Share

บทที่ 12 ดาบสยบพยัคฆ์

Author: โม่เชียนซาง
บุรุษชุดสีชมพูในความมืดใช้ศอกผลักชายในชุดสีทองพลางเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “นี่ เจ้าไม่ไปช่วยหน่อยหรือ? รัฐทายาท*แห่งอ๋องเซียวเหยา อย่างน้อยก็พูดสักหน่อยจะเป็นไรไป?”

ปรากฏว่าบุรุษในชุดสีทองไม่ใช่ใครอื่น เขาคือพระโอรสในอ๋องเซียวเหยา นามว่าอวี๋เฟยเหยียน

และคุณชายที่มีลักษณะคล้ายสตรีในชุดสีชมพูที่อยู่ข้าง ๆ ก็คือเย่เทียนซูศิษย์พี่รองของเขา

ทั้งสองเป็นศิษย์น้องร่วมสำนักของซ่างกวนซี

อวี๋เฟยเหยียนกอดอกพลางพูดอย่างเหยียดหยาม “ศิษย์พี่ให้พวกเรามาสังเกตการณ์ ไม่ได้สั่งให้ช่วยใคร แล้วเหตุใดต้องไปยุ่งเรื่องของนางด้วย”

เย่เทียนซูม้วนผมของตัวเอง แสร้งทำเป็นปวดใจและพูดว่า “เฮ้อ แต่นางน่าสนใจจริง ๆ อีกทั้ง... นางก็ดูไม่เหมือนคนอายุสั้นเลย”

“ไม่เมื่อไม่ใช่คนอายุสั้น ก็ไม่จำเป็นต้องให้ข้าหรือเจ้าลงมือ เอาล่ะ ออกจากวังไปรายงานกันเถอะ!” อวี๋เฟยเหยียนเขย่งเท้าทะยานจากไป

เย่เทียนซูหันกลับไปมองเยี่ยนเว่ยฉือ เผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง จากนั้นก็ตามอวี๋เฟยเหยียนไป

ทว่าทันทีที่พวกเขาจากไป พวกเขาก็พลาดการแสดงที่น่ารับชม

เมื่อเห็นอันกั๋วกงเดินเข้ามาทีละก้าวพร้อมกับดาบสยบพยัคฆ์ในมือ เยี่ยนเว่ยฉือก็เท้าเอวตะโกนด้วยความโกรธ “บังอาจนักนะ!”

หืม?

ทุกคนมองไปที่เยี่ยนเว่ยฉือ พลางคิดว่านางอาจหาญไม่เบา

ในราชสำนักใครจะกล้าพูดกับอันกั๋วกงเช่นนี้บ้าง?

เยี่ยนเว่ยฉือไม่สนใจสีหน้าของผู้อื่นและยังคงโกรธต่อไป “ในวังมีกฎเกณฑ์ ไม่ว่าใครก็ห้ามนำอาวุธเข้ามา ทว่าท่านกลับเดินถือดาบเข้ามาอย่างเปิดเผย ท่านคิดจะทำอะไร? ลอบปลงพระชนม์ฝ่าบาทรึ?”

ทันทีที่คำพูดถูกเอ่ยออกมา ฮ่องเต้คังอู่ก็ทรงถอนพระทัยอย่างเหนื่อยหน่าย

ฮองเฮาที่อยู่ด้านข้างยิ้มเยาะ “ไม่รู้ว่าแม่หนูนี่โผล่มาจากไหน ถึงได้ไม่รู้จักดาบสยบพยัคฆ์”

องค์ชายรองซ่างกวนหลีเสริมว่า “ดาบสยบพยัคฆ์นี้เป็นสิ่งฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งแคว้นจิ่วหลีพระราชทานให้ตระกูลอัน ดาบสยบพยัคฆ์ปกป้องแผ่นดิน กษัตริย์ผู้ปราดเปรื่องควบคุมเหล่าขุนนาง ทุกคนต่างรู้ดีว่าดาบสยบพยัคฆ์สามารถนำเข้ามาในวังได้ เด็กน้อยเช่นเจ้าช่างไม่รู้เรื่องอะไรเสียเลย”

เยี่ยนเว่ยฉือตกใจเล็กน้อย ราวกับเพิ่งนึกออกว่ามีเรื่องเช่นนี้จริง ๆ

คงต้องโทษบิดาของนางที่ทอดทิ้งนางไว้ที่หมู่บ้านห่างไกล ดังนั้นนางจึงจำเรื่องราวในเมืองหลวงได้ไม่มากนัก

ไม่ได้ แม้จะพ่ายแพ้แต่ก็ต้องไปต่อให้สุด!

เยี่ยนเว่ยฉือแค่นเสียงเบา ๆ “หึ แล้วอย่างไรเล่า? ราชวงศ์ได้ประทานดาบสยบพยัคฆ์ ให้เพื่อที่ท่านจะได้มาทำอวดเบ่ง? เพื่อให้ท่านทำตัวไร้เกียรติ? หรือเพื่อให้ท่านใช้มันสังหารชายาองค์รัชทายาทกัน? แม้ข้าจะต้องถูกฝังเคียงคู่กับองค์รัชทายาท ก็ต้องรอจนถึงวันทำพิธีฝัง เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะสวมอาภรณ์ที่งดงามทอดกายนอนอย่างมีความสุขเคียงข้างองค์รัชทายาท เหตุใดต้องให้ท่านเป็นคนลงมือสังหารข้าด้วย?”

พูดจบ เยี่ยนเว่ยฉือก็มองไปที่ผางเหออวี้ผู้บัญชาการศาลต้าหลี่และพูดต่อ “ท่านใต้เท้าผาง ท่านช่วยบอกเขาหน่อยได้หรือไม่ว่าโทษสำหรับการสังหารชายาองค์รัชทายาทคืออะไร?”

“เอ่อ...คือ...คือ…” ผางเหออวี้พูดไม่ออก ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง

เยี่ยนเว่ยฉือขมวดคิ้วพลางพูดว่า “ท่านเป็นถึงขุนนางผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ หนึ่งในเสนาบดีทั้งเก้า แต่กลับจำกฎราชสำนักไม่ได้รึ? เช่นนั้นท่านจะมาเป็นขุนนางไปทำไมกัน? กลับบ้านไปทำไร่ไถนาเสียเถิดไป!”

“เจ้า…” ซ่างกวนหลีกำลังจะตำหนิเหยียนเว่ยไท่

เยี่ยนเว่ยฉือกล่าวต่อ “เจ้าอะไรเพคะ? หม่อมฉันเองก็ถือเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของท่าน ทว่าท่านกลับใช้คำพูด เจ้าเจ้าข้าข้า ซึ่งเป็นคำที่ไร้มารยาทกับหม่อมฉัน ไม่ทราบว่าคุณธรรมทั้งแปดประการที่ท่านควรมีหายลงท้องสุนัขไปหมดแล้วรึเพคะ?”

“บังอาจนัก!” อันกั๋วกงเป่าโมโหจนควันออกหู นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เห็นคนที่ไม่ยอมใครเช่นนี้

เยี่ยนเว่ยฉือตะโกนเสียงดังกว่าเดิม “ท่านนั่นแหละที่บังอาจ ข้าคือชายาองค์รัชทายาท ทำตัวไม่สุภาพกับข้าตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรกก็ยังพอทน แต่นี่ยังกล้าเถียงข้า อันกั๋วกง ท่านนี่แก่แล้วแก่เลยจริง ๆ ทำตัวอวดดีไม่พอยังจะทำตัวไม่รู้จักโต! ใครก็ได้ นำตัวบทกฎหมายจิ่วหลีมาให้ข้าที ข้าอยากจะหาด้วยตัวเองว่าจะมอบบทลงโทษอะไรให้แก่ท่านเพื่อจะได้บรรเทาความขุ่นข้องหมองใจของข้า! หึ!”

ทุกคนจ้องมองเยี่ยนเว่ยฉือด้วยความตกตะลึง พลางคิดว่าสตรีผู้นี้บ้าไปแล้ว

ใครจะไม่รู้ว่าอันกั๋วกงมีอำนาจในราชสำนักมากเพียงใด และอิทธิพลของตระกูลอันนั้นก็มีอยู่ทั่วทุกหนแห่งจนแทบจะเกือบควบคุมไว้ทั้งราชสำนัก

ไม่ต้องพูดถึงองค์ชายหรือขุนนางใหญ่คนอื่น ๆ แม้แต่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันก็ยังทรงต้องยอมถอยให้เมื่ออยู่ต่อหน้าอันกั๋วกง

แล้วเยี่ยนเว่ยฉือผู้นี้ไปกินหัวใจหมีและตับเสือมาจากไหนกัน?

ไม่มีใครไปนำบทกฎหมายมาให้เยี่ยนเว่ยฉือ ทุกคนเอาแต่มองไปทางฮ่องเต้คังอู่ที่ยังคงเงียบสงบ

ทว่าฮ่องเต้คังอู่กลับทอดพระเนตรเยี่ยนเว่ยฉือด้วยแววตาชื่นชมอย่างคาดไม่ถึง

เมื่ออันกั๋วกงเห็นท่าทีของฮ่องเต้ เขาก็โมโหขึ้นมา

ใครกล้าทำให้เขาขุ่นเคือง มันผู้นั้นจะต้องถูกประหารชีวิตทันที!

“นางสารเลวปากร้าย วันนี้ข้าจะส่งเจ้าตามไปอยู่กับองค์รัชทายาท ดูสิว่าใครจะกล้าขวาง!”

ยังไม่ทันที่จะพูดจบ เขาเล็งดาบพุ่งไปที่หน้าอกของเยี่ยนเว่ยฉือ!

*รัฐทายาท คือตำแหน่งโอรสซึ่งเป็นผู้สืบทอดฐานันดรศักดิ์อ๋องของบิดา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 430 รินชาขอขมา

    ซ่างกวนซีเห็นดังนั้นก็ยื่นมือไปหานาง "เต๋อซ่วนกงกงอุตส่าห์มาทั้ง ๆ ที่ฝนตก มิเช่นนั้นข้าคงมิให้เจ้าต้องลำบากมาด้วยตนเอง"พูดอีกอย่างก็คือ วันนี้ที่ให้เกียรติก็เพราะเห็นแก่ฝ่าบาท ไม่ใช่ฮองเฮา และยิ่งไม่ใช่เพื่อองค์หญิงเหวินหลิงเยี่ยนเว่ยฉือยิ้มให้องค์หญิงเหวินหลิง จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า วางมือของตนเองบนมือของซ่างกวนซี แล้วนั่งลงด้วยกันจากนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็เอ่ยว่า "เอาล่ะ ข้ามาแล้ว องค์หญิงมีอะไรอยากทำอยากพูดก็รีบทำรีบพูดเถิด ตอนนี้ข้ายังอารมณ์ดีอยู่!"องค์หญิงเหวินหลิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธนางเป็นแก้วตาดวงใจของฝ่าบาทและฮองเฮา เสด็จพี่ทุกคนต่างก็รักใคร่เอ็นดูนาง ไม่เคยต้องลำบากเช่นนี้มาก่อนแต่ใครจะรู้ว่าเยี่ยนเว่ยฉือทำอะไรกับนาง สำนักหมอหลวงทั้งสำนักก็ยังจนปัญญานางคันคะเยอจนแทบจะทนไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน แทบจะข่มตานอนไม่หลับสตรีให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตามากที่สุด นางไม่กล้าเกาแรง ๆ กลัวผิวหนังจะถลอก ได้แต่อดทนไว้ช่วงหลายวันที่ผ่านมา นอกจากกินยานอนหลับแล้วก็แทบจะไม่ได้นอนเลยเมื่อนึกถึงความทุกข์ทรมานที่ตนเองได้รับ องค์หญิงเหวินหลิงก็ข่มความไม่พอใจ

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 429 ขอโทษถึงที่

    ความจริงแล้วซ่างกวนซีไม่ได้พูดโกหก เมื่อคืนหลังจากทั้งสองคนนอนหลับไปแล้ว เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกไม่สบายตัวเพราะสวมเสื้อตัวนอก จึงดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองตลอดเวลาท่านอนของนางก็ไม่ดี พลิกตัวไปมาในขณะที่ซ่างกวนซีใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบมานาน ทำให้เขาเป็นคนนอนไวดังนั้นเยี่ยนเว่ยฉือจึงทำให้เขาไม่ได้นอนหลับตลอดทั้งคืนด้วยความจนใจ ซ่างกวนซีจึงลุกขึ้นมาช่วยเยี่ยนเว่ยฉือถอดเสื้อตัวนอกออก แล้วรอจนกระทั่งนางหลับสนิท จึงได้นอนพักไปครู่หนึ่งเขาไม่ได้นอนหลับสบาย คิดว่าเยี่ยนเว่ยฉือก็คงจะนอนไม่หลับเช่นกันดังนั้นก่อนจะไปประชุมราชสำนักในวันนี้ ซ่างกวนซีจึงสั่งบ่าวรับใช้ไม่ให้ไปรบกวนการพักผ่อนเยี่ยนเว่ยฉือจากนั้นเขาก็บ่นออกมาลอย ๆ ว่า "ถูกเด็กคนนั้นทำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืน" บ่าวรับใช้ได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจผิดไปคิดว่าพระชายาของพวกเขา ถูกองค์รัชทายาททำให้วุ่นวายไปครึ่งค่อนคืนจึงเป็นที่มาของบทสนทนาเมื่อครู่นี้เยี่ยนเว่ยฉือรู้สึกว่าซ่างกวนซีพูดจาไม่ระวังปาก ช่างเหลวไหลสิ้นดี!เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ทำอะไรเลย พูดราวกับว่านางเคยชินเสียแล้ว น่ารังเกียจ!ดังนั้นเมื่อเยี่ยนเว่ยฉือลุกขึ้นออกจากห้อง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 428 ช่างหวานล้ำ! ใช้ชีวิตร่วมกัน

    ซ่างกวนซีไม่เคยฝากความหวังไว้กับผู้อื่นการต่อสู้เพียงลำพังมาหลายปี ทำให้เขาเคยชินกับการแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้ด้วยตัวเองแต่ตอนนี้เมื่อเห็นเยี่ยนเว่ยฉือที่ทั้งโกรธแค้นและมุ่งมั่น เขาก็รู้สึกว่าบางเรื่อง ควรจะเรียนรู้ที่จะแบ่งปันเรื่องน่ายินดีเมื่อพูดออกไป สองคนร่วมยินดีปรีดาเรื่องเศร้าเมื่อพูดออกไป ทั้งสองก็สามารถร่วมแบ่งปันความทุกข์ทำให้ความหวานยิ่งหวานขึ้น ทำให้ความขมลดลงครึ่งหนึ่งซ่างกวนซีลุกขึ้นนั่ง โอบกอดเยี่ยนเว่ยฉือ เขาวางคางไว้บนหูของนาง พูดอย่างอ่อนโยน "ได้ เจ้าช่วยข้า พวกเราจะร่วมกัน ล้างมลทินให้เสด็จแม่ ร่วมกันตามหาน้องสาว"เยี่ยนเว่ยฉือโอบกอดซ่างกวนซีตอบ แล้วพูดต่อ "พวกเราจะร่วมกันถอนพิษให้ท่าน ร่วมกันฉลองวันเกิดอีกหลาย ๆ ปี ร่วมกันกินบะหมี่อายุยืนอีกหลาย ๆ ชาม ใช้ชีวิต…ร่วมกัน"ใช้ชีวิต… ร่วมกัน?ตึกตัก!ตึกตัก!ตึกตัก!ซ่างกวนซีรู้สึกเพียงว่าหัวใจของตนเต้นรัว ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน กำลังโอบกอดหัวใจที่เคยเย็นชาของเขาทำให้หัวใจทั้งดวงของเขาร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคำพูดของเยี่ยนเว่ยฉือที่แท้เมื่อใช้ชีวิตร่วมกัน... สามารถทำเรื่องต่าง

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 427 นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน

    "เป็นนางที่ช่วยพวกท่านไว้หรือ?" เยี่ยนเว่ยฉือถามต่อซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "นางเป็นคนดีมาก นางมัดน้องสาวของข้าไว้แนบอก แบกลูกสาวตัวน้อยของนางไว้บนหลัง แล้วก็จูงมือข้า พยายามหลบหนี แต่นางเป็นเพียงสตรี ทั้งยังต้องดูแลเด็กถึงสามคน จะวิ่งหนีไปได้ไกลสักแค่ไหน? แม้ว่าพวกเราจะพยายามอย่างสุดกำลังแล้ว ก็ยังถูกพวกมือสังหารไล่ตามทัน มือสังหารถือหน้าไม้ ดูท่าทางจะไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิต นางส่งน้องสาวคืนให้ข้า ให้ข้าอุ้มนางแล้ววิ่งไปข้างหน้าโดยไม่ต้องหันกลับมามอง ส่วนนางก็พาลูกสาวตัวน้อยของนาง ถ่วงเวลาพวกมือสังหาร""แต่พวกมือสังหารเห็นได้ชัดว่ามุ่งเป้ามาที่ข้า พวกเขาถูกฮูหยินผู้นั้นรั้งตัวไว้ ไม่สามารถไล่ตามมาได้ จึงยิงหน้าไม้มาที่ข้า ลูกธนูดอกแรกยิงพลาด ไม่ได้คร่าชีวิตข้า เพียงแต่เฉี่ยวแขนของข้าไป เมื่อเห็นว่าลูกธนูดอกที่สองกำลังจะพุ่งเข้าใส่หน้าอก ฮูหยินผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามา โอบกอดข้าแล้วกลิ้งลงไปจากเนินเขาด้วยกัน หลบการโจมตีที่ถึงชีวิตได้""แล้วอย่างไรต่อ? พวกท่านหนีรอดมาได้หรือไม่? ทุกคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?" เยี่ยนเว่ยฉือถามด้วยความเป็นห่วงซ่างกวนซีส่ายหน้าเล็กน้อย "หลังจากกลิ้งลงมาจา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 426 เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ศาลาไป๋หยาง

    เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่า เรื่องเลวร้ายจะต้องเกิดขึ้นระหว่างทางกลับเมืองหลวงเป็นแน่แต่มันเกี่ยวอะไรกับความตะกละ?นางรออย่างใจเย็นให้ซ่างกวนซีพูดต่อไป“เสด็จแม่ทรงทราบว่า ในวังหน้าวังหลัง มีคนมากมายที่ไม่ต้องการให้พวกเราแม่ลูกมีที่ยืน ต่างก็หาวิธีที่จะกำจัดพวกเราให้พ้นทาง เพื่อจะได้เข้ามายึดครองตำแหน่งของเรา ดังนั้นตอนที่ไป พวกเราจึงปิดบังกำหนดการเดินทางตลอดทาง เดินทางทั้งวันทั้งคืน มิได้เปิดโอกาสให้ใครลงมือได้เลย แต่ระหว่างทางกลับ ก็บังเอิญเจอกับเทศกาลตวนอู่ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของข้า”ซ่างกวนซีถอนหายใจ จับมือเยี่ยนเว่ยฉือแน่นขึ้นเขาพูดต่อ “ในวันคล้ายวันเกิดทุกปี เสด็จแม่จะผูกด้ายมงคลให้ข้าด้วยพระองค์เอง และต้มบะหมี่อายุยืนให้ข้าหนึ่งชาม แม้ว่าเสด็จพ่อจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ข้าอย่างยิ่งใหญ่ มีขุนนางมาร่วมงานกันมากมาย แต่สิ่งที่ข้าชอบที่สุด ก็คือบะหมี่อายุยืนที่เสด็จแม่ทำด้วยพระองค์เอง ก็เพราะบะหมี่อายุยืนชามนี้นี่เอง ที่ทำให้พวกเราแม่ลูกต้องแยกจากกันตลอดกาล”จากคำบรรยายของซ่างกวนซีขบวนเสด็จของฮองเฮากลับวังหลวง ใช้เวลาเดินทางสองวันหนึ่งคืนในช่วงเย็นของวันตวนอู่ พวกเขาเดินทางมา

  • ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท   บทที่ 425 ซ่างกวนซีเผยความในใจ

    ซ่างกวนซีคาดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยนเว่ยฉือจะถามคำถามเช่นนี้ออกมาชั่วขณะหนึ่งสมองของเขาแทบจะหยุดทำงานเด็กคนนี้...ช่างทำให้คนไปไม่เป็นเก่งเสียจริงการยั่วเย้าคนโดยไม่แสดงออก นับว่าเป็นเสน่ห์ที่สะกดหัวใจที่สุดกระมัง?ซ่างกวนซีอยากจะพูดต่อ แต่เมื่อเห็นปิ่นหางหงส์ ก็พลันตระหนักถึงภาระหน้าที่บนบ่าและวันตายที่ไม่อาจรู้ได้เขาไม่อยากดึงเยี่ยนเว่ยฉือเข้ามาในวังวนนี้แต่ก็ไม่อยากผลักไสนางออกไปโดยง่ายช่างเถอะ ทนอีกหน่อยแล้วกันบางทีพรุ่งนี้เขาอาจจะหามัจฉาทองคำจิ่วหยางเจอก็ได้?ซ่างกวนซีจับมือเยี่ยนเว่ยฉือขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า “เว่ยฉือ ข้าติดค้างคำขอโทษเจ้า”“ขอโทษ?” เยี่ยนเว่ยฉืองุนงงซ่างกวนซีพยักหน้า “วันเทศกาลตวนอู่ ข้าไม่ควรจะทำอาหารที่เจ้าอุตส่าห์เตรียมอย่างตั้งใจพัง ข้าผิดเอง”ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง เยี่ยนเว่ยฉือยิ้ม “ฝ่าบาทไม่ได้ชดเชยให้ข้าในวันรุ่งขึ้นแล้วหรือ ข้าไม่ได้ใส่ใจแล้ว”ซ่างกวนซีดึงนางลงไปนอนด้วยกัน โอบกอดนางเบา ๆ แล้วกล่าวต่อ “ที่ข้าไม่กินอะไรในวันตวนอู่ ก็เพราะว่าเมื่อสิบหกปีก่อน เป็นเพราะความตะกละของข้าเอง ทำให้เสด็จแม่ของข้าต้องสิ้นพระชนม์ และทำให้น้องสาวที่เพิ่งเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status