มึงกำลังมายุ่งกับคนของกูไปซะ"อาชาหันไปสบตาของเสือที่มือกำลังสัมผัสปลายกระบอกปืน

ในขณะที่ลูกน้องของเวสตินพุ่งตัวเข้าหาอาชาอย่างรวดเร็ว เหมยก็รู้สึกถึงแรงดึงที่กระชากเธอให้หลบไปอยู่ด้านหลังอย่างกะทันหัน

"เหมยอยู่ข้างหลังพี่" เสียงของอาชาดังขึ้นพร้อมฃกับร่างสูงใหญ่ที่กางแขนออกเพื่อปกป้องเธอไว้

ทันใดนั้น บอดี้การ์ดของอาชากว่าสิบคนก็ปรากฏตัวขึ้นจากเงามืดราวกับภูตผี ทุกคนแต่งกายในชุดลำลอง แต่สายตาของพวกเขาเฉียบคมและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

มือของแต่ละคนกำด้ามปืนที่เหน็บอยู่หลังเอวไว้อย่างมั่นคง เหล่าลูกน้องของเวสตินที่กำลังจะเข้าถึงตัวอาชาถึงกับชะงักกึก สีหน้าเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกทันทีที่เห็นอาวุธที่จ่อมาที่พวกเขา

เวสตินที่ยืนอยู่ด้านหลังมองภาพนั้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าคนธรรมดาที่ไหนจะพกบอดี้การ์ดติดตัวเป็นโขยงขนาดนี้

"ถอยไป!" เวสตินสั่งลูกน้องเสียงหลง

ลูกน้องของเวสตินต่างยกมือขึ้นยอมแพ้แล้วถอยหลังไปยืนบังเจ้านายของตัวเองไว้ทันที บรรยากาศที่เคยตึงเครียดกลับกลายเป็นความเงียบสงัด มีเพียงเสียงกระซิบกระซาบของผู้คนที่จับกลุ่มดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ

อาชาลดแขนลงแล้วหันไปหาเวสตินที่หน้าถอดสี "ถ้ากูเห็นหน้ามึงอีกครั้ง...มึงไม่รอดแน่" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

เวสตินที่ไม่มีทางเลือก ได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความแค้นแล้วรีบเดินจากไปพร้อมกับลูกน้องของเขา เวสตินตอนเป็นลูกคนรวยมีเงินแล้วมาอาศัยอยู่เมืองไทยเป็นระยะเวลา 4-5 ปีจึงมักจะทำตัวกร่างแถวสถานที่ท่องเที่ยวแม้จะโดนตำรวจจับหลายครั้งก็ประกันตัวออกมาได้แต่ครั้งนี้เขาเจอคนจริงที่เหนือกว่าเขาหลายสิบเท่า เขาจึงเลือกที่จะไม่ปะทะไม่งั้นคงเหลือแต่ลมหายใจ

ทันทีที่เวสตินลับสายตาไป เหมยก็ทรุดตัวลงด้วยความตกใจและหวาดกลัว อาชาโอบกอดเธอไว้แน่น แล้วลูบหลังเธอเบา ๆ อย่างปลอบโยน

"ไม่เป็นไรแล้วนะเหมย พี่อยู่ตรงนี้"

"พี่อาชา...เขาเป็นใครคะ" เหมยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

"ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วครับ เดี๋ยวพี่จะจัดการเอง" อาชาตอบเสียงนุ่มแล้วจูบหน้าผากเธอเบา ๆ

หลังจากเหตุการณ์วุ่นวาย อาชาตัดสินใจพาเหมยกลับโรงแรมทันทีเพื่อความปลอดภัย เขาไม่ต้องการให้เธอต้องเผชิญหน้ากับอันตรายอีก

เมื่อกลับมาถึงห้องพัก อาชาไม่พูดอะไร แต่เขาก็ยังคงกอดเธอไว้แน่น ราวกับว่าไม่อยากให้เธอจากไปไหน เหมยเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความรู้สึกผิด

"เหมยขอโทษนะคะพี่อาชาที่ทำให้วุ่นวายอีกแล้ว"

"เหมยไม่ต้องขอโทษ พี่เต็มใจที่จะปกป้องเหมย"

"แต่ว่า...เรื่องเมื่อกี้มัน..."

"ชู่ว์...เหมยไม่ต้องคิดมากนะครับ" อาชาพูดแล้วจูบเธออย่างอ่อนโยน

เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งหมดก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ อาชาพาเหมยมาส่งที่บ้าน ก่อนจะไปสนามบินเพื่อไปต่างประเทศอย่างที่ตั้งใจไว้

"เหมยจะรอพี่กลับมานะคะ"

อาชายิ้มแล้วก้มลงจูบเธออีกครั้ง "แล้วพี่จะรีบกลับมาหาเหมยให้เร็วที่สุด"

หลังจากส่งอาชากลับไป เหมยก็รู้สึกใจหายอย่างประหลาด ความรักของเหมยและอาชาเหมือนจะดีขึ้นแล้ว แต่เธอก็ยังคงกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง..

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักสุดท้ายของอาชา   ตอนพิเศษ

    วันเวลาเดินเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็วก็เข้าปีที่ 3 เด็กๆโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกันเหมยที่ทำหน้าที่ดูแลลูกและหนูน้อยลิลลี่ในเวลาเดียวกันเธอทำทุกอย่างออกมาได้ดีมีแม่บ้านคอยช่วยเหลือบ้างเพราะเธอเองก็ยังทำงานที่เธอรักทำอะไรแต่เช้าครับขณะที่อยู่บนเตียงกว้างกับสามีสุดที่รักอย่างอาชาเขาที่ตื่นมาเห็นหน้าเหมือนเป็นคนแรกในทุกๆวันเช่นนี้เสมอ"กำลังคิดเรื่องพร็อพนิยายใหม่นะคะเดี๋ยวว่าจะแวะเข้าไปที่ไร่ชาสักอาทิตย์หน้าเผื่อไปหาบรรยากาศเปลี่ยนโหมดการทำงานหน่อย"เหมยยิ้มกว้างขณะที่นั่งอยู่บนเตียงหลังจากที่เธอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ"ก็ดีสิครับ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศด้วยตอนนี้ที่ร้านมีขนมใหม่ ๆ เยอะเลยนะ ผมก็อยากให้เหมยไปดูเหมือนกัน" อาชาส่งยิ้มแล้วก็ขยับมานอนบนตักของเหมยด้วยท่าทีออดอ้อนแม้จะแต่งงานกันมาเข้าปีที่ 3 แล้วเหยียบปีที่ 4 ทั้งคู่ก็ยังคงความหวานใส่กันและกันเสมออาชาไม่เคยรักเหมยน้อยลงเช่นเดียวกับเหมยที่ไม่เคยรักอาชาน้อยลงเลย"อาทิตย์นี้เห็นหนูน้อยลิลลี่ของเรากับอคินจะไปบ้านของคุณย่าน้ำฟ้านะคะเดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่ เหมยจะมารับเอง เห็นว่าบ่นคิดถึงหลาน ๆ" เหมยใช้มือลูบไปตามกลุ่มผมของอาชาแล้วก็ส่งยิ้มอา

  • รักสุดท้ายของอาชา   บทส่งท้าย

    แสงไฟสลัว ๆ ที่โถงทางเดินของโรงพยาบาลส่องให้เห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนและนั่งรออย่างใจจดใจจ่อ ทุกคนในที่นั้นต่างมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลและความหวังปะปนกันไป มีทั้งคุณหญิงวสุธรและคุณบุญรอด ผู้เป็นพ่อและแม่ของอาชา, คุณแม่น้ำฟ้าและคุณพ่อบุญทอง พ่อแม่ของเหมย, และหนูน้อยลิลลี่ ลูกสาววัย 5 ขวบเศษที่มาเฝ้ารอน้องชายคนใหม่ของเธออาชาเดินวนไปมาไม่หยุด เขากุมมือแน่นจนเหงื่อออกซึม ดวงตาจับจ้องไปที่ประตูห้องคลอดอย่างไม่คลาดสายตา ทุก ๆ นาทีที่ผ่านไปเหมือนเป็นชั่วโมงอันยาวนานสำหรับเขาคุณหญิงวสุธรลุกขึ้นจากเก้าอี้พลางวางมือบนบ่าของลูกชาย "ใจเย็น ๆ เถอะลูก เหมยเขาเข้มแข็งจะตาย"คุณบุญรอดเสริมขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้หนักแน่น "นั่นสิอาชา เราทุกคนอยู่ที่นี่พร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกลูก"พ่อของอาชาตกไปที่บ่าของลูกชายเพื่อเป็นกำลังใจเพราะเขาก็เคยผ่านช่วงเวลานี้ในวันที่อาชาได้คลอดออกมาลืมตาดูโลกเช่นกัน"ครับพ่อ" อาชาหันไปตอบแต่ก็ไม่สามารถลดละสีหน้าความเป็นกังวลที่เป็นห่วงเหมยและลูกในท้องที่กำลังรออยู่ในห้องคลอดได้เลยส่วนอีกฟากหนึ่ง คุณพ่อบุญทองก็โอบกอดคุณแม่น้ำฟ้าไว้แน่น คุณแม่น้ำ

  • รักสุดท้ายของอาชา   ความสุขที่สมบูรณ์แบบ

    ตัดภาพมาที่ทางด้านอาชากับเหมยที่เดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นในเวลาที่แตกต่างจากไทยทั้งสองมาถึงในวันที่หิมะเริ่มตกพอดีและเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้ตกหนักมากจนเกินไปทำให้เธอได้มองเห็นบรรยากาศที่สวยงามเกินคำบรรยายราวกับออกมาจากเทพนิยายสองร่างก้าวเท้าออกมาจากสนามบินชินชิโตเซะสู่โลกที่ปกคลุมไปด้วยความขาวบริสุทธิ์ของหิมะ เหมยสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด สัมผัสได้ถึงไอเย็นที่บริสุทธิ์จนขนลุกไปทั่วทั้งร่าง เธอหันไปมองอาชาที่กำลังยืนยิ้มอยู่ข้างๆ“สวยจังเลยค่ะพี่อาชา เหมือนความฝันเลย” เหมยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความตื่นเต้นอาชาโน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูเธอ “นี่ไม่ใช่ความฝันครับ มันคือโลกแห่งความจริงที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป”เมื่อมาถึงโรงแรม ทั้งสองก็ไม่รอช้าที่จะออกไปสำรวจเมืองที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เหมยกับอาชาจูงมือกันเดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ ผู้คนต่างแต่งกายด้วยชุดกันหนาวสีสันสดใส ทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นเหมยไม่เคยรู้สึกมีความสุขเท่านี้มาก่อนในชีวิต เธอได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ได้แสดงความรู้สึกอย่างท

  • รักสุดท้ายของอาชา   เจสซี่เสือ หวานๆๆ

    เสือยืนนิ่งอึ้งในห้องเก็บของที่มืดสลัว ความรู้สึกทั้งประหลาดใจ สับสน และตื่นเต้นปะปนกันไปหมด ริมฝีปากของเขายังคงรู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบาแต่ร้อนแรงของเจสซี่ หัวใจเต้นรัวราวกับกลองศึก“คุณเจสซี่...นี่คุณทำบ้าอะไรเนี่ย!” เสือหลุดปากออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประหม่า เขาพยายามผลักดันเจสซี่ออก แต่เธอกลับยิ่งกอดเขาไว้แน่นเจสซี่หัวเราะเบาๆ “ก็เจสซี่บอกแล้วไงคะ ว่าเจสซี่จะทวนความจำให้เสือ” เธอกระซิบข้างหูเขาอย่างหยอกล้อ “แล้วตอนนี้เสือจำได้หรือยังคะ ว่าใครเป็นคนทำแบบนี้กับเสือ”เสือหลับตาลงอย่างอ่อนใจ เขาพยายามรวบรวมสติทั้งหมดที่มี “คุณเจสซี่ครับ ปล่อยผมเถอะครับ” น้ำเสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ “มันไม่ถูกต้อง”“ไม่ถูกต้องตรงไหนคะ” เจสซี่แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ “หรือเสือคิดว่าเจสซี่ไม่ดีพอ? เจสซี่เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้แย่นะคะ”“คุณดีเกินไปครับ” เสือสวนกลับทันควัน เขาหมายความอย่างนั้นจริงๆ เจสซี่เป็นผู้หญิงที่สวย ฉลาด และมาจากครอบครัวดีๆ . เขาเป็นแค่บอดี้การ์ด...เป็นได้เพียงแค่เงา ที่ไม่ควรมีตัวตนในชีวิตของใคร“เสือไม่ต้องมาหาข้ออ้างเลย” เจสซี่สวนกลับอย่างรู้ทัน “เจสซี่รู้ว่าเสือไม่ได้รังเกียจเจส

  • รักสุดท้ายของอาชา   การแต่งงานที่อบอุ่นและจุดเริ่มต้นของเสือกับเจสซี่

    สามเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหกเลิกและงานแต่งของเหมยและอาชาก็มาถึง เพื่อนสาวอย่างเจสซี่บินตรงมาจากออสเตรเลียรวมถึงพราวที่ขับรถจากเชียงรายเพื่อมาหาเพื่อนรักในวันพิธีมงคลสมรสถูกจัดขึ้นอย่างอบอุ่นท่ามกลางแขกในงานมากหน้าหลายตาเสือและเหล่าบอดี้การ์ดทุกคนเข้าประจำจุดด้วยความพร้อมเพียงวันนี้บอดี้การ์ดของอาชาสวมใส่เสื้อทักซิโด้สีขาวแทนสีดำทำให้บรรยากาศยิ่งดูสดใสขึ้นไปอีกเท่าตัวนึงส่วนเหมยที่ได้สวมใส่ชุดเจ้าสาวแบบฝรั่งโดยมีเพื่อนสาวอย่างเจสซี่เป็นผู้ออกแบบและตัดเย็บเองกับมือเธอภูมิใจในไม้แขวนชุดนี้เหลือเกินเพราะคนที่เป็นไม้แขวนเสื้อตัวนี้ก็คือเหมยเพื่อนสาวที่เธอรักที่สุดพิธีมงคลสมรสถูกจัดขึ้นสไตล์ฝรั่งและมีบาทหลวงมากล่าวคำพิธีมงคลต่างๆขณะที่อาชายืนรอเหมยให้เดินออกมากับพ่อบุญทองเขาก็ต้องตกตะลึงเพราะเหมยไม่เคยลองชุดเจ้าสาวให้เขาเห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียวเธอบอกว่าเป็นความลับเหมยในชุดเกาะอกสีขาวโชว์ให้เห็นคองามระหงชุดถุงมือสีขาวบางลายลูกไม้ผ้าคลุมผมเหมือนดั่งเจ้าหญิงชุดฟูฟ่องเล็กน้อยไม่ได้ดูมากไปและน้อยเกินไปต่างหูไข่มุกถูกประดับลงบนใบหูทั้งสองข้างสร้อยไข่มุกและตรงกลางฝังด้วยเพชรขนาด สิบห้ากะรัตดูไม่เ

  • รักสุดท้ายของอาชา   ความคิดถึง NC

    ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ ก้าวเท้าอย่างแผ่วเบาเข้าไปในห้องนอน กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยของเหมย ลอยมาแตะจมูก ยิ่งทำให้ใจที่คิดถึงแทบขาดของอาชาเต้นรัวแรง เขาปิดประตูอย่างเบามือที่สุดแล้วเดินตรงไปยังเตียงกว้างอย่างเงียบเชียบดวงตาคมกริบไล่มองร่างเล็กที่นอนขดอยู่ภายใต้ผ้าห่มสีขาวสะอาดตา แสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียงส่องกระทบใบหน้าหวานที่กำลังหลับใหล อย่างเป็นสุข เรียวปากบางอิ่มที่เผยอยิ้มเล็กน้อยในยามหลับใหลแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังมีความสุขในห้วงฝัน อาชากลัวเหลือเกินว่าถ้าหากไม่ใช่เขาที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เป็นชายอื่นที่ล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเธอ เหมยจะเป็นอย่างไรความคิดเหล่านั้นทำให้แววตาของอาชาเต็มไปด้วยความหวงแหนและหึงหวง เขาทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง ค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบผมยาวสลวยที่กระจัดกระจายอยู่บนหมอนอย่างแผ่วเบา จากนั้นจึงเลื่อนปลายนิ้วไล้ไปตามโครงหน้าหวาน ไล่ลงมาตามลำคอระหง อาชาโน้มตัวลงไปกระซิบเสียงแผ่วข้างหูของเธอ "คิดถึงนะครับ...คิดถึงจนจะบ้าตายอยู่แล้ว"คำกระซิบแผ่วเบาคล้ายจะปลุกให้เหมยรู้สึกตัว เธอขยับตัวเล็กน้อยแล้วลืมตาขึ้นช้าๆ แสงสลั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status