공유

4 กันต์เหรอ

작가: Nook Nick
last update 최신 업데이트: 2025-12-02 21:49:33

"ไม่ได้!!!" 

กันต์เผลอพูดเสียงดังจนทำให้เพื่อนที่อยู่ในห้องต่างพากันเหลียวมองแต่เจ้าตัวยังคงไม่รู้เพราะสายตาฝ้าฟางเพียงรู้สึกถึงความผิดปกติที่เสียงเจี๊ยวจ๊าวเมื่อครู่กลับเงียบลง

"เอ่ออ ขอโทษที่เซ้าซี้นะ" หลังขอโทษเสร็จนทียื่นแว่นมาให้ ผมรีบสวมมันก่อนจะเห็นสายตามองเหยียดที่ทุกคนมองมา ตึกตัก ตึกตัก หัวใจผมเต้นรัวๆ

นาทีนั้นความทรงจำอันแสนเลวร้ายที่ตามหลอกหลอนผมมาตลอดผุดขึ้นมา ผมวิ่งออกมาจากห้องอย่างตื่นตะหนก

ปัก!!! และชนเข้ากับอกหนาของใครบางคนเข้า

"โทษครับ" ก่อนจะก้มหัวข้อโทษและวิ่งต่อไปโดยไม่สนใจอะไร

ทั้งๆที่ผ่านมันมาได้ตลอดแต่ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย อีกแค่ปีเดียวก็จะจบแล้วแท้ๆ ต้องอดทนให้ได้แต่นี่พึ่งเปิดเทอมวันแรกเอง สายตาแบบนั้นมันคืออะไรกัน น่ากลัว

"แหกๆๆ อึก" ผมวิ่งมาจนถึงตึกล้างที่ประจำความรู้สึกแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออกกลับเข้ามาอีกครั้งในรอบหลายปี ทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนไปมันดูมืดและน่ากลัว.....กลัว....น่ากลัว เวียนหัว หายใจไม่ออก

กันต์กำลังตัวสั่นเทาและเหมือนจะเป็นลมให้ได้ทำให้เขาล้มลงไปนอนกองกับพื้นในสภาพที่เกือบหมดสติปากพูดพึมพำเบาๆ"ไม่ชอบเลย หยุดมอง หยุดมองได้แล้ว"

ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของไทม์ที่ตามเขามาหลังจากชนกันเมื่อกี้ ไทม์เห็นดังนั้นก็รีบเข้ามาประครองตัวเขาขึ้น

"ใจเย็น หายใจๆ สูดหายใจดิวะ ทุกอย่างจะไม่เป็นอะไร" เขาตบหน้ากันต์เบาๆเรียกสติก่อนพูดปลอบประโลมและเหมือนมันจะได้ผลดีทีเดียว

กันต์ค่อยๆสูดหายใจเข้าลึกๆตามคำพูดของไทม์

"เฮือก เฮือก เฮือก" เสียงพูดของใครบางคนเรียกสติผมกลับมา ดวงตาที่ริบหรี่กลับมาลืมตาอีกครั้ง

"ไทม์?"

"นายไหวไหมดูไม่โอเคเลย" 

"วะ..ไหวอยู่ ขอบใจนะ" 

"เป็นแพนิคเหรอ?" ไทม์ถามด้วยความสงสัย

"อือ รู้แล้วอย่าบอกใครนะ" ผมตอบอย่างกังวล

"โอเค ไม่บอกอยู่แล้ว"

ถ้าเป็นไทม์ผมคงเชื่อใจได้ใช่ไหม เขาดูเหมือนเป็นคนไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว แต่เขามาที่นี่ได้ไง....

"ไทม์ เราถามอะไรหน่อยได้ไหม"

"ว่ามาสิ"

"นายมาทำอะไรที่นี่"

"ก็ไม่มีไรแค่เดินสำรวจดูรอบๆโรงเรียนแล้วเจอที่นี่เข้าก็เลยลองเข้ามาดู"

"อ๋อ งั้นเองเหรอยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยนะ"

"ชื่อไร" 

"ชะ..ชื่อกันต์" ตอบเงอะงะ โครตเกร็งอ่ะบอกเลย

"อ๋อ ชะ..ชื่อกันต์นี่เอง" เขาล้อเลียนเสียงพูดตะกุกตะกักของผมแล้วพูดต่อ

"ฝากตัวด้วยนะเพื่อนคนแรก" พูดจบก็ยื่นมือมาเชคแฮน พะ...เพื่อน ผมยิ้มออกมาภายใต้ผ้าแมสโดยไม่รู้ตัว 

"นายจะเป็นเพื่อนกับฉันจริงๆเหรอ ฉันเล่นด้วยไม่สนุก ถะ..แถมยังชวนคุยไม่เก่งแล้วยังไม่ยอมให้เห็นหน้าอีกด้วยนะ"

"แล้วยังไงต่อ ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นปัญหาไรนี่"

"ไม่เป็นปัญหาเหรอ จริงเหรอ" น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ

"อื่ม เพราะงั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ก็มาเล่นด้วยกันสิ อ่ะไม่สิตั้งแต่ตอนนี้เลย"

"ได้จริงเหรอ" ผมถามยำ้

"จริงสิ"

ก่อนจะยิ้มดีใจจนตาหยีภายใต้กรอบแว่นหนาและหน้ากากอนามัยสีดำ

นี่เขาเป็นเพื่อนคนแรกเลยหลังจากผ่านมาหลายปี ทั้งที่บอกว่าเป็นวัณโรค ทั้งยังเห็นอาการแพนิคแล้วก็ยังอยากเล่นด้วยอีก ดีใจจัง

"กลับห้องกันเถอะ เดี๋ยววันนี้เราต้องทำเวรด้วยกันก่อนกลับนี่" ผมเอ่ยชวนไทม์ที่นั่งข้างๆเพราะออกมานานมากแล้ว

"นายโอเคแล้วแน่นะ" เขาถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

"อื้ม โอเคสุดๆเลย" ก่อนจะลุกขึ้นปัดก้นที่เปื้อนฝุ่นแล้วยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อให้เขาจับพยุงตัวเองขึ้น 

ระหว่างทางที่เดินมาด้วยกันผมถามไทม์อย่างตื่นเต้นตลอดเพราะมันโครตจะดีใจเลยเว้ยที่มีเพื่อนที่สามารถรับเราได้ในแบบที่เราเป็น พอเดินๆด้วยกันแล้วถึงได้รู้ว่าเขาสูงกว่าผมมาก

"นายสูงเท่าไหร่เหรอ"

"189" พอได้ยินคำตอบตาผมนี่ลุกวาวเลย

"โหถึงว่าสูงจัง เรา171เอง"

"เตี้ย"

"หึ่ย มาตราฐานต่างหาก"

"..."

"นายเรียนเก่งไหม เวลาว่างๆชอบทำอะไรเหรอ"

"ไม่ค่อย ว่างๆก็ไปดื่ม"

"ดื่มได้เหรอ 18เขาห้ามดื่มไม่ใช่เหรอ"

"ฉัน20แล้วเหอะ เข้าช้า2ปี"

"เห้ย!! งั้นก็เป็นรุ่นพี่สิถึงว่าราศีอปป้ามาแต่ไกลเลย"

"ฮ่าๆๆ เป็นงั้นเหรอ"

"อื่มใช่ๆ ต้องเรียกพี่ด้วยไหม"

"เรียกไรก็ได้เอาที่คิดว่าสบายใจ"

"อ๋อ โอเคงั้นไม่เกรงใจละนะ"

"ไหนบอกชวนคุยไม่เก่ง"

"ไม่เก่งจริงๆ" แต่อันนี้เรียกเก็บกดต้องปลดปล่อย

เสียงใสแจ๋วคุยจ้อไม่หยุดมาตลอดทางหรือต้องเรียกว่าคนตัวเล็กเองที่เป็นฝ่ายชวนคุยมากกว่าเพราะเหมือนไทม์เองก็คงชวนคุยไม่เก่ง

จนมาถึงหน้าห้อง ผมสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนพ่นลมหายใจออกช้าๆทำท่าจะก้าวเข้าไปแต่ไทม์เอาแขนมาพาดไหล่ผมเหมือนให้กำลังใจโดยที่ไม่ต้องพูดแล้วเดินก้าวเข้าห้องมาพร้อมกัน

สีหน้าของเพื่อนๆในห้องตกตะลึงที่เห็นพวกเราเดินเข้ามาพร้อมกัน

"ไทม์ ไม่กลัวติดวัณโรคจากกันต์เหรอ"ก่อนที่โจ หนึ่งในเด็กหนุ่มในห้องจะถามขึ้น

"อ๋อวัณโรค สงสัยคงติดไปแล้วมั้ง" ไทม์เลิกคิ้วแถมยังพูดเหมือนไม่ค่อยแคร์ใครเท่าไหร่

"กรี๊ดดด เท่ระเบิดไปเลยหนุ่มน้อยผู้ไม่เกรงกลัวสิ่งใด ฉันรักเขา" เป็นกี้ที่พูดขึ้น ดูเหมือนเขาจะคลั่งไคล้ไทม์มากกว่าที่เห็น

"ใช่ ฉันอยากติดวัณโรคจากนายจริงๆวันนี้307เบอร์ห้องย่านสุขิม เขตบิวตี้ ซอย6 มานะมาให้ได้จะใส่ชุดพยาบาลรอ" พิงค์เองก็ไม่ต่างกัน

"เห้ย!!! จริงดิ ฉันไป" แต่ดันเป็นโจที่ตอบแทน

"หยี อย่ามาฉันไม่ได้พูดกับนาย ไอ่คนขี้กลัวชิ"

"แหม ทำเป็นพูด เธอเองก็กลัวเหมือนกันเหอะ"

ดูเหมือนทุกคนจะสนใจแต่ไทม์ไม่มีใครสนใจผมซึ่งก็ดีแล้วผมเลยกลับไปที่นั่งเงียบๆคนเดียว

เว้นก็แต่อีกคน....

"เมื่อกี้ขอโทษนะ" นทีหันหน้ามาหาผมทั้งยังพูดขอโทษ ด้วยสายตาสำนึกผิดสุดๆ

"ไม่เป็นไร เราแค่ตกใจคราวหลังอย่าให้เราทำอะไรแบบนี้อีกนะ"

"อือ สัญญาเลย" เขายื่นมือมาเกี่ยวก้อย ผมก็เกี่ยวก้อยตอบไปแบบถนอมน้ำใจ

วันนี้วันแรกคุณครูเลยไม่สอนอะไร เพื่อนๆพากันคุยจ้อสนุกสนานใหญ่จนกระทั่งใกล้เลิกเรียนทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านบางคนไปรอรถประจำทางที่หน้าโรงเรียนบางคนก็อยู่ใต้ต้นไม้รอเลิกเรียนหรือแม้กระทั่งที่โซนม้าหินอ่อนกับศาลาก็ล้วนมีนักเรียนเต็มไปหมด

ส่วนผมกำลังยืนกวาดพื้น ไทม์กับนทียืนเช็ดกระจก มินเช็ดกระดานไวท์บอร์ด กี้ปัดฝุ่น เรายังคงทำเวรกันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรกันสักคำอาจเป็นเพราะไม่ใช่กลุ่มที่สนิทกัน แต่ผมไม่ใช่ ผมเป็นเพื่อนกับไทม์ แล้วก็คนแรกด้วย

"ไทม์ วันนี้เลิกเรียนทำอะไร" เลยเป็นผมที่เริ่มพูดขึ้นในบรรยากาศที่เงียบกริบนี้

"ไม่รู้สิ ไปดื่มมั้ง"

"คนเดียวเหรอ"

"อืม ก็คงงั้น"

"ไปด้วยสิ"

"อืม ได้สิ"

บทสนทนาของเราเรียกร้องความสนใจจากเพื่อนๆคนอื่นๆได้ไม่น้อยจนทุกคนหันมามอง

"ไทม์สนิทกับกันต์เหรอ" และเป็นมินที่ถามขึ้นคนแรก

"คงงั้น" ไทม์ยังคงตอบส่งๆเหมือนเดิม

"เราก็อยากสนิทด้วย ไปด้วยไม่ได้เหรอ"

"เธอก็ไปกับเพื่อนเธอสิ" เขาตอบแบบไม่ไว้หน้ามินเลยสักนิดทั้งที่เธอดูสนใจแถมยังเป็นคนสวยของโรงเรียนอีก ปกติแล้วไม่เคยเห็นมินจะชวนใครคุยก่อนเลยด้วยซำ้

"อุบ คริๆ" เป็นกี้ที่แอบหัวเราะอยู่หลังห้องขณะกำลังเช็ดตู้หนังสือ

"ชิ ไม่คุยด้วยเล่า" มินทำหน้างอนตุ๊บป่องที่ถ้าเกิดพวกผู้ชายยังอยู่ในห้องเลือดกำเดาคงพากันพุ่งเป็นแถวๆ

ไทม์คงเป็นคนแรกที่ไม่สนใจเธอ แปลกจริงๆหรือว่ามันไม่แปลกเพราะเห็นนทีเองก็ดูไม่ได้สนใจใครเหมือนกันเพราะมีแต่คนสนใจเขาก่อน ช่างเถอะๆ วันนี้คิดแค่จะไปดื่มกับไทม์ก็พอ

.

.

.

โอเค ดื่มที่แปลว่าดื่มจริงๆ

ไทม์ดื่มเบียร์ ผมอยากลองชิมสักอึกว่ารสชาติของการเป็นผู้ใหญ่มันเป็นยังไงแต่โดนเขาห้ามไว้ก่อน

"อึกเดียว นะๆ"

"ไม่ได้" เขาทำเสียงเข้มดุกลับมา แต่ผมก็ยังไม่ยอมแพ้

"แค่อึกเดียวจริงๆ please"

เรานั่งดื่มกันที่ม้าหินอ่อนในสวนสาธารณะ ใกล้ๆริมแม่นำ้ สถานที่ฮิตฮอตกับการออกกำลังกายและนั่งชมวิว

"ยังไงก็ไม่ได้" ผมยังคงตะยั้นคะยอต่อไปเพราะไปซื้อยังไม่ได้อายุไม่ถึง20

ส่วนเขาก็ซื้อมาตั้ง3กระป๋องจะกินไรเยอะแยะขออึกเดียวก็ไม่ให้

"ขี้งก" ผมทำหน้างอลแล้วแกล้งหันไปอีกทาง

ได้ผล!! พอพูดคำนี้เขาก็หยุดชะงัก ลูกผู้ชายมันหยามกันไม่ได้ให้ได้แต่อย่าพูดว่าขี้งก

"อึกเดียวนะ"

"อืมๆ" พยักหน้าหงึกหงัก

หลังได้รับการอนุญาติแล้วผมก็ยื่นมือไปรับเบียร์กระป๋องที่ยังไม่ได้เปิดมาดื่ม

"หลับตาก่อน" ก่อนที่ผมจะหันหน้าไปพูดกับเขา

"ยุ่งยากจริงๆ" ถึงเขาจะบ่นแต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี

หน้ากากอนามัยถูกเปิดออกก่อนริมฝีปากจะจรดไปที่กระป๋องเบียร์และกระดกลงคออึกใหญ่

อึก รสชาตินี้มัน....แหวะขมสุดๆดื่มเข้าไปได้ไงเนี่ย พอดื่มเสร็จผมก็ปิดแมสเหมือนเดิมก่อนจะยื่นกระป๋องเบียร์คืนให้อีกฝ่าย

"ลืมตาได้"

"ดูใช้ชีวิตลำบากดีนะ"พอลืมตาก็บ่นแต่มือก็ยื่นมาจับกระป๋องเบียร์กลับไปอยู่ดี

"อร่อยมากเลยล่ะ เป็นรสชาติที่อธิบายไม่ถูกแต่สุดยอดเลย" ผมทำเก๊กยกนิ้วโป้งให้2มือ เยี่ยม สุดยอดจริงๆแดกเข้าไปได้ไงวะ

"ใครเขาดื่มเบียร์แล้วอร่อยกัน" อะอ่าว แล้วจะดื่มเพื่อออ ก็อยากพูดแบบนี้อยู่หรอกแต่พึ่งรู้จักกันวันแรกเลยยั้งก่อน

"งั้นดื่มทำไมเหรอ" แรกๆต้องสุภาพไว้ก่อน

"อืม...จะว่าไงดี มันคือรสชาติชีวิตน่ะ" ผมไม่เข้าใจแต่ถ้าถามไปก็กลัวเสียฟอร์ม อุส่าเก๊กตั้งนาน

"อ๋อ" เลยตอบกลับสั้นๆ พูดมากเดี๋ยวความแตกอยู่กับรุ่นพี่ต้องมาดแมน เราจะมาใจเสาะไม่ได้เขาคือหนุ่มผู้มากประสบการณ์กว่าเรา2ปี ผู้ใหญ่ที่แท้จริง!!

"กลับกันเลยไหมเดี๋ยวฉันไปส่ง" ไทม์เอ่ย

"ก็คงต้องเป็นงั้น เพราะฉันมากับนายหนิ"

"อืมจริงด้วย ฮ่าๆ"

ปกติเวลากลับบ้านผมจะนั่งรถเมล์หรือไม่ก็เรียกแกร็บ แล้วแต่อารมณ์แต่วันนี้ผมติดรถมากับไทม์หนุ่มบิ๊กไบค์ใจซิ่งแต่ขับไม่ซิ่งเหมือนรถเลย

"ป่ะ กลับกันเดี๋ยวจะดึก" พอลุกขึ้นกระทันหัน ก็รู้สึกว่าสมองมึนเบลอหนักอึ้งจนอยากล้มตัวลงนอน ที่สำคัญสายตาโฟกัสไม่ได้เห็นภาพตรงหน้าทับซ้อนกันไปหมด หรือว่าอาการนี้เรียกเมา นี่ผมเมาเหรอ?

ไทม์ที่เห็นว่าผมเดินเซไปเซมาก็จับแขนผมไว้ก่อนจะพาเดินไปขึ้นรถ

"คออ่อนจริง คราวหลังคนอื่นชวนไม่ต้องไปนะ" หรือเขาจะไม่ชวนผมมาแล้ว จะเลิกเป็นเพื่อนด้วยหรือเปล่า

"ไม่อาว จาไป" เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย สงสัยฤทธิ์เบียร์จะออกช้า

"เห้ออ คุยไม่รู้เรื่องเลย" ไทม์บ่นพร้อมสวมหมวกกันน็อคให้ผม

เขาควบรถก่อนดึงมือผมให้ขึ้นซ้อนท้ายตาม

"จับเอวไว้แน่นๆ" เขากระชับบอกก่อนจะดึงแขนผมทั้งสองข้างให้โอบเอวไว้

บรื้น บรื้นนนน

บิ๊กไบค์ขับออกมาโดยไม่เร่งรีบจนมาจอดตรงหน้าบ้านตามทางที่ผมบอกพอก้าวขาลงรถก็เซเหมือนจะล้ม ผมไม่ได้แสร้งตอแหลแต่มันเป็นงั้นจริงๆ

เขาเลยลงรถมาประคองผมให้เข้าไปในบ้าน  สติสตังเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วตอนนี้รู้สึกข้างในมันร้อนวูบๆวาบๆจนอยากจะแก้ผ้าอาบนำ้ตรงนี้ให้ได้เลย

"ร้อน" ผมเลิกเสื้อขึ้นทำท่าจะถอด

"เดี๋ยวๆ บอกก่อนเตียงอยู่ไหน"

งึมงัม งึมงัม~ "ตรงนู้น" มือชี้ไปยังห้องนอนของตัวเอง

แกร๊ก! พอเปิดประตูก็รู้สึกได้ว่าถูกโยนลงบนเตียงก่อนจะตามมาด้วยลมเย็นๆพัดไปมา

ไทม์จัดการเสียบปลั๊กเปิดพัดลมให้ก่อนที่เขาจะถูกคนเมาจับแขนไว้แล้วบ่นอุบอิบ

"ร้อนอ่ะ ถอดเสื้อให้หน่อยอยากอาบน้ำ"

"จริงๆเล้ยย" ถึงจะถอนหายใจแต่มือนั้นกลับเลิกเสื้อขึ้นเพื่อถอด เขาหยุดชะงักเล็กน้อยและกำลังคิดว่าคนตรงหน้าขาวมากจริงๆเอวบางแถมผิวยังนุ่มนิ่มอย่างกับมาชเมลโล่อีกเลยฉุดคิดขึ้นมาว่

าหน้าตาจะเป็นยังไงภายใต้แว่นตาหนาเตอะและแมสดำที่ปิดไว้มาตลอด

เขาเอื้อมมือไปถอดแว่นตาออกภายใต้หลังกรอบแว่นหนาและได้เห็นความงดงามของดวงตาที่กำลังหลับตาพริ้มขนตางอลเรียงสวยในใจสั่งให้เขายื่นมือไปสัมผัสเบาๆอย่างห้ามไม่ได้

ไทม์กำลังคิดว่าเขาควรถอดแมสออกดีไหม?

이 책을.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • รักไม่ใส ในรั้วขาว   5 ถอดออกดีไหมวะ?

    ไทม์เอื้อมมือไปข้างหน้าแต่ก็ต้องหยุดชะงัก ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว เจ้าตัวยังไม่อนุญาตอย่าพึ่งเลยดีกว่า ถ้าเขารู้คงโกรธมาก ถ้าสนิทกันมากพอคงได้เห็นเอง คิดได้ดังนั้นก็ชักมือตัวเองกลับมาก่อนจะเดินออกจากห้องไปเงียบๆกลับถึงบ้านเสียงหัวใจเริ่มเต้นตึกตักๆ ภาพในหัวคิดถึงแต่ร่างกายที่ขาวเหมือนหยกกับสัมผัสที่นุ่มนิ่มไทม์สะบัดภาพในหัวไม่ออกและคิดว่าตัวเองคงเป็นบ้าไปแล้วหรือไม่ก็โรคจิต...กริ๊งงงง กริ๊งงงง เสียงนาฬิกาปลุกแจ้งเตือนว่าเช้าแล้ว"เฮือก..." ผมตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยท่อนบนก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ ภาพเหตุการณ์เมื่อวานเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ "ให้ตายสิ บ้าบอชะมัดสาบานว่าจะไม่ดื่มอีกแล้ว"สายตาเหลือบไปมองนาฬิกาที่แควนห้อยอยู่บนกำแพงบอกเวลาเกือบ7.30แล้วโถ่เว้ยสายแล้วๆๆๆ ผมรีบวิ่งแจ้นไปอาบน้ำแปรงฟันก่อนจะแต่งตัวสวมแว่นปิดแมสแล้วรีบเปิดประตูเรียกรถแกร็บให้มารับทันทีไม่กี่นาทีต่อมาก็มาถึงหน้าโรงเรียน...และก็เห็นว่าประตูรั้วกำลังจะปิดเท่านั้นแหละผมใส่เกียร์หมาวิ่งสุดชีวิตเลยทั้งยังตะโกนลั่น"อย่าพึ่งงง" โอ้วว แม่เจ้าโว้ยไม่ทันแล้ววว"กันต์ๆ มานี่ๆ" เสียงพุ่มไม้ด้านข้างเรียกกระซิบเบาๆ ผมได้

  • รักไม่ใส ในรั้วขาว   4 กันต์เหรอ

    "ไม่ได้!!!" กันต์เผลอพูดเสียงดังจนทำให้เพื่อนที่อยู่ในห้องต่างพากันเหลียวมองแต่เจ้าตัวยังคงไม่รู้เพราะสายตาฝ้าฟางเพียงรู้สึกถึงความผิดปกติที่เสียงเจี๊ยวจ๊าวเมื่อครู่กลับเงียบลง"เอ่ออ ขอโทษที่เซ้าซี้นะ" หลังขอโทษเสร็จนทียื่นแว่นมาให้ ผมรีบสวมมันก่อนจะเห็นสายตามองเหยียดที่ทุกคนมองมา ตึกตัก ตึกตัก หัวใจผมเต้นรัวๆนาทีนั้นความทรงจำอันแสนเลวร้ายที่ตามหลอกหลอนผมมาตลอดผุดขึ้นมา ผมวิ่งออกมาจากห้องอย่างตื่นตะหนกปัก!!! และชนเข้ากับอกหนาของใครบางคนเข้า"โทษครับ" ก่อนจะก้มหัวข้อโทษและวิ่งต่อไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งๆที่ผ่านมันมาได้ตลอดแต่ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย อีกแค่ปีเดียวก็จะจบแล้วแท้ๆ ต้องอดทนให้ได้แต่นี่พึ่งเปิดเทอมวันแรกเอง สายตาแบบนั้นมันคืออะไรกัน น่ากลัว"แหกๆๆ อึก" ผมวิ่งมาจนถึงตึกล้างที่ประจำความรู้สึกแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออกกลับเข้ามาอีกครั้งในรอบหลายปี ทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนไปมันดูมืดและน่ากลัว.....กลัว....น่ากลัว เวียนหัว หายใจไม่ออกกันต์กำลังตัวสั่นเทาและเหมือนจะเป็นลมให้ได้ทำให้เขาล้มลงไปนอนกองกับพื้นในสภาพที่เกือบหมดสติปากพูดพึมพำเบาๆ"ไม่ชอบเลย หยุดมอง หยุดมองได้แล้ว"ทุกการกระทำอยู

  • รักไม่ใส ในรั้วขาว   3 นายจะปิดแมสก์ทำไม

    เวลาพักกลางวันที่ทุกคนมักไปทานข้าวโรงอาหารหรือตามศาลาและพูดคุยกัน แต่ไม่ใช่กับผม ผมมักจะหลบเลี่ยงไม่ให้เข้าใกล้ใครและทานข้าวคนเดียวในที่ๆไม่มีคนเห็นนั่นก็คือหลังโรงเรียน จะมีตึกทิ้งล้างอยู่บางทีก็สังเวชตัวเองเหมือนกันที่ต้องมาในที่แบบนี้แต่ตอนนี้ชินแล้วชีวิตดีกว่าช่วงม.ต้นเยอะแซนวิชแฮมไข่กับนมจืดเป็นอาหารช่วงเที่ยงที่สะดวกและรวดเร็ว ผมจึงกินมันประจำผมหันซ้ายขวาเมื่อไม่เห็นมีใครแล้วก็ดึงแมสลงเตรียมหม่ำแซมวิชตรงหน้า"ง่ำๆ อร่อยจัง""อร่อยไหม" เสียงใครบางคนดังมาจากด้านหลังทำแซนวิชแทบพุ่งออกปาก"แค่กๆๆ" ผมรีบดึงแมสขึ้นและหันกลับไปมอง"ไทม์? มาทำอะไรที่นี่" "นายล่ะมาทำอะไรที่นี่""ฉ...ฉันมา" ถ้าบอกว่ามากินข้าวจะแปลกไหมหรือควรเลี่ยงไม่ตอบอะไรดี เขาจะเห็นหน้าผมหรือยังแล้วถ้าเห็นจะรังเกียจผมไหม ผมไม่มั่นใจเลย"มา?" เขาถามย้ำ"มาชมวิว ฮ่าๆที่นี่สวยดี" คิดว่าเขาคงเชื่อแหละเพราะพูดออกไปแบบเป็นธรรมชาติที่สุด(คิดเองทั้งนั้น)"อ๋อ ชอบวิวแบบหลอนๆว่างั้น""อ..อือ""กินแซนวิชเหรอ""อ่ะ อืม""ปิดแมส?""อ๋อ อิ่มแล้ว""ที่พูดหมายถึงทำไมถึงปิดแมส""เอ่อ...คือ"เป็นคำถามที่เจอบ่อยแต่ทำไมวันนี้ผมถึงไม่กล

  • รักไม่ใส ในรั้วขาว   2 เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า

    "..." เหมือนการที่ผมไม่หันไปมองทำเป็นเหมือนว่าไม่ได้ยินเลยทำให้นทียิ่งสนใจกว่าเดิมนทีขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้ๆเขาเอื้อมมือเพื่อจะสะกิดไหล่คนข้างๆ"หวัดดีนที" แต่เหมือนแจมหนึ่งในแก๊งสามสาวจะเข้ามาทักก่อนผมถอนหายใจด้วยความโล่ง ขอบคุณนะแจมเธอคือนางฟ้ามาโปรด"หวัดดี เธอคือ.." นทีหันไปสนใจเพื่อนใหม่ที่มาทัก"เราชื่อแจม ฝากตัวด้วยนะ""ยินดีที่ได้รู้จัก" นทีส่งยิ้มให้กับแจมทำให้แจมตกอยู่ในภวังค์แห่งความเคลิ้มกับใบหน้าพระเจ้าสร้างของเขา"ฉันพิงค์นะ ขอไลน์หน่อยดิ" พิงค์มาแรงแซงทางโค้งไม่พูดมากรุกเลยแจมและกี้ที่ได้ยินดังนั้นหันขวับมาหาพิงค์ที่อยู่ตรงกลางอย่างไม่เชื่อสายตา"ฉันขอด้วย" แจมพูดขึ้น"ฉันกี้นะ ขอด้วยดิ""อะไรของพวกแกวะ ฉันขอก่อนนะโว้ยย" พิงค์หัวเสียที่เห็นเพื่อนขอตาม"เอ่อ ใจเย็นๆก่อนนะเดี๋ยวเราให้" แหมพ่อคุณ หล่อเลือกได้จริงๆ ผมที่เห็นดังนั้นก็ได้แต่แอบเหน็บแนมในใจ นทีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะให้สาวได้แอดไลน์แต่เผอิญว่าครูดันเคาะกระดานเสียก่อนก๊อกๆ "นักเรียน ครูยังแนะนำไม่เสร็จมีเพื่อนมาใหม่อีกคนกำลังมาถึงพอดีเลย"ทุกคนต่างดูไม่สนใจเพราะตอนนี้กำลังให้ความสนใจกับนทีนักเรียนหน้าใ

  • รักไม่ใส ในรั้วขาว   1 นักเรียนใหม่

    ช่วงวาเลนไทน์เด็กชายวัย14รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ผิวขาวเนื้อตัวนุ่มนิ่ม ดวงตากลมโตขนตาแพรสวยรูปปากกระจับและยังมีสันจมูกที่ชัดได้รูป แต่ใบหน้าล้วนเต็มไปด้วยรอยแดงและตุ่มสิวจนแทบไม่หลงเหลือพื้นที่ให้เห็นผิวเนื้อ ตามช่วงวัยฮอร์โมนที่พลุ่งพล่าน เขาเดินอย่างเคอะเขินในมือถือกล่องช็อกแลตสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากระดาษA4ไปยังห้องเรียนที่มีเพื่อนๆวัยเดียวกันกำลังแปะสติ๊กเกอร์หัวใจให้กันอย่างสนุกสนาน บางคนก็มอบช่อดอกไม้ บ้างก็กำลังเซลฟี่กันครึกครื้น"ร..เราชอบนาย" เด็กหนุ่มตะโกนออกไปสองมืออวบยื่นกล่องช็อกแลตในมือให้กับอีกฝ่ายที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นรูปร่างหน้าตาดีคิ้วเข้มในตาสีน้ำตาลอ่อนจมูกโด่งผิวสีน้ำผึ้งดูสุขภาพดีมีใฝเล็กๆใต้ตาซ้ายแถมยังฮอตในหมู่หนุ่มๆสาวๆในโรงเรียนอีกด้วย"หัดดูหนังหน้าตัวเองซะบ้าง ไอ่อ้วน" ช็อกแลตในมือถูกปัดตกกระจัดกระจายไปทั่วพื้นห้องตามมาด้วยเสียงซุบซิบนินทา"อุ้ย!!มั่นหน้าเนอะ""อุบฮ่าๆๆๆ""คริๆ อย่าว่าเพื่อนสิเขามีความกล้ามากนะ"...เฮือกก!!ผมสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนในช่วงวัยเด็กอีกครั้งนับเป็นเวลา4ปีที่ไม่ยอมส่องกระจกไม่ค่อยกินข้าวและเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องเพราะสูญเสี

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status