เวลาผ่านไปสักระยะ ญาณินและแตงกว่าเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น และสามารถที่จะเรียกว่าเพื่อนสนิทกันอย่างได้เต็มปาก
ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงตรงโดยประมาณ สองสาวคณะสถาปัตย์เดินออกมาจากตรงหลังเลิกคลาสเป็นที่เรียบร้อย ทั้งคู่ยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะไปกินข้าวกลางวันกันที่ไหนดี จึงเดินเถียงกันมาตลอดทาง
“ฉันรู้แล้ว ถ้าอย่างนั้นเราไปกินข้าวกันที่ตึกวิศวะฯ กันไหมล่ะ”
“แหม ยายกวาคบกับพี่เขาได้ยังไม่ทันไร ก็ติดหนึบเลยนะ”
“เปล่าสักหน่อย ฉันก็แค่เสนอตัวเลือกให้แกไง แต่ไปด้วยกันก็ดีนะ”
“ฉันไม่ไปได้ไหม ขี้เกียจเดินด้วยอะ”
ญาณินตัดสินใจปฏิเสธออกไปด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคง เพราะใจหนึ่งเธอเองก็ไม่อยากเพื่อนสนิทต้องไปคนเดียว แต่อีกใจเธอก็ไม่ได้อยากไปที่นั่นมากถึงเพียงนั้น จึงยังไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเอายังไงดี
“อะไรกัน แล้วแกจะให้ฉันไปคนเดียวเหรอ อีกอย่างฉันเองก็ไม่ได้อยากปล่อยให้แกไปกินคนเดียวเหมือนกัน ไปด้วยกันนี่แหละ นะ ๆ ๆ”
ประโยคดังกล่าวลอยแว่วมาถึงหูของหญิงสาวเจ้าของใบหน้างามจนเธอรู้สึกใจอ่อนยวบลงมาแทบจะทันที ญาณินเองก็เป็นห่วงแตงกวาไม่ต่างกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยหากว่าเธอจะยอมใจอ่อนให้ง่าย ๆ
“อืม ไปเป็นเพื่อนก็ได้ แต่ว่ากินเสร็จแล้วต้องรีบกลับนะ ฉันไม่ได้สนิทกับใครที่คณะนั้นเลย กลัวว่าจะอึดอัดกันเปล่า ๆ”
“มีฉันกับแฟนฉันอยู่ทั้งคน แกไม่ต้องกลัวอึดอัดหรอก อีกอย่างเพื่อน ๆ ของพี่เขาก็เฟรนด์ลีกันทั้งนั้น วันแรกที่ฉันไปทุกคนก็ชวนฉันคุย เป็นกันเองสุด ๆ ว่าไปแล้วก็ดีเหมือนกัน แกจะมารู้จักฉันคนเดียวในมหาวิทยาลัยไม่ได้นะ ทำความรู้จักกับพี่ ๆ เขาไว้ เผื่อวันไหนมีอะไรเดือดร้อน จะได้มีคนพร้อมช่วยเหลือ”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ แต่แกห้ามปล่อยให้ฉันนั่งเหงา ๆ อยู่คนเดียวละกัน ไม่อย่างนั้นนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันยอมไปด้วย เข้าใจไหม?”
สิ่งเดียวที่เธอกำลังเป็นกังวลอยู่ในตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นการเข้าสังคม ตั้งแต่แรกญาณินไม่ได้ต้องการเป็นที่สนใจจากใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ทว่าเหตุผลที่แตงกวาให้มาก็ไม่ได้น่าเกลียดจนถึงขนาดที่เธอรับไม่ได้แต่อย่างใด นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอยอมเปิดใจลองดูสักตั้ง เผื่อว่าอะไร ๆ ในชีวิตจะดีขึ้นตามคำแนะนำของเพื่อนสนิทคนนี้...
“เข้าใจแล้วค่ะคุณญา...ไปกันเถอะ พี่เขาน่าจะรออยู่ที่โรงอาหารคณะแล้ว”
พูดจบทั้งสองก็พากันเดินไปยังตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ทั้งสองใช้เวลาไม่นานก็มาถึง พวกเธอพากันเดินหาแฟนหนุ่มของแตงกวาอยู่สักพัก ก่อนจะพบเข้ากับกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่กลางโรงอาหาร
“ทำไมมาช้าจัง” แฟนหนุ่มของแตงกวากล่าวถามขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่าพวกเธอทั้งสองคนมากันช้า ทั้ง ๆ ที่นัดเวลากันเอาไว้เร็วกว่านี้
“พอดีมัวแต่ขอร้องให้ญามาเป็นเพื่อนน่ะ นางไม่ค่อยอยากมาเท่าไร ฝากชวนคุยหน่อยนะ เพื่อน ๆ พี่ก็ด้วย” แตงกวาเอ่ยบอกชายหนุ่มรุ่นพี่ด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ ก่อนที่จะจบบทสนทนาด้วยการพากันนั่งลง โดยที่ยังคงมีกลุ่มเพื่อนของอีกฝ่ายนั่งเรียงรายกันอยู่
“น้องแตงกวานี่พวกพี่ก็พอรู้จักอยู่นะ ว่าแต่น้องคนเป็นใครเหรอ เห็นนั่งเงียบ ๆ ไม่พูดไม่จากับใครเลย”
ชายคนหนึ่งที่นั่งร่วมวงอยู่กล่าวขึ้นตามความสงสัยที่ผุดขึ้นมาอย่างกะทันหันเมื่อสังเกตเห็นว่าหญิงสาวรุ่นน้องที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันกับแตงกวาแฟนสาวของเพื่อนตนเอง
“เพื่อนหนูเองค่ะ เป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของหนู เธอชื่อญาค่ะ อาจจะเข้าสังคมไม่ค่อยเก่ง แต่ว่าน่ารักแล้วก็จริงใจมาก ๆ ญา...พูดอะไรหน่อยสิ”
“อ๋อ...ชื่อญานะคะ เป็นเพื่อนของแตงกวาค่ะ”
ญาณินเอ่ยสวนขึ้นมาตามคำขอของเพื่อนสาวที่นั่งติดหนึบอยู่ข้างกาย แต่ทว่าในเนื้อเสียงกลับสั่นเครือ ไม่มั่นใจกันขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ยิ่งอยู่ต่อหน้าผู้คนที่ให้ความสนใจมาที่เธอกันอย่างล้นหลาม ก็ยิ่งแล้วใหญ่ ตอนนี้เธอแทบไม่เป็นตัวของตัวเองเลยด้วยซ้ำ
“ไอ้นอร์ท มึงใจเย็นดิวะ มองน้องเขาเหมือนอย่างกับว่าจะจับแดกลงท้องอย่างนั้นอะ ดูดิ...น้องเขากลัวจนตัวสั่นแล้วน่ะ”
ชายอีกคนที่นั่งมองดูเหตุการณ์อยู่อย่างไม่ละสายตา เมื่อเห็นว่า นอร์ท หนึ่งในเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งร่วมวงสนทนาอยู่จับตาดูหญิงสาวที่มาใหม่ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตร
ตั้งแต่ที่ญาณินเดินเข้ามา เขาก็มองเธอด้วยสายตาเช่นนั้นตั้งแต่หัวจดเท้า ราวกับว่าไม่ถูกชะตากันทั้งที่เพิ่งจะได้พบกันที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่เคยสนิทด้วยมาก่อน แล้วก็ไม่เคยมีเรื่องร้ายแรงต่อกันมาก่อนเลยอีกด้วย
นั่นจึงส่งผลให้หญิงสาวที่ต้องถูกตกเป็นเป้าสายตาถึงขั้นต้องมองกลับด้วยสายตาไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก
“นั่นสิคะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ก็เปล่านี่” นอร์ทตอบกลับอย่างทันควัน
ตอนที่ 5.2เวลานี้เขากำลังกอดอกแล้วทอดสายตามองคนตรงหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่เขาทำเหมือนกับว่าโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อนเลยอย่างไรอย่างนั้น“ญา ไปซื้อข้าวกันเถอะ”แตงกวาที่นั่งมองสถานการณ์อันแสนจะน่าอึดอัดนั้นอยู่สักพัก จึงตัดสินใจพาเพื่อนสาวของตนออกมา ก่อนที่จะบานปลายกันไปมากกว่านี้เมื่อเดินออกมาจนลับสายตาจากกลุ่มคน ญาณินก็ไม่คิดที่จะเก็บอาการอีกต่อไปแล้ว...“ฉันไปทำอะไรให้เขาอะ ถึงได้มองกันด้วยสายตาแบบนั้น ตั้งแต่ฉันเดินเข้ามา เขาก็มองฉันตั้งแต่หัวจดเท้า แกก็เห็น”“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ปกติพี่เขาก็ไม่ได้เป็นแบบนี้นะ แต่ฉันก็ไม่ได้สนิท พี่นอร์ทเขาก็คงเป็นแบบนี้กับทุกคนแหละ แกอย่าคิดมากเลย”“เขาจงใจจะหาเรื่องฉันชัด ๆ เลย คนอะไรไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่กลับมองกันด้วยสายตาแบบนั้น คิดแล้วก็โมโหไม่หาย”ทั้งที่เป็นการพบเจอกันครั้งแรก แต่หญิงสาวกลับรู้สึกคับข้องใจกับอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ซ้ำยังหมายหัวนอร์ทเอาไว้ว่าคงจะไม่มีทางญาติดีกันง่าย ๆ อย่างแน่นอน“อย่าโมโหสิ แกก็เฉย ๆ ไปก่อน ไปซื้อข้าวกันเถอะ”ญาณินไม่ได้คัดค้านอะไร เธอยอมเงียบเฉยตามที่แตงกวาบอก
ตอนที่ 6หากแต่หลังจากวันนั้น แตงกวากลับชวนญาณินไปกินข้าวกลางวันที่โรงอาหารคณะวิศวะฯ อยู่บ่อย ๆ ช่วงนี้เธอติดแฟนหนุ่มคนนั้นมาก ถ้าจะปล่อยญาณินเอาไว้คนเดียวก็ยังไง ๆ อยู่ เธอจึงจำเป็นต้องบังคับเพื่อนสาวให้ไปด้วยกัน“ญา…”“ฉันไม่ไป แกอยากไปก็ไปเลย ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”“ไม่เอาอะ ไปด้วยกันเถอะนะ ขอร้อง...”“แตงกวา แกก็รู้ว่าฉันไม่อยากเจอเขา”ญาณินยังคงยืนกรานปฏิเสธอยู่อย่างนั้น เพราะรู้ดีว่าถ้าไปก็คงจะถูกผู้ชายคนนั้นหาเรื่องอีกเหมือนอย่างที่ผ่าน ๆ มา เธอไม่อยากยุ่งกับคนแบบนั้นอีกแล้ว“ฉันรู้ แต่ว่าฉันไม่อยากไปคนเดียว แกคิดว่าผู้หญิงไปนั่งในกลุ่มผู้ชายแบบนั้น มันจะดีเหรอ?”“ถ้าอย่างนั้นแกก็ไม่ต้องไปสิ ให้แฟนแกมาคณะเราบ้าง”“ไม่ได้หรอก ฉันรับปากไว้แล้วอะว่าจะไปกินข้าวด้วยทุกวัน นะ...ไปด้วยกันเถอะนะญา” ทว่าแตงกวากลับไม่ยอมลดละความพยายาม เธอออดอ้อนเพื่อนสนิทข้างกายอยู่พักใหญ่ เพราะไม่อยากผิดคำพูดที่ได้ให้ไว้กับแฟนหนุ่ม“เออ ๆ ไปก็ไป ถ้าไม่ใช่แกฉันไม่ยอมแบบนี้ทุกวันหรอกนะ รู้เอาไว้ด้วย”“เย่ ถ้าอย่างนั้นไปกันเลยดีกว่า ขอบคุณนะเพื่อนรัก...”หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับความเอาแต่ใจของแตงกว
ตอนที่ 7“จะให้เย็นยังไงอีก ที่ผ่านมายังเย็นไม่พอหรือไง คนบ้าอะไรหาเรื่องกันทุกครั้งที่เจอหน้า นี่ถามจริง ๆ เลยนะคะ ฉันไปทำอะไรให้ ถึงได้ทำนิสัยเสียใส่กันแบบนี้ตลอดเลย”เป็นครั้งแรกที่ญาณินไม่คิดที่จะอดกลั้นความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายอีกต่อไปแล้ว เธอไม่สนใจว่าผู้คนรอบข้างจะมองมาอย่างไร อย่างน้อย ๆ วันนี้นอร์ทจะต้องได้รับรู้ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาตั้งแต่แรกเจอจนถึงตอนนี้ว่ามันไม่เคยมีความรู้สึกดี ๆ เลยแม้แต่นิดเดียว“แล้วทำไม กับแค่คำว่าเฉิ่ม ต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ สงสัยจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ถึงได้ร้อนตัว”“ไอ้นอร์ท มึงก็หาเรื่องน้องเขาอยู่ได้ พอได้แล้ว”“กูไม่พอ มึงคิดว่ามึงห้ามกูได้เหรอ?”ชายหนุ่มใบหน้าคมสันหันไปมองเพื่อนสนิทก่อนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบและแฝงไว้ด้วยความไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่งวินาทีที่ญาณินได้ยินคำตอบเช่นนั้น เธอก็ได้แต่ขมวดคิ้ว ในชีวิตของเธอไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมารู้จักมักคุ้นกับคนแบบนี้เลย เธอคงตัดสินใจผิดแล้วที่ตามติดแตงกวามาด้วยตั้งแต่วันแรก ๆ“คนแบบนี้น่ะเหรอคะ ที่มีแต่คนเคารพ ไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ”“มันเกี่ยวอะไร ตัวเองโมโหแล้วพาลไปเรื่อย แบบนี้ก็ได้เหรอ
ตอนที่ 8หลังจากที่มีเรื่องวุ่นวายที่มหาวิทยาลัย วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ญาณินไม่มีเรียน จึงตื่นสายกว่าปกติ แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว สิ่งแรกที่เธอทำก็คือการเช็กโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ก่อนที่จะได้รับข้อความจากเพื่อนสนิทสมัยมัธยม เธอจึงรีบต่อสายตรงกลับไปเพื่อถามรายละเอียดเพิ่มเติมทันที“ฮัลโหล เก้า เราเห็นข้อความที่แกส่งมาแล้วนะ คือยังไงเหรอ?”“ขอบคุณนะญาที่ติดต่อกลับมา พอดีตอนนี้เรากำลังต้องการคนมาช่วยเป็นดีเจให้ที่ร้านแทนคนเก่าวันหนึ่งน่ะ เรานึกไม่ออกแล้วว่าจะเป็นใครได้ ถ้าไม่ใช่แก”เพื่อนสนิทคนนั้นตอบรายละเอียดต่าง ๆ กลับมาจนญาณินเริ่มเข้าใจเจตนาที่อีกฝ่ายติดต่อมา ซึ่งเธอเองก็ใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าควรจะตอบตกลงหรือว่าปฏิเสธออกไปดี“หาคนอื่นแล้วไม่ได้จริง ๆ เหรอ”“ใช่ แต่ถ้าแกไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ เราเองก็เกรงใจเหมือนกัน”“ไม่เป็นไร ๆ แค่วันเดียวเอง เดี๋ยวแกส่งโลเคชันร้านมาไว้เลยนะ เดี๋ยวฉันตามไป”“ขอบคุณนะญา ไว้เจอกันนะ เดี๋ยวเราส่งโลฯ แล้วก็เวลาที่ขึ้นโชว์ให้”“โอเค เจอกัน”เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว สายก็ถูกตัดไป วินาทีนั้นญาณินถึงกับเอนหลังลงไปนอนอีกครั้ง แค่คิดก็เหน
ตอนที่ 9สองชั่วโมงต่อมา...ญาณินเดินลงมาจากเวทีพร้อมกับเสียงร้องโห่จากลูกค้าภายในสถานบันเทิงแห่งนี้ พวกเขายังคงสนุกสนานอยู่กับโชว์ของเธอ หากแต่ระยะเวลาของญาณินได้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว เธอจึงจำเป็นที่จะต้องลงมาจากเวทีตามข้อตกลงที่ได้พูดคุยกันเอาไว้ก่อนหน้านี้“สุดยอดมากเลยอะญา ขนาดไม่ได้จับนาน ยังโชว์มัดใจลูกค้าได้มากขนาดนี้ สงสัยต้องมาประจำอยู่ที่นี่แล้วแหละ สนใจไหม?”“คงไม่อะ แค่สองชั่วโมงก็เหนื่อยจะแย่แล้ว อีกอย่างช่วงนี้กิจกรรมที่มหาวิทยาลัยก็ค่อนข้างเยอะ ฉันคงไม่มีเวลาหรอก”หญิงสาวตอบปฏิเสธเพื่อนสนิทกลับไปอย่างทันควันตามจริงแล้วไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากทำงานนี้ ทว่าเมื่อลองคิด ๆ ดูแล้ว เวลาว่างของเธอหลังจากที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็แทบไม่หลงเหลือเลย ถ้าจะให้มาแบกรับงานแบบนี้ เกรงว่าคงจะไม่มีเวลาเข้าไปกันใหญ่ญาณินเพียงแค่กลัวว่าจะไม่เต็มที่กับหน้าที่ที่ได้รับก็เท่านั้น“แต่ลูกค้าติดแกกันมากเลยนะ ดูสิ พอแกลงก็ร้องโห่กันใหญ่เลย ดูท่าคงต้องให้แกมาช่วยบ่อย ๆ”“ไม่หรอก ดีเจคนอื่นก็เปิดมันจะตาย พวกเขาอาจจะไม่เคยได้ฟังสไตล์การเล่นของฉันน่ะ ก็เลยแตกตื่นแบบนี้”“สไตล์ไหนไม่สำคัญหรอก เพราะฉั
ตอนที่ 10แต่ถึงกระนั้น คำตอบจากปากของเจ้าตัวถือเป็นที่สิ้นสุด เธอยังคงยืนหยัดในคำตอบแรกของเธอ ผู้เป็นเจ้าของผับจึงได้แต่ทำใจยอมรับแล้วปล่อยให้เธอกลับทั้งที่เสียดายเหลือเกิน“ญา...มาทำงานที่นี่เถอะ ผับนี้ ไม่ใช่ว่าใครก็ได้นะที่จะได้เป็นดีเจประจำ ถึงขนาดที่คุณเพชรเขามาขอให้แกทำงานที่นี่ด้วยตัวเอง ฉันเชื่อเลยว่าไม่มีใครได้โอกาสนี้แน่ ๆ”หลังจากที่เจรจากับเพชรเรียบร้อยและได้ข้อสรุปแล้ว ญาณินก็ขอตัวกลับทันที เมื่อเป็นแบบนั้นเก้าก็ไม่พลาดที่จะมาส่งเธอกลับด้วยตัวเอง และไม่วายที่จะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ หวังเกลี้ยกล่อมให้เธอยอมมาทำงานที่นี่ตามความต้องการของทุก ๆ คน“พอได้ยินแบบนี้ ฉันก็เริ่มจะลังเลซะแล้วสิ ตอนเห็นลูกค้าเรียกร้องให้กลับขึ้นไป ก็ว่าหนักใจแล้ว เจ้าของผับกับแกมาพูดแบบนี้อีก ฉันก็ยิ่งหนักใจ”“ฉันไม่ได้อยากกดกันแกนะ แต่ว่าโอกาสแบบนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้จริง ๆ นะ ฉันแค่ไม่อยากให้แกพลาดน่ะ เพราะฉันเองก็เห็นมาตลอดว่าแกรักในงานนี้เอามาก ๆ”“ฉันก็เข้าใจทุกคนแหละ แต่สิ่งรอบข้างมันก็ไม่ได้เป็นใจให้ฉันขนาดนั้น ไว้จะลองเอากลับไปคิดดูนะ แล้วจะกลับมาให้คำตอบ”“อื้ม ไม่ว่าแกจะตัดสิ
ตอนที่ 11“ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นหรอก แต่ไม่พลาดสายตาฉันแน่ ๆ อะ ไปทำอะไรกันแน่ สารภาพมาเลย”“เปล่าสักหน่อย ห้องฉันรกจริง ๆ ไม่มีอะไรเลย”“โอเค ๆ ไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร ถ้าอย่างนั้นวันนี้...ไปกินข้าวด้วยกันไหม?”ยังไม่ทันไร แตงกวาก็วนเข้าเรื่องนี้อีกแล้ว ถึงวันนั้นจะตกลงกันเอาไว้อย่างจริงจัง แต่ท้ายที่สุดเธอก็ไม่อยากปล่อยให้เพื่อนสนิทต้องอยู่คณะคนเดียวอยู่ดี“ไม่...”“จะไม่ไปด้วยกันจริงเหรอ?”“ไม่มีทาง ฉันไม่อยากเจอหน้าหมอนั่น แกก็รู้ นี่แค่พูดถึงยังหัวเสียขนาดนี้ ถ้าต้องไปเจอหน้าเขาอีก ฉันคงกินข้าวไม่ลง”ญาณินออกปากปฏิเสธโดยที่เธอแทบจะไม่ได้หยุดคิดก่อนเลยด้วยซ้ำ เวลานี้นอร์ทคงเป็นสิ่งเดียวที่เธอไม่ชอบมากที่สุด เพราะแบบนี้จึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปพอเจอกับเขาอีก“ก็ได้ ไปคนเดียวก็ได้”“มันควรจะเป็นแบบนั้นตั้งนานแล้ว บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วงฉัน มีแฟนก็ไปอยู่กับแฟนเถอะ ฉันไม่ซีเรียสเรื่องพวกนี้หรอกน่า”“อืม เอาตามนั้นก็ได้ แต่ถ้าพี่นอร์ทไม่อยู่ ฉันโทร. ตามนะ โอเคไหม”“โอเค ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหา”พวกเธอทั้งสองพูดคุยกันอยู่พักใหญ่ เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไ
ตอนที่ 12วันต่อมา... ขณะนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่งโดยประมาณ ญาณินเดินทางมายังที่ทำงานใหม่ของเธอเพื่อเตรียมตัวและซาวนด์เช็กก่อนเริ่มงานในเวลาห้าทุ่มถึงตีสอง เนื่องจากว่าตอนนี้เธอได้เป็นดีเจประจำของที่ผับแล้วดังนั้นการจัดเตรียมต่าง ๆ ก็ควรจะเป็นหน้าที่ของเธอ เวลาหยิบจับอะไรก็จะได้ง่ายขึ้นหน่อยด้วยความที่ทางด้านของผับประกาศออกไปสู่สาธารณะว่าคืนนี้จะเป็นคืนแรกที่เปิดตัวดีเจประจำผับคนใหม่ และใบ้ว่าเป็นคนที่ทุกคนชื่นชอบ วันนี้ผู้คนจึงหนาตาเป็นพิเศษลูกค้าต่างพากันมาต้อนรับและสนุกสนานกับแสงสีเสียงในคืนวันศุกร์กันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว“เป็นไงบ้าง ดีเจคนใหม่ วันนี้มีลูกค้ามารอแกเต็มเลย ภูมิใจแทนเลยว่ะ” เก้าเดินตรงเข้ามาหาญาณินด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะตบเข้าที่บ่าของอีกฝ่ายอย่างเบามือ“แกก็พูดเว่อร์ไปน่า จะไปได้ดีหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย”“มันต้องเป็นไปได้ด้วยดีแน่นอน เรามั่นใจ”“ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นนะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันไปเตรียมตัวก่อนนะ”“โอเค เจอกัน”ญาณินไม่ได้ตอบกลับอะไร เธอเพียงแค่ยิ้มตอบ แล้วเดินจากไปเพื่อเตรียมตัวขึ้นโชว์เปิดตัวดีใจคนใหม่ที่ทางผับจัดคิวไว้ให
ตอนพิเศษ 5เขาว่ากันว่าเวลาของความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ญาณินเองก็เพิ่งมาเจอกับตัวเองเอาก็วันนี้ จากวันที่คลอดลูกชายออกมาจนถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ สี่ปีแล้ว หลังจากที่ลูกชายรู้เรื่องและเข้าโรงเรียนแล้ว ความวุ่นวายก็ทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัว“แม่ครับ พ่อไม่ยอมแวะร้านค้าให้เหนือ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าถ้าเหนือสอบได้คะแนนดีจะให้ซื้อของเล่นได้” เด็กชายวิ่งดุ่มๆ เข้ามาหาผู้เป็นแม่ทันทีที่กลับมาถึงบ้านและมีเรื่องผิดใจกับนอร์ทมาตลอดทาง“แล้วพ่อบอกว่าอะไรครับ ทำไมถึงไม่แวะ”“ก็เพราะว่าเหนือสอบได้คะแนนดี แต่ครูประจำชั้นแจ้งว่าเล่นแรงๆ กับเพื่อนจนเขาเป็นแผล ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นแล้วแม่ญาจะปลอบหรือว่าดุกว่าพ่อกันแน่” นอร์ทที่เดินตามเข้ามาติดๆ ได้ยินลูกชายตัวแสบฟ้องภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะพูดบอกความจริงให้แก่ญาณินได้รับรู้ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ กันกับเธอ“แต่เพื่อนทำเหนือก่อน เหนือแค่ป้องกันตัว แต่พ่อไม่เข้าใจเหนือเลย”“เหนือ...แล้วลูกทำเพื่อนกลับจนเป็นแผลเลยเหรอครับ?” ญาณินซักถามความจริงจากปากของเหนือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูเข้มงวดกับเรื่องแบบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว“จริงครับ”“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเหนือผ
ตอนพิเศษ 4เมื่อเข้าเดือนที่แปดของการตั้งครรภ์ ญาณินก็เริ่มเดินเหินได้ยากมากขึ้น แน่นอนว่าการช่วยเหลือตัวเองในแต่วันยากกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก แล้วก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่าการที่มีสามีคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาช่วยให้เธอเหนื่อยได้น้อยลงมากเลยทีเดียวอีกอย่างช่วงห้าเดือนก่อนหน้านี้ นอร์ทได้พาญาณินได้ตรวจดูเพศของลูกในท้องก่อนได้รับข่าวว่าลูกน้อยของทั้งสองคนนั้นเป็นเพศชาย ซึ่งก็เป็นไปตามที่พวกเขาคาดเดากันเอาไว้อยู่แล้ว จึงดีใจกันมากที่ได้ลูกชายตามที่หวังเอาไว้...เนื่องจากอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว เหล่าเพื่อนๆ ทั้งนอร์ทและญาณินจึงพากันมาเยี่ยมหา และพูดคุยถึงสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาเพื่อนในวัยเรียนที่ปัจจุบันยังคงสนิทสนมและติดต่อกันอยู่“เป็นไงบ้างแก เห็นว่าช่วงแรกๆ แพ้ท้องหนักมาเลยใช่ไหม? ขอโทษทีนะที่เพิ่งมา ฉันเองก็เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ แต่พอมาถึงก็รีบมาหาแกเป็นคนแรกเลยนะ”คราวนี้แตงกวาเองก็ไม่พลาด หลังจากวันที่เรียนจบ เธอเองก็มีทางของตัวเอง ย้ายไปเรียนต่อเฉพาะทางที่ต่างประเทศ กลับมาอีกทีก็ได้ทราบข่าวว่าญาณินกำลังจะคลอดลูกน้อยออกมาแล้วในอีกไม่ช้า เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอก็เลยชวนวีแ
ตอนพิเศษ 3สองปีต่อมา...ขณะที่นอร์ทกำลังขนของที่ไปซื้อมาจากห้างเข้าบ้าน จู่ๆ ญาณินก็มีอาการแปลกประหลาด อ่อนเพลียคล้ายจะเป็นลม เธอเดินลงจากรถแล้วมาจับรถไว้หวังไม่ให้ตัวลงล้มลง“ญา หนูเป็นอะไร พี่เห็นหน้าซีดๆ ตั้งแต่ที่ห้างแล้วนะ” ชายหนุ่มรีบวางของในมือลงบนพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างบางให้เดินเข้าไปพักในบ้าน และไม่ลืมที่จะถามอาการจากปากของเจ้าตัว“ญาเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่มันรู้สึกเพลียๆ แล้วก็เวียนหัวตลอดเวลาเลย”“โอเคๆ งั้นเข้าไปพักข้างในก่อนดีกว่า แล้วถ้ายังไม่ดีขึ้นเดี๋ยวพี่จะพาไปโรงพยาบาล”จากนั้นนอร์ทก็รีบพาภรรยาของเขาเข้ามานั่งพักที่โซฟาทันที แต่ทว่าระหว่างที่นั่งพักเอาแรง อาการของญาณินกลับไม่ทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะหนักขึ้นตลอดเวลาเลยก็ว่าได้“ญา พี่ว่าเราไปหาหมอกันเถอะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พักอีกนิดก็น่าจะดีขึ้น”“ญา...อย่าดื้อสิ เดี๋ยวไปจะเตรียมรถ แล้วเดี๋ยวพี่มาช่วยพยุง ห้ามเดินไปไหนเองนะ รอพี่ เข้าใจไหม”ญาณินได้แต่พยักหน้ารับรู้ อาการของเธอเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่อาจต้านทาน เกรงว่าหากยังดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำแนะนำของสามี อาจจะเกิดข่าวร้ายขึ้นก็ได้...ทว่าในตอนที่น
ตอนพิเศษ 2หลังจากที่เลือกชุดสำหรับวันแต่งงานกันเสร็จสรรพ ทั้งคู่ก็มีแพลนที่ต้องไปหาร้านทำของชำร่วยเพื่อเป็นของตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่แขกผู้มาร่วมยินดีในงานสำคัญของทั้งสอง ซึ่งกว่าที่ทุกอย่างจะเรียบร้อย ก็ทำเอาพวกเขาหมดเรี่ยวแรงไปตามๆ กันขณะนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งทุ่มตรง ด้วยความที่ออกไปทำธุระเรื่องงานแต่งงานมาทั้งวัน ญาณินรู้สึกอ่อเพลียเอามากๆ จึงตัดสินใจหนีว่าที่สามีลงแช่น้ำในอ่างอยู่คนเดียว ทว่าไม่นานก็มีคนถอดเสื้อผ้าตามเข้ามา...“พี่นอร์ท...ญาแช่อยู่นะคะ”“แล้วพี่แช่ด้วยไม่ได้เหรอ?”“ก็พี่ตัวใหญ่ กินที่ญาหมดแล้วเนี่ย” เธอเอ่ยปากบ่นก็จริง แต่ก็ยอมขยับให้นอร์ทลงมาแช่น้ำด้วยกันแต่โดยดี“งั้นหนูก็มานั่งกับพี่สิ” พูดจบได้ยังไม่ทันไร คนอายุมากกว่าก็พลันอุ้มร่างของหญิงสาวเบื้องหน้าให้มานั่งยู่บนตักของตัวเอง ก่อนจะเกยค้างวางไว้บนไหล่ กระทั่งลมหายใจแผ่วเบาของเขาส่งผลให้ญาณินถึงกับต้องเบนหน้าหนีออกไปอีกทาง“วันนี้ไม่ได้นะคะ พรุ่งนี้ญาต้องไปหาพ่อกับแม่”“พี่ก็ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย แค่ขอแช่น้ำด้วยเอง หรือว่าญา...คิดอะไรกับพี่ อย่างนั้นเหรอ?” นอร์ทถามด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ ทั้งสองใกล้ชิดกั
ตอนพิเศษ 1หลังจากที่ญาณินถูกนอร์ททำเซอร์ไพรส์ให้ เมื่อกลับมาถึงห้องเธอก็เอาแต่ร้องไห้จนนอร์ทใจไม่ดี คิดว่าตนทำเรื่องผิดมหันต์เอาไว้ แต่ที่ไหน...“ญา หนูเป็นอะไร พี่ทำอะไรผิดจนหนูไม่พอใจหรือเปล่า?” นอร์ทตัดสินใจเอ่ยถามเธอออกไปตามตรง แม้จะแอบหวั่นใจ กลัวคำตอบที่จะได้รับกลับมาอยู่ไม่น้อยเลยก็ตาม“เปล่าค่ะ...หนูแค่ดีใจ ไม่คิดว่าพี่จะมีมุมนี้เหมือนคนอื่นเขาด้วย...” ญาณินเอ่ยขณะเดียวกันก็ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด เธอเพียงตื้นตันใจ ไม่คิดว่าแฟนหนุ่มที่ในอดีตเคยเป็นคู่กัดกันมาก่อนจะมีมุมโรแมนติกเหมือนกับคนอื่นๆ“อ๋อ เรื่องนี้เองเหรอ ที่ทำให้แฟนพี่ร้องไห้หนักขนาดนี้ พี่ก็นึกว่าซุกกิ๊กไว้ไม่เนียนซะอีก”“ห๊า...กิ๊กไหน ใครคะ?” หญิงสาวร่างบางถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ซ้ำยังปาดน้ำตาบนแก้มจนแห้งสนิททันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายตอบสวนกลับมาเช่นนั้น“ล้อเล่นครับ จริงจังอะไรขนาดนั้น”“พี่นอร์ท! ใครให้เล่นแบบนี้ ญาใจหายหมดเลย” ญาณินถึงกับถอนหายใจแรง ตอบกลับแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงเจือแววตำหนิอยู่ไกลๆ ทั้งที่เธอกำลังตื้นตันใจอยู่กับเซอร์ไพรส์ก่อนหน้านี้ แต่ทว่านอร์ทกลับเอาเรื่องมือที่สามมาเป็นเรื่องล้อเล่น ญาณินคิดแ
ตอนที่ 99ในที่สุดช่วงเวลาที่คู่รักหนุ่มสาวรอคอยก็มาถึง จริง ๆ แล้วยังไม่ถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตก แต่ด้วยความเบื่อหน่าย นอร์ทจึงไปถามรายละเอียดพนักงานโรงแรมเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนจะได้รู้ว่าช่วงหกโมงเย็นจะมีม้าออกมาเดินเล่นที่ริมหาดซึ่งพวกเขาสามารถขึ้นขี่แล้วเดินเล่นได้หนึ่งรอบถ้วน แต่ก่อนที่จะลงไป นอร์ทกลับรู้สึกไม่สบายใจกับการแต่งตัวของญาณินเท่าไรนัก“ไหนว่าพี่รอดูไง พอญาแต่งออกมาแล้ว จะมาทำหน้างอทำไมคะเนี่ย”“มันโป๊ไป ตอนแรกพี่นึกว่ามันจะปิดเยอะกว่านี้ แต่นี่คือ...”ขณะที่เอ่ยสายตาก็พลางลอบมองร่างบางตั้งแต่หัวจดเท้า ชุดว่ายน้ำที่อยู่บนตัวของญาณินงดงามเกินคำบรรยายแต่ทว่าสิ่งเดียวที่เขาไม่พึงพอใจก็คงจะหนีไม่พ้นชุดที่โป๊จนเผยให้เห็นเนื้อหนังมังสาเกือบทุกส่วนของร่างกาย ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งและรวมไปถึงก้นเนียน ๆ ของเธอนั่นก็ด้วย“นาน ๆ ทีจะได้มาเที่ยวทะเล เว้นไว้สักครั้งนะคะ”“โอเค พี่ไม่เถียงด้วยแล้ว หนูอยากใส่อะไรก็ใส่ แต่ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะ เสร็จแล้วก็รีบลงไป เดี๋ยวจะไม่ทันพระอาทิตย์ตกดินเอานะ”“รับทราบค่ะ”เมื่อได้รับคำอนุญาตจากว่าที่สามีเป็นที่เรียบร้อย ญ
ตอนที่ 98หลายสัปดาห์ต่อมา...“ญา วันนี้ไปเที่ยวกันไหม?” นอร์ทเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ แฟนสาว ก่อนที่จะเอ่ยถามความเห็นของเธอ หลังจากที่ได้ไอเดียดี ๆ มาจากเพื่อนรัก“ไปเที่ยวที่ไหนคะ เดี๋ยวอีกสองวัน ก็จะได้ไปเที่ยวทะเลด้วยกันแล้วนี่คะ”“ก็ช่วงนี้มันน่าเบื่อ เราไปเที่ยวในกรุงเทพฯ กันก่อนก็ได้ อีกอย่างวันนี้หนูก็ไม่มีเรียน พี่อยากพาไปที่ที่หนึ่ง”“ไปได้ค่ะ ว่าแต่ที่ไหนเหรอคะ”“สวนสนุก”เมื่อความต้องการของนอร์ทเป็นเช่นนั้น มีหรือที่ญาณินจะขัด ตอนแรกเธอก็ไม่ได้คิดอะไร เพียงแค่อยากมาเที่ยวเป็นเพื่อนตามประสาคู่รักทั่วไป แต่ก็ไม่คิดเลยว่าสถานที่ที่นอร์ทพาเธอมา จะสวยแล้วก็ดูมีอะไรให้น่าทำเยอะแยะเต็มไปหมด“เป็นไงบ้าง? ชอบไหม?”“พี่พาญามาทั้งทีก็ต้องชอบสิคะ ว่าแต่พี่ไปรู้ที่ดี ๆ แบบนี้มาจากไหน ทำไมญาไม่คุ้นตามาก่อนเลย”“ที่นี่เป็นสวนสนุกเปิดใหม่ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก คนก็เลยยังน้อย แต่เพื่อนพี่บอกกันมาปากต่อปากว่าที่นี่เหมาะแก่การสารภาพสุด ๆ”วันนี้เป็นอีกวันที่นอร์ทชาร์ตพลังมาเต็มร้อย เขาพยายามทำให้แฟนสาวประทับใจในการมาเที่ยวผ่อนคลายครั้งนี้ให้ได้มากที่สุด ญาณินจึงเห็นเขายิ้มแย้มและดูสดใสร่าเริงต
ตอนที่ 97นับจากวันที่เข้าไปปรึกษากับพ่อและแม่จนถึงปัจจุบัน เวลาผ่านมาเกือบ ๆ หนึ่งเดือนเต็ม ทุกคนต่างก็ยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องงานหมั้นหมาย เนื่องจากว่าครอบครอวของทั้งคู่มีชื่อเสียงดังนั้นหมั้นกันทั้งทีก็ต้องป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ ในส่วนของสถานที่พิธีการก็ต้องยิ่งใหญ่เหมาะสมกับฐานะทางบ้านของทางฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เรื่องนี้คุณหญิงอรเป็นคนจัดการดูแลให้ทั้งหมด ไม่มีปัญหาใด ๆ ระหว่างการเตรียมการเลยก็ว่าได้จนกระทั่งระยะเวลาเดินทางมาถึงวันงาน ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น แขกที่มาร่วมแสดงความยินดีต่างก็ปลื้มปริ่มกับบรรยากาศภายในงาน คุณหญิงอรสะดวกจัดงานเช้า จึงจำเป็นจะต้องมีพิธีสงฆ์ แห่ขันหมากและกั้นประตู หลังจากนั้นจึงจะเป็นพิธีสวมแหวนต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เมื่อฝ่ายชายและหญิงสวมแหวนให้กันเรียบร้อย ก็ต่อด้วยพิธีรับไหว้ทันทีบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยแขกคนสนิทของทั้งสองฝ่าย เพื่อนสนิทของนอร์ทและญาณินก็ไม่พลาดที่จะมาเก็บภาพบรรยากาศให้กับเพื่อนรัก พวกเขาทุกคนต่างก็เห็นจุดเริ่มต้นของสองคนมาตลอด มีทั้งสุขและทุกข์ โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ทะเลาะกันทุกวี่ทุกวัน เรื่องนั้นเพื่อน ๆ ในกลุ่มจำได้
ตอนที่ 96หลังจากวันนั้น นอร์ทก็คิดมาเสมอว่าควรจะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง และให้เกียรติทางฝั่งของญาณิน เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ทางบ้านของนอร์ทนัดทานข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา นอร์ทตัดสินใจแล้วว่าจะไปบอกเรื่องสำคัญกับพวกท่านตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น นอร์ทเดินมานั่งรอพ่อและแม่ที่บริเวณโต๊ะอาหารก่อนเป็นคนแรก ระหว่างที่พวกท่านกำลังเดินเข้ามาร่วมโต๊ะ มือไม้ของชายหนุ่มกลับอยู่ไม่เป็นสุข เขาประหม่าจนทำตัวไม่ถูกทั้ง ๆ ที่อยู่ต่อหน้าคนกันเองทั้งนั้นแต่เขากลับรู้สึกผิดแปลกไปจากเดิม คงเป็นเพราะความในใจที่เขาอยากจะบอกกับทุกคน เป็นเรื่องที่ใหญ่อยู่พอสมควร“เป็นยังไงบ้างลูก เห็นว่าช่วงนี้เรียนหนักแถมยังติดหนูญาอีกต่างหาก ลืมที่บ้านไปแล้วหรือยัง” ผู้เป็นแม่เอ่ยทักทายลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดแซวเขาที่พักหลังมานี้ติดแฟนเสียยิ่งกว่าอะไร“ก็เรื่อย ๆ นะครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี แต่ก็คงจะไปหนักช่วงใกล้จบมากกว่า ตอนนี้ยังไหวอยู่ครับแม่”“งั้นก็ดีแล้ว ว่าแต่หนูญาล่ะเป็นยังไงบ้าง เธอสบายดีใช่ไหม”“สบายดีครับ ช่วงนี้น้องเรียนหนัก เพราะว่าจะได้ขึ้นมาเป็นรุ่นพี่ มีเรื่องให้ต้องเต็มไปหมด วันนี้ก็เ