ホーム / รักโบราณ / ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ / ตอนที่ 9 ความลับที่ต้องถูกเก็บงำ

共有

ตอนที่ 9 ความลับที่ต้องถูกเก็บงำ

last update 最終更新日: 2025-06-23 19:51:38

“พระองค์ หม่อมฉันมีอีกเรื่องที่อยากจะทูลขอเพคะ” 

ฮองเฮาทรงเลิกพระขนงขึ้นเล็กน้อย “ว่ามาสิ”

ไป๋ลี่เยว่สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนเงยหน้าขึ้นสบพระเนตรของฮองเฮาอย่างกล้าหาญ

“ขอพระองค์ ได้โปรดเมตตา อย่าได้บอกใครเรื่องที่หม่อมฉันตั้งครรภ์ได้หรือไม่เพคะ”

บรรยากาศภายในตำหนักเย็นเงียบงันในทันที เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคน หงเหมยที่ยืนอยู่ข้างๆ อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ส่วนนางกำนัลของฮองเฮาก็หันมองกันด้วยความงุนงง ไป๋ลี่เยว่ยังคงเงยหน้าสบสายพระเนตรของฮองเฮา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแน่วแน่

ฮองเฮาทรงมองนางนิ่ง พระขนงขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

“เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดสิ่งใดอยู่” พระสุรเสียงแผ่วเบาแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ

ไป๋ลี่เยว่พยักหน้า นางกำมือแน่นเพื่อระงับความสั่นไหวในใจ “เพคะ”

“เจ้าเป็นพระชายาขององค์ชายสาม ทายาทในครรภ์ของเจ้าก็คือเชื้อพระวงศ์ของต้าเฉิง” ฮองเฮาตรัสชัดถ้อยชัดคำ 

“หากเรื่องนี้แพร่ออกไป เจ้าจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ได้รับสิทธิ์ของพระชายาสามเต็มที่ แล้วเหตุใดเจ้าถึงต้องการปิดบัง”

ไป๋ลี่เยว่เม้มริมฝีปากแน่น นางสูดลมหายใจลึกเข้า ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“หม่อมฉัน ไม่ต้องการพึ่งพาองค์ชายสามเพคะ”

ดวงเนตรของฮองเฮาวาววับขึ้นมาทันที พระนางทรงจับจ้องไปยังสตรีที่ถูกทอดทิ้งตรงหน้า ดูเหมือนนางจะประเมินไป๋ลี่เยว่ต่ำเกินไป

“เจ้ารักเขา แต่กลับไม่ต้องการให้เขารับรู้ว่ามีทายาทกับเจ้า อย่างนั้นหรือ เพราะเหตุใดกัน”

“เพราะหม่อมฉันไม่ต้องการให้เขารับผิดชอบเพียงเพราะหน้าที่ หรือเพียงเพราะความเหมาะสมเพคะ”

ไป๋ลี่เยว่หยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่ออย่างมั่นคง “และหม่อมฉันไม่ต้องการให้ลูกของหม่อมฉันเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกว่าเป็นเพียงภาระที่ถูกฝืนให้ยอมรับเพคะ”

ฮองเฮาทรงนิ่งไป ดวงพระเนตรจับจ้องไปที่ไทจื่อเฟยตรงหน้า   “เจ้าเกลียดเขาหรือ”

ไป๋ลี่เยว่สั่นศีรษะ “ไม่เพคะ”

“เช่นนั้น เจ้ายังรักเขาอยู่หรือ”

ไป๋ลี่เยว่ชะงักงัน ใจของนางสั่นไหววูบหนึ่ง นางหลุบตาลงก่อนจะแค่นยิ้มบางๆ

“หม่อมฉันเคยคิดว่าความรักของหม่อมฉันมีค่า และงดงาม แต่หลังจากคืนวันแต่งงาน หม่อมฉันก็เข้าใจแล้วเพคะ ว่าองค์ชายไม่เคยเห็นหม่อมฉันอยู่ในสายตา ตอนนี้ ความรักสำหรับหม่อมฉัน มันหมดความหมายไปแล้วเพคะ ”

“และหม่อมฉันไม่ต้องการให้ลูกของหม่อมฉันต้องเติบโตขึ้นมาโดยต้องรอคอยความรักจากบิดาเพคะ” นางกล่าวหนักแน่น 

“หม่อมฉันจะเลี้ยงดูเขาเอง ให้เขามีชีวิตที่มีความสุขเพคะ”

ฮองเฮาทรงมองนางนิ่งนาน ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

“เจ้าเป็นสตรีที่น่าสนใจยิ่งนัก” พระนางตรัสขึ้นมาลอยๆ

“ตั้งแต่เจ้าขอสมรสพระราชทานตบแต่งเข้าวังมา ข้ามิเคยได้ยินเจ้าทูลขอสิ่งใดเลย แต่วันนี้ เจ้ากลับมาขอให้ข้าปิดบังเรื่องที่เจ้ามีรัชทายาท”

ไป๋ลี่เยว่ก้มหน้าลงอย่างเคารพ “เพคะ ขอพระองค์โปรดเมตตา”

“หากข้าปิดเรื่องนี้ แล้ววันหนึ่งองค์ชายสามรู้ความจริงขึ้นมา เจ้าคิดหรือว่าเขาจะให้อภัยเจ้า”

ไป๋ลี่เยว่นิ่งไปก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว “หม่อมฉันไม่สนใจเพคะ”

“ไม่สนใจหรือ”

“เพคะ เพราะถึงอย่างไร หม่อมฉันก็ไม่ใช่คนสำคัญของพระองค์”

ฮองเฮาทรงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง พลาง จ้องมองนางอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะคลี่ยิ้มบางที่ยากจะคาดเดา 

“เหตุใดเจ้าคิดว่าเราจะยอมตามคำขอของเจ้า”

ไป๋ลี่เยว่เงยหน้าขึ้นสบพระเนตรของฮองเฮาอย่างไม่หวาดหวั่น นางรู้ดีว่าพระนางทรงฉลาดล้ำลึกและมองการณ์ไกล หากต้องการให้นางเปิดเผยเรื่องนี้ พระนางย่อมมีอำนาจพอที่จะทำเช่นนั้นได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ไป๋ลี่เยว่มั่นใจ 

“เพราะพระองค์เองก็ต้องการให้เขาเรียนรู้บทเรียนนี้เพคะ เช่นเดียวกับหม่อมฉันเพคะ”

ดวงเนตรของฮองเฮาสั่นไหววูบหนึ่ง ก่อนพระนางจะหัวเราะเบาๆ “เจ้านี่ฉลาดกว่าที่ข้าคิดเสียอีก”

ไป๋ลี่เยว่ก้มหน้าลงอย่างนอบน้อม “หม่อมฉันเพียงแต่เข้าใจว่าหากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ท่านอ๋องอาจถูกบังคับให้แสดงความรับผิดชอบ และพระองค์เองก็ทรงทราบดีว่า สิ่งใดที่ถูกบังคับ ย่อมไม่เกิดผลดีเพคะ”

นางสูดลมหายใจลึกก่อนจะกล่าวต่อ “หม่อมฉันจึงขอให้พระองค์เมตตา เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ”

ฮองเฮาทรงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตรัสขึ้นช้าๆ “เจ้าคิดถูกแล้ว”

ไป๋ลี่เยว่เงยหน้าขึ้นมองพระนางด้วยความประหลาดใจ

ฮองเฮาทรงทอดพระเนตรออกไปนอกหน้าต่าง พระพักตร์สงบนิ่ง แต่ในแววตามีประกายเฉียบคม

“เจิ้งหยางเป็นพระโอรสของเรา แต่เขาก็ยังเป็นบุรุษที่เย่อหยิ่งและไม่เห็นค่าของผู้อื่น” พระนางตรัสด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง 

“บางที ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องเรียนรู้ว่า การสูญเสียบางสิ่งไป อาจเจ็บปวดยิ่งกว่าการไม่เคยได้รับมันมาแต่แรก”

ไป๋ลี่เยว่ชะงัก หัวใจของนางเต้นแรงขึ้น “พระองค์ หมายความว่า”

พระนางทอดถอนพระทัยเบาๆ ก่อนจะหันมามองไป๋ลี่เยว่ “เจ้าวางใจได้ ข้าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ” พระนางตรัสเสียงเรียบ 

ฮองเฮาทรงหันกลับมาสบตานาง แววพระเนตรเย็นชาแต่เปี่ยมไปด้วยแผนการ

“องค์ชายสามต้องเรียนรู้ ว่าความรักที่เขามองข้ามไปนั้น มีค่าเพียงใด” พระนางตรัสช้าๆ

“หากเขาไม่เห็นค่าเจ้า เราก็จะทำให้เขาต้องการเจ้า”

ไป๋ลี่เยว่เบิกตากว้าง นางมิใช่คนอ่อนแอ แต่นางก็ไม่เคยคิดจะใช้แผนการใดๆ เพื่อนำพาพระสวามีกลับคืนมา

“หม่อมฉัน ไม่คิดจะบังคับให้เขากลับมาเพคะ” นางกล่าวเสียงแผ่ว

ฮองเฮาทรงแย้มพระโอษฐ์ “มิใช่การบังคับ แต่เป็นการทำให้เขาตระหนักถึงสิ่งที่เขาทอดทิ้งไป”

พระนางทอดถอนพระทัยเบาๆ ก่อนจะตรัสต่อ “ข้าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเรา แต่เจ้าต้องให้ข้ามาเยี่ยมหลานข้าได้บ่อยๆ”

ไป๋ลี่เยว่รู้สึกเหมือนก้อนหินหนักอึ้งในใจถูกยกออก นางซาบซึ้งใจจนต้องคุกเข่าลง “ขอบพระทัยเพคะ ฮองเฮา”

พระนางทอดพระเนตรนางด้วยสายตาอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะตรัสขึ้นเบาๆ “แต่ข้าจะให้คนของตำหนักของข้าคอยดูแลเจ้าจากเงามืด เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้ากับหลานของข้าจะปลอดภัย”

ไป๋ลี่เยว่ายิ้มบางๆ “เพคะ หม่อมฉันซาบซึ้งยิ่งนัก”

ฮองเฮาทรงพยักพระพักตร์ ก่อนจะจ้องมองนางอย่างลึกซึ้ง

“เจ้าจะเลี้ยงดูลูกคนเดียวได้หรือ”

ไป๋ลี่เยว่ลูบหน้าท้องของตนเอง รอยยิ้มของนางอ่อนโยน

“เพคะ หม่อมฉันมั่นใจ”

ดวงเนตรของพระนางฉายแววพึงพอใจ ก่อนพระนางจะลุกขึ้นประทับยืน

“ดี เช่นนั้นจงจำไว้ว่า ข้าอยู่ข้างเจ้า”

ไป๋ลี่เยว่เงยหน้าขึ้นมองพระนาง ดวงตาของไป๋ลี่เยว่สั่นไหว นางมิใช่หญิงอ่อนแอ แต่เมื่อนางได้รับความเมตตาจากฮองเฮา นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื้นตัน นางสูดลมหายใจลึก

“ขอบพระทัยเพคะ ฮองเฮา”

“เรียกข้าว่า เสด็จแม่เถิด”

“ขอบพระทัยเพคะ เสด็จแม่”

ฮองเฮาทรงแย้มพระโอษฐ์ ก่อนจะตรัสด้วยพระสุรเสียงแฝงเล่ห์

“จงรอดูเถิด ไป๋ลี่เยว่ สักวันหนึ่ง เจิ้งหยางจะเป็นฝ่ายกลับมาร้องขอเจ้าเอง”

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 251 มิตรภาพท้ายหอจี้จิ่ว

    ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ของการแก่งแย่งช่วงชิงวาสนาในแถวหน้า เด็กชายผู้หนึ่งที่มีรูปร่างโปร่งบาง ใบหน้าแลดูอ่อนแอคล้ายคนขี้โรค กลับหยุดฝีเท้าลงอย่างโดดเดี่ยวกลางหอจี้จิ่ว เขาสวมชุดบัณฑิตสีครามที่ซีดจางจนแทบกลืนไปกับเงา ทว่าสะอาดสะอ้าน ไร้เครื่องหยกประดับประดา ไร้ดิ้นทองประชันบารมี ดวงตาคมใสทอดมองไปยังที่นั่งข้างกายพระธิดาเพียงชั่วอึดใจ ก่อนจะถอนหายใจแผ่วเบาราวรำคาญใจในความวุ่นวายนั้น แล้วหันหลังให้แถวหน้า เดินมุ่งตรงสู่มุมอับท้ายห้องอย่างแน่วแน่... ไม่ไยดีต่อสายตาผู้ใด เสียงฝีเท้าสม่ำเสมอและแผ่วเบาจนเกือบไร้ร่องรอย หยุดลงที่ข้างโต๊ะหนึ่ง หลงจิ่นอวิ๋นเงยหน้าขึ้นเพียงนิด สายตาสองคู่สบประสานกันในความเงียบ...ไร้ถ้อยคำ ไร้การหยั่งเชิง แววตาหนึ่งนิ่งลึกประดุจก้นบึ้งธารา อีกแววตาหนึ่งสงบระงับคล้ายเมฆาที่ปล่อยวาง…บรรยากาศรอบข้างพลันเย็นเยียบลงโดยไม่รู้ตัว ผู้มาใหม่ประสานมือคำนับอย่างนอบน้อม“สหายท่านนี้... ข้าขอร่วมอาศัยพื้นที่ตรงนี้ด้วยได้หรือไม่” น้ำเสียงนั้นเรียบง่าย สุภาพ และปราศจากกระแสดูแคลนหลงจิ่นอวิ๋นเพียงพยักหน้าเล็กน้อย เลื่อนตำราของตนออกไปเพื่อให้เกิดช่องว่างพื้นที่ที่พอเหมาะ “เชิญ ต

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 250 การรวมตัวของมังกรจำแลง

    เสียงตีเกราะไม้ดังกังวานก้องลานหยก เป็นสัญญาณรวมตัวของเหล่าบัณฑิตใหม่แห่งกั๋วจื่อเจี้ยน เสียงจ้อกแจ้กจอแจของดรุณน้อยนับร้อยดังกังวานไปทั่ว กลิ่นแป้งและเครื่องหอมชั้นเลิศที่อบมาบนอาภรณ์หรูหรานั้นรุนแรงเสียจนกลบกลิ่นกำยานของสำนักศึกษาไปสิ้นเหล่าคุณชายน้อยต่างอยู่ในชุดอาภรณ์ที่ตัดเย็บอย่างประณีต แม้จะใช้สีและแบบที่คล้ายคลึงกันตามกฎของสำนักศึกษา แต่ความรุ่มรวยก็ถูกที่แสดงออกมาประชันบารมีอย่างเงียบงัน ผ่าน ดิ้นเงิน ดิ้นทอง ที่แทรกอยู่ในชายผ้าไหมแพรพรรณชั้นดี ผ่านหยกมงคลสลักเสลาประณีตห้อยอยู่ที่เอว และเครื่องประดับที่สะท้อนแสงเช้าอย่างจงใจ ราวกับนี่ไม่ใช่การมาศึกษา แต่เป็นการอวดโอ่อำนาจและเกียรติยศของตระกูลเบื้องหลัง ที่ผลักดันบุตรหลานมาที่นี่ เหล่าโป๋ซื่อชั้นผู้น้อยทำได้เพียงเดินกวดขันด้วยความลำบากใจ เพราะบัณฑิตน้อยแต่ละคนล้วนมีสายเลือดสูงส่งจนมิอาจแตะต้องแรง บางคนถือดีและเย่อหยิ่งจากสายเลือด ทำให้การควบคุมเป็นไปอย่างยากลำบาก ทั้งเสียงกระซิบเบา ๆ ดังกระทบอากาศยามเช้าจากอาจารย์ทั้งหลาย “นั่นบุตรชายสกุลหวัง… ได้ยินว่าฮ่องเต้เมตตาเป็นพิเศษ” “คนนั้นสกุลหลี่ รูปโฉมสง่าไม่เบา” “ดูสิ นั่นคุ

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 249 เส้นทางสู่สมรภูมิ

    เขาโอบนางไว้โดยมิเร่ง มิได้รุนแรง ราวกับต้องการจดจำอุณหภูมิของกันและกันให้มากที่สุด ลมหายใจสองสายประสานกันแผ่ว…ก่อนจะหนักขึ้น ผสานเสียงครางกระเส่าจากสัมผัสที่ลึกซึ้งกาลเวลาสองชั่วยามไหลผ่านรวดเร็ว หลงเจิ้งหยางลุกขึ้น รอยยิ้มสุดท้ายยามสวมเกราะนั้นอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เขาจะมอบให้โลกนี้ได้ ก่อนที่ใบหน้าเดียวกันจะกลับกลายเป็นแม่ทัพผู้เกรี้ยวกราดอีกครั้งไป๋ลี่เยว่ลุกขึ้นช่วยพระสวามีแต่งกาย มือเรียวบรรจงผูกสายรัดเกราะ สวมอาภรณ์ออกศึกสีครามเข้มให้อย่างครบถ้วน ดวงหน้างามเงยขึ้นมองใบหน้าคมเข้มตรงหน้า บัดนี้เขามิใช่เพียงพระสวามีอีกต่อไป หากคือยอดขุนพลของแผ่นดิน“ท่านพี่…” นางเอ่ยเสียงเบาๆ“หม่อมฉันเตรียมเครื่องหอมสำหรับสงบจิต และตำราพิชัยสงครามเล่มโปรดไว้ในย่ามแล้วเพคะ ขอให้ทุกย่างก้าวของพระองค์… ล้วนมีชัย”รอยยิ้มบางปรากฏที่มุมปากของไป๋ลี่เยว่ หากแววตากลับเย็นเฉียบ นางรู้ดีการเดินทัพครั้งนี้ มิใช่เพราะแคว้นต้องการแม่ทัพ แต่เพราะมีคนต้องการให้เขาหายไปจากวังหลวง“นี่เครื่องราง หม่อมฉันเตรียมไว้ให้พระองค์เพคะ”หลงเจิ้งหยางชะงัก ก่อนจะรับเครื่องรางหยกขาวสลักลายปลาคู่มาพกไว้ในอก“ท่านพี่… ออกศึกคร

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ    ตอนที่ 248 สองชั่วยามสุดท้าย NC

    ไป๋ลี่เยว่เงยหน้าขึ้นมองหลงเจิ้งหยาง คำขอที่เขาเอ่ยออกมานั้น ไม่ได้เร่าร้อน หากหนักแน่นราวคำสัตย์ของนักรบ ดวงตาของนาง คล้ายมีม่านหมอกแห่งความหวั่นไหวแผ่คลุม แต่เพียงชั่วอึดใจเดียว นางก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ การจากลาด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยม ย่อมดีกว่าการปล่อยให้เขาออกจากวังหลวงไปพร้อมความอ้างว้างที่ไม่มีใครประคอง“เพคะ…ท่านพี่”เสียงกระซิบเบาราวลมหายใจ ไม่ใช่เพราะเขินอาย หากเพราะรู้ดีว่า…ช่วงเวลานี้ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะต้องจากกันไกล“เวลานี้…มีค่ามากกว่าสมบัติใดในวังหลวง หากเป็นพระประสงค์ของพระองค์ หม่อมฉันย่อมไม่ปฏิเสธ… หลังสิ้นสองยามนี้ หม่อมฉันจะจัดเตรียมเครื่องแต่งกายให้พระองค์เอง”เพียงถ้อยคำสั้นๆ นั้น ก็เหมือนเปลวไฟเงียบที่ลุกโชนในอกของหลงเจิ้งหยาง แม่ทัพผู้แบกทั้งแผ่นดินไว้บนบ่า กลับไม่อาจซ่อนความคิดถึงและความรักที่ซัดขึ้นมาอีกต่อไปเขาฉุดรั้งร่างบางเข้าสู่ห้องบรรทม ขันทีและนางกำนัลที่เฝ้าอยู่รอบนอกต่างก้มหน้าต่ำจนแทบจรดพื้น ไม่มีผู้ใดกล้าเงยหน้าขึ้นมามอง สองชั่วยามของผู้บัญชาการทัพใหญ่ที่จะทุ่มเทให้แก่ความรัก…เป็นความลับที่ตำหนักชิงอวิ๋นจะเก็บรักษาไว้ตลอดกาลประตูห้องบรรทมปิดล

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 247 คำลามิอาจเอ่ย

    ยามเฉินคล้อยผ่านไปไม่นาน บรรยากาศภายในตำหนักชิงอวิ๋นกลับเคร่งขรึมเมื่อประตูตำหนักเปิดออกช้า ๆ เงาร่างสูงทอดยาวลงบนพื้นหยกเย็น แสงอรุณยามสายส่องต้องฉลองพระองค์ที่ยังไม่ทันเปลี่ยน หลงเจิ้งหยางกลับมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ราวแบกรับน้ำหนักที่มองไม่เห็นเขารู้ดีว่า… ตั้งแต่วินาทีที่ก้าวออกจากจวนเมื่อต้นยามเหม่าก่อนอรุณรุ่งที่ผ่านมา จวบจนบัดนี้ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปและเขาไม่มีทางเลือกไป๋ลี่เยว่กำลังยืนรออยู่กลางโถงใหญ่ของตำหนักอย่างกระวนกระวาย นางมิได้ทรุดตัวลงนั่งแม้ขณะรอคอย เมื่อเห็นพระสวามีก้าวเข้ามาตรงหน้า นางก้าวเข้าไปหนึ่งก้าว ก่อนจะโผกายเข้ากอดเขาทันที มิมีน้ำตา มิมีเสียงคร่ำครวญ มีเพียงลมหายใจที่สั่นไหวเล็กน้อยแนบแผงอกเขา ราวกับรับรู้ถึงสถานการณ์นี้มานานแล้ว“พระองค์ …” เสียงของนางแผ่วเบา เหมือนจะถามหลายสิ่ง แต่กลับเอ่ยออกมาได้เพียงเท่านี้หลงเจิ้งหยางกอดพระชายาแน่น อ้อมแขนแข็งแรงรั้งร่างบางไว้ราวกลัวว่านางจะหลุดหายไปพร้อมเงาแสงยามสาย อ้อมกอดนี้… เหมือนต้องการจดจำสัมผัสของนางเอาไว้ให้ตกผลึกอยู่ในหัวใจไปจนกว่าจะกลับมา หรือ… หากไม่มีวันนั้น ก็ให้มันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ได้พกติดตัวไป

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 246 กับดักที่คล้องคอเทพสงคราม

    ณ ห้องทรงพระอักษรของฮ่องเต้หมอกสีเงินจาง ๆ ลอยอ้อยอิ่งเหนือยอดไม้ในสวนหลวง แสงอรุณแรกเพิ่งแตะปลายหลังคาพระราชวัง เงาเรือนไม้สลักทองทอดทาบพื้นเย็นเยียบ ห้องทรงพระอักษรเงียบสงบราวหยดน้ำหยุดนิ่ง องค์ฮ่องเต้ประทับอยู่เบื้องหน้าตั่งทรงพระอักษร พระเนตรหม่นล้า อารมณ์ไม่แจ่มใสนักหลังตรากตรำราชกิจมาตลอดคืนเช้านี้พระองค์ตั้งพระทัยจะใช้เวลาอย่างสงบ เสด็จไปทอดพระเนตร หลงจิ่นอวิ๋น พระนัดดาองค์น้อย ที่กำลังจะเข้าศึกษายังกั๋วจื่อเจี้ยนเป็นวันแรกทว่าชะตากลับไม่ให้ความสงบเกิดขึ้นแม้เพียงลมหายใจเดียว“ฝ่าบาท! เรื่องใหญ่พ่ะย่ะค่ะ!”เสียงฝีเท้าเร่งร้อนดังสนั่นขึ้นด้านนอก ก่อนที่ขันทีหลี่จะถลาเข้ามา คุกเข่าลงแทบเบื้องพระพักตร์ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ใบหน้าซีดเผือดราวเลือดหนีหายทั้งร่าง มือสั่นเทายื่นราชสาส์นผนึกขี้ผึ้งแดงถวายฮ่องเต้เพียงทอดพระเนตรผนึกสีแดงเข้มก็รู้ว่าคือข่าวด่วนระดับหลวงขันทีหลี่รายงานจนเสียงสั่น“ทูลฝ่าบาท…มีราชสาส์นลับผนึกขี้ผึ้งแดง จากกองกำลังตรวจการชายแดนชิงโจว เพิ่งส่งถึงโดยเร่งด่วนพ่ะย่ะค่ะ… ทหารม้าเร็วรายงานว่า ชนเผ่าชิงโจวได้เคลื่อนไหวผิดปกติตั้งแต่ยามโฉ่ว มีการปะทะ ณ ช่องเขาฉา

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status