Home / รักโบราณ / ลำนำรักจันทราสลาย / ตอนที่ 2 องค์หญิงสวรรค์

Share

ตอนที่ 2 องค์หญิงสวรรค์

last update Last Updated: 2025-10-14 12:54:57

หลิงซินเอ๋อร์ องค์หญิงสวรรค์รอง บุตรีคนเล็กของเง็กเซียนฮ่องเต้ เติบโตท่ามกลางความงดงามของวังสวรรค์ ทว่าหัวใจของนางกลับถูกพันธนาการด้วยความกดดันที่มองไม่เห็น ตั้งแต่กำเนิดภายใต้ดวงจันทร์เต็มดวงยามเกิดสุริยคราส นางก็ถูกมองด้วยสายตาที่ซับซ้อนจากเหล่าเทพเซียน ไม่ใช่เพียงเพราะความรักเอ็นดูในฐานะพระธิดาองค์เล็ก แต่เพราะทุกคนหวาดกลัวต่อ คำพยากรณ์ ที่ว่านางจะเป็นผู้กำหนดชะตาของสามภพ

นางคือ บุตรแห่งจันทร์ ผู้ถูกลิขิตให้มีพลังรักษาที่บริสุทธิ์ที่สุดและพลังสะกดปีศาจที่รุนแรงที่สุด พลังนี้เองที่เป็นทั้งพรและคำสาปสำหรับนาง ในขณะที่เทพเซียนบางองค์ยกย่องนางเป็นความหวังในการยุติสงคราม แต่ส่วนใหญ่กลับมองว่านางคือ หายนะ ที่อาจทำลายล้างทุกสิ่งหากพลังนั้นถูกชักนำไปในทางที่ผิด

ชีวิตในตำหนัก กวงหมิง จึงไม่เคยสงบสุขอย่างแท้จริง แม้ตำหนักจะงดงามและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังเซียน แต่กลับรู้สึกเหมือนเป็นกรงทองที่ล้อมรอบไว้ด้วยความหวาดระแวง หลิงซินเอ๋อร์เป็นเด็กสาวที่มีจิตใจอ่อนโยนและเมตตาอย่างยิ่ง นางไม่เคยเข้าใจว่าเหตุใดพลังของนางจึงเป็นสิ่งที่น่ากลัว ในยามว่าง นางจึงมักจะไปนั่งอยู่ริมธารน้ำอมฤต เพื่อใช้พลังเซียนรักษาพืชพรรณและสัตว์น้อยใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ

แต่สิ่งที่นางโหยหามากที่สุดคือ อิสรภาพ นางเบื่อหน่ายกับกฎเกณฑ์อันเคร่งครัดของสวรรค์ และความเยือกเย็นของวังสวรรค์ที่ปราศจากความรู้สึกที่แท้จริง นางมักจะแอบอ่านบันทึกโบราณเกี่ยวกับ ดินแดนมนุษย์ ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวความรัก ความโศกเศร้า และความเสียสละของมนุษย์ธรรมดา

“เหตุใดสวรรค์จึงต้องอยู่เหนือกว่าทุกสิ่ง? เหตุใดการช่วยเหลือผู้อื่นถึงต้องมีกฎเกณฑ์มากมาย?” คำถามเหล่านี้ผุดขึ้นในใจของหลิงซินเอ๋อร์เสมอ

ด้วยนิสัยที่อ่อนโยนและไม่สามารถทนเห็นความทุกข์ได้ หลิงซินเอ๋อร์ จึงตัดสินใจแหกกฎสวรรค์ นางใช้วิชาแปลงกายและอำพรางพลังเซียนของตนเอง แอบหนีลงไปยังดินแดนมนุษย์บ่อยครั้ง เพื่อสัมผัสกับชีวิตที่แท้จริงและใช้พลังของตนช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนอย่างลับๆ

ในวันหนึ่ง นางแปลงกายเป็นหญิงสาวชาวบ้านในชุดเรียบง่ายสีฟ้าอ่อน เดินทางไปยังหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ถูกโจมตีด้วยโรคระบาดร้ายแรง ซึ่งเกิดจากการปะทะกันของพลังเซียนและพลังปีศาจในช่วงสงครามย่อยๆ

เมื่อนางไปถึง หมู่บ้านนั้นเต็มไปด้วยความเงียบงันน่าขนลุก มีแต่เสียงร้องไห้ของผู้หญิงและเด็กที่สูญเสียคนรัก หลิงซินเอ๋อร์รู้สึกปวดใจอย่างยิ่ง นางไม่สามารถทนดูความทุกข์ทรมานเหล่านั้นได้

นางปลอมตัวเป็นหมอหญิงผู้เร่ร่อน และเริ่มใช้พลังรักษาของตนเองอย่างเงียบๆ พลังเซียนของนางบริสุทธิ์ราวกับแสงจันทร์ ไม่มีสีสันที่ฉูดฉาด แต่กลับแฝงความอบอุ่นและชีวิตชีวา เมื่อนางสัมผัสร่างกายของผู้ป่วย อาการของพวกเขาก็ดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ไข้ลดลง บาดแผลหายสนิท

“ท่านหมอ… ท่านคือเซียนที่มาโปรดพวกเราหรือ?” ชาวบ้านคนหนึ่งที่ใกล้ตายกลับฟื้นคืนสติ เอ่ยถามนางด้วยน้ำตาแห่งความปิติ

หลิงซินเอ๋อร์ยิ้มอย่างอ่อนโยน ใบหน้าของนางเปล่งประกายภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น “ข้าไม่ใช่เซียนหรอกค่ะ ข้าเป็นเพียงหมอที่ผ่านมาเท่านั้น ทุกคนต้องเข้มแข็งนะคะ และอย่าลืมความหวัง”

นางไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดของนางอย่างโจ่งแจ้ง แต่ใช้เพียงส่วนที่จำเป็น เพื่อให้ชาวบ้านค่อยๆ ฟื้นตัวด้วยตนเอง นี่คือสิ่งที่นางเรียนรู้จากการแอบเฝ้าดูชีวิตของมนุษย์ – ความหวัง และ กำลังใจ สำคัญยิ่งกว่าปาฏิหาริย์

การกระทำเหล่านี้ทำให้หลิงซินเอ๋อร์รู้สึกเติมเต็มอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในวังสวรรค์ แต่นางก็รู้ดีว่าการแหกกฎครั้งนี้อันตรายและไม่สามารถทำได้อย่างเปิดเผย

มีเพียงคนเดียวในวังสวรรค์ที่รู้ความลับนี้และคอยเฝ้ามองนางอย่างเงียบๆ นั่นคือ ไป๋หานอี้ องครักษ์หนุ่มผู้นิ่งขรึมและเย็นชา

ไป๋หานอี้ถูกเง็กเซียนฮ่องเต้แต่งตั้งให้เป็นองครักษ์คู่กายของหลิงซินเอ๋อร์ตั้งแต่เด็ก เนื่องจากเขาเป็นเซียนหนุ่มที่มีพรสวรรค์ด้านวรยุทธ์สูงสุด และมีความซื่อสัตย์ภักดีเป็นที่ประจักษ์ เขามักจะสวมชุดเกราะสีขาวสะอาดตา มีดาบเซียนห้อยอยู่ที่เอว ท่าทางของเขาเยือกเย็นและไม่ค่อยพูดจา ทำให้เหล่าเทพเซียนและองค์หญิงหลายคนเกรงใจ

แต่สำหรับหลิงซินเอ๋อร์แล้ว ไป๋หานอี้คือเสมือนพี่ชายที่คอยปกป้องนางอย่างเงียบๆ เขาไม่เคยแสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาอย่างชัดเจน แต่สายตาที่เขามองนางนั้นมักจะเต็มไปด้วยความห่วงใยที่ไม่สามารถปิดบังได้

ไป๋หานอี้รู้เรื่องการแอบลงไปดินแดนมนุษย์ขององค์หญิงทุกครั้ง เขาไม่เคยรายงานเรื่องนี้ต่อเง็กเซียนฮ่องเต้ เพราะลึกๆ แล้วเขาเข้าใจความรู้สึกของนาง และรู้ว่าการกระทำของนางนั้นบริสุทธิ์ เขาจึงเลือกที่จะ ติดตาม นางลงไปอย่างลับๆ

ในขณะที่หลิงซินเอ๋อร์ใช้พลังรักษาผู้คนในหมู่บ้านที่ติดเชื้อ ไป๋หานอี้จะยืนอยู่บนยอดเขาที่มองเห็นหมู่บ้านนั้นได้อย่างชัดเจน คอยใช้พลังเซียนของตนสร้างม่านพลังบางๆ เพื่อป้องกันไม่ให้พลังปีศาจที่หลงเหลืออยู่ในอากาศเข้าทำร้ายนางและชาวบ้าน

‘องค์หญิงอ่อนโยนเกินไป นางควรจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของวังสวรรค์’ ไป๋หานอี้คิดในใจอย่างหนักใจ

เขาไม่เคยยอมรับความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองที่มีต่อหลิงซินเอ๋อร์ มันคือความรักที่ต้องห้ามระหว่างองครักษ์ต่ำต้อยกับองค์หญิงสูงศักดิ์ เขาทำได้เพียงปิดบังความรักนั้นไว้ภายใต้ความภักดีอันสูงสุด

เย็นวันนั้น เมื่อหลิงซินเอ๋อร์เดินทางกลับถึงตำหนักกวงหมิงโดยไม่มีใครรู้ ไป๋หานอี้ก็ปรากฏตัวขึ้นทันทีตามหน้าที่

“องค์หญิง หายไปไหนมาพ่ะย่ะค่ะ?” เสียงของเขาเย็นชาและเคร่งขรึม ราวกับต้องการปกปิดความกังวลที่แท้จริง

หลิงซินเอ๋อร์ยิ้มอย่างทะเล้น “ข้าแค่ไปเดินเล่นที่สวนท้อใกล้ๆ นี้เอง ท่านองครักษ์อย่ากังวลไปเลย”

ไป๋หานอี้ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขารู้ว่านางโกหก แต่ก็ไม่ต้องการที่จะคาดคั้น “ฝ่าบาทมีบัญชาให้องค์หญิงพักผ่อนให้มาก เพราะพลังแห่งจันทราในตัวองค์หญิงกำลังปั่นป่วน ห้ามออกนอกตำหนักจนกว่าจะได้รับอนุญาต”

“ข้ารู้แล้ว” หลิงซินเอ๋อร์ตอบอย่างเบื่อหน่าย “ท่านหานอี้ ท่านไม่เคยมีความสุขบ้างเลยหรือ? เห็นอะไรก็ดูเคร่งเครียดไปหมด”

ไป๋หานอี้สบตานางชั่วครู่ ดวงตาของเขาสะท้อนภาพนางอย่างชัดเจน ก่อนที่เขาจะเบือนหน้าหนี “ข้าไม่มีความจำเป็นต้องมีความสุข องค์หญิงคือความสุขเดียวที่ข้าต้องรักษาไว้”

คำพูดนี้ทำเอาหลิงซินเอ๋อร์อึ้งไปเล็กน้อย แต่ก่อนที่นางจะได้ไตร่ตรองความหมายที่ลึกซึ้งของมัน ไป๋หานอี้ก็ค้อมกายและถอยออกไปยืนอยู่มุมห้อง ราวกับเป็นเพียงเงาที่ทำตามหน้าที่

ค่ำคืนนั้น ดวงจันทร์บนฟากฟ้ายังคงมีรอยร้าวสีดำพาดผ่าน แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างหยกของตำหนักกวงหมิง

หลิงซินเอ๋อร์นอนไม่หลับ นางรู้สึกว่าพลังในร่างกายยังคงวุ่นวายอยู่เล็กน้อย และภาพของชาวบ้านที่กำลังทุกข์ทรมานยังคงติดตา

นางพยายามทำสมาธิอย่างเงียบๆ เพื่อควบคุมพลังแห่งจันทรา แต่เมื่อหลับตาลง ภาพฝันก็เข้าครอบงำจิตใจของนางอย่างรวดเร็ว

ภาพฝันนั้นไม่ใช่วังสวรรค์ที่สงบเงียบ แต่เป็นดินแดนที่ร้อนระอุและมืดมิด มีเพียงเปลวไฟสีครามที่ลุกโชนไปทั่วทุกแห่ง ราวกับเป็นภาพของ แดนปีศาจ ที่นางเคยอ่านในตำรา สงครามกำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด เสียงดาบกระทบกันและเสียงร้องคำรามของปีศาจดังสนั่นหวั่นไหว

หลิงซินเอ๋อร์ยืนอยู่ท่ามกลางสมรภูมินั้น แต่ไม่มีใครเห็นนาง นางรู้สึกถึงความเศร้าสร้อยและความแค้นที่ลอยอยู่ในอากาศอย่างหนาแน่น พลังแห่งความบริสุทธิ์ของนางดูเหมือนจะถูกบีบคั้นจากพลังหยินอันมหาศาลรอบด้าน

ทันใดนั้นเอง นางก็เห็นเงาร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งยืนตระหง่านอยู่กลางกองไฟสงคราม บุรุษผู้นั้นสวมชุดสีดำสนิท มีเส้นผมสีดำยาวสยายปลิวไสวในสายลมที่ร้อนระอุ รัศมีของเขาเต็มไปด้วย อำนาจมืด และความเยือกเย็นที่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของทุกสิ่งได้

เขาคือ อวิ๋นเทียนหาน รัชทายาทแห่งปีศาจ!

เขากำลังหันหลังให้นาง แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงกระซิบจากพลังเซียนของนางที่กำลังปั่นป่วนในความฝัน เขาก็หมุนตัวกลับมาอย่างช้าๆ

ดวงตาของเขาคมกริบและเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งนับพันปี แต่กลับแฝงไว้ด้วยพลังที่น่าหลงใหลและดึงดูดใจอย่างประหลาด ราวกับดวงตาของ อสูรที่รอคอยเหยื่อ

เมื่อดวงตาของอวิ๋นเทียนหานจ้องมองมาที่นางตรงๆ หัวใจของหลิงซินเอ๋อร์ก็เต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ความรู้สึกกลัว ความตกใจ และความโหยหาที่แปลกประหลาดผสมปนเปกันจนนางแยกไม่ออก

“ในที่สุด… เจ้าก็มาตามพันธะ” เสียงของเขาดุดันและทรงอำนาจ ดังสะท้อนอยู่ในโสตประสาทของนาง

ทันใดนั้น อวิ๋นเทียนหานก็ยกมือขึ้น และค่อยๆ ก้าวเดินตรงมาที่หลิงซินเอ๋อร์อย่างช้าๆ ทุกก้าวที่เขาย่างเดินทำให้เปลวไฟปีศาจที่ลุกโชนดับลง ราวกับความมืดกำลังกลืนกินทุกสิ่ง

หลิงซินเอ๋อร์พยายามจะถอยหนี แต่ร่างกายของนางกลับขยับไม่ได้ ขาของนางถูกตรึงไว้ด้วยพลังบางอย่างที่ไม่สามารถต้านทานได้ นางรู้ว่าชายผู้นี้คือศัตรูที่อันตรายที่สุดของสวรรค์ แต่ในความรู้สึกที่ลึกที่สุดของหัวใจ… นางกลับอยากสัมผัสเขา

ก่อนที่เงาดำนั้นจะก้าวเข้ามาถึงตัวนาง และก่อนที่นางจะได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจนที่สุด

ผึง!

หลิงซินเอ๋อร์ก็สะดุ้งตื่นขึ้นจากความฝันอย่างรวดเร็ว เหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นเต็มหน้าผาก พลังเซียนในร่างของนางกลับคืนสู่ความสงบอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าการปรากฏตัวของเขาในความฝันได้ช่วย ควบคุม ความปั่นป่วนในพลังแห่งจันทราของนาง

นางลุกขึ้นนั่งบนเตียงหายใจหอบถี่ พยายามทำความเข้าใจกับภาพที่เพิ่งเห็น

เงาดำ… ดวงตาคมเย็นยะเยือก…

นั่นคือรัชทายาทปีศาจ อวิ๋นเทียนหาน ที่นางเคยเห็นในภาพวาดของตำราต้องห้ามอย่างแน่นอน แต่เหตุใดเขาจึงปรากฏตัวในความฝันของนางได้? และเหตุใดพลังของเขาจึงสามารถเชื่อมต่อกับพลังแห่งจันทราของนางได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้?

หลิงซินเอ๋อร์รู้สึกได้ว่า พันธะที่ต้องห้าม ตามคำพยากรณ์ได้ก่อตัวขึ้นแล้วอย่างสมบูรณ์ ระหว่างเซียนบริสุทธิ์กับปีศาจแห่งความมืด และมันเริ่มต้นด้วยเพียงแค่ ความฝัน นี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 13 หายนะจันทราสลาย

    หลังจากที่ ซูเม่ยหลาน ถูกคุมขัง และ ความจริงเรื่องชาติกำเนิด ขององค์หญิงหลิงซินเอ๋อร์ถูกเปิดเผยต่อ อวิ๋นเทียนหาน อย่างลับๆ สถานการณ์ของสามภพก็เข้าสู่จุดวิกฤตที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดอย่างผิดปกติ ดวงจันทร์ ที่เคยมีรอยร้าวอยู่แล้ว ก็เริ่ม แตกร้าวเป็นเสี้ยวๆ อย่างเห็นได้ชัด! ครืนนนนน… ตู้ม! เสี้ยวของดวงจันทร์เริ่มแตกออก และส่ง แสงสีแดงโลหิต สลับกับ แสงสีเงินเย็นเยือก พวยพุ่งออกมาจากรอยร้าว แสงฟ้าสั่นสะเทือนไปทั่วสามภพ พลังเซียนในแดนสวรรค์ปั่นป่วนอย่างรุนแรง พลังปีศาจในแดนปีศาจก็บ้าคลั่งจนเกินควบคุม เหล่าเทพเซียนหวาดกลัวอย่างที่สุด พวกเขารู้ว่านี่คือสัญญาณสุดท้าย: หายนะจันทราสลาย กำลังจะเกิดขึ้น และ บุตรแห่งจันทร์ กำลังจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับพลังที่แท้จริง ในตำหนักกวงหมิง หลิงซินเอ๋อร์ ซึ่งถูกล้างความทรงจำไปแล้ว ก็รู้สึกถึงความผิดปกติของพลังอย่างรุนแรง ร่างกายของนางถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีเงินที่หมุนวนอย่างรวดเร็ว พลังในตัวซินเอ๋อร์ไ

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 12 เลือดมารกับหยกฟ้า

    หลังจากที่ พันธะสาบาน ได้ขาดสะบั้นไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ อวิ๋นเทียนหาน ก็รู้สึกถึงความปวดร้าวที่ไม่มีวันบรรเทา แม้ความทรงจำทางอารมณ์จะถูกทำลายไปแล้ว แต่ความรู้สึกว่าถูก ทรยศ และถูก สูญเสีย ยังคงกัดกินจิตใจของเขา เขาตระหนักว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ หลิงซินเอ๋อร์ จะต้องเกี่ยวข้องกับพลังเซียนที่ยิ่งใหญ่ของสวรรค์ และต้องเกี่ยวพันกับ คำพยากรณ์ ที่มารานตี้เคยกล่าวถึง อวิ๋นเทียนหานเริ่มค้นคว้าอย่างลับๆ เขาใช้พลังเงามืดในการแทรกซึมเข้าไปในอาณาเขตเซียนที่ไม่เคยมีปีศาจตนใดกล้าเข้าไปถึง เขาไม่สนใจการทำสงครามชั่วคราว แต่ต้องการค้นหา ความจริง ที่ถูกปิดบังไว้ ในที่สุด เขาก็สามารถแทรกซึมเข้าไปใน หอจารึกเทวะ บนสวรรค์ได้อย่างลับๆ สถานที่ที่เก็บรักษาคัมภีร์และบันทึกสำคัญของสามภพ เขาค้นหาเกี่ยวกับ บุตรแห่งจันทร์ และ คำพยากรณ์จันทราสลาย เขาพบว่าคำพยากรณ์ที่สวรรค์เผยแพร่นั้นถูก บิดเบือน ไปบางส่วน ในบันทึกเก่าแก่ที่สุดที่จารึกไว้บน “ศิลาเทวลิขิต” ที่แท้จริงนั้น มีประโยคสำคัญที่สวรรค์ตัดออกไป: “บุตรแห่

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 11แผนร้ายแดนสวรรค์

    หลังจากศึกใหญ่ในหุบเขาอวิ๋นหมิงยุติลงชั่วคราวด้วยความสูญเสียอย่างหนักทั้งสองฝ่าย วังสวรรค์ ก็เข้าสู่สภาวะตึงเครียดสูงสุด ในโถงลับของตำหนักเซียน เง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงเรียกประชุมเหล่าเทพเซียนผู้มีอำนาจสูงสุด รวมถึง ไป๋หานอี้ และ ซูเม่ยหลาน เพื่อตัดสินชะตากรรมของ หลิงซินเอ๋อร์ “ความสูญเสียครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก” เง็กเซียนฮ่องเต้ตรัสด้วยพระสุรเสียงที่หนักอึ้ง “และชัดเจนแล้วว่า สาเหตุของจันทราร้าว และการปั่นป่วนของพลังเซียนในวังสวรรค์… มาจากความสัมพันธ์ต้องห้ามขององค์หญิงหลิงซินเอ๋อร์กับรัชทายาทปีศาจ!” เหล่าเทพเซียนต่างเห็นพ้องต้องกัน พวกเขาเห็นการกระทำขององค์หญิงในสนามรบที่ใช้พลังรักษาปีศาจ และการที่รัชทายาทปีศาจปกป้องนาง การผูกพันทางชะตาของทั้งคู่กำลังคุกคามรากฐานของสวรรค์ “เราไม่สามารถฆ่านางได้” เทพสงครามเสนอ “นางคือ บุตรแห่งจันทร์ พลังของนางเชื่อมโยงกับดวงดาว หากนางดับสลาย สวรรค์จะพังทลายตามไปด้วย” “ถ้าเช่นนั้น เราต้อง ทำลายนางในความทรงจำ” เง็กเซียนฮ่องเต้สรุป “ต้องตัดขาด พันธะต

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 10 หัวใจสั่นไหว

    สงครามสามภพ เปิดฉากขึ้นแล้วที่ หุบเขาอวิ๋นหมิง สมรภูมิเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน พลังเซียน สีขาวบริสุทธิ์ปะทะกับ พลังปีศาจ สีดำทะมึน สายฟ้าสีทองฟาดฟันเข้าใส่กำแพงเงามืด เปลวไฟปีศาจสีครามลุกโชนเผาผลาญทัพสวรรค์ ไป๋หานอี้ องครักษ์ผู้ภักดี นำทัพหน้าเข้าโจมตีอย่างดุดันที่สุดเท่าที่เขาเคยทำ เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะทำลายแนวป้องกันของปีศาจ เพื่อยุติสงครามนี้ให้เร็วที่สุด และเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับ อวิ๋นเทียนหาน และ หลิงซินเอ๋อร์ อวิ๋นเทียนหาน รัชทายาทปีศาจ สวมชุดเกราะสีนิลและดาบปีศาจเงาของเขาฟาดฟันอย่างรวดเร็วและโหดเหี้ยม เขาคือขุนศึกผู้ไร้เทียมทานในสนามรบ ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วย เงามืด ที่กลืนกินพลังเซียนที่เข้ามาใกล้ ท่ามกลางความโกลาหลของสงคราม หลิงซินเอ๋อร์ ยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าแม่ทัพสวรรค์ด้วยความเจ็บปวด นางถูกบังคับให้เข้าร่วม แต่จิตวิญญาณของนางปฏิเสธการนองเลือดนี้ พลังเซียนที่ถูกผนึกไว้บางส่วนทำให้นางไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ แต่นางก็ค้นพบวิธีที่จะไม่ทรยศต่อ คำสาบาน ของตนเอง

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 9 สงครามเริ่มต้น

    หลังจากที่ เง็กเซียนฮ่องเต้ ได้รับรายงานจาก ซูเม่ยหลาน และตระหนักถึงความสัมพันธ์ที่เกินกว่าเหตุระหว่าง หลิงซินเอ๋อร์ กับ อวิ๋นเทียนหาน พระองค์ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาด ในโถงหลิงเซียว เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงเรียกประชุมเหล่าเทพเซียนทั้งหมด และมีพระบัญชาที่ทำให้ทั้งสวรรค์ต้องสั่นสะเทือน “เราไม่สามารถปล่อยให้ความมืดมิดคุกคามสามภพได้อีกต่อไป” เง็กเซียนฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ “แดนปีศาจนำโดยรัชทายาทปีศาจ ได้ละเมิดกฎฟ้า ซ่องสุมกำลัง และเป็นภัยต่อวิถีแห่งเต๋า สวรรค์ในนามของผู้พิทักษ์ความยุติธรรม จึงขอ ประกาศสงครามขั้นเด็ดขาด กับแดนปีศาจ!” คำประกาศนี้ถูกอ้างอย่างเป็นทางการว่าเพื่อ ปกป้องโลกมนุษย์ และเพื่อรักษาความสงบสุขของสามภพ แต่ความจริงเบื้องหลังที่เหล่าเซียนชั้นสูงรับรู้คือ ความกลัวคำพยากรณ์จันทราสลาย การที่ บุตรแห่งจันทร์ แสดงความภักดีต่อ โอรสปีศาจ นั้น เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าหายนะกำลังจะมาถึง มีเพียงการทำลายแกนกลางแห่งความมืด (รัชทายาทปีศาจ) เท่านั้น ที่จะสามารถตัดขาดพันธะต้องห้ามและช่วยห

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 8 เสียงพิณแห่งสวรรค์

    หลังจากที่ หลิงซินเอ๋อร์ ถูกนำตัวกลับสู่สวรรค์ และแสดงความเอนเอียงไปทางรัชทายาทปีศาจอย่างชัดเจน ความหวาดระแวงในวังสวรรค์ก็พุ่งสูงถึงขีดสุด เง็กเซียนฮ่องเต้ ทรงตระหนักดีว่าการกักบริเวณเพียงอย่างเดียวไม่สามารถควบคุม บุตรแห่งจันทร์ ผู้ถูกลิขิตให้เป็นทั้งความหวังและหายนะได้ ดังนั้น จึงมีพระบัญชาลับให้ ซูเม่ยหลาน สหายสนิทเพียงไม่กี่คนของหลิงซินเอ๋อร์ ถูกส่งลงมายังดินแดนมนุษย์ที่อยู่ใกล้กับหุบเขาอวิ๋นหมิง เพื่อคอยสอดส่องพฤติกรรมขององค์หญิงอย่างใกล้ชิด ซูเม่ยหลาน เป็นเซียนสาวที่งดงามและมีพรสวรรค์สูงยิ่ง นางมีความเชี่ยวชาญด้านดนตรีโบราณ และมีพลังเซียนที่แฝงอยู่ในเสียงพิณของนาง พลังนี้คือ ‘เสียงพิณสะกดจิต’ ที่สามารถควบคุมอารมณ์ สยบจิตใจที่ปั่นป่วน และแม้กระทั่งทำให้ศัตรูหลงใหลในความว่างเปล่าจนสูญเสียพลังไปได้ เม่ยหลานได้รับพิณศักดิ์สิทธิ์ที่ทำจากหยกโบราณ และลงมายังอาณาจักรมนุษย์อย่างเงียบเชียบ นางตั้งสำนักเล็กๆ ไว้ใกล้กับอาณาเขตของหุบเขาอวิ๋นหมิง และเฝ้าสังเกตการณ์อย่างระมัดระวัง แม้จะเต็มใจรับพระบัญชา แต่ในใจขอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status