หน้าหลัก / รักโบราณ / ลำนำรักจันทราสลาย / ตอนที่ 7 คำสาบานใต้เงาจันทร์

แชร์

ตอนที่ 7 คำสาบานใต้เงาจันทร์

ผู้เขียน: Charuda Singsathon
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-19 12:56:08

แม้จะถูกกักบริเวณในตำหนักกวงหมิง และถูกเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจาก ไป๋หานอี้ องครักษ์ผู้ภักดี แต่จิตวิญญาณของ หลิงซินเอ๋อร์ ก็ไม่เคยสงบลงได้เลย คำพูดของ อวิ๋นเทียนหาน และความรู้สึกที่เชื่อมโยงกันในความฝันยังคงดึงดูดนางอย่างรุนแรง นางต้องการคำตอบเกี่ยวกับ พันธะต้องห้าม และสงสัยในสิ่งที่ไป๋หานอี้พูดว่า 'ปีศาจไม่มีหัวใจ'

ในคืนที่ดวงจันทร์ยังคงมีรอยร้าวอย่างชัดเจน หลิงซินเอ๋อร์รอจนกระทั่งไป๋หานอี้เข้าสู่ช่วงทำสมาธิ นางใช้วิชาเซียนที่ฝึกฝนมาอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงม่านพลังป้องกันที่ไป๋หานอี้สร้างไว้ นางร่ายมนตร์อำพรางกาย ก่อนจะหลบหนีออกจากวังสวรรค์อีกครั้ง มุ่งหน้าสู่ หุบเขาอวิ๋นหมิง ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่อาจยับยั้งได้

นางเดินทางมาถึงหุบเขาอวิ๋นหมิงอย่างทุลักทุเล พลังเซียนของนางอ่อนแอลงกว่าเดิมมากจากการบาดเจ็บครั้งที่แล้ว แต่ความปรารถนาที่จะพบกับรัชทายาทปีศาจกลับแข็งแกร่งกว่าความกลัวทั้งหมด

“อวิ๋นเทียนหาน!” นางเอ่ยเรียกชื่อเขาด้วยเสียงแผ่วเบา แต่แฝงไว้ด้วยพลังแห่งจันทราที่บริสุทธิ์

ไม่นานนัก เงาร่างสีนิลก็ปรากฏขึ้นจากความมืด อวิ๋นเทียนหาน ยืนอยู่ท่ามกลางเปลวไฟปีศาจที่ลุกโชน ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเย็นชาและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

“เจ้าเซียนน้อย! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมายังแดนของข้าอีกครั้ง! เจ้าไม่กลัวตายหรือ?” น้ำเสียงของเขาดุดัน แต่แววตาของเขากลับมีความตื่นเต้นที่ซ่อนอยู่

“ข้าต้องการคำตอบ” หลิงซินเอ๋อร์เดินตรงเข้าไปหาเขาอย่างกล้าหาญ “ข้าอยากรู้ว่าพันธะที่เราผูกพันกันมันคืออะไรกันแน่? มันคือหายนะ หรือความหวังที่จะยุติสงครามได้?”

อวิ๋นเทียนหานเห็นความมุ่งมั่นในดวงตาของนาง เขารู้ว่าเซียนน้อยผู้นี้ไม่ใช่เซียนที่อ่อนแอและถูกตามใจเหมือนคนอื่นๆ ในสวรรค์ เขาจึงยอมผ่อนปรนและพานางไปนั่งบนโขดหินที่ปกคลุมด้วยความมืดมิด

“เจ้าอยากรู้ก็จงฟังให้ดี” อวิ๋นเทียนหานเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ลดความแข็งกระด้างลง “พลังจันทราในตัวเจ้าเป็น กุญแจสำคัญ ที่สวรรค์ใช้ในการต่อต้านแดนปีศาจ แต่มันก็เป็น ศูนย์รวมพลังหยิน ที่สามารถเติมเต็มความมืดในตัวข้าได้”

หลิงซินเอ๋อร์เล่าเรื่องราวของตนเองบ้าง นางบอกเล่าถึง ความฝัน อันแปลกประหลาดที่เชื่อมโยงถึงเขา เล่าถึง ความกลัว ที่จะกลายเป็นหายนะตามคำพยากรณ์ และเล่าถึง ความโดดเดี่ยว ในกรงทองของวังสวรรค์ที่ทำให้รู้สึกว่าตนเองไม่มีสิทธิ์เลือกเส้นทางชีวิต

เมื่อได้ฟังเรื่องราวของนาง อวิ๋นเทียนหานก็รู้สึกถึงความเห็นอกเห็นใจอย่างประหลาด ก่อนจะเผยความจริงที่ซ่อนไว้ในใจของตนเอง

“เจ้าคิดว่าเจ้าโดดเดี่ยวหรือ?” อวิ๋นเทียนหานยิ้มเยาะอย่างขมขื่น “ข้าคือ รัชทายาทปีศาจ ทุกปีศาจคุกเข่าต่อข้า แต่ข้าไม่มีสิทธิ์ที่จะแสดงความรู้สึกใดๆ ข้าเกิดมาเพื่อ สงคราม และเพื่อสืบทอดบัลลังก์แห่งความมืด บิดาของข้า (มารานตี้) สอนให้ข้าทำลายทุกสิ่งที่มีแสงสว่าง”

เขาเงยหน้ามองดวงจันทร์ที่ร้าวราน “ข้าไม่เคยมีสิทธิ์เลือกเส้นทางชีวิตของตนเอง ไม่เคยมีสิทธิ์ที่จะ อ่อนโยน และเมื่อข้าสัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์ในตัวเจ้า… ข้าก็ยิ่งตระหนักว่าข้าคือ ความมืด ที่ถูกกำหนดให้ทำลายแสงสว่างนั้น”

หลิงซินเอ๋อร์มองใบหน้าของเขาอย่างลึกซึ้ง นางเห็นความโดดเดี่ยวที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเยือกเย็นนั้น “แต่ท่านได้ช่วยเด็กหญิงในวังปีศาจ ท่านไม่ได้ทำตามคำสั่ง แต่ทำตามหัวใจ ท่านยังมีความเมตตาอยู่”

คำพูดของนางทำให้รัชทายาทปีศาจถึงกับอึ้ง เขารู้สึกว่าหัวใจที่ปิดตายของเขากำลังถูกเซียนน้อยผู้นี้ รื้อทำลาย ทีละน้อย

ทันใดนั้น แผ่นดินใต้เท้าของทั้งสองก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

ครืน! ครืน!

อสูรร้ายขนาดมหึมาที่ถูกปลุกขึ้นมาจากใต้ดินโดยพลังปั่นป่วนของดวงจันทร์ ได้ปรากฏตัวขึ้น มันคือ อสูรจันทรา (โหมวเยวี่ย) ที่มีเกราะหนาและพลังมืดที่บ้าคลั่ง มันพุ่งเข้าโจมตีทั้งสองคนอย่างไม่เลือกหน้า

อวิ๋นเทียนหานรีบผลักหลิงซินเอ๋อร์ออกไป “ถอยไปเซียนน้อย! นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะรับมือได้!”

เขาชัก ดาบปีศาจเงา ออกมา และพุ่งเข้าใส่ อสูรจันทรา อย่างรวดเร็ว พลังเงาของเขาโอบล้อมดาบ สร้างเป็นสายฟ้าสีดำที่ฟาดฟันเข้าที่เกราะของอสูร ทว่าเกราะของมันแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาจะทำลายได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

“พลังของมันเชื่อมโยงกับดวงจันทร์! ท่านต้องโจมตีในส่วนที่ร้าว!” หลิงซินเอ๋อร์ตะโกนเตือน นางใช้พลังเซียนรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะร่วมสู้เคียงข้างเขา

นางร่าย มนตร์สะกดปีศาจ ขั้นสูง พลังเซียนสีเงินบริสุทธิ์ที่แฝงพลังแห่งจันทราไว้ทั้งหมดได้พุ่งเข้าใส่ร่างของอสูรอย่างรุนแรง พลังสะกดทำให้การเคลื่อนไหวของอสูรช้าลงทันที

“มันช้าลงแล้ว!” หลิงซินเอ๋อร์ตะโกน “อวิ๋นเทียนหาน! โจมตี!”

อวิ๋นเทียนหานใช้จังหวะที่อสูรถูกพันธนาการไว้เพียงชั่วขณะ รวบรวมพลังเงามืดทั้งหมดเข้าไว้ในดาบปีศาจของตนเอง และพุ่งทะลุเข้าไปในส่วนที่แสงจันทร์สีเงินของหลิงซินเอ๋อร์ได้เจาะเข้าไป พลังมืดอันทรงพลังและพลังจันทราอันบริสุทธิ์ได้ รวมเป็นหนึ่งเดียว ในชั่วพริบตา

ตู้มมมมมม!

พลังระเบิดรุนแรงจนหุบเขาสั่นสะเทือน ร่างของอสูรจันทราก็แตกสลายกลายเป็นเถ้าธุลีไปในทันที

ทั้งสองคนต่างหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน พวกเขารู้สึกได้ถึงพลังที่ สมดุล และ สมบูรณ์ เมื่อพวกเขาต่อสู้เคียงข้างกัน พลังมืดและแสงสว่างไม่ได้ทำลายกันเอง แต่กลับส่งเสริมและเติมเต็มกัน

อวิ๋นเทียนหานทรุดตัวลงด้วยความเหนื่อยล้า การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ หลิงซินเอ๋อร์รีบเข้าไปหาเขาด้วยความเป็นห่วง นางฉีกชายเสื้อของตนเองและใช้พลังรักษาห้ามเลือดของเขาอย่างรวดเร็ว

“ท่านบาดเจ็บมากเลย” นางพูดด้วยความกังวล

อวิ๋นเทียนหานมองใบหน้าที่เปื้อนฝุ่นและร่องรอยบาดแผลของนาง แต่ดวงตาของเขากลับอ่อนโยนอย่างประหลาด “ทำไมเจ้าต้องเสี่ยงชีวิตมาช่วยข้าด้วย?”

“เพราะท่านก็ช่วยข้าไว้ก่อนหน้านี้” หลิงซินเอ๋อร์ตอบอย่างเรียบง่าย “และเพราะเราต้อง พึ่งพา กัน”

อวิ๋นเทียนหานรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากมือเล็กๆ ที่กำลังพันผ้าพันแผลให้เขา ความรู้สึกที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิตปีศาจของเขา

เขาเอ่ยคำพูดที่มาจากใจอย่างแท้จริง ด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แฝงความรู้สึกที่หนักแน่น:

“หลิงซินเอ๋อร์… หากวันหนึ่งเจ้ากลายเป็นศัตรูที่ต้องนำทัพมาโจมตีข้า… ข้าจะไม่ยกดาบใส่เจ้า”

คำพูดนี้ทำเอาหลิงซินเอ๋อร์น้ำตาคลอเบ้า นางรู้ว่าคำสัตย์นี้สำคัญเพียงใดสำหรับรัชทายาทปีศาจผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่เพื่อสงครามเท่านั้น

นางเงยหน้ามองเขาอย่างเด็ดเดี่ยว “เช่นกัน อวิ๋นเทียนหาน… ข้าจะไม่หันคมดาบเซียนเข้าหาท่าน ไม่ว่าชะตาจะกำหนดให้เรายืนอยู่คนละฝ่ายก็ตาม”

ทั้งสองคนยืนขึ้น มองไปที่ดวงจันทร์ที่ร้าวรานบนฟากฟ้า

ภายใต้แสงจันทร์ที่ร้าวรานนั้น ทั้งคู่ประสานมือกันแน่น แม้จะรู้ดีว่ากำลังกระทำในสิ่งที่ขัดต่อกฎฟ้าและกฎมารทั้งหมด พวกเขาต่างให้ คำสาบาน ที่จะปกป้องพันธะนี้ไว้ด้วยชีวิต

นั่นคือคำสาบานแห่งความรักต้องห้ามที่ถูกลิขิตให้ยิ่งใหญ่กว่าสงคราม

ทันใดนั้น รอยร้าวบนดวงจันทร์ ก็พลันสว่างขึ้นด้วยแสงสีเงินและสีม่วงเข้มปะปนกัน แสงนั้นสาดส่องลงมากระทบมือที่ประสานกันของทั้งสองคนอย่างจงใจ แสงนั้นแฝงด้วยความรู้สึกถึงการ รวมเป็นหนึ่งเดียว ของพลังหยินและหยางที่ทรงพลัง

การปรากฏของแสงจันทร์ที่ผิดปกตินี้ ยิ่ง ยืนยัน อย่างชัดเจนว่า ความผูกพันที่เพิ่งสาบานกันนี้ จะไม่ใช่แค่เรื่องรักใคร่ส่วนตัว แต่จะ เปลี่ยนแปลงชะตาของสามภพ อย่างไม่มีวันหวนกลับ

ชะตากรรมของสวรรค์ ปีศาจ และมนุษย์… บัดนี้ขึ้นอยู่กับคำสาบานที่ให้ไว้ใต้เงาจันทร์ร้าวรานคู่นี้แล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 30 บุปผาพิรุณแห่งลิขิตสุดท้าย (ตอนอวสาน)

    หลังจากที่ หลิงซินเอ๋อร์ และ อวิ๋นเทียนหาน รวมพลังสมดุลเข้าด้วยกัน และผนึกพลังของ มารานตี้ฮ่องเต้ และ เง็กเซียนฮ่องเต้ สนามรบก็กลับคืนสู่ความสงบ แต่สันติสุขที่แท้จริงยังมาไม่ถึงหลิงซินเอ๋อร์ มองไปยังท้องฟ้าที่ดวงจันทร์ยังคงร้าวราน นางรู้ดีว่า การผนึก เป็นเพียงการยืดเวลา สงครามจะกลับมาอีกครั้งตราบใดที่ ช่องว่าง และ ความไม่เข้าใจ ระหว่างสองภพยังคงอยู่เพื่อหยุดสงครามระหว่างสองภพอย่างถาวร หลิงซินเอ๋อร์ตัดสินใจใช้พลังสุดท้าย ของตนเองในการสร้าง สะพานจันทราสะพานนี้ไม่ใช่สะพานทางกายภาพ แต่เป็น เส้นทางจิตวิญญาณ ที่จะเชื่อมโยง สวรรค์ กับ แดนปีศาจ เข้าด้วยกันอย่างแท้จริง ทำให้สองภพไม่ถูกแยกจากกันด้วยความแค้นและกฎเกณฑ์ที่เคยกำหนดไว้แต่พลังที่จำเป็นในการสร้าง สะพานจันทรา ที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ต้องแลกด้วยชีวิตของผู้สร้างสะพาน ซึ่งหมายถึงการสละการดำรงอยู่ทั้งหมดของ หลิงซินเอ๋อร์อวิ๋นเทียนหาน ซึ่งความทรงจำกลับมาสมบูรณ์แล้ว เข้าใจถึงการตัดสินใจของ หลิงซินเอ๋อร์ เขาไม่ยอมให้เธอก้าวไปเพียงลำพัง“เราจะ

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 29 ศึกแห่งสวรรค์และปีศาจ

    ข่าวการตื่นขึ้นของ หลิงซินเอ๋อร์ และการทำลายกองทัพเซียนที่ บึงดำ ได้แพร่สะพัดไปทั่วสามภพอย่างรวดเร็วข่าวนี้แพร่ไปถึงหูของ มารานตี้ จักรพรรดิปีศาจแห่งแดนปีศาจทันที!มารานตี้ ซึ่งรอคอยโอกาสนี้มานานหลายศตวรรษ เชื่อว่าการตื่นของ บุตรแห่งจันทร์ ผู้ซึ่งมีพลังสมดุลของทั้งสองเผ่าพันธุ์ คือ โอกาสสุดท้าย ในการล้างแค้นต่อสวรรค์มารานตี้ประกาศระดมพลครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา จักรพรรดิปีศาจเชื่อว่าพลังที่สมดุลของหลิงซินเอ๋อร์คือ กุญแจสำคัญในการเปิดมิติ ที่ถูกผนึกไว้ตั้งแต่สงครามครั้งแรก ซึ่งจะนำพากองทัพปีศาจจำนวนมหาศาลเข้าสู่ใจกลางวังสวรรค์ได้โดยตรงศึกแห่งสวรรค์และปีศาจ จึงปะทุขึ้นอีกครั้งอย่างรุนแรงยิ่งกว่าครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์ของสามภพอวี่หาน (อวิ๋นเทียนหานในร่างใหม่) ผู้ซึ่งกำลังเดินทางด้วยความเจ็บปวดที่ไร้ที่มา ถูกดึงเข้าสู่สงครามโดย ไม่รู้ตัวแม้เขาจะสละความทรงจำและสถานะ โอรสปีศาจ ไปแล้ว แต่ เลือดในกายเขายังคงเป็นสายเลือดปีศาจที่บริสุทธิ์ เขาถูกกองทัพปีศาจที่บ้าคลั่งเข้าใจผิดว่าเป็นนายทัพป

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 28 การคืนชีพของจันทรา

    เง็กเซียนฮ่องเต้ และ สภาสวรรค์ ล่วงรู้ถึงการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ของพลังจันทราที่มาจาก บึงดำ พวกเขาทราบดีว่า บุตรแห่งจันทร์ กำลังจะตื่นขึ้นอีกครั้ง ความกลัวเข้าครอบงำสวรรค์อีกครั้ง เพราะหาก หลิงซินเอ๋อร์ ตื่นขึ้นพร้อมกับพลังที่สมดุลอย่างสมบูรณ์ และมีพลังของ โอรสปีศาจ อยู่ในตัว นางจะกลายเป็นภัยคุกคามที่ไม่สามารถเอาชนะได้ สภาสวรรค์สั่งให้ทำลายนาง และ ผนึกบึงดำ อย่างถาวร ก่อนที่พลังปีศาจในร่างจะฟื้นเต็มตัว กองทัพเทพเซียนชุดใหญ่ที่นำโดยเทพผู้คุมกฎที่มีอำนาจมากที่สุด ถูกส่งลงมายัง บึงดำ ทันที ซูเม่ยหลาน ผู้ซึ่งเฝ้าอยู่ริมบึงเห็นกองทัพนั้นเข้ามา นางรู้ว่าถึงเวลาต้องต่อสู้ครั้งสุดท้ายแล้ว ซูเม่ยหลาน ใช้พิณหยกโบราณของตนเองต่อสู้กับกองทัพเซียนอย่างสิ้นหวัง แต่นางอ่อนแอเกินกว่าจะต้านทานพวกเขาได้ ภายในบึงดำ ดวงจิตสุดท้ายของไป๋หานอี้ ก็รับรู้ถึงภัยคุกคามที่กำลังจะมาถึง เขาต้องเลือกระหว่างการรักษาดวงจิตสุดท้ายไว้ให้สลายไปอย่างสงบ กับการสละการดำรงอยู่ทั้งหมดเพื่อปกป้องเธอ

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 27 วิญญาณจันทรา

    หลายร้อยปีแห่งการรอคอยและการหลับใหลกำลังจะสิ้นสุดลง ซูเม่ยหลาน ผู้ซึ่งกลายเป็นคนเร่ร่อนที่สันโดษ และเป็นเพียงผู้เดียวที่เฝ้าคอยการตื่นของเพื่อนรัก ได้เดินทางไปยัง ยอดเขาจันทรายอดเขาจันทรา เป็นสถานที่ที่ใกล้ชิดกับดวงจันทร์ที่แตกร้าวที่สุด และเป็นที่ที่พลังของ หลิงซินเอ๋อร์ เคยแข็งแกร่งที่สุดในวัยเยาว์ในคืนที่ ดวงจันทร์เต็มดวง และแสงจันทร์สาดส่องลงมายังบึงดำอย่างทรงพลังที่สุด ซูเม่ยหลาน ได้ตัดสินใจทำพิธีปลุก จิตจันทรา ของหลิงซินเอ๋อร์นางวาง พิณหยกโบราณ ลงบนก้อนหินที่ถูกแสงจันทร์อาบไล้ แล้วเริ่มบรรเลงเพลงที่นางเคยบรรเลงให้เพื่อนรักฟังในอดีต เสียงพิณนั้นไม่ใช่เพลงสวรรค์ แต่เป็นเพลงที่เปี่ยมด้วยความภักดี ความเสียสละ และความรักที่เพื่อนทุกคนมอบให้แก่หลิงซินเอ๋อร์เสียงพิณของซูเม่ยหลานดังขึ้นบนยอดเขาจันทรา มันดังก้องไปทั่วทั้งสามภพ ราวกับเป็นเสียงเรียกที่ทะลุผ่านกาลเวลาภายใน บึงดำ ที่มืดมิดและเย็นยะเยือก หลิงซินเอ๋อร์ ที่หลับใหลอยู่ใต้น้ำลึกเริ่มมีปฏิกิริยาต่อเสียงพิณนั้นเสียงนั้นทะลุผ่าน ผนึ

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 26 ลมหายใจแห่งบึงดำ

    หลายร้อยปีผ่านไป ท่ามกลางการหยุดยิงที่เปราะบาง หลิงซินเอ๋อร์ ยังคงหลับใหลอยู่ใต้บึงดำ โลกภายนอกพยายามที่จะลืมสงครามใหญ่ที่จบลงด้วยความสูญเสียครั้งใหญ่ของทั้งสองฝ่าย บึงดำ ถูกประกาศให้เป็น สถานที่ต้องห้าม และ เขตกันชน ระหว่างแดนสวรรค์และแดนปีศาจ แม้แต่ มารานตี้ฮ่องเต้ ก็ไม่กล้าแตะต้องบึงนี้ เพราะพลังที่สมดุลของบุตรแห่งจันทร์นั้นน่ากลัวเกินกว่าจะคาดเดา บาดแผลของสามภพถูกซ่อนไว้ภายใต้ความเงียบ แต่ไม่มีใครสามารถรักษาบาดแผลในจิตใจได้ อวี่หาน ผู้เร่ร่อนที่ถูกสาปด้วยความรัก อวิ๋นเทียนหาน ผู้สละความทรงจำที่เกี่ยวกับความเจ็บปวดและความแค้นของ โอรสปีศาจ ได้สร้างร่างใหม่และใช้ชื่อ “อวี่หาน” นามที่แปลว่า "ความหนาวเย็นแห่งพิรุณ" ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นคืนชีพภายใต้พิรุณโลหิต อวี่หาน กลายเป็น คนเร่ร่อน ผู้ไม่ผูกพันกับที่ใด เขาใช้พลังที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดในการช่วยเหลือโลกมนุษย์ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติที่เกิดจากพลังที่หลงเหลือของสงคราม แต่ในใจเขามี ความว่างเปล่า ที่ไม่สามารถเติมเต็มได้

  • ลำนำรักจันทราสลาย   ตอนที่ 25 พิรุณเลือดแห่งการฟื้นคืน

    ภายใน บึงดำ ที่ปั่นป่วนไปด้วยพลังมาร อวิ๋นเทียนหาน กอดร่างที่ไร้สติและอ่อนล้าของ หลิงซินเอ๋อร์ ไว้แน่นความทรงจำทั้งหมดที่หายไปได้ไหลกลับเข้ามาในจิตวิญญาณของเขาอย่างรุนแรง ทั้งความรักและความแค้นต่อสวรรค์ การเสียสละของ ไป๋หานอี้ และการตายของ เฮยหลง ทั้งหมดนี้ถูกประทับไว้ในใจของเขาอย่างไม่มีวันลืมอวิ๋นเทียนหาน ใช้ พลังมารที่ฟื้นคืน อย่างสมบูรณ์ของเขา สร้างร่างจริงของตนเองขึ้นมา พลังมารสีม่วงเข้มปกคลุมไปทั่วร่างวิญญาณ ก่อนจะควบรวมกลายเป็น ร่างปีศาจ ที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบที่สุดร่างของเขาสวมอาภรณ์สีดำที่ทอจากพลังมาร อวิ๋นเทียนหาน ในตอนนี้คือ โอรสปีศาจที่ฟื้นคืนชีพ อย่างแท้จริงทว่า การฟื้นคืนในครั้งนี้ต้องแลกด้วยการสละครั้งสำคัญ อวิ๋นเทียนหาน มองไปยังร่างที่หลับใหลของหลิงซินเอ๋อร์ เขาตระหนักว่าเขาไม่สามารถแสดงความอ่อนแอได้อีกต่อไป เขาต้องเข้มแข็งเพื่อปกป้องความเสียสละของนาง‘ข้าจะใช้ความแค้นนำทาง เพื่อไม่ให้ใครกล้าแตะต้องนางได้อีก!’เขายอม สละความอ่อนโยน และ ความรู้สึกที่เปราะบาง ของปีศาจในตัวตนของเข

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status