ตอนที่ 8
ชุดคู่
เวลาล่วงเลยมาจนบ่าย แต่ฟ้าใสก็ยังไม่กลับมาตามที่เธอบอกไว้ เพชรมองนาฬิกาบนผนังบ้านพักเป็นครั้งที่ห้า ขณะที่มือเขายกแก้วน้ำขึ้นจิบอย่างใจลอย เขาจำได้ว่าเธอบอกว่าจะกลับมาตอนเที่ยง แต่ตอนนี้เลยมาบ่ายโมงกว่าแล้วเธอก็ยังไม่กลับมา สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว
เพชรคว้ากุญแจบ้าน ก่อนจะเดินไปที่บ้านของการดาทันที โดยไม่ได้บอกใคร เขาแค่บอกตัวเองว่า จะไปดูเฉย ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงยังไม่กลับมา
แต่เมื่อเขาเดินเลี้ยวพ้นแนวรั้วไม้ไผ่ เขาก็หยุดเดินทันที...
ฟ้าใสนั่งอยู่ตรงลานบ้านของพี่ดา ในชุดผ้ากันเปื้อนที่มอมแมมเล็กน้อย เธอกำลังย่อตัวข้างถังไม้ย้อมผ้า มือขาว ๆ กำลังคนสีครามในถังด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยสมาธิ
ผมของเธอมัดหลวม ๆ เหงื่อเล็กน้อยเกาะตามไรผม และมีรอยยิ้มที่เขาเคยเห็นจนชินตา
เพชรเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว กับท่าทางน่ารักของเธอ จนเสียงแซวจากการพี่ดาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ดังขึ้นข้างหู
“มองซะเคลิ้มเลยนะคะคุณเพชร”
เพชรสะดุ้งน้อย ๆ ก่อนจะรีบหุบยิ้มแล้วปรับสีหน้าเป็นนิ่งเฉย แล้วถามกลับ “ฟ้าใสทำอะไรอยู่ครับพี่ดา”
“ย้อมผ้าค่ะ เธอบอกว่าจะทำชุดคู่” การดาหัวเราะเบา ๆ “แต่ไม่ใช่แค่ชุดคู่ธรรมดานะคะ เธอบอกว่าเป็นชุดคู่รักของเรา น่ะค่ะ”
เพชรฟังแล้วหัวใจกระตุกนิดหนึ่ง
“ของเรา” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้ฟ้าใส แล้วจะถามขึ้น
“ไหนเธอบอกจะกลับบ้านตอนเที่ยง นี่เลยเวลาไปตั้งนานแล้วนะ กลายเป็นย้อมผ้าทั้งวันเลยเหรอ”
ฟ้าใสเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอสว่างไสวขึ้นเมื่อเห็นเขา
“อ้าวพี่ มาเมื่อไหร่คะ ตอนแรกฉันก็กะจะแค่ช่วยพี่ดาย้อมผ้าสักหน่อย แต่ไป ๆ มา ๆ พี่ดาก็สอนให้ฉันทำเองเลยค่ะ สนุกมากเลยค่ะ พี่เองมาลองทำดูสิคะ เดี๋ยวฉันสอน” เธอพูดพลางยกผ้าผืนหนึ่งขึ้นมาโชว์
“แล้วนี่มันอะไร” เพชรถาม พลางรับผ้าผืนนั้นจากมือเธอ
“ก็...ผ้าสำหรับเย็บเป็นเสื้อของพี่ค่ะ ส่วนของฟ้าใสอีกผืนกำลังแช่อยู่ตรงโน้น”
“เธอจะทำ ชุดคู่” เพชรถามช้า ๆ
ฟ้าใสพยักหน้าอย่างไม่เขิน “ก็ใช่น่ะสิคะ เราเป็นสามีภรรยากัน จะไม่มีชุดคู่ได้ยังไง” ก่อนจะพูดต่อด้วยเสียงแผ่วแต่แน่วแน่ “ถึงพี่กับฉันจะไม่ใช่สามีภรรยากันจริง ๆ ก็ตามเถอะ”
ประโยคนั้นทำให้เพชรยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาไม่รู้ว่าควรตอบยังไงดี กับคำพูดที่ว่า “ถึงพี่กับฉันจะไม่ใช่สามีภรรยากันจริง ๆ ก็ตามเถอะ” เพราะทั้งเขาและเธอต่างก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง...แต่มันก็ดึงหัวใจเขาให้หยุดเต้นไปเสี้ยววินาที
ฟ้าใสไม่ได้คาดหวังคำตอบ เธอกลับไปคนสีครามในถังต่ออย่างสบายใจ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่เพชรกลับรู้สึกไปหมด รู้สึกถึงมือขาว ๆ ที่คนผ้า รู้สึกถึงเสียงใส ๆ ที่พูดว่า ของเรา รู้สึกถึงบางอย่าง ที่เขาเริ่มอยากให้มันเป็นความจริง
หลังจากเสร็จสิ้นการย้อมผ้าและตากผ้าให้แห้งที่ราวหลังบ้าน ฟ้าใสก็ล้างมือ ล้างแขน ก่อนจะหันมายิ้มให้คนที่นั่งรอเธออยู่ตรงบันไดไม้
“ไปเดินตลาดกันเถอะค่ะพี่ เดี๋ยววันนี้ฉันจะทำอาหารเย็นให้ พี่อยากกิยนอะไรเป้นพิเศษหรือเปล่าคะ”
เพชรเหลือบตามองเธอที่ล้างมือเสร็จและยิ้มตาเป็นประกายใส ๆ เหมือนเด็กที่ชวนไปเล่นของโปรด เขาพยักหน้ารับ “ไม่มี อยากทำอะไรก็ทำ”
ทั้งคู่เดินออกจากบ้านของพี่ดา เพื่อไปตลาดด้วยกันด้วยกัน
ทางเดินลาดยาวตามถนนของหมู่บ้านของหมู่บ้านเล็กๆ มีลมเย็นพัดเอื่อย บรรยากาศเงียบสงบและเป็นธรรมชาติจนเพชรเริ่มรู้สึกเหมือนได้พักจริง ๆ มากกว่าการมาคุ้มครองพยาน
และเมื่อเดินมาถึงบริเวณตลาดยามเย็นเล็ก ๆ กลางหมู่บ้าน กลิ่นไก่ย่าง กล้วยปิ้ง และต้มสมุนไพรหอมฉุยลอยมากระทบจมูกทันที แต่สิ่งที่กระทบแรงกว่าคือ เสียงแซวของชาวบ้าน
“อ้าว คุณฟ้าใส คุณเพชร มาเดินด้วยกันอีกแล้วเหรอ นี่มันข้าวใหม่ปลามันชัด ๆ”
“โอ๊ย สองคนนี้ยิ่งดูก็ยิ่งเหมาะกันนะป้าแดงว่าไหม”
“ใครจะไม่เชื่อว่าแต่งกันใหม่ ๆ ดูเขาสิ หวานไปหมดทั้งตลาดแล้ว”
เพชรยกมือเกาหลังคอแก้เก้อ ส่วนฟ้าใสทำเป็นหัวเราะแห้ง ๆ แต่หน้าแดงระเรื่อ “ฟ้าใสมาซื้อกับข้าวค่ะพี่ ๆ อย่าแซวกันสิคะ” เธออธิบายเสียงเบา ๆ ก่อนจะพูดเล่นกับบรรดาแม่ค้าเช่นปกติ
“นี่เธอไม่เขินเลยเหรอ” เพชรแกล้งถามขณะยื่นถุงกล้วยปิ้งให้เธอ
“จะเขินทำไมคะ ฉันว่าน่ารักดีออก แสดงว่าเราแสดงเก่งจนทุกคนเชื่อกันหมด ไม่ดีเหรอค่ะ หรือว่าพี่เขิน” ฟ้าใสหันมายิ้มตาใส ๆ ให้เขา แล้วกัดกล้วยปิ้งคำเล็ก ๆ
เพชรไม่ได้ตอบทันที เขาแค่เดินไปข้างหน้าเงียบ ๆ แล้วพูดเบา ๆ
“ก็ไม่ได้เขินอะไร”
ฟ้าใสชะงักไปเล็กน้อย หัวใจเธอกระตุกวูบ เธอรีบเดินตามเขาไป พร้อมกับใบหน้าแดงที่ไม่อาจซ่อนใครได้อีกแล้ว
ทั้งคู่เดินต่อไปเรื่อย ๆ ผ่านร้านผัก ผลไม้ ร้านเสื้อผ้าชาวบ้าน บางร้านถึงกับยื่นผ้าถุงคู่มาให้ดู
“อันนี้ก็ชุดคู่นะจ๊ะ จะซื้อไปใส่กันมั้ยล่ะลูก หรือจะซื้อไว้เป็นของขวัญวันครบรอบดีล่ะ”
ฟ้าใสยิ้มขำ ๆ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ ส่วนเพชรตอนนี้ เขาเงียบ แต่มุมปากเขากระตุกนิดหนึ่งอย่างห้ามไม่อยู่
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เขารู้สึกว่าการที่เธอถูกเรียกว่าภรรยาของเขา มันกลายเป็นคำเรียกที่ชินหูของเขาไปแล้ว
ตอนที่ 8ชุดคู่เวลาล่วงเลยมาจนบ่าย แต่ฟ้าใสก็ยังไม่กลับมาตามที่เธอบอกไว้ เพชรมองนาฬิกาบนผนังบ้านพักเป็นครั้งที่ห้า ขณะที่มือเขายกแก้วน้ำขึ้นจิบอย่างใจลอย เขาจำได้ว่าเธอบอกว่าจะกลับมาตอนเที่ยง แต่ตอนนี้เลยมาบ่ายโมงกว่าแล้วเธอก็ยังไม่กลับมา สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวเพชรคว้ากุญแจบ้าน ก่อนจะเดินไปที่บ้านของการดาทันที โดยไม่ได้บอกใคร เขาแค่บอกตัวเองว่า จะไปดูเฉย ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงยังไม่กลับมาแต่เมื่อเขาเดินเลี้ยวพ้นแนวรั้วไม้ไผ่ เขาก็หยุดเดินทันที...ฟ้าใสนั่งอยู่ตรงลานบ้านของพี่ดา ในชุดผ้ากันเปื้อนที่มอมแมมเล็กน้อย เธอกำลังย่อตัวข้างถังไม้ย้อมผ้า มือขาว ๆ กำลังคนสีครามในถังด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยสมาธิผมของเธอมัดหลวม ๆ เหงื่อเล็กน้อยเกาะตามไรผม และมีรอยยิ้มที่เขาเคยเห็นจนชินตาเพชรเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว กับท่าทางน่ารักของเธอ จนเสียงแซวจากการพี่ดาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ดังขึ้นข้างหู“มองซะเคลิ้มเลยนะคะคุณเพชร”เพชรสะดุ้งน้อย ๆ ก่อนจะรีบหุบยิ้มแล้วปรับสีหน้าเป็นนิ่งเฉย แล้วถามกลับ “ฟ้าใสทำอะไรอยู่ครับพี่ดา”“ย้อมผ้าค่ะ เธอบอกว่าจะทำชุดคู่” การดาหัวเราะเบา ๆ “แต่ไม่ใช่แค่ชุดคู่ธรรมดานะคะ
ตอนที่ 7เช้าที่ไม่เหมือนเดิมเสียงไก่ขันแว่วมาแต่เช้าตรู่ แดดอ่อน ๆ สาดลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องพัก ฟ้าใสลืมตาขึ้นช้า ๆ เธอยังคงนอนอยู่ในผ้าห่มข้าง ๆ เธอมีร่างสูงที่นอนนิ่งเงียบหลับสนิทอยู่ข้าง ๆนี่ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วที่เธอกับเขามาพักอยู่ที่นี่ และก็เป็นเกือบอาทิตย์ที่เธอมีเขานอนอยู่ข้าง ๆ แบบนี้แต่สิ่งที่ฟ้าใสไม่คาดคิดคือ... เธอตื่นขึ้นมาในสภาพที่มือของเธอซุกอยู่ในฝ่ามือของเขาอย่างแนบสนิทนี่แสดงว่าเธอกับเขานอนจับมือกันเหรอ ฟ้าใสคิดอย่างเขินๆเธอมองหน้าด้านข้างของเขาที่ดูผ่อนคลายเวลาหลับ... น่ารักกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแฮะ“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่” ฟ้าใสพูดเบาๆ แล้วค่อย ๆ ดึงมือออกจากมือเขา ก่อนจะลุกจากเตียงไปอาบน้ำกลิ่นข้าวผัดไข่หอม ๆ ลอยมาเมื่อเพชรเดินงัวเงียออกมาจากห้องน้ำ เขาเห็นหญิงสาวในชุดเดรสผ้าฝ้ายสีขาว กำลังยืนผัดข้าวอยู่ในครัวเล็ก ๆ ของบ้านพัก“ทำอะไรน่ะ” เพชรถามเสียงง่วง“ข้าวผัดค่ะ พี่จะกินเลยมั้ยเสร็จแล้วพอดีเลย” ฟ้าใสบอก เธอปิดเตาแล้วตักข้าวผัดใส่จาน“อืม” เพชรตอบก่อนที่เขาจะเดินมารับจานข้าวผัดจากมือของหญิงสาว แล้วไปนั่งกินที่ระเบียงสำหรับชมวิวเช่นทุกวันฟ้าใสเองก็เดินตามอ
ตอนที่ 6คืนแรก “ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว พี่ไปอาบต่อได้เลยค่ะ” ฟ้าใสบอก เธอเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดนอนเพชรมองฟ้าใสที่อยู่ในชุดนอนผ้าฝ้ายสีครีมลายตุ๊กตาหมี มีระบายที่แขน กับกางเกงขาสั้นลายเดียวกัน ที่คอของเธอมีผ้าขนหนูผืนเล็กผาดอยู่ ถ้าเขาไม่รู้ว่าเธออายุเท่ากับน้องสาวของเขา เขาคงคิดว่าเธอเป็นแค่เด็กสาวมอปลาย“อืม” เพชรตอบรับ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำเขาใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็เดินออกมา เพชรมองฟ้าใสที่ยังคงนั่งทาครีมอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งยังไม่เสร็จ ก่อนที่เขาจะเดินไปนั่งที่ด้านข้างของเตียง แล้วมองหญิงสาวผ่ากระจก“ที่นี่มีเตียงเดียว” เพชรพูดขึ้นฟ้าใสมองสบตาเขาผ่านกระจกก่อนที่จะตอบ “ใช่ค่ะ” เธอวางกระปุกครีมลงก่อนจะหันกลับมามองหน้าเพชร“ก็เราเป็นสามรภรรยากัน จะนอนแยกห้องกัน มันไม่แปลกเหรอคะ หรือว่าพี่ไม่อยากนอนเตียงเดียวกันกับฉัน” ฟ้าใสเอียงคอแล้วถามด้วยใบหน้าใสซื่อ“ถ้าพี่ไม่นอนเตียงแล้วพี่จะไปนอนที่ไหน โซฟานั่นก็ไม่น่าจะยาวพอที่พี่จะนอนได้” ฟ้าใสมองไปที่โซฟากลางห้อง “หรือว่าพี่จะนอนที่พื้น แต่ที่นี่กลางคืนจะเย็นมาก ผ้าห่มก็มีแค่ผืนเดียว อีกอย่างยุ่งที่นี่ก็เยอะ
ตอนที่ 5คู่รักฮันนีมูน“จองห้องพักค่ะ”ฟ้าใสยื่นบัตรประชนปลอม ที่ท่านผู้การให้คนทำขึ้นมาให้เธอใช้เพื่อการปิดบังตัวตนในการซ่อนตัว ให้กับเจ้าของบ้านพัก ก่อนที่เธอจะมองบ้านพักที่อยู่ด้านหน้าเธอด้วยความตื่นเต้น“เรียบร้อยแล้วค่ะ นี่ค่ะกุญแจ” เจ้าของที่พักยืนบัตรประชาชนกับกุญแจบ้านพักให้ฟ้าใส“พี่ชื่อการดานะคะ เรียกว่าพี่ดาก็ได้ค่ะ ถ้าคุณฟ้าใสมีเรื่องอะไรบอกพี่ได้เลยนะคะ บ้านพี่อยู่หลังนั้น หรือจะโทรมาบอกพี่ก็ได้ โทรได้ยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ” การดาบอกพร้อมกับชี้ไปที่บ้านของเธอ ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล“ได้ค่ะพี่ดา” ฟ้าใสบอก เธอส่งยิ้มให้การดา ก่อนจะหันไปบอกชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอ“เราเข้าบ้านกันเถอะค่ะพี่” ฟ้าใสบอก ก่อนที่เธอจะเดินนำหน้าชายหนุ่มเข้าไปในบ้านชายหนุ่มเองก็ยิ้มให้กับการดาก่อนจะถือกระเป๋า แล้วเดินตามหญิงสาวเข้าไป“สวยหล่อสมกันจริงๆ ดูท่าจะรักกันมาก สงสัยจะยังข้าวใหม่ปลามัน” การดาเอ่ยขึ้นเบาๆ หลังจากทั้งสองเดินหายเข้าไปในบ้านแล้วหลังจากที่เธอดูลูกค้าของเธอเข้าไปในบ้านได้สักพัก เธอเองก็เดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อเดินกลับบ้านของเธอ เพราะไม่อยากจะอยู่รบกวนคู่แต่งงานใหม
ตอนที่ 4ยืนยันเป้าหมาย“เมฆ เหรอ เธอแน่ใจนะ”สิงห์ถามย้ำอีกครั้ง เมฆาหรือเมฆที่พวกเขาพูดถึงคือพี่ชายฝาแฝดของน่านฟ้า แต่เมฆไม่ได้อยู่กับน่านฟ้า ทั้งสองคนถูกจับแยกกันตั้งแต่เด็ก เมฆาอยู่กับพ่อ น่านฟ้าอยู่กับแม่“แน่ใจสิ ถึงฉันจะเคยเจอหมอนั่นตัวเป็นๆ แค่สองครั้ง แต่ฉันจำแววตาหมอนั่นได้ ฉันมั่นใจ”พลอยสวยตอบอย่างมั่นใจ ฟ้าใสเองก็พยักหน้ายืนยัน“นายจำได้มั้ย ฉันเคยบอกว่าพวกนายสองคนมีแววตาเหมือนกันมาก”พลอยสวยหันไปบอกน่านฟ้า แต่น่านฟ้าส่ายหน้าปฏิเสธ“ไม่อ่ะ ฉันจำไม่ได้ว่าเธอเคยพูดแบบนั้น”“จำไม่ก็ช่างนายสิ แต่ฉันจำได้แม่นเลย ฉันคิดอยู่ตั้งนานว่าฉันเคยเห็นหน้าหมอนั่นที่ไหน ที่แท้ก็เคยเห็นจากบ้านนาย”ฟ้าใสมองหน้าของพลอยสวยที่ทะเลาะกับน่านฟ้าสลับไปมา“ตอนแรกที่ฉันเห็นหน้านาย ฉันตกใจมากนึกว่านายจะมาฆ่าฉัน เพราะแววตาของนายเหมือนกับคนที่อยู่บนรถมาก แต่พอลองมาคิดดูอีกที นายไม่น่าจะเลวถึงขั้นทำเรื่องแบบนั้นได้ เพราะฉะนั้นคนที่จะทำเรื่องนี้เลยมีแค่หมอนั่นคนเดียว”ตอนนี้สีหน้าของน่านฟ้ามีความสับสนและงง คนพวกนี้พูดเรื่องอะไรกัน“เดี๋ยวก่อนที่จะพูดถึงไอ้เวรนั่น ใครก็ได้ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยว่านี่มันเร
ตอนที่ 3พยานคนใหม่สถานีตำรวจทันทีที่มาถึงสถานีตำรวจ ฟ้าใสก็ถูกพาเข้ามาภายในห้องเพื่อตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดร่วมกับสารวัตรเพชรและผู้การ“ฟ้าใสไปถึงที่ร้านประมาณ เที่ยงค่ะ เพราะฟ้ากับคุณเมฆนัดทานอาหารเที่ยงกันด้วยค่ะ”ฟ้าใสบอก เพชรจึงเลื่อนเวลาของกล้องไปในช่วงเวลาดังกล่าว“นั่นรถของฟ้าใสค่ะ”หญิงสาวชี้ไปที่รถของเธอ ที่กำลังเลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถของที่ร้าน“ตอนที่ฟ้าใสไปถึงที่ร้าน คุณเมฆก็มาถึงแล้ว คุณเมฆบอกว่ามาถึงก่อนฟ้าใสไม่นานก็น่าจะไม่เกิน สิบนาที”ฟ้าใสบอกพร้อมกับนึกถึงบทสนทนาในวันนี่ตอนที่เจอกับเมฆ“คุณสารวัตรเลื่อนไปดูที่ประตูทางเข้าเลยก็ได้ค่ะ เริ่มจากที่ฟ้าใส่เดินเข้าร้าน แล้วค่อยเล่นภาพย้อนกลับไป น่าจะเห็นช่วงที่คุณเมฆเดินเข้าร้านพอดี”เพชรเหลือบมองหญิงสาวที่เสนอความเห็นอย่างคล่องแคล่ว นี่มันต่างจากคุณหนูใสซื่อที่ตอบคำถามเขาลิบลับแต่เพชรก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเปลี่ยนภาพเป็นภาพวงจรตามที่หญิงสาวบอก ก่อนจะเล่นภาพย้อนกลับอย่างช้าๆ เพื่อที่จะไม่ได้พลาดเป้าหมายฟ้าใสมองภาพในกล้องที่วงจรปิดอย่างตั้งใจ ก่อนที่เธอจะบอกเสียงดังให้เพชรหยุดภาพเมื่อเธอเจอคนที่เธอตามหาแล้ว“หยุดค่ะ ผู้ช