อาจเพราะตอนนี้หลันชิงเหออยู่ในตำแหน่งหวงไท่จื่อเฟย หรือก็คือพระชายาเอกของรัชทายาท ความรู้สึกของการสัมผัสเช้าวันแรกจึงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ดวงตาคู่งามค่อยๆ ปรื่อขึ้นช้าๆ ก่อนจะพบว่าภายในห้องหอมีเพียงนางที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ข้างกายไร้ซึ่งบุรุษผู้เป็นสามีและการเอาอกเอาใจเยี่ยงพระชายาผู้สูงศักดิ์
แว๊บหนึ่งที่หลันชิงเหอเผลอคิดว่ามันคงเป็นความรู้สึกที่วิเศษมากหากนางได้ตื่นขึ้นมาพบหลี่ว์เยวี่ยหยางกำลังนอนหลับอย่างสงบสุขอยู่ข้างกาย
หญิงสาวสะบัดศีรษะเบาๆ เพื่อไล่ความคิดนั้นไป นางใช้ผ้าห่มเพียงผืนเดียวคลุมกายแล้วเดินเท้าเปล่าออกมาที่สวนดอกไม้ข้างเรือนหอ ยามนี้หิมะแสนบริสุทธิ์กำลังปกคลุมรอบๆ บริเวณ ดูขาวโพลนราวกับกำลังยืนอยู่บนก้อนเมฆปุกปุย
นางเคยฝันอยากปั้นตุ๊กตาหิมะ แต่ความฝันนั้นก็ถูกพังทลายโดยผู้เป็นมารดา กระทั่งโตเป็นดรุณีวัย 16 ปี หลันชิงเหอก็ยังไม่มีโอกาสได้ปั้นตุ๊กตาหิมะเลยสักตัว
หลี่ว์เยวี่ยหยางไม่ได้สั่งให้ข้ารับใช้จัดเตรียมนางกำนัลของวังหลวงมาดูแลผู้เป็นภรรยา ด้วยเหตุนี้สาวใช้ข้างกายของหลันชิงเหอจึงมีเพียงสองนางเท่านั้น คือหยูหยานและเตี้ยนซา ซึ่งติดตามดูแลหญิงสาวมาตั้งแต่นางยังเป็นทารก แต่กว่าพวกนางจะถูกอนุญาตให้เข้าวังก็ใช้เวลาห้าวันหลังจากงานแต่งของหลันชิงเหอ
ระหว่างนี้หญิงสาวจึงต้องช่วยเหลือตนเองไปก่อน…
เมื่อออกมาจากความอบอุ่นของห้องหอสีแดง ลมเย็นยะเยือกก็พัดกรูเข้าปะทะใบหน้างาม ทำให้ร่างเพรียวบางสั่นสะท้านด้วยความหนาว ทว่ามันกลับทำให้สมองอันยุ่งเหยิงสงบลงในทันที หลันชิงเหอหลับตาลงช้าๆ พิงเสาไม้ตากลมหนาวอยู่อย่างนั้น
หญิงสาวไม่รู้ตัวว่าตนยืนอยู่นานแค่ไหน รู้สึกตัวอีกทีนางก็ถูกเสียงทุ้มเอ็ดอย่างไม่สงบอารมณ์
“เจ้าอยากแข็งตายอยู่ข้างนอกใช่หรือไม่!”
หลันชิงเหอลืมตาที่เริ่มมีน้ำแข็งเกาะ นางพบว่าตนเองถูกห่อด้วยเสื้อคลุมกันลมสีดำปักลายมังกรทองแสนองอาจของผู้เป็นสามี ก่อนจะถูกแขนแกร่งช้อนกายเข้าไปในห้องจนถึงเตียง จากนั้นผ้านวมผืนหนาก็พันทับลงมาอีกรอบ
ขณะใช้ผ้านวมพันรอบๆ กายของนาง ปฏิกิริยาของหลี่ว์เยวี่ยหยางมีความตื่นตระหนกและฉุนเฉียวแฝงอยู่อย่างชัดเจน ทั้งยังตะโกนบอกซ่งกงกงซึ่งอยู่หน้าเรือนให้เตรียมน้ำร้อนและน้ำต้มขิงเข้ามา
“ใครอนุญาตให้เจ้าฆ่าตัวตายในอาณาบริเวณของข้า สิ้นคิดนัก!”
หลันชิงเหอไม่ได้มองผู้เป็นสามีตรงๆ ริมฝีปากงามสั่นสะท้านอย่างสุดกลั้น ปลายเท้าทั้งสองข้างหนาวจนแข็ง อยากอธิบายว่านางไม่ได้ต้องการฆ่าตัวตาย เพียงแค่เผลอไผลไปกับความงดงามของธรรมชาติก็เท่านั้น แต่เพราะไม่อาจเปล่งเสียงออกไปได้ หญิงสาวจึงทำเพียงอยู่อย่างเงียบๆ
“ก่อเรื่องใหญ่แล้วคิดจะหนีไปง่ายๆ อย่างนั้นหรือ” หลี่ว์เยวี่ยหยางใช้มือลูบแรงๆ ไปตามตัวของฝ่ายตรงข้ามเพื่อสร้างความอบอุ่นให้นาง
“เปล่าเพคะ…” ความหนาวทำให้ลำคอของหญิงสาวแห้งผาก และมันก็ทำให้คนข้างๆ ดูโกรธมากกว่าเดิม
เป็นจังหวะเดียวกับที่นางกำนัลยกน้ำขิงเข้ามา
“องค์รัชทายาท น้ำขิงและน้ำอุ่นมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เสียงพูดแหลมสูงของกงกงวัยหกสิบกว่าทำให้หลี่ว์เยวี่ยหยางต้องสะกดกลั้นโทสะของตนไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย เขาสั่งให้นางกำนัลคนนั้นป้อนน้ำขิงแก่หลันชิงเหอ ซึ่งนางก็ยอมดื่มเข้าไปโดยง่าย
อ่างใส่น้ำอุ่นถูกวางลงบนพื้นอย่างเงียบเชียบ นางกำนัลอีกคนค่อยๆ ประคองเท้าเย็นเจี๊ยบทั้งสองข้างของหลันชิงเหอจุ่มลงไปในอ่างน้ำอย่างทะนุถนอม
เสียงหวานใสเผลอครางเบาๆ อย่างลืมตัว หัวคิ้วงามขมวดมุ่นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บแปล๊บที่แล่นจี๊ดเข้ามาถึงกระดูก อาจเพราะปลายเท้าเย็นจัดของนางได้สัมผัสความร้อนอย่างกะทันหัน ผลลัพธ์ที่ตามมาจึงเป็นเช่นนี้
“พระชายาเจ็บมากเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ” ซ่งกงกงถามอย่างห่วงใย ยามนี้ใบหน้าที่เกือบชราแสดงความกังวลออกมาอย่างชัดเจน
“ไม่หรอก”
หลันชิงเหอยิ้มอย่างฝืนๆ ใบหน้างามไม่อาจปิดบังความจริงได้ทั้งหมด เป็นเหตุให้ใบหน้าหล่อเหลาของผู้เป็นสามีปรากฎรอยยิ้มเย้ยหยันขึ้นมา พร้อมกับคำพูดเจ็บแสบที่หญิงสาวไม่มีวันลืม
“เป็นชายาที่โง่เง่าสิ้นดี” กล่าวจบร่างสูงก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองนางอีก
“อะ…องค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!”
ซ่งกงกงทั้งสงสารและเห็นใจสตรีน้อยตรงหน้า แต่ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้เพราะรู้ดีว่าผู้เป็นนายไม่ต้องการให้นางต้องเผชิญหน้ากับความน่ากลัวของบางสิ่งบางอย่าง
“พระชายาดูแลสุขภาพด้วย กระหม่อมต้องขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อซ่งกงกงจากไป ราวกับหลันชิงเหอถูกทิ้งให้เผชิญกับเสียงหัวเราะ และปฏิกิริยาแสนดูถูกของบรรดานางกำนัล
แต่โดยส่วนมากพวกนางมักจะรู้สึกสะใจเมื่อเห็นสิ่งที่หญิงสาวต้องเจอ เพราะพวกเขามักเข้าใจว่านางใช้แผนสกปรกในการครอบครองตำแหน่งพระชายา การถูกหมางเมินราวขยะไร้ค่าจึงเป็นจุดจบที่เหมาะสมแล้ว
แต่ก็ทำได้เพียงคิดในใจและแสดงออกอย่างรอบคอบเท่านั้น ไม่มีใครต้องการเผชิญหน้ากับความร้ายกาจของหลันชิงเหอตรงๆ แน่
เพราะเบื้องหลังความนิ่งเงียบย่อมเต็มไปด้วยพิษคร่าชีวิตแสนร้ายกาจ
ยามอาบน้ำหลันชิงเหอต้องพยายามอย่างหนักที่จะขัดทุกสัมผัสและร่องรอยต่างๆ บนร่างออก กระนั้นนางก็ยังรู้สึกได้ว่าภายในส่วนล่างยังหลงเหลือความอบอุ่นของหลี่ว์เยวี่ยหยางอยู่ ยามเสร็จสมเขาไม่แม้แต่จะถอยห่างออกจากกัน ราวกับจงใจปลดปล่อยตัวตนเพื่อฝังลึกเข้าไปในกายของนางหลันชิงเหอจึงได้แต่ภาวนาให้ตนไม่ต้องตั้งท้องบุตรของเขา เพราะขนาดนางยังถูกเกลียดชังราวกับสิ่งอัปมงคล มีหรือจะยอมให้บุตรในไส้ต้องทนทุกข์ร่วมกับบิดาผู้เลวร้ายเช่นนี้ความฝันที่อยากมีครอบครัวอบอุ่นถูกพับลงส่วนลึกของจิตใจ เพราะวาสนาของนางคงสิ้นสุดอย่างแค่นี้ร่างงามถูกแต่งองค์ทรงเครื่องในชุดผ้าไหมชั้นดีสีม่วงอ่อน บนเนื้อผ้าปักลายซิ่งฮวาอย่างบรรจง เข้าคู่กับเครื่องประดับผมรูปทรงเดียวกัน“พระชายา” อยู่ๆ ซ่งกงกงก็โผล่มาพร้อมน้ำแกงประหลาดที่นางคุ้นเคยมันคือน้ำแกงห้ามครรภ์ไม่ผิดแน่ สุดท้ายหลี่ว์เยวี่ยหยางก็ไม่คิดอยากมีเลือดเนื้อเชื้อไขของหลันชิงเหอผสมปนเปอยู่ในบุตรของเขาจริงๆ“องค์รัชทายาทตรัสว่าไม่ต้องการมีบุตรกับพระชายา กระหม่อม…เอ่อ” บุรุษวัยหกสอบกว่าๆ ถอนหายใจอย่างยากลำบาก บ่งบอกถึงความห่วงใยอย่างจริงใจ “กระหม่อม…ขอ”“ข้าเข้าใจแล้ว ซ่ง
อาจเพราะตอนนี้หลันชิงเหออยู่ในตำแหน่งหวงไท่จื่อเฟย หรือก็คือพระชายาเอกของรัชทายาท ความรู้สึกของการสัมผัสเช้าวันแรกจึงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปดวงตาคู่งามค่อยๆ ปรื่อขึ้นช้าๆ ก่อนจะพบว่าภายในห้องหอมีเพียงนางที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ข้างกายไร้ซึ่งบุรุษผู้เป็นสามีและการเอาอกเอาใจเยี่ยงพระชายาผู้สูงศักดิ์แว๊บหนึ่งที่หลันชิงเหอเผลอคิดว่ามันคงเป็นความรู้สึกที่วิเศษมากหากนางได้ตื่นขึ้นมาพบหลี่ว์เยวี่ยหยางกำลังนอนหลับอย่างสงบสุขอยู่ข้างกายหญิงสาวสะบัดศีรษะเบาๆ เพื่อไล่ความคิดนั้นไป นางใช้ผ้าห่มเพียงผืนเดียวคลุมกายแล้วเดินเท้าเปล่าออกมาที่สวนดอกไม้ข้างเรือนหอ ยามนี้หิมะแสนบริสุทธิ์กำลังปกคลุมรอบๆ บริเวณ ดูขาวโพลนราวกับกำลังยืนอยู่บนก้อนเมฆปุกปุยนางเคยฝันอยากปั้นตุ๊กตาหิมะ แต่ความฝันนั้นก็ถูกพังทลายโดยผู้เป็นมารดา กระทั่งโตเป็นดรุณีวัย 16 ปี หลันชิงเหอก็ยังไม่มีโอกาสได้ปั้นตุ๊กตาหิมะเลยสักตัวหลี่ว์เยวี่ยหยางไม่ได้สั่งให้ข้ารับใช้จัดเตรียมนางกำนัลของวังหลวงมาดูแลผู้เป็นภรรยา ด้วยเหตุนี้สาวใช้ข้างกายของหลันชิงเหอจึงมีเพียงสองนางเท่านั้น คือหยูหยานและเตี้ยนซา ซึ่งติดตามดูแลหญิงสาวมาตั้งแต่นางย
‘มารยาเหล่านี้คงใช้ได้แค่กับมารดาของข้าเท่านั้นกระมัง เพราะต่อหน้าข้า…เจ้ามันจอมปลอมสิ้นดี’แม้จะถากถางไปเช่นนั้น แต่มือใหญ่ก็ยอมผละออกจากข้อมือเล็ก ปรากฏรอยช้ำแล่นลามไปช้าๆ จนร่างเล็กสั่นสะท้านเบาๆ‘หม่อมฉันอยากดื่มชาเพคะ’หลันชิงเหอพยายามเอาตัวรอดจากการคุกคามรอบที่สามของชายหนุ่ม เคราะห์กรรมนี้นางต้องอยู่ตัวคนเดียวเท่านั้น เพราะหากนางตั้งท้องขึ้นมาหลี่ว์เยวี่ยหยางคงฆ่านางและลูกทิ้งพร้อมๆ กัน‘ทำไม? ได้ข่าวว่าเจ้าตั้งใจเรียนรู้เรื่องนี้เพื่อนอนกับข้าโดยเฉพาะ ไยจึงเพิ่งมาสำนึกผิดเอาป่านนี้’‘หม่อมฉันไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้นะเพคะ’‘เหรอ?’ แม้หลี่ว์เยวี่ยหยางจะรู้ข้อนี้ดี แต่เขาก็อดทำตัวยียวนใส่นางไม่ได้ ‘แต่เรื่องพวกนี้เกิดเพราะเจ้าวางยาปลุกกำหนัดข้า อย่าลืมเสียล่ะ’‘หม่อมฉันไม่มีวันทำเรื่องเช่นนั้น พระองค์ก็รู้’‘เหตุใดข้าต้องรับรู้ความชั่วของเจ้า’หลันชิงเหอคร้านจะอธิบายต่อ ดวงตาหงส์เต็มไปด้วยน้ำใสๆ ที่เออขึ้นมา เมื่อก่อนนางเคยมีเขาเป็นที่พึ่ง พอมาตอนนี้เขากลับทำตัวแปลกไป ซ้ำยังต่อว่านางอย่างรังเกียจ ไม่สู้ฆ่านางตายเสียยังดีกว่า‘หากหม่อมฉันผิดขนาดนั้น…ก็ฆ่าหม่อมฉันเถอะเพคะ’‘ข้าเกลียด
ยามนี้หลันชิงเหอเป็นเพียงองค์หญิงหุ่นเชิดที่ถูกใช้เป็นสะพานชีวิตเพื่อทอดสู่ความสำเร็จของแคว้นตงซานงานแต่งของนางกับองค์รัชทายาทหลี่ว์เยวี่ยหยางถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน ทว่าเนื้องานกลับยิ่งใหญ่ราวกับถูกตระเตรียมไว้นานแล้ว ความจอมปลอมของผู้คนและการละครของผู้เป็นพี่สาวแท้ๆ ทำให้หญิงสาวแทบอ้วกความขายหน้าออกมาในเมื่อตนไม่อยากแต่งกับองค์รัชทายาท ใยต้องสร้างเรื่องราวน่ารำคาญ เพื่อทำให้หลันชิงเหอต้องตกเป็นเป้าของความร้ายกาจ?ผู้คนที่มาร่วมงานมงคลมีน้อยนักที่จะยินดีกับหลันชิงเหออย่างจริงใจ พวกเขาเพียงทำตามหน้าที่ของตน บ้างก็เย้ยหยันนางเพราะคิดว่าเด็กสาวใช้แผนสกปรกเพื่อแย่งชิงตำแหน่งพระชายาจากพี่สาว ในสายตาของคนเหล่านั้นหลันชิงเหอคือสตรีมากเล่ห์ที่อยากเป็นฮองเฮาจนตัวสั่นส่วนฝ่ายสวามีแทบไม่อยากจะมองหน้านางสักวินาที หลายต่อหลายครั้งที่เขาเผลอแสดงความไม่พอใจออกมาผ่านการกระทำ แน่นนอนว่าหลันชิงเหอตอบกลับทุกการกระทำนั้นด้วยความเงียบงันและความหมางเมินไม่แพ้กันนางเข้าใจหลี่ว์เยวี่ยหยางและไม่คิดถือสาเขาในคืนเข้าหอหลันชิงเหอคิดว่าชายหนุ่มจะไม่อยู่ในห้อง แต่เขากลับยอมทำหน้าที่ของต
“สตรีอย่างเจ้าไม่มีวันได้ตำแหน่งพระชายา ต่อให้เจ้าต้องวางแผนนอนกับข้าอีกพันคืนเจ้าก็ไม่มีวันได้”“......”“ข้าจะไม่มีวันรับผิดชอบต่อสิ่งที่เจ้าก่อ หากฉลาดพอเจ้าก็คงรู้ว่าต่อจากนี้ควรเลือกหนทางอย่างไร”หลี่ว์เยวี่ยหยางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่งาม เขาเคยเอ็นดูนางในฐานะน้องสาว ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกรังเกียจเกินใคร เพราะนางไร้ยางอายเกินกว่าจะน่าสงสาร แผนชั่วทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือนางทั้งสิ้นแบบนี้กระมังนางจึงเป็นที่เกลียดชังของทุกคน“เข้าใจแล้วเพคะ...หม่อมฉันจะไม่เรียกร้องให้พระองค์ต้องรับผิดชอบสิ่งใด” คราวนี้หลันชิงเหอเลือกจะเงยหน้าขึ้นจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเรียวคมของฝ่ายตรงข้าม “เพียงแต่อยากให้พระองค์เข้าใจว่าหม่อมฉันไม่ได้เป็นแบบในจดหมายนั้น หรือเป็นดังเรื่องราวจากปากผู้อื่น ได้โปรด…”“……”“ได้โปรดอย่าด่วนตัดสินหม่อมฉันจากหลักฐานเพียงเล็กน้อยพวกนี้”หากถูกผู้อื่นเกลียด หลันชิงเหอคงไม่เจ็บช้ำมากเช่นนี้ แต่เพราะเป็นหลี่ว์เยวี่ยหยางบุรุษเพียงคนเดียวที่เคยปฏิบัติต่อนางอย่างให้เกียรติ นางถึงทุกข์ตรมจนเจ็บแปล๊บไปทั้งหัวใจยามนี้ใบหน้าที่เคยงดงาม ดวงตาที่เคยสุกสกาวดั่งดวงดาวพร่างพรายยามค่ำคืน ดูเศร้า
“ข้าไม่เคยอยากแต่งกับสตรีร้ายกาจเช่นเจ้า”เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเย็นเยียบในขณะที่ฝ่ามือใหญ่ออกแรงบีบอยู่บนข้อมือเรียวเล็กของสตรีตรงหน้า“หม่อมฉัน เจ็บ...เพคะ"หลันชิงเหอน้ำตาคลอเบ้า พยายามเก็บกักความหวาดกลัวของตนไว้ภายในจิตใจ ดวงตากลมสวยจ้องมองบุรุษที่ตนรักด้วยความผิดหวังเกินคณานับ ไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้นางจะมีโอกาสได้เห็นมุมใจร้ายของรัชทายาทหลี่ว์เยวี่ยหยาง“ชิงหลิงหายตัวไปก็เพราะเจ้า เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นก็เพราะเจ้าใช้แผนสกปรกกับข้า!”รัชทายาทวัยสิบเก้าปียอมปล่อยมือจากดรุณีน้อยตรงหน้า แม้ไม่ได้ลงแรงบีบมากนัก อีกทั้งเผลอทำไปเพราะอารมณ์โกรธอย่างสุดกลั้น ทว่ามันกลับทิ้งร่องรอยสีแดงไว้บนผิวเนียนสวยจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแต่มันก็สมควรแล้วล่ะ...สำหรับสตรีร้ายกาจที่ทำร้ายได้แม้กระทั้งพี่สาวแท้ๆ ของตน เพียงเพื่อให้ได้ครอบครองตำแหน่งพระชายา“องค์รัชทายาท” หลันชิงเหอรวบรวมความกล้าเพื่อกล่าวอธิบายต่อ “หม่อมฉันไม่ได้ทำเรื่องพวกนั้นจริงๆ นะเพคะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างสั่นเทา ดวงหน้าใสซื่อไม่ได้แสดงอาการโกหกเลยสักนิด ทว่าในสายตาของทุกคน นางกลับเป็นสตรีมากเล่ห์แสนไร้ค่า“หากเจ้าไม่ได้ทำ แล้วหลักฐานพ