แชร์

บทที่ 213

ผู้เขียน: ทองประกาย
เมื่อได้ยินคำของหลิวกงกง หัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรสีหน้าเปลี่ยนไปทันที นำองครักษ์กว่ายี่สิบนายวิ่งเข้าไปในป่า

ในสายพระเนตรฮ่องเต้ องค์ชายเป่ยโม่สำคัญยิ่งกว่าองค์ชายทั้งหลาย หากองค์ชายเป่ยโม่เป็นอะไรไป พวกเขาก็อย่าหวังจะอยู่เป็นสุข

ในกระโจม ฮ่องเต้ทรงมีสีพระพักตร์ที่เคร่งเครียด ฮองเฮาทรงปลอบโยนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "ฝ่าบาททรงมีวิสัยทัศน์ ส่งหมอหลวงเจียงไปด้วย เจ้าจิ่นย่อมต้องปลอดภัยแน่เพคะ"

ฮ่องเต้ทรงถอนพระทัยยาว "ตั้งแต่เราตื่นเช้ามา เปลือกตาก็กระตุกไม่หยุด หากรู้ว่าจะเกิดเรื่อง คงไม่ให้เจ้าจิ่นไปแล้ว"

"ฮองเฮาทรงเอ็นดูเจ้าจิ่นที่สุด ก่อนสวรรคตทรงสั่งเราให้ดูแลเจ้าจิ่นให้ดี หากเจ้าจิ่นเป็นอะไรไป วิญญาณของนางคงไม่อภัยให้เรา"

ฮองเฮาทรงลูบพระปฤษฎางค์ฮ่องเต้เบา ๆ ตรัส "ฝ่าบาทตรัสหนักไป ทั้งพระองค์และเจ้าจิ่นล้วนเป็นพระโอรสของเสด็จแม่ ต่อให้เจ้าจิ่นเป็นอะไรไป พระนางก็คงไม่ทรงโทษพระองค์หรอกเพคะ"

ดวงเนตรฮ่องเต้ปรากฏความรู้สึกซับซ้อนที่บอกไม่ถูก แวบผ่านไปแล้วกลับเป็นความกังวลอีกครั้ง

ฮองเฮาทรงลดพระเนตรลง ตรัสลอย ๆ "แปลกจริง การล่าสัตว์หน้าสารทที่ผ่านมาล้วนราบรื่น แม้จะมีคนบาดเจ็บ แต่ก็เป็นแผ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 214

    หัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรจึงเพิ่งเห็นว่าบนพื้นยังมีคนนอนอยู่อีกคน ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีม้าที่ถูกกัดตาย และเสือดาวที่ตายแล้วด้วยในตัวเสือดาวมีธนูปักอยู่สามดอก ที่ท้องยังมีรูใหญ่ ดูก็รู้ว่าถูกธนูยิงบาดเจ็บก่อน แล้วถูกดาบฆ่าตายหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรชะงักลมหายใจ จากสภาพที่เห็น น่าจะเป็นองค์ชายเป่ยโม่และองค์หญิงจิ่นซิ่วพบเสือดาวระหว่างล่าสัตว์ องค์หญิงจิ่นซิ่วบาดเจ็บจากเสือดาว องค์ชายเป่ยโม่จึงฆ่าเสือดาวด้วยตัวคนเดียวน่ากลัวมาก หัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรก้มมองเสือดาวที่ตัวยาวสองเมตรบนพื้น เหงื่อเย็นผุดขึ้นบนหน้าผากโดยไม่รู้ตัวในการล่าสัตว์ฤดูใบไม้ร่วงก่อน ๆ ไม่เคยมีใครกล้าไปยุ่งกับเสือดาว เพราะมันเคลื่อนไหวว่องไว ยิงธนูให้โดนยาก อีกทั้งขนหนา ใช้ดาบก็แทงทะลุยากหากให้องครักษ์เสื้อแพรจัดการเสือดาวตัวหนึ่ง ต้องใช้คนอย่างน้อยสี่ห้าคนถึงจะร่วมมือกันฆ่าได้ แต่องค์ชายเป่ยโม่กลับฆ่าเสือดาวได้คนเดียว แสดงให้เห็นว่าพลังภายในของเขาล้ำลึกเพียงใดกู้จิ่นมองหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรที่กำลังเหม่อลอย ถาม "อะไร ไม่เคยเห็นเสือดาวหรือ?"หัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรส่ายหน้าอย่างกระอักกระอ่วน "บ่าวจะให้คนพาองค

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 215

    กู้จิ่นพูดอย่างไร้อารมณ์ "เรื่องนี้เจ้าต้องถามนางกำนัลข้างกายจิ่นซิ่ว"ฮองเฮาตรัสอย่างกริ้ว "มานี่! พานางกำนัลคู่ใจของจิ่นซิ่วทั้งสองมาพบเรา!"ไม่นาน นางกำนัลน้อยสองคนถูกพาตัวมา คุกเข่าสั่นเทิ้มอยู่บนพื้น "ทูลฮองเฮา เช้านี้องค์หญิงสามตรัสว่าทรงเบื่อที่อยู่ในห้อง จะไปล่าสัตว์กับองค์ชายเป่ยโม่ในป่า และยังสั่งพวกบ่าวไม่ให้บอกใคร"ฮองเฮาทรงกลัดกลุ้มในพระทัย พระนางทรงรู้ว่าจิ่นซิ่วชอบกู้จิ่น จึงกำชับซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้จิ่นซิ่วอยู่ห่างจากกู้จิ่น ไม่คิดว่าจิ่นซิ่วไม่เพียงไม่ฟัง ยังจะปิดบังพระนางอีกพระนางระบายความโกรธใส่กู้จิ่น "เหตุใดเจ้าจึงไม่ปกป้องจิ่นซิ่ว? จิ่นซิ่วเป็นหลานสาวเจ้า แม้เจ้าจะไม่ชอบนาง ก็ไม่ควรละเลยความปลอดภัยของนางเช่นนี้!""พี่สะใภ้ จิ่นซิ่วโกรธแล้ววิ่งเข้าป่าลึก หากข้าไม่ตามไปทัน ตอนนี้นางคงอยู่ในท้องเสือดาวแล้ว" กู้จิ่นพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่แฝงด้วยความเยือกเย็นพูดยังไม่ทันขาดคำ องครักษ์เสื้อแพรสองคนก็หามเสือดาวเข้ามา "องค์ชาย จะจัดการเสือดาวตัวนี้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?"ผู้คนในกระโจมเห็นเสือดาวตัวใหญ่เช่นนั้น ต่างตกใจถอยกรูด ฮองเฮาถึงกับพระพักตร์ซีดขาว จนกระทั่งเห็นว่า

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 216

    ดวงตาเจียงซุ่ยฮวนเป็นประกาย จิตใจที่กังวลก็ผ่อนคลายลงแต่เมื่อเห็นผ้าพันแผลที่พันแขนของกู้จิ่น รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปสิ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง "แขนท่านเป็นอะไร?"มองไปด้านหลังกู้จิ่นอีกที ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่มีองครักษ์เสื้อแพรหลายนายอยู่ที่นั่นกู้จิ่นกระโดดลงจากม้า เดินมาหน้าเจียงซุ่ยฮวนอธิบาย "ตอนข้าไล่ตามจิ่นซิ่วที่เจอเสือดาว จิ่นซิ่วศีรษะกระแทกสลบไป ข้าก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย กลับไปพันแผลมาแล้ว"ฉู่เฉินพยายามลุกจากพื้นอย่างยากลำบาก พูดว่า "เมื่อครู่ได้ยินเสียงพลุสัญญาณ ที่แท้ก็เป็นเสด็จอาปล่อยนี่เอง""อืม"เจียงซุ่ยฮวนมองสำรวจกู้จิ่นตั้งแต่บนลงล่างอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าไม่มีบาดแผลอื่นจึงโล่งใจ ขมวดคิ้วพูด "ท่านกลับไปแล้ว เหตุใดยังต้องมาอีก? ตอนนี้ท่านควรพักผ่อนให้ดี""มีแค่ข้าที่รู้ว่าพวกเจ้าอยู่ที่นี่" กู้จิ่นมองเจียงซุ่ยฮวน ดวงตาลึกล้ำดั่งน้ำหมึก "ข้ามารับพวกเจ้ากลับ"เจียงซุ่ยฮวนริมฝีปากขยับ ก้มหน้าพูด "แต่หม่อมฉันบกพร่องต่อหน้าที่ ฝ่าบาทให้หม่อมฉันติดตาม แต่เมื่อท่านบาดเจ็บ หม่อมฉันกลับไม่ได้พันแผลให้ ยังต้องรบกวนท่านกลับไปแล้วมารับหม่อมฉันอีก"เมื่อนางก

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 217

    นางได้วิจัยยาใหม่หลายชนิด แต่ยังไม่มีโอกาสใช้ เพราะไม่มีคนมาเป็นหนูทดลอง นางคิดไว้แล้วว่าจะให้ชุนหลิวและชุนหยางมาเป็นหนูทดลองกู้จิ่นพยักหน้าเตรียมจะจากไป เจียงซุ่ยฮวนรั้งเขาไว้ ล้วงยาสองขวดจากแขนเสื้อยัดใส่มือเขา "ขวดหนึ่งเป็นยาแก้ปวด อีกขวดเป็นยาเร่งการหายของแผล ท่านเอาไปกินสิเพคะ"ยังไม่ทันที่กู้จิ่นจะพูด นางก็หันหลังเดินจากไป ก่อนอื่นนางทักทายหมอหลวงเมิ่ง แล้วจึงกลับคฤหาสน์หลังกลับถึงคฤหาสน์ เจียงซุ่ยฮวนเข้าห้องทดลองทันที จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตู นางจึงถอดชุดทดลองออก ออกจากห้องทดลองคนที่เคาะประตูคือชางอี้ เขาส่งกล่องอาหารให้เจียงซุ่ยฮวน "องค์ชายตรัสว่า ให้ท่านลองดูก่อนว่าอาหารพวกนี้ถูกปากหรือไม่ หากไม่ถูกปาก จะสั่งให้พ่อครัวหลวงทำใหม่ ให้ข้านำมาส่ง"เจียงซุ่ยฮวนรับกล่องอาหาร ยิ้มพูด "ไม่ต้องลำบากหรอก ข้าไม่เรื่องมากเรื่องอาหาร"ก่อนชางอี้จะไป นางพูด "หากเจ้าเจอชุนหลิวและชุนหยาง บอกพวกนางด้วยว่าข้ามีธุระ ให้พวกนางรีบกลับมา""ขอรับ"เจียงซุ่ยฮวนปิดประตู เดินไปที่โต๊ะเปิดกล่องอาหาร ต้องยอมรับว่าอาหารค่ำมื้อนี้หนักหนาสาหัสปีกไก่ป่าย่าง หัวกระต่ายต้ม และขาเนื้อกวางนึ่งชิ้นใ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 218

    เจียงซุ่ยฮวนใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ "พวกเจ้านั่งก่อน"ชุนหลิวและชุนหยางนั่งลงอย่างประหม่า ไม่รู้จะวางตัวอย่างไรกับท่าทีของเจียงซุ่ยฮวนเจียงซุ่ยฮวนหันหลังให้พวกนาง หยิบยาใหม่จากห้องทดลอง ยิ้มตาหยีวางบนโต๊ะ "ในขวดเล็กนี้ ได้บรรจุยาที่ข้าเพิ่งคิดค้น""นี่เป็นยาพิษหรือ?" ชุนหลิวเบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัว "ท่านจะวางยาพิษฆ่าพวกเรารึ"ชุนหยางตกใจจนทรุดลงกับพื้น ส่ายหน้าไม่หยุด "ข้าไม่กิน ข้าไม่ยอมกิน""นี่ไม่ใช่ยาพิษ" เจียงซุ่ยฮวนอธิบาย "ในนี้บรรจุอาหารเสริมบำรุงสุขภาพ ไม่เพียงไม่มีพิษ แต่ยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย"ชุนหลิวสงสัย "ถ้ายานี้ดีถึงเพียงนั้น เหตุใดท่านจึงให้พวกเรากินเล่า"เจียงซุ่ยฮวนนั่งลง "ยานี้ข้าเพิ่งคิดค้น พูดตรง ๆ คือไม่เคยมีใครกินมาก่อน ข้าเองก็ไม่รู้ว่ากินแล้วจะมีผลข้างเคียงหรือไม่ ดังนั้นข้าจึงเรียกพวกเจ้ามาทดลองยา""แล้วต่างอะไรกับยาพิษเล่าเจ้าคะ" ชุนหลิวลุกขึ้นโกรธจัด ถอยหลังไปสองก้าวเจียงซุ่ยฮวนไม่โมโห พูดอย่างสงบ "ก็ต่างกันนะ เทียบกับยาพิษแล้ว อันนี้เหมือนการเสี่ยงทาย อาจจะมีพิษ หรืออาจจะไม่มีพิษ ขึ้นอยู่กับโชคของพวกเจ้า"ชุนหยางที่นั่งกองกับพื้นสั่นหนักกว่าเดิม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 219

    ชุนหยางหาว "ได้ ก็ดี ข้าเริ่มง่วงแล้ว"ชุนหลิวด่าในใจ: เจ้าโง่ รู้จักแต่นอน รอข้าได้ดิบได้ดีแล้ว ดูสิว่าข้าจะหัวเราะเยาะเจ้ายังไง!หลังต้มยาเสร็จ ชุนหลิวถือชามยาไปยังตำหนักบรรทมของฮ่องเต้ ขันทีน้อยที่หน้าประตูเดินมาจะรับยา แต่นางหลบได้ทัน "ท่านขันที ยานี้ไม่เหมือนของที่อื่น หมอหลวงเจียงสั่งว่า ต้องให้ข้าส่งถึงพระหัตถ์ฮ่องเต้เอง ดูพระองค์เสวยจนหมดถึงจะได้""ยานี้ผ่านมือเจ้า หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเราทั้งคู่ต้องถูกตัดหัวแน่"ขันทีน้อยคิดดู นั่นก็จริง จึงรีบโบกมือ "เอาเถอะ เจ้ารีบเข้าไปเถิด ฮ่องเต้คงเสด็จกลับมาในไม่ช้า"ชุนหลิวดีใจยิ่งนัก กล่าวขอบคุณขันทีน้อย แล้วถือชามยาเดินเข้าตำหนักตำหนักบรรทมของฮ่องเต้เชื่อมกับห้องทรงพระอักษร ทุก ๆ สองเมตรมีนางกำนัลยืนอยู่ ชุนหลิวถือชามยาเดินผ่านหน้าพวกนาง แอบมองไปที่พระแท่นบรรทมพระแท่นบรรทมอยู่มุมสุด ข้าง ๆ ไม่มีนางกำนัลชุนหลิวคิดแผนขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว นางวางชามยาบนโต๊ะ เอามือปิดปากกรีดร้อง "กรี๊ด! มีงู!"นางกำนัลคนอื่นตกใจกระโดด กรีดร้องวุ่นวาย กลัวจะถูกงูกัด"งูอยู่ไหน?""กรี๊ด ข้ากลัวงูที่สุด!""เดี๋ยวฮ่องเต้ก็จะเสด็จกลับมาแล้ว

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 220

    ชุนหลิวหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ภาพตรงหน้าไม่เหมือนที่นางจินตนาการไว้เลยแต่ก่อนฝ่าบาททรงพูดกับนางด้วยสีพระพักตร์อ่อนโยนเสมอ นางคิดว่าฝ่าบาททรงสนพระทัยนาง มักแอบดีใจในใจ แต่ตอนนี้ พระเนตรที่ทอดมองนางกลับแปลกหน้ายิ่งนัก ราวกับไม่ทรงจำนางได้เลยนางกอดผ้าห่ม ร่างสั่นไม่หยุด แล้วพูดติดอ่าง "ทูลฝ่าบาท บ่าว... บ่าวมาส่งยา แล้วเห็นงู...""บ่าวกลัวงูที่สุด จึงพลั้งเผลอสลบบนพระแท่นบรรทม"คำโกหกของชุนหลิวง่อนแง่นเกินไป นางกำนัลคนหนึ่งอดไม่ได้ หลุดหัวเราะ "แค๊ก" พูดว่า " เจ้าช่างสรรหาข้ออ้างเสียจริง เห็น ๆ อยู่ว่าเจ้าเห็นงูที่โต๊ะ แล้วจะมาสลบบนพระแท่นบรรทมได้อย่างไร?"นางกำนัลคนอื่นเอามือปิดปากหัวเราะ "ใช่แล้ว ถ้าตกใจจนสลบ แล้วจะถอดเสื้อผ้าได้อย่างไร?""หรือว่าหาข้ออ้างมั่ว ๆ หวังปีนขึ้นพระแท่นบรรทม"ได้ยินคำนั้น นางกำนัลและขันทีรอบข้างต่างมีแววเหยียดหยามในดวงตาชุนหลิวหน้าแดงก่ำ นางไม่กล้าสวมเสื้อผ้าต่อหน้าคนมากมาย ได้แต่ห่อตัวในผ้าห่มต่อไปฝ่าบาททรงปวดพระเศียรหนักขึ้น ทรงใช้พระหัตถ์กดขมับด้านซ้าย หลับพระเนตรรับสั่ง "หลิวกงกง"หลิวกงกงเข้าใจความ พยุงฝ่าบาทประทับที่เก้าอี้ "ฝ่าบาท ประทับพักก่อ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 221

    นางกำนัลข้างพระวรกายฮองเฮาไอออกมาเบา ๆ เมื่อเห็นภาพตรงหน้าฮองเฮาหันกลับไปมองอย่างไม่ตั้งใจ ทอดพระเนตรเห็นขันทีน้อยหลายคนกำลังแบกผ้าห่มอยู่เบื้องหลังฮองเฮาเก็บรอยแย้มพระสรวลบนพระพักตร์ ตรัสเสียงเย็น "ดูเหมือนหม่อมฉันจะมาไม่ถูกเวลา ขอฝ่าบาทเสวยยาต่อตามสบาย หม่อมฉันขอทูลลา""เจ้าเข้าใจผิดแล้ว" ฮ่องเต้วางถ้วยยาในพระหัตถ์ลงอย่างจนพระทัย รับสั่ง "หลิวกงกง เจ้าจงอธิบายให้กระจ่าง"หลิวกงกงรีบก้าวออกมาทูล "ทูลฮองเฮา นางกำนัลน้อยผู้นี้บังอาจนัก อาศัยจังหวะถวายยาฝ่าบาท ลอบมุดเข้าพระแท่นบรรทมยามไม่มีผู้ใดสังเกต""เมื่อฝ่าบาททอดพระเนตรเห็น ก็รับสั่งให้กระหม่อมนำตัวนางออกไปในทันที" หลิวกงกงคุกเข่าทูลด้วยความหวาดหวั่น "เป็นความผิดของกระหม่อมที่ดูแลการณ์ไม่รัดกุม"ฮองเฮาหมุนแหวนบนพระหัตถ์ แย้มพระสรวลเยาะ "หม่อมฉันอยากรู้นักว่านางกำนัลผู้ใดกล้าดีถึงเพียงนี้ ถึงกับกล้าปีนขึ้นพระแท่นบรรทม!"เหล่าขันทีน้อยเห็นฮองเฮาเสด็จมาก็ตกใจจนมือสั่น ผ้าห่มที่ม้วนอยู่หล่นลงพื้นดังตุ้บ เผยให้เห็นชุนหลิวที่ซ่อนอยู่ข้างในชุนหลิวได้สติหลังจากล้มลง รีบลุกขึ้นวิ่งไปทางประตูอย่างลนลาน แต่ถูกนางกำนัลข้างพระวรกายฮอง

บทล่าสุด

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 574

    ครั้นได้ยินคำว่า “ไฟไหม้” ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้วงนิทราของเจียงซุ่ยฮวนพลันสลายหายไปสิ้น หัวใจพลันเต้นโครมครามราวจะหลุดจากอกนางลุกพรวดจากที่นอน คว้าผ้าคลุมขนกระต่ายที่วางอยู่ข้างหมอนมาสวมอย่างลวก ๆ แล้วรีบลงจากเตียงในขณะเดียวกัน ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดอย่างรุนแรง หยิ่งเถาวิ่งพรวดเข้ามาทั้งที่ยังทรงตัวไม่ทันดี จึงพลาดล้ม “โครม” ลงกับพื้นหยิ่งเถาไม่ทันได้ลุกขึ้นก็รีบเงยหน้าร้องบอกเสียงลั่น “คุณหนู! รีบออกไปเถิด! ข้างนอกเกิดไฟขึ้นแล้ว!”เจียงซุ่ยฮวนรีบสวมรองเท้า ก้าวยาว ๆ ตรงเข้าไปฉุดหยิ่งเถาขึ้นจากพื้น แล้วจูงมือนางวิ่งออกไปทันทีมือของเจียงซุ่ยฮวนที่กำมือหยิ่งเถานั้นสั่นน้อย ๆ นางถามเสียงเร่งร้อน “เสี่ยวถังหยวนเล่า?”“คุณชายน้อยปลอดภัยดีเพคะ แม่นมเห็นก่อนจึงรีบพาออกไปหลบแล้วเพคะ” หยิ่งเถารีบตอบครั้นรู้ว่าลูกน้อยปลอดภัย เจียงซุ่ยฮวนจึงค่อยสงบลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “แล้วไฟเกิดที่ใด?”“เป็นห้องพักของท่านอาจารย์เพคะ” หยิ่งเถาตอบเจียงซุ่ยฮวนถึงกับชะงัก ห้องของฉู่เฉินหรือ!? แล้วหลี่ลี่ก็ยังอยู่ในนั้นด้วย!นางจึงเร่งฝีเท้าวิ่งออกไป ทว่าเพิ่งออกจากประตู ก็มีควันไฟใน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 573

    หากฝืนปลุกเขาขึ้นมาในยามนี้ เกรงว่าจะทำให้สติแตกเสียจนอาละวาดคลุ้มคลั่ง“ดูท่าคงต้องปล่อยให้ฟื้นขึ้นเองแล้วกระมัง” เจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วเอ่ยเรียกจากในห้องว่า “ปู้กู่ เข้ามาหาข้าสักประเดี๋ยวสิ”ปู้กู่เปิดประตูเข้ามาทันที “พระชายา มีสิ่งใดจะทรงบัญชาหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจียงซุ่ยฮวนชี้ไปยังบุรุษที่นอนอยู่บนพื้น “เจ้ารู้จักบุรุษผู้นี้หรือไม่?”ปู้กู่หลับตานิ่ง พยายามรื้อค้นความทรงจำอย่างเคร่งเครียด ทว่านึกอยู่เนิ่นนานก็ยังคิดไม่ออกเจียงซุ่ยฮวนจึงกล่าวเป็นเชิงเตือน “ชายผู้นี้ผิวขาวซีดผิดธรรมชาติ คงมิได้ออกไปพบแสงตะวันมาเป็นเวลานานแล้ว”ปู้กู่นั่งย่อตัวลง เพ่งพินิจใบหน้าของบุรุษผู้นั้นอย่างละเอียด กระทั่งครู่หนึ่ง ก็อุทานเสียงเบา “ซี้ด…”“นึกออกแล้วหรือ?” เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยถามปู้กู่ชี้ไปที่บุรุษผู้นั้นด้วยแววตาตกตะลึง “ผู้นี้ชื่อหลี่ลี่ เมื่อสิบปีก่อน เคยเป็นหนี้หอพนันถึงหนึ่งแสนตำลึง แล้วบุกเข้าไปปล้นคฤหาสน์ของพ่อค้าผู้มั่งคั่ง”“หากเพียงแค่ปล้นก็คงไม่ถึงกับร้ายกาจนัก เขากลับอาศัยฝีมือที่เหนือกว่าฆ่าล้างทั้งครอบครัวพ่อค้านั้น รวมแล้วกว่ายี่สิบชีวิต”เจียงซุ่ยฮวนสีหน้าหม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 572

    เจียงซุ่ยฮวนโดยสารรถม้ากลับถึงจวน พอเปิดม่านลงจากรถ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นปู้กู่ยืนอยู่เบื้องหน้าพร้อมผู้ติดตามนับสิบคน“เหตุใดเจ้าจึงพาผู้คนมากมายมาด้วย?” นางเหลือบมองแคร่ไม้ด้านหลังพลางถามปู้กู่รีบเอ่ยอย่างร้อนรน “พระชายา พอได้ข่าวว่าเส้นทางขากลับถูกเฉียนจิงอี๋สกัดไว้ กระหม่อมก็ตั้งใจจะนำคนไปช่วย แต่ไม่นานก็ทราบว่าท่านเสด็จกลับมาเสียแล้ว”“อืม...ตอนนี้ไม่มีอันใดแล้ว ให้พวกเขาแยกย้ายกันไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนโบกมือ นางยังเร่งรีบอยากกลับเข้าเรือนเพื่อสอบปากคำฉู่เฉินตัวปลอมปู้กู่สั่งให้คนที่มาด้วยกันกลับไป ทว่าตนเองกลับยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเจียงซุ่ยฮวนจึงถามขึ้น “เหตุใดเจ้ายังไม่ไปเล่า?”ปู้กู่เอ่ยว่า “พระชายา ขอพระองค์โปรดแจ้งกระหม่อมเถิด เฉียนจิงอี๋ขวางรถพระองค์ไว้ด้วยเหตุใด?”เจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า “ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา ที่สำคัญคือแววตาที่เขามองข้ามันช่างประหลาด เจ้ารีบส่งคนไปสืบข่าวเขาสักหน่อยเถิด”ปู้กู่สีหน้าหนักแน่น “เฉียนจิงอี๋ผู้นี้มิใช่คนธรรมดาแน่ หอพนันซิ่งหลงของตระกูลเขากระจายอยู่ทั่วแคว้นต้าเหยียน และเขาเอง...ดูเหมือนจะมีธ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 571

    เจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วกดเสียงต่ำลงพลางกระซิบว่า “วางใจเถิด...ตอนนี้ไม่มีแล้ว”แววตาขององครักษ์ลับยังเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าเจียงซุ่ยฮวนเพียงยิ้มอย่างเงียบงัน หาได้กล่าวคำใดอีกไม่นานนัก เฉียนจิงอี๋ก็เดินออกจากรถม้าด้วยท่วงท่าสงบ มือไพล่หลังไว้ ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับจางหายไปจนหมดสิ้น หางตายังพลันกระตุกเล็กน้อยเขาเห็นกับตาตนเองว่าเหล่าองครักษ์ลับจับคนยัดใส่รถม้า แล้วเขายังไล่ตามมาตลอดทางจากหอพนัน สายตาไม่เคยละไปที่อื่นเลยแม้แต่น้อยแต่เหตุใดคนผู้นั้นจึงหายไปเสียได้?เจียงซุ่ยฮวนยิ้มถาม “เห็นผู้ใดหรือไม่?”แววตาเฉียนจิงอี๋เย็นเยียบสั่นไหวเล็กน้อย ประหนึ่งกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ เมื่อสบเข้ากับรอยยิ้มของเจียงซุ่ยฮวน เขาจึงยกยิ้มบาง ๆ “ขออภัยด้วยคุณหนู ข้าคงตาฝาดไป”เขาหยิบตั๋วเงินใบหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นสองมือส่งให้เจียงซุ่ยฮวน “เชิญคุณหนูรับของเล็กน้อยเป็นการขออภัย”ท่าทีของบุรุษผู้นี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนัก ไม่เสียแรงเป็นทายาทหอพนันโดยแท้ ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังจะเอื้อมมือไปรับ กลับพบว่าตั๋วเงินในมือเขานั้นมิใช่ใบละแค่แสนตำลึง...แต่เป็นถึงสองแสนตำลึงเจียงซุ่ยฮวนชักมือกลั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 570

    ควันสีเทาลอยฟุ้งขึ้นมา ลูกประคำที่เฉียนจิงอี๋ปาออกไปยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่กลับฝังลึกอยู่กลางหลุมใหญ่บนพื้นแค่ลูกประคำธรรมดา กลับสามารถก่อความเสียหายได้ถึงเพียงนี้ ต้องมีพลังภายในลึกล้ำถึงเพียงใดกันแน่สีหน้าของเจียงซุ่ยฮวนพลันเคร่งขรึม ขณะเดียวกัน เหล่าองครักษ์ลับที่ล้อมรถม้าอยู่ก็ล้วนตั้งท่าเตรียมพร้อมด้วยท่าทีตึงเครียดแต่ก่อนพวกเขาเคยได้ยินชื่อของเฉียนจิงอี๋มาบ้าง รู้เพียงว่าเขาเป็นทายาทของหอพนันซิ่งหลง เป็นผู้มีอุปนิสัยเงียบขรึม หาได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนบ่อยนักกระทั่งได้พบกับตัวจริงในวันนี้ จึงรู้ว่าบุรุษผู้นี้...มิใช่คนธรรมดาแน่นอน“แม่นางผู้นี้ ข้าไร้เจตนาจะสร้างความลำบากแก่ท่าน เพียงแต่ในฐานะทายาทของหอพนันซิ่งหลง ข้าย่อมไม่อาจเพิกเฉยมองลูกค้าถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตา...ท่านว่าใช่หรือไม่?” เฉียนจิงอี๋ยิ้มละไม รอยยิ้มนั้นดูสุภาพอ่อนโยน หากแต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันจาง ๆ อย่างยากจะหยั่งถึงองครักษ์ลับทั้งหกยังคงเฝ้ารอบรถม้า หนึ่งในนั้นค่อย ๆ ถอยหลังออกไป แล้วอาศัยจังหวะชุลมุนลับหายไปในพริบตาเฉียนจิงอี๋เห็นดังนั้น จึงหัวเราะพลางถามว่า “หืม? ถึงกับต้องไปตามกำลังเสริมเชียวหรือ? หรื

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 569

    ผู้คนที่อยู่ ณ ที่นั้นล้วนทราบดีว่า "เซียนพนัน" ผู้นั้นจงใจกลั่นแกล้งเจียงซุ่ยฮวนเป็นแน่ ทั้งที่ลูกเต๋ายังวางนิ่งอยู่ในถ้วย จะมีผู้ใดคาดเดาได้ถูกต้องเล่า?ขณะนั้นเอง เหล่าองครักษ์ลับทั้งหกก็เริ่มขยับเข้าใกล้ฉู่เฉินตัวปลอมอย่างช้า ๆ พวกเขาล้วนถอดชุดดำออกเสียแล้ว แลดูแทบไม่แตกต่างจากชาวบ้านทั่วไปเจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วตอบว่า “ตกลง”ทุกผู้คนถึงกับตะลึง แม้เจียงซุ่ยฮวนจะชนะมาหลายตา แต่หาได้มีผู้ใดเชื่อว่านางจะเดาแต้มลูกเต๋าได้ถูกต้องทุกเม็ด ครั้นแล้วจึงพร้อมใจกันวางเดิมพันทั้งหมดลงข้างเซียนพนันฉู่เฉินตัวปลอมลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนวางถุงผ้าบนโต๊ะ แล้วเดิมพันข้างเซียนพนันเช่นกันหญิงสาวบนโต๊ะค่อย ๆ เขย่าถ้วยลูกเต๋า เจียงซุ่ยฮวนหลับตาลง ตั้งใจฟังเสียงที่เล็ดลอดออกมาจากในถ้วยโดยมิปล่อยให้จิตวอกแวกในยามนั้น เสียงรอบข้างพลันเลือนหาย สิ่งเดียวที่ดังสะท้อนอยู่ในโสตประสาทคือเสียง “กรุ๊งกริ๊ง กั๊กกั๊ก” ของลูกเต๋าอันแว่วไหวจนเมื่อลูกเต๋าสิ้นเสียงนิ่งลง เจียงซุ่ยฮวนจึงลืมตาขึ้นมาเซียนพนันแค่นหัวเราะเย็น เอื้อนเอ่ยอย่างเย้ยหยัน “ทายสิ ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะทายได้หรือไม่!”เจีย

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 568

    ผู้คนรอบโต๊ะเมื่อเห็นว่าเซียนพนันลงเงินมากถึงเพียงนี้ ต่างคิดว่าเขาคงเริ่มจริงจังแล้ว จึงพากันวางเดิมพันตามครั้นทุกคนลงเงินเสร็จ เจียงซุ่ยฮวนกลับค่อย ๆ หยิบตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงออกมาวางบนโต๊ะอย่างไม่รีบร้อน“……”ทุกผู้คนถึงกับตะลึง โดยเฉพาะเซียนพนัน สีหน้าเขาราวกับกลืนของเสียเข้าไป เอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “นี่เจ้าล้อข้าเล่นหรือ?”หญิงบนโต๊ะเองก็หน้าเจื่อนเล็กน้อย “คุณหนูเจ้าขา ที่นี่วางขั้นต่ำต้องหนึ่งพันตำลึงเจ้าค่ะ”“อ้อ ขอโทษด้วย” เจียงซุ่ยฮวนยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบอีกใบมาวางซ้อน “เช่นนี้ใช้ได้หรือยัง?”เซียนพนันนั้นยืมเงินจากบ่อนมากถึงหมื่นตำลึง เพียงหวังเอาชนะเงินสองแสนของนาง กลับกลายเป็นนางวางแค่พันเดียว จนเขาอยากจะพลิกโต๊ะเสียให้ได้ทว่าผู้ใดจะสนใจความคิดของเขา? เจียงซุ่ยฮวนหาได้ใส่ใจ เพราะสิ่งที่นางต้องการคือเรียกความสนใจ หาใช่เดิมพันเพื่อชัยชนะอย่างเดียวและผลก็ไม่ผิดคาด นางชนะอีกคราหลายตาต่อมา บางครั้งนางวางเดิมพันทีละสองแสน บางครั้งก็เพียงแค่พันเดียว แต่ทุกครั้งนางล้วนชนะหมดส่วนเซียนพนันกลับเหมือนตกอยู่ในวังวนของความอาฆาต ยิ่งนางเลือกอย่างไร เขาก็เลือกตรงข้าม จนแพ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 567

    เมื่อเจียงซุ่ยฮวนกล่าวจบ เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นรอบโต๊ะ“ฮ่า ๆ ๆ! ข้ารู้อยู่แล้วเชียวว่านางต้องเพี้ยนแน่ พวกเราลง ‘สูง’ กันหมด แต่นางกลับเลือก ‘ต่ำ’ เสียนี่!”ผู้หนึ่งชี้ไปยังชายที่ลงเงินเป็นคนแรก แล้วหันมาถามเจียงซุ่ยฮวนว่า “แม่นาง รู้หรือไม่ว่าท่านผู้นี้เป็นใคร?”เจียงซุ่ยฮวนเลิกคิ้วขึ้น เอ่ยเรียบ ๆ ว่า “แล้วเขาเป็นใครกันล่ะ”“เขาน่ะหรือ คือ ‘เซียนพนัน’ ประจำที่นี่เชียวนะ! ท่านผู้นี้แม่นยำยิ่ง ทายสิบหน ชนะไปถึงเจ็ด!”อีกคนที่มิได้ลงพนัน กล่าวเสริมว่า “ใช่แล้ว เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายในบ่อนนี้ ยังต้องตามเขาเลือกเลยแม่นาง ข้าเกรงว่าท่านควรไตร่ตรองให้ดี สองแสนตำลึงมิใช่น้อย ๆ”ชายที่ถูกเรียกว่าเซียนพนันจับจ้องตั๋วเงินเบื้องหน้าเจียงซุ่ยฮวนด้วยแววตาลุกวาว ราวกับเงินนั้นได้ตกในกำมือของตนเรียบร้อยแล้วครั้นได้ยินเสียงเตือนของคนอื่น ก็แค่นเสียงฮึดฮัด “เจ้าเองยังไม่ได้เดิมพัน อย่าสอด!”จากนั้นจึงหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ต่อเจียงซุ่ยฮวน “แม่นาง อย่าได้เชื่อคำพวกนั้น ข้าเองก็ใช่ว่าจะทายถูกเสมอ”“ท่านหากตามพวกเราเลือก ‘สูง’ ชนะขึ้นมาก็ได้เงินไม่มากเท่าไร แต่หากท่านเลือก ‘ต่ำ’ แล้วชนะ อย่าง

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 566

    ชายตาตี่โน้มตัวลงมาด้วยความคาดหวัง “ว่ากระไร?”เจียงซุ่ยฮวนชกเข้าที่เบ้าตาซ้ายของเขาทันที ใช้เพียงห้าส่วนของพลังแต่ก็ตาเขียวช้ำเป็นวง ร้องลั่นพลางย่อตัวกุมตาชายหน้าแดงตะโกนด่า “นางหญิงชั่ว เจ้าคงอยากตายแล้วกระมัง!”เจียงซุ่ยฮวนกระชากคอเสื้อเขาขึ้นมาด้วยแววตาเด็ดขาด “ฟังให้ดี ข้ามาเพื่อตามหาคน ไม่นานก็จะไป”“หากพวกเจ้ายังคิดจะขัดขวางอีก อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าเจ้า”ชายผู้นั้นถึงกับสะดุ้งจากแรงอำนาจของนาง แต่ยังคงหัวเราะเยาะ “เจ้าก็แค่หญิงอ่อนแอ จะทำอะไรพวกข้าได้?”“บ่อนนี้คือบ่อนใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง แค่ข้าตะโกนคำเดียว บรรดายอดฝีมือทั้งหลายจะกรูออกมาทันที!”เจียงซุ่ยฮวนคลี่ยิ้มจาง ๆ “บ่อนใหญ่ที่สุดงั้นหรือ? เช่นนั้นคงได้กำไรมหาศาลต่อวันสินะ?”“แน่นอน!”“หากได้มากเพียงนั้น ภาษีที่ต้องส่งคงไม่น้อยพอ ๆ กันกระมัง? บังเอิญว่าข้ารู้จักกับเสนาบดีกรมคลังอยู่คนหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรไปถามเขาดีหรือไม่ว่าบ่อนนี้จ่ายภาษีครบหรือเปล่า?”สีหน้าชายผู้นั้นซีดลงทันที ใครจะคิดว่าแม่นางผู้นี้รู้จักกับเสนาบดีกรมคลัง!แม้เขาจะเป็นแค่ผู้เฝ้าประตู แต่ก็รู้ดีว่าบ่อนของตนรับมือการตรวจสอบไม่ได้แน่ หากทางราช

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status