로그인ไทม์เอื้อมมือไปข้างหน้าแต่ก็ต้องหยุดชะงัก ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว เจ้าตัวยังไม่อนุญาตอย่าพึ่งเลยดีกว่า ถ้าเขารู้คงโกรธมาก ถ้าสนิทกันมากพอคงได้เห็นเอง คิดได้ดังนั้นก็ชักมือตัวเองกลับมาก่อนจะเดินออกจากห้องไปเงียบๆ
กลับถึงบ้านเสียงหัวใจเริ่มเต้นตึกตักๆ ภาพในหัวคิดถึงแต่ร่างกายที่ขาวเหมือนหยกกับสัมผัสที่นุ่มนิ่มไทม์สะบัดภาพในหัวไม่ออกและคิดว่าตัวเองคงเป็นบ้าไปแล้วหรือไม่ก็โรคจิต
.
.
.
กริ๊งงงง กริ๊งงงง เสียงนาฬิกาปลุกแจ้งเตือนว่าเช้าแล้ว
"เฮือก..." ผมตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยท่อนบนก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ ภาพเหตุการณ์เมื่อวานเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ "ให้ตายสิ บ้าบอชะมัดสาบานว่าจะไม่ดื่มอีกแล้ว"
สายตาเหลือบไปมองนาฬิกาที่แควนห้อยอยู่บนกำแพงบอกเวลาเกือบ7.30แล้ว
โถ่เว้ยสายแล้วๆๆๆ ผมรีบวิ่งแจ้นไปอาบน้ำแปรงฟันก่อนจะแต่งตัวสวมแว่นปิดแมสแล้วรีบเปิดประตูเรียกรถแกร็บให้มารับทันทีไม่กี่นาทีต่อมาก็มาถึงหน้าโรงเรียน
.
.
.
และก็เห็นว่าประตูรั้วกำลังจะปิดเท่านั้นแหละผมใส่เกียร์หมาวิ่งสุดชีวิตเลยทั้งยังตะโกนลั่น
"อย่าพึ่งงง" โอ้วว แม่เจ้าโว้ยไม่ทันแล้ววว
"กันต์ๆ มานี่ๆ" เสียงพุ่มไม้ด้านข้างเรียกกระซิบเบาๆ ผมได้ยินก็เลยย่องเท้าเข้าไปดูใครมันเรียกวะ
พรึ่บ!! มือยาวกระชากตัวผมไปด้านข้างอย่างรวดเร็วพอหันหน้าไปมองเจ้าของเสียงเรียกเท่านั้นแหละเหงื่อแทบแตก
"นที!!!"
"ชู่ว เงียบๆเดี๋ยวมีคนจับได้" เขากระซิบกระซาบ
"แล้วนายมาทำอะไรตรงนี้"ผมก็เลยต้องกระซิบตาม
"เอ่อน่า ตามมาๆ" เขาย่องอ้อมไปอีกทางของประตูใหญ่ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครเห็นเพราะสองข้างทางที่จะถึงประตูใหญ่เต็มไปด้วยพุ่มไม้หนาประดับประดา
แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงให้ผมเดินท่าสควอชเดินปูตามด้วย นี่ไม่ต่างไรกับการโดนทำโทษเพราะมาสายเลยสักนิด
ไอ่ท่าที่ว่ามันคือการย่อขาลงแล้วเดินคล้ายๆการทำสควอชแต่แค่เดินไปด้วย ไอ่นี่แม่งก็แข็งแรงเกิ้นน เห็นมันทำผมเลยทำตาม
"นที เราเมื่อยขาแล้วนะ"
"ถึงแล้วๆ" รู้งี้ไม่น่าตามมาด้วยเลยเมื่อยขาฉิบหาย เผลอๆโดนทำโทษอาจจะน้อยกว่านี้อีกไอ่เดินปูบัดซบเอ้ย!!
ใช้เวลากว่า10นาทีกว่าจะมาถึง มันเป็นช่องโหว่กำแพงขนาดเล็กกระจ้อยกว้างประมาณ50ซม. แล้วไงต่ออ่ะ
"นายไปก่อนเลย" เขาพูดขึ้นตอนผมกำลังทำท่างงๆ วอท?
"ไปไหน?"
"ลอดตรงนี้ไปไงมันลัดไปหลังอาคาร3 ไม่มีใครเห็น เร็วๆเดี๋ยวไม่ทัน"
หลังอาคาร3 เป็นอาคารที่สำหรับจ่ายเอกสารและห้องสมุดส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีใครมาเดินที่นี่ในช่วงเช้าเพราะทุกคนต่างพากันไปเข้าแถวหน้าเสาธง
"ห๊ะ จะให้ฉันลอดตรงนี้เหรอ" ตัวใหญ่ยังกะควายใครเขาจะลอดได้
"เร็วๆ นายตัวเล็กกว่าลอดเร็วกว่าแน่นอน" ฉัน? ตัวเล็ก?
"มะ..ไม่ดีกว่า นายไปก่อนเลย" ผมส่ายหน้าอ้ำอึ้งกับความคิดนี้ ไม่เด็ดขาด ม่ายยยยยย
"มัวแต่เกี่ยงกันอยู่นั่น นายต้องไปก่อน พอเข้าไปได้แล้วฉันจะตามไปแต่มันต้องติดแน่นอนเพราะตัวฉันใหญ่กว่านายเพราะงั้นนายจะต้องดึงฉันขึ้นไปด้วย เข้าใจไหม"
"อืมๆก็ได้ๆ"
ผมนอนราบไปกับพื้นก่อนจะค่อยๆใช้มือครานไปมุดช่องแคบ ใช้เวลาไม่นานก็ลัดมาถึงหลังอาคาร3จริงด้วยพอมุดสำเร็จผมก็ย่อตัวลงมองผ่านช่องแคบแล้ว กวักมือเรียกนที
เห็นอย่างนั้นนทีเลยค่อยๆคลานรอดผ่านช่องแคบกำแพงนั้นพอถึงช่วงเอวก็แอบติดหน่อยนึงจริงด้วยผมกลั้นหายใจรวบรวมแรงทั้งหมดดึงแขนเขาสุดแรงเกิด
"อึบบบบบ"
"แหกๆๆ" สำเร็จ!!พอลอดมาได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเลย
"แหกๆๆ"
"ขอบคุณนะวิธีดูลำบากดี" ผมยิ้มแหยแห้งๆภายใต้แมทดำซึ่งเขาคงมองไม่เห็นหรอก
"แค่นี้เองไม่เป็นไร" ยังมีหน้ามาพูดอี้กกกก
เราถอดเสื้อแขนยาวตัวนอกออกเพราะเปื้อนฝุ่นเปื้อนดินไปหมด ลำบากไปส่งซักอีกกู!!! คราวหลังจะไม่มาสายอีกแล้วสาบาน
"ป่ะ รีบวิ่ง" ไม่พูดป่าวทั้งยังจับมือผมให้วิ่งตามไป
.
.
.
"พอทุกคนลุกปุ๊บ ให้เราเดินเนียนๆเข้าไปเลยนะโอเคไหม" นทีเอ่ยขึ้นขณะที่เราทั้งคู่ยืนหลบมุมอยู่ตัวอาคารใกล้เสาธงคอยแอบซุ่มดูจารย์กำลังนิเทศช่วงเช้าหน้าเสาธง
"โอเค" ผมตอบในขณะที่สายตาก็จ้องมองทุกคนหน้าเสาธงอยู่ตลอดเวลา
เหมือนกำลังปฏิบัติการลับๆกันอยู่สองคนเลย ผมกำลังหรี่ตาเล็งว่าทุกคนจะลุกขึ้นเมื่อไหร่
หลังจากนิเทศเสร็จจารย์จะปล่อยให้ไปทำธุระก่อนเข้าเรียนซึ่งจะมีการเช็คชื่อเข้าแถวทุกครั้งหากขาดเกิน3ครั้งโดนหักคะแนนวินัย
ถ้าวินัยไม่ผ่านก็ต้องโดนไปค่ายวินัยช่วงปิดเทอมซึ่งควรจะเป็นเวลาพักผ่อน นั่นแหละคือเหตุผลที่เรามายืนลับๆล่อๆกันตรงนี่
"ว่าแต่นายรู้ได้ไงว่าที่นั่นมีรูโหว่" ผมถามด้วยความสงสัย
"บังเอิญเจอตอนเดินรอบโรงเรียนน่ะ ไม่คิดว่าจะมีประโยชน์ในวันนี้"
ประโยชน์ เรียกได้เหรอวะ?
"อ่ะ ลุกแล้วๆ" เขาสะกิดผมยิกๆ
ปลดล็อคสกิลอำพรางตัว พอทุกคนลุกขึ้นผมหันซ้ายขวาไม่มีใครสังเกตุเห็น เราก็เนียนๆเดินไปอยู่ด้านหลังแถวห้องเรียนตัวเองอย่างรวดเร็ว
"นักเรียนนั่งลงครูจะเช็คชื่อ" ครูวิลัย ครูผู้หญิงใจดีประจำชั้นห้องพวกเรา ครูขานชื่อนักเรียนไปเรื่อยๆจนถึงพวกผม
"กันต์ชน"
"มาครับ"
"นนนที"
"มาครับ"
ก็ตอบไปแบบเนียนๆเลยสิครับ เยสๆๆๆ ฮู่เร่
ผมกับนทีแปะมือกันเบาๆ ประมาณว่า'สำเร็จ'
ทั้งคู่ไม่ทันได้สังเกตถึง ไทม์ ที่กำลังจ้องมองด้วยความสงสัยและรู้สึกว่าไม่ค่อยชอบแต่ไทม์เองก็ไม่ทราบสาเหตุ
ไทม์เดินมาหากันต์ที่กำลังลุกขึ้นก่อนจะเข้ามา กอดคอเชิงสนิทสนมเขากระซิบข้างหูกันต์เบาๆว่า
"ไปไหนมา"
"เฮือก" ผมตกใจหมดไม่รู้ว่าไทม์มาตั้งแต่เมื่อไหร่เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับการทำอะไรแบบนี้ครั้งแรกมันสนุกมากแถมยังลุ้นอีกต่างหาก
"ปะ..เปล่า ชูๆเดี๋ยวค่อยบอก" นิ้วชี้แตะแมสดำเพื่อเป็นสัญญาณให้ฝ่ายตรงข้ามเงียบๆ
"พวกนายดูสนิทกันจังนะ" นทีเห็นพวกเราก็พูดขึ้น
"อื่มเป็นเพื่อนกันก็ต้องสนิทกันสิใช่ม้ะ" ผมกระทุ้งศอกใส่ท้องไทม์เบาๆ
"อืม"
"งั้นเราไปก่อนนะ" ผมพูดกับนที
"อื้ม เจอกันในห้อง" นทีตอบพร้อมโบกมือให้
.
.
.
ผมกับไทม์เดินมาซื้อของที่สหกรณ์ของโรงเรียนแซนวิชแฮมไข่และนมจืดก็เป็นอาหารมื้อเช้าของวันนี้เหมือนกัน ผมเลือกมาอย่างละ2ชิ้นเผื่อมื้อกลางวันด้วย
ส่วนไทม์ก็เดินดูของอยู่อีกมุมหนึ่งระหว่างนี้หูผมก็เสือกได้ยินอะไรแปลกๆเข้า
"นี่ๆมึง เมื่อวานนะกูไปได้ยินอะไรเด็ดๆมา" เป็น2สาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม จะเรียกแทนว่าสาว1และสาว2ละกัน
"อะไรๆๆๆ" สาว2พูดรัวๆอย่างใครรู่ ดวงตาเบิกกว้างเหงี่ยงหูไปใกล้ๆสาว1
"ตึกล้างหลังโรงเรียน" พอได้ยินสาว1พูดผมก็เนียนๆขยับไปเลือกขนมใกล้ๆ
"มันทำไมๆ" สาว2ก็รัวจังหวะอย่างตื่นเต้นอยากรู้จนใจจะขาด ไอ่สาว1ก็ไม่พูดสักทีนี่ก็ตื่นเต้นตามด้วย
"เขาว่ามีคนเอากัน เสียงนี่นะเร้าใจสุดๆ" หารู้ไม่ว่าไม่ได้เรียกว่ากระซิบเลย ได้ยินเต็มๆ2หู
"จริงเหรอออ" สาว2ทำเสียงตื่นเต้นใหญ่ผมก็ตื่นเต้นตามด้วย
"เออจริง เห็นว่าชื่อไทม์ด้วยมึง" ไทม์? คงไม่ใช่อย่างที่ผมคิดหรอกไทม์ทั้งโรงเรียนมีเป็น10
"เห้ยยย หรือจะเป็นรุ่นพี่สุดหล่อม.6ห้อง3" 2สาวหันหน้าขวับไปมองไทม์ที่เดินหยิบขนมตรงมุมนู้นไม่รู้เรื่องรู้ราว เห็นแบบนั้นผมก็รู้ว่าชัดเลย ไอ่ไทม์ห้องกูแน่ๆ
ผมรีบเดินสับขารัวๆไปจูงมือคนที่กำลังเดินดูขนมไม่รู้เรื่องรู้ราวมาชำระเงินหน้าเคาน์เตอร์แล้วพาหนีออกมาจากตรงนั้น
"นี่ไทม์ เมื่อวานนายไปทำอะไรที่ตึกล้างหรือเปล่า"
"เมื่อวาน? ฉันอยู่กับนายที่นั่น"
"นั่นสิ แล้วนายจะไปเอากับคนอื่นได้ไง"
"ห้ะ พูดไรเนี่ย" เขาทำสีหน้าตกใจ แสดงว่าไม่ใช่เขาจริงๆด้วย
"ป่าวๆ นายพึ่งย้ายมาเรียนใหม่คงยังไม่รู้ว่าข่าวลือโรงเรียนน่ะแพร่เร็วมาก"
"ข่าวลือ?" เขาทำหน้างุนงงว่าผมพูดเรื่องอะไร
"พรุ่งนี้นายจะรู้เอง แล้วบอกก่อนว่าอย่าไปสนใจอะไรทั้งนั้นแล้วทำตัวปกติที่สุด โอเคไหม"
"อือ"
เขาพยักหน้ารับทราบก่อนที่วันต่อมาข่าวลือจะแพร่หนาหูซะจนผมอึดอัดแทน
ไทม์เอื้อมมือไปข้างหน้าแต่ก็ต้องหยุดชะงัก ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว เจ้าตัวยังไม่อนุญาตอย่าพึ่งเลยดีกว่า ถ้าเขารู้คงโกรธมาก ถ้าสนิทกันมากพอคงได้เห็นเอง คิดได้ดังนั้นก็ชักมือตัวเองกลับมาก่อนจะเดินออกจากห้องไปเงียบๆกลับถึงบ้านเสียงหัวใจเริ่มเต้นตึกตักๆ ภาพในหัวคิดถึงแต่ร่างกายที่ขาวเหมือนหยกกับสัมผัสที่นุ่มนิ่มไทม์สะบัดภาพในหัวไม่ออกและคิดว่าตัวเองคงเป็นบ้าไปแล้วหรือไม่ก็โรคจิต...กริ๊งงงง กริ๊งงงง เสียงนาฬิกาปลุกแจ้งเตือนว่าเช้าแล้ว"เฮือก..." ผมตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยท่อนบนก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ ภาพเหตุการณ์เมื่อวานเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ "ให้ตายสิ บ้าบอชะมัดสาบานว่าจะไม่ดื่มอีกแล้ว"สายตาเหลือบไปมองนาฬิกาที่แควนห้อยอยู่บนกำแพงบอกเวลาเกือบ7.30แล้วโถ่เว้ยสายแล้วๆๆๆ ผมรีบวิ่งแจ้นไปอาบน้ำแปรงฟันก่อนจะแต่งตัวสวมแว่นปิดแมสแล้วรีบเปิดประตูเรียกรถแกร็บให้มารับทันทีไม่กี่นาทีต่อมาก็มาถึงหน้าโรงเรียน...และก็เห็นว่าประตูรั้วกำลังจะปิดเท่านั้นแหละผมใส่เกียร์หมาวิ่งสุดชีวิตเลยทั้งยังตะโกนลั่น"อย่าพึ่งงง" โอ้วว แม่เจ้าโว้ยไม่ทันแล้ววว"กันต์ๆ มานี่ๆ" เสียงพุ่มไม้ด้านข้างเรียกกระซิบเบาๆ ผมได้
"ไม่ได้!!!" กันต์เผลอพูดเสียงดังจนทำให้เพื่อนที่อยู่ในห้องต่างพากันเหลียวมองแต่เจ้าตัวยังคงไม่รู้เพราะสายตาฝ้าฟางเพียงรู้สึกถึงความผิดปกติที่เสียงเจี๊ยวจ๊าวเมื่อครู่กลับเงียบลง"เอ่ออ ขอโทษที่เซ้าซี้นะ" หลังขอโทษเสร็จนทียื่นแว่นมาให้ ผมรีบสวมมันก่อนจะเห็นสายตามองเหยียดที่ทุกคนมองมา ตึกตัก ตึกตัก หัวใจผมเต้นรัวๆนาทีนั้นความทรงจำอันแสนเลวร้ายที่ตามหลอกหลอนผมมาตลอดผุดขึ้นมา ผมวิ่งออกมาจากห้องอย่างตื่นตะหนกปัก!!! และชนเข้ากับอกหนาของใครบางคนเข้า"โทษครับ" ก่อนจะก้มหัวข้อโทษและวิ่งต่อไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งๆที่ผ่านมันมาได้ตลอดแต่ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย อีกแค่ปีเดียวก็จะจบแล้วแท้ๆ ต้องอดทนให้ได้แต่นี่พึ่งเปิดเทอมวันแรกเอง สายตาแบบนั้นมันคืออะไรกัน น่ากลัว"แหกๆๆ อึก" ผมวิ่งมาจนถึงตึกล้างที่ประจำความรู้สึกแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออกกลับเข้ามาอีกครั้งในรอบหลายปี ทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนไปมันดูมืดและน่ากลัว.....กลัว....น่ากลัว เวียนหัว หายใจไม่ออกกันต์กำลังตัวสั่นเทาและเหมือนจะเป็นลมให้ได้ทำให้เขาล้มลงไปนอนกองกับพื้นในสภาพที่เกือบหมดสติปากพูดพึมพำเบาๆ"ไม่ชอบเลย หยุดมอง หยุดมองได้แล้ว"ทุกการกระทำอยู
เวลาพักกลางวันที่ทุกคนมักไปทานข้าวโรงอาหารหรือตามศาลาและพูดคุยกัน แต่ไม่ใช่กับผม ผมมักจะหลบเลี่ยงไม่ให้เข้าใกล้ใครและทานข้าวคนเดียวในที่ๆไม่มีคนเห็นนั่นก็คือหลังโรงเรียน จะมีตึกทิ้งล้างอยู่บางทีก็สังเวชตัวเองเหมือนกันที่ต้องมาในที่แบบนี้แต่ตอนนี้ชินแล้วชีวิตดีกว่าช่วงม.ต้นเยอะแซนวิชแฮมไข่กับนมจืดเป็นอาหารช่วงเที่ยงที่สะดวกและรวดเร็ว ผมจึงกินมันประจำผมหันซ้ายขวาเมื่อไม่เห็นมีใครแล้วก็ดึงแมสลงเตรียมหม่ำแซมวิชตรงหน้า"ง่ำๆ อร่อยจัง""อร่อยไหม" เสียงใครบางคนดังมาจากด้านหลังทำแซนวิชแทบพุ่งออกปาก"แค่กๆๆ" ผมรีบดึงแมสขึ้นและหันกลับไปมอง"ไทม์? มาทำอะไรที่นี่" "นายล่ะมาทำอะไรที่นี่""ฉ...ฉันมา" ถ้าบอกว่ามากินข้าวจะแปลกไหมหรือควรเลี่ยงไม่ตอบอะไรดี เขาจะเห็นหน้าผมหรือยังแล้วถ้าเห็นจะรังเกียจผมไหม ผมไม่มั่นใจเลย"มา?" เขาถามย้ำ"มาชมวิว ฮ่าๆที่นี่สวยดี" คิดว่าเขาคงเชื่อแหละเพราะพูดออกไปแบบเป็นธรรมชาติที่สุด(คิดเองทั้งนั้น)"อ๋อ ชอบวิวแบบหลอนๆว่างั้น""อ..อือ""กินแซนวิชเหรอ""อ่ะ อืม""ปิดแมส?""อ๋อ อิ่มแล้ว""ที่พูดหมายถึงทำไมถึงปิดแมส""เอ่อ...คือ"เป็นคำถามที่เจอบ่อยแต่ทำไมวันนี้ผมถึงไม่กล
"..." เหมือนการที่ผมไม่หันไปมองทำเป็นเหมือนว่าไม่ได้ยินเลยทำให้นทียิ่งสนใจกว่าเดิมนทีขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้ๆเขาเอื้อมมือเพื่อจะสะกิดไหล่คนข้างๆ"หวัดดีนที" แต่เหมือนแจมหนึ่งในแก๊งสามสาวจะเข้ามาทักก่อนผมถอนหายใจด้วยความโล่ง ขอบคุณนะแจมเธอคือนางฟ้ามาโปรด"หวัดดี เธอคือ.." นทีหันไปสนใจเพื่อนใหม่ที่มาทัก"เราชื่อแจม ฝากตัวด้วยนะ""ยินดีที่ได้รู้จัก" นทีส่งยิ้มให้กับแจมทำให้แจมตกอยู่ในภวังค์แห่งความเคลิ้มกับใบหน้าพระเจ้าสร้างของเขา"ฉันพิงค์นะ ขอไลน์หน่อยดิ" พิงค์มาแรงแซงทางโค้งไม่พูดมากรุกเลยแจมและกี้ที่ได้ยินดังนั้นหันขวับมาหาพิงค์ที่อยู่ตรงกลางอย่างไม่เชื่อสายตา"ฉันขอด้วย" แจมพูดขึ้น"ฉันกี้นะ ขอด้วยดิ""อะไรของพวกแกวะ ฉันขอก่อนนะโว้ยย" พิงค์หัวเสียที่เห็นเพื่อนขอตาม"เอ่อ ใจเย็นๆก่อนนะเดี๋ยวเราให้" แหมพ่อคุณ หล่อเลือกได้จริงๆ ผมที่เห็นดังนั้นก็ได้แต่แอบเหน็บแนมในใจ นทีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะให้สาวได้แอดไลน์แต่เผอิญว่าครูดันเคาะกระดานเสียก่อนก๊อกๆ "นักเรียน ครูยังแนะนำไม่เสร็จมีเพื่อนมาใหม่อีกคนกำลังมาถึงพอดีเลย"ทุกคนต่างดูไม่สนใจเพราะตอนนี้กำลังให้ความสนใจกับนทีนักเรียนหน้าใ
ช่วงวาเลนไทน์เด็กชายวัย14รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ผิวขาวเนื้อตัวนุ่มนิ่ม ดวงตากลมโตขนตาแพรสวยรูปปากกระจับและยังมีสันจมูกที่ชัดได้รูป แต่ใบหน้าล้วนเต็มไปด้วยรอยแดงและตุ่มสิวจนแทบไม่หลงเหลือพื้นที่ให้เห็นผิวเนื้อ ตามช่วงวัยฮอร์โมนที่พลุ่งพล่าน เขาเดินอย่างเคอะเขินในมือถือกล่องช็อกแลตสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากระดาษA4ไปยังห้องเรียนที่มีเพื่อนๆวัยเดียวกันกำลังแปะสติ๊กเกอร์หัวใจให้กันอย่างสนุกสนาน บางคนก็มอบช่อดอกไม้ บ้างก็กำลังเซลฟี่กันครึกครื้น"ร..เราชอบนาย" เด็กหนุ่มตะโกนออกไปสองมืออวบยื่นกล่องช็อกแลตในมือให้กับอีกฝ่ายที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นรูปร่างหน้าตาดีคิ้วเข้มในตาสีน้ำตาลอ่อนจมูกโด่งผิวสีน้ำผึ้งดูสุขภาพดีมีใฝเล็กๆใต้ตาซ้ายแถมยังฮอตในหมู่หนุ่มๆสาวๆในโรงเรียนอีกด้วย"หัดดูหนังหน้าตัวเองซะบ้าง ไอ่อ้วน" ช็อกแลตในมือถูกปัดตกกระจัดกระจายไปทั่วพื้นห้องตามมาด้วยเสียงซุบซิบนินทา"อุ้ย!!มั่นหน้าเนอะ""อุบฮ่าๆๆๆ""คริๆ อย่าว่าเพื่อนสิเขามีความกล้ามากนะ"...เฮือกก!!ผมสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนในช่วงวัยเด็กอีกครั้งนับเป็นเวลา4ปีที่ไม่ยอมส่องกระจกไม่ค่อยกินข้าวและเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องเพราะสูญเสี

![เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรีส์วายเรื่องหนึ่ง [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

![What is a divorce? [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



