"แทนไท" รองประธานบริษัทเครื่องสำอาง มีข่าวว่าเป็นเกย์ออกหน้าหนังสือพิมพ์คู่กับพระเอกคนดัง แม้จะพยายามบอกอย่างไรว่าเป็นแค่ข่าวที่สร้างมา ทว่ากลับไม่มีใครเชื่อ หนำซ้ำครอบครัวตัดสินใจว่า การแต่งงานคือทางออกที่ดีที่สุด และเมื่อรู้ว่าเจ้าสาวไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น "ณัฐกฤตา" หญิงสาวที่เคยพบเจอเพียงไม่กี่ครั้ง นั่นทำให้เขารู้สึกไม่อยากจะแต่งงานด้วย ตรงกันข้ามกับเธอที่ดีใจราวกับว่าโชคนั้นเข้าข้าง แม้จะรู้ดีว่าเขามีข่าวว่าเป็นคู่เกย์กับนักแสดงชาย แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อหัวใจดันหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบ แล้วงานนี้เธอจะต้องทำอย่างไรเพื่อพิสูจน์ว่าเขานั้นแมนทั้งแท่ง ! ในเมื่อเขาลั่นปากออกมาว่า “ผมไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง”
Lihat lebih banyakบทนำ
ปึก! เสียงหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าอย่างแรง หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวรูปไข่ที่นั่งทำงานอยู่ถอนหายใจพร้อมเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัยและแปลกใจ “นี่ไงที่แกบอกว่าเขาหล่อนักหล่อหนา” วรรณรดาผู้เป็นเพื่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ ครั้นเมื่อมองใบหน้าของณัฐกฤตาที่รู้จักกันมาเกือบสิบปีที่ยังทำหน้าตาไม่รู้ร้อนรู้ร้อนหนาวก็ยิ่งโมโหใหญ่ “ก็แล้วไงล่ะ? ฉันชอบเขา” ณัฐกฤตาพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจกับข่าวตรงหน้าที่เพื่อนสาวนำมาให้ “แกชอบเขา แต่ฉันไม่ชอบ ฉันบอกแกเลยว่าอย่าไปคบเด็ดขาด!” วรรณรดาเอ่ยขึ้นอย่างฉุนเฉียวเพราะเธอรู้ดีว่าน้องนิสัยเป็นอย่างไร แล้วอย่างนี้คนพี่จะเหลือหรือไง! “จะอะไรนักหนากันยัยดา แกรู้ได้ไงว่าคบด้วยไม่ได้ ฉันว่าเขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนและเพอร์เฟ็กต์ จนฉันอยากอยู่ใกล้ทุกวันเลย” ณัฐกฤตาลุกขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนมองใบหน้าเพื่อนสาว “ก็...ก็อยู่กับผู้ชายที่เป็นเกย์เนี่ยนะ แกพูดออกมาได้ยังไง” วรรณรดาถามพลางมองใบหน้าของผู้เป็นเพื่อนสนิทที่ยิ้มระรื้อออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะส่ายหน้าถอนหายใจออกมา ถ้าไม่เป็นเพราะเจอโดยบังเอิญในวันนั้นอย่างที่เล่าให้ฟังป่านนี้คงไม่เพ้ออย่างนี้หรอก “เขาไม่ใช่!” ณัฐกฤตาสวนขึ้นทันที ดวงตากลมลุกวาวด้วยความขุ่นเคือง “แกก็อ่านข่าวสิ ฉันไม่ได้โกหกแกสักหน่อย บอกแล้วว่าสายตาฉันดูคนไม่เคยพลาด” วรรณรดาส่งหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานให้กับณัฐกฤตา หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวรูปไข่ก้มลงอ่านหนังสือพิมพ์ที่เพื่อนสาวยื่นส่งให้ ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อได้อ่านข้อความในหนังสือพิมพ์อีกทั้งยังมีรูปภาพประกอบเป็นหลักฐาน ณัฐกฤตาเงยหน้าขึ้นอีกครั้งพร้อมกับส่ายหน้ารัวอย่างไม่เชื่อสายตา บางทีข่าวที่เธออ่านจะเป็นแค่เรื่องโกหก ภาพที่เธอเห็นอาจะเป็นภาพตัดต่อก็ได้ “ทีนี้เชื่อฉันหรือยัง?” วรรณรดาถาม “ไม่!” ณัฐกฤตาตอบเต็มเสียงด้วยความมั่นใจ ตราบใดที่เธอยังไม่พิสูจน์กับตัวเธอไม่มีทางเชื่อว่าเขาเป็นเกย์อย่างแน่นอน! เรื่องราวทุกอย่างเริ่มขึ้นเมื่องานเปิดกองถ่ายละครเรื่อง ดวงหทัย ณัฐกฤตาหน้าที่เป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้าของดาราดังหลายคน ซึ่งงานนี้เธอได้รับการไว้วางใจจากคนที่รู้จักให้ตัดชุดของนักแสดงแต่ละคน หญิงสาวจึงมีโอกาสที่ได้ใกล้ชิดดาราชื่อดังมากมายและนั้นก็คือจุดเริ่มต้นความรักของเธอนั่นเอง ในฤดูฝนเมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่เธอรีบเร่งออกจากห้องประชุมเพื่อเดินกลับไปที่ห้องเก็บของเตรียมกลับบ้านในตอนกลางคืน เกรงว่าจะไม่มีรถเนื่องจากว่ารถของเธอเพิ่งจะเข้าไปซ่อมที่อู่เพราะโดนขับชนท้าย ต้องกลับรถแท็กซี่ทุกวันในช่วงสัปดาห์นี้ ทั้งที่บิดาของเธอจะให้คนขับรถมารับแต่เธอไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนได้บางครั้งเธอก็ทำงานที่ร้าน บางครั้งก็ต้องออกมานอกสถานที่แบบนี้ สามทุ่มกว่าๆ ที่จะเลิกงาน ณัฐกฤตาเก็บเอกสารและแบบชุดที่ทางกองถ่ายที่สั่งตัดเอาไว้ในแฟ้มเป็นอย่างดี ก่อนจะเดินออกจากห้องไป สายตาคู่สวยก้มมองนาฬิกาพร้อมกับรีบก้าวลงไปที่บันไดด้วยความรีบร้อนจนไม่ทันสังเกตเห็นชายหนุ่มที่เดินตรงมากำลังขึ้นบันได ตุบ! เสียงแฟ้มเอกสารและงานกระจายหล่นไปตามพื้น หญิงสาวย่อตัวลงก้มเก็บงานด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความหงุดหงิด ‘ขอโทษครับ’ ชายหนุ่มกล่าว อันที่จริงคนที่ผิดต้องเป็นณัฐกฤตาเต็มๆ อยู่แล้วเพราะเธอรีบร้อนจนไม่ดูว่ามีคนเดินสวนทางขึ้นมา หญิงสาวยังคงก้มหน้าเก็บของโดยไม่เงยหน้าขึ้นไปมองหรือสนใจชายหนุ่ม มือของเขาเอื้อมมาพร้อมหยิบเก็บเอกสารที่ปลิวกระจายอยู่รอบๆ ตัวส่งให้กับเธอ ‘ขอบคุณค่ะ’ เธอรับของจากมือเขา ก่อนสอดงานเข้าในแฟ้มรวดเดียวโดยไม่สนใจและไม่คิดที่จะเงยหน้ามองชายหนุ่มเพราะตอนนี้เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว เธอคงต้องรอรถอีกกว่าจะผ่านมาสักคัน ‘ไม่เป็นไรครับ’ เสียงนุ่มทุ้มตอบกลับ ณัฐกฤตาเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มใบหน้าเรียวขาวคมเข้มออกจีน คิ้วเข้มดวงตาเรียวคม จมูกโด่งเป็นสันรองรับกับริมฝีปากของเขาอย่างพอดี หล่อ! ดวงตากลมกะพริบจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างละเมอ แต่ก็เพียงชั่วครู่เมื่อสติของเธอเตือนว่าให้รีบกลับบ้านเร็วที่สุดแต่ใบหน้าของเขายังลอยเข้ามาในสมองของเธออยู่ ยิ่งคิดยิ่งเพ้อ เขาคือผู้ชายในแบบที่เธอต้องการ!หลังจากที่กลับมาในตอนหัวค่ำพาลินก็เอาแต่นิ่งเงียบ ภาพที่ปีเตอร์เดินควงกับหญิงสาวสวยคนนั้นกลับผุดขึ้นมาในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า พาลินนั่งขดตัวอยู่บนโซฟา มือทั้งสองข้างกุมไหล่ที่เหน็บหนาวเอาไว้ เธอไม่ควรจะคิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป เพราะไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย ไม่ว่าเขาจะทำอะไรจะไปกับใครก็ตามแต่...“บ้า! บ้าที่สุด” เธอพึมพำกับตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ชินเพราะปกติแล้วเขาไม่เคยเดินไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนอื่นยกเว้นกับเธอ ความรู้สึกนี้เหมือนกับตอนที่พี่แทนรักคุณขวัญ จนไม่สนใจเธอ เจ็บ!เธอเกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุดเสียงออดดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง พาลินสะดุ้งจากภวังค์พร้อมกับมองไปที่ประตู หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปที่ประตูก่อนจะมองว่าเป็นใคร มือนั้นลังเลใจที่จะเปิด สุดท้ายแล้วก็เปิดและมองหน้าเขาที่ยิ้มให้กับเธอ“ยังไม่นอนใช่ไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น พาลินส่ายหน้าเป็นคำตอบ“เข้าไปข้างในได้ไหม?”“อืม” เธอหลีกทางให้เขาเดินเข้ามาในห้องก่อนที่จะปิดประตูลงพาลินสบสายตามองแววตาคู่ที่อบอุ่น หัวใจ ของเธอระทวยลงเมื่อเห็นเขามองแบ
“ไปหาเจฟน่ะ เขาชวนฉันไปเดินเที่ยว”“งั้นเหรอ” เขาขานรับแบบไม่พอใจ แต่ก็ไม่อยากไปขัดขวางจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วพูดว่า “งั้นผมกลับก่อน เที่ยวให้สนุกล่ะ” ขณะที่พาลินเดินเข้าไปในห้องนอนทำนองว่า เธอฟังแต่ไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่ชายหนุ่มหัวเราะให้ตนเองอย่างสมเพช ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้...“คุณดูไม่มีความสุขนะเวลาที่อยู่กับผม” เจฟพูดขึ้น เพราะตั้งแต่เดินซื้อของก็ไม่เห็นเธอปริปากพูดสักคำ มีเพียงแค่เขาถามและเธอตอบเท่านั้น“เปล่าสักหน่อย แค่รู้สึกไม่สบาย” พาลินโกหก“งั้นเหรอ ให้ผมไปส่งดีไหม”หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอก”“งั้นก็แล้วแต่นะ ถ้ามีเรื่องอะไรอยากให้ผมช่วยบอกได้นะ ยินดีเสมอ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับยิ้มให้“ขอบคุณนะ”เจฟ คือเพื่อนที่เรียนอยู่มหา’ ลัยเดียวกับเธอแต่คนละสาขาวิชา เธอรู้มาตลอดว่าตั้งแต่เรียนอยู่หลายครั้งที่ชายหนุ่มแสดงออกกับความรู้สึกที่มีต่อเธอ...ทว่าคงเป็นไปไม่ได้“โอ้นั่น! ปีเตอร์นี่มากับสาว
“ตอนนั้นโกรธค่ะ โกรธมากด้วยแต่ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ เพราะฉันก็มีส่วนที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้”“ไม่หรอกครับ ผมต่างหาก ถ้าผมไม่คิดจะทำร้ายคุณผมคงไม่ต้องมาทรมานอยู่แบบนี้ คุณเป็นผู้หญิงที่ดี ผมดีใจที่คุณแทนรักคุณ” วศินพูดพร้อมกับยิ้มให้หญิงสาวสำหรับเขาแล้วความรักของเขาคงจะเป็นเพียงได้แค่การมองดูและแอบชอบต่อไป ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะไม่เคยลืม เพราะว่ารักไม่จำเป็นต้องได้อยู่ด้วยกัน สำหรับเขาขอแค่มองห่าง ๆ ต่อไปก็พอ…แทนไทเดินออกจากห้องน้ำพร้อมส่งสายตามองภรรยาที่นอนดูทีวีอยู่บนเตียงก็อดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้ สองเท้าก้าวย่างเข้าไปหาแล้วนั่งลงที่ปลายเตียงก่อนขยับเข้าไปหาอย่างช้าๆชายหนุ่มหันไปมองซีรีส์เกาหลีที่ภรรยาสาวกำลังดูอยู่นั้น คู่พระนางกำลังกอดกันอย่างหวานซึ้ง ก่อนหันมามองหญิงสาวที่กำลังจิกหมอนดูเพลินพลางหัวเราะยิ้มเขิน ๆ ออกมา เขาเอื้อมมือไปหยิบรีโมตที่ข้างตัวเธอขึ้นมาพร้อมเลื่อนนิ้วไปที่ปุ่มสีแดงเพื่อกดปิดจอให้ดับลงทันทีที่จอภาพดับสนิทเป็นสีดำณัฐกฤตาหันมามองสามีด้วยความไม่พอใจ พลางเอื้อมมือไปเพื่อแย่งรีโมตคืน“เอาคืนฉันมาเล
“แพงไม่กล้าหรอกค่ะ...ในเมื่อพี่แทนพูดอยู่เสมอว่าแพงเป็นน้องสาวคนเดียวของเขา แม่คิดว่าแพงจะกล้าเหรอคะ แพงกลัว กลัวว่าพี่แทนเขาจะรังเกียจ กลัวว่าพี่แทนจะไม่คุยกับแพง...แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว เป็นเพราะแพงทำให้พี่แทนเกลียด แพงทำร้ายคุณขวัญ แพงเลวใช่ไหมคะคุณแม่”พาลินระบายความทุกข์ในใจออกมาให้ฟัง“ลูกผู้หญิงทุกคนก็อยากอยู่กับคนที่ตัวเองรัก แล้วลูกได้ไปพูดกับ ตาแทนหรือยัง เราควรที่จะพูดทำความเข้าใจนะ” กรพรรณพูดอย่างเห็นใจ“ไม่ดีกว่าค่ะ แพงไม่อยากทำให้พี่แทนเกลียดไปมากกว่านี้” เธอส่ายหน้าพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า“แทนไม่เกลียดลูกหรอก เขาก็แค่โกรธที่ลูกทำร้ายเขา ถึงแม้จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจแต่เราก็ผิดนะแพง แม่ว่าควรไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง”“แพงคุยแล้วค่ะ แต่คงไม่มีประโยชน์ค่ะ”“แล้วเราจะหลบหน้าไม่คุยกับตาแทนไปทั้งชีวิตยังงั้นเหรอ แม่ว่ามันอึดอัดนะ” กรพรรณมองลูกสาวด้วยความห่วงใย“เป็นแบบนี้ดีแล้วค่ะ เพราะแพงเป็นคนก่อ แพงก็ต้องเป็นคนยอมรับผลที่แพงก่อ”พาลินยอมรับ
“คุณวศินตอนนี้เป็นอัมพาตครับ เพราะตอนกระแทกฝั่งคนขับถูกกระแทกเข้าอย่างแรงครับ”“เป็นเพราะฉันที่ทำให้...”“ไม่ใช่ความผิดคุณ แต่เป็นความผิดของวศินต่างหากละครับ ถ้าไม่คิดจะทำร้ายคุณคงไม่ต้องพบจุดจบแบบนี้หรอกครับ ดีนะที่ยังไม่พาคุณเข้าโรงแรมไม่ยังงั้นผมจะเป็นคนอัดคุณวศินเอง” แทนไทพูดตามความจริง เพราะถ้าวศินไม่คิดจะทำร้ายภรรยาเขาทุกอย่างก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้ เวรกรรมตามทันเร็วราวกับติดปีก ก็ต้องให้วศินรับกรรมที่ก่อไว้“แล้วทำไมถึงรู้ว่าคุณวศินจะพาฉันเข้าโรงแรมล่ะคะ ในเมื่อฉันก็ไม่ได้โทร. บอก หรือว่าคุณไปเยี่ยมเขามาแล้ว ?” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ“เปล่าครับ ผมไม่ได้ไปเยี่ยม แต่แพงเป็นคนบอกผม...เธอร่วมมือกับคุณวศิน” น้ำเสียงของแทนไทดูหมองเศร้าลงเมื่อพูดถึงพาลิน“คุณพาลิน ? เธอทำแบบนั้นทำไมคะ” ณัฐกฤตาเอ่ยขึ้น“แพงชอบผม เธอเลยทำแบบไม่ทันคิด”“แล้วคุณได้คุยกับคุณแพงหรือยังคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง สายตาคู่สวยมองชายหนุ่มที่ก้มหน้าลง เธอรู้ว่าเขาคิดกับพาลินเหมือ
สามวันแล้วที่ณัฐกฤตายังไม่ฟื้นขึ้นมา ทำให้แทนไทเริ่มเป็นห่วงว่าหญิงสาวจะเป็นอะไรไป เขาไม่ได้เข้าทำงานตลอดสามวัน เพราะว่าจิตใจตอนนี้ไม่อยู่กับงานเลยแม้แต่น้อย ส่วนวศินนั้นอาการสาหัสเพราะเป็นอัมพาตส่วนล่างโดยทั้งหมดเพราะถูกแรงกระแทกอย่างแรง จะกลับมาเดินได้ใหม่คงต้องใช้เวลาอีกสักปีหรือสองปีตามที่หมอบอกแทนไทเอื้อมมือไปลูบที่เส้นผมบางของภรรยาด้วยความรักแล้วความห่วง ส่งสายตามองหญิงสาวในยามหลับ เขาอยากจะให้เธอตื่นขึ้นมาคุย นี่ก็ผ่านมาแล้วสามวันช่างทรมานใจเขาเหลือเกิน คิดถึง...จนแทบปวดใจ“ที่รัก ตื่นขึ้นมานะครับ ผมคิดถึงคุณ” แทนไทพูดพร่ำพร้อมพรมจูบไปทั่วมือสวยของภรรยา“ได้เวลาเช็ดตัวคนไข้แล้วนะคะ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เมื่อพยาบาลเดินเข้ามาพร้อมกับถาดเช็ดตัวคนไข้แทนไทเดินออกจากห้อง ขณะที่พยาบาลเลื่อนผ้าม่านปิดล้อมเตียงไว้ เขาเดินออกมาตามทางเดินเรื่อย ๆ ก่อนหยุดเดินลงเมื่อเห็นพาลินเดินเข้ามาหา“พี่แทน”พาลินเรียกชายหนุ่มในสรรพนามที่เหมือนเดิม แต่แววตาที่เขามองแตกต่างออกไปอย่างชัดเจ
Komen