‘มารยาเหล่านี้คงใช้ได้แค่กับมารดาของข้าเท่านั้นกระมัง เพราะต่อหน้าข้า…เจ้ามันจอมปลอมสิ้นดี’
แม้จะถากถางไปเช่นนั้น แต่มือใหญ่ก็ยอมผละออกจากข้อมือเล็ก ปรากฏรอยช้ำแล่นลามไปช้าๆ จนร่างเล็กสั่นสะท้านเบาๆ
‘หม่อมฉันอยากดื่มชาเพคะ’
หลันชิงเหอพยายามเอาตัวรอดจากการคุกคามรอบที่สามของชายหนุ่ม เคราะห์กรรมนี้นางต้องอยู่ตัวคนเดียวเท่านั้น เพราะหากนางตั้งท้องขึ้นมาหลี่ว์เยวี่ยหยางคงฆ่านางและลูกทิ้งพร้อมๆ กัน
‘ทำไม? ได้ข่าวว่าเจ้าตั้งใจเรียนรู้เรื่องนี้เพื่อนอนกับข้าโดยเฉพาะ ไยจึงเพิ่งมาสำนึกผิดเอาป่านนี้’
‘หม่อมฉันไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้นะเพคะ’
‘เหรอ?’ แม้หลี่ว์เยวี่ยหยางจะรู้ข้อนี้ดี แต่เขาก็อดทำตัวยียวนใส่นางไม่ได้ ‘แต่เรื่องพวกนี้เกิดเพราะเจ้าวางยาปลุกกำหนัดข้า อย่าลืมเสียล่ะ’
‘หม่อมฉันไม่มีวันทำเรื่องเช่นนั้น พระองค์ก็รู้’
‘เหตุใดข้าต้องรับรู้ความชั่วของเจ้า’
หลันชิงเหอคร้านจะอธิบายต่อ ดวงตาหงส์เต็มไปด้วยน้ำใสๆ ที่เออขึ้นมา เมื่อก่อนนางเคยมีเขาเป็นที่พึ่ง พอมาตอนนี้เขากลับทำตัวแปลกไป ซ้ำยังต่อว่านางอย่างรังเกียจ ไม่สู้ฆ่านางตายเสียยังดีกว่า
‘หากหม่อมฉันผิดขนาดนั้น…ก็ฆ่าหม่อมฉันเถอะเพคะ’
‘ข้าเกลียดคนอ่อนแอที่พอเจอปัญหาก็เลือกความตายเป็นทางออกที่สุด หากไม่เป็นเพราะมารดาของข้าสั่งไว้มีหรือสตรีเช่นเจ้าจะรอดมาอยู่จุดนี้’ ดวงตาเรียวคมมองสำรวจใบหน้างามอย่างผิดหวัง ‘หากเป็นชิงหลิงนางคงเลือกยืนหยัดอย่างสง่าผ่าเผยและแข็งแกร่ง’
‘เพคะ’
หลันชิงเหอแค้นยิ้มอยู่ในใจ อยากตอบกลับว่า…นั่นเพราะหลันชิงหลิงมีทุกคนคอยยืนเคียงข้าง อีกทั้งมีกำลังใจอย่างเปี่ยมล้นมาตั้งแต่เกิด เพราะนางล้วนได้รับแต่สิ่งดีๆ ต่างจากภรรยาของท่านที่ต้องพยายามยืนหยัดด้วยตนเอง
และตอนนี้นางก็เหนื่อยเกินกว่าจะสู้ต่อแล้ว หากไม่เลือกความตายจะให้นางทนอยู่กับความเกลียดชังของเขาไปทำไม เพราะสุดท้ายเขาก็เลือกหลันชิงหลิงอยู่ดี
แม้คำว่าอิสระจะมาเชื่องช้าไปบ้าง แต่หลี่ว์เยวี่ยหยางก็ยอมปล่อยนางแต่โดยดี ร่างกำยำซึ่งนุ่งเพียงกางเกงสีดำเพื่อปกปิดความเป็นชายเดินเคียงมาใกล้ชิดจนน่าอึดอัด หลันชิงเหอรินชาแล้วยกขึ้นจิบช้าๆ ไม่รู้ว่าตนควรทำอย่างไรดี
สามีผู้เอาแน่เอานอนไม่ได้ ทั้งที่ปากบอกว่าเกลียดแต่กลับพยายามสัมผัสตัวนางอย่างไม่หยุดหย่อน
‘พอยกเจ้าให้ข้า แคว้นตงซานก็ร้องขอเสบียงมากมาย เป็นแคว้นที่รวมความโลภเอาไว้หรืออย่างไร? จากนี้องค์หญิงตงซานอย่างเจ้าคงต้องอยู่เอาใจข้าให้มาก ประชาชนตาดำๆ ของเจ้าจะได้ไม่อดตาย’
‘หากพระองค์ไม่ชอบใจที่ต้องผูกมิตรกับแคว้นตงซานของหม่อมฉัน พระองค์ก็อย่าส่งสิ่งใดไปสิเพคะ’
มือใหญ่ฉวยเอาจอกชาในมือเล็กไปวางบนโต๊ะ หลันชิงเหอรับรู้ถึงอันตรายจากคนตรงหน้า ทว่านางไม่อาจตอบโต้สิ่งใดได้นอกจากการจำยอม
ดวงตาหงส์มองฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เข้าใจ ทั้งที่เกลียดแต่กลับยอมให้พวกเขาจับวางอย่างง่ายดาย ซ้ำยังให้พี่สาวของนางคอยป้วนเปี้ยนอยู่ข้างกายราวกับเป็นภรรยาที่แท้จริง
หลี่ว์เยวี่ยหยางเคยฉลาดและเก่งกาจเกินใคร ทว่าตอนนี้…เขากลับดูโง่งมและโจ่งแจ้งอย่างที่หลันชิงเหอไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ในสายตานาง เขาดูราวกับเป็นคนละคนกับหลี่ว์เยวี่ยหยางที่นางเคยปักใจรักมาตั้งแต่เด็ก
บางที…อาจเป็นเพราะความรักที่มีต่อหลันชิงหลิงพี่สาวของนางกระมัง ที่ทำให้บุรุษดีๆ ต้องโหดร้ายและป่าเถื่อนเช่นนี้
หลันชิงเหอพยายามทำความเข้าใจหลี่ว์เยวี่ยหยาง แต่ก็ไม่อาจรับรู้เหตุผลใดได้เลย รู้เพียงว่านางโดนทุกคนเกลียดเข้าแล้ว ชีวิตต่อจากนี้คงไร้ผู้สนับสนุน…และต้องถูกเขี่ยทิ้งอย่างโหดร้ายในสักวัน
สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรม ไยคนทำผิดจึงไม่เคยได้รับผลกรรมอะไรสักอย่าง ซ้ำร้ายกลับกลายเป็นนางที่ต้องโดนเกลียดอยู่เสมอ…
ย้อนกลับไปในตอนที่เด็กสาวอายุเพียง 6 ขวบ ตอนนั้นนางกับหลันชิงหลิงผู้เป็นพี่สาว ถูกบิดาและมารดาส่งมาที่แคว้นฉินเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อันดีงามให้สืบสานต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
ภายในใจลึกๆ ของผู้อาวุโสทั้งหลาย พวกเขาเพียงมุ่งหวังให้รัชทายาทหลี่ว์เยวี่ยหยางเลือกหนึ่งในองค์หญิงน้อยทั้งสองเพื่อแต่งตั้งขึ้นเป็นพระชายา
แม้จะรู้ดีว่าหลี่ว์เยวี่ยหยางชอบพออยู่กับหลันชิงหลิงเพราะทั้งสองมีช่วงอายุที่เท่ากัน แต่คนที่ได้รับการปฏิบัติให้อยู่ภายใต้ขอบเขต เพื่อสืบทอดขนบธรรมเนียมของราชวงศ์กลับยังคงตกมาที่หลันชิงเหอ
ราวกับต้องการใช้ความหัวอ่อนของนางให้เป็นประโยชน์ในอนาคต หลันชิงเหอจึงแสร้งโง่งมเพื่อให้ตนกลายเป็นจุดสนใจของบิดาและมารดา
ทว่าการถูกทรมานด้วยกฎของวังหลังมาตั้งแต่เด็ก กลับทำให้หลันชิงเหอรู้ว่าบนแคว้นอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ คนที่จริงใจต่อเด็กไร้ค่าอย่างนางมากที่สุดคงมีเพียงจี๋ฮองเฮาคนเดียวเท่านั้น...
หากสามารถย้อนชีวิตกลับไปในช่วงเวลาก่อนเกิดเรื่องอื้อฉาวนี้ได้ นางคงไม่เลือกที่จะรักหลี่ว์เยวี่ยหยาง หรือเดินตามเขาเพื่อหาโอกาสได้ใกล้ชิด
แต่เพราะในอดีตเขาเป็นบุรุษเพียงคนเดียวที่ปฏิบัติต่อนางอย่างจริงใจ จึงไม่แปลกที่หลันชิงเหอจะหวั่นไหวไปกับความใจดีของเขา
แค่คิดย้อนไปก็น่าขำ ในยามนั้นต่อให้ถูกช้างสิบเชือกฉุดรั้งไว้ นางก็ยอมคลานกลับไปหาหลี่ว์เยวี่ยหยางอยู่ดี ช่างโง่งมโดยแท้
แต่ยามนี้นางเปลี่ยนไปแล้ว ความใจร้ายและคำพูดแสนเจ็บแสบของเขาทำให้นางตื่นขึ้นในฐานะหลันชิงเหอคนใหม่ การถูกกล่อมประสาทจากครอบครัวทำให้นางต้องแข็งแกร่งเพื่อปกป้องตนเอง
ยามอาบน้ำหลันชิงเหอต้องพยายามอย่างหนักที่จะขัดทุกสัมผัสและร่องรอยต่างๆ บนร่างออก กระนั้นนางก็ยังรู้สึกได้ว่าภายในส่วนล่างยังหลงเหลือความอบอุ่นของหลี่ว์เยวี่ยหยางอยู่ ยามเสร็จสมเขาไม่แม้แต่จะถอยห่างออกจากกัน ราวกับจงใจปลดปล่อยตัวตนเพื่อฝังลึกเข้าไปในกายของนางหลันชิงเหอจึงได้แต่ภาวนาให้ตนไม่ต้องตั้งท้องบุตรของเขา เพราะขนาดนางยังถูกเกลียดชังราวกับสิ่งอัปมงคล มีหรือจะยอมให้บุตรในไส้ต้องทนทุกข์ร่วมกับบิดาผู้เลวร้ายเช่นนี้ความฝันที่อยากมีครอบครัวอบอุ่นถูกพับลงส่วนลึกของจิตใจ เพราะวาสนาของนางคงสิ้นสุดอย่างแค่นี้ร่างงามถูกแต่งองค์ทรงเครื่องในชุดผ้าไหมชั้นดีสีม่วงอ่อน บนเนื้อผ้าปักลายซิ่งฮวาอย่างบรรจง เข้าคู่กับเครื่องประดับผมรูปทรงเดียวกัน“พระชายา” อยู่ๆ ซ่งกงกงก็โผล่มาพร้อมน้ำแกงประหลาดที่นางคุ้นเคยมันคือน้ำแกงห้ามครรภ์ไม่ผิดแน่ สุดท้ายหลี่ว์เยวี่ยหยางก็ไม่คิดอยากมีเลือดเนื้อเชื้อไขของหลันชิงเหอผสมปนเปอยู่ในบุตรของเขาจริงๆ“องค์รัชทายาทตรัสว่าไม่ต้องการมีบุตรกับพระชายา กระหม่อม…เอ่อ” บุรุษวัยหกสอบกว่าๆ ถอนหายใจอย่างยากลำบาก บ่งบอกถึงความห่วงใยอย่างจริงใจ “กระหม่อม…ขอ”“ข้าเข้าใจแล้ว ซ่ง
อาจเพราะตอนนี้หลันชิงเหออยู่ในตำแหน่งหวงไท่จื่อเฟย หรือก็คือพระชายาเอกของรัชทายาท ความรู้สึกของการสัมผัสเช้าวันแรกจึงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปดวงตาคู่งามค่อยๆ ปรื่อขึ้นช้าๆ ก่อนจะพบว่าภายในห้องหอมีเพียงนางที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ข้างกายไร้ซึ่งบุรุษผู้เป็นสามีและการเอาอกเอาใจเยี่ยงพระชายาผู้สูงศักดิ์แว๊บหนึ่งที่หลันชิงเหอเผลอคิดว่ามันคงเป็นความรู้สึกที่วิเศษมากหากนางได้ตื่นขึ้นมาพบหลี่ว์เยวี่ยหยางกำลังนอนหลับอย่างสงบสุขอยู่ข้างกายหญิงสาวสะบัดศีรษะเบาๆ เพื่อไล่ความคิดนั้นไป นางใช้ผ้าห่มเพียงผืนเดียวคลุมกายแล้วเดินเท้าเปล่าออกมาที่สวนดอกไม้ข้างเรือนหอ ยามนี้หิมะแสนบริสุทธิ์กำลังปกคลุมรอบๆ บริเวณ ดูขาวโพลนราวกับกำลังยืนอยู่บนก้อนเมฆปุกปุยนางเคยฝันอยากปั้นตุ๊กตาหิมะ แต่ความฝันนั้นก็ถูกพังทลายโดยผู้เป็นมารดา กระทั่งโตเป็นดรุณีวัย 16 ปี หลันชิงเหอก็ยังไม่มีโอกาสได้ปั้นตุ๊กตาหิมะเลยสักตัวหลี่ว์เยวี่ยหยางไม่ได้สั่งให้ข้ารับใช้จัดเตรียมนางกำนัลของวังหลวงมาดูแลผู้เป็นภรรยา ด้วยเหตุนี้สาวใช้ข้างกายของหลันชิงเหอจึงมีเพียงสองนางเท่านั้น คือหยูหยานและเตี้ยนซา ซึ่งติดตามดูแลหญิงสาวมาตั้งแต่นางย
‘มารยาเหล่านี้คงใช้ได้แค่กับมารดาของข้าเท่านั้นกระมัง เพราะต่อหน้าข้า…เจ้ามันจอมปลอมสิ้นดี’แม้จะถากถางไปเช่นนั้น แต่มือใหญ่ก็ยอมผละออกจากข้อมือเล็ก ปรากฏรอยช้ำแล่นลามไปช้าๆ จนร่างเล็กสั่นสะท้านเบาๆ‘หม่อมฉันอยากดื่มชาเพคะ’หลันชิงเหอพยายามเอาตัวรอดจากการคุกคามรอบที่สามของชายหนุ่ม เคราะห์กรรมนี้นางต้องอยู่ตัวคนเดียวเท่านั้น เพราะหากนางตั้งท้องขึ้นมาหลี่ว์เยวี่ยหยางคงฆ่านางและลูกทิ้งพร้อมๆ กัน‘ทำไม? ได้ข่าวว่าเจ้าตั้งใจเรียนรู้เรื่องนี้เพื่อนอนกับข้าโดยเฉพาะ ไยจึงเพิ่งมาสำนึกผิดเอาป่านนี้’‘หม่อมฉันไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้นะเพคะ’‘เหรอ?’ แม้หลี่ว์เยวี่ยหยางจะรู้ข้อนี้ดี แต่เขาก็อดทำตัวยียวนใส่นางไม่ได้ ‘แต่เรื่องพวกนี้เกิดเพราะเจ้าวางยาปลุกกำหนัดข้า อย่าลืมเสียล่ะ’‘หม่อมฉันไม่มีวันทำเรื่องเช่นนั้น พระองค์ก็รู้’‘เหตุใดข้าต้องรับรู้ความชั่วของเจ้า’หลันชิงเหอคร้านจะอธิบายต่อ ดวงตาหงส์เต็มไปด้วยน้ำใสๆ ที่เออขึ้นมา เมื่อก่อนนางเคยมีเขาเป็นที่พึ่ง พอมาตอนนี้เขากลับทำตัวแปลกไป ซ้ำยังต่อว่านางอย่างรังเกียจ ไม่สู้ฆ่านางตายเสียยังดีกว่า‘หากหม่อมฉันผิดขนาดนั้น…ก็ฆ่าหม่อมฉันเถอะเพคะ’‘ข้าเกลียด
ยามนี้หลันชิงเหอเป็นเพียงองค์หญิงหุ่นเชิดที่ถูกใช้เป็นสะพานชีวิตเพื่อทอดสู่ความสำเร็จของแคว้นตงซานงานแต่งของนางกับองค์รัชทายาทหลี่ว์เยวี่ยหยางถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน ทว่าเนื้องานกลับยิ่งใหญ่ราวกับถูกตระเตรียมไว้นานแล้ว ความจอมปลอมของผู้คนและการละครของผู้เป็นพี่สาวแท้ๆ ทำให้หญิงสาวแทบอ้วกความขายหน้าออกมาในเมื่อตนไม่อยากแต่งกับองค์รัชทายาท ใยต้องสร้างเรื่องราวน่ารำคาญ เพื่อทำให้หลันชิงเหอต้องตกเป็นเป้าของความร้ายกาจ?ผู้คนที่มาร่วมงานมงคลมีน้อยนักที่จะยินดีกับหลันชิงเหออย่างจริงใจ พวกเขาเพียงทำตามหน้าที่ของตน บ้างก็เย้ยหยันนางเพราะคิดว่าเด็กสาวใช้แผนสกปรกเพื่อแย่งชิงตำแหน่งพระชายาจากพี่สาว ในสายตาของคนเหล่านั้นหลันชิงเหอคือสตรีมากเล่ห์ที่อยากเป็นฮองเฮาจนตัวสั่นส่วนฝ่ายสวามีแทบไม่อยากจะมองหน้านางสักวินาที หลายต่อหลายครั้งที่เขาเผลอแสดงความไม่พอใจออกมาผ่านการกระทำ แน่นนอนว่าหลันชิงเหอตอบกลับทุกการกระทำนั้นด้วยความเงียบงันและความหมางเมินไม่แพ้กันนางเข้าใจหลี่ว์เยวี่ยหยางและไม่คิดถือสาเขาในคืนเข้าหอหลันชิงเหอคิดว่าชายหนุ่มจะไม่อยู่ในห้อง แต่เขากลับยอมทำหน้าที่ของต
“สตรีอย่างเจ้าไม่มีวันได้ตำแหน่งพระชายา ต่อให้เจ้าต้องวางแผนนอนกับข้าอีกพันคืนเจ้าก็ไม่มีวันได้”“......”“ข้าจะไม่มีวันรับผิดชอบต่อสิ่งที่เจ้าก่อ หากฉลาดพอเจ้าก็คงรู้ว่าต่อจากนี้ควรเลือกหนทางอย่างไร”หลี่ว์เยวี่ยหยางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่งาม เขาเคยเอ็นดูนางในฐานะน้องสาว ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกรังเกียจเกินใคร เพราะนางไร้ยางอายเกินกว่าจะน่าสงสาร แผนชั่วทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือนางทั้งสิ้นแบบนี้กระมังนางจึงเป็นที่เกลียดชังของทุกคน“เข้าใจแล้วเพคะ...หม่อมฉันจะไม่เรียกร้องให้พระองค์ต้องรับผิดชอบสิ่งใด” คราวนี้หลันชิงเหอเลือกจะเงยหน้าขึ้นจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเรียวคมของฝ่ายตรงข้าม “เพียงแต่อยากให้พระองค์เข้าใจว่าหม่อมฉันไม่ได้เป็นแบบในจดหมายนั้น หรือเป็นดังเรื่องราวจากปากผู้อื่น ได้โปรด…”“……”“ได้โปรดอย่าด่วนตัดสินหม่อมฉันจากหลักฐานเพียงเล็กน้อยพวกนี้”หากถูกผู้อื่นเกลียด หลันชิงเหอคงไม่เจ็บช้ำมากเช่นนี้ แต่เพราะเป็นหลี่ว์เยวี่ยหยางบุรุษเพียงคนเดียวที่เคยปฏิบัติต่อนางอย่างให้เกียรติ นางถึงทุกข์ตรมจนเจ็บแปล๊บไปทั้งหัวใจยามนี้ใบหน้าที่เคยงดงาม ดวงตาที่เคยสุกสกาวดั่งดวงดาวพร่างพรายยามค่ำคืน ดูเศร้า
“ข้าไม่เคยอยากแต่งกับสตรีร้ายกาจเช่นเจ้า”เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเย็นเยียบในขณะที่ฝ่ามือใหญ่ออกแรงบีบอยู่บนข้อมือเรียวเล็กของสตรีตรงหน้า“หม่อมฉัน เจ็บ...เพคะ"หลันชิงเหอน้ำตาคลอเบ้า พยายามเก็บกักความหวาดกลัวของตนไว้ภายในจิตใจ ดวงตากลมสวยจ้องมองบุรุษที่ตนรักด้วยความผิดหวังเกินคณานับ ไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้นางจะมีโอกาสได้เห็นมุมใจร้ายของรัชทายาทหลี่ว์เยวี่ยหยาง“ชิงหลิงหายตัวไปก็เพราะเจ้า เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นก็เพราะเจ้าใช้แผนสกปรกกับข้า!”รัชทายาทวัยสิบเก้าปียอมปล่อยมือจากดรุณีน้อยตรงหน้า แม้ไม่ได้ลงแรงบีบมากนัก อีกทั้งเผลอทำไปเพราะอารมณ์โกรธอย่างสุดกลั้น ทว่ามันกลับทิ้งร่องรอยสีแดงไว้บนผิวเนียนสวยจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแต่มันก็สมควรแล้วล่ะ...สำหรับสตรีร้ายกาจที่ทำร้ายได้แม้กระทั้งพี่สาวแท้ๆ ของตน เพียงเพื่อให้ได้ครอบครองตำแหน่งพระชายา“องค์รัชทายาท” หลันชิงเหอรวบรวมความกล้าเพื่อกล่าวอธิบายต่อ “หม่อมฉันไม่ได้ทำเรื่องพวกนั้นจริงๆ นะเพคะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างสั่นเทา ดวงหน้าใสซื่อไม่ได้แสดงอาการโกหกเลยสักนิด ทว่าในสายตาของทุกคน นางกลับเป็นสตรีมากเล่ห์แสนไร้ค่า“หากเจ้าไม่ได้ทำ แล้วหลักฐานพ