“นี่มันอะไรกัน” ดาเนียลดันลูกสาวออกจากอก แล้วถามเสียงแข็ง
“ป๋าคะ ป๋าต้องจัดการให้เดียนะคะ พวกมันทำเหมือนเดียไม่มีศักดิ์ศรี”นาเดียร์สะอื้นไห้ น้ำตาไหลอาบแก้มขณัฟ้องพ่อ
“เกิดอะไรขึ้น ใครทำลูก บอกป๋ามาสิ” คุณดาเนียลถามลูกสาวด้วยความสงสัย
“วันนี้เดียโดนหักหน้า พี่ไทด์ก็ไม่ช่วยเดียเลย” นาเดียร์ฟ้องเรื่องพี่ชายก่อน ที่ครั้งนี้ไม่ยอมเข้าข้างเธอเลยสักนิด
“มีอะไรเล่าให้ป๋าฟังสิ” คุณดาเนียลถามด้วยเสียงที่เย็นลง เพราะถ้าไทเกอร์ที่ตามใจนาเดียร์มาตลอดทำแบบนี้ แสดงว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติแล้ว
“เดียไปเที่ยวห้าง แล้ว...” นาเดียร์เล่าเรื่องที่ห้าง และเรื่องที่เธอไปหาเขตแดนที่บริษัทของเขาให้พ่อฟัง
“นี่แกชอบไอ้เขตแดนหรือ”
คุณดาเนียลได้ยินเรื่องที่ลูกสาวเล่าก็ชักสีหน้าไม่พอใจ
“ค่ะ ป๋าต้องช่วยเดียนะ” นาเดียร์อ้อนพ่อ แต่สิ่งที่คุณดาเนียลบอกลูกสาวคือ
“ไม่ได้”
“ป๋า” นาเดียร์ร์เอ่ยเสียงดังเมื่อถูกขัดใจ
“แกจะรักใครชอบใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ศัตรูของฉัน”
ถึงจะรักลูกสาวมากแค่ไหน แต่คุณดาเนียลก็ไม่สนใจความรู้สึกของลูก เพราะนักธุรกิจด้านมืดอย่างเขา ไม่ได้มองเรื่องครอบครัวเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว
“ป๋า” นาเดียร์เรียกพ่อด้วยความตกใจ ที่ผ่านมาพ่อของเธอไม่เคยห้ามปราม หรือขัดใจเธอเลยสักครั้ง
“ฉันสั่งห้ามแกเด็ดขาดนะนาเดียร์ ห้ามไปยุ่งกับไอ้เขตแดนเด็ดขาด” คุณดาเนียลชี้หน้าลูกสาวอย่างไม่สบอารมณ์
“แต่เดียรักคุณเขตแดน”
“เหลวไหล จะไปไหนก็ไป”
“เดียไม่ไป ถ้าป๋าไม่ช่วย เดียจะอาละวาดให้บ้านแตกไปเลย” นาเดียร์ไม่ได้เพียงแค่พูด แต่เธอทำจริง เพราะตอนนี้เจ้าตัวกำลังหยิบแจกันหยกราคาแพงเหวี่ยงใส่ผนังห้อง
“พาคุณหนูออกไป” คุณดาเนียลคำรามเหมือนเสือร้ายใส่ลูกสาว พร้อมสั่งลูกน้องให้เข้ามาจัดการกับลูกสาวที่เอาแต่ใจ
“ครับนาย” การ์ดในชุดสูทสีดำรีบรับคำสั่งจากนายใหญ่แล้วเดินเข้าไปหาหญิงสาว
“ไม่นะป๋า ป๋าไม่มีเหตุผล ป๋า! นี่ ปล่อยฉันนะ ไอ้ขี้ข้า ปล่อยฉันนะ” นาเดียร์โวยวายไม่ยอมไปตลอดทาง เมื่อการ์ดสองคนหิ้วปีกเธอพาขึ้นไปบนห้อง และขังเธอไว้ในนั้น
เสียงกรี๊ด ๆ ของลูกสาว ผสมเสียงทุบประตูห้องดังอยู่ข้างบน ทำให้คุณดาเนียลยกมือขึ้นกุมขมับ
พอเห็นลูกน้องเดินมาหา จึงเอ่ยถามเสียงเหี้ยม
“เรื่องที่กูสั่งให้จัดการไปถึงไหนแล้ว”
“ผมสั่งให้คนติดตามลูกสาวนายจอห์นแล้วครับ” มือขวาของคุณดาเนียลบอกด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ
“ดี” ดาเนียลกระตุกยิ้มพอใจ ในคำตอบลูกน้องมือขวา
“เอ่อ…ท่านครับ”
“มีอะไร”
“ท่านจะไม่ให้คุณไทเกอร์จัดการเรื่องนี้แล้วเหรอครับ”
“กูแค่เผื่อไว้ ยังไงไอ้ไทด์มันก็ต้องจัดการนังเด็กนั่นอยู่แล้ว”
ณ บริษัทของคุณดาเนียล
ลูกน้องคนสนิทนามว่า ‘ยศ’ เคาะประตู และเข้ามาโดยเจ้าของห้องไม่ได้เอ่ยอนุญาต
“คุณไทเกอร์ครับ”
“มึงมีอะไร” ไทเกอร์ขานรับ ทั้งที่ยังเอนหลังพิงเบาะเก้าอี้ทำงาน และหลับตาเพื่อพักสายตา
“ผมมีเรื่องจะบอกครับ คือว่า...” ยศบอกเจ้านายเรื่องที่เขาได้ยินมา
คำพูดของลูกน้อง ทำให้ไทเกอร์ลืมตามองเพดาน ก่อนจะจ้องลูกน้องตาเขม็ง
“มึงว่ายังไงนะ ป๋าสั่งให้คนตามหมอธารทีราอย่างนั้นเหรอ”
“ครับ” ยศพยักหน้ายืนยัน
“นี่เขาไม่ไว้ใจกูอย่างนั้นเหรอ” ไทเกอร์หน้าตึง ยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“ผมยังหาเหตุผลไม่ได้ ว่าทำไมท่านดาเนียลถึงให้คุณไทเกอร์ไปยุ่งกับคุณธารทีรา” ยศออกความเห็น
“กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” ชายหนุ่มเองก็ไม่ได้รู้อะไรมาก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพ่อถึงได้ผูกใจเจ็บกับคนพวกนั้นนัก
“คุณไทเกอร์จะเอายังไงต่อครับ”
“มึงให้คนไปตามสืบเรื่องของป๋า และคุณจอห์นให้กูหน่อย”
ชายหนุ่มสั่งความ ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปสูบบุหรี่ตรงริมหน้าต่าง
“ทำไมหรือครับ”
“กูแค่อยากรู้ว่าทำไมป๋าถึงได้แค้นคุณจอห์นนัก”
“แต่ถ้านายใหญ่รู้ละครับ” ยศมีท่าทีลังเลอย่างเห็นได้ชัด เพราะถ้าเรื่องนี้ถูกจับได้ คนที่จะเดือดร้อนก็คือนายของเขาเอง
“กูบอกให้มึงไปสืบก็ไปเถอะ”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง” ยศรับคำสั่งแล้วออกจากห้องไป ทิ้งให้ไทเกอร์ยืนคิดอะไรบางอย่างกับตัวเองอยู่คนเดียว
‘มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ’
บทที่ 48ณ บ้านของคุณจอห์น“พี่เราได้บอกหรือยัง ว่าให้ลางานสักอาทิตย์” คุณจอห์นเอ่ยถามลูกสาว ขณะที่นั่งกินข้าวกันอยู่“นั่นสิ ลูกลางานหรือยัง” คุณหญิงโสภาเอ่ยถามเช่นกัน พลางตักอาหารใส่จานให้อย่างต้องการเอาใจ“จะไปไหนกันเหรอคะ ทำไมต้องลางานคะ หรือว่ามีอะไร”ธารทีราเอ่ยถาม ขณะมองหน้าพ่อแม่สลับกันไปมา“คือเราจะไปไร่ทานตะวันน่ะ” คุณหญิงฉีกยิ้ม เมื่อเอ่ยบอกลูกสาว“ไร่ทานตะวัน” ธารทีราทำหน้าสงสัย เธอรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็นึกไม่ออกว่าไปคุ้นมากจากไหน“จ้ะ ไร่ของคุณลุงสิงหากับคุณป้าม่านแก้วไง ลูกจำไม่ได้เหรอ”“อ๋อค่ะ คุณลุงสิงหากับคุณป้าม่านแก้ว เป็นอะไรเหรอคะ”“คุณลุงสิงหากับป้าม่านแก้วจะมีงานเลี้ยงน่ะ เลยชวนครอบครัวของเราไปด้วย” คุณหญิงโสภาอธิบายให้ลูกสาวฟังด้านคุณจอห์น พอเห็นสีหน้าตื่น ๆ ของลูกสาวจึงถามว่า“ที่โรงพยาบาลมีงานด่วนหรือเปล่า”“ไม่มีค่ะ” ธารทีราหันไปคุยกับพ่อ“ถ้าอย่างนั้นก็ดี เราจะได้ไปเที่ยวกัน ตั้งแต่กลับมไอซ์ก็ทำงานเลย คงไม่มีเวลาได้พักผ่อน” คราวนี้คุณหญิงเป็นคนบอกลูกสาวด้วยความห่วงใย“คุณแม่คะ ไอซ์พักมานานแล้วนะคะ อยู่ที่โน่นแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย”“แต่แม
บทที่ 49ณ คอนโดของเขตแดนครืด! ครืด!แรงสั่นของโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ทำให้เขตแดนต้องหยิบมาดูพอเห็นว่าเป็นใครเขาก็กดรับทันที“อื้ม...ว่า”‘พรุ่งนี้มึงมารับน้องกูด้วย’คำพูดของคนในสาย ทำให้เขตแดนไม่พูดอะไร เพราะชายหนุ่มยังงุนงงและไม่เข้าใจเมื่อเขตแดนไม่พูด คนในสายจึงถามเสียงดังว่า“เข้าใจที่กูพูดหรือเปล่า”เขตแดนทำหน้ายุ่ง พร้อมพูดเสียงนิ่งว่า“ไม่เข้าใจ”“ก็น้องกูจะนั่งรถไปกับมึง”“ไอ้ซีล” เขตแดนเรียกเพื่อนเสียงดัง ใบหน้าหล่อนั้นเต็มไปด้วยความสุข“เออ กูช่วยมึงได้แค่นี้แหละเพื่อน”คำพูดของเพื่อนทำให้เขตแดนได้แต่นั่งนิ่ง จนไม่รู้ตัวว่าเพื่อนวางสายไปนานแล้ว ด้วยเรื่องที่เพื่อนโทรมาหาเขาวันนี้ รวมถึงอะไรหลายอย่างในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เขายิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าธารทีราก็คือน้ำฟ้า น้องสาวคนสำคัญที่เขาเคยคิดว่าตายจากไปแล้วอย่างแน่นอนเช้าวันใหม่รถหรูของเขตแดนขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของคุณจอห์น จากนั้นชายหนุ่มก็เข้าไปทักทายเจ้าของบ้านแล้วเดินออกมา เมื่อเห็นเพื่อนเดินลงมาส่งน้องสาวที่ประตูบ้าน“สวัสดีค่ะ” ธารทีรายกมือไหว้เขตแดน“หวัดดี” เขตแดนพยักหน้ารับ แล้วเอากระเป๋าเสื้อของหญิงสาวที่หนึ่งนที
บทที่ 50ในช่วงเวลาเที่ยง เขตแดนเคลื่อนรถเข้าไปจอดที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ข้างทาง ก่อนจะหันไปปลุกคนข้างกายด้วยเสียงนุ่มนวล“ไอซ์...ไอซ์”“อื้ออ...”ธารทีราทำเสียงงัวเงียง แล้วลืมตา พอเห็นหน้าคนตัวใหญ่ที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าก็รีบเบี่ยงตัวหลบ“ตื่นได้แล้ว” เขตแดนจ้องหน้าคนสวยตาไม่กะพริบ มิหนำซ้ำยังยื่นหน้ามาใกล้ขึ้น จนทำให้หญิงสาวที่หันมามองเช่นกันต้องถึงกับผวา เพราะตอนนี้จมูกของเขาสัมผัสเข้ากับปลายจมูกของเธออย่างแนบชิด และเหมือนเขาจะจงใจให้เป็นเช่นนั้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะถอยออกมาธารทีรารู้สึกเขินอายจนหน้าแดงที่ปลายจมูกโด่งของเขาชนจมูกของเธอเมื่อครู่ พอก้มลงมองดูที่ตักก็พบว่ามีเสื้อของชายหนุ่มกองอยู่เพียงเท่านี้เธอก็รู้ได้ทันทีว่า อีกฝ่ายคงจะสละเสื้อคลุมของเขาให้กับเธอในตอนที่เผลอหลับไปน่าอายชะมัดเลย...หญิงสาวบ่นตนเองในใจ ก่อนจะถามแก้เก้อ“ถึงแล้วเหรอคะ”“ยัง แวะกินข้าวก่อน” เขตแดนยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อเห็นคนตัวเล็กหน้าแดง“เสื้อค่ะ” หญิงสาวส่งเสื้อคืนให้อย่างขวยเขิน“เก็บไว้บนรถนี่แหละ ไปกันเถอะ”เมื่อทั้งสองลงจากรถ ชายหนุ่มก็ก้าวไปยืนข้างกายธารทีราพร้อมกับเอ่ยถาม“กินได้หรือเปล่า”
บทที่ 51เมื่อวางสายจากพี่ชายแล้ว เธอก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินอาหาร ซึ่งมีคนตัวใหญ่คอยตักนั่นตักนี้ให้ ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง ทั้งสองก็อิ่มหนำกันแล้ว ซึ่งเขตแดนก็รับหน้าที่จ่ายเงินในมื้อนี้“จะเข้าห้องน้ำไหม” ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะ หลังจากจ่ายเงินแล้ว จากนั้นก็เดินเข้ามาช่วยถือกระเป๋า และยื่นมือมาตรงหน้าของหญิงสาว“ไม่ค่ะ” ธารทีรามีท่าทีลังเลเล็กน้อย จนอีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายดึงมือของเธอขึ้นมาจับไว้ พร้อมกับเอ่ยชวน“ไปเถอะ” หญิงสาวปล่อยให้อีกฝ่ายจูงมือตนออกจากร้านไปอย่างว่าง่าย โดยมีสายตาของเจ้าของร้านและลูกค้าหลายคนมองมาที่เขาและเธออย่างชื่นชม“อีกไกลไหมคะ” เธอเอ่ยถามอย่างชวนคุย เมื่อก้าวขึ้นมานั่งในรถแล้ว โดยมีชายหนุ่มเดินมาเปิดประตูให้“ไม่ไกล” เขาตอบด้วยรอยยิ้มนิด ๆ ก่อนจะปิดประตูแล้วเดินอ้อมมาขึ้นรถในฝั่งคนขับ แล้วขับรถออกจากร้านอาหารมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางเวลาทุ่มครึ่งที่ไร่ทานตะวัน เสียงรถที่วิ่งเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านทรงไทยหลังใหญ่ ทำให้ทุกคนในบ้านที่นั่งคุยกันอยู่ต้องหันไปมองอย่างรอคอย และเป็นแม่เลี้ยงม่านแก้วที่เอ่ยทัก เมื่อเห็นเขตแดนเดินถือกระเป๋าเข้ามา โดยมืออีกข้างจูงมือของธา
บทที่ 52เมื่อธารทีราเอากระเป๋าไปเก็บไว้บนห้องแล้ว เธอก็เดินตามแม่บ้านลงมาชั้นล่าง ระหว่างทางที่ก้าวลงมา เธอเห็นแสงไฟข้างนอกส่องสว่างจนมันพุ่งเข้ามาแยงตา จึงเอ่ยถามออกไปด้วยความสนใจ“ตรงนั้นคืออะไรเหรอคะ ทำไมเปิดไฟสว่างจังเลย”“สวนดอกไม้ของคุณดินค่ะ” แม่บ้านหันมาตอบ ก่อนจะเดินไปเปิดม่านให้กว้างขึ้น เพื่อให้หญิงสาวสามารถมองออกไปเห็นด้านนอก“สวนของพี่ดิน” ธารทีราทวนคำพูดของแม่บ้าน แววตาคู่งามไหวระริก ขณะมองดอกไม้หลายชนิดผ่านบานหน้าต่างที่ห่างออกไปจากจุดที่เธอยืนอยู่ไม่ไกลนัก“ค่ะ คุณดินทำไว้นั่งเล่นตอนเด็กๆ และตอนนี้ก็ชอบมานั่งอ่านหนังสือเวลากลับมาที่บ้านค่ะ” แม่บ้านยิ้ม เมื่อเอ่ยถึงอดีตตอนเขตแดนยังเด็ก“ขอไปดูได้ไหมคะ”“ปกติคุณดินจะหวงมาก แต่เข้าไปดูได้ค่ะ”แม่บ้านเอ่ยขึ้นอย่างลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมพาหญิงสาวไป เพราะจากตอนที่กลับมา เขตแดนจูงมือหญิงสาวคนนี้เข้ามาด้วยอย่างสนิทสนม แม่บ้านจึงเดาว่าทั้งสองคงสนิทสนมกันไม่น้อย หากจะพาไปดูก็คงไม่ถูกต่อว่าหรอกหลังจากนั้นธารทีราเดินออกจากบ้านไปยังสวยหย่อม ที่มีดอกไม้ปลูกเต็มไปหมด โดยมีแม่บ้านเดินนำไป และสิ่งที่ทำให้เธอต้องหยุดมองก็คือ ‘ชิ
บทที่ 53พอออกมาด้านนอกแล้ว หนึ่งนทีก็รีบบอกเล่าเรื่องที่เขากำลังเป็นกังวลออกมาทันที“ไอ้ดินบอกว่ามีคนขับรถตามมา ตั้งแต่ออกจากบ้านเราครับพ่อ”“พวกมันตามยัยไอซ์สินะ” คุณจอห์นเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงเย็นเยียบ“พวกมันรู้แล้วเหรอ” พ่อเลี้ยงสิงหาสงสัยเรื่องนี้จึงเอ่ยถามบ้าง“อื้อ ไทเกอร์มาเจอยัยไอซ์” คุณจอห์นบอกเพื่อนรัก“ว่าไงนะ!” พ่อเลี้ยงสิงหาตกใจมากที่ได้ยินแบบนั้น“ฉันเลยพาลูกมาหลบที่นี่ก่อนไง เบาเสียวด้วย ฉันไม่อยากให้คุณหญิงกับคุณม่านแก้วรู้” คุณจอห์นทำเสียงขึงขังใส่เพื่อน เมื่อเพื่อนส่งเสียงดัง“มันจะเอากันให้ตายไปข้างหนึ่งเลยใช่ไหม” พ่อเลี้ยงสิงหาพูดขึ้นอย่างเคียดแค้น“ผมจะดูแลน้องให้ดีที่สุดครับ” หนึ่งนทีไม่ได้พูดแค่ให้ผู้ใหญ่สบายใจ แต่เขาพูดจากใจจริงที่อยากจะปกป้องธารทีราให้ดีที่สุดสองอาทิตย์แล้วที่กลับมาจากเชียงใหม่ วันนี้ธารทีราจึงกลับมาทำงานตามปกติ และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่เธอเข้ามาทำงาน“อ้าวไอซ์ มาทำงานได้แล้วเหรอ” อุษาถามเมื่อเห็นเพื่อนยืนชงเครื่องดื่มอยู่ในห้องพักผ่อนของแผนก“อื้อ” หญิงสาวพยักหน้าให้เพื่อน แล้วเดินไปยืนพิงที่ขอบโต๊ะใกล้ ๆ เพื่อน“แล้วไปเที่ยวมาเป็นยังไงบ้าง” อ
บทที่ 54กรี๊ดด!!! ธารทีราตกใจจนเผลอกดตัดสายทิ้งไปอย่างไม่ตั้งใจ“ไอซ์!” เขตแดนพยายามเรียก แต่กลับไม่มีการตอบรับ จึงเผลอสบถออกมา “เหี้ยเอ๊ย!”“คุณหนู เป็นอะไรไหมคะ” มีนาถามพร้อมคลานไปหาเจ้านายสาวที่กำลังนั่งตัวสั่นอยู่ตรงเบาะรถด้านหลัง“ไม่ค่ะ” ธารทีราเช็ดน้ำตาแล้วส่ายหน้าไปมา“เดี๋ยวเราจะออกจากรถไป แล้วหลบทางโน้นนะคะ” มีนาใช้ปืนชี้ให้ดู ว่าทางที่จะไปหลบซ่อนนั้นอยู่ไม่ไกลจากที่นี่“ค่ะ” ธารทีราพยักหน้าให้ แล้วทำตามมีนาบอก ซึ่งอีกฝ่ายก็เอื้อมมือไปเปิดประตูอีกฝั่ง แล้วหันมาคุ้มกันเจ้านายสาวออกจากรถทั้งคู่วิ่งมาหลบที่ริมทาง โดยที่มีนาเองก็ยิงสวนคนร้ายไปด้วย“ไม่ต้องกลัวนะ คุณไอซ์” มีนาหันมาปลอบและยิงสู้กับคนร้ายไปด้วย“ค่ะ” ธารทีราพยักหน้าไปอย่างนั้นเอง ทั้งที่เธอกลัวจนใจจะขาดแล้ว ซ้ำยังต้องหมอบหลบ และซุกตัวเข้าข้างหลังของมีนาทุกครั้งเมื่อมีเสียงปืนดังขึ้น“ยื้อเวลาให้ได้นานที่สุด” มีนาพูดกับคนของเธอที่ฟังอยู่ในอุปกรณ์สื่อสารทันใดนั้นโทรศัพท์ของมีนาก็ดังขึ้น และเธอก็รีบกดรับและกรอกเสียงแข็งห้าว ๆ บอกคนในสายว่า“ซันกูถูกซุ่มยิง ที่ถนน XXX”เสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ ซึ่งมีนาก็ยิงสวนกลับไป
บทที่ 55“พี่แวน พี่มีนาไม่ไหวแล้ว รีบขับรถให้เร็ว ๆ กว่านี้ได้ไหมคะ”ธารทีราบอก เมื่อเห็นมีนาเริ่มแน่นิ่งไป“นายครับ แค่นี้ก่อนนะ” แวนไม่ตอบคำถามของหนึ่งนทีที่ถามกลับมาว่าใครเป็นอะไร จากนั้นชายหนุ่มก็วางสาย แล้วหักพวงมาลัยไปทางขวามุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลของธารทีรา ซึ่งอยู่ใกล้จากจุดนี้ที่สุดเมื่อแวนจอดรถที่หน้าห้องฉุกเฉินก็มีบุรุษพยาบาลเข็นเตียงมารับมีนาพาไปดูแลต่อ ซึ่งธารทีราก็ตั้งใจจะเดินตามบุรุษพยาบาลไปยังห้องฉุกเฉินด้วย“ไอซ์” เสียงเรียกของพี่ชาย ทำให้ธารทีราหันไปมองแล้วเดินไปหา แต่กลับเป็นเขตแดนที่เดินก้าวยาว ๆ ไปยืนเผชิญหน้ากับเธอ“พี่ดิน” ธารทีราอุทานเสียงเบา เมื่อถูกคนตัวสูงจับบ่าสองข้างของเธอเอาไว้“เป็นอะไร ทำไมถึงมีเลือด” เขตแดนถาม เมื่อเห็นว่าเลือดเลอะเต็มเสื้อของหญิงสาว“ไอซ์ไม่ได้เป็นอะไร นี่เป็นเลือดของพี่มีนาค่ะ” ธารทีราบอกคนตรงหน้า แล้วมองไปทางห้องฉุกเฉิน“โล่งอก” เขตแดนโล่งอกขึ้นมาทันที“ไอซ์จะเข้าไปดูพี่มีนาค่ะ” ธารทีราดันมือของเขตแดนออกจากแขนทั้งสองข้าง แล้วตั้งใจจะเดินไปยังห้องฉุกเฉินแต่เขตแดนกลับรั้งแขนเธอไว้ก่อน แล้วเอ่ยบอกเสียงนิ่ง ๆ ว่า“ดูแลตัวเองด้วยนะ”“ค่
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล