Share

เปิดตัวอาชา

last update Huling Na-update: 2025-07-03 02:09:32

สองสาวที่เดินลงมาจากรถอีโคคาร์คันเล็กจิ๋ว แต่กลับดึงดูดสายตาคู่หนึ่งที่กำลังเพ่งพินิจจับจ้องหญิงสาวในชุดราตรีสีดำ ผมดำขลับ ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวจนเห็นเส้นเลือด แต่สิ่งที่ดึงดูดใจที่สุดคือตัวเล็กแต่กลับมีหน้าอกใหญ่และสะโพกผาย

สายตาคู่นั้นที่จ้องมองคือ อาชา รัตนภูมิไพเดช หนุ่มใหญ่อายุ 45 ปี ที่เดินลงมาด้วยความสง่างาม ดวงตาเรียบเฉยดูเย็นชาแต่กลับน่าดึงดูดใจแบบพิกล

"โอ๊ย! รองเท้านี่ก็สูงเหลือเกิน ยายเจสซี่แกเลือกอะไรให้ฉันเนี่ย" เหมยบ่นเล็ก ๆ เพราะเพื่อนสาวเลือกรองเท้าสูงขนาดสามนิ้วเท่าส้นเข็มให้กับตน

"เดินดี ๆ สิยายเหมย เดี๋ยวก็หกล้มหรอก" เจสซี่ส่องเพื่อนสาวที่พยุงกันเข้างานโดยที่ไม่ได้หันมองความสง่างามที่ตนเดินผ่านมาเลยแม้แต่นิด

โดยปกติมีแต่สาว ๆ จะต้องจ้องมองอาชาและกรี๊ดเป็นเสียงเดียว แต่กับเหมยและเจสซี่ ทั้งสองคนเดินผ่านเขาไปราวกับธาตุอากาศ

ยิ่งทำให้อาชาสนใจในตัวของเหมย หญิงสาวชุดดำที่เขาเล็งไว้ตั้งแต่แรกเห็นเข้าไปอีก

"คุณอาชาครับเรียนเชิญ ขึ้นไปเปิดพิธีก่อนดีกว่า ลูกศิษย์เก่าพวกนั้นกำลังรอคุณอาชาเปิดงานอยู่นะครับ"

บอดี้การ์ดที่ชื่อเสือได้บอกให้อาชาขึ้นไปเปิดพิธีงานคืนสู่เหย้าของเหล่าปีสามและปีสี่ที่หวนกลับมาพบกันอีกครั้ง

อาชาพยักหน้า เป็นการรับทราบว่าจะต้องทำหน้าที่และภารกิจของตัวเองให้เรียบร้อยก่อน อาชาขึ้นไปกล่าวเปิดงานและขอบคุณเพียงสั้น ๆ ได้รับเสียงปรบมืออย่างล้นหลาม

"งั้นในฐานะผมที่เป็นรุ่นพี่ของทุกคน ขอเชิญคุณอาชา อยู่ร่วมกันสนุกด้วยกันในงานนี้นะครับ

"ผมได้เตรียมโต๊ะ VIP ไว้ให้คุณอาชามุมนู้นแล้วครับ" หลังจากรุ่นพี่พิธีกรพูดจบ ทุกคนก็เริ่มสังสรรค์ฟังเพลงและดนตรีที่ได้เตรียมมา

"โอ้โห! นี่เจสซี่เหรอ?" ตะวันที่ทำตาโตที่เห็นเจสซี่ขณะที่ใส่ชุดสีแดงเพลิงสวยสง่า ปากสีแดงทรงพลัง

"ก็ฉันน่ะสิยะ แกคิดว่าเป็นใครหายัยตะวัน" เจสซี่หันไปทำท่าทีด้วยความมั่นใจตามประสาผู้หญิงสมัยใหม่

หญิงสาวที่ดูสูงสง่านั่งหลังตรงพร้อมกับกระเป๋าแบรนด์เนมสีดำยี่ห้อหรู มือถูกทาแต่งแต้มด้วยสีเล็บเจลสีชมพูธรรมชาติต่างหูเล็กๆ ที่ใบหน้าน่ารัก

"นี่ใครอ่ะ ฉันจำไม่ได้ว่ายัยเจ็ทใครวะ" ตะวันหันมาถามเจสซี่ด้วยท่าทีงง ๆ เพราะคิดว่าในรุ่นไม่มีเพื่อนที่หน้าตาสวยและเซ็กซี่ขนาดนี้

"ฉันบอกแล้วว่าต้องไม่มีใครจำแกได้ แกเชื่อฉันหรือยัง" เจสซี่หันไปเขย่ามือของเหมย

"นี่เพื่อนเราเหรอวะ" ตะวันหันไปทำหน้า เหวอ ๆ ที่ต้องมองเข้าไปจึงพอจะสัมผัสได้

"ยัยเด็กเนิร์ด...!" ตะวันและเพื่อนที่นั่งอยู่ในโต๊ะบริเวณนั้นต่างหันมาจ้องมองแล้ววิ่งเข้ามาดูเหมยเป็นตาเดียวกันทั้งหมด

"เฮ้ย! เด็กเนริ์ดจริง ๆ อ่ะ ทำไมสวยขนาดนี้ ไปทำอะไรมา" ทุกคนต่างพากันรายล้อมเหมยจนเหมยยิ้มแก้มแทบแตก

และหนึ่งในนั้นที่เดินตรงมาที่โต๊ะของเหมยและเจสซี่คือ ธง หนุ่มหล่อประจำคณะวิศวะปี 4 เมื่อหลายปีที่แล้ว เดินตรงเข้ามาที่โต๊ะของเหมย

"สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร" ธงที่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษพร้อมกับเดินเข้ามาทำความรู้จัก

"แหม! พี่ธงไม่เจอกันนาน สันดานเหมือนเดิมเลยนะพี่" เจสซี่ด่าแบบไม่ไว้หน้าธง

"นี่เจสซี่เหรอ" มีผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ด่าธงได้แบบไม่คิด

"ก็เจสซี่น่ะสิคะ คิดว่าใครเหรอ" เจสซี่เบะปากมองบน

"แล้วนี่ไม่ทราบว่าน้องเรียนคณะไหนครับ พี่ไม่เคยเห็นหน้าเลย" ธงที่จำเหมยไม่ได้ก็เข้ามานั่งข้าง ๆ เหมยอย่างถือวิสาสะ

"ขอโทษนะคะ เหมยว่าเราคงไม่ต้องทำความรู้จักกันแล้วล่ะค่ะ เพราะเรารู้จักกันดีมากพอแล้ว" เหมยพูดแบบที่ทำให้ธงหน้าชา คนตรงนั้นต่างพากันอ้าปากหวอ

"นะ ๆ น้องเหมย...!" ธงถึงกับตกใจกับผู้หญิงตรงหน้า ที่ดูสวยสง่าน่าค้นหา หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่โต สะโพกที่ผาย ไหล่ผึ่ง

ยิ่งทำให้ธงอยากจะทำความรู้จักมากขึ้น แต่พอรู้ว่าเป็นเหมย ธงรีบถอยหลังกรูกลับ ไม่คิดว่าจะได้เจอเหมยในรูปลักษณ์ใหม่ที่สวยงามแบบนี้

"ก็เหมยนะสิคะ คิดว่าเป็นคนอื่นหรือไง" เหมยหันไปพูดพร้อมกับส่งยิ้มร้าย ๆ ไปให้ ทั้งที่ใจจริงหัวใจของเหมยทั้งดวงแทบจะลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะกลัวว่าจะโดนเพื่อนในสมัยเรียนล้อเลียนอีก

"โอ้โห! น้องเหมยครับ พี่ไม่คิดว่าจะเป็นน้องเหมย สวยจนจำไม่ได้เลย" ไอ้ต๊อบที่เดินตามหลังของธงมาก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา

"สวัสดีครับน้องเหมย จำพี่ได้หรือเปล่า พี่ต๊อบ เดือนที่คู่กับไอ้ธงไง"

"จำได้สิคะ คนที่ให้พี่ธงมาพนันจีบเหมยในตอนนั้น คนที่ทำให้เหมยเกือบคิดสั้นฆ่าตัวตาย ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะคะ"

เหมยพูดเสร็จก็ยกยิ้มเป็นน้ำเสียงที่เรียบนิ่งแต่บาดลึกหัวใจ กรีดคนฟังเป็นที่สุด

"เออ เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว พี่ไม่คิดว่าน้องเหมยจะจำได้ดีขนาดนี้" ไอ้ต๊อบที่พูดจาติดขัดอึกอักไปหมดเมื่อเหมยได้พูดถึงเรื่องนั้น

"ใช่สิคะ มันผ่านไปนานมากแล้วเนาะ ไม่เห็นจะต้องจำเลย เพราะไม่ใช่คนที่ถูกกระทำเพราะพี่เป็นคนสั่งให้ทำมันก็เลยไม่เป็นไร"

"แต่เหมยเป็นคนที่ถูกรังแกไงคะ มันเลยจำไม่ลืม" เหมยก็ยังยกยิ้มให้

"เออ พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ" เสียงของไอ้ต๊อบและไอ้ธงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็ช็อกไปตาม ๆ กัน

"สวัสดีครับน้องเหมยสวยขึ้นเยอะเลยนะสวยจนจำไม่ได้"สกายที่เดินมาหาเหมยได้ด้วยท่าทีสุขุมและดูอบอุ่นที่สุดในบรรดาทั้งสามคน

"สวัสดีค่ะไม่ทราบพี่คือ...."เหมยพยายามนึกให้ออกว่าคนคนนี้คือใครใบหน้าคุ้นเคยแต่กลับนึกชื่อของคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้

"ผมชื่อสกาย ถ้าเหมยจะนึกหน้าพี่ไม่ออกก็คงไม่แปลกเพราะเราแทบไม่เคยคุยกันเลยยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับ"สกายเปิดตัวและยื่นมือขอไปทำความรู้จักไหมด้วยตัวเขาเอง

"พี่สกายคนที่เป็นเดือนมหาลัยอีกคนที่สาวๆ บอกว่าเจ้าชายหน้านิ่งใช่ไหมคะ"เหมยนึกออก

หากเป็นฉายานี้เพราะจะมีเดือนมหาลัยคนนึงที่สาวๆ คลั่งไคล้เป็นที่สุด แม้จะใบหน้านิ่งเรียบเฉยก็ยังมีสาวๆพร้อมพลีกายถวายชีวิตที่อยากจะขึ้นเตียงกับเดือนมหาลัยคนนี้

"ฮ่า ฮ่า นั่นภาพจำของพี่หรอครับ"สกายถึงกับยกมือเกาหัวและหลุดขำออกมาในความน่ารักของเหมยซึ่งสกายมีความเอ็นดูเหมยกว่าผู้หญิงทุกคนมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว

"เหมยขอโทษนะคะที่จำพี่สกายไม่ได้ตั้งแต่แรก ยินดีที่ได้พบอีกครั้งค่ะ"

เหมยยื่นมือออกไปจับกับสกายด้วยความมั่นใจในรอบหลายปี ที่เหมยไม่ได้พบเจอใครเลย

นี่เป็นครั้งแรกที่เหมยมีความมั่นใจเกินร้อยเพราะมีเพื่อนอย่างเจสซี่คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจ

สกายและเหมยยื่นมือออกมาประสานและจับมือกันสกายส่งยิ้มเล็กๆ ให้กับเหมยเหมยเองก็ตอบรับไมตรีแต่ดูเหมือนแขกไม่ได้รับเชิญอย่างธงได้สอดประสานขึ้นระหว่างทั้งสองคน

"พี่ว่าเรามาเริ่มต้นกันใหม่ดีไหมอ่ะ นี่ครับ ดื่มให้กับการเริ่มต้นใหม่ของเรา"

ธงรินแชมเปญใส่แก้วแชมเปญสุดหรูหลายแก้วยื่นให้กับทุกคน แล้วยื่นให้กับเหมยด้วยใจที่หวังว่าจะจีบเหมยอีกครั้ง เพราะรู้สึกชอบเหมยตั้งแต่แรกเห็น

"น้องเหมยไม่คิดจะรับสัมพันธ์จากพี่เหรอ" เหมยที่จ้องมองแชมเปญในมือของธงสลับไปมากับมองหน้าของธงอย่างกำลังนึกคิดอะไรบางอย่าง เหมือนกับรังเกียจธง

"โทษทีค่ะ พอดีเพื่อนเจสซี่ไม่ดื่มแชมเปญ งั้นขอเจสซี่ดื่มแทนแล้วกันนะคะ" เจสซี่ที่รับแก้วแชมเปญไวน์จากมือของธงเอามาดื่มเอง

"อ่า ทุกคน เดี๋ยวจะหมดสนุกนะ กินเถอะ กินเถอะ" ตะวันที่พยายามปรับทุกอย่างให้เป็นกลางและให้ทุกคนได้มีความสนุก

อาชาที่นั่งจ้องมองมาจากชั้น VIP ด้านบนมีความสนใจในตัวของเหมยตั้งแต่แรกเห็น ก็นั่งจ้องเหมยตาไม่กะพริบ พร้อมกับจิบแชมเปญเบา ๆ อยู่ตรงโซน VIP คนเดียวเช่นกัน

"นายสนใจผู้หญิงคนนั้นเหรอครับ ผมเห็นนายจ้องตั้งแต่เธอเดินลงมาจากรถ" เสือที่รู้ใจผู้เป็นนายจึงเอ่ยปากถาม

"ใช่ ฉันสนใจเธอ ฉันอยากทำความรู้จักเธอมากกว่านี้ แกช่วยไปสืบให้ฉันหน่อยได้ไหมว่าเธอเป็นใคร" อาชาที่จ้องมองร่างบางผ่านแก้วแชมเปญตาไม่กระพริบ

"ได้ครับนาย ผมจัดการให้เดี๋ยวนี้" เสือเดินออกจากโซน VIP แล้วสั่งการให้ลูกน้องค้นประวัติแขกทุกคนที่มาในงานวันนี้

โดยเฉพาะสองคนที่เพิ่งลงมาจากรถ อีโค่คันสีขาว ว่าสองสาวนั้นเป็นใคร โดยเฉพาะผู้หญิงชุดดำ......

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • รักสุดท้ายของอาชา   อาชาคลั่งรัก

    ระหว่างที่เหมยกำลังครุ่นคิดว่าจะนอนที่ไร่ชาพรหมเทพของอาชาดีไหม ก็กลายเป็นว่าเธอโดนอาชามัดมือชกให้พักที่นี่อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะอาชาหยิบกุญแจรถแล้วยื่นให้เสือขับไปจอดที่บ้านพักตากอากาศหลังเดิมที่ เหมยเคยมาพักผ่อนตอนอยู่กับเจสซี่"โธ่ คุณอาชาคะ เหมยเกรงใจค่ะ ให้เหมย กลับเองก็ได้ แค่นี้เอง" เหมยหันไปทำหน้าสิ้นหวังเมื่ออาชาไม่อนุญาตให้ตนกลับบ้าน"ไม่ได้หรอกครับคุณเหมย มันดึกแล้ว ถ้าพรุ่งนี้คุณเหมยก็หยุดใช่ไหมครับ คุณเหมยพักที่นี่เถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยกลับนะครับ" อาชาใช้ความเป็นสุภาพบุรุษหลอกล่อ"ก็ได้ค่ะ" เหมยเมื่อจนปัญญาก็ต้องทำตามน้ำไปก่อน"งั้นคุณเหมยไปอาบน้ำพักผ่อนที่ห้องดีกว่า เอาเสื้อเชิ้ตผมไปใส่ได้ เดี๋ยวผมไปเตรียมเสื้อผ้าให้" อาชาพูดอย่างกระตือรือร้นเหมยพยักหน้าเป็นเชิงว่าไม่มีทางเลือกแล้ว ก็ต้องทำตามที่อาชาตัดสินใจ ทั้งสองออกจากคาเฟ่แล้วขับรถกอล์ฟ โดยมีเสือเป็นคนขับรถพาทั้งสองคนกลับไปที่บ้านพักตากอากาศที่อยู่ห่างไม่ไกลจากคาเฟ่"บรรยากาศที่ไร่ชายิ่งตอนกลางคืนยิ่งสวยมากเลยนะคะ ดูสิคุณอาชาจัดไฟออกมาได้สวยงามมากเลย

  • รักสุดท้ายของอาชา   ธงน่าลำคาญ

    ขณะที่ ธง มาส่งที่ไร่ชาพรหมเทพของ อาชา ก็ค่อนข้างมืดและเปลี่ยว กว่าจะถึงไร่ชาก็เกือบ 2 ทุ่มแล้ว ธงมาในฐานะ ผู้ช่วยผู้จัดการฝึกงานวิศวกรเครื่องยนต์ ในไร่ชาที่จะต้องทำการฟื้นฟูและดูแลบำรุงรักษา ธงจึงต้องมาฝึกงานเพื่อให้เรียนรู้ในตำแหน่งนี้ก่อนเป็นระยะเวลา 3-6 เดือน หรือจนกว่าจะผ่านโปร“ข้างหน้านี่ก็น่าจะถึงแล้วค่ะ แล้วกระเป๋าเสื้อผ้าอะไรของพี่ธงอยู่ไหนหรอคะ เหมยเองก็ลืมถามเพราะมัวแต่เจอเรื่องชุลมุนอยู่”“กระเป๋าเสื้อผ้าพี่ส่งมาที่ไร่ชาแล้วตั้งแต่วันสองวันก่อนหน้านี้ แต่ตัวพี่เพิ่งจะมาวันนี้เพราะติดธุระที่กรุงเทพฯ เลยบินมาช้ากว่า” ธงเอ่ยปากบอกเหมยในสิ่งที่เหมยถามอย่างรวดเร็ว“อ๋อค่ะพี่” เหมยก็ตั้งใจขับรถตรงเข้าไปบริเวณไร่ชา ขณะที่กำลังเลี้ยวรถจอดตรงหน้าคาเฟ่ ซึ่งมีคนกำลังนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศวิวภูเขาไร่ชาและชมดาวที่ท้องฟ้าดูโปร่งสวยสดใส พร้อมกับแสงไฟระยิบระยับทั้งไร่ ทำให้บรรยากาศดีเข้าไปอีกเหมยจอดรถตรงลานจอดที่หน้าคาเฟ่ พอดีจังหวะนั้น เสือ เดินออกมาจากคาเฟ่พร้อมกับอาชา และเห็นเหมยมากับธง อาชาถึงกับโกรธควันออกหู“ไอ้เวรนั่นมากับเหมยได้ยังไง ไอ้เสือ มึงไปสืบมาให้กูเดี๋ยวนี้” อาชาออกคำ

  • รักสุดท้ายของอาชา   คนที่ไม่อยากเจอ

    เหมือนวันเวลาผ่านไปรวดเร็วมื้อกลางวันเพิ่งผ่านไปไม่นานยัยหนูลิลลี่ที่เดินเล่นและพูดคุยกับเหมยก็หมดฤทธิ์ราวกับตุ๊กตาที่ถ่านหมดนอนสลบไสลอยู่บนโซฟาใหญ่ของเหมย"ผมขอบคุณมากนะครับคุณเหมยที่ช่วยดูแลยัยหนูลิลลี่ทั้งวันรบกวนคุณเหมยมากแล้วผมจะพายายหนูลิลลี่กลับนะครับ"อาชาที่เดินเข้าไปอุ้มสวมกอดแม่หนูน้อยลิลลี่ที่หลับตาพริ้ม"ไม่เป็นไรเลยค่ะเอาไว้เหมยเคลียร์งานเรียบร้อยเหมยจะติดต่อไปเรื่องสอนพิเศษนะคะ"เหมยลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วรีบเดินมาเปิดประตูให้กับอาชาที่อุ้มร่างเล็กของยัยหนูลิลลี่อยู่"ขอบคุณมากครับคุณเหมยที่ช่วยเปิดประตู"อาชายังคงความเป็นสุภาพบุรุษทุกอย่างต่อหน้าเหมย"เดี๋ยวเหมยไปเปิดประตูรถให้นะคะ"เหมยพูดจบก็รีบวิ่งไปที่ประตูรถหรูแล้วก็เปิดประตูให้สองลุงหลานขึ้นรถยุโรปคันหรูทันที"เดินทางปลอดภัยนะคะ"เหมยยืนโบกมือให้กับอาชาและแม่หนูน้อยลิลลี่ที่กำลังขับรถออกไปจากบ้านสวนของเธอเหมยถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะวันนี้เธอหมดพลังงานไปกับแม่หนูน้อยลิลลี่ที่แสนน่ารักและก็ติดเธอเอามาก ๆ แบบที่ไม่เคยมีเด็กคนไหนทำกับเธอมาก่อนเธอไม่ได้รู้สึกรำคาญกับรู้สึกถูกชะตาและเอ็นดูกับแม่หนูน้อยลิลลี่มากขึ้นไปอีกม

  • รักสุดท้ายของอาชา   แขกไม่ได้รับเชิญ

    เหมยแทบจะตั้งตัวไม่ทันเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆ ตะโกนมา เธอจึงรีบวางอาหารปลาและหันควบตามเสียง ถึงกับตาเบิกโพลงตกใจเล็กๆ ที่เห็นหนูลิลลี่สะพายกระเป๋าสีชมพูแล้วตั้งท่าวิ่งมาหาเธอด้วยความดีใจ "หนูลิลลี่มาได้ยังไงคะ?" เหยตะโกนถามพร้อมกับอ้าแขนรับ "ลิลลี่คิดถึงคุณครูที่สุดเลยค่ะ ลิลลี่มากับคุณลุงอาชาค่ะ คุณลุงพามาหาคุณครู" พูดจบลิลลี่ก็ชี้มือชี้ไม้ไปทางผู้ชายตัวสูงใบหน้าหล่อเหลาในชุดสูทสีน้ำเงินรองเท้าหนังสีดำมันเงาดูสะอาดเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า "คุณอาชาทำไมมาถึงนี่เลยคะ?" เหมยที่ลุกขึ้นพร้อมกับใช้มือเล็ก ๆ ปัดไปที่ก้นเบาๆ เพราะเธอนั่งเล่นอยู่ที่พื้นก็กลัวเลอะ "ขอโทษคุณเหมยนะครับ แม่หนูลิลลี่ของผมร้องไห้ทุกวันเลย ก็เลยอดใจอ่อนไม่ได้ที่พายัยหนูมาหาครับ""แล้วก็ต้องขอโทษอีกครั้งที่ไม่ได้โทรแจ้งล่วงหน้า" อาชาแสดงด้านที่อบอุ่นออกมาให้เหมยเห็นเสมอ ภายใต้หน้ากากนี้มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ สายตาที่จ้องมองร่างบางของเหมยดูแวววับประดุจมีดที่ถูกรับจนกระทบแสง อาชากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อเห็นเหมยในเสื้อกล้ามส

  • รักสุดท้ายของอาชา   ติดตามชีวิต

    วันนี้เหมยได้ลากกระเป๋าออกจากไร่ชาของอาชาเพื่อกลับมาที่บ้านสวนของเธอ กว่าเธอจะบอกลาแม่หนูน้อยลิลลี่ที่แสนน่ารักก็ทำใจอยู่นานเพราะลิลลี่เอาแต่ร้องไห้งอแง อาชาเองก็สงสารหลานสาวจับใจแต่ก็ต้องจำใจปล่อยให้เหมยกลับมาเหมยที่กลับมาถึงบ้านแล้ว เธอก็จัดการปิดจบต้นฉบับนิยายที่ต้องส่งสำนักพิมพ์เรื่องสุดท้ายของเดือนแล้วจะพักผ่อนยาว"เยส..! เป็นไทยแล้วฉันเหมยที่บอกตัวเองเบาๆเมื่อปิดจบต้นฉบับนิยายจำนวน 150,000 คำเหมยที่ไปอยู่ไร่ชาของอาชานานเกือบอาทิตย์กว่ากลับมาก็จัดการเก็บกวาดห้องเรียบร้อยก็เล่นเหนื่อยเอาสายตัวแทบขาดโดยที่เหมยไม่รู้ตัวเลยว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่แปลกไปภายในบ้านของเหมยอาชาได้แอบให้คนเข้ามาติดกล้องขนาดเล็กที่หากไม่จับสังเกตไม่สามารถหาพบเจอได้มันเล็กจิ๋วและอำพรางไปกับข้าวของเครื่องใช้นับ 10 ตัวตั้งแต่หน้าประตูทุกซอกทุกมุมรวมไปถึงห้องนอนและอาบน้ำของเหมย"ฉันคิดถึงเธอจังเหมย"เสียงพึมพำของใครบางคนเหมยที่อยากจะเข้าไปล้างเหงื่อใครหลังจากเก็บกวาดห้องเสร็จก็ได้ปลดเปลื้องผ้าที่เปรอะเลอะเทอะลงตะกร้าแล้วเดินเปลือยเปล่าเปิดน้ำใส่อ่างพร้อมกับตีฟองนุ่มๆ ขาเรียวเล็กผิวขาวเนียนสวยไม่มีตำหนิสะโพ

  • รักสุดท้ายของอาชา   ลิลลี่ผู้น่าสงสาร

    วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เจสซี่จะอยู่ในประเทศไทย เธอต้องลาจากไร่ชาแสนสุขและบอกลาเพื่อนรักอย่างเหมย นักเขียนนิยายที่กำลังจะกลายเป็นว่าที่คุณครูกวดวิชาประจำตัวของเด็กหญิงลิลลี่ที่น่ารัก เจสซี่ได้พบเพื่อนใหม่ที่เป็นบอดี้การ์ดหน้าโหด ไม่เคยส่งยิ้มให้เธอเลย แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยเสมอเมื่ออยู่ใกล้ นั่นคือเสือ คนขับรถที่มาส่งเจสซี่ที่สนามบินตามคำสั่งของอาชา"ฉันต้องไปแล้ว แกต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ อย่าให้ใครมารังแกแกได้ เข้าใจไหม ยัยบื้อ" เจสซี่พูดด้วยความรักและห่วงใยเหมยยิ่งกว่าเพื่อนทุกคน แม้ปากจะร้ายกาจแต่ไม่เคยทำให้เหมยเสียใจเลย"แกไม่ต้องห่วงฉันหรอก ฉันจะเหงาได้ไง แล้วใครจะมาทำอะไรฉันได้ นู่น ฉันมีบอดี้การ์ดส่วนตัวอย่างหนูลิลลี่ที่แสนน่ารัก นอนกอดฉันทุกคืน" ตั้งแต่ไปอยู่ไร่ชาครบ 1 อาทิตย์ หนูลิลลี่ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเหมย ทั้งสองคนตัวติดกัน ถ้ามองห่าง ๆ คงคิดว่าเป็นแม่กับลูก""จ้ะ ตั้งแต่มีหนูลิลลี่ แกก็ทิ้งฉันเลย แกต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ ยัยเหมย เอาไว้ฉันปิดเทอมเมื่อไหร่ ฉันจะแวะมาหาแกนะ" เจสซี่บอกลาเหมยพร้อมน้ำตาที่เอ่อล้นเสือที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก เห็นหน้าเจสซี่ก็ทำใบหน้าเรี

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status