공유

Chapter 8. ตื่นตกใจ

last update 최신 업데이트: 2024-06-20 21:55:49

 ซินหรานเก็บอาการตื่นตกใจซ่อนไว้ด้วยท่าทีนิ่งเฉย บรรดาคนสนิทที่มาพร้อมกับ  จางเย่วผิงค้อมตัวแล้วถอยออกไปอย่างเงียบเฉียบ บ่าวรับใช้ผู้อื่นนำสุราอาหารมาวางไว้แล้วถอยออกไป ในห้องจึงเหลือเพียงแค่เหิงหยางเซิง จางเย่วถิงและซินหราน

            นางกลอกตามองไปยังเหิงหยางเซิง เมื่อไม่เห็นท่านจอมมารมีปฏิกิริยาใด นางจึงได้แต่ก้มหน้ายกกาสุรารินใส่จอก แต่จอกสุราหยกยังไม่ทันถูกยื่นไปใส่มือของจางเย่วถิง ซินหรานก็รู้สึกถึงแรงกระแทกจนทำให้จอกสุราตกลงพื้น นางได้แต่กระพริบตาปริบๆ กว่ารู้สึกตัวข้อมือของนางก็ถูกคว้าไว้กระชากอย่างแรงจนนางลุกขึ้นจากเก้าอี้ข้างจางเย่วถิง

            “นายท่าน” ซินหรานเอ่ยเสียงเบา รู้สึกเจ็บข้อมือแต่ไม่กล้าร้องโอดครวญออกไป

            “ระวังหน่อยท่านจอมมาร กระดูกนางเปราะบางนัก ประเดี๋ยวแตกหักขึ้นมาจะลำบากรักษา” จางเย่วถิงยกกาสุราขึ้นแหงนหน้าแล้วกรอกสุราลงคอตนเอง

            “เจ้าอยากเห็นหน้านาง เจ้าก็ได้เห็นแล้วนี่”

            จางเย่วถิงทำเสียงจิ๊กจั๊กในลำคอ แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่เปรอะสุรา ดวงตาเป็นประกายยั่วล้อแล้วยื่นหน้าไปทางเหิงหยางเซิง

            “ข้าไม่ได้อยากเห็นหน้านาง ข้าอยากได้กลิ่นนางต่างหาก”

            ‘กลิ่น’

            ซินหรานตัวเกร็งขึ้นมาทันที นางหันไปมองเจ้าของมือที่บีบข้อมือของนางอยู่ นางเห็นแววตาของเขามีกรุ่นไอโทสะแผ่กระจายออกมาทำให้นางรีบก้มหน้าลง

            นางตัวเหม็นรึ?

            “จางเย่วถิง” เซิงหรานเซิงเอ่ยเสียงเย็น ทั้งที่รอบกายแผ่ไอร้อนออกมาจนคนไร้วรยุทธ์อย่างซินหรานเหงื่อซึมออกมา

            “หือ?” นางส่งยิ้มยียวนไม่เกรงไอโทสะผสานปราณสังหารที่แผ่นกระจายอยู่ในห้องนี้

            “ที่บ้านเจ้าไม่มีบุรุษถอนพิษให้หรือไร”

            “บุรุษน่ะมี” จางเย่วถิงหัวเราะร่า “แต่บุรุษที่มีลมปราณสูงส่งเช่นเจ้าหาได้ยากยิ่ง”

            เหิงหยางเซิงเสียงเสียงรำคาญในลำคอ สะบัดข้อมือที่จับมือเล็กทำให้ร่างเล็กๆ ของซินหรานกระเด็นออกห่างไปหลายก้าว แต่ยังดีที่นางทรงตัวได้ไม่ล้มลงให้ดูน่าอับอาย

            “ออกไป!”

            “เจ้าค่ะ” ซินหรานเก็บอาการหวาดกลัวของตนได้มิดชิด รีบก้าวออกไปทันที ทว่ายังไม่ทันถึงประตูก็ได้ยินเสียงจางเยว่ถิงร้องเรียกขึ้นก่อน นางจึนหันกลับมาอีกครั้ง

            “ซินหราน ปีนี้เจ้าอายุสิบหกแล้ว มิสู้ให้ข้าสอนเรื่องที่สตรีควรรู้ดีหรือไม่”

            “เรื่อง... เรื่อง...ที่สตรี...ควรรู้?” 

            “จางเย่วถิง!”

            ซินหรานอ้าปากกว้าง มือใหญ่กวาดสุราอาหารบนโต๊ะลงพื้น และเพียงพริบตาร่างของจางเย่วถิงก็ถูกเหวี่ยงขึ้นมานอนหงายบนโต๊ะนั้นแทน มือใหญ่กระชากเสื้อผ้าของนางออกอย่างรวดเร็วและไม่ไยดีว่าอาภรณ์สีแดงเลือดนกจะกลายเศษผ้าปลิวในห้อง ราวกับกลีบดอกไม้สีแดงที่ปลิดปลิว

            หญิงสาวรู้ในทันทีว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น นางรีบหมุนตัวเดินออกไปอย่างรวดเร็วจนแทบสะดุ้งเท้าตัวเองหกล้ม นางเดินออกไปพ้นประตูได้ มือเล็กปิดบานประตูลงแล้วแต่ยังสั่นอยู่ เสียงครางกระเส่าจากในห้องดังออกมาด้านนอกทำให้นางรีบยกมือออกจากบานประตู ราวกับสัมผัสของร้อน ใบหน้าที่หมดจดแดงจัดและหวาดกลัวผสมปนเปกัน ทว่านางรีบหมุนตัวเดินออกมาไม่หันหลังกลับไปมอง

            มือกร้านจากการจับกระบี่จับเรียวขาที่ไร้สิ่งใดปกปิดให้อ้าออกกว้างแล้วจับแก่นกายแข็งแกร่งของตนแทรกลงไปอย่างรวดเร็ว รุนแรงและดุดัน

            “อ๊า เจ้า!” จางเย่วถิงได้แต่ครางเสียงหลงเมื่อถูกกระแทกเข้ามาอย่างแรงจนจุก

            “อย่ารบกวนสมาธิ ข้ากำลังถอนพิษร้อยชายให้อยู่” จอมมารประมุขพรรคเพลิงอัคนีแสยะยิ้มที่มุมปาก แก่นกายแห่งความเป็นบุรุษถูกโอบรัดแน่นเขาขยับสะโพกถอนตัวเองออกมาจนเกือบสุดแล้วกระแทกลงไปอีกครั้งจนร่างเปลือยเปล่านั้นโยกไปด้านหน้า

            มือเรียวเกาะลำแขนที่จับเอวของนางไว้มั่นเพื่อรองรับการกระแทกกระทั้นอย่างไม่ปรานี ทว่าในความร้อนรุ่มและเหงื่อกาฬที่ไหลออกจากทุกอณูขุมขนทำให้นางทั้งรู้สึกสบายตัวและเสียวซ่านไปพร้อมกัน สะโพกสอบขยับเคลื่อนไหวลึกล้ำ รุนแรงและถี่กระชั้นแต่กระนั้นบุรุษผู้นั้นยังไม่มีอาการเหนื่อยหอบ ลมหายใจยังคงปกติ มีเพียงแววตาที่เปล่งประกายดุจย้อมด้วยโลหิต

            สามปีก่อนจางเย่วถิงพลาดท่าต้องพิษร้อยชาย นางต้องเสพสังวาสกับบุรุษเพื่อบรรเทาความทุรนทุราย แต่ในรอบปีจะมีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่ร่างกายมีความต้องการมากล้น บุรุษมากมายเพียงใดก็ไม่อาจทำให้นางอิ่มเอม หิวโหยและคลุ้มคลั่ง นางจำเป็นต้องเสพสังวาสกับบุรุษที่มีลมปราณแข็งแกร่งจึงจะบรรเทาความเจ็บปวดทุกข์ทรมานนี้ได้

            ร่างเปลือยเปล่าเกร็งกระตุกไปแล้ว แต่บุรุษผู้นั้นพลิกร่างเปลือยให้นอนคว่ำไปกับโต๊ะแล้วเริ่มกระแทกแก่นกายแข็งแกร่งลงไปอีกครั้ง

            ดวงตาดุจย้อมโลหิตจองมองแผ่นหลังเปลือยเปล่านั่น พลันเขาคิดถึงร่างเล็กที่อยู่ใต้ร่างของเขาเมื่อคืน แม้เพียงเมื่อครู่ที่เขาใช้พลังเล็กน้อยทำจอกเหล้าในมือนางหลุดมือ หากเขาออกแรงมากกว่านั้นนิดเดียว กระดูกข้อมือของนางคงแตกไปแล้ว

            นางคงไม่รู้ตัวเลยสักนิด ซินหรานมีกลิ่นกายหอมจาง นางมีกลิ่นบริสุทธิ์ดุจดอกไม้ป่าและยามนี้นางยังมีกลิ่นสาวพรหมจรรย์แจ่มชัด กลิ่นนางรบกวนสมาธิของเขามากนัก ไม่ว่าจะเสพสังวาสกับหญิงงามนางใด ไม่อาจสลัดกลิ่นกายของนางออกไปจากปอดของเขาได้เลย!

            หญิงสาวไม่รู้ว่าตนเองทำอะไรผิด แม้สงสัยอย่างไรก็ไม่กล้าปริปากเอ่ยถามใครทั้งสิ้น พ่อบ้านจูโหย่งเจาถ่ายทอดคำสั่งของท่านจอมมาร สั่งให้นางนอนในห้องเก็บฟืน 

            เพราะเป็นคำสั่งจากจอมมารเหิงหยางเซิงจึงไม่มีใครกล้าเอ่ยปากขอความเมตตาให้นาง แม้แต่อู่ยินและอู่ชิง ส่วนอู่เฉียงนั้นแม้ไม่พูดอะไรออกมาแต่สีหน้าของเขามีความเคร่งเครียดไม่น้อย ซินหรานยิ้มกว้างยื่นมือไปแตะไหล่ของเขาแล้วส่ายหน้าไปมา

            “มิใช่ครั้งแรกที่ข้าไปนอนห้องเก็บฟืนเสียหน่อย” นางหัวเราะร่า “มาเถิด ข้าเตรียมเสบียงอาหารแห้งไว้ให้พี่อู่เฉียง ไม่รู้ว่าเดินทางครั้งนี้พี่อู่เฉียงจะไปกี่เดือนกัน”

            เสียงถอนหายใจหนักหน่วงดังขึ้นก่อนเอ่ยตอบ “สี่เดือน”

            ซินหรานพยักหน้ารับรู้ “เช่นนั้นพี่อู่เฉียงคงกลับมาทันปีใหม่”

            “ฮืม” อู่เฉียงไม่รู้เหตุใดนางจึงยังยิ้ม ทั้งที่คืนนี้ตัวนางเองต้องไปนอนในห้องเก็บฟืนที่ทั้งอับชื้นและหนาวเย็นนั้นด้วย

            “หัวหน้าพรรคกระเรียนแดงอยู่ที่นี่แค่สามวัน แต่อย่างไรเจ้าระวังตัวด้วย”

            ซินหรานหัวเราะเสียงใส มือเรียวตบไหล่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแกร่งที่ปกป้องนางมาตั้งแต่เด็ก วงแขนนี้ที่อุ้มนางออกมาจากค่ำคืนที่แสนโหดร้าย

            “นางไม่ได้ทำอะไรข้าเสียหน่อย เป็นข้าที่ตกใจไปเอง” ใบหน้าหวานแดงระเรื่อขึ้นมา บางทีการที่ท่านจอมมารสั่งนางให้ไปอยู่ไกลๆ ไม่ต้องเข้ามารับใช้ในช่วงนี้เพราะแม่นางจางเย่วถิงอยู่กับท่านจอมมาร

            ใบหน้าอ่อนหวาน พวงแก้มแดงเรื่อ ท่าทีขัดเขินของนางทำให้   อู่เฉียงรู้สึกแน่นหน้าอก หัวใจเต้นผิดจังหวะ และเป็นฝ่ายต้องเบือนหน้าไปทางอื่น

            “ข้าจะไปเตรียมเสบียงอาหารให้ก่อน พี่อู่เฉียงอยากให้ข้าไปช่วยเก็บเสื้อผ้าหรือไม่”

            “ไม่ต้องหรอก เดินทางทีไรข้าก็เอาไปแค่ชุดสองชุดเท่านั้น”  เพราะเป็นเสื้อผ้าสำหรับปลอมกายจึงจำเป็นต้องเตรียมด้วยตนเอง มิให้นางมาแตะต้อง แม้ที่ผ่านมาเสื้อผ้าของเขาและอู่ยิน อู่ชิง นางช่วยซักตากให้อย่างดี หากขาดก็ซ่อมแซมเย็บปะให้เรียบร้อย

            ซินหรานเข้ามาในครัว เห็นสีหน้าพ่อครัวเจี่ยนแล้วนางเดาได้ว่าคงรู้กันแล้วว่าคืนนี้และอีกสองคืนข้างหน้านางต้องนอนในห้องเก็บฟืน  นางยังคงแย้มยิ้มบนใบหน้าและเดินเลี่ยงไปหยิบเนื้อแห้งที่เตรียมไว้ห่อกระดาษให้เขา แล้วยังมีข้าวแห้งอีก

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 56.  จบ

    ดวงตาร้อนแรงที่จ้องมองเหมือนจะกลืนกินทำให้ซินหรานต้องหลับตารับรู้สัมผัสร้อนผ่าวจากเรียวลิ้นของเขาที่แทรกเข้ามาในโพรงปาก มือใหญ่ปล่อยฝ่ามือนางที่อาจไม่ขยับไปจากแผ่นอกของเขาได้เปลี่ยนมัดร่างนางให้แนบชิดกับร่างของเขาแน่นขึ้นราวกับจะผสานเป็นเนื้อเดียว ลิ้นร้อนไล่ลุกเร้ากับลิ้นน้อยๆ จนยอมจำนนให้เกี่ยวกระหวัด เสียงครางครือในลำคอของหญิงสาวทำให้บุรุษหนุ่มฮึกเฮิมดันร่างบางไปชิดก้อนหินกลมเกลี้ยงก้อนใหญ่ให้แผ่นหลังของนางแนบชิด ดอกบัวคู่งามจึงเชิดชันท้าท้ายให้บุรุษหนุ่มอ้าปากครอบครอง เม้มริมฝีปากดูดดึงจนหญิงสาวไม่อาจกลั้นเสียงครวญครางของตนเองได้ “ประเดี๋ยวมีใครมาเห็น” นางใช้สองมือที่อ่อนแรกผลักเขาออก “ไม่มีหรอก” เขาหัวเราะชั่วร้ายในลำคอ “หากมีก็แค่ควักตาออกเสีย” ซินหรานไม่รู้จะโต้เถียงอย่างไร เขาดึงดันจะกลืนกินนางและเขาก็ทำให้นางไม่เหลือสติสัมปชัญญะใดๆ อีก ราวกับร่างกายของนางก็โหยหิวสัมผัสของเขาเช่นกัน นางถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเขายอมเลิกทรมานทรวงอกของนาง ทว่าริมฝีปากร้ายพรมจูบหน้าท้องของนาง เพราะรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร นางรีบร้องห้ามทั้งที่ตัวเองอ่

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 55.  คำสั่งแรก

    ใครเลยจะรู้ว่าคำสั่งแรกในฐานะฮูหยินของประมุขพรรคเพลิงอัคนีคือการสั่งให้ทุกคนเดินทางพร้อมกันไม่มีแยกเป็นสองขบวนตามที่เหิงหยางเซิงตกลงกับเฉินเอ๋อร์ “ตั้งแต่คลอดเฉินเอ๋อร์ออกมา เขาไม่เคยห่างจากข้าเลยสักครั้ง ท่านจะผลักไสให้ข้ากับลูกแยกกันได้อย่างไร” เหิงหยางเซิงได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรม แม้หญิงสาวผู้นี้จะยังคงเป็นซินหรานที่แลดูอ่อนแอบอบบางไร้ปากเสียง แต่ยามที่นางต้องการสิ่งใดก็ไม่นิ่งเงียบอีกต่อไป แต่อย่างน้อยเขาก็ผลักไสให้อู่เฉียงไปไกลหูไกลตา และจางเย่วถิงที่แสร้งทำเป็นอยากเดินทางด้วย แต่เพราะนางยังต้องการยาอายุวัฒนะนั้นอยู่จึงออกไล่ล่าช่วงชิงยาวิเศษที่ถูกเปลี่ยนมือไปแล้ว ก่อนเอ่ยคำลา ซินหรานคืนหยกประจำกายของจางเย่วถิง ที่ผ่านมานางไม่เคยคิดว่าหยกชิ้นนี้มีความหมายมากขนาดนี้ แม้สิ่งนี้จะทำให้นางออกคำสั่งคนของพรรคกระเรียนแดงได้ก็ตาม แต่จางเย่วถิงกลับยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมาแล้วเอ่ยปาก “สิ่งใดที่ข้าให้แล้วย่อมไม่เอาคืน ถือเสียว่าข้าให้เป็นของขวัญเจ้าก็แล้วกัน” ด้วยเหตุนี้ซินหรานจึงไม่อาจปฏิเสธได้อีก นางเก็บหยกชิ้นนั้นไว้แล้ว

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 54.  ส่งท้าย

    “อู่ชิงอู่ยินเอาม้าของข้าให้อู่เฉียงไป”“ขอรับ” คนที่อยู่ด้านนอกรีบตอบรับ หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายผ่านไป เดิมทีจอมมารเหิงหยางเซิงต้องการเดินทางกลับเกาะเพลิงอัคนีทันทีและแน่นอนว่ากลับไปครั้งนี้มีฮูหยินติดตามกลับไปด้วย ทว่าเมื่อเร่งรีบออกจากหมู่บ้านมาเพื่อไม่ต้องการพบกับคนของทางการ ทั้งหมดจึงได้ไปอาศัยหลบอยู่อีกหมู่บ้านไม่ไกลมากนักเพื่อให้อู่เฉียงได้รักษาตัว แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือพระสนมหลิวเสียนเฟยผู้นี้ไม่ยอมเดินทางกลับเมืองหลวง“ข้าจะอยู่ดูแลผู้มีพระคุณสักสามสี่วันจะเป็นไรไป” แม้นางจะไม่ให้ใครเอ่ยถึงนางในฐานะพระสนมคนโปรดขององค์ฮ่องเต้ แต่ลักษณะท่าทางสูงส่งแม้กระทั้งน้ำเสียงเย่อหยิ่งถือดีนั้นก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ เหิงหยางเซิงผู้เป็นประมุขพรรคมารมิชอบใจท่าทีเช่นนี้ เขาต้องการเดินทางกลับอยู่ทุกวันคืนไม่ใช่เพียงไม่ชอบท่าทีของสตรีผู้นี้แต่เพราะไม่ต้องการให้ซินหรานอยู่ใกล้อู่เฉียงแม้บาดแผลจะทำให้เสียเลือดมากแต่เพราะมีพ่อบ้านจูโหย่งเจาอยู่จึงดูแลรักษาอู่เฉียงให้ฟื้นกำลังได้อย่างรวดเร็ว ในวันที่สามก็สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ปกติ และถูกจอมมารเหิงหยางเซิงขึงตาขับไล่อย่างไม่ไว้หน้า เ

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 53. ข้าคือจอมมาร

    สุดท้ายก็ไม่ต่างจากสุนัขขี้เรื้อนไม่เหลือหน้าตาให้หยัดยืนใน ยุทธภพ เปลี่ยนแปลงตนเอง เข้าไปในวังวนของวังหลวง หวังให้ตำแหน่งของตนสูงสุด แต่สุดท้ายกลับถูกเจ้าเด็กเมื่อวานซืนทำลายป่นปี้ ด้วยความแค้นทำให้กั๋วกงกงลืมกลยุทธไปหมดสิ้นต่อสู้เหมือนคนตาบอดสะเปะสะปะไปมา ยิ่งสู้ยิ่งไม่อาจยอมรับความแพ้พ่าย หางตาเห็นสตรีสวมหน้ากากผู้นั้นยืนอยู่คนเดียว จึงเปลี่ยนเป็นพุ่งเป้าไปที่หญิงสาวบอบบาง ซินหรานเบิกตากว้างที่จู่ๆ กั๋วกงกงเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งมาที่นาง ทว่าเมื่อประสายสายตากันกลับเป็นกั๋วกงกงที่ชะงักงันแล้วกรีดร้องคลุ้งคลั่ง “ไม่จริง! ข้าจะไม่ตายเช่นนั้น! ข้าไม่มีวัน...!” ยังไม่ทันจบประโยคดี แสงสีเพลิงจากกระบี่อัคนีพิฆาตก็แทงทะลุร่างของกั๋วกงกง ดวงตาคู่นั้นก้มมองปลายกระบี่ที่ทะลุหน้าอกตนเอง ใบหน้าบิดเบี้ยวเอี้ยวมองไปด้านหลัง เห็นเพียงรอยยิ้มโหดเหี้ยมของเหิงหยางเซิง เขาบิดข้อมือทำให้กระบี่ควานเนื้อเรียกโลหิตให้หลั่งออกมาจนนองพื้น “เจ้า...เจ้ามัน...มาร...ปีศาจ...ร้าย” “ถูกต้อง ข้าคือจอมมารเหิงหยางเซิงแห่งพรรคเพลิงอัคนี” เพียงชั

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 52. อย่าสบตา

    ไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่นางเป็นเด็กแปดขวบ หญิงสาวเบิกตาโต ความทรงจำที่เลือนลางไปเต็มทีแล้วกลับเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง บ้านของนางไฟไหม้ บิดามารดาฉุดแขนให้นางวิ่งออกมา ทว่าบิดาถูกคนร้ายใช้ดาบฟันกลางหลัง แต่กระนั้นก็ยังกอดนางกับมารดาไว้ คนร้ายหัวเราะทั้งที่มารดาหวีดร้องเหมือนคนเสียสติ พุ่งเข้าไปใช้เพียงมือเปล่าทุบตีคนเหล่านั้น หนึ่งนั้นใช้ฝ่ามือฟาดใส่หน้ามารดาถึงกับเซถลาล้มลง พวกมันหัวเราะร่ากระตุกเท้ามารดาไว้แล้วฉีกทึ้งเสื้อผ้าของมารดา‘หนีไป! หนีไป!’เด็กน้อยตัวแข็งทื่อก้าวเท้าไม่ออก ร่างเล็กของเด็กหญิงวัยแปดขวบถูกฉุดกระชากอย่างแรงจนแขนเสื้อของเด็กหญิงขาด เด็กหญิงตัวน้อยหวีดร้องสุดเสียง พยายามสะบัดแขนขาที่ถูกเกาะกุมด้วยชายร่างใหญ่หลายคนที่ล้อมตัวนางอยู่ เด็กหญิงสู้แรงชายเหล่านั้นไม่ได้ ร่างของนางถูกยกขึ้นเหนือพื้นแขนสองข้าง ขาสองข้างถูกมือสกปรกจับยกขึ้น แม้น้ำตาไหลอาบแก้มแต่นางยังมองเห็นเปลวเพลิง ผู้คนที่ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด บนพื้นนองไปด้วยเลือดสีแดงสด ท้องฟ้าถูกย้อมด้วยสีแดงของเปลวเพลิง เด็กหญิงหวีดร้องจนเจ็บคอไปหมด ราวกับมีเลือดผสมน้ำลาย เสียงหัวเราะราวกับคนเสียสติดังขึ้น

  • ลำนำน้ำค้าง ดอกไม้ผลิบานในฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน   Chapter 51. นางเป็นฮูหยินของข้า

    อู่เฉียงได้ยินเสียงเปิดประตูจึงหันกลับมามองพร้อมกับพระสนมหลิวเสียนเฟยที่ปรายตามองเล็กน้อย ซินหรานก้าวออกมายืนแล้วกวาดตามองเหมือนค้นหาสิ่งผิดปกติ “เอ่อ...ข้าคงรู้สึกไปเอง เหมือนมีผู้อื่นอยู่ที่นี่” ซินหรานอึกอักหน้าแดง นางคงกังวลเกินเหตุไป พระสนมหลิวเสียนเฟยส่งยิ้มเอ็นดูให้ ได้ยินว่าหญิงสาวผู้นี้อายุยี่สิบแล้วและมีลูกชายน่ารัก แต่ลักษณะท่าทางยังเหมือนเด็กสาวมิได้ออกเรือน ยามเขินอายก็แก้มแดงระเรื่อ ช่างดูไร้เดียงสานัก พลันอดคิดถึงตนเองยามเป็นเด็กสาวไม่ได้ นางเหม่อลอยไปครู่หนึ่งสายตาดุจตาหงส์สังเกตสิ่งที่อยู่ในมือของซินหรานนั้นคุ้นตา จึงเอ่ยถามออกไป “นี่นะหรือ?” ซินหรานยื่นหน้ากากอันนั้นส่งให้พระสนม แต่เมื่ออีกฝ่ายย้ำให้พูดคุยกับนางเช่นเดียวกับคนธรรมดาทั่วไป ซินหรานจึงเอ่ยกับอีกฝ่ายดุจสนทนากับคนที่ฐานะเท่าเทียมกัน “เจ้าได้หน้ากากนี่มาจากที่ใด” พระสนมหลิวเสียนเฟยเอ่ยถาม ดวงตามีประกายความตื่นเต้นไม่น้อย “เรียนตามตรง ท่านจอมมารให้ข้ามา เป็นหนึ่งในเครื่องบรรณาการที่ส่งมาให้ท่านจอมมาร แต่ข้าจำไม่ได้แล้วว่ามาจากที่ใด” “เจ้าเคยใช้หรือไม่?” ซินหรานอึกอักอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยไปตรง “ครั้

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status