หลังจากเลิกเรียนภัทรพิชาก็ตรงกลับบ้าน วันนี้ต่างคนต่างก็มีธุระต่อกันหมดก็เลยไม่ได้มีใครชวนใครไปไหน แพรี่ต้องรีบกลับบ้านไปเยี่ยมคุณย่าที่แม่พึ่งโทรมาบอกว่าเข้าโรงพยาบาล และมิรินเองก็ต้องกลับไปช่วยแม่ซื้อของสำหรับเตรียมไปทำบุญวันเกิดพรุ่งนี้ ส่วนอินทุอรก็บอกกับแพรี่ว่ามีนัดทานข้าวกับชีวิน เสร็จแล้วเขาก็จะพาไปดูหนังต่อ ทำเอาทั้งมิรินและแพรี่ต่างก็พากันอิจฉาอินทุอรด้วยกันทั้งนั้น
แต่สำหรับเธอ ภัทรพิชาไม่รู้ว่าสำหรับชีวินแล้วเขาจะรู้สึกกับอินทุอรอย่างไร แต่จากที่ดูท่าทางของอินทุอรเพื่อนของเธอก็คงจะมีอาการหลงใหลได้ปลื้มชีวินอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน สีหน้าและแววตาของอินทุอรบอกได้อย่างชัดเจนว่าเธอนั้นมีความรู้สึกดีแค่ไหนเวลาที่ได้พูดถึงชีวินให้ทุกคนฟัง ยิ่งเวลาที่ถูกแพรี่กับมิรินแกล้งแซว อินทุอรก็จะมีอาการเขินจนหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด ก็อย่างว่า เดือนมหาวิทยาลัยมาจีบทั้งที เป็นใครก็คงจะอดปลื้มอกปลื้มใจไม่ได้
ต่างจากเธอที่ถึงขนาดว่าได้สัมผัสเกือบทุกซอกส่วนในร่างกายเขาอย่างใกล้ชิดมาแล้ว แต่กลับไม่สามารถที่จะแสดงความรู้สึกอะไรใดๆออกมาได้ ทั้งๆที่เธอเอง..ก็แอบชอบเขามาแล้วตั้งนาน
พอเดินเข้าบ้าน ภัทรพิชาก็เห็นว่าแม่ของเธอและชวลิตนั้นแต่งตัวด้วยชุดสูทและชุดราตรีคล้ายกับว่าจะพากันไปออกงานกลางคืน ทั้งสองคนเดินควงแขนกันลงบันไดมาด้วยสีหน้าแช่มชื้น มองไปก็อดที่จะรู้สึกดีไม่ได้ที่เห็นว่าแม่ของเธอนั้นกำลังมีความสุข
"อ้าวยายไพน์กลับมาแล้วเหรอลูก"
"ค่ะแม่ นี่แม่กับลุงเชาว์กำลังจะไปไหนกันเหรอคะถึงได้แต่งตัวกันเสียจนสวยหล่อเชียว"
"อ้อ พอดีวันนี้เป็นวันเกิดเพื่อนสนิทลุงน่ะ ลุงก็เลยกะว่าจะพาแม่ของไพน์ออกไปเปิดหูเปิดตาเสียหน่อย"
"ลุงเชาว์น่ารักจังเลยนะคะ ขอบคุณนะคะที่ดีกับแม่ไพน์"
"ขอบจงขอบใจอะไรกัน ลุงต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณแม่ไพน์ที่ช่วยดูแลลุง"
ภัทรพิชายิ้มให้กับคนทั้งสองและรู้สึกชื่นชมอย่างจริงใจ จะว่าไปมันก็อาจจะดีเหมือนกันที่ชวลิตแต่งงานกับแม่ของเธอ อย่างน้อยทั้งสองคนก็อาจจะเป็นเพื่อนยามเหงา คอยดูแลช่วยเหลือกันในบางคราว ต่างฝ่ายต่างก็มาช่วยเติมเต็มให้อีกฝ่ายได้ นึกไปแล้วก็อยากจะให้ชีวินได้มาเห็นอะไรแบบนี้จัง อย่างน้อยเขาก็จะได้รู้ว่าแม่ของเธอไม่ได้ตั้งใจใช้มารยาสาไถยอะไรมาหลอกล่อพ่อของเขาเลยสักนิด
"แม่ทำกับข้าวเตรียมไว้ให้แล้วไพน์กินได้เลยนะ ไม่ต้องรอแม่กับลุง คืนนี้ลุงเชาว์บอกว่าวันเกิดเพื่อนสนิททั้งที ก็เลยอยากจะไปขอปล่อยแก่สักวัน คงน่าจะกลับดึก"
ภัทรพิชายิ้มขำให้กับคำพูดของผู้เป็นแม่ที่พอพูดจบก็ถูกผู้เป็นสามีมองหน้าก่อนจะส่ายศรีษะยิ้มขำให้กับคำพูดของแม่เธอ ภัทรพิชายืนมองรถยนต์ประจำตัวของชวลิตถูกขับแล่นออกไปจนลับประตูหน้ารั้วก็เดินกลับขึ้นห้องไปเพื่ออาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า เสร็จแล้วถึงจะค่อยกลับลงมากินข้าวฝีมือแม่อีกทีตอนเย็นๆ
พอได้อาบน้ำเย็นตามด้วยเปิดแอร์ฉ่ำๆ อาการง่วงนอนก็เริ่มคืบคลาน ไดร์เป่าผมตัวใหญ่ถูกใช้เป่าผมนุ่มสลวยที่ยาวสยายเต็มหลังจนแห้ง ลงไปจัดการมื้อเย็นที่แม่ทำไว้สักหน่อย แล้วจึงได้กลับขึ้นมาทิ้งตัวลงไปนอนบนที่นอนนุ่มๆของตัวเอง กระทั่งสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะเสียงของข้อความจากโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นมาแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง ภัทรพิชาจึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูด้วยงัวเงีย ก่อนจะเห็นว่าเป็นแม่ของเธอเองที่ส่งรูปถ่ายที่ยืนถ่ายคู่กับชวลิตและคนอื่นๆมา ซึ่งภัทรพิชาเดาว่าคงน่าจะเป็นเหล่าบรรดาเพื่อนๆของชวลิตและผู้ที่เป็นเจ้าของวันเกิดนั่นเอง ที่สำคัญ แม่เธอยังกดแชร์บัญชีในโซเชียลมีเดียของชวลิตที่ลงรูปถ่ายยืนคู่กับแม่เธอที่ถ่ายหน้างานมาแบบรัวๆด้วย จนภัทรพิชาเห็นแล้วก็ได้ยิ้มยินดีกับผู้เป็นแม่ในตอนแรก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกบางอย่างเมื่อได้นึกไปถึงใครบางคนที่อาจจะผ่านเข้ามาเห็นเข้าแล้วกลัวว่าเขาจะเสียใจ ชีวินจะต้องเสียใจแน่ๆถ้าเกิดว่าเขาดันเข้ามาเห็นภาพถ่ายคู่กันของพ่อตัวเองและแม่ของเธอที่ถูกพ่อของเขาโพสต์ลงเอาไว้
ดั่งกับว่ามีญาณหยั่งรู้ได้ว่าเธอกำลังนึกถึงเขาอยู่ ขณะที่ภัทรพิชานึกถึงชีวินเพลินๆ อยู่ๆประตูลูกบิดห้องเธอก็ถูกเปิดออกได้ทั้งๆที่เธอกดล็อกมันแล้ว ยิ่งพอได้เห็นสีหน้าของเขา ใจเธอมันก็สั่นไหวจนแทบควบคุมไม่ได้
"คุณชิน คุณเข้ามาในห้องไพน์ได้ยังไง"
ภัทรพิชาหน้าตื่นตอนที่เห็นว่าใครคือคนที่ยืนชูลูกกุญแจห้องเธออยู่ในมือแล้วเดินก้าวเท้าเข้ามาภายในห้อง มือยืนเล็กรีบหยิบผ้าห่มขึ้นมาปิดบังเนื้อตัวทันที เธอรู้อยู่หรอกว่าชุดที่สวมใส่อยู่ตอนนี้นั้นไม่ได้ดูเรียบร้อยเท่าไหร่ จึงได้จัดการดึงเอาผ้าห่มผืนโตเข้ามากอดไว้ทันทีที่เรือนร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาหา
"ถามอะไรอย่างนั้น นี่มันบ้านฉัน หวังว่าเธอคงยังไม่ลืมหรอกนะว่าเป็นแค่คนอาศัย"
"ไพน์ทราบค่ะว่าตัวเองเป็นใคร แต่อย่างน้อยภายในห้องนี้มันก็เป็นพื้นที่ของไพน์ รบกวนคุณช่วยออกไปด้วยค่ะ"
เพล้ง!
เสียงลูกกุญแจถูกโยนลงไปบนพื้นจนตกกระทบกับอะไรบางอย่างเสียงดังหากแต่ภัทรพิชายังไม่ทันที่จะได้หันไปมอง แต่กลับถูกคนตรงหน้าตรงเข้ามากระชากผ้าห่มที่เธอกอดเอาไว้ไปโยนกองลงข้างๆ ชีวินตรงเข้าไปกระชากแขนเล็กของภัทรพิชาแล้วออกแรงดึงให้ร่างเล็กลอยปลิวเข้ามาปะทะกับหน้าอก แล้วจึงตวัดแขนแกร่งเข้ามากอดในขณะที่ภัทรพิชาหน้าเครียด
"คุณชิน นี่คุณปล่อยไพน์นะคะ"
"ปล่อยทำไม อุตส่าห์มีโอกาสได้อยู่กันสองต่อสอง คืนนี้วันเกิดคุณลุงสมชาย พ่อฉันคงจะกลับดึกแน่ๆ ฉันว่าเรามาหาอะไรสนุกๆทำลับหลังแม่ของเธอที่ป่านนี้คงจะยืนยิ้มหน้าระรื่นอยู่ข้างๆพ่อของฉันกันดีกว่า"
เพียงแค่นั้นใบหน้าของชีวินก็ตรงเข้ามาซุกไซ้ลงไปที่ข้างลำคอขาวผ่องของภัทรพิชาทันที ด้วยความตกใจเธอจึงได้ดิ้นสุดแรงและใช้กำปั้นทุบตีลงไปบนไหล่ใหญ่ แต่ว่าก็ไม่เป็นผล จนในที่สุดเธอก็ถูกผลักให้นอนล้มหงายลงไปบนเตียงฟูกขนาดใหญ่แล้วถูกชีวินกดทาบทับตามลงมา
"ปล่อยไพน์นะคุณชิน คุณไม่ชอบไพน์แล้วทำไมถึงได้ทำแบบนี้กับไพน์อีก ไม่กลัวว่าไพน์จะเอาเรื่องนี้ไปบอกอินทุอรหรือไงว่าคุณทำอะไรกับไพน์ไว้บ้าง"
"หึ กล้าหรือเปล่าล่ะ กล้าเอาไปโพนทะนาว่าเธอถูกฉันทำอะไรต่อมิอะไรไปถึงไหนต่อไหนให้พวกเพื่อนๆเธอฟังหรือเปล่า"
ภัทรพิชาอึกอักเพราะว่าตัวเองก็คงจะไม่กล้าทำอย่างที่พูดเอาไว้จริงๆ จะให้เธออยู่ดีๆเดินไปบอกอินทุอรว่าผู้ชายที่เพื่อนคบอยู่นั้นมีอะไรกับตัวเองก็ดูจะเลวทรามยังไงก็ไม่รู้ พอเห็นว่าเธอเอาแต่เม้มปากเงียบพูดไม่ออก ชีวินก็ยิ่งได้ใจจนต้องยิ้มเยาะเธอออกมา
"หึ ถ้าไม่กล้าก็เงียบปากไว้ ฉันก็แค่อยากทำอะไรสนุกๆลับหลังแม่เธอเท่านั้น ถ้าเธอรักแม่มากก็แลกกันสิ ยอมให้ฉันทำอะไรกับเธอ เพื่อที่แม่เธอจะได้เอาพ่อของฉันไปควงได้อย่างสบายๆ เอาหรือเปล่า"
"ถ้าไพน์ยอมทำ คุณก็จะยอมให้แม่ของไพน์ได้ใช้ชีวิตกับพ่อคุณได้เหรอคะ"
"ก็ขึ้นอยู่กับว่าเธอทำให้ฉันพอใจได้แค่ไหน ปิดปากให้เงียบ แล้วก็ห้ามบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้เด็ดขาด โดยเฉพาะอินทุอร"
"แต่ไพน์กับอินเป็นเพื่อนกัน คุณทำแบบนี้มันเท่ากับว่าบังคับให้ไพน์แทงข้างหลังเพื่อน"
"ช่วยไม่ได้ เรื่องเธอกับอินเป็นเพื่อนกันมันไม่เกี่ยวกับฉัน แต่เรื่องที่ฉันจะเอาเธอ มันเป็นเพราะว่าเธอเป็นลูกของผู้หญิงคนนั้น ถ้าอยากจะให้แม่ตัวเองได้อยู่ในบ้านหลังนี้อย่างสุขสบาย เธอก็ต้องยอม เพื่อเป็นการรับผิดชอบต่อความรู้สึกฉันในสิ่งที่แม่เธอทำลงไป"
"คุณมันบ้าไปแล้ว เห็นแก่ตัว"
"ฉันบ้าได้มากกว่านี้อีกแน่ถ้าขืนเธอยังคุยไม่รู้เรื่อง"
"นานแค่ไหน ที่ไพน์ต้องยอมทำอะไรแบบนี้"
"ก็จนกว่าฉันจะเบื่อ แต่เธอไม่ต้องกลัวหรอก สดๆซิงๆแบบเธอฉันให้เต็มที่ก็แค่สองเดือน ทั้งจืดทั้งซืดไม่มีความตื่นเต้น บอกตามตรง ฉันไม่ถนัด"
"สัญญาได้ไหมคะถ้าไพน์ยอมคุณ คุณจะต้องปล่อยให้พ่อของคุณกับแม่ของไพน์ท่านได้ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข รับปากมาค่ะ"
"ฉันรับปาก ทีนี้ก็แก้ผ้าออกแล้วมานอนอ้าขาให้ฉันลงทัณฑ์เธอเสียดีๆ"
พอเดินลงจากรถลงมาชีวินก็ตรงเข้ามาดึงแขนให้เธอเดินตามเขาเข้าไปในที่แห่งหนึ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคอนโดมิเนียมทั่วไป มือเขาข้างหนึ่งถือถุงกระดาษ ส่วนอีกข้างก็ดึงข้อมือของเธอเอาไว้ จนกระทั่งพาเธอเข้ามาหยุดยืนอยู่ที่ตรงหน้าลิฟท์ ทันใดนั้นถังขยะที่อยู่ใกล้มือก็ถูกเปิดออก ตามด้วยถุงชุดนักศึกษาสองถุงที่เตวิชญ์เป็นคนซื้อให้นั้นถูกยัดลงไปนอนในถังขยะเป็นที่เรียบร้อย"คุณชินนี่คุณทำบ้าอะไร นั่นมันที่พี่ต้าพึ่งซื้อให้ใหม่นะคะ"ด้วยความโมโหจึงทำให้ภัทรพิชาเสียงดังใส่เขา นาทีนี้เธอไม่กลัวเขาแล้ว ถ้าหากว่าชีวินจะกลายเป็นคนนิสัยเสียขึ้นมา อยู่ๆก็มาบังคับให้เธอไปซื้อชุดใหม่ พอมีคนซื้อให้ก็ปาทิ้งขว้างแบบไม่มีเหตุผล"แล้วไง อยากใส่นักหรือไงชุดที่ไอ้ต้าซื้อให้""ก็คุณเป็นคนที่อยากให้ไพน์ไปซื้อใหม่ชุดเองไม่ใช่หรือไง พี่ต้าก็อุตส่าห์ซื้อให้แล้ว อยู่ดีๆจะมาเอาชุดไปเฉยๆแบบนี้คุณบ้าไปแล้วเหรอคะ""ไม่ได้บ้า แต่แค่ไม่อยากให้เธอใส่ เรื่องชุดฉันเป็นคนบอกว่าให้เธอเปลี่ยน เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องเป็นคนซื้อ ถามหน่อยซิว่ามันเกี่ยวอะไรกับไอ้ต้า ใครบอกให้มันเป็นคนเสนอหน้ามาซื้อชุดให้เธอ ไหนจะเรื่องที่เธอนั่งรถมากับไอ้ต้าสอง
ระหว่างทางชีวินไม่ค่อยเป็นอันขับรถนักเมื่อสายตาคอยเอาแต่จ้องมองเข้าไปภายในรถคันข้างหน้าที่มีเตวิชญ์ขับนำอยู่ก่อน ยิ่งพอรถของเตวิชญ์สามารถขับผ่านสัญญาณไฟจราจรไปได้ก่อนที่จะต้องติดไฟแดงเหมือนรถของเขา หัวคิ้วเข้มที่ขมวดยุ่งตั้งแต่ตอนแรกก็ยิ่งผูกเข้ากันเป็นปมยิ่งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว "ดูพี่ต้าสิคะรีบขับพาไพน์เฉียดไฟแดงไปก่อนแบบนั้น สงสัยคงกลัวว่าพี่ชินจะตามทันแล้วไม่มีเวลาได้อยู่กับไพน์" "ไอ้ต้ามันขับรถบ้าอะไรของมัน วิ่งเฉียดไฟแดงไปแบบนี้ไม่รู้หรือไงว่าอันตราย"ชีวินยังตีโพยตีพายโวยวายเรื่องการขับรถของเตวิชญ์ต่อ วินาทีนั้นยอมรับว่าเขาใจหายวาบราวกับคนขวัญอ่อน หากว่าเกิดอะไรกับคนในรถคันนั้นขึ้นมา มีหวังเขาคงจะถูกผู้เป็นบิดาและแม่ของผู้หญิงคนนั้นเอาสืบสาวเอาเรื่องเข้าแน่ๆ จนกระทั่งสัญญาณไฟเขียวปรากฏขึ้นมา คันเร่งของรถบีเอ็มดับเบิลยูก็ถูกเหยียบเร่งตามไปติดๆ หากแต่ว่าเขาขับตามไปไม่ทัน จนไปถึงที่จอดรถในห้าง จึงได้เอาโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรหาเตวิชญ์ทันที หากแต่ไม่มีคนรับ"ไอ้ต้ามันไม่ยอมรับโทรศัพท์ อินลองโทรหามันดูให้หน่อยสิครับ"พอบอกอินทุอรเสร็จ ตัวเองก็เปลี่ยนมากดโทรออกหาภัทรพิชา แต่กลายเป็นว
หลังจากเรียนเสร็จอินทุอรก็ขยั้นขยอให้เธอไปดูหนังพร้อมตัวเองและเตวิชญ์ ภัทรพิชาได้แต่อยากปฏิเสธให้มันจบๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร จะให้บอกเพื่อนไปตรงๆเลยก็ไม่ได้ว่าตัวเธอเองก็กำลังถูกชีวินส่งข้อความมาตามตัวอยู่เหมือนกัน"นะไพน์ ไปดูหนังเป็นเพื่อนฉันกับพี่ต้าหน่อย อุตส่าห์โทรไปชวนพี่ชินเมื่อกี้ แต่พี่ชินดันบอกว่าติดธุระ ไปด้วยไม่ได้สะงั้น เซ็งจัง""เออะ อิน คือว่าฉัน..""แกห้ามปฏิเสธพี่ฉันนะไพน์ บอกไว้ก่อน รู้ไหมว่าพี่ต้าปกติมีแต่สาวๆพากันวิ่งเข้าหา ฉันก็พึ่งเห็นมีวันนี้นี่แหละที่ว่าคุณพี่ชายเทพบุตรสุดหล่อของฉันอยากจะจีบสาว"ภัทรพิชาฟังอินทุอรสาธยายความฮอตของญาติหนุ่มตัวเองแบบคิดว่าน่าจะเชื่อได้ เตวิชญ์ถือว่าเป็นคนที่หน้าตาและบุคลิกดีมากๆคนหนึ่ง การที่อินทุอรบอกว่าเขามีสาวๆวิ่งเข้าหามากมายนั้นมันคงไม่เกินจริงแน่นอน แต่ทำไมเรื่องอะไรแบบนี้มันต้องมาเกิดกับเธอ เตวิชญ์เป็นเพื่อนกับชีวิน ส่วนอินทุอรก็เป็นเพื่อนของเธอ ทุกอย่างมันดูยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด"นี่ยายอิน เราเล่นมาพูดแบบนี้ต่อหน้าไพน์พี่ก็เขินแย่สิ""เขินทำไมล่ะคะพี่ต้า อยากจีบก็บอกว่าอยากจีบสิคะ เอาให้มันแมนๆหน่อย ยอมรับตรงๆไปเล
ภัทรพิชาถูกสั่งให้ขึ้นรถมากับคนที่ชวลิตบอกว่าไม่ยอมให้เธอติดรถมามหาวิทยาลัยด้วย รถของชีวินจอดรออยู่ห่างออกจากบ้านมาไม่ไกลเท่าไหร่ หากแต่เป็นเธอเองที่ไม่ทันได้สังเกตเพราะว่าเอาแต่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองและเขา จนกระทั่งเดินเลยผ่านจึงถูกเขาเรียกและบังคับให้เธอต้องขึ้นรถมาเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูสีดำเทาขับพาเธอทะยานสู่ท้องถนนในตอนเช้า ทุกอย่างดูเร่งรีบและยืดยาดในเวลาเดียวกัน จากที่นั่งเงียบมากันตลอดทาง อยู่ๆมือข้างที่ว่างอยู่ก็วางแหมะลงมาบนต้นขาขาวที่โผล่พ้นกระโปรงนักศึกษาของเธอออกมาในตอนที่รถจอดติดอยู่บนทางด่วน"คุณชิน"ชีวินหันมามองหน้าเธอแล้วยิ้มกึ่งเยาะที่ริมฝีปาก ภัทรพิชาจะรีบปัดมือใหญ่ที่กำลังลูบไล้บนต้นขาของตัวเองให้พ้นไปแต่เจ้าของมันกลับไม่ยินยอม"จับไม่ได้หรือไง""จับทำไมคะ"ภัทรพิชาหน้ายุ่งเพราะรู้ว่าชีวินกำลังจงใจแกล้งยั่วเธออยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะแอบชอบเขาอยู่จนยอมให้เกิดเรื่องราวลึกซึ้งเกินเลยขึ้นก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความชีวินจะทำอะไรกับเธอยังไงตอนไหนก็ได้"อยากจับ เห็นเธอใส่กระโปรงเสียสั้น เวลานั่งทีกระโปรงก็ถลกขึ้นมาจนเห็นขาขาวๆ ฉันก็เลยนึกว่าเธออยากจะใส่มายั่วฉัน""ไ
ภัทรพิชาตื่นขึ้นมาในตอนเกือบหกโมงเช้าเพื่อที่จะไปเตรียมตัวอาบน้ำไปเรียนด้วยอาการงัวเงียเพราะว่านอนไม่เต็มตื่น เมื่อคืนหลังจากที่เอาเปรียบเธอจนพอใจชีวินก็กลับออกไปในตอนตีสี่กว่าๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน ภัทรพิชาจึงทำได้แค่เพียงขยับเปลือกตา พยายามลืมตาขึ้นมาดูตอนที่ชีวินลุกขึ้นไปจากเตียงเท่านั้น และตัวเขาเองก็ไม่ได้หันกลับมามองเธอเลยเช่นกันหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินหอบกระเป๋าลงไปข้างล่าง หางตาเหลือบไปเห็นแม่ของเธอกำลังจัดโต๊ะเตรียมอาหารเช้าเดินเข้าออกครัวอยู่ไวๆ ภัทรพิชาจึงเดินลงไปเห็นชวลิตนั่งอ่านหนังสือพิมพ์และยกกาแฟขึ้นจิบ ก่อนที่สายตาจะมองเลื่อนขยับไปเห็นว่าบนโต๊ะอาหารก็มีชีวินนั่งรออยู่ด้วยและเขากำลังมองมาทางเธอ"แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอไพน์ มากินข้าวต้มหมูสับก่อนสิ แม่ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วพอดี"ภัทรพิชาเดินตามหลังแม่ไปยังโต๊ะอาหารด้วยความรู้สึกหลากหลาย ชวลิตวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วมองเธอลอดผ่านแว่นตามาพร้อมกับยิ้มให้ ในขณะที่ชีวินกลับทำหน้าตึงแล้วตามมาด้วยถ้อยคำถากถางตามแบบฉบับเขา"นี่ลูกสาวคนใหม่ของพ่อเขาชอบตื่นสายแล้วปล่อยให้คนอื่นนั่งรอบนโต๊ะอาหารแบบนี้ประจำเลยเหรอครับ""รอเรออะไรกั
ทันทีที่ถูกฉุดมาให้ลุกขึ้นนั่ง ชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวตัวบางถูกถอดออกจากทางศรีษะ เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เผลอสบตา ริมฝีปากของชีวินก็ตรงเข้ามาครอบลงบนริมฝีปากหวานทันควัน ลิ้นชื้นสอดมุดเข้าไปในโพรงปากนุ่มทันที เขาไม่มีรอจังหวะ ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งของเขาควานบีบคลึงไปบนเต้างามและบนสะโพกกลมกลึง ภัทรพิชายอมปล่อยให้ชีวินสัมผัสทุกอย่างบนร่างกายเธอได้ตามอย่างแต่ใจด้วยการตอบสนองเป็นท่าทางที่แสนจะเงอะงะ ปราศจากความรู้สึกต่อต้าน สองกายกอดรัดฟัดเหวี่ยงเข้าหาในขณะที่คนหนึ่งเปลือยเปล่าแล้ว หากแต่อีกคนยังคงอยู่ในชุดนักศึกษาครบชุด"ถอดเสื้อให้ฉัน"แม้ว่าจะรสจูบของเขาจะมีรสชาติมึนเมาจนเธอสมองเบลอ ลมหายใจคล้ายขาดห้วงจนเกือบจะหายใจหายคอไม่ทัน แต่ภัทรพิชาก็ยังคงพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้างไม่มากก็น้อย สองมือสั่นเทารีบยกขึ้นไปแกะกระดุมเสื้อทีละเม็ดอย่างยากลำบาก เหตุผลก็เป็นเพราะว่ารสจูบที่ชักจะร้อนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อชีวินตั้งใจจูบเอาแบบไม่มีความปราณียิ่งทำให้เธอสติหลุด"กระดุมแค่ไม่กี่เม็ด เธอจะใช้เวลาแกะจนถึงพรุ่งนี้เลยไหมไพน์ ชักช้า เอามือออก งั้นกระดุมเสื้อไม่ต้องละ เปลี่ยนเป็นมาถอดเข็มขัดกับกางเกงให้ฉ