ผู้จัดการรู้สึกงุนงงจากการโดนตบเธอนั่งอยู่ที่พื้นและมองออร่าด้วยความว่างเปล่า “ออร่า คุณเป็นคนสั่งให้ฉันทำ…”แล้วทำไมตอนนี้มันถึงได้กลายมาเป็นความผิดของเธอล่ะ?“ฉันบอกให้คุณทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?” ออร่าตบหน้าผู้จัดการตัวเองอีกครั้ง “ฉันบอกคุณแล้วว่าอย่าทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ อย่าทำสิ่งที่ตื้นเขินเช่นนี้ แต่คุณก็ยังปฏิเสธที่จะฟังฉัน!”จากนั้นออร่าก็มองโจชัวด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า “พี่โจชัว ลูน่า ฉันขอโทษที่ดูแลผู้จัดการตัวเองไม่ดีพอ พวกคุณจะเกลียดฉันเท่าที่พวกคุณต้องการเลยก็ได้ ฉันจะยอมรับมันเอง”เธอเช็ดน้ำตา "ขอบคุณพวกคุณทุกคน ถ้าพวกคุณมาไม่ทันเวลา ฉันคงจะไม่รู้ว่าเธอใช้คอมพิวเตอร์ของฉันทำเรื่องแบบนี้!”ลูน่าอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะกับทักษะการแสดงอันยอดเยี่ยมของออร่าโจชัวขมวดคิ้วเล็กน้อย “เธอไม่ได้สังเกตเห็นเลยสักนิดเหรอว่าเขาใช้คอมพิวเตอร์ของเธอทำเรื่องแบบนี้?”“ไม่เลยค่ะ” ออร่าพูดด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “คุณก็น่าจะรู้ดีว่าฉันไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยี สำหรับฉัน คอมพิวเตอร์เป็นเพียงอุปกรณ์ที่ฉันใช้รับอีเมล นอกจากนั้นฉันก็ทำอะไรกับมันไม่เป็นแล้ว”“พี่โจชัว คุณไม่ต้องเป็นห่วงน
“เหตุผลที่เราทะเลาะกันก็คือ เธอแอบขโมยรหัสผ่านบัญชีธนาคารของฉันและใช้เงินของฉันค่ะ”จากนั้นออร่าก็ก้มหน้าลง น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเสียใจ “ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะไม่บอกคุณเพราะมันน่าอายเกินไป ฉันแค่กลัวว่าเธอจะมีเงินไม่พอใช้ ฉันก็เลยไม่ได้เอาเรื่องเธอ แต่ฉันไม่นึกว่าเธอจะใช้เงินฉันมากขนาดนี้…”ออร่ากัดริมฝีปากและกล่าวต่อว่า “แต่ลูน่ากลับอยากใช้วิธีนี้มาตัดสินว่าฉันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไหม ฉันรู้สึกว่าทุกคนกำลังเข้าใจฉันผิด ฉันไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ ! ฉันแค่อยากเป็นคนที่มีน้ำใจ ฉันก็เลยปล่อยให้ผู้จัดการของฉันใช้เงินและคอมพิวเตอร์ของฉัน แต่ฉันกลับถูกมองว่าเป็นคนผิดไปด้วย”“ไร้สาระ!” ผู้จัดการของเธอกัดริมฝีปากแล้วโต้กลับ “ฉันไม่รู้รหัสผ่านของเธอเลยด้วยซ้ำ!”ออร่าเย้ยหยัน “คุณจะกล้ายอมรับเหรอว่ารู้? การที่คุณใช้เงินของฉันโดยไม่ได้รับอนุญาตก็ถือว่าเป็นการโจรกรรมอย่างหนึ่ง และคุณก็อาจจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะเรื่องนี้!”ผู้จัดการไม่สามารถอธิบายตนเองได้ลูน่าเม้มริมฝีปาก “ไม่ว่ายังไงคุณกิบสันก็ยังยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์ใช่ไหมคะ? จริง ๆ แล้วคุณไม่จำเป็นต้องพยายามอธิบายตัวเองด้วย
สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้ลูน่าตกใจแต่เพียงผู้เดียว ออร่าเองก็ตกตะลึงเช่นกันเกิดอะไรขึ้น? เธอเป็นคนที่โอนเงินไปยังกลุ่มนักส่งสแปมจากบัญชีของเธอ ทำไมจู่ ๆ มันถึงกลายมาเป็นบัญชีของบริษัทได้?ทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ออร่าตั้งสติและหันกลับไปตบผู้จัดการอย่างไร้ความปรานีอีกครั้ง “ขอบคุณพระเจ้าที่คุณยังมีความสำนึก! โชคดีที่คุณใช้บัญชีของบริษัท ถ้าไม่อย่างนั้นฉันก็คงจะไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้เลย!”หลังจากที่ผ่านเรื่องราวทั้งหมดมา ในที่สุดผู้จัดการก็เข้าใจเจตนาของออร่า เธอจึงทำได้เพียงต้องเล่นตามน้ำไปอย่างหมดหนทาง “ฉันจะใช้บัญชีส่วนตัวของคุณทำแบบนั้นได้ยังไง…”ออร่าเม้มริมฝีปากแน่นแล้วหันไปมองลูน่า “สิ่งนี้สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉันได้หรือยัง?”ลูน่าขมวดคิ้วและมองออร่า เรื่องนี้มีอะไรผิดพลาดตรงไหน? นีลไม่มีวันส่งบันทึกทางธุรกรรมปลอมมาให้เธออย่างแน่นอน เธอค่อย ๆ มองไปที่โจชัวที่อยู่ข้าง ๆถ้าไม่ใช่นีลก็ต้องเป็นโจชัว เขาจงใจสั่งให้ลูคัสบอกว่าธุรกรรมเหล่านั้นถูกดำเนินการโดยบริษัทเพียงเพื่อพิสูจน์ว่าออร่าบริสุทธิ์!“ในเมื่อพวกเราเคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว” โจชัวมองผู้จัดการ
แม้ว่าออร่าจะไม่รู้สาเหตุว่าทำไมบันทึกทางธุรกรรมเหล่านั้นถึงแสดงบัญชีของบริษัทแทนที่จะเป็นบัญชีส่วนตัวของเธอ แต่ไม่ว่ายังไง นั่นก็หมายความว่าเธอชนะแล้ว!ลูน่าเป็นเพียงแค่สาวใช้ที่ต่ำต้อย หล่อนกล้าดียังไงถึงได้พยายามต่อต้านเธอ? หล่อนประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไปอย่างเห็นได้ชัด!“ออร่า” โจชัวพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำทำให้ออร่ากลับสู่ความเป็นจริงเธอขจัดความเย่อหยิ่งในแววตาและมองไปที่โจชัวอย่างเชื่อฟัง เสียงของเธอฟังดูอ่อนโยนและถ่อมตน “พี่โจชัวมีอะไรเหรอคะ?”โจชัวเฉยเมยต่อความกระตือรือร้นของเธอไม่นานเขาก็มองมาที่เธอ “ผมไม่ต้องการให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอีก คุณควรระวังให้มากกว่านี้”จากนั้นเขาก็เดินออกไป ข้างหลังเขา ลูคัสหันมองออร่าที่อยู่ใกล้ ๆ ก่อนที่จะหันหลังและเดินตามโจชัวไป“ลูคัส” เมื่อกลับขึ้นรถแล้ว โจชัวก็นั่งพิงเบาะหลัง นิ้วเรียวยาวของเขานวดที่ช่องว่างระหว่างคิ้วเบา ๆ “นายทำงานให้ฉันมานานแค่ไหนแล้ว?”ลูคัสลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขายิ้มและพูดในขณะที่สตาร์ทรถว่า “ประมาณหกปีแล้วครับนายท่าน”“อืม” โจชัวเอนหลังและหลับตาลง “ฉันจำได้ว่านายมีแฟนแล้วใช่ไหม?”“ใช่ครับ” เมื่อพูดถึงแฟนสาวข
“ใช่ครับ” ลูคัสพยักหน้า“คุณคบกับคุณกิบสันมานานหลายปีแล้ว แต่คุณไม่เคยซื้อเสื้อผ้าให้เธอเลยสักครั้ง แต่วันนี้คุณกลับเลือกเสื้อผ้าสองชุดให้กับลูน่าโดยเฉพาะ”“ก่อนหน้านี้ไม่มีคนใช้คนไหนในบ้านกล้าท้าทายคุณเลย เพราะถ้าหากพวกเขาทำเช่นนั้น พวกเขาก็จะถูกไล่ออก แต่ว่าลูน่าขัดแย้งกับคุณตั้งหลายครั้ง แต่คุณกลับไม่เคยโกรธเธอเลย คุณไม่ได้ไล่เธอออกด้วยซ้ำ อีกอย่าง…"“พอได้แล้ว” โจชัวเม้มปากอย่างเย็นชาในขณะที่ขัดจังหวะลูคัส “ฉันจะระวังตัวและเว้นระยะห่างกับเธอให้มากขึ้นละกัน”จากนั้นโจชัวก็หลับตาลงและเอนหลังอย่างเกียจคร้าน“ลูคัส นี่เป็นครั้งแรกที่คุณทำผิดตั้งแต่ที่คุณทำงานให้ผมมาหลายปี ครั้งนี้ผมจะยกโทษให้ แต่มันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก”ลูคัสดีใจ “แล้วคุณจะตามเรื่องนี้ต่อไหมครับ?”เขาหมายถึงออร่า โจชัวยิ้มอย่างเย็นชา “ฉันมีแผนของฉันก็แล้วกัน”รายงานเหตุการณ์ที่ชิงช้าสวรรค์ยังไม่ถูกเปิดเผย เขาไม่สามารถระบุได้ว่าเหตุการณ์นั้นเกี่ยวข้องกับออร่าหรือไม่ แต่เหตุการณ์ในเช้าวันนั้นจะไม่ถูกลืมง่าย ๆ แน่“แต่…” ลูคัสต้องการที่จะพูดบางอย่างต่อ จากนั้นโจชัวก็ลืมตาขึ้นราวกับว่าอุณหภูมิในรถลดลงเหลือศูนย์อ
อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรให้ไนเจลขอโทษในเรื่องนี้ได้มากนักท้ายที่สุดเขาก็แค่พยายามช่วยเร่งกระบวนการที่เธอต้องการทำให้โจชัวและออร่าเลิกกันก็เท่านั้นแต่ไม่มีใครคาดคิดว่าโจชัวจะลำเอียงและเข้าข้างออร่าได้มากขนาดนี้เมื่อคิดเช่นนั้นลูน่าก็ถอนหายใจยาว เธอตอบไนเจลว่า [แม่ไม่โทษลูกหรอก ดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะ]อันที่จริงนี่เป็นครั้งแรกที่ไนเจลส่งข้อความถึงลูน่านับตั้งแต่ที่เธอกลับมาประเทศนี้ก่อนหน้านี้บนชิงช้าสวรรค์นั้น ไนเจลได้ติดต่อลูน่าผ่านสร้อยคอของเนลลี่ แต่นั่นเป็นเพราะว่ามีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นไนเจลไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเธอที่ต้องการกลับมาที่ประเทศนี้ ด้วยเหตุนี้ไนเจลจึงได้เมินเฉยต่อเธอ“คุณแม่ครับ อย่ากลับไปได้ไหม? เราค่อย ๆ หาวิธีที่ดีกว่านี้ก็ได้ เราไม่ต้องการผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว” “ผมไม่ต้องการให้คุณแม่กลับไปหาเขา ผมไม่ต้องการให้คุณแม่มีลูกให้เขาอีก”“ถ้าเป็นอย่างนั้นผมยอมตายดีกว่าปล่อยให้คุณแม่ต้องทนทุกข์ อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นอีกเลยนะครับผมขอร้อง...”“ผมยอมตายดีกว่าที่จะใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตเห็นคุณแม่ถูกเขาทรมาน ผมไม่อยากเห็นคุณแม่ต้องทรมาน…” ไนเจลพูดคำเหล่า
ลูน่าเมินโจชัวไปเสียเฉย ๆคนที่เธอไม่อยากเห็นหน้าที่สุดในตอนนี้ก็คือโจชัวเธอเดินผ่านโซฟา มุ่งหน้าไปที่ห้องครัวเพื่อรินน้ำใส่แก้วให้ตัวเอง“รินให้ฉันด้วยแก้วหนึ่งสิ” น้ำเสียงทุ้มต่ำของโจชัวดังแว่วมาจากห้องนั่งเล่นลูน่ากลอกตามองบนและแอบก่นด่าเขาอยู่ในใจ แต่เธอก็ยังรินน้ำใส่แก้วให้เขาก่อนนำมาวางที่โต๊ะกาแฟเธอไม่ลืมว่าตัวเองในตอนนี้เป็นแค่แม่บ้าน ส่วนเขาเป็นคุณผู้ชายการที่คนรับใช้ถือน้ำมาให้เจ้านายก็เป็นเรื่องปกติที่เขาทำกันทั้งโลก“เธอร้องไห้ทำไม?”เมื่อหญิงสาวนำแก้วน้ำมาวางบนโต๊ะกาแฟ โจชัวก็เคาะขี้เถ้าบุหรี่ลงบนที่เขี่ยอย่างนิ่มนวลนัยน์ตาลุ่มลึกของเขาจับจ้องที่ใบหน้าของเธอไม่วางตาคล้ายพยายามอ่านใจลูน่าสูดลมหายใจเข้า เมื่อวางแก้วลงแล้ว เธอก็ลุกขึ้นยืนทันที “ไม่มีอะไรค่ะ ฉันก็แค่อยากจะร้องไห้เฉย ๆ”เธอมองโจชัวด้วยความยำเกรง “คุณลินช์คะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวขึ้นข้างบนก่อนนะคะ”จากนั้น เธอก็หันหลังเตรียมเดินจากไปแต่ในจังหวะที่กำลังจะเดินผ่านโจชัว เขากลับยื่นแขนออกมาดึงเธอเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขากลิ่นแอลกอฮอล์ของโจชัวลอยเข้ามาในจมูก“นี่เธอเสียใจเพราะเรื่องออร่าเหรอ
โจชัวที่เมาไม่ได้สติปริปากเล่าเรื่องราวที่พวกเขาทั้งสองพบกัน ถ้อยคำจากใจจริงของเขานั้นกลับกลายเป็นเพียงคำพูดหลอกลวงสำหรับลูน่าเขาไม่รู้หรอกว่าครั้งแรกที่เธอกับเขาพบกันไม่ใช่ที่ใต้ต้นซากุระ แต่เป็นตอนที่เขาประสบอุบัติเหตุต่างหากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน โจชัวประสบอุบัติเหตุอย่างแสนสาหัส ตอนที่เขาถูกรถชนและถูกปล่อยทิ้งไว้ข้างถนน ลูน่าเองที่เป็นคนช่วยชีวิตเขาและนำตัวส่งโรงพยาบาล เธอดูแลชายหนุ่มตลอดทั้งเดือนในช่วงที่เขายังอยู่ในอาการโคม่าเธอชอบโจชัว แต่ไม่กล้าถึงขั้นตกหลุมรัก หญิงสาวรู้ดีว่าเธอธรรมดาเกินไป และไม่ได้มีค่าสำหรับผู้ชายระดับเขา ดังนั้น เมื่อโจชัวกลับมารู้สึกตัว เธอจึงจากไปแต่โดยดีเริ่มแรก เธอคิดว่าทั้งคู่จะต่างคนต่างลืมกันไปเสียอีก เธอไม่คิดเลยว่าเธอและเขาจะกลับมาเจอกันอีกครั้งในภายหลังวินาทีที่ได้กลับมาพบกัน เธอเชื่อมั่นว่าผู้ชายคนนี้คือส่วนหนึ่งของชีวิต เธอจึงเริ่มตามจีบอีกฝ่ายเหมือนคนเสียสติ ลูน่ารักโจชัวทั้งหมดของหัวใจ จนในที่สุดทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันในวันวิวาห์ เขาบอกเธออย่างตรงไปตรงมาว่าเขาไม่ได้รักเธอและเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าในอนาคต เขาจะสามารถชอบลูน่าได้หรือไ