Home / โรแมนติก / รุ่นพี่ที่รัก / บทที่ 28 ไม่เคยลืม

Share

บทที่ 28 ไม่เคยลืม

Author: Milady
last update Last Updated: 2025-06-23 22:03:09

“ทำไมไม่ยิ้มหน่อยวะไอ้ปอร์เช่”

“นั่นดิ กูเห็นมึงเหม่อตั้งนานละ”

เสียงเพื่อนสองคนดังขึ้นติดกัน คล้ายจะดึงสติชายหนุ่มให้กลับมาจากภวังค์ แต่ปอร์เช่ก็ยังคงนั่งเงียบ สีหน้าเรียบนิ่งจนเกือบจะดูเย็นชา ดวงตาเขาไม่หยุดเหลือบมองไปทั่วบริเวณคล้ายกำลังตามหาใครบางคน ทว่า…ไม่ว่าจะมองเท่าไรก็ไม่เห็นเธอคนนั้นเลย

“…..”

ไม่มีคำตอบ ไม่มีคำอธิบาย มีแค่ความเงียบที่แผ่ซ่านไปทั่วโต๊ะ จนเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยเริ่มรู้สึกอึดอัดแทน

“อ่อ กูรู้ละ…”

“เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก มึงจะคิดมากทำไม น้องเจสเขาอาจจะติดธุระอยู่ก็ได้”

เซนเซพูดพลางตบบ่าเบา ๆ เหมือนจะปลอบใจ แต่ปอร์เช่กลับไม่แม้แต่จะหันมามอง ริมฝีปากเม้มแน่นเล็กน้อยเหมือนกำลังพยายามสะกดกลั้นบางอย่างไว้

ทันใดนั้น เขาก็ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ คว้าโทรศัพท์ในมือแน่น ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร

“เอ้า! มึงจะไปไหนวะ!”

เสียงเพื่อนร้องตามหลัง แต่ชายหนุ่มไม่ได้หยุดเดิน เขากดโทรศัพท์หาหมายเลขเดิมอีกครั้ง รอสาย แต่ก็เหมือนเดิม

หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…

มือที่ถือโทรศัพท์เริ่มสั่นเล็กน้อย เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เสียงบรรยากาศงานด้านหลังก็ดูจะค่อยๆ เลือนหายไปในหู มีเพียงเสียงในหัวที่ถามซ้ำๆ

“เจส… หนูจะไม่มาจริงๆเหรอ…”

มือหนากำโทรศัพท์แน่นขึ้นอีก ก่อนจะหันหลังวิ่งไปที่รถในชุดครุยเต็มยศ ไม่สนสายตาผู้คนที่หันมองตามหลังด้วยความสงสัย

เสียงเครื่องยนต์คำรามสนั่นเมื่อเขากดคันเร่งออกไปด้วยความเร็ว แสงแดดตอนบ่ายสาดกระทบกับกระจกหน้ารถจนแสบตา แต่ชายหนุ่มไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น นอกจากปลายทางที่เขาหมายมั่นว่าจะต้องไปให้ถึง

ไม่นาน รถก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ในย่านที่คุ้นตา เขาเปิดประตูรถอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้าวเท้าแทบจะวิ่งเข้าไปทันที

“อ้าว ปอร์เช่! ไม่เจอกันนานเลยนะ แทบจำไม่ได้แน่ะ เข้ามาก่อนลูก เข้ามาก่อน”

เสียงทักทายอย่างเป็นมิตรจากหญิงวัยกลางคนที่เปิดประตูรับ ชายหนุ่มยกมือไหว้อย่างสุภาพ แม้ในใจจะร้อนรุ่มจนแทบไม่อยากพูดจาอ้อมค้อม

“สวัสดีครับคุณน้า ผมขอรบกวนถามอะไรนิดนึงครับ…น้าพอจะรู้มั้ยครับว่าเจสอยู่ไหน?”

หญิงวัยกลางคนชะงักเล็กน้อย สีหน้าดูแปลกใจนิดๆ

“อ้าว… ยัยเจสไม่ได้บอกเราหรอ?”

“ครับ? บอกอะไรเหรอครับ?”

“ก็… ยัยเจสน่ะ เขากำลังจะไปเรียนต่อที่อเมริกาไงลูก”

“มะ…เมกา?!”

คำตอบนั้นเหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจ เขายืนนิ่ง เหมือนหูดับไปชั่วขณะ

“แล้ว… แล้วตอนนี้เจสอยู่ไหนครับ?”

“น่าจะอยู่สนามบินแล้วนะลูก น่าจะกำลังขึ้นเครื่องเลยแหละ”

ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น เขาหมุนตัวกลับทันทีโดยไม่รอให้พูดจบ น้ำตารื้นที่ขอบตา ราวกับหัวใจถูกบีบแน่นจนหายใจไม่ออก

“นี่มันเรื่องอะไรกัน…?”

เสียงพึมพำในลำคอเหมือนจะถามตัวเอง มือหนากำโทรศัพท์แน่น ร่างกายเต็มไปด้วยแรงสั่นไหวจากความสับสนและเจ็บปวดที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว

สนามบิน

เสียงกระเป๋าเดินทางที่ลากครืดไปตามพื้นเรียบของสนามบินคลุกเคล้าอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย เสียงประกาศเรียกเที่ยวบินดังขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เจสเดินแทรกอยู่ในหมู่คนเหล่านั้น สีหน้าเธอเรียบนิ่งเหมือนจะเข้มแข็ง แต่ดวงตากลับแดงช้ำจนเห็นได้ชัด

หญิงสาวหยุดยืนอยู่ตรงมุมหนึ่ง ใกล้ประตูทางขึ้นเครื่อง มือเรียวเอื้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดปิดเครื่องตามที่ตั้งใจ แต่ทว่าทันทีที่หน้าจอสว่างขึ้น…

ติ๊ง!

มีการแจ้งเตือนข้อความเข้ามาก่อนเครื่องจะดับ หนึ่งภาพที่ปรากฏทำให้เธอชะงัก

รูปถ่ายของคนสองคนที่เธอรักและไว้ใจที่สุดในชีวิต กำลังกอดกันหน้าโรงอาหาร…

คนหนึ่งคือเพื่อนสนิทที่สุดของเธอ อีกคนคือ…คนรักที่เธอฝากหัวใจไว้ทั้งหมด

เจสเบิกตาโพลง ร่างของเธอแข็งค้างอยู่ตรงนั้น ใจเหมือนถูกกรีดเป็นเส้นยาวจากภาพนั้นเพียงใบเดียว

“ฮึก…”

เสียงสะอื้นเล็ดลอดจากลำคอเบาๆ ก่อนที่น้ำตาจะค่อยๆ ไหลลงมาโดยไม่ทันตั้งตัว หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น พยายามห้ามเสียงสะอื้นไม่ให้ดังออกมา

“นี่ฉัน…ทำถูกแล้วใช่ไหม…”

เสียงพึมพำแผ่วเบาก่อนที่เธอจะปิดหน้าจอ ลมหายใจหนักๆ กลั้นความปวดร้าวไว้ในอก มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตา ก่อนจะสูดลมหายใจลึกแล้วลากกระเป๋าเดินตรงไปยังทางขึ้นเครื่อง

ขณะเดียวกัน ด้านปอร์เช่ รถของเขาจอดเทียบตรงหน้าอาคารสนามบินอย่างรวดเร็ว ประตูถูกผลักออกอย่างรุนแรง ชายหนุ่มก้าวลงมาพร้อมโทรศัพท์ในมือ เขาไม่รออะไรทั้งนั้น วิ่งเข้าไปยังอาคารทันที

เสียงแจ้งเตือนเที่ยวบินที่กำลังจะปิดประตูดังขึ้นผ่านลำโพง เขาชะเง้อมองหาเธอในฝูงคน เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังถี่รัว หัวใจเต้นระรัวจนน่ากลัวว่าจะหลุดออกมานอกอก

“เจส!!! เจส อยู่ไหน!!”

เขาตะโกนชื่อเธอซ้ำๆ แม้จะไม่รู้ว่าช้าไปแค่ไหนแล้วก็ตาม

คนหลายคนเริ่มหันมอง บ้างมองด้วยความสงสัย บ้างมองด้วยความเห็นใจ แต่ไม่มีใครเลย…ที่คือ เจ้าของชื่อ

เขาวิ่งไปจนถึงประตูทางขึ้นเครื่องเที่ยวบินปลายทางอเมริกา ประตูปิดแล้ว เจ้าหน้าที่หญิงทำหน้าตึงๆ ยกมือห้ามเขา

“ขอโทษค่ะ เครื่องบินออกไปแล้วค่ะ”

คำพูดนั้นเหมือนดาบทิ่มกลางอกเขา ปอร์เช่ยืนนิ่ง น้ำตาคลอเบ้า แล้วราวกับแรงทั้งหมดหายไปจากขา เขาทรุดตัวลงกับพื้นตรงนั้น

“…ฮึก…ที่รัก…ทำไมทิ้งพี่ไป…”

เสียงสะอื้นสะท้อนในลำคอ มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้น ร่างสูงนั่งก้มหน้าอยู่กลางสนามบิน ขณะที่น้ำตาหยดลงบนพื้นทีละหยดอย่างช้าๆ

คำถามมากมายพรั่งพรูเข้ามาในหัว ทำไมคนตัวเล็กไม่บอกอะไรเขาสักคำ ทำไมเธอต้องจากไปทั้งที่เขารอเธออยู่ เขาทำอะไรผิด?

“เจส…ฮึก…ทำไมไม่รอพี่…”

เสียงเรียกชื่อเธอหลุดออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่มีคำตอบ ไม่มีแม้แต่เงาของเธอหลงเหลืออยู่

ผับหรูใจกลางเมือง

แสงไฟวูบวาบ เสียงดนตรีดังกระหึ่ม แต่สำหรับเขา มันเงียบงันเกินจะรับรู้

“เฮ้ยพอได้แล้ว กระดกเอากระดกเอา เดี๋ยวก็ตายพอดี!”

เพื่อนรีบเข้ามาแย่งแก้วเหล้าจากมือปอร์เช่ที่กำลังนั่งเซซังอยู่ตรงเคาน์เตอร์ โต๊ะรอบตัวเต็มไปด้วยขวดเปล่า น้ำแข็งละลายคาแก้ว และบุหรี่ที่ไหม้ไปครึ่งมวน

ปอร์เช่เงยหน้าขึ้นช้าๆ ดวงตาแดงก่ำ หน้าหล่อเหลาซีดเซียวจนผิดหูผิดตา

“พี่เช่คะ…หยุดเถอะนะคะ…”

เสียงหวานแผ่วเบาดังขึ้น กอบัวเดินเข้ามาใกล้ช้าๆ น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนเหมือนห่วงใย

“อีกอบัว…”

น้ำเสียงของเพื่อนสาวอีกคนเรียกชื่อเธอด้วยแววตาโกรธปนเจ็บ

“มึงอย่ามาตอแหล! กูรู้หมดแล้ว!!”

เสียงตวาดจากฮันน่าดังขึ้นข้างตัว ก่อนเธอจะก้าวพรวดเข้ามา จ้องหน้ากอบัวเขม็ง

“เมื่อเช้า มึงยืนกอดกับไอ้เช่ก็เพื่อให้เจสเห็นใช่ไหม!! มึงรู้ใช่ไหมว่าเจสมันรักไอ้เช่แค่ไหน!!”

“พี่ฮันน่าพูดเรื่องอะไรคะ…บัวไม่ได้ทำ!”

“อย่าแอ๊บ! กูเห็นเต็มตา กูแค่เงียบไว้เพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อน แต่มึงมัน…ต่ำ!”

บรรยากาศในกลุ่มตึงเครียดทันที ทุกคนเงียบลง เหลือเพียงเสียงดนตรีที่ยังเปิดในผับอย่างไม่มีวันหยุด

“เธอทำแบบนั้น…จริงๆหรอ?”

ปอร์เช่ถามขึ้น เสียงของเขาเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่แววตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง

“ถ้าเจสรักพี่จริง… แค่ภาพนั้น มันไม่ทำให้เธอทิ้งพี่ไปได้หรอกค่ะ!!”

คำพูดของกอบัวแทงเขาอีกครั้ง เขาเงียบ ริมฝีปากเม้มแน่น ก่อนจะยกขวดเหล้าขึ้นกระดกโดยไม่รินใส่แก้ว

“พี่เช่…ฮึก…พอเถอะนะคะ บัวขอ…”

“โอ๊ย!”

กอบัวยังพูดไม่ทันจบ ฮันน่าก็ผลักเธอออกไปแรงๆ ด้วยความโกรธจัด

“เพื่อนกู กูดูแลเองได้ มึงไม่ต้องเสือก!”

ทุกสายตาเริ่มหันมองด้วยความตกใจ แต่ฮันน่าไม่สนใจ เธอทรุดลงข้างตัวปอร์เช่ จับแขนเขาเบาๆ

เธอรู้ดี ตอนนี้ปอร์เช่คงไม่มีกะจิตกะใจจะคิดเรื่องอื่นอีก และเซนเซ…ที่ยืนเงียบอยู่ตรงมุมนั้น ก็ไม่ได้เหลือใจไว้ให้ใครนอกจากกอบัวคนเดียวเช่นกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รุ่นพี่ที่รัก   บทที่ 30 คู่หมั้น

    สหรัฐอเมริกา “ข่าวเด็ดสดๆใหม่ๆค่ะคุณผู้ชม! ประธานแห่ง K กรุ๊ป ผู้ที่เพิ่งก้าวขึ้นรับตำแหน่งได้เพียงหนึ่งปี กลับสามารถสร้างอิทธิพลในแวดวงธุรกิจได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ประเด็นร้อนที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องอิทธิพลของคุณปอร์เช่นะคะ แต่เป็นเรื่องของหัวใจค่ะ! ใช่แล้วค่ะ ภาพหลุดของคุณปอร์เช่กับซูเปอร์สตาร์ชื่อดังหน้าใหม่อย่างคุณกอบัว กำลังเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล! หลายคนกำลังลุ้นกันว่า หรือทั้งคู่จะแอบคบหากันอยู่จริงๆ!?” หญิงสาวผู้หนึ่งนั่งฟังข่าวจากอีกซีกโลกผ่านไอแพดในมือ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แววตาทั้งคมและเย็นชาราวกับรู้อะไรมากกว่าที่ใครคิด “หึ…คบกันงั้นเหรอ…น่าสนใจดีนี่” “คุณหนูเล็กคะ คุณท่านให้มาตามให้ไปรับประทานของว่างค่ะ” เสียงของสาวใช้ดังขึ้นจากหน้าห้อง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเพียงเล็กน้อยก่อนตะโกนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เดี๋ยวเจสลงไปค่ะ” ⸻ ด้านล่างคฤหาสน์ “มาเร็วสิหลานรัก ย่าทำของโปรดไว้ให้เพียบเลยนะจ๊ะ” มาเดลิน ผู้เป็นย่าเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม ขณะหญิงสาวเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร เจสสิก้ารีบเดินตรงไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยของว่างหน้าตาน่ารับ

  • รุ่นพี่ที่รัก   บทที่ 29 เค้าไม่กลับมา

    ประเทศสหรัฐอเมริกา เสียงเบรกของรถหรูดังขึ้นเบาๆ หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ เอี๊ยด~ รถยนต์คันงามจอดนิ่งสนิทอยู่หน้าคฤหาสน์สุดหรู ก่อนที่ประตูหน้าจะเปิดออกพร้อมร่างสูงในชุดสูทดำของบอดี้การ์ดคนสนิท เขาก้าวเท้าไปยังประตูหลังด้วยท่วงท่าสง่างามและมั่นคง ก่อนจะเปิดมันออกอย่างสุภาพเพื่อรับหญิงสาวคนสำคัญ ขาเรียวยาวของหญิงสาวเหยียบลงจากรถทีละข้างอย่างเรียบหรูร่างของเธอปรากฏพร้อมกับเสื้อผ้าสุดหรูดูมีระดับ และทันทีที่คนตัวเล็กก้าวลงมาเต็มตัว ชายชุดดำก็ก้มศีรษะทำความเคารพด้วยความนอบน้อม “หลานรักของย่า~~~” เสียงหญิงชราเอ่ยขึ้นอย่างเปี่ยมสุข รอยยิ้มอบอุ่นของท่านปรากฏอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์ ผู้เป็นย่ายืนกางแขนออกพร้อมต้อนรับหลานสาวที่ตนรักสุดหัวใจ “คุณย่า!!” หญิงสาวร้องเรียกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ร่างเล็กรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดร่างอันอบอุ่นของย่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน ทั้งสองสวมกอดกันแน่นราวกับโลกนี้มีกันแค่สองคน “คิดถึงที่สุดเลยหลานรักของย่า” “หนูก็คิดถึงคุณย่ามากกกกเลยค่ะ” เสียงใสๆ ที่แฝงด้วยความน่ารักของหญิงสาวทำเอาผู้สูงวัยยิ้มกว้าง ดวงตาเปล่งประกายไปด้วยความรักและความคิดถึง ทั้งสองเดินเคี

  • รุ่นพี่ที่รัก   บทที่ 28 ไม่เคยลืม

    “ทำไมไม่ยิ้มหน่อยวะไอ้ปอร์เช่” “นั่นดิ กูเห็นมึงเหม่อตั้งนานละ” เสียงเพื่อนสองคนดังขึ้นติดกัน คล้ายจะดึงสติชายหนุ่มให้กลับมาจากภวังค์ แต่ปอร์เช่ก็ยังคงนั่งเงียบ สีหน้าเรียบนิ่งจนเกือบจะดูเย็นชา ดวงตาเขาไม่หยุดเหลือบมองไปทั่วบริเวณคล้ายกำลังตามหาใครบางคน ทว่า…ไม่ว่าจะมองเท่าไรก็ไม่เห็นเธอคนนั้นเลย “…..” ไม่มีคำตอบ ไม่มีคำอธิบาย มีแค่ความเงียบที่แผ่ซ่านไปทั่วโต๊ะ จนเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยเริ่มรู้สึกอึดอัดแทน “อ่อ กูรู้ละ…” “เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก มึงจะคิดมากทำไม น้องเจสเขาอาจจะติดธุระอยู่ก็ได้” เซนเซพูดพลางตบบ่าเบา ๆ เหมือนจะปลอบใจ แต่ปอร์เช่กลับไม่แม้แต่จะหันมามอง ริมฝีปากเม้มแน่นเล็กน้อยเหมือนกำลังพยายามสะกดกลั้นบางอย่างไว้ ทันใดนั้น เขาก็ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ คว้าโทรศัพท์ในมือแน่น ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร “เอ้า! มึงจะไปไหนวะ!” เสียงเพื่อนร้องตามหลัง แต่ชายหนุ่มไม่ได้หยุดเดิน เขากดโทรศัพท์หาหมายเลขเดิมอีกครั้ง รอสาย แต่ก็เหมือนเดิม หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้… มือที่ถือโทรศัพท์เริ่มสั่นเล็กน้อย เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เสียงบรรยากาศงานด้านหลังก็ดูจะค่อยๆ เ

  • รุ่นพี่ที่รัก   บทที่ 27 แตกสลาย

    ซ่า… ซ่า… ซ่า… เสียงเนื้อที่กำลังถูกผัดอยู่ในกระทะดังต่อเนื่องในห้องครัวของคอนโดสุดหรู หญิงสาวร่างบางกำลังยืนเตรียมอาหารเช้าด้วยท่าทีคล่องแคล่ว ขณะที่แสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านโปร่งบางเข้ามาอาบตัวเธอเบาๆ ฟุ่บ… แขนแกร่งวงใหญ่เข้ามารัดรอบเอวเธอจากด้านหลัง พร้อมกับใบหน้าคมที่ซุกลงมาตรงซอกคอขาวอย่างออดอ้อน “หอมจัง ที่รักทำอะไรครับ” เสียงทุ้มแหบเอ่ยถามพลางสูดกลิ่นหอมจากผิวเนียนตรงลำคอ “ที่รัก หนูทำอาหารอยู่นะคะ อย่าเพิ่งกวนสิ” “ก็พี่คิดถึงนี่นา” เขาไม่ฟังเลยสักนิด มือยังคงกอดแน่นราวกับไม่อยากให้เธอขยับไปไหน ร่างสูงเอาแต่แนบชิดจนหญิงสาวต้องถอนหายใจนิดๆ อย่างเอ็นดู “อีกไม่กี่วันก็วันรับปริญญาแล้ว พี่อยากได้อะไรคะ?” “พี่อยากได้หนู” “หนูบ้านหรือหนูนาคะ?” “ที่รักอ่ะ!” หญิงสาวหลุดหัวเราะออกมากับสีหน้าและน้ำเสียงแบบเด็กน้อยสามขวบของเขา ใบหน้าที่เคยเคร่งขรึมกลายเป็นออดอ้อนราวกับแมวที่อ้อนเจ้าของ เพราะรู้ว่าเขาจะไม่มีวันหยุดกวนหากยังยืนอยู่แบบนี้ ร่างเล็กจึงยื่นมือไปปิดเตาแก๊ส และหันกลับมาเผชิญหน้า— !!! แต่ไม่ทันตั้งตัว ร่างสูงก็พุ่งเข้าประกบริมฝีปากนุ่มอย่างรวดเร็ว พร

  • รุ่นพี่ที่รัก   บทที่ 26 รีน่า

    “อย่าคิดว่ากูต่อยยัยนั่นเพราะมันว่ามึงล่ะ กูทำเพราะหมั่นไส้มันเฉยๆ” “กูก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนี่ มึงจะรีบแก้ตัวทำไม” ได้ยินแบบนั้น กอบัวเงียบลงทันที ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาแล้วเดินออกจากตรงนั้น ปล่อยให้เจสยืนอยู่ลำพังโดยไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติม ไม่นาน เจสสิก้าก็เดินออกจากคาเฟ่โดยไม่มองกลับหลัง เธอเดินเรื่อยๆ ไปตามทางเท้าที่ทอดยาวราวกับปล่อยให้มันพาไปตามความรู้สึก หัวใจที่ปั่นป่วนทำให้เธอต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ความสงบในความโดดเดี่ยวนั้นก็จบลง เมื่อจู่ๆก็มีใครบางคนเดินเข้ามาทักเธออย่างไม่คาดฝัน “มีเรื่องไม่สบายใจอยู่หรอครับ” เสียงนั้น…เสียงที่คุ้นหูอย่างบอกไม่ถูก ใครกัน? เธอหันกลับไปมองต้นเสียง และพบกับชายหนุ่มร่างสูงในชุดแต่งกายสไตล์ผู้ชายจีนทันสมัย แต่ใบหน้าของเขากลับมองไม่เห็นชัดเจน เพราะหมวกสีดำกับแมสสีขาวที่บดบังใบหน้าทั้งหมด เขาเดินเข้ามาเคียงข้างเธออย่างใจเย็น หญิงสาวเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยก่อนจะเอ่ยถาม “นายเป็นใคร?” “พี่ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกครับ รู้แค่ว่า…ตอนที่เราเจอกันครั้งล่าสุด พี่ก็อยู่ในสภาพแบบนี้…แต่เพิ่มเติมคือกลิ่นควันบุหรี่” “อ้อ…นายคือเด็กคนนั

  • รุ่นพี่ที่รัก   บทที่ 25 จมูกซิลิโคน

    “พี่ยอมรับว่าพี่เคยชอบกอบัวจริงๆ แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว… ตอนนั้นพี่ยังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าความรักมันคืออะไร แต่ตั้งแต่ที่พี่ได้เจอเจส…พี่พูดได้เลยว่า นอกจากแม่แล้ว พี่ไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนมากขนาดนี้เลย”เสียงของปอร์เช่เอ่ยขึ้นช้าๆ แววตาเขาสงบนิ่งขณะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเหนือหัว ดวงดาวนับพันดวงลอยอยู่กลางความมืด เสียงลมหอบเบาๆ พัดผ่านเส้นผมของคนทั้งคู่ที่นั่งอยู่บนดาดฟ้าสูง ทำให้บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเงียบสงบและอบอุ่นเจสนั่งอยู่ข้างๆ มองเขาเงียบๆ ดวงตาของเธอสะท้อนแสงดาว และบางอย่างในใจเธอก็เริ่มชัดเจนขึ้น เธอยิ้มบางๆ ออกมาอย่างอ่อนโยน…ยิ้มที่แฝงด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งโล่งใจ ทั้งเศร้า ทั้งอบอุ่นและเสียใจไปพร้อมๆกัน หากย้อนเวลากลับไปได้ เธอคงไม่หนี ไม่หลบหน้าปอร์เช่อย่างที่เคยทำ เธอควรจะฟังเขาตั้งแต่แรก“ทีนี้หนูเข้าใจแล้วใช่มั้ย?” เขาหันมาถามเสียงนุ่ม“เข้าใจแล้ว~” เจสตอบกลับด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย ดวงตาเธอมองเขาอย่างแน่นิ่ง เหมือนคนที่เพิ่งยอมรับความจริงบางอย่างได้อย่างเต็มหัวใจ“เจส…” เขาเรียกชื่อเธออีกครั้ง คราวนี้สายตาเขาจริงจังขึ้น เหมือนกำลังจะพูดอะไรที่สำคัญแต่ก่อนที่เข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status