ทันทีที่ถูกฉุดมาให้ลุกขึ้นนั่ง ชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวตัวบางถูกถอดออกจากทางศรีษะ เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เผลอสบตา ริมฝีปากของชีวินก็ตรงเข้ามาครอบลงบนริมฝีปากหวานทันควัน ลิ้นชื้นสอดมุดเข้าไปในโพรงปากนุ่มทันที เขาไม่มีรอจังหวะ ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งของเขาควานบีบคลึงไปบนเต้างามและบนสะโพกกลมกลึง ภัทรพิชายอมปล่อยให้ชีวินสัมผัสทุกอย่างบนร่างกายเธอได้ตามอย่างแต่ใจด้วยการตอบสนองเป็นท่าทางที่แสนจะเงอะงะ ปราศจากความรู้สึกต่อต้าน สองกายกอดรัดฟัดเหวี่ยงเข้าหาในขณะที่คนหนึ่งเปลือยเปล่าแล้ว หากแต่อีกคนยังคงอยู่ในชุดนักศึกษาครบชุด
"ถอดเสื้อให้ฉัน"
แม้ว่าจะรสจูบของเขาจะมีรสชาติมึนเมาจนเธอสมองเบลอ ลมหายใจคล้ายขาดห้วงจนเกือบจะหายใจหายคอไม่ทัน แต่ภัทรพิชาก็ยังคงพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้างไม่มากก็น้อย สองมือสั่นเทารีบยกขึ้นไปแกะกระดุมเสื้อทีละเม็ดอย่างยากลำบาก เหตุผลก็เป็นเพราะว่ารสจูบที่ชักจะร้อนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อชีวินตั้งใจจูบเอาแบบไม่มีความปราณียิ่งทำให้เธอสติหลุด
"กระดุมแค่ไม่กี่เม็ด เธอจะใช้เวลาแกะจนถึงพรุ่งนี้เลยไหมไพน์ ชักช้า เอามือออก งั้นกระดุมเสื้อไม่ต้องละ เปลี่ยนเป็นมาถอดเข็มขัดกับกางเกงให้ฉันแทน"
ยิ่งชีวินพูดมือภัทรพิชาก็ยิ่งสั่น เธอแกะเข็มขัดด้วยสองมือที่สั่นยุกยิกในขณะที่หัวใจของเธอขยุกขยิกยิ่งกว่าเพราะว่าไม่มีสมาธิจากการถูกต้อนปรนเปรอด้วยจูบ ไหนจะนิ้วมือของเขาที่คอยเขี่ยบี้แถวบริเวณยอดทรวงอกไปด้วย จนกระทั่งมันเต่งตูมไปทั้งสองข้าง ทำเอามือน้อยที่สั่นหงึกหงักนั้นสาละวนชนเข้ากับอะไรแข็งๆซึ่งกำลังดุนดันจนแทบจะทะลุกางเกงออกมา
"อุ๊ย ขะ ขอโทษค่ะ"
"ตกใจทำไม เดี๋ยวมันก็เข้าไปอยู่ในตัวเธออยู่ดี"
ภัทรพิชาแกะเข็มขัดและกางเกงออกจนได้ในที่สุด ยามที่กางเกงหลุดจากสะโพกแกร่งของเขาลงไป ท่อนเนื้อที่แข็งจนดันทะลุกางเกงบ็อกเซอร์ข้างในก็ถูทิ่มกับหน้าท้องของเธอจนเสียววูบวาบไปทั่ว ไหนจะหน้าอกที่ถูกดูดกินในตอนนี้ทำเอาพื้นที่ภาคส่วนด้านล่างค่อยๆเปลี่ยนเป็นฉ่ำแฉะจนกระทั่งหลุดคราง
"อื้อ คุณชิน"
ภัทรพิชาใจสั่นปากสั่น ท่าทีกล้าๆกลัวๆทำเอาชีวินเห็นแล้วก็ยิ่งอยากแกล้งเข้าไปใหญ่ เขาจับมือเล็กที่ยังคงสั่นเทานั่นข้างหนึ่งขึ้นมาแล้วลองจับซุกล้วงมันเข้าไปในบ็อกเซอร์ บังคับให้เธอกำรูดท่อนเนื้อที่กำลังผงกหัวสู้มือเอาไว้ ส่วนมือข้างที่ว่างของเขาก็เริ่มสอดมุดหายเข้าไปภายในร่องหลืบที่มีน้ำหวานไหลปริ่มออกมา
"อ๊า"
ภัทรพิชาส่งเสียงตอบโต้อะไรไม่ได้มาก ในเมื่อปากยังคงถูกชีวินตามไล้จูบปล้ำ นิ้วยาวของเขาสอดเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ ส่วนมือข้างที่จับกุมบังคับมือของเธอเอาไว้ก็ชักนำพาให้เธอขยับ จนคราวนี้เป็นชีวินเองที่เป็นฝ่ายหลุดเสียงครางบ้าง
"อื้มไพน์ เสียวว่ะ"
ใบหน้าหล่อเงยหน้าขึ้นหลับตาพริ้มคล้ายกำลังจะต้องการบอกว่าเขากำลังมีความสุข น้ำเสียงซู้ดปากที่ดังซี๊ดซ๊าด พาลทำให้ภัทรพิชาเกิดความหมั่นไส้คนตรงหน้าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ จนกระทั่งถูกผลักให้นอนหงายลงไปบนฟูกที่นอนผืนใหญ่อีกครั้ง เรียวขางามสองข้างของเธอถึงได้ถูกเขาแหวกอ้าออก ก่อนที่ชีวินจะพาตัวตนของตัวเองแทรกเข้ามาอยู่ตรงกลาง
ภัทรพิชาจำเป็นต้องกระถดสะโพกถอยหนีทันทีที่รู้สึกได้ว่ากำลังมีบางอย่างที่มันไม่ถูกต้อง หลังจากที่ชีวินแทรกเข้ามานั่งตรงกลาง ชีวินก็จับท่อนกายแข็งแกร่งถูไถส่วนหัวตรงปลายของมันไปกับร่องเนื้อของเธอที่เริ่มฉ่ำเยิ้มโดยปราศจากอุปกรณ์การป้องกัน
"คุณชิน!"
ถึงแม้ว่าครั้งที่แล้วมันจะเป็นเพียงแค่ครั้งเดียวที่ได้สัมผัสแก่นกายของเขาอย่างลึกซึ้ง แต่ภัทรพิชาก็คิดว่าเธอจำผิวสัมผัสของมันได้ ตอนนั้นเนื้อสัมผัสส่วนนั้นของมันไม่ใช่แบบนี้เสียหน่อย อย่าบอกนะว่าชีวินกำลังคิดจะทำอะไรบ้าๆโดยไม่ยอมใส่ถุงยางอนามัย
"อะไร"
"ถะ ถุงละคะ"
"อยู่นี่ไงในกระเป๋ากางเกง ไม่ต้องกลัวหรอก ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยมีเซ็กซ์โดยที่ไม่ป้องกันเลยสักครั้ง"
"แต่ว่าเมื่อกี้ คุณเอาไอ้นั่นของคุณมาถูไพน์"
"ก็แค่ลองถูนิดเดียว ฉันแค่อยากจะรู้ว่าถ้าเนื้อชนเนื้อแล้วมันจะรู้สึกยังไง ต่างจากตอนที่ต้องใส่ถุงมากไหม ฉันเห็นว่าเธอยังบริสุทธิ์หรอกนะถึงได้ลองแหกกฎเหล็กของตัวเองดู ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าจะเคยมีใครได้สัมผัสน้องชายฉันได้ เธอนี่ระแวงมากจัง ถุงยางก็ใส่เสร็จแล้ว ทีนี้ก็อ้าขาออกให้ฉันกว้างๆเลยไพน์"
"คุณมันไร้ซึ่งความโรแมนติกสิ้นดี"
"ขอโทษที ความโรแมนติกฉันเก็บเอาไว้ใช้กับหวานใจเท่านั้น ส่วนเธอก็แค่เครื่องมือที่ฉันมีเอาไว้ใช้เอาคืนแม่เธอ เห็นฉันเข้ามานอนด้วยแบบนี้ก็ไม่ต้องไปคิดเป็นอย่างอื่นล่ะ"
ภัทรพิชาก้มหน้าก้มตารองรับแรงกระแทกกระทั้นของชีวินที่ใส่เข้ามาอย่างหนักหน่วง โดยที่ไม่สามารถจำแนกแยกแยะได้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกันแน่ เสี้ยวหนึ่งเธอเกิดรู้สึกเหมือนได้เติมเต็มขึ้นมา การได้กอดเขา สัมผัสเนื้อตัวของเขาได้อย่างที่ใจปรารถนานั้นมันคือสิ่งที่เธอโหยหาอยู่ภายในลึกๆ
แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น ถ้อยคำร้ายๆที่พึ่งถูกถ่ายทอดออกมาจากคนที่เธอหวั่นไหวก็ดังก้องขึ้นมาในหัว สิ่งที่ชีวินกำลังทำอยู่สามารถบอกเธอได้อย่างชัดเจนว่าเขาเพียงแค่ต้องการทำลายเธอเพราะแม่ของเธอเท่านั้น เขาไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีใดๆให้เธอเลยและก็คงจะไม่เคยแคร์ด้วยซ้ำ
"คุณชิน นั่นมันเสียงรถของพ่อคุณนี่นา"
ภัทรพิชาหน้าตาตื่นในขณะที่ชีวินยังคงยุ่มย่ามกับร่างกายเธอไม่ห่าง ดูท่าทางชีวินไม่ได้มีความตกใจเลยแม้แต่น้อย หากแต่เป็นเธอที่กลัวที่สุดว่าจะมีใครที่รู้สึกผิดสังเกตว่าวันนี้ทำไมชีวินถึงได้กลับมาที่บ้าน ในขณะที่ร่างกายของทั้งสองคนที่ยังคงสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นมันช่างมีความยากเย็นเหลือเกินที่จะผลักไสเขาออกไป
"แล้วไง"
"ก็คุณก็ต้องหยุดทำแล้วรีบกลับไปห้องนอนของตัวเองเดี๋ยวนี้ไงคะ ไพน์กลัวว่าจะมีใครรู้ว่าคุณมาอยู่ในห้องของไพน์"
"ไม่มีใครเข้ามาได้หรอก ประตูห้องเธอฉันก็กดล็อกเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่เข้ามาแล้ว อีกอย่างคืนนี้ฉันจะไม่กลับออกไปง่ายๆ ตราบใดที่เธอยังไม่ทำให้ฉันพอใจ"
"คุณชิน"
ภัทรพิชาได้แต่ร้องครางเสียงอ่อนตอนที่ถูกชีวินจับกดใบหน้าลงมาจูบและกดสะโพกแกร่งเข้าหาตัวเธอซ้ำๆ จนเธอต้องยกมือขึ้นโอบรอบลำคอของเขาเอาไว้จนแน่นแล้วพยายามกลั้นเสียงของตัวเองไว้ไม่ให้หลุดรอดออกมา ภัทรพิชาได้ยินเสียงแม่ตัวเองคุยกับพ่อของชีวินอยู่ข้างนอกแว่วๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบไป ท่านทั้งสองคงจะกลับเข้าห้องไปพักผ่อนกันแล้ว โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกฝั่งหนึ่งของบ้านมีลูกสาวกับลูกชายตัวเองนอนอยู่ในห้องเดียวกัน
บ้านของชีวินเป็นบันไดขึ้นสองด้าน เลี้ยวขวาจะเป็นทางเดินเชื่อมเพื่อไปยังห้องที่แม่ของเธออยู่ แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะเป็นห้องของชีวินซึ่งช่วงหลังๆมานี้เขาไม่ได้เข้ามาอยู่ หลังจากที่แม่เธอแต่งงานกับชวลิตแล้ว ท่านจึงบอกให้เธอย้ายขึ้นมาอยู่ห้องถัดไปที่อยู่เลยห้องของชีวินไป นั่นหมายความว่าถ้าหากชีวินจะเดินเข้าออกจากห้องของเธอและกลับเข้าห้องของตัวเองไปมันก็จะง่ายแสนง่าย เล่นอยู่กันคนละโซนแบบนี้จ้างให้ก็คงไม่มีใครสังเกตเห็นถ้าไม่เดินอ้อมมาดูจริงๆ
พอเดินลงจากรถลงมาชีวินก็ตรงเข้ามาดึงแขนให้เธอเดินตามเขาเข้าไปในที่แห่งหนึ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายกับคอนโดมิเนียมทั่วไป มือเขาข้างหนึ่งถือถุงกระดาษ ส่วนอีกข้างก็ดึงข้อมือของเธอเอาไว้ จนกระทั่งพาเธอเข้ามาหยุดยืนอยู่ที่ตรงหน้าลิฟท์ ทันใดนั้นถังขยะที่อยู่ใกล้มือก็ถูกเปิดออก ตามด้วยถุงชุดนักศึกษาสองถุงที่เตวิชญ์เป็นคนซื้อให้นั้นถูกยัดลงไปนอนในถังขยะเป็นที่เรียบร้อย"คุณชินนี่คุณทำบ้าอะไร นั่นมันที่พี่ต้าพึ่งซื้อให้ใหม่นะคะ"ด้วยความโมโหจึงทำให้ภัทรพิชาเสียงดังใส่เขา นาทีนี้เธอไม่กลัวเขาแล้ว ถ้าหากว่าชีวินจะกลายเป็นคนนิสัยเสียขึ้นมา อยู่ๆก็มาบังคับให้เธอไปซื้อชุดใหม่ พอมีคนซื้อให้ก็ปาทิ้งขว้างแบบไม่มีเหตุผล"แล้วไง อยากใส่นักหรือไงชุดที่ไอ้ต้าซื้อให้""ก็คุณเป็นคนที่อยากให้ไพน์ไปซื้อใหม่ชุดเองไม่ใช่หรือไง พี่ต้าก็อุตส่าห์ซื้อให้แล้ว อยู่ดีๆจะมาเอาชุดไปเฉยๆแบบนี้คุณบ้าไปแล้วเหรอคะ""ไม่ได้บ้า แต่แค่ไม่อยากให้เธอใส่ เรื่องชุดฉันเป็นคนบอกว่าให้เธอเปลี่ยน เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องเป็นคนซื้อ ถามหน่อยซิว่ามันเกี่ยวอะไรกับไอ้ต้า ใครบอกให้มันเป็นคนเสนอหน้ามาซื้อชุดให้เธอ ไหนจะเรื่องที่เธอนั่งรถมากับไอ้ต้าสอง
ระหว่างทางชีวินไม่ค่อยเป็นอันขับรถนักเมื่อสายตาคอยเอาแต่จ้องมองเข้าไปภายในรถคันข้างหน้าที่มีเตวิชญ์ขับนำอยู่ก่อน ยิ่งพอรถของเตวิชญ์สามารถขับผ่านสัญญาณไฟจราจรไปได้ก่อนที่จะต้องติดไฟแดงเหมือนรถของเขา หัวคิ้วเข้มที่ขมวดยุ่งตั้งแต่ตอนแรกก็ยิ่งผูกเข้ากันเป็นปมยิ่งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว "ดูพี่ต้าสิคะรีบขับพาไพน์เฉียดไฟแดงไปก่อนแบบนั้น สงสัยคงกลัวว่าพี่ชินจะตามทันแล้วไม่มีเวลาได้อยู่กับไพน์" "ไอ้ต้ามันขับรถบ้าอะไรของมัน วิ่งเฉียดไฟแดงไปแบบนี้ไม่รู้หรือไงว่าอันตราย"ชีวินยังตีโพยตีพายโวยวายเรื่องการขับรถของเตวิชญ์ต่อ วินาทีนั้นยอมรับว่าเขาใจหายวาบราวกับคนขวัญอ่อน หากว่าเกิดอะไรกับคนในรถคันนั้นขึ้นมา มีหวังเขาคงจะถูกผู้เป็นบิดาและแม่ของผู้หญิงคนนั้นเอาสืบสาวเอาเรื่องเข้าแน่ๆ จนกระทั่งสัญญาณไฟเขียวปรากฏขึ้นมา คันเร่งของรถบีเอ็มดับเบิลยูก็ถูกเหยียบเร่งตามไปติดๆ หากแต่ว่าเขาขับตามไปไม่ทัน จนไปถึงที่จอดรถในห้าง จึงได้เอาโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรหาเตวิชญ์ทันที หากแต่ไม่มีคนรับ"ไอ้ต้ามันไม่ยอมรับโทรศัพท์ อินลองโทรหามันดูให้หน่อยสิครับ"พอบอกอินทุอรเสร็จ ตัวเองก็เปลี่ยนมากดโทรออกหาภัทรพิชา แต่กลายเป็นว
หลังจากเรียนเสร็จอินทุอรก็ขยั้นขยอให้เธอไปดูหนังพร้อมตัวเองและเตวิชญ์ ภัทรพิชาได้แต่อยากปฏิเสธให้มันจบๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร จะให้บอกเพื่อนไปตรงๆเลยก็ไม่ได้ว่าตัวเธอเองก็กำลังถูกชีวินส่งข้อความมาตามตัวอยู่เหมือนกัน"นะไพน์ ไปดูหนังเป็นเพื่อนฉันกับพี่ต้าหน่อย อุตส่าห์โทรไปชวนพี่ชินเมื่อกี้ แต่พี่ชินดันบอกว่าติดธุระ ไปด้วยไม่ได้สะงั้น เซ็งจัง""เออะ อิน คือว่าฉัน..""แกห้ามปฏิเสธพี่ฉันนะไพน์ บอกไว้ก่อน รู้ไหมว่าพี่ต้าปกติมีแต่สาวๆพากันวิ่งเข้าหา ฉันก็พึ่งเห็นมีวันนี้นี่แหละที่ว่าคุณพี่ชายเทพบุตรสุดหล่อของฉันอยากจะจีบสาว"ภัทรพิชาฟังอินทุอรสาธยายความฮอตของญาติหนุ่มตัวเองแบบคิดว่าน่าจะเชื่อได้ เตวิชญ์ถือว่าเป็นคนที่หน้าตาและบุคลิกดีมากๆคนหนึ่ง การที่อินทุอรบอกว่าเขามีสาวๆวิ่งเข้าหามากมายนั้นมันคงไม่เกินจริงแน่นอน แต่ทำไมเรื่องอะไรแบบนี้มันต้องมาเกิดกับเธอ เตวิชญ์เป็นเพื่อนกับชีวิน ส่วนอินทุอรก็เป็นเพื่อนของเธอ ทุกอย่างมันดูยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด"นี่ยายอิน เราเล่นมาพูดแบบนี้ต่อหน้าไพน์พี่ก็เขินแย่สิ""เขินทำไมล่ะคะพี่ต้า อยากจีบก็บอกว่าอยากจีบสิคะ เอาให้มันแมนๆหน่อย ยอมรับตรงๆไปเล
ภัทรพิชาถูกสั่งให้ขึ้นรถมากับคนที่ชวลิตบอกว่าไม่ยอมให้เธอติดรถมามหาวิทยาลัยด้วย รถของชีวินจอดรออยู่ห่างออกจากบ้านมาไม่ไกลเท่าไหร่ หากแต่เป็นเธอเองที่ไม่ทันได้สังเกตเพราะว่าเอาแต่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองและเขา จนกระทั่งเดินเลยผ่านจึงถูกเขาเรียกและบังคับให้เธอต้องขึ้นรถมาเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูสีดำเทาขับพาเธอทะยานสู่ท้องถนนในตอนเช้า ทุกอย่างดูเร่งรีบและยืดยาดในเวลาเดียวกัน จากที่นั่งเงียบมากันตลอดทาง อยู่ๆมือข้างที่ว่างอยู่ก็วางแหมะลงมาบนต้นขาขาวที่โผล่พ้นกระโปรงนักศึกษาของเธอออกมาในตอนที่รถจอดติดอยู่บนทางด่วน"คุณชิน"ชีวินหันมามองหน้าเธอแล้วยิ้มกึ่งเยาะที่ริมฝีปาก ภัทรพิชาจะรีบปัดมือใหญ่ที่กำลังลูบไล้บนต้นขาของตัวเองให้พ้นไปแต่เจ้าของมันกลับไม่ยินยอม"จับไม่ได้หรือไง""จับทำไมคะ"ภัทรพิชาหน้ายุ่งเพราะรู้ว่าชีวินกำลังจงใจแกล้งยั่วเธออยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะแอบชอบเขาอยู่จนยอมให้เกิดเรื่องราวลึกซึ้งเกินเลยขึ้นก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความชีวินจะทำอะไรกับเธอยังไงตอนไหนก็ได้"อยากจับ เห็นเธอใส่กระโปรงเสียสั้น เวลานั่งทีกระโปรงก็ถลกขึ้นมาจนเห็นขาขาวๆ ฉันก็เลยนึกว่าเธออยากจะใส่มายั่วฉัน""ไ
ภัทรพิชาตื่นขึ้นมาในตอนเกือบหกโมงเช้าเพื่อที่จะไปเตรียมตัวอาบน้ำไปเรียนด้วยอาการงัวเงียเพราะว่านอนไม่เต็มตื่น เมื่อคืนหลังจากที่เอาเปรียบเธอจนพอใจชีวินก็กลับออกไปในตอนตีสี่กว่าๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน ภัทรพิชาจึงทำได้แค่เพียงขยับเปลือกตา พยายามลืมตาขึ้นมาดูตอนที่ชีวินลุกขึ้นไปจากเตียงเท่านั้น และตัวเขาเองก็ไม่ได้หันกลับมามองเธอเลยเช่นกันหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินหอบกระเป๋าลงไปข้างล่าง หางตาเหลือบไปเห็นแม่ของเธอกำลังจัดโต๊ะเตรียมอาหารเช้าเดินเข้าออกครัวอยู่ไวๆ ภัทรพิชาจึงเดินลงไปเห็นชวลิตนั่งอ่านหนังสือพิมพ์และยกกาแฟขึ้นจิบ ก่อนที่สายตาจะมองเลื่อนขยับไปเห็นว่าบนโต๊ะอาหารก็มีชีวินนั่งรออยู่ด้วยและเขากำลังมองมาทางเธอ"แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอไพน์ มากินข้าวต้มหมูสับก่อนสิ แม่ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วพอดี"ภัทรพิชาเดินตามหลังแม่ไปยังโต๊ะอาหารด้วยความรู้สึกหลากหลาย ชวลิตวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วมองเธอลอดผ่านแว่นตามาพร้อมกับยิ้มให้ ในขณะที่ชีวินกลับทำหน้าตึงแล้วตามมาด้วยถ้อยคำถากถางตามแบบฉบับเขา"นี่ลูกสาวคนใหม่ของพ่อเขาชอบตื่นสายแล้วปล่อยให้คนอื่นนั่งรอบนโต๊ะอาหารแบบนี้ประจำเลยเหรอครับ""รอเรออะไรกั
ทันทีที่ถูกฉุดมาให้ลุกขึ้นนั่ง ชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวตัวบางถูกถอดออกจากทางศรีษะ เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เผลอสบตา ริมฝีปากของชีวินก็ตรงเข้ามาครอบลงบนริมฝีปากหวานทันควัน ลิ้นชื้นสอดมุดเข้าไปในโพรงปากนุ่มทันที เขาไม่มีรอจังหวะ ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งของเขาควานบีบคลึงไปบนเต้างามและบนสะโพกกลมกลึง ภัทรพิชายอมปล่อยให้ชีวินสัมผัสทุกอย่างบนร่างกายเธอได้ตามอย่างแต่ใจด้วยการตอบสนองเป็นท่าทางที่แสนจะเงอะงะ ปราศจากความรู้สึกต่อต้าน สองกายกอดรัดฟัดเหวี่ยงเข้าหาในขณะที่คนหนึ่งเปลือยเปล่าแล้ว หากแต่อีกคนยังคงอยู่ในชุดนักศึกษาครบชุด"ถอดเสื้อให้ฉัน"แม้ว่าจะรสจูบของเขาจะมีรสชาติมึนเมาจนเธอสมองเบลอ ลมหายใจคล้ายขาดห้วงจนเกือบจะหายใจหายคอไม่ทัน แต่ภัทรพิชาก็ยังคงพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้างไม่มากก็น้อย สองมือสั่นเทารีบยกขึ้นไปแกะกระดุมเสื้อทีละเม็ดอย่างยากลำบาก เหตุผลก็เป็นเพราะว่ารสจูบที่ชักจะร้อนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อชีวินตั้งใจจูบเอาแบบไม่มีความปราณียิ่งทำให้เธอสติหลุด"กระดุมแค่ไม่กี่เม็ด เธอจะใช้เวลาแกะจนถึงพรุ่งนี้เลยไหมไพน์ ชักช้า เอามือออก งั้นกระดุมเสื้อไม่ต้องละ เปลี่ยนเป็นมาถอดเข็มขัดกับกางเกงให้ฉ