“คิก คัก” ลลิตน้อยกำลังเล่นปาลูกบอลอยู่ในคอกเด็กเล่นอย่างสนุกสนานแต่หูกลับคอยเงี่ยฟังบทสนทนาที่ห่างไปไม่ไกล
“ผมต้องกราบขอโทษคุณหญิงด้วยนะครับที่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง” ลออจันทร์ยกมือไหว้ขอโทษอดีตเจ้านาย ครามรีบคุกเข่าเคียงข้างผู้เป็นภรรยาพร้อมกับรับผิดชอบร่วมกัน
“เรื่องนี้ผมเองก็มีส่วนผิดด้วยครับ ถ้าหากผมไม่ดื่มจนขาดสติเรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น”
คุณหญิงไพลินมองดูสองคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตก โบกมืออนุญาตให้ทั้งสองลุกขึ้น
“ลุกมานั่งเก้าอี้ดี ๆ เถอะ วันนี้ฉันไม่ได้จะมาต่อว่าอะไร แค่อยากมาเห็นหน้าหลานเท่านั้น”
ลออจันทร์กับครามมองหน้ากันอย่างงุนงงไม่นึกว่าเรื่องจะจบง่ายดายแบบนี้ เมื่อเห็นสายตาของคุณหญิงที่มองมาอย่างเมตตาก็ยอมลุกขึ้นมานั่งโซฟาโดยที่ครามยังคงนั่งตัวติดกันไม่ยอมห่าง
“แล้วจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร แกคงไม่อยากให้ลลิตเป็นลูกนอกสมรสอีกต่อไปใช่ไหม” หญิงวัยกลางคนเอ่ยอย่างกังวลใจ น่าเสียดายที่หลานชายที่แท้จริงของท่านต้องมาระหกระเหินอยู่ข้างนอก
“คุณแม่ไม่ต้องห่วงครับ ตอนนี้ผมกับลออจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้วครับ”ครามตอบเพื่อคลายกังวล ลออจันทร์ที่นั่งอยู่ด้านข้างหน้าแดงระเรื่อด้วยความอาย
คุณไพลินพูดไม่ออกเมื่อเห็นการแก้ปัญหาที่ฉับไวของลูกชาย ก่อนจะหันมาสนใจด้านลออจันทร์บ้าง
“ลออ เลี้ยงลูกตัวคนเดียวคงเหนื่อยมากสินะ”
“คุณหญิง ผม...”
“เรียกคุณแม่เถอะ”
“!!!!!”
ลออจันทร์ทั้งตกใจและประหลาดใจเมื่อคุณไพลินยอมโอนอ่อนให้ตน จึงหันไปสบตากับครามด้วยความดีใจ
“อะแฮ่ม ฉันเห็นแก่หลานของฉันหรอกนะ” เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้าก็นึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อย เห็นท่านเป็นคนใจยักษ์ใจมารหรือไรกัน
“แอ้ ยา ยา”ลลิตยืนเกาะรั้วมองมาทางผู้ใหญ่ด้วยสายตาน่ารักน่าชัง คุณไพลินที่เห็นท่าทางของหลานชายก็ปรี่เข้าไปเล่นด้วยทันที ไม่สนใจลูกชายลูกสะใภ้คนใหม่ของท่านอีก
“มามะ มาเล่นกับย่าดีกว่า”คุณไพลินหอมแก้มลลิตจนแก้มโย้ไปข้างหนึ่ง นึกชื่นชมลออจันทร์ที่เลี้ยงหลานของท่านออกมาได้จ้ำม่ำขนาดนี้
“ยา ยา ยา”ลลิตที่ตอนนี้คิดว่าตัวเองต้องมัดใจหญิงวัยกลางคนตรงหน้าก็ปลดปล่อยความน่ารักอย่างเต็มที่
ทีนี้ล่ะ เขาก็มีคนที่ช่วยหยุมหัวเจ้าพ่อโง่เพิ่มอีกคนแล้ว วะฮ่าฮ่า
ช่วงสายหลังหนูน้อยลลิตถึงเวลานอนกลางวัน คุณไพลินก็ขอตัวกลับไปก่อนก่อนกลับไม่ลืมย้ำให้พาหลานชายไปเที่ยวที่บ้านใหญ่บ่อย ๆ ด้วย ลออจันทร์รับปากอย่างยินดีก่อนยืนส่งคุณหญิงขึ้นรถจากไป
ครามโอบไหล่ลออจันทร์พากันเดินเข้าไปในบ้าน ก่อนจะชักชวนลออจันทร์ไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าในตอนบ่าย
ลออจันทร์ต้องการซื้อของสดมาทำอาหารจึงรับปากชายหนุ่ม พร้อมกับนั่งลิสต์รายการที่ต้องซื้อเพิ่มอย่างจริงจัง ครามยิ้มขำก่อนจะขอตัวไปจัดการงานที่คั่งค้างในห้องทำงานระหว่างรอให้ลูกชายตื่นนอน
เวลา 15.00
“ฮ้าวววว แม่ะ แม่ะ” เสียงหาววอดมาพร้อมกับเสียงเรียกของลูกชายทำให้ลออจันทร์ผละออกมาจากห้องครัว
“ลลิต ตื่นแล้วเหรอครับ มาล้างหน้ากันดีกว่านะ”
“คิก คิก”
ลลิตที่หลับไปตื่นหนึ่งรู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้น ครามที่แต่งตัวเสร็จลงมาด้านล่างจึงอาสาล้างหน้าให้ลูกน้อยและบอกให้ลออจันทร์ขึ้นไปแต่งตัว
“แอ้ แอ้” เราจะไปไหนกันเหรอ
ทารกน้อยได้แต่สงสัยก่อนที่จะโวยวายดังลั่นเมื่อครามใช้แรงเช็ดหน้าจนใบหน้าน้อย ๆ ของตนแดงเถือกไปหมด
“แอ้ แอ้” เจ้าพ่อโง่นี่จะรังแกเขาให้ได้เลยใช่ไหม
“พ่อลูกเล่นอะไรกันครับ” ลออจันทร์ที่เดินลงมาหลังจากเปลี่ยนเครื่องแต่งกายแล้ว เดินไปหาพ่อลูกที่ส่งเสียงครึกครื้น
“มา มา มา” หม่าม้าลลิตเปียกไปหมดแล้ว
ครามได้แต่ยิ้มแหยเมื่อเห็นผลงานของตน ลออจันทร์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจเมื่อเห็นสภาพเปียกปอนของพ่อลูกจึงไล่ให้ครามขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกรอบ
“แอ้ แอ้”
“โอ๋ ป๊ะป๋าเขาไม่ได้ตั้งใจให้ลูกเปียกหรอกนะครับ หนูยกโทษให้ป๊ะป๋าเถอะนะ”ลออจันทร์เห็นลลิตหน้าบึ้งตึงก็รีบกล่อมให้หนูน้อยสงบลง
ใช้เวลาไม่นานทั้งครอบครัวก็อยู่บนรถครอบครัวคันใหญ่พร้อมสำหรับเดินทาง ลลิตกอดตุ๊กตาไดโนเสาร์คู่ใจไว้ไม่ห่าง ขาป้อมกวัดแกว่งบนที่นั่งคาร์ซีทอย่างอึดอัด
“แม่ะ มา มา” หม่าม้าลลิตอึดอัด
ลออจันทร์ที่นั่งข้างหลังมองดูท่าทางอึดอัดของลูกน้อยก็ได้แต่ใจแข็งเพื่อความปลอดภัยของลูกชาย
“ลูกคงยังไม่ชินน่ะ” ครามที่รับหน้าที่เป็นคนขับรถเอ่ยกับลออจันทร์ที่นั่งด้านข้างเมื่อเห็นท่าทีพะวักพะวง
“ครับ” ลออจันทร์ได้แต่ทำใจแข็งหลบสายตาลูกน้อยเบนไปยังครามที่แม้วันนี้แต่งตัวง่าย ๆ แต่ก็ยังดูดี ใบหน้าเริ่มเห่อร้อนเมื่อมองไล่ตามแขนแกร่งไปถึงมือหนาที่จับพวงมาลัยรถก่อนจะเสหลบสายตาไปมองวิวทัศน์ด้านนอกแทน
ครามยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นท่าทางเขินอายของโอเมก้าหนุ่ม ในใจนึกไปถึงยามค่ำคืนที่ทั้งสองจะได้นอนร่วมห้องด้วยกันครั้งแรกก็อดตื่นเต้นแทบทนไม่ไหว
รถแล่นเข้าไปจอดตรงช่องสำหรับผู้บริหารทำให้อยู่ติดกับทางเข้าห้างสรรพสินค้า ครามอาสาอุ้มลลิตที่ถูกห่อตัวด้วยชุดคุณหมีขึ้นมาอุ้มเอาไว้เอง ลออจันทร์ถือรถเข็นเดินนำพ่อลูกเข้าในโซนผักผลไม้
“อูววว แม่ะ อูววว” หม่าม้าลลิตอยากกินแอปเปิ้ล
ครามรวบร่างตุ้ยนุ้ยของลูกชายที่พยายามตะเกียกตะกายไว้แน่นยิ่งผ่านโซนผลไม้สีสด ลลิตยิ่งส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอย่างตื่นเต้น
ลออจันทร์รีบซื้อของสดที่จำเป็นก่อนจะรีบเข็นรถไปทางของใช้ในครัว ครามรวบร่างลลิตไว้แน่นขณะเดินผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้ากันไม่ให้ลลิตมือซนคว้าไปเล่น
“แอ้ แอ้” แน่นไปแล้ว
“เลือกของเสร็จแล้ว เราไปทานข้าวด้านบนกันเถอะ” ครามเอ่ยบอกลออจันทร์เมื่อเห็นว่าเลือกของตามที่ต้องการไว้ในตะกร้าหมดแล้ว ก็รีบแย่งรถเข็นตรงไปยังแคชเชียร์ยื่นบัตรจ่ายเงินโดยที่ร่างบางไม่ทันทักท้วง
ครามมือหนึ่งอุ้มลูกชายอีกมือโอบร่างลออจันทร์ขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชั้นอาหารที่จองไว้ ชายหนุ่มเดินยังร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง พนักงานที่เห็นร่างสูงก็รีบเดินเข้ามาบริการทันที
“เชิญคุณครามทางนี้ครับ”
“หม่ำ หม่ำ” ลลิตที่กัดหางไดโนเสาร์อยู่กวาดสายตาสำรวจไปทั่วร้าน ได้กลิ่นหอมของอาหารท้องน้อย ๆ ก็เริ่มประท้วง
“ขออาหารสำหรับเด็กอ่อนชุดหนึ่งด้วยนะ”ครามสั่งอาหารก่อนจะกำชับเมนูของลูกชายเป็นพิเศษ ลลิตที่เริ่มหิวตบมือกับถาดอาหารน้ำลายเริ่มไหลออกมาจากมุมปาก
“อดทนแป็ปนึงนะครับคนเก่ง เดี๋ยวอาหารก็มาแล้ว” ลออจันทร์เช็ดมุมปากลูกชายด้วยผ้าอ้อมผืนเล็กรอไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟด้วยความรวดเร็ว
“หม่ำ อาาา” หิวแล้ว ลลิตหิวแล้ว
ทารกน้อยทานอาหารเสร็จอย่างรวดเร็วจากนั้นก็นั่งมองลออจันทร์กับครามนั่งทานข้าวต่อ
“คุณครามครับ คืนนี้ผมขอให้ลลิตมานอนกับเราได้ไหมครับ”ลออจันทร์รวบรวมความกล้าเอ่ยกับคนตรงหน้า
“ได้สิ” ครามชะงักไปนิดนึงก่อนจะตอบตกลงอย่างง่ายดาย ลออจันทร์ยิ้มอย่างดีใจก่อนจะทานอาหารที่ครามตักมาให้อย่างมีความสุขโดยไม่ทันสังเกตสายตาแวววับ
หึหึ คิดว่ามีลลิตมานอนด้วยแล้วพี่จะไม่กล้าทำอะไรงั้นเหรอ เด็กน้อยจริง ๆ
แทนไทเดินเข้าไปที่ห้องรับแขก วันนี้นอกจากจะมีครอบครัวเพลิงโชติเมธีแล้วยังมีครอบครัวโยธินตระกูลมาร่วมรับประทานอาหารด้วยลินินตอนนี้อยู่ในอ้อมแขนของคุณวาสินีที่ยิ้มไม่หุบตั้งแต่เข้ามา ร่างตุ้ยนุ้ยนั่งเก้าอี้คอยชวนคุณยายพูดคุยด้วยท่าทางไร้เดียงสา ครามกับปราบนั่งคุยล้อมวงกับคุณอารัญและคุณพิศาล เด็กชายคีตานั่งไถโทรศัพท์เงียบ ๆ นั่งข้างลลิตกับแทมมาลีน“อ้าว พี่จ๋าหายไปไหนมา”แทมมาลีนเอ่ยทัก เผลอละสายตาจากหมากรุกที่เขากับลลิตฟาดฟันมาหลายนาที จังหวะที่ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไม่รู้ตัวเลยว่าลลิตแอบหยิบหมากตัวเองออกไปหนึ่งตัว“ตานายแล้ว รีบเดินสิ”“เร่งทำไม เอ๊ะ ทำไมมันแปลก ๆ”“แปลกอะไร ไม่มี้” ลลิตพูดเสียงสูง ไม่มีพิรุธสักนิด แทมมาลีนที่เห็นท่าทางลลิตเป็นแบบนี้ก็กระโจนเข้าไปขยี้ผมนุ่มทันที“หน็อยแน่ ทำเป็นเนียนเลยนะ”“ปล่อยนะ นายกล้าทำกับพี่เขยแบบนี้ได้ยังไง” ลลิตเผลอตัวหลุดโพล่งออกมา
“บาดแผลสมานตัวดีมาก อย่าลืมมาพบแพทย์ตามนัดอีกสองสัปดาห์นะครับ ตอนนี้คุณหนูสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้วครับ”คุณหมอมอบรอยยิ้มให้เด็กหนุ่มตรงหน้าที่นั่งยิ้มหน้าบาน“ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ ครับ”ลลิตไหว้ขอบคุณลุงหมอเจ้าของไข้ที่คอยดูแลเขามาตลอดที่อยู่โรงพยาบาลเมื่อบอกลาคุณหมอเสร็จเจ้าตัวแสบก็ลงมายืนข้างเตียงโดยที่ไม่ต้องมีใครช่วยพยุงอีกแล้ว“...”แทนไทที่เตรียมอุ้มลลิตทำหน้าเสียดาย ช่วงหลังที่ลลิตพักฟื้นเท้าแทบไม่ติดพื้นเพราะมีครามกับแทนไทคอยอุ้มไปไหนต่อไหนตลอดถึงจะถูกลออจันทร์บ่นว่าก็ทำหูทวนลมทั้งสามีและลูกเขยวันนี้ครามติดประชุมสำคัญทำให้มารับลูกชายออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ แทนไทจึงอาสามารับแทนสร้างความประทับใจให้แก่ลออจันทร์ยิ่งไปอีก“ไปกันครับ ผมอยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว”ลลิตเดินนำหน้าลออจันทร์และแทนไทออกไปอย่างร่าเริง“ลูกคนนี้นับวันยิ่งแก่นแก้วไปทุกที” แทนไทมองลลิตที่ทำตัวร่าเริงด้วยแววตาอ่อนโยน“ดีแล้วครับ ผมชอบที่เขาเป็นแบบนี้”“หม่าม้า ล
“ตอนนี้แผลผ่าตัดของคุณหนูลลิตปกติดีครับ ไม่มีการติดเชื้อใด ๆ ผู้ป่วยสามารถลุก เดิน นั่งได้ด้วยตัวเอง หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนภายใน หมอจะทำการตัดไหมในวันที่ 7 พร้อมกลับบ้านในวันเดียวกันได้เลยครับ”ครามและลออจันทร์นั่งฟังคำวินิจฉัยของแพทย์ด้วยความดีใจ“คุณหมอหมายความว่า ลลิตหายแล้วใช่ไหมครับ” ลออจันทร์ถามย้ำอย่างตื่นเต้น“ครับ ตอนนี้คุณหนูลลิตปลอดภัยแล้วครับแต่ยังต้องทานยาและมาพบแพทย์ตามนัดด้วยนะครับ”“ขอบคุณครับหมอ” ครามโค้งตัวขอบคุณคุณหมอที่ช่วยชีวิตลูกชายของเขาไว้“ไม่เป็นไรครับ เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว”คุณหมอนพ เจ้าของคนไข้นึกชื่นชมเจ้าของโรงพยาบาลตรงหน้าที่ไม่ถือตน เมื่อได้เวลาที่ต้องไปตรวจคนไข้ก็ขอตัวออกไปก่อน ลออจันทร์ลูบกลุ่มผมนุ่มของคนที่ยังหลับใหล“ลลิตปลอดภัยแล้วนะครับ”“รีบตื่นมาฟังข่าวดีได้แล้ว เจ้าตัวยุ่ง” เหมือนลลิตรู้ตัวว่าหม่าม้ากำลังพูดกับตน ร่างบางส่งเสียงพึมพำออกมาอย่าง
ครามที่สองมือหอบข้าวของของภรรยาและลูกชายมาเต็มสองมือไม่ยอมให้ป้าจิตช่วยถือเดินเข้าโรงพยาบาลมาพร้อมกับคุณไพลินและคุณพิศาลที่เดินหน้าเครียดสร้างความตื่นตกใจให้แก่บุคลากรของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก“พี่คราม ผมได้ยินข่าวของลลิตแล้ว หลานของผมเป็นยังไงบ้างครับ” หมอกันต์ที่ออกไปสัมมนาข้างนอกวิ่งเข้ามาเจอครอบครัวของญาติผู้พี่พอดีถามเสียงลั่นไม่นะ หลานชายที่น่ารักของเขาทำไมต้องโชคร้ายขนาดนี้ด้วย“ตอนนี้ลลิตยังปลอดภัย แกก็อย่าตื่นตระหนกไปมากกว่านี้ได้ไหม กว่าฉันจะปลอบคุณแม่ให้สงบลงต้องใช้เวลาแค่ไหน”ครามกระซิบบอกน้องชายเสียงเบา สายตาคอยมองคุณไพลินที่เดินนำหน้าด้วยความเป็นห่วง“แหะ แหะ เข้าใจแล้วครับ” หมอกันต์แย่งตุ๊กตาไดโนเสาร์สีเหลืองที่ผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน&
“ป๊ะป๋าตื่นสาย”ลลิตพูดลอย ๆ เมื่อเห็นครามอุ้มลินินเดินลงมาจากชั้นบน ตอนนี้เขากับคีตากำลังกินข้าวเช้าที่ป้าจิตเป็นคนทำให้ คีตาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เกี่ยวกับแผนการของพี่ชายนั่งตักข้าวต้มกินต่อไป “วันนี้วันหยุด ป๊ะป๋าก็อยากตื่นสายบ้าง หม่าม้าก็ชอบตื่นสายเหมือนป๊ะป๋านะ” ครามตอบโต้ลูกชายด้วยการยกหม่าม้าของเจ้าตัวขึ้นมาอ้าง ลลิตหน้าบูดเมื่อพูดอะไรไปเจ้าพ่อบ้ากามก็ไม่สะทกสะท้านจึงนั่งจ้วงข้าวต้มเข้าปากคำโต “มาค่ะ ลินินเดี๋ยวพ่อป้อนหนูนะคะ” “อื้อ ไม่เอาค่ะ หนูอยากกิงเอง ลินินโตแย้วนะ” เด็กหญิงบอกว่าตัวเองโตแล้ว ครามได้แต่นั่งลงทานข้าวแต่โดยดี “เด็ก ๆ ทานข้าวเสร็จหรือยังครับ”ลออจันทร์ที่แต่งตัวเรียบร้อยเดินมาหาลูกชายลูกสาวก่อนจะไล่หอมหัวคนละหนึ่งที&nbs
"แล้วนายจะกลับอิตาลีเลยหรือเปล่า”ลลิตถามอัยวาขณะที่ทั้งสองอยู่ในลิฟต์ ครามอยากตามลงมาด้วยแต่ถูกเตวิชขวางไว้เสียก่อนจึงได้แต่มองลูกชายและอดีตลูกชายเดินออกไปตาละห้อย “คงต้องกลับเลย ฉันลาหยุดได้แค่ไม่กี่วัน” ราฟาเอลก็ทิ้งการเรียนตามเขามาด้วย อัยวาไม่อยากให้แฟนตัวเองถูกไล่ออกจึงต้องรีบกลับไป“ฉันอยากแวะไปหาคุณยายกับคุณตานะแต่ฉันไปตามที่อยู่เดิมกลับมีคนอื่นเข้ามาอาศัยอยู่แล้ว” อัยวาพูดด้วยน้ำเสียงจนใจ ลลิตได้แต่เห็นใจเรื่องของครอบครัวอัยวาเขาคงไปยุ่งมากไม่ได้โอเมก้าสองคนเดินไปยังร้านกาแฟของลออจันทร์ ทันทีที่ลลิตเปิดประตูเข้าไปก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นอัลฟ่าสองคนนั่งจ้องหน้ากันโดยมีน้องคีย์นั่งทำการบ้านด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ“พี่ลลิตมาแย้ว”ลินินที่นั่งอยู่บนตักแทนไทดิ้นลงวิ่งมาหาพี่ชาย“ลินินมาได้ไงครับ” ลลิตถามด้วยความแปลกใจ นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนนี่นา“วันนี้โยงเยียนเล