“เจอข้อมูลอะไรบ้างรึยังครับ”
“ยังเลยจ่ะลูก ข้อมูลมันปิดแน่นมาก เราพยายามหาลึกที่สุดแล้ว” สีหน้าวิตกกังวลของผู้เป็นคนในครอบครัวที่เมื่อรู้ข่าวว่าลูกสาวสุดที่รักถูกลักพาตัวไป ไม่มีแม้แต่วี่แววของเธอให้ได้เบาะแสสักนิด รวมถึงอเล็กซ์ ชายหนุ่มที่เพิ่งได้หมั้นหมายกับหญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจ แต่ยังไม่ทันจะง้อเธอให้สำเร็จ เรื่องบ้าๆ นี่ก็เกิดขึ้นก่อนเสียแล้ว “ผม…ขอโทษนะครับ” ชายหนุ่มผู้แบกสีหน้าเศร้าหมองเอ่ยเสียงแผ่ว ก่อนจะยกมือไหว้ผู้สูงวัยตรงหน้าอย่างรู้สึกผิด เขาไม่สามารถปกป้องเธอไว้ได้ หากตอนนั้นเขาไม่ปล่อยให้เธอไปคนเดียว ถ้าเขาอยู่กับเธอ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น “มันไม่ใช่ความผิดเราหรอก อเล็กซ์ ไม่ต้องรู้สึกผิด อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด” “ครับ…” ถึงแม้ผู้สูงวัยตรงหน้า ผู้ที่เขานับถือเหมือนกับมารดาคนหนึ่งจะไม่ได้โกรธหรือโทษเขาเลยสักนิด แต่น้ำใจอันอบอุ่นนั้นกลับยิ่งทำให้อเล็กซ์รู้สึกผิดมากขึ้นกว่าเดิม —————————— “นี่คุณ! ฉันอยากไปช็อปปิ้ง!” “ไม่ได้” “ฉันไม่หนีหรอกน่า ให้ฉันไปเถอะ” ใครมันจะไปเชื่อกันล่ะ หญิงสาวตัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมเกินตัว สมองของเธอคงไม่เล็กเหมือนรูปร่างแน่ๆ เพราะแม้แต่เขาเองยังต้องคอยระแวงตลอดเวลา “งั้นก็ได้” “จริงหรอ!!!” เจสสิก้ายิ้มตื่นเต้นอย่างดีใจเมื่อได้ยินคำตอบที่ตรงกับความคาดหวัง เธอเกือบจะกระโดดกอดเขาด้วยซ้ำไป ปอร์เช่พยักหน้าเบาๆ ตอบรับพร้อมรอยยิ้มบาง กับแววตาที่มองรอยยิ้มของคนตรงหน้า รอยยิ้มที่เขาไม่ได้เห็นมานานเหลือเกิน แต่รอยยิ้มนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน… “แต่พี่จะไปด้วย” “ได้ไงอ่ะ! ฉันอยากไปคนเดียว!” “อย่าเรื่องมาก หรือจะไม่ไป?” เสียงทุ้มพูดพลางลุกขึ้นยืน จัดเสื้อผ้าเตรียมพร้อมจะออกจากห้อง เจสได้แต่นิ่ง กัดฟันแน่นด้วยความหงุดหงิด เมื่อทุกอย่างไม่เป็นตามแผนที่เธอวางไว้ “ยืนอยู่ทำไม มาเร็วสิ หรือจะไม่ไปแล้ว?” เสียงเรียกจากประตูดังขึ้นเมื่อชายหนุ่มที่เดินไปก่อนหยุดเดิน แล้วหันกลับมามองเธอที่ยังกำมือนิ่งอยู่ด้านหลัง “ไป!” หญิงสาวตอบกลับอย่างหงุดหงิด เดินตัดหน้าเขาออกไปทันทีแบบไม่สบอารมณ์ “หึ” ปอร์เช่หัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจ มองแผ่นหลังเล็กที่เดินนำหน้าไป ก่อนจะปิดประตูแล้วเดินตามออกไปเงียบๆ … “นี่! ฉันจะไปห้องน้ำ ไม่ต้องตามมาก็ได้มั้ง!” “ไม่ได้” “นี่คุณ!” “ครับ ที่รัก” “ฮึ่ย!! ถ้าจะขนาดนี้ ตามฉันเข้าไปในห้องน้ำเลยมั้ยล่ะ!” “ได้หรอครับ?” ห้างสรรพสินค้าที่พวกเขาเดินเล่นด้วยกันอย่างเงียบๆ กลับกลายเป็นสนามสงครามย่อยๆ เมื่อปอร์เช่ยังคงตามติดคนตัวเล็กไม่ยอมห่างกาย จนเธอแทบไม่มีเวลาหายใจ สุดท้ายทั้งสองก็ทะเลาะกันเล็กๆ จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำหญิง ปอร์เช่ยืนรออยู่ข้างหน้า ส่วนคนตัวเล็กก็เดินเข้าไปด้วยใบหน้าไม่พอใจ “ฮึ้ย! หงุดหงิดจริงๆ หาทางหนีไม่ได้เลยแฮะ ติดไม่ปล่อยอย่างกับปลิง มือถือก็ไม่มีอีก!” เสียงบ่นพึมพำของหญิงสาวดังขึ้นในห้องน้ำ เธอยืนถอนหายใจแรงๆ พยายามหาทางรอดจากสถานการณ์น่ารำคาญนี้ การที่ต้องอยู่กับผู้ชายคนนี้ทำให้เธอแทบจะเป็นบ้า “หืม…?” ในจังหวะที่กำลังคิดหาทางออกสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นบางสิ่ง บางอย่างที่เหมือนเป็นทางรอด… เธอยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “เอ่อ…ป้าคะ” “คะ?” แม่บ้านที่กำลังถูพื้นเงยหน้ามองเธอทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียก สายตาของหญิงสาวจับจ้องไปที่เสื้อผ้าของแม่บ้าน ก่อนจะส่งยิ้มอ่อนหวานไปให้… … “ทำไมเข้าห้องน้ำนานจังวะ…” ร่างสูงยืนรออยู่หน้าห้องน้ำมาเกือบครึ่งชั่วโมง เขาเริ่มรู้สึกผิดปกติ ยกนาฬิกาเรือนหรูขึ้นมาดูเวลาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเธอจะออกมา “หรือว่า…!!!” ทันทีที่สมองสั่งการ เท้ายาวรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำจนสาวๆ กรี๊ดลั่นด้วยความตกใจ โชคดีที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเขา ด้วยทั้งชื่อเสียงและใบหน้าหล่อเหลาที่ช่วยไว้มาก แต่เมื่อเข้าไปในนั้น ไม่มีวี่แววของเจสสิก้าเลยแม้แต่น้อย เธอหายไปแล้ว เขารู้ทันทีว่าถูกหลอกเข้าให้แล้ว! ร่างสูงรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ พร้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาลูกน้องทันที สั่งการให้กระจายกำลังตามหาหญิงสาวทุกซอกทุกมุมของห้าง “จึ๊!” ปอร์เช่เดินพลางมองไปรอบๆ ด้วยความหงุดหงิดและรู้สึกผิด เขาคงประเมินหญิงสาวที่เขารักไว้ต่ำเกินไปจริงๆ … “มี๊!” !!! “เจส!! เจสจริงๆ ด้วย!” ผู้เป็นแม่ที่ตามหาลูกมาหลายวันจนแทบสิ้นหวัง เมื่อได้เห็นลูกสาวยืนอยู่ตรงหน้า เธอรีบวิ่งเข้าไปกอดลูกสาวสุดที่รักแน่น น้ำตาไหลพรากด้วยความคิดถึง ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามาจนแทบแยกไม่ออกว่าควรจะดีใจ สับสน หรือเสียใจก่อน “ฮึก…เจส…สวิตตี้ของหม่ามี๊ หนูหายไปไหนมารู้มั้ยว่ามี๊เป็นห่วงแทบแย่” “เจสขอโทษนะคะที่ทำให้เป็นห่วง เรื่องมันยาวค่ะ ไว้เจสจะเล่าให้ฟังทีเดียว” “น้าครับ ผม—พี่!” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับถุงผลไม้ที่หล่นลงพื้นอย่างแรง ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้า—คนที่เขาตามหาอย่างบ้าคลั่ง แต่ยังไม่ทันที่คนพี่จะเอ่ยปากพูดอะไร อเล็กซ์ก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่แม้แต่จะก้มเก็บถุงผลไม้ที่ตกอยู่ เขารีบพุ่งเข้ามากอดเธอแน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปอีก และในอ้อมกอดนั้น เจสสิก้ารู้ได้ทันทีว่าความโกรธ ความแค้น หรือแผนที่วางไว้…กำลังจะพังทลายลง“เจอข้อมูลอะไรบ้างรึยังครับ” “ยังเลยจ่ะลูก ข้อมูลมันปิดแน่นมาก เราพยายามหาลึกที่สุดแล้ว” สีหน้าวิตกกังวลของผู้เป็นคนในครอบครัวที่เมื่อรู้ข่าวว่าลูกสาวสุดที่รักถูกลักพาตัวไป ไม่มีแม้แต่วี่แววของเธอให้ได้เบาะแสสักนิด รวมถึงอเล็กซ์ ชายหนุ่มที่เพิ่งได้หมั้นหมายกับหญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจ แต่ยังไม่ทันจะง้อเธอให้สำเร็จ เรื่องบ้าๆ นี่ก็เกิดขึ้นก่อนเสียแล้ว “ผม…ขอโทษนะครับ” ชายหนุ่มผู้แบกสีหน้าเศร้าหมองเอ่ยเสียงแผ่ว ก่อนจะยกมือไหว้ผู้สูงวัยตรงหน้าอย่างรู้สึกผิด เขาไม่สามารถปกป้องเธอไว้ได้ หากตอนนั้นเขาไม่ปล่อยให้เธอไปคนเดียว ถ้าเขาอยู่กับเธอ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น “มันไม่ใช่ความผิดเราหรอก อเล็กซ์ ไม่ต้องรู้สึกผิด อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด” “ครับ…” ถึงแม้ผู้สูงวัยตรงหน้า ผู้ที่เขานับถือเหมือนกับมารดาคนหนึ่งจะไม่ได้โกรธหรือโทษเขาเลยสักนิด แต่น้ำใจอันอบอุ่นนั้นกลับยิ่งทำให้อเล็กซ์รู้สึกผิดมากขึ้นกว่าเดิม —————————— “นี่คุณ! ฉันอยากไปช็อปปิ้ง!” “ไม่ได้” “ฉันไม่หนีหรอกน่า ให้ฉันไปเถอะ” ใครมันจะไปเชื่อกันล่ะ หญิงสาวตัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมเกินตัว สมองของเธอคงไม่เล็กเหมือนรูปร
“พี่ไม่ได้เป็นอะไร เธอกลับไปได้ละ” “แต่บัวเป็นห่วงพี่นะคะ” “กอบัว” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ให้แข็งกระด้างจนเกินไปนัก เมื่อหญิงสาวตรงหน้าไม่ยอมฟังคำไล่ของเขา เธอยังยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ยอมขยับเขยื้อนด้วยสายตาห่วงใยที่เขาเองก็รับรู้ได้ดี เขารู้…ว่าเธอรักเขามากแค่ไหน เพราะตั้งแต่เด็กจนโต เธอไม่เคยห่างจากเขาเลยแม้แต่ก้าวเดียว “บัวกลับก็ได้ค่ะ แต่พี่สัญญากับบัวได้มั้ยคะ…” เสียงของเธออ่อนลงพร้อมกับยื่นมือไปจับมือเขาขึ้นมาอย่างอ่อนโยน ชายหนุ่มไม่ได้ขัดขืน เขาเพียงแค่ยืนนิ่ง ปล่อยให้เธอกุมมือเขาไว้แบบนั้น เพราะยังไงเธอก็กำลังจะไปแล้ว…ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องใจร้ายใส่เธอในวินาทีสุดท้าย “…ว่าพี่จะไม่ทำร้ายตัวเองอีก” คำพูดของเธอแทงลึกเข้าไปในหัวใจชายหนุ่มทันที เขาขบริมฝีปากแน่นก่อนจะเอ่ยเสียงแข็งขึ้นมา แม้ไม่อยากพูดเช่นนั้นเลยสักนิด “เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวกับเธอกอบัว กลับไปได้แ––” กึก! เสียงบางอย่างดังขึ้นขัดจังหวะประโยคนั้นทันที ทั้งสองหันขวับไปตามต้นเสียงโดยอัตโนมัติ ขณะที่มือของกอบัวยังจับมือเขาไว้แน่นอย่างเดิม “เจส!!” เสียงเขาเรียกด้วยความตกใ
“บอสครับ…ผู้ชายที่คุณเจสกลับมาด้วย คือคู่หมั้นเธอครับ” “…อืม สืบว่ามันเป็นใคร” “ครับ” เสียงฝีเท้าของลูกน้องคนสนิทเงียบหายไปพร้อมกับประตูที่ปิดลง บรรยากาศในห้องทำงานหรูหรากลับเข้าสู่ความเงียบงันอีกครั้ง มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วหนักของชายหนุ่มร่างสูงที่เอนพิงพนักเก้าอี้หนัง เขาหลับตาลงเล็กน้อย คล้ายพยายามกลั้นความเหนื่อยล้าและความอัดอั้นบางอย่างที่กำลังตีวนในอก มือหนาหยิบขวดไวน์ราคาแพงขึ้นจากโต๊ะ รินลงในแก้วคริสตัลเพียงครึ่ง ก่อนจะกระดกขึ้นดื่มราวกับต้องการให้แอลกอฮอล์ช่วยกลบความรู้สึกบางอย่างในใจให้เงียบงันลง “คู่หมั้นงั้นเหรอ…” เสียงทุ้มต่ำพึมพำแผ่วเบาอย่างเหม่อลอย ขณะสายตายังคงจับจ้องภาพตรงหน้าโดยไร้จุดโฟกัส แกร๊ก… เสียงเปิดประตูดังขึ้นอย่างไร้มารยาท พร้อมกับร่างเล็กของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของหัวใจเขาเดินเข้ามาด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด เธอโวยวายเสียงดังทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง “ปล่อยฉันออกไป!!” ชายหนุ่มหันไปมองเธอเพียงแผ่วเบา ไม่ได้ลุกขึ้นและไม่ได้ตอบโต้อะไร ยังคงนิ่งงันอยู่ตรงนั้นเหมือนไม่ได้รับรู้ต่อเสียงตะโกนใดๆ “ฉันบอกให้ปล่อยฉันออกไป!!” เสียงเธอดังขึ้นอีกครั้ง “พี่
ประเทศไทย “สุดท้ายฉันก็ต้องยอมทำตามคำขอของคุณย่าสินะ…เฮ้อ…ชีวิตต้องมาหมั้นกับรักแรก…” หญิงสาวพึมพำเบาๆกับตัวเอง พลางถอนหายใจขณะเดินลงจากเครื่องบิน ใบหน้าสะสวยดูเบื่อหน่าย มือเรียวโอบอกตัวเองแน่นเล็กน้อยเมื่อเจอกับลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศในสนามบิน ข้างกายไม่มีสัมภาระอะไรนอกจากกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กเท่านั้น ส่วนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สามใบ เธอมอบให้ใครอีกคนลากตามอยู่ด้านหลัง ไม่ใช่บอดี้การ์ด ไม่ใช่คนขับรถ และไม่ใช่ลูกน้อง…แต่เป็น “อเล็กซ์” คู่หมั้นของเธอเอง “ดีใจจังครับ…ได้เป็นรักแรกของพี่” !! เสียงกระซิบจากด้านหลังทำเอาหญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย เธอเบือนหน้ากลับไปเล็กน้อยเพื่อมองเขา ทว่าไม่ได้ตอบอะไรในทันที “เหอะ! ก็แค่รักแรก ไม่ได้แปลว่าจะได้เป็นรักสุดท้ายซะหน่อย” “…” อเล็กซ์เงียบลงทันที ดวงตาคมหลุบต่ำไปเล็กน้อย ราวกับคำพูดนั้นเป็นเข็มที่ปักลงกลางใจ หญิงสาวเองก็รู้สึกถึงความรู้สึกผิดบางอย่างแวบเข้ามาในใจ รู้ว่าเธอพูดแรงไป…แต่จะขอโทษตอนนี้ก็คงดูแปลก จะกลืนคำพูดคืนก็ทำไม่ได้เช่นกัน เธอจึงได้แต่ปล่อยให้มันค้างอยู่อย่างนั้น “ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ” เขายื่นกระเป๋าให้การ์ดข้างหล
สหรัฐอเมริกา “ข่าวเด็ดสดๆใหม่ๆค่ะคุณผู้ชม! ประธานแห่ง K กรุ๊ป ผู้ที่เพิ่งก้าวขึ้นรับตำแหน่งได้เพียงหนึ่งปี กลับสามารถสร้างอิทธิพลในแวดวงธุรกิจได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ประเด็นร้อนที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องอิทธิพลของคุณปอร์เช่นะคะ แต่เป็นเรื่องของหัวใจค่ะ! ใช่แล้วค่ะ ภาพหลุดของคุณปอร์เช่กับซูเปอร์สตาร์ชื่อดังหน้าใหม่อย่างคุณกอบัว กำลังเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล! หลายคนกำลังลุ้นกันว่า หรือทั้งคู่จะแอบคบหากันอยู่จริงๆ!?” หญิงสาวผู้หนึ่งนั่งฟังข่าวจากอีกซีกโลกผ่านไอแพดในมือ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แววตาทั้งคมและเย็นชาราวกับรู้อะไรมากกว่าที่ใครคิด “หึ…คบกันงั้นเหรอ…น่าสนใจดีนี่” “คุณหนูเล็กคะ คุณท่านให้มาตามให้ไปรับประทานของว่างค่ะ” เสียงของสาวใช้ดังขึ้นจากหน้าห้อง หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเพียงเล็กน้อยก่อนตะโกนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เดี๋ยวเจสลงไปค่ะ” ⸻ ด้านล่างคฤหาสน์ “มาเร็วสิหลานรัก ย่าทำของโปรดไว้ให้เพียบเลยนะจ๊ะ” มาเดลิน ผู้เป็นย่าเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม ขณะหญิงสาวเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร เจสสิก้ารีบเดินตรงไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยของว่างหน้าตาน่ารับ
ประเทศสหรัฐอเมริกา เสียงเบรกของรถหรูดังขึ้นเบาๆ หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ เอี๊ยด~ รถยนต์คันงามจอดนิ่งสนิทอยู่หน้าคฤหาสน์สุดหรู ก่อนที่ประตูหน้าจะเปิดออกพร้อมร่างสูงในชุดสูทดำของบอดี้การ์ดคนสนิท เขาก้าวเท้าไปยังประตูหลังด้วยท่วงท่าสง่างามและมั่นคง ก่อนจะเปิดมันออกอย่างสุภาพเพื่อรับหญิงสาวคนสำคัญ ขาเรียวยาวของหญิงสาวเหยียบลงจากรถทีละข้างอย่างเรียบหรูร่างของเธอปรากฏพร้อมกับเสื้อผ้าสุดหรูดูมีระดับ และทันทีที่คนตัวเล็กก้าวลงมาเต็มตัว ชายชุดดำก็ก้มศีรษะทำความเคารพด้วยความนอบน้อม “หลานรักของย่า~~~” เสียงหญิงชราเอ่ยขึ้นอย่างเปี่ยมสุข รอยยิ้มอบอุ่นของท่านปรากฏอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์ ผู้เป็นย่ายืนกางแขนออกพร้อมต้อนรับหลานสาวที่ตนรักสุดหัวใจ “คุณย่า!!” หญิงสาวร้องเรียกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ร่างเล็กรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดร่างอันอบอุ่นของย่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน ทั้งสองสวมกอดกันแน่นราวกับโลกนี้มีกันแค่สองคน “คิดถึงที่สุดเลยหลานรักของย่า” “หนูก็คิดถึงคุณย่ามากกกกเลยค่ะ” เสียงใสๆ ที่แฝงด้วยความน่ารักของหญิงสาวทำเอาผู้สูงวัยยิ้มกว้าง ดวงตาเปล่งประกายไปด้วยความรักและความคิดถึง ทั้งสองเดินเคี