ณ บ้านของคุณจอห์น
“พี่เราได้บอกหรือยัง ว่าให้ลางานสักอาทิตย์” คุณจอห์นเอ่ยถามลูกสาว ขณะที่นั่งกินข้าวกันอยู่
“นั่นสิ ลูกลางานหรือยัง” คุณหญิงโสภาเอ่ยถามเช่นกัน พลางตักอาหารใส่จานให้อย่างต้องการเอาใจ
“จะไปไหนกันเหรอคะ ทำไมต้องลางานคะ หรือว่ามีอะไร”
ธารทีราเอ่ยถาม ขณะมองหน้าพ่อแม่สลับกันไปมา
“คือเราจะไปไร่ทานตะวันน่ะ” คุณหญิงฉีกยิ้ม เมื่อเอ่ยบอกลูกสาว
“ไร่ทานตะวัน” ธารทีราทำหน้าสงสัย เธอรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็นึกไม่ออกว่าไปคุ้นมากจากไหน
“จ้ะ ไร่ของคุณลุงสิงหากับคุณป้าม่านแก้วไง ลูกจำไม่ได้เหรอ”
“อ๋อค่ะ คุณลุงสิงหากับคุณป้าม่านแก้ว เป็นอะไรเหรอคะ”
“คุณลุงสิงหากับป้าม่านแก้วจะมีงานเลี้ยงน่ะ เลยชวนครอบครัวของเราไปด้วย” คุณหญิงโสภาอธิบายให้ลูกสาวฟัง
ด้านคุณจอห์น พอเห็นสีหน้าตื่น ๆ ของลูกสาวจึงถามว่า
“ที่โรงพยาบาลมีงานด่วนหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ” ธารทีราหันไปคุยกับพ่อ
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี เราจะได้ไปเที่ยวกัน ตั้งแต่กลับมไอซ์ก็ทำงานเลย คงไม่มีเวลาได้พักผ่อน” คราวนี้คุณหญิงเป็นคนบอกลูกสาวด้วยความห่วงใย
“คุณแม่คะ ไอซ์พักมานานแล้วนะคะ อยู่ที่โน่นแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย”
“แต่แม่อยากให้หนูพักผ่อนก่อนทำงานนี่”
คุณหญิงโสภาทำเสียงประชดลูกสาวที่รีบร้อนทำงาน โดยไม่ยอมพักก่อนสักหลายเดือน อย่างที่ท่านเคยแนะนำไว้
ธารทีราลุกจากเก้าอี้เดินไปยืนข้างหลังเก้าอี้ตัวที่แม่นั่ง พร้อมกับโอบกอดท่านจากทางด้านหลัง แล้วพูดเสียงอ้อนว่า
“ไปกันค่ะ เดี๋ยวไอซ์จะพักให้เต็มที่เลยค่ะ”
“เอาน่าคุณ เด็กรุ่นใหม่ก็อย่างนี้แหละ” คุณจอห์นพูดกับภรรยา แต่ก็ยื่นมือมาลูบหลังของลูกสาวอย่างรักใคร่
“งั้นพรุ่งนี้ไอซ์นั่งรถไปกับไอ้ดินนะ” หนึ่งนทีเดินเข้ามาในห้องอาหาร ได้ยินพ่อแม่และน้องคุยกัน ซึ่งเขาได้โอกาสจึงบอกน้องทันที
“พี่ซีลว่าอะไรนะคะ”
“ได้ยินชัดแล้วจะถามย้ำทำไม” ชายหนุ่มยักไหล่ใส่น้องสาวแล้วเดินไปนั่งเก้าอี้
“แล้วคุณพ่อคุณแม่ไปยังไงคะ” ธารทีราทำหน้างอใส่พี่ชาย แล้วหันไปถามพ่อกับแม่
“คุณพ่อคุณแม่ก็ขึ้นเครื่องไง”
“แล้วพี่ซีลล่ะ”
“พี่ก็นั่งเครื่องไปกับคุณพ่อคุณแม่ไง”
“ได้ไงคะ ไอซ์…” เธอไม่ทันได้ปฏิเสธ พี่ชายก็พูดขึ้นว่า
“พี่รู้นะว่าเราชอบเดินทางทางรถมากว่านั่งเครื่อง”
“ก็ใช่ค่ะ แต่…” เธอไม่ทันได้บอกพี่ชายว่า ไม่อยากนั่งรถไปกับเขาคนนั้นต่างหาก หนึ่งนทีก็สวนขึ้นมาทันควัน
“ขอโทษนะ พี่จองตั๋วแค่สามที่นั่งเอง” หนึ่งนทีทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่น้องสาว
“พี่ซีล ไม่เนียนค่ะ” คำพูดของพี่ชาย ทำให้ธารทีราไม่เชื่อ เพราะมันฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด
“เอาน่าลูก นั่งรถไปกับพี่เขาก็ได้ พี่เขาจะได้มีเพื่อน”
คุณหญิงพยายามช่วยลูกชายพูดอีกแรง
“ก็พี่ซีลไงคะ ไปนั่งกับเพื่อนพี่เลย” ธารทีราไล่ให้พี่ชายไปนั่งรถกับเขตแดนเอง
“ไม่เอา พี่ไม่ชอบนั่งรถนาน ๆ” ชายหนุ่มส่ายหน้าพรืดแล้วหาข้ออ้าง
“พี่ซีล!” ธารทีรามองพี่ชายอย่างบังคับ
“เอาล่ะ ๆ อย่าทะเลาะกัน ไอซ์ก็ไปกับตาดินนั่นแหละ”
เป็นคุณจอห์นเองที่สรุปให้สองพี่น้อง
“คุณพ่อ” ธารทีราหันไปงอแงใส่พ่อทันที
“ไปลูก ไปเก็บของกันเถอะ พรุ่งนี้พี่เขาจะมารับเราแต่เช้านะ”
คุณหญิงโสภารีบลากลุกสาวให้ขึ้นไปเก็บของ ก่อนที่ทุกอย่างจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่
“แม่คะ” หญิงสาวทำเสียงอ้อน แต่ก็เหมือนไม่มีใครยอมฟัง หน้าสวย ๆ จึงงอง้ำอย่างไม่พอใจ แต่เธอก็จำใจเดินตามแม่ขึ้นไปบนห้องเพื่อเก็บเสื้อผ้า
“หึ ๆ” หนึ่งนทีหัวเราะในลำคอ เมื่อเห็นน้องเดินตามแม่ต้อย ๆ ขึ้นไปชั้นบน
ท่าทีของลูกชาย ทำให้คุณจอห์นสงสัยจึงถามว่า
“ดินรู้เรื่องแล้วเหรอ”
“คิดว่ามันรู้แล้วละครับ”
“อื้ม ถ้าอย่างงั้นก็ให้น้องเราชดเชยให้เขาหน่อยก็แล้วกัน”
คุณจอห์นบอกยิ้ม ๆ
“ครับพ่อ”
บทที่ 49ณ คอนโดของเขตแดนครืด! ครืด!แรงสั่นของโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ทำให้เขตแดนต้องหยิบมาดูพอเห็นว่าเป็นใครเขาก็กดรับทันที“อื้ม...ว่า”‘พรุ่งนี้มึงมารับน้องกูด้วย’คำพูดของคนในสาย ทำให้เขตแดนไม่พูดอะไร เพราะชายหนุ่มยังงุนงงและไม่เข้าใจเมื่อเขตแดนไม่พูด คนในสายจึงถามเสียงดังว่า“เข้าใจที่กูพูดหรือเปล่า”เขตแดนทำหน้ายุ่ง พร้อมพูดเสียงนิ่งว่า“ไม่เข้าใจ”“ก็น้องกูจะนั่งรถไปกับมึง”“ไอ้ซีล” เขตแดนเรียกเพื่อนเสียงดัง ใบหน้าหล่อนั้นเต็มไปด้วยความสุข“เออ กูช่วยมึงได้แค่นี้แหละเพื่อน”คำพูดของเพื่อนทำให้เขตแดนได้แต่นั่งนิ่ง จนไม่รู้ตัวว่าเพื่อนวางสายไปนานแล้ว ด้วยเรื่องที่เพื่อนโทรมาหาเขาวันนี้ รวมถึงอะไรหลายอย่างในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เขายิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าธารทีราก็คือน้ำฟ้า น้องสาวคนสำคัญที่เขาเคยคิดว่าตายจากไปแล้วอย่างแน่นอนเช้าวันใหม่รถหรูของเขตแดนขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของคุณจอห์น จากนั้นชายหนุ่มก็เข้าไปทักทายเจ้าของบ้านแล้วเดินออกมา เมื่อเห็นเพื่อนเดินลงมาส่งน้องสาวที่ประตูบ้าน“สวัสดีค่ะ” ธารทีรายกมือไหว้เขตแดน“หวัดดี” เขตแดนพยักหน้ารับ แล้วเอากระเป๋าเสื้อของหญิงสาวที่หนึ่งนที
บทที่ 50ในช่วงเวลาเที่ยง เขตแดนเคลื่อนรถเข้าไปจอดที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ข้างทาง ก่อนจะหันไปปลุกคนข้างกายด้วยเสียงนุ่มนวล“ไอซ์...ไอซ์”“อื้ออ...”ธารทีราทำเสียงงัวเงียง แล้วลืมตา พอเห็นหน้าคนตัวใหญ่ที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าก็รีบเบี่ยงตัวหลบ“ตื่นได้แล้ว” เขตแดนจ้องหน้าคนสวยตาไม่กะพริบ มิหนำซ้ำยังยื่นหน้ามาใกล้ขึ้น จนทำให้หญิงสาวที่หันมามองเช่นกันต้องถึงกับผวา เพราะตอนนี้จมูกของเขาสัมผัสเข้ากับปลายจมูกของเธออย่างแนบชิด และเหมือนเขาจะจงใจให้เป็นเช่นนั้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะถอยออกมาธารทีรารู้สึกเขินอายจนหน้าแดงที่ปลายจมูกโด่งของเขาชนจมูกของเธอเมื่อครู่ พอก้มลงมองดูที่ตักก็พบว่ามีเสื้อของชายหนุ่มกองอยู่เพียงเท่านี้เธอก็รู้ได้ทันทีว่า อีกฝ่ายคงจะสละเสื้อคลุมของเขาให้กับเธอในตอนที่เผลอหลับไปน่าอายชะมัดเลย...หญิงสาวบ่นตนเองในใจ ก่อนจะถามแก้เก้อ“ถึงแล้วเหรอคะ”“ยัง แวะกินข้าวก่อน” เขตแดนยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อเห็นคนตัวเล็กหน้าแดง“เสื้อค่ะ” หญิงสาวส่งเสื้อคืนให้อย่างขวยเขิน“เก็บไว้บนรถนี่แหละ ไปกันเถอะ”เมื่อทั้งสองลงจากรถ ชายหนุ่มก็ก้าวไปยืนข้างกายธารทีราพร้อมกับเอ่ยถาม“กินได้หรือเปล่า”
บทที่ 51เมื่อวางสายจากพี่ชายแล้ว เธอก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินอาหาร ซึ่งมีคนตัวใหญ่คอยตักนั่นตักนี้ให้ ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง ทั้งสองก็อิ่มหนำกันแล้ว ซึ่งเขตแดนก็รับหน้าที่จ่ายเงินในมื้อนี้“จะเข้าห้องน้ำไหม” ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะ หลังจากจ่ายเงินแล้ว จากนั้นก็เดินเข้ามาช่วยถือกระเป๋า และยื่นมือมาตรงหน้าของหญิงสาว“ไม่ค่ะ” ธารทีรามีท่าทีลังเลเล็กน้อย จนอีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายดึงมือของเธอขึ้นมาจับไว้ พร้อมกับเอ่ยชวน“ไปเถอะ” หญิงสาวปล่อยให้อีกฝ่ายจูงมือตนออกจากร้านไปอย่างว่าง่าย โดยมีสายตาของเจ้าของร้านและลูกค้าหลายคนมองมาที่เขาและเธออย่างชื่นชม“อีกไกลไหมคะ” เธอเอ่ยถามอย่างชวนคุย เมื่อก้าวขึ้นมานั่งในรถแล้ว โดยมีชายหนุ่มเดินมาเปิดประตูให้“ไม่ไกล” เขาตอบด้วยรอยยิ้มนิด ๆ ก่อนจะปิดประตูแล้วเดินอ้อมมาขึ้นรถในฝั่งคนขับ แล้วขับรถออกจากร้านอาหารมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางเวลาทุ่มครึ่งที่ไร่ทานตะวัน เสียงรถที่วิ่งเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านทรงไทยหลังใหญ่ ทำให้ทุกคนในบ้านที่นั่งคุยกันอยู่ต้องหันไปมองอย่างรอคอย และเป็นแม่เลี้ยงม่านแก้วที่เอ่ยทัก เมื่อเห็นเขตแดนเดินถือกระเป๋าเข้ามา โดยมืออีกข้างจูงมือของธา
บทที่ 52เมื่อธารทีราเอากระเป๋าไปเก็บไว้บนห้องแล้ว เธอก็เดินตามแม่บ้านลงมาชั้นล่าง ระหว่างทางที่ก้าวลงมา เธอเห็นแสงไฟข้างนอกส่องสว่างจนมันพุ่งเข้ามาแยงตา จึงเอ่ยถามออกไปด้วยความสนใจ“ตรงนั้นคืออะไรเหรอคะ ทำไมเปิดไฟสว่างจังเลย”“สวนดอกไม้ของคุณดินค่ะ” แม่บ้านหันมาตอบ ก่อนจะเดินไปเปิดม่านให้กว้างขึ้น เพื่อให้หญิงสาวสามารถมองออกไปเห็นด้านนอก“สวนของพี่ดิน” ธารทีราทวนคำพูดของแม่บ้าน แววตาคู่งามไหวระริก ขณะมองดอกไม้หลายชนิดผ่านบานหน้าต่างที่ห่างออกไปจากจุดที่เธอยืนอยู่ไม่ไกลนัก“ค่ะ คุณดินทำไว้นั่งเล่นตอนเด็กๆ และตอนนี้ก็ชอบมานั่งอ่านหนังสือเวลากลับมาที่บ้านค่ะ” แม่บ้านยิ้ม เมื่อเอ่ยถึงอดีตตอนเขตแดนยังเด็ก“ขอไปดูได้ไหมคะ”“ปกติคุณดินจะหวงมาก แต่เข้าไปดูได้ค่ะ”แม่บ้านเอ่ยขึ้นอย่างลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมพาหญิงสาวไป เพราะจากตอนที่กลับมา เขตแดนจูงมือหญิงสาวคนนี้เข้ามาด้วยอย่างสนิทสนม แม่บ้านจึงเดาว่าทั้งสองคงสนิทสนมกันไม่น้อย หากจะพาไปดูก็คงไม่ถูกต่อว่าหรอกหลังจากนั้นธารทีราเดินออกจากบ้านไปยังสวยหย่อม ที่มีดอกไม้ปลูกเต็มไปหมด โดยมีแม่บ้านเดินนำไป และสิ่งที่ทำให้เธอต้องหยุดมองก็คือ ‘ชิ
บทที่ 53พอออกมาด้านนอกแล้ว หนึ่งนทีก็รีบบอกเล่าเรื่องที่เขากำลังเป็นกังวลออกมาทันที“ไอ้ดินบอกว่ามีคนขับรถตามมา ตั้งแต่ออกจากบ้านเราครับพ่อ”“พวกมันตามยัยไอซ์สินะ” คุณจอห์นเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงเย็นเยียบ“พวกมันรู้แล้วเหรอ” พ่อเลี้ยงสิงหาสงสัยเรื่องนี้จึงเอ่ยถามบ้าง“อื้อ ไทเกอร์มาเจอยัยไอซ์” คุณจอห์นบอกเพื่อนรัก“ว่าไงนะ!” พ่อเลี้ยงสิงหาตกใจมากที่ได้ยินแบบนั้น“ฉันเลยพาลูกมาหลบที่นี่ก่อนไง เบาเสียวด้วย ฉันไม่อยากให้คุณหญิงกับคุณม่านแก้วรู้” คุณจอห์นทำเสียงขึงขังใส่เพื่อน เมื่อเพื่อนส่งเสียงดัง“มันจะเอากันให้ตายไปข้างหนึ่งเลยใช่ไหม” พ่อเลี้ยงสิงหาพูดขึ้นอย่างเคียดแค้น“ผมจะดูแลน้องให้ดีที่สุดครับ” หนึ่งนทีไม่ได้พูดแค่ให้ผู้ใหญ่สบายใจ แต่เขาพูดจากใจจริงที่อยากจะปกป้องธารทีราให้ดีที่สุดสองอาทิตย์แล้วที่กลับมาจากเชียงใหม่ วันนี้ธารทีราจึงกลับมาทำงานตามปกติ และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่เธอเข้ามาทำงาน“อ้าวไอซ์ มาทำงานได้แล้วเหรอ” อุษาถามเมื่อเห็นเพื่อนยืนชงเครื่องดื่มอยู่ในห้องพักผ่อนของแผนก“อื้อ” หญิงสาวพยักหน้าให้เพื่อน แล้วเดินไปยืนพิงที่ขอบโต๊ะใกล้ ๆ เพื่อน“แล้วไปเที่ยวมาเป็นยังไงบ้าง” อ
บทที่ 54กรี๊ดด!!! ธารทีราตกใจจนเผลอกดตัดสายทิ้งไปอย่างไม่ตั้งใจ“ไอซ์!” เขตแดนพยายามเรียก แต่กลับไม่มีการตอบรับ จึงเผลอสบถออกมา “เหี้ยเอ๊ย!”“คุณหนู เป็นอะไรไหมคะ” มีนาถามพร้อมคลานไปหาเจ้านายสาวที่กำลังนั่งตัวสั่นอยู่ตรงเบาะรถด้านหลัง“ไม่ค่ะ” ธารทีราเช็ดน้ำตาแล้วส่ายหน้าไปมา“เดี๋ยวเราจะออกจากรถไป แล้วหลบทางโน้นนะคะ” มีนาใช้ปืนชี้ให้ดู ว่าทางที่จะไปหลบซ่อนนั้นอยู่ไม่ไกลจากที่นี่“ค่ะ” ธารทีราพยักหน้าให้ แล้วทำตามมีนาบอก ซึ่งอีกฝ่ายก็เอื้อมมือไปเปิดประตูอีกฝั่ง แล้วหันมาคุ้มกันเจ้านายสาวออกจากรถทั้งคู่วิ่งมาหลบที่ริมทาง โดยที่มีนาเองก็ยิงสวนคนร้ายไปด้วย“ไม่ต้องกลัวนะ คุณไอซ์” มีนาหันมาปลอบและยิงสู้กับคนร้ายไปด้วย“ค่ะ” ธารทีราพยักหน้าไปอย่างนั้นเอง ทั้งที่เธอกลัวจนใจจะขาดแล้ว ซ้ำยังต้องหมอบหลบ และซุกตัวเข้าข้างหลังของมีนาทุกครั้งเมื่อมีเสียงปืนดังขึ้น“ยื้อเวลาให้ได้นานที่สุด” มีนาพูดกับคนของเธอที่ฟังอยู่ในอุปกรณ์สื่อสารทันใดนั้นโทรศัพท์ของมีนาก็ดังขึ้น และเธอก็รีบกดรับและกรอกเสียงแข็งห้าว ๆ บอกคนในสายว่า“ซันกูถูกซุ่มยิง ที่ถนน XXX”เสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ ซึ่งมีนาก็ยิงสวนกลับไป
บทที่ 55“พี่แวน พี่มีนาไม่ไหวแล้ว รีบขับรถให้เร็ว ๆ กว่านี้ได้ไหมคะ”ธารทีราบอก เมื่อเห็นมีนาเริ่มแน่นิ่งไป“นายครับ แค่นี้ก่อนนะ” แวนไม่ตอบคำถามของหนึ่งนทีที่ถามกลับมาว่าใครเป็นอะไร จากนั้นชายหนุ่มก็วางสาย แล้วหักพวงมาลัยไปทางขวามุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลของธารทีรา ซึ่งอยู่ใกล้จากจุดนี้ที่สุดเมื่อแวนจอดรถที่หน้าห้องฉุกเฉินก็มีบุรุษพยาบาลเข็นเตียงมารับมีนาพาไปดูแลต่อ ซึ่งธารทีราก็ตั้งใจจะเดินตามบุรุษพยาบาลไปยังห้องฉุกเฉินด้วย“ไอซ์” เสียงเรียกของพี่ชาย ทำให้ธารทีราหันไปมองแล้วเดินไปหา แต่กลับเป็นเขตแดนที่เดินก้าวยาว ๆ ไปยืนเผชิญหน้ากับเธอ“พี่ดิน” ธารทีราอุทานเสียงเบา เมื่อถูกคนตัวสูงจับบ่าสองข้างของเธอเอาไว้“เป็นอะไร ทำไมถึงมีเลือด” เขตแดนถาม เมื่อเห็นว่าเลือดเลอะเต็มเสื้อของหญิงสาว“ไอซ์ไม่ได้เป็นอะไร นี่เป็นเลือดของพี่มีนาค่ะ” ธารทีราบอกคนตรงหน้า แล้วมองไปทางห้องฉุกเฉิน“โล่งอก” เขตแดนโล่งอกขึ้นมาทันที“ไอซ์จะเข้าไปดูพี่มีนาค่ะ” ธารทีราดันมือของเขตแดนออกจากแขนทั้งสองข้าง แล้วตั้งใจจะเดินไปยังห้องฉุกเฉินแต่เขตแดนกลับรั้งแขนเธอไว้ก่อน แล้วเอ่ยบอกเสียงนิ่ง ๆ ว่า“ดูแลตัวเองด้วยนะ”“ค่
บทที่ 56ในห้องนอนของมาดามอันนาเมื่อเห็นแม่บ้านเปิดประตูเข้ามา และทำท่าตื่นเต้น มาดามอันนาก็ถามแม่บ้านว่า“ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง”“มาดาม ฉันได้ยินมาว่าใครถูกซุ่มยิงนี่แหละค่ะ” แม่บ้านจีบปากจีบคอรายงาน สิ่งที่ตัวเองได้ยินให้นายหญิงฟัง“แล้วคุณดาเนียลว่ายังไงบ้าง” มาดามอันนาปรับสีหน้าซีดเผือดให้เป็นปกติและหันไปมองแม่บ้านเวลาถามถึงสามี“คุณดาเนียลพูดว่าคนที่ทำไม่ใช่คนของท่านค่ะ แล้วท่านยังสั่งให้คนตามคุณไทด์ด้วยนะคะ” แม่บ้านเข้าไปกระซิบเสียงเบา ๆ ที่ข้างหูของนายหญิง“เขาไม่ไว้ใจไทด์เหรอ”เมื่อได้ยินว่าสามีให้คนตามลูกชาย มาดามก็ยิ่งไม่ชอบใจ มือที่กำลังกำมือถือนั้นชื้นไปด้วยเหงื่อ แม่บ้านไม่พูด แต่พยักหน้าให้ ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้พูดอะไรกันต่อ ก็มีคนเปิดประตูเข้ามาเสียก่อนแม่บ้านแทบจะหยุดหายใจ เมื่อประตูห้องถูกเปิดออก แต่เมื่อเห็นว่าคนที่ก้าวเข้ามาเป็นใครก็เอ่ยด้วยเสียงที่โล่งอก“คุณเดีย ป้าหัวใจจะหยุดเต้นเสียให้ได้”“ป้าเข้ามาทำอะไร” นาเดียร์ทำหน้าสงสัย พร้อมเดินไปนั่งข้างแม่ ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง“ไงลูกแม่” มาดามถามพร้อมทั้งยกมือลูบศีรษะของลูกสาว“ป้ายังไม่บอกฉันเลย เข้ามาทำ
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล