ฟงจินหมิงหรี่ตามองสตรีผู้มาเยือนด้วยใบหน้าเรียบเฉยแววตาเย็นชา เขากำลังนึกแปลกใจว่าเหตุใดเมื่อกาลก่อนเขาถึงเลือกวิธีช่วยเหลือพี่น้องโดยการเข้าหานาง อาจจะเป็นเพราะนางงดงามแลดูไม่ประสา มีความมั่นใจและตรงไปตรงมา เมื่อนางชอบใครก็แสดงว่าชอบกระมัง เขาจึงเลือกที่จะให้โอกาสนางได้กลับตัวกลับใจ หากนางปรับปรุงตัวให้ดีมีความคิดแยกแยะถูกผิด เขาย่อมไม่ติดใจในอดีตของนางบางทีราชาหมาป่าก็ดมกลิ่นผิดไป เขาไม่น่าเข้าหานางเมื่อกาลก่อนเลย ให้ตายเถิด! จินเยว่ชิงยืนนิ่งมองใบหน้าคมคายของบุรุษเรือนกายงามสง่าที่นั่งหลังตรงอยู่ในกรงขัง ความรู้สึกกระสันพลันบังเกิด หากกล่าวว่าฟงชินหยางเป็นบุรุษในฝันของเหล่าสตรี มีความแข็งแกร่งดิบเถื่อนและร้อนแรงอยู่ในกระแสโลหิต เพียงพิศมองดูจากระยะไกลยังให้ความรู้สึกเร่าร้อนรุนแรงอยากร่วมรักฟงจินหมิงผู้เป็นน้องชายของฟงชินหยางก็ไม่ต่างกันชายหนุ่มในกรงขังตรงหน้าของนางนั้นให้ความรู้สึกร้อนรุ่มพลุ่งพล่านยากระงับ เขาหล่อเหลาทุกมุมมอง มีรูปร่างสูงสง่าสมส่วน ทั้งทระนงองอาจและเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งบุรุษเพศของชายวัยฉกรรจ์อย่างเต็มตัวจินเยว่ชิงถึงกับต้องขบเม้มริมฝีปากรีบเก็บอาการบางอ
อดีตแคว้นเหลียนซึ่งกลายมาเป็นหัวเมืองอันยิ่งใหญ่ของแคว้นเฉินแห่งนี้มักจะเป็นสถานที่ที่ต่างแคว้นเลือกที่จะมาเยี่ยมเยือนหมายใช้เป็นตัวกลางสานสัมพันธไมตรีกับแคว้นเฉินอันแข็งแกร่งทางด้านการทหารและกลยุทธ์การศึกเฉินจิ้นเหอผู้เป็นชินอ๋องครองหัวเมืองหลักแห่งนี้มักจะได้รับความไว้วางใจจากพี่ใหญ่ของตนหรือก็คือฮ่องเต้เฉินหยางหมิงเซียนผู้ครองแคว้นเฉินเสมอมาให้เป็นผู้ตัดสินใจในหลายคราหลายเรื่องราวหลังจากเฉินจิ้นเหอส่งรายงานให้ฮ่องเต้ได้รับทราบถึงการมาเยี่ยมเยือนของต่างแคว้น ฮ่องเต้จึงส่งกระแสรับสั่งให้ชินอ๋องอย่างเขาจัดการแทนพระองค์ได้ทันที หากยังไม่พอใจกับการต้อนรับของหัวเมืองหลักแห่งนี้ก็สามารถจัดขบวนราชรถให้ต่างแคว้นเดินทางเข้าพบองค์เหนือหัวในเมืองหลวงอันไกลโพ้นได้เลยและช่วงเวลานี้ก็เช่นกัน ในยามนี้อาคันตุกะแห่งเฉินรายแรกของรอบปีกำลังเดินทางเข้ามายังเขตแดนของหัวเมืองหลักแห่งนี้และอีกไม่กี่วันก็จะเป็นแคว้นพันธมิตรรอบใหม่ เฉินจิ้นเหอจึงไม่สนใจนำพาอันใดกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของธิดาสาวอีกต่อไปสำหรับเขาแล้ว งานราชกิจดูแลบ้านเมืองย่อมสำคัญกว่าเรื่องรักใคร่ของชายหญิงมากนัก ฟงชินหยางผู้เป็นแม่ทัพคู
หากแต่เรื่องกลับผิดคาด ในขณะที่นางกำลังจะเข้าไปคุยกับฟงจินหมิงหมายกระชับความสัมพันธ์ สตรีงดงามนามลี่เหมยพลันกราดเกรี้ยวและหึงหวง นางทั้งตกใจทั้งประหวั่นพรั่นพรึง สตรีนางนั้นนับว่าน่ากลัวนัก แววตาทรงพลังแฝงอำนาจมากล้นท่าทางทระนงน่ากลัว คำพูดของสตรีนางนั้นช่างคมกริบเฉียบขาด ทั้งคำพูดและแววตาร้ายกาจคล้ายคมมีดคมดาบกระนั้นนางจึงทำทีแสร้งอ่อนแอและเป็นลมหมายเรียกร้องความสนใจจากฟงจินหมิงแต่กลับต้องร่วงลงพื้นไปอย่างน่าอดสูพื้นรึก็แข็งจนบั้นท้ายระบมไปหมด แต่กระนั้นนางจึงพอมีสติ นางจึงไม่ลุกขึ้นมา นางเพียงใช้มารยาเป็นสตรีงดงามบอบบางอ่อนแอต่อหน้าชายกล้าและให้สตรีอีกนางหนึ่งเป็นเพียงนางมารร้าย..."หึ! ท่านแม่ เรื่องนี้ลูกไม่ยอมนะเจ้าคะ ไยคนถูกทำโทษต้องเป็นฟงจินหมิง มิใช่สตรีร้ายกาจนางนั้น" จะอย่างไรเสียนางก็ยังอยากจะลงทัณฑ์สตรีนางนั้นมากกว่าฟงจินหมิง นางกำลังจะได้สานสันพันธ์กับฟงจินหมิงแท้ๆ กลับต้องอับอายกลับมา น่าขายหน้านัก!และอีกเรื่องที่นางมิอาจยอมรับก็คือใบหน้างดงามท่าทางสูงศักดิ์เหนือเสื้อผ้าอาภรณ์ของสตรีนางนั้นทั้งๆ ที่ท่านหญิงอย่างนางแต่งกายเฉิดฉายในขณะที่สตรีนางนั้นเพียงแต่งกาย
“ทหาร!” เสียงทรงอำนาจจึงสั่งการ “เอาตัวผู้นี้ไปขังคุกและอดอาหารสักหลายๆ วัน”เสียงประสานมือดังขึ้นด้านหน้าและเสียงตอบรับพร้อมเสียงก้าวเท้าฉับๆ เกิดขึ้นรวดเร็วพร้อมเพรียงฟงจินหมิงเพียงเดินตามการควบคุมตัวไปด้วยมาดเยือกเย็นงามสง่าหาได้สะทกสะท้านอันใดไม่การที่ฟงจินหมิงเดินทางเข้ามาแสดงความรับผิดชอบขอรับผิดอย่างนี้และเฉินจิ้นเหอสั่งลงโทษเพื่อชำระล้างความผิดอย่างนั้น... หนึ่ง...คือเพื่อรักษาเกียรติแลอำนาจของเฉินจิ้นเหอตามความรับผิดชอบของผู้น้อยที่ควรพึงกระทำต่อผู้ใหญ่ผู้ที่เป็นถึงชินอ๋องครองหัวเมืองหลักอันเป็นมาตรฐานการปกครองเหล่าชาวประชาหมายเป็นตัวอย่างพึงมีให้เห็น สอง...เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างบ้านฟงกับเฉินจิ้นเหอที่เป็นน้องชายต่างมารดากับซินหรูเรื่องอย่างนี้บุรุษด้วยกันย่อมเข้าใจ หากพ้นโทษออกมาเมื่อใดทุกอย่างย่อมกลับมาเหมือนเดิม สายสัมพันธ์ของชินอ๋องกับบ้านฟงก็ยังคงแน่นแฟ้นดังเดิมห้องอันรโหฐานงดงามหรูหราประดับประดาไปด้วยม่านมุ้งสีทองอร่ามไล่ระดับสีเป็นเหลืองนวลผสมผสานม่านมุ้งสีชมพูอ่อนหวานได้อย่างลงตัว "คนรักหรือ?" เจ้าของห้องอันโออ่าอุทานขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจ "แม่ไ
การแต่งงานนั้นนับเป็นเรื่องใหญ่ ฟงจินหมิงคิดว่าจะแต่งหลี่ลี่เหมยเข้าบ้านที่ต้นตระกูลยังเมืองชางอี้จึงจำเป็นต้องรอก่อนระยะเวลาหนึ่งเนื่องจากบ้านฟงยังไม่มีแผนจะกลับบ้านต้นตระกูลในเวลาอันใกล้ เพราะยังต้องการอยู่แบบพร้อมหน้าพร้อมตาและคอยสนับสนุนช่วยเหลือฟงชินหยางยังหัวเมืองแห่งนี้ไปจนกว่ารอบชายแดนของหัวเมืองแห่งนี้จักหมดปัญหารุกราน หรือก็คือรวบรวมดินแดนจนแล้วเสร็จซึ่งตามคาดการณ์คงอีกไม่นานทั้งนี้บ้านฟงยังไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของหลี่ลี่เหมยออกไปไม่ว่ากรณีใดๆ แต่หากเรื่องที่ท่านหญิงจินเยว่ชิงถูกหยามเกียรติในครานี้ไม่ยอมให้จบลงง่ายๆ หลี่ลี่เหมยย่อมต้องถูกเล่นงานในฐานะสตรีธรรมดาไร้ยศฐา แต่การที่จะกลับบ้านต้นตระกูลเพราะต้องการจะพาหลี่ลี่เหมยหลบหนีไปซ่อนตัวด้วยเรื่องหึงหวงเพียงเท่านี้ก็ย่อมไม่อาจทำ ด้วยเกรงว่าเป็นการลดเกียรติของหลี่ลี่เหมยลงไปเช่นกันเมื่อฟงจินหมิงยอมรับผิดตามตรง ทั้งหมดในบ้านฟงจึงลงความเห็นว่าให้ฟงจินหมิงเป็นคนจัดการ เขาย่อมต้องดูแลสตรีของตนไม่ว่าสาเหตุจะเกิดจากสิ่งใด ฟงจินหมิงจึงตัดสินใจเดินทางเข้าพบกับเฉินจิ้นเหอผู้เป็นชินอ๋องผู้ครองเมืองอันยิ่งใหญ่เพื่อขอรับ
นี่เขาซื้อเสื้อผ้าพวกนี้ให้นางด้วยหรือ เขาซื้อทุกอย่างให้นางจนจำได้ไม่หมดปานนี้เชียว “ท่านดูนี่” หลี่ลี่เหมยเอ่ยด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดีพลางชี้นิ้วไปที่ภาพบนกระดาษที่นางวาดเมื่อครู่ “ข้าอยากได้แบบนี้ยิ่งนัก”ชายหนุ่มหรี่ตาขมวดคิ้ว “อยากได้หรือ ครอบครัวของพี่ใหญ่เป็นมนุษย์หาใช่สิ่งของ เจ้าอยากได้พวกเขาเอาไปเก็บใส่ในตู้หรืออย่างไร” คำถามช่างยียวนหลี่ลี่เหมยถลึงตามองค้อนขวับฟงจินหมิงลอบยกยิ้มพริบตาหญิงสาวเริ่มอารมณ์ขุ่นมัวพยายามอธิบาย “ข้าหมายถึงอยากได้แบบในภาพนี้ บุรุษในภาพเป็นท่าน สตรีในภาพเป็นข้า และเด็กๆ ก็เป็นลูกๆ ของเรา” นางช่างตรงไปตรงมาชายหนุ่มถึงกับสำลักลมหายใจสตรีผู้หมายมาดคลี่ยิ้มพึงใจเมื่อกล่าวจบ พลางยกมือขึ้นกอดอกปรายสายตากดดันมาทางบุรุษผู้ถูกคัดเลือกให้เป็นพ่อของลูกนาง นี่คือวิธีการหนึ่งในการจองจำคนตัวโตบุรุษอย่างฟงจินหมิง เมื่อเจอแล้วต้องรีบผูกมัดให้แน่นประเดี๋ยวหลุดมือ หึหึ!ฟงจินหมิงถึงกับลอบถอนหายใจ ดูเถิดดูสายตานางทั้งสองเพียงยืนจ้องตากัน มองกันคล้ายหยั่งเชิงอึดใจคนตัวใหญ่จึงกล่าว “หากเจ้าอยากได้เชื้อพยัคฆ์มากนัก เจ้าก็ควรทำตัวดีๆ รู้หรือไม่”หลี่ลี่เหมยได้ยิน