หลี่ซินยามนี้อยู่ในเรือนอย่างสบายหลังทราบข่าวว่าบิดาจะให้หลี่หลานออกเรือน สายตางามมองทองคำแท่งร้อยชั่ง แสงทองช่างแสบตายิ่งนัก
"วันพรุ่งเตรียมตัวออกเดินทางไปเมืองจินกับข้า" หยางอ๋องยืนกอดอกบอกนาง มันเร็วขนาดนี้เชียวรึ
"เพคะ" นางลุกขึ้นจากเก้าอี้ หยางอ๋องขมวดคิ้ว เขามีเรื่องพูดกับนาง เหตุใดนางต้องเดินหนีเขาด้วยเล่า
จังหวะนั้นที่นางเดินผ่านหยางอ๋องไป หญิงสาวเกิดเท้าพลิกขึ้นมา หยางอ๋องเห็นว่านางกำลังจะหงายหลัง ชายหนุ่มคว้าร่างบางไว้ทัน กลิ่นหอมอ่อน ๆ ในร่างงามกระตุ้นเขายิ่งนัก
ชายหนุ่มสบตาหญิงสาว ราวกับจะกินนางไปทั้งตัว การแต่งกายของหลี่ซินดูดีมากกว่าเมื่อก่อนยิ่งนัก นางเน้นอาภรณ์เรียบง่าย สบายตา อีกทั้งบนศีรษะมีเพียงปิ่นหยกอันเดียว ช่างไม่สมกับชายาเอกหยางอ๋องจริง ๆ
จังหวะนั้นทำให้ปิ่นหยกร่วงตกกับพื้น ผมยาวสยายลงมา งดงามยิ่งนัก
อี้ชาง อี้โจรู้งานรีบปิดประตูเรือนทันที อีอีหมายจะเข้าไปหาเจ้านาย นางโดนไล่กลับเรือนนอนไปเสียแล้ว
หลี่ซินสบตากับดวงตาสีน้ำเงินดุจน้ำทะเลลึกในทะเลตงไห่ของหยางอ๋อง ใบหน้างามพลันแดงก่ำ อย่าบอกนะ นางจะหลงรักเจ้าคนป่าเถื่อน ไม่มีทาง ที่นางทนอยู่เพราะสองแฝดเท่านั้น หลี่ซินคนเดิมทำร้ายสองแฝด ส่วนนางแค่ทดแทนในสิ่งที่ร่างเดิมเคยทำไว้ นางรักสองแฝด มิอาจไปไหนได้
ม่านมุ้งสั่นไหว นางเพิ่งรู้ตัวยามที่เขาปลดสายคาดเอวออก
"ท่านปล่อยนะ"
"สายไปเสียแล้ว ยามข้ามีอารมณ์เจ้าก็ต้านไม่ได้หรอก"
ปากหนาจุมพิตคนงามอย่างเร่าร้อนหื่นกระหาย ราวกับสุนัขจิ้งจอกขยำเหยื่ออย่างหนำใจ
หลี่ซินได้แต่ตาค้างกับสิ่งที่บุรุษผู้นี้มอบให้นาง คำว่ารักไม่มีเลยสักคำ มีเพียงความป่าเถื่อน นางหลับตาแล้ว ปล่อยตัวให้เขากระทำ
หยางอ๋องยิ่งเห็นคนงามทำเมินเฉย มิสนใจเขา เขากระทำนางรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
"ข้าเจ็บนะ อ้า อ้า" นางกรีดร้องอย่างแรงยิ่งกว่าเดิม เมื่อหยางอ๋องทำบางอย่างในส่วนนั้นของนาง นิ้วสามนิ้วอยู่นั้น
"เอาออกนะ" หลี่ซินไม่ชอบนิ้ว แต่ทว่าหยางอ๋องยังคงสนุกมาก เมื่อมันเข้าไป...
เรือนเล็กในยามนี้สองแฝดกินข้าวเพิ่งอิ่ม สายตาของเจ้าก้อนแป้ง มองที่หน้าประตู เมื่อใดมารดาเลี้ยงจะมา พวกเขารอนางให้มากล่อมนอน
"ท่านหญิง ท่านชาย รีบเข้านอนเถอะ เดี๋ยวโดนไอเย็นจะไม่สบาย"
แม่นมจางเอ่ยด้วยความเป็นห่วงสองแฝด ป่านนี้พระชายาคงไม่มาแล้วกระมัง
ทั้งสองจึงเดินไปที่เตียงนอนด้วยใบหน้าที่เศร้าเหงาหงอย...
วันถัดมาไม่คาดคิดว่า หยางอ๋องจะเร่งเดินทางไปเมืองจินขนาดนี้ เด็กทั้งสองต้องย้ายที่เรียน ทางชายแดนเหนือเมืองจินมีที่เรียน แต่อาจจะไม่ดีเท่าเมืองหลวงชิง หลี่ซินรีบตื่นแต่เช้า รีบไปร่ำลามารดาที่จวนหลี่แต่เช้า จากนั้นกลับมาที่จวนอ๋อง พบว่าสัมภาระของนางขนขึ้นรถเกวียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"รีบขึ้นมา" หยางอ๋องเปิดม่านเรียกนางร้ายขึ้นรถม้าที่แสนหรูหรากับเขา หลี่ซินมองรถม้าอีกคัน นางหมายว่าจะนั่งกับสองแฝดเสียหน่อย
"ท่านแม่" สองแฝดเปิดม่านมาพอดี พบว่ามารดาขึ้นรถม้านั่งกับบิดาเสียแล้ว
หลี่ซินนั่งลงอีกฝั่งหนึ่งในรถม้าอันหรูหราของหยางอ๋อง
"หลี่ซิน เมืองจินเป็นเมืองไม่ใหญ่มาก แต่ทว่าก็ไม่ลำบากเท่าใด ข้าหวังว่าเจ้าจะอยู่ได้" หลี่ซินนั่งนิ่งไม่อยากสนใจคนเยี่ยงเขา
รถม้าทั้งสองคันล้อหมุนมาที่หน้าประตูเมือง พร้อมกับรถเกวียนนับสิบ
"ท่านอ๋อง หนานอ๋องตามมาด้วย เพราะจะคุ้มกันเสบียง" อี้โจรายงานเจ้านาย หยางอ๋องเปิดม่านมอง หนานอ๋องควบม้ามาด้วย
"ดี" พูดถึงเรื่องเสบียง หยางอ๋องขอพระบิดาให้หนานอ๋องขนเสบียงไปส่งเขาที่เมืองจินเอง
หลี่ซินเผลอหลับไปพิงผนังรถม้า ใบหน้างามดวงตาของนางบอบช้ำจนเห็นได้ชัด หยางอ๋องขยับตัวไปนั่งฝั่งเดียวกันกับนาง สายตายังคงมองแพรขนตางอนงามราวกับปีกผีเสื้อ ยามนางมิแต่งหน้า นางก็งดงามนัก โดยเฉพาะปากสีชมพูอันอวบอิ่ม
หยางอ๋องค่อย ๆ จุมพิตที่ริมฝีปากคนงาม หลี่ซินที่หลับอยู่ดี ๆ ลืมตาขึ้นมา นางกำลังจะโดนเจ้าคนป่าเถื่อนกินเต้าหู้ อีกทั้งลักหลับนางอีกต่างหาก ลิ้นหนาชิมความหวานในริมฝีปากงาม
นางหนีไม่ได้แล้ว ในรถม้าเจ้าคนบ้าก็ยังไม่เว้น หยางอ๋องหักห้ามใจตัวเองไม่อยู่ เหตุใดทุกครั้งที่อยู่กับนางเขาต้องเกิดอารมณ์ด้วย
สององครักษ์อย่างอี้โจ อี้ชาง ที่นั่งบนหลังม้า ได้ยินเสียงซีดซาส ในรถม้าทั้งสองใบหน้าแดงก่ำขึ้นมา ไม่คิดว่าท่านอ๋องจะเป็นเอามากขนาดนี้
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม หยางอ๋องจึงสวมอาภรณ์เรียบร้อย แล้วนั่งลงที่เดิม ส่วนหลี่ซินนึกชังเขา นางทั้งอับอาย ที่เผลอตัวไปกับเขา ในรถม้าหญิงสาวรีบสวมผ้าแล้วจัดผมเหมือนเดิม
ยามนี้รถม้าต้องผ่านหุบเขา ที่มีโจรภูเขาซุ่มอยู่ หลี่ซินเปิดม่านดูพบว่าป่าแห่งนี้เงียบมาก
"หมอบลง อยู่ในนี้ ไม่ต้องออกไปไหน" หยางอ๋องออกจากรถม้าไป เสียงด้านนอกต่อสู้กันอย่างไม่กะพริบตา
หลี่ซินได้ยินเสียงสองแฝดกรีดร้อง นางเป็นห่วงเสี่ยวเปา เสี่ยวเปยยิ่งนัก ไม่ได้นางจะต้องไปหาบุตรทั้งสองคน
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล