“คุณย่าใจดีที่สุดในโลกเลยค่ะ!”ออร่าส่งกล่องเพชรในมือให้คุณย่าลินช์ด้วยความตื่นเต้น “ดูสิคะ คุณย่า นี่เป็นผลงานของคุณวาย ชุดเดียวกับสร้อยคอคุณย่าเลย สวยไหมคะ?”“สวยสิ” คุณย่าลินช์ชื่นชอบสร้อยคอ แต่จู่ ๆ คำพูดของสาวใช้ลูน่ากลับดังก้องเต็มสองหูของหญิงชราอย่างช่วยไม่ได้‘แต่สร้อยคอปลอม ๆ บนคอของคุณท่านอาจมีราคาไม่ถึงสิบล้านก็ได้ จริงไหมคะ?’คุณย่าลินช์ย่นคิ้วในขณะที่มองออร่าอย่างไม่สบายใจ “ออร่า สร้อยคอเธอน่ะ... ของเก๊หรือเปล่า?”ช่วงสองปีที่ผ่านมา คุณวายเป็นนักออกแบบอัญมณีผู้มีชื่อเสียงในต่างประเทศ ความโด่งดังของเขาเป็นรองนักออกแบบนามว่าออคุสที่โด่งดังที่สุดเท่านั้น แต่แล้วคุณวายกลับทิ้งวงการเครื่องประดับไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เพราะอย่างนั้นจึงทำให้ราคาเครื่องประดับที่เขาออกแบบพุ่งสูงขึ้น จากเดิมที่ราคาเพียงหลักล้านก็กลายเป็นสิบล้านในทันที คุณย่าลินช์เคยเห็นข่าวนี้มาก่อน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหญิงชราจึงมอบเงินจำนวนสิบล้านให้แก่ลูน่าเพราะเห็นแก่ว่าที่หลานสะใภ้คนนี้อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ลูน่าพูดเมื่อวันก่อนเปรียบเสมือนหนามยอกอก ตลอดเวลาที่คุณย่าลินช์นึกถึงถ้อยคำดังกล่าว เธอจะเริ่ม
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดได้ว่าคุณย่าลินช์คือความหวังสุดท้ายที่จะทำให้เธอได้อยู่เคียงข้างโจชัว...ออร่ากัดฟันกรอดพร้อมกับกระทืบเท้า “ช่วยหาให้ฉันที”“อย่าเสียเวลาเลย” ผู้หญิงที่อยู่ปลายสายถอนหายใจยาว “คุณวายมีผลงานการออกแบบไม่มากมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แถมพวกเรายังซื้อชุดเครื่องประดับเก๊พวกนั้นจากคนที่ไม่รู้จักเจ้าของตัวจริง ส่วนเครื่องประดับที่เหลือก็ตกเป็นของคนอื่นไปแล้ว แต่ฉันได้ยินมาว่า ประธานควินน์กรุ๊ปที่ชื่อมัลคอล์ม ควินน์ มีเครื่องเพชรอยู่ชุดหนึ่ง เดี๋ยวฉันจะลองถามเขาดูให้”“โอเค”…ณ บลูเบย์วิลล่าฝนตกหนักตลอดทั้งคืน พอรุ่งสางอากาศจึงค่อนข้างเย็น ลูน่าใช้เวลาทั้งเช้าจัดการกับตู้เสื้อผ้าของเนลลี่ หญิงสาวซักทำความสะอาดเครื่องแต่งกายหน้าร้อนและจัดเก็บเข้าตู้แม้ว่าเนลลี่เพิ่งจะมาอยู่กับโจชัวได้ไม่ถึงเดือน แต่จำนวนชุดที่เด็กหญิงมีก็มากกว่าที่เคยมีเมื่อปีก่อนไปแล้วลูน่ารู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการจัดการตู้เสื้อผ้าของเนลลี่ จนเธอแทบจะลุกขึ้นยืนไม่ไหวเธอใช้มือทุบเบา ๆ บริเวณแผ่นหลังส่วนล่างและเหยียดตัวนอนลงบนเตียงเพื่อพักผ่อน ก่อนที่โทรศัพท์ของเธอจะดังขึ้นเป็นสายจากมัลคอล์ม ควินน์
หลังจากวางสายจากมัลคอล์มแล้ว ลูน่าก็เหยียดกายนอนลงบนเตียงเพื่อพักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานเธอก็เผลอหลับไปเธอฝันในฝันนั้นคือตอนที่เธอพบโจชัวเป็นครั้งแรก มันคือยามบ่ายในฤดูใบไม้ผลิที่อากาศอบอุ่นและมีแดดจัดลูน่ากำลังนั่งอยู่ใต้ต้นซากุระ เธอถือกระดานวาดรูปขณะสเก็ตช์ภาพไปด้วย ท่ามกลางดอกซากุระบานสะพรั่ง เธอเห็นหนุ่มน้อยคนหนึ่งในชุดสีขาวเขามีโครงหน้าชัดเจนและมีหน้าตาที่โดดเด่น เสื้อผ้าสีขาวยิ่งขับเน้นชายหนุ่มให้ดูห่างเหินและสูงส่งในคราวเดียวเขากำลังอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป ขณะที่คิ้วทั้งสองข้างนั้นขมวดเป็นบางคราวลูน่าร่างภาพของเขาโดยไม่รู้ตัว “ไม่เลวนี่” เมื่อใกล้ลงสีสุดท้ายเสร็จ จู่ ๆ เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มก็ดังขึ้นเต็มสองหูลูน่ามือไม้สั่น เธอจัดการระบายใบหน้าของเขาเป็นสีดำทันทีด้วยความตกใจสุดขีด เธอไม่รู้ว่าจะยืนขึ้นทักทายเขาหรือซ่อนภาพสเก็ตช์เอาไว้ดีในวินาทีนั้นเอง โจชัวซึ่งยืนอยู่ข้างหลังก็หัวเราะขึ้นอย่างอ่อนโยน “คุณทำผมน่าเกลียดซะแล้ว”เขาคว้าดินสอของเธอด้วยฝ่ามือใหญ่และนิ้วเรียวยาวของเขา เขาเขียนชุดตัวเลขลงบนภาพสเก็ตช์ของหญิงสาว“ผมจะให้โอก
โจชัวขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ฉันตัดสินใจแล้วว่า อีกสามวันจะถอนหมั้นกับออร่าในงานเลี้ยงวันเกิดคุณย่า”ลูน่าตัวสั่นเทาเธอจ้องหน้าเขาด้วยความตกใจ “ถอนหมั้นเหรอคะ?”ทำไมเขาถึงวางแผนที่จะถอนหมั้นล่ะ? เป็นเพราะเนลลี่ หรือเป็นเพราะเขารู้ว่าลูน่า กิบสันยังมีชีวิตอยู่?น่าแปลกที่หกปีก่อน เขาทำทุกวิถีทางที่จะกำจัดเธอเพื่อให้ได้อยู่กับออร่าแต่แล้วทำไมเขาถึงถอนหมั้นเมื่อผ่านมาถึงหกปีและหลังจากที่เนลลี่ปรากฏตัว?ไม่สมเหตุสมผลเลย มันจะต้องมีเหตุผลอื่นถึงอย่างนั้นก็เถอะ...ลูน่ากัดริมฝีปากและค่อย ๆ มองโจชัว “เป็นเพราะ... ฉันอย่างนั้นเหรอคะ?”ในช่วงนี้ ดูเหมือนโจชัวจะแตะต้องตัวเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ หากไม่ใช่เพราะเนลลี่ เหตุผลเดียวที่เป็นไปได้ก็คือ โจชัวทำเหมือนว่าเธอเป็นความรักครั้งใหม่ และเขาเบื่อหน่ายออร่าแล้วโจชัวหัวเราะเล็กน้อย ชายหนุ่มไม่ได้ตอบแต่กลับถามเธอว่า “คิดว่ายังไงล่ะ?”เขากำลังบอกลูน่าทางอ้อมว่าเธอทึกทักเอาเองไปหน่อยอย่างไรก็ตาม สำหรับลูน่าแล้ว น้ำเสียงของโจชัวฟังดูเหมือนแทะโลม หรือว่าเขากำลังยอมรับเป็นนัย?เมื่อคิดได้ดังนั้น หญิงสาวก็มีความรู้สึกหลายอย่างผสมปนเปกั
หลังจากที่โจชัวออกไปแล้ว เนลลี่ก็ตื่นนอนและเดินลงมายังชั้นล่างเด็กหญิงตัวน้อยยังอยู่ในชุดนอนสีชมพูลายการ์ตูน เธอนั่งอย่างเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร“ทำไมวันนี้คุณพ่อถึงออกไปแต่เช้าล่ะคะ?”ลูน่าขมวดคิ้ว “เนลลี่”“หืม?”ลูน่ามองไปรอบตัว ทันทีที่แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในบ้าน เธอจึงถอนหายใจยาวขณะพูดอย่างแผ่วเบา “ถ้าวันข้างหน้าแม่ไม่ได้อยู่ที่นี่ หนูจะต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ เข้าใจไหม?”เนลลี่วางมันฝรั่งบดลงด้วยความตกใจ “คุณแม่คะ ทำไมคุณแม่จะไม่อยู่ที่นี่ล่ะคะ? เขาไล่คุณแม่เหรอคะ?”ลูน่าไม่ได้ตอบคำถามข้อนั้น “แม่แค่อยากให้หนูเรียนรู้และอยู่ได้ด้วยตัวเอง”เนลลี่ทำหน้ามุ่ย“หนูไม่อยากอยู่ด้วยตัวเองค่ะ ถ้าหนูอยู่กับตัวเอง ทั้งแม่ นีล และไนเจล ก็จะไม่ดูแลหนูอีก” เนลลี่พึมพำขณะเคี้ยวมันฝรั่งบดอย่างโกรธเกรี้ยว “หนูไม่อยากอยู่ด้วยตัวเอง ไม่อยากเชื่อฟังใคร ไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่!”ลูน่าที่นั่งอยู่เบื้องหน้าเนลลี่มองดูลูกสาวอย่างสิ้นหวังในขณะที่เธอถอนหายใจหญิงสาวหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเลขพัสดุที่มัลคอล์มส่งพัสดุสำหรับการทำเครื่องประดับมาให้เธอการตรวจสอบเลขพัสดุแสดงให้เห็นว่ามัลคอล์มใช
“ที่ย่าต้องเข้าโรงพยาบาลก็เพราะว่านายทำให้ย่าโกรธ ทำไมถึงยังไม่ไล่สาวใช้คนนั้นออกไปอีก?”โจชัวดึงเก้าอี้เข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ คุณย่าลินช์อย่างสง่าผ่าเผย “ออร่าดูแลคุณย่าดีแค่ไหนเหรอ? มันคุ้มไหมที่ทำเพื่อเธอขนาดนี้?”คุณย่าลินช์ไม่พอใจคำพูดของหลานชาย “โจชัว พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง? คิดว่าย่าสร้างเรื่องขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ? ทั้งหมดนี่เป็นเพราะแกนะ!”โจชัวโบกมือ “ผมจะให้แพทย์ฝีมือดีที่สุดจากต่างประเทศมาตรวจอาการของคุณย่าถ้าหากว่าคุณย่าไม่สบายจริง ๆ แต่คุณย่าไม่ได้ป่วย”โจชัวเหลียวมองออร่าที่ยืนอยู่ตรงประตู “ที่คุณตาบวมเพราะร้องไห้ คิดว่าคุ้มค่าหรือเปล่า?”ออร่าก้มศีรษะลงพร้อมทั้งกัดริมฝีปาก “ฉันเป็นห่วงคุณย่า...”โจชัวหัวเราะเยาะและเลิกสนใจเธอ เขาหันกลับมามองผู้เป็นย่า “คุณย่าก็อายุมากแล้ว ข้อห้ามของคุณย่าคือการพูดถึงเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย แต่ทำไมถึงมาอยู่โรงพยาบาลทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรด้วยล่ะครับ? คุณย่าไม่กลัวซวยหรือยังไง?”คุณย่าลินช์หน้าซีดเผือด“พอเถอะครับ ผมรู้ว่าอาการของคุณย่าเป็นยังไง ลืมไปแล้วเหรอว่าผมให้หมอคอยตรวจสุขภาพของคุณย่าทุกสัปดาห์? ครั้งสุดท้ายที่ตรวจคือเมื่อส
“ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้...”นีลซึ่งอยู่ที่ชั้นล่างของบ้านเช่าพยายามโทรหาลูน่า ทว่า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เขาลองติดต่อเนลลี่ผ่านสร้อยคอของเธอ แต่ก็เปล่าประโยชน์เหมือนกันนีลตื่นตระหนก เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ลูน่าโทรหาเด็กชายให้มาช่วยหาภาพสเก็ตช์ที่บ้านซึ่งพวกเขาเช่าอยู่ นีลจงใจรีบหนีออกมาจากบ้านแอนน์ แล้วจู่ ๆ เขากลับติดต่อผู้เป็นแม่กับน้องสาวไม่ได้ซะอย่างนั้น?ด้วยความกังวลใจ นีลขมวดคิ้วเข้าหากันไม่ว่าลูน่าจะอยู่ที่บลูเบย์วิลล่า หรืออยู่ระหว่างทางขับรถ ก็ไม่น่าจะมีที่ไหนที่ไม่มีสัญญาณมือถือเมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป นีลจึงหยิบกุญแจและขึ้นไปชั้นบน เมื่อมาถึงเขาก็สังเกตเห็นใครคนหนึ่งกำลังยืนเฝ้าต้นทางอยู่บริเวณทางเข้าบ้าน ชายคนนั้นจ้องมาที่นีลอย่างดุร้ายนีลรีบทำเป็นเดินไปที่บ้านใกล้ ๆ เด็กน้อยยืนอยู่ตรงประตูของเพื่อนบ้านขณะพยายามโทรออกอีกหลายรอบเป็นไปตามคาด สัญญาณโทรศัพท์ถูกระงับนีลนึกเฉลียวใจทันที แม่กับเนลลี่อยู่ในห้องนั้น! ต้องมีใครบางคนขังทั้งสองจากทางด้านนอกพร้อมกับตัดสัญญาณโทรศัพท์!คนพวกนั้นพยายามจะทำอะไร? นี่ต้องเป็นฝีมือของออร่า กิบสันแน่ ๆ!
ยูริไม่ได้ถามอะไรขณะที่เขาแบกนีลขึ้นหลังแล้ววิ่งขึ้นไปยังชั้นบนเพราะว่ายูริยังแข็งแรงกำยำสมกับเป็นบอดี้การ์ดหนุ่มวัยแรกรุ่นทำให้พวกเขามาถึงยังชั้นเก้าได้อย่างปลอดภัยในเวลารวดเร็วเมื่อเท้าแตะถึงพื้นชั้นเก้า โทรศัพท์ของนีลก็ดังขึ้นทันที “หัวหน้า บ้านที่ให้ผมจับตามองไว้ตอนนี้เกิดไฟไหม้ครับ มีคนหลายคนยืนขวางบ้านไว้ไม่ให้ใครเข้า พวกมันเยอะมากผมสู้ไม่ไหวและเข้าไปไม่ได้เลย แต่ผมแจ้งกู้ภัยไปแล้ว จะให้ผมทำยังไงต่อ?”นีลใกล้หมดสติเต็มทนหายนะไม่เคยรอใครมีคนกันประตูอยู่ แต่บ้านกำลังไฟไหม้ เขาจะทำอย่างไรถ้าหาโจชัวไม่เจอ?นีลรีบสาวเท้ายาว ๆ ตรงไปยังห้องของคุณย่าลินช์ เขากัดฟันกรอดและไม่ลืมที่จะกำชับแซคว่า “ถ่ายรูปกับวิดีโอเอาไว้แล้วส่งรูปของพวกที่กันประตูอยู่แต่ละคนมาให้ชัด ๆ!”ไม่ว่ายังไงเขาจะทำให้พวกมันต้องชดใช้!ในขณะเดียวกันที่ห้องพักผู้ป่วย…หญิงสูงวัยยังคงนอนอยู่บนเตียงและจี้ถามโจชัว “โจชัว ถ้าแกไม่มีเหตุผลให้ย่าภายในวันนี้ ย่าจะไม่ปล่อยแกไปไหนทั้งนั้น”“คุณย่าคะ อย่ามัวแต่คาดคั้นเอาผิดจากพี่โจชัวเลยค่ะ ทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉัน…”ร่างเพรียวบางของหญิงสาวนั่งอยู่ข้าง ๆ พลางใช้ท