"แต่นี่มันเป็นคำสั่งจากหัวหน้าแผนก ถ้าเธอไม่เต็มใจทำก็ยื่นใบลาออกไปสิ"
"พี่เพ็ญคะ พี่จะใช้ตำแหน่งกดดันลูกน้องแบบนี้ไม่ได้นะ" เธอจะตกงานตอนนี้ไม่ได้ เพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก แทบจะเดือนชนเดือนอยู่แล้ว
"แล้วเขาจะมีหัวหน้าไว้ทำไม ถ้าลูกน้องจะไม่ทำตามคำสั่ง"
"ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ชมขอให้มันจบลงแค่นี้ได้ไหมคะ ส่วนเรื่องผลงาน"
"อะไรนะ! เธอยังคิดว่าฉันแอบเอาผลงานเธออยู่งั้นเหรอ"
"พี่ช่วยฟังฉันให้จบก่อนได้ไหม"
"พูดมาสิ"
"ทุกเรื่องฉันจะปล่อยผ่านไป ขอแค่พี่อย่าทำแบบนี้กับฉันเลย"
"ฉันทำอะไรเธอ? เธอหาว่าฉันแกล้งเธองั้นเหรอ"
คนมันจะหาเรื่อง ก็วนกลับมาที่เดิมอยู่แล้ว ถ้าขอย้ายแผนกตอนนี้คงเกิดปัญหาแน่ เพราะคนอื่นคงคิดว่าเธอกับหัวหน้าไม่ลงรอยกัน แล้วแผนกไหนอยากจะรับเธอล่ะ
ชมจันทร์ก็เลยพยายามคิดหาวิธีอื่น ..ไม่นะเราอย่าคิดแบบนั้นสิ มีความคิดวูบหนึ่งขึ้นมาในหัว คือเธอคิดถึงคำพูดของชาคริต เรื่องที่บอกว่าจะช่วยค่าใช้จ่ายของแม่
"เดี๋ยวฉันจะส่งรายละเอียดให้เธอดู ว่าต้องไปทำการตลาดที่จังหวัดไหน"
"ฉันไปไม่ได้ เพราะฉันมีคนต้องดูแลที่นี่"
"เธอมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยเหรอว่าจะไปหรือไม่ไป"
"พี่เพ็ญคะ.." เห็นสายตาเพ็ญพักตร์แล้ว ชมจันทร์ถึงกับพูดต่อไม่ได้ เพราะสายตานั้นจ้องแต่จะหาเรื่อง ถึงแม้เธอคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนก็คงไม่เห็นใจแน่ แล้วเราจะทำยังไง ต้องออกจากงานงั้นเหรอ
"ออกไปเคลียร์งานที่ทำอยู่ให้เสร็จ"
ชมจันทร์หันหลังแล้วเดินออกจากห้องหัวหน้ามา วุฒิการศึกษาที่มีอยู่จะไปสมัครบริษัทไหนได้ ถ้าบริษัทนี้ไม่เห็นในความสามารถพิเศษของเธอ เธอก็คงไม่ได้เข้าทำงานที่นี่
"มีอะไรหรือเปล่าชม" เพื่อนทั้งสองรีบเข้ามาถามเมื่อเห็นว่าชมจันทร์ออกมาจากห้องนั้นแล้ว
"ฉันจะทำยังไงดี"
"ทำไมเหรอ"
"หัวหน้าจะให้ฉันออกไปทำการตลาด"
"อะไรนะ? มันไม่ใช่หน้าที่ของเราสักหน่อย"
"ก็คนมันจ้องจะหาเรื่องไงเธอไม่รู้หรือ" วิเวียร์กระซิบพูดกับอันนา
"ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วแม่ของเธอล่ะ"
"ฉันคงไปไม่ได้หรอก"
"แล้วมีหนทางอื่นไหม"
"มีสิ"
"ถ้างั้นก็เลือกอีกทางหนึ่งสิ"
"แล้วอีกทางคืออะไร" ทั้งอันนาและวิเวียร์ต่างก็เปลี่ยนกันถาม
"ลาออก"
เที่ยงวันเดียวกัน..
"ชม!"
อึบ! เพื่อนที่เดินตามหลังมาเรียกชมจันทร์ไว้ไม่ทัน เพราะเธอมัวแต่เดินเหม่อลอยจนชนเข้ากับใครบางคน
"คุณเป็นอะไรไหมคะ" อันนาและวิเวียร์จำได้ในทันทีว่าชมจันทร์ชนเข้ากับใครก็เลยรีบเข้าไปช่วย
"ขอโทษค่ะ" ชมจันทร์รีบกล่าวคำขอโทษก่อนที่จะหยิบกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงที่เธอชนจนตกลงพื้น ส่งให้กับเจ้าของ
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันก็เดินไม่ดูเหมือนกัน"
"ดูไกลๆ ว่าสวยแล้ว ดูใกล้ๆ ยิ่งสวย" วิเวียร์กระซิบพูดกับอันนา
"แล้วคุณเป็นอะไรไหมคะ" เธอคนที่ถูกชนถามชมจันทร์คืนบ้าง
"ฉันอึดถึกทนไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ"
"ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ พวกคุณจะไปทานข้าวเหรอคะ"
"ใช่ค่ะ"
"มีอะไรเหรอเพลงพิณ" จังหวะที่ชมจันทร์กำลังจะเดินไปก็ได้ยินเสียงนี้ดังขึ้นมาก่อน
"ไม่มีอะไรค่ะ แล้วทำไมถึงลงมาช้าจังล่ะคะ"
"คุณน่าจะรอลงมาพร้อมผม"
"คุณ?" เพลงพิณแปลกใจ เพราะผู้ชายคนนี้ไม่เคยใช้สรรพนามว่าคุณกับเธอเลย
"ไปกันครับ" ว่าแล้วฝ่ายชายก็โอบเอวผู้หญิงคนที่ชมจันทร์ชน แล้วเดินผ่านหน้าของชมจันทร์กับเพื่อนๆ ไป
"แล้วนี่ฉันต้องอกหักวันละกี่ครั้งเนี่ย"
"ทำไมเธอต้องอกหักด้วย ไม่ได้เป็นแฟนกับเขาสักหน่อย"
"ก็เห็นภาพบาดตาบาดใจแบบนี้ทุกวัน มันต่างอะไรกับคนอกหักล่ะ"
"พวกเธอหมายความว่ายังไง?" ชมจันทร์รู้แล้วว่าคนสำคัญที่เขาพูดถึงเมื่อวานนี้คือใคร แต่ที่เธอไม่เข้าใจว่าเพื่อนๆ กำลังพูดอะไรกัน
"ฉันลืมเลยว่าเธอยังไม่รู้..ผู้ชายคนที่หล่อๆ เมื่อสักครู่ชื่อคุณทัพไท เป็นผู้บริหารคนใหม่ของบริษัทเรา"
แทนที่ชมจันทร์จะมองตามหลังเขาไป แต่เธอกลับยืนตัวแข็งทื่อ นี่เธอกำลังพบเจอกับอะไรอยู่
ลวงรักแฟนเก่า บทที่ 108🔞 ตอนจบงานแต่งวันนี้พายุจัดได้ใหญ่โตมาก เทียบเท่ากับงานของทศนได้เลย เพราะเขาไม่อยากให้เธอน้อยหน้าใคร แถมเจ้าสาวไม่ต้องลงแรงทำอะไรเลยแค่รอรับการเซอร์ไพรส์จากเขาเท่านั้นพอ"ผมรักคุณ" ชายหนุ่มล้วงเอาแหวนเพชรที่เตรียมมาให้กับเธอออกมาเพื่อจะสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายคะน้ายื่นมือข้างซ้ายไปให้เขาได้สวมใส่"ถอดออกก่อนดีกว่าไหมครับ" ตรงนิ้วนางข้างซ้ายยังมีแหวนทองที่เขาขอหมั้นเธอ"ไม่ค่ะ สวมด้วยกันเลย" มันเป็นแหวนที่เขาให้คะน้าก็เลยไม่อยากจะถอดมันออกพายุก็เลยสวมแหวนเพชรเข้าไปนิ้วเดียวกับแหวนทอง วงที่ให้เธอก่อนหน้านั้นพอสวมแหวนเสร็จเสียงปรบมือก็ดังขึ้น "จูบเลย จูบเลย" กองเชียร์หลายคนต่างก็เชียร์ให้คู่บ่าวสาวแสดงความรักให้กับแขกได้เห็นมือหนาถูกยกขึ้นมาบังในขณะที่จูบปากเธออยู่ เพื่อไม่ให้มันเป็นภาพโจ่งแจ้งเกินไปสาวๆ ต่างก็กรี๊ดกันสนั่น เพราะมันเป็นฉากที่ฟินมาก ไม่เคยมีใครทำแบบนี้ เพราะนั่นหมายถึงเขาให้เกียรติเจ้าสาวมากพอพายุปล่อยจูบออกสายตาคนเป็นเจ้าสาวยังคงจับจ้องที่ใบหน้าเจ้าบ่าวของเธอ"คะน้าขอโทษด้วยนะคะ""คุณขอโทษผมทำไม""ขอโทษเรื่องที่พ่อกับแม่ไม่ได้มาร่วมงานนี้ด้วย"
"แน่ใจนะว่านี่ชุดกินเลี้ยง?" คะน้าแปลกใจตั้งแต่ที่มุกงามเลือกชุดให้ลองใส่ดูแล้ว"รับชุดนี้แหละค่ะสวยดี" มุกงามไม่ได้ตอบคะน้าหรอกแต่หันไปพูดกับเจ้าของร้าน"เดี๋ยวก่อนนะงาม..""ไม่เดี๋ยวแล้วเอาชุดนี้แหละ" มุกงามก็เลยยื่นบัตรเครดิตไปให้เจ้าของร้านรูด แต่บัตรที่มุกงามให้ไปไม่ใช่ของตัวเองหรอก เป็นของใครบางคนที่วานให้เธอทำงานนี้ให้"คะน้าจ่ายเองก็ได้" คะน้าพูดแบบเกรงใจก่อนที่จะรับชุดจากเจ้าของร้านมา"กลับกัน"คะน้าเดินตามมุกงามออกมา ทำไมวันนี้เพื่อนดูแปลกๆ ถามอย่างก็ตอบอย่าง[บ้านพักข้าราชการ]"พวกเขาไม่อยู่เหรอ" เข้ามาในบ้านก็ไม่เจอทั้งพายุและทศน ทั้งๆ ที่พวกเขายังอยู่ในช่วงลาพัก"คงออกไปธุระเราไม่ต้องรอหรอก" มุกงามเป็นคนตอบคะน้าขอตัวเอาของเข้าไปเก็บในห้อง และเธอก็อดโทรถามไม่ได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนทำไมโทรศัพท์ถึงไม่เปิด ..แต่โทรไปก็ไม่มีสัญญาณเลยค่ำมืดวันเดียวกัน.."อุ๊ย" ลงจากรถก็เห็นคะน้ายืนเท้าสะเอวอยู่หน้าประตู"ตัวใครตัวมันนะเว้ย" ทศนกระซิบพูดกับพายุก่อนที่จะเดินผ่านคะน้าเข้าไปในบ้าน"ผมไปทำธุระมาครับ""แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ล่ะคะ""สงสัยว่าแบตผมจะหมดแน่เลย" พายุทำทีเป็นล้วงโทรศั
พอได้ยินยอดเงินที่แม่ขอจากเขาแล้วมือเรียวก็เอื้อมไปขอโทรศัพท์คืนไม่อยากให้เขาคุยต่อแล้ว {"ถ้าไม่มีเงินสินสอดถึงหนึ่งล้านบาท ก็อย่ามาคุยกับลูกสาวของฉัน"} เสียงนี้ยังดังเล็ดลอดออกมา"แม่หยุดนะ" พายุไม่ยอมส่งโทรศัพท์คืนให้ เธอก็เลยต้องร้องบอกให้แม่หยุดพูดก่อน>>{"ได้ครับ ผมให้คุณสองล้านเลย ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับคะน้าอีก"}"มันพูดเล่นหรือพูดจริงวะ" เสียงผู้ชายดังเข้ามาในสาย และคะน้าก็จำได้ว่ามันเป็นเสียงของพ่อ"ผู้พันคะ" คะน้าเรียกเขาให้หันกลับมามองเธอก่อน พอเขาหันกลับมาเธอก็ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณบอกว่าอย่าไปคุยเรื่องเงินกับพ่อกับแม่"เอามาเดี๋ยวกูพูดเอง" เสียงผู้ชายที่ดังมาตามสายยังคงพูดต่อ เหมือนว่ากำลังแย่งโทรศัพท์กันคุย"ไม่ต้องมายุ่งนะนี่ลูกสาวฉัน!""อ้าวอีนี่ลูกมึงก็ลูกกูเหมือนกัน">>{"ผมอยากให้พวกคุณตกลงกันให้รู้เรื่องก่อนค่อยโทรกลับมาแค่นี้นะครับ"} {"อย่าเพิ่งสิคุณ"} พอได้ยินว่าทางฝั่งนี้จะวางสายทางนั้นก็รีบเรียกเอาไว้ก่อน>>{"ถ้าจะตกลงอะไรก็ต้องคิดให้ดีก่อน เพราะพวกคุณกำลังคุยกับข้าราชการระดับสูง จะผิดคำพูดไม่ได้"} {"ได้ๆ แม่ตกลง ถ้าได้เงินสองล้านบาทจริงแม
ลวงรักแฟนเก่า บทที่ 105🔞"คิดถึงคุณจังเลย" พอเข้ามาในห้องนอนลับตาเพื่อนเท่านั้นแหละ พายุก็คว้าร่างของเธอเข้ามากอดไว้แน่น"คะน้าก็คิดถึงคุณค่ะ" ใบหน้างามแนบลงแผ่นอกของชายคนรักเบาๆแต่กอดกันอยู่เพียงไม่นานเขาก็โน้มลงมาขอจูบหญิงสาวยื่นริมฝีปากขึ้นไปรับจูบนั้นแบบรู้งานเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ค่อยๆ ถูกปลดกระดุมออกโดยการช่วยกันคนละไม้ละมือ"ซี๊ดด ขอก่อนนะแล้วค่อยออกไปอาบน้ำกัน""ค่ะ อืออ" เนินอวบถูกของแข็งที่เขา จับถูไถอยู่เมื่อสักครู่สอดใส่เข้ามา ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ต้องการสิ่งนี้..เธอก็ต้องการมันเหมือนกันขาเรียวค่อยๆ แยกออกจากกันเองแบบไม่ต้องให้เขาใช้แรง แต่พายุก็ช่วยจับเพราะเธอไม่มีที่ยึดเหนี่ยว"เบาๆ นะคะ""ครับ" ใบหน้าคลอเคลียร์ฝังจูบลงซอกคอของหญิงอันเป็นที่รักเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ขยับ ดันสะโพกนั้นเข้าไปช่องกลางระหว่างขาเรียว "ไปที่เตียงดีไหมครับ"คะน้าส่ายหน้าตอบไป เขาคงอยากได้ในท่ายืนแต่คงกลัวว่าเธอจะเมื่อยขา"ซี๊ดด น่ารักจัง" ริมฝีปากหนาพรมจูบและสูดดมกลิ่นกายอันหอมละมุนพร้อมกับดันสะโพกเข้ามา"อ่ะ อ่ะ อื้อ" คนตัวเล็กเกาะร่างแกร่งไว้แน่น เพียงไม่นานพายุก็พาเธอมานอนลงที่เตียง เพราะตอนกระ
"ใครนั่งฮ.มาลงที่นี่" จากที่กำลังจะเม้าท์เรื่องของผู้พันคะน้า ตอนนี้เปลี่ยนมาพูดถึงเฮลิคอปเตอร์ที่เพิ่งจะลงจอด"ใครจะรู้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เรือกลางทะเลก็ต้องเป็นท่านๆ นั่นแหละ" เรือกลางทะเลหมายถึงทหารที่ออกทำภารกิจอยู่บนเรือ ถ้ามีเหตุด่วนฉุกเฉินสามารถขอกลับฝั่งได้โดยเฮลิคอปเตอร์ แต่นั่นต้องผ่านการเซ็นต์ยินยอมจากคนที่มีอำนาจถือว่าเฮลิคอปเตอร์มาช่วยชีวิตแล้วกัน คะน้าไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องของตัวเองอยู่แล้ว ดีไปที่ขาเม้าท์มีเรื่องอื่นพูดคุยกันหญิงสาวนั่งทำงานจนถึงช่วงเย็นของวันเดียวกัน เธอก็รีบเก็บของแล้วกลับลงมาเพราะรู้สึกวิงเวียนศีรษะหนักมาก"?!?" ขาเรียวเก้าลงมาถึงขั้นสุดท้ายของบันได สายตามองไปเห็นผู้ชายที่ถือช่อดอกไม้ยืนอยู่เบื้องหน้า นี่เราคิดถึงเขามากเลยเหรอมองเห็นแสงตะวันที่สาดส่องมาเป็นเขาได้ยังไงเพื่อนๆ หลายคนที่ทยอยลงมาจากชั้นบนต่างก็หยุดไปตามๆ กัน ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่มีอะไรพิเศษก็คงทำให้คนอื่นหยุดมองไม่ได้ แต่นี่เขาถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่มาก จนเป็นเป้าสายตาของทุกคนที่อยู่แถวนั้น"......" ชายหนุ่มที่ยืนหอบช่อดอกไม้ช่อใหญ่อยู่แปลกใจ ทำไมเธอถึงทำเหมือนว่าคนที่ยืนอยู่ตร
"ฉันมาขอพบคุณพ่อค่ะ" ไม่มีใครไม่รู้จักเธอในฐานะลูกสะใภ้ของท่านนายพลทศกัณฐ์"เชิญผู้พันได้เลยครับ" ทหารที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเคาะส่งสัญญาณบอกท่านเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดประตูห้องให้"ว่าไงเรา" ทศกัณฐ์ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วชวนให้ลูกสะใภ้มานั่งอีกมุมหนึ่งซึ่งเป็นมุมรับแขก"งามมีเรื่องจะมาขอร้องคุณพ่อค่ะ""มีเรื่องจะมาขอร้อง เรื่องอะไร""คือว่า..." มุกงามทนเห็นเพื่อนอุ้มท้องโดยไม่มีพ่อไม่ได้แล้ว เธอต้องรีบจัดการเรื่องทุกอย่างก่อนที่ท้องของคะน้าจะโตขึ้นมา ถึงแม้ทั้งสองจะไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กัน แต่ความคิดของมุกงามก็ไม่ได้ต่างจากคะน้าเลย ถ้าท้องของคะน้าโตขึ้นมาโดยที่ยังไม่แต่งงาน ยิ่งเธอเป็นข้าราชการด้วยแล้ว มันก็จะดูไม่ดีบางทีอาจจะถูกตรวจสอบเลยก็ได้[บนเรือ] เวลาผ่านไปเพียงไม่นานจากตอนที่มุกงามขอเข้าพบพ่อของสามี ก็ได้มีทหารที่ทำงานในห้องสื่อสารมาตามผู้พันพายุไปรับโทรศัพท์ถ้ามีคนโทรขึ้นมาบนเรือแบบนี้ทหารจะตกใจมาก เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนและคนที่โทรเข้ามาไม่ใหญ่พอตัวก็ไม่สามารถที่จะทำแบบนี้ได้ ที่ตกใจส่วนมากคนที่ได้รับโทรศัพท์ มีแค่ไม่กี่เรื่องถ้าญาติไม่ป่วยหนักก็คือญาติเสีย"มันคงไม่มีอะไรหรอก ไ