“หากผมจะไปก็ต้องมีคุณไปด้วย จำได้ว่าเราคุยกันแล้วนะ ก่อนกลับมาคุณก็ทำท่าว่าเข้าใจสิ่งที่เราคุยกันไม่ใช่หรือ มุกรวี”
“ก็... ฉัน เอ่อ คุณเข้ามาในบ้านฉันได้อย่างไร นี่มันบุกรุกชัดๆ” หญิงสาวไม่สนใจจะตอบคำถามของเขาพยายามหาทางถ่วงเวลาเพื่อคิดหาทางเอาตัวรอดเพราะไอศูรย์ดูน่ากลัวเหลือเกินแววตาของเขาร้อนแรงจนเธอแทบหัวใจละลายด้วยความหวั่นไหว ไอศูรย์เอาจริงแน่ๆ คราวนี้เธอจะทำอย่างไรให้รอดพ้นเงื้อมมือเขาได้นะ มุกรวีคิดพลางถอยหนีร่างสูงที่ดูจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และเธอก็หมดทางหนีลงเรื่อยๆ เช่นกันเมื่อแผ่นหลังบางชนผนังตอนนี้เธอก็จนมุมแล้วจริงๆ
“คุณไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนใจ หรือมีทางเลือกอื่น คุณก็รู้นี่ไข่มุก หากผมต้องการอะไร ก็ต้องได้ แล้วคิดหรือว่ารั้วแค่นี้จะกั้นผมได้ คิดผิดแล้วล่ะคนสวย..” ชายหนุ่มกักหญิงสาวไว้ด้วยร่างหนาของตน แขนแข็งแรงเท้าผนัง เท่านั้นมุกรวีก็เหมือนตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา ใบหน้าหล่อเหลาโน้มใกล้เข้ามาจนเธอตาพร่า หัวใจหวิวๆ ราวจะเป็นลม
โอ... ไอศูรย์ช่างหล่อเหลาเหลือเกิน กลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่ลอยปะทะจมูกยิ่งทำให้เธอแทบไร้เรี่ยวแรงต่อต้านขัดขืน มุกรวีพยายามยันร่างหนาไว้ด้วยแขนที่อ่อนแรง
“คุณ... อะ...” เสียงหวานหายไปในลำคอเมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวประทับลงมาอย่างถนัดถนี่มือหนารวบเอวบางเข้าชิดร่างแกร่ง ลิ้นร้ายกาจฉกชิมดูดดื่มความหวานจากปากสาวระเรื่ออย่างหิวกระหาย ดูดดึงความหวานล้ำทุกหยาดหยดจากเรียวลิ้นไร้เดียงสา มือหนาร้อนราวเปลวไฟลูบไล้นวลเนื้อตรงเอวบางอย่างหยอกเย้าแล้วค่อยๆ สอดซุกเข้าไปในชายเสื้อตัวบางเพื่อกอบกุมเนินเนื้อหนั่นแน่นนุ่มหยุ่นราวสปริงชั้นดีที่เบ่งบานราวรอคอยเขา ยอดทรวงที่แข็งชันถูกนิ้วร้ายเคล้นคลึง ไม่แพ้สะโพกตึงแน่น ร่างสาวอ่อนระทวยเหมือนร่างกายไร้กระดูกหากไอศูรย์ไม่โอบกอดเธอไว้ป่านนี้เธอคงทรุดลงไปกองกับพื้นให้ได้ขายหน้ากันล่ะ
ไอศูรย์หลงใหลไปกับความหวานล้ำที่ไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลยสักครั้งเมื่อลิ้มลอง เธอร้อนเร่าเมื่ออยู่ใต้ร่างเขา ความหวานใสไร้เดียงสาของเธอทำลายกฎทุกข้อของเขา มุกรวีจะต้องเป็นของเขาเพราะเขารอต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ หากมุกรวียังไม่ยอมแต่โดยดี เห็นทีคงต้องใช้การบังคับกันล่ะใครจะว่าเขาบ้าเพราะผู้หญิงคนเดียวคนนี้ก็ยอม
“ผมให้เวลาคุณตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย มุกรวี ว่าจะเป็นผู้หญิงของไอศูรย์ อเล็กซิโอ กัสซินี ดีๆ หรือว่าจะต้องให้ผมใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับคุณและเพื่อนของคุณ” ไอศูรย์ถอนริมฝีปากออกจากริมฝีปากบวมเจ่อและแดงเรื่อนั้นอย่างตัดใจ เพราะกลัวจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็มุกรวีช่างหอมหวานและน่าปรารถนาถึงเพียงนี้ เขาจะไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือแน่ๆ หญิงสาวที่เพิ่งจะตื่นจากภวังค์หวามไหว มองเขาตาโตความวาบหวามเมื่อครู่หายไปทันทีเมื่อเจอคำขอร้องแกมบังคับนั้น
“เผด็จการที่สุด คุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งมาให้คนอื่นทำโน่นทำนี่คุณไม่ใช่เจ้าชีวิตของไข่มุกนะคะ”
“ต่อไปนี้ผมจะเป็น ไข่มุก ผมได้เลือกให้คุณแล้ว และคุณก็ปฏิเสธมันไม่ได้ด้วย คุณก็รู้ว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้าง” ชายหนุ่มพูดอย่างหนักแน่นพร้อมกับกระชับร่างบางเข้าแนบอกแกร่งตอนนี้ร่างเธอแทบหลอมละลายไปกับอกกว้างนั้น หญิงสาวหน้าแดงทั้งขัดเขินและอับอายที่ร่างตนเองตื่นเพริดไปกับการเล้าโลมของเขาซ้ำตัวเธอยังอยู่ในชุดที่ล่อแหลมและยังอยู่ในห้องนอนของตัวเองอีกด้วย ช่างน่าหวาดเสียวนัก หญิงสาวเงยหน้ามองเขาอย่างสับสน ทำไมไอศูรย์ถึงเลือกเธอ...
“ทำไมต้องเป็นไข่มุล่ะคะ”
“ผมเคยบอกไข่มุกไปแล้วนะว่าทำไมและคุณปฏิเสธไม่ได้ด้วยว่าคุณไม่ชอบผม คุณชอบที่ผมจูบคุณและชอบ...” ชายหนุ่มลากเสียงยาว ใช้ปลายนิ้วพันเรือนผมนุ่มเล่นอย่างเพลิดเพลินแม้ร่างกายแทบจะแตกร้าวเพราะความต้องการเธอก็ตาม
“หยุดพูดนะคนบ้า ไข่มุกไม่ได้ชอบอะไรทั้งนั้น” หญิงสาวทุบอกกว้างอย่างขัดเขินใบหน้าแดงก่ำนั้นยิ่งทำให้คนมองแทบอดใจไม่ไหว
“แน่ใจหรือ...ว่าไม่ชอบ”
“แน่ใจสิ” มุกรวีปฏิเสธหน้าแดงก่ำ และพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมแขนอันตรายนี้
“ปล่อยค่ะ ขอเวลาแต่งตัวใหม่ก่อนได้ไหมคะ”
“ไม่เห็นต้องแต่งอะไรใหม่เลย ชุดนี้ก็สวยดี เซ็กซี่ออก” ชายหนุ่มล้อเธอยิ้มๆ รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเมื่อครู่มากแต่หญิงสาวหน้าแดงก่ำมองเขาตาเขียวปัด
“แล้วว่าไง จะตกลงไหม..”
“ไข่มุก...” หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างสับสนไม่ปฏิเสธว่ารู้สึกเป็นสุขและอบอุ่นปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา แล้วเธอก็...
i
มุกรวีเดินไปเดินมาอยู่ในห้องน้ำกว้างของคอนโดหรูใจกลางเมืองของไอศูรย์อย่างปลงไม่ตก และคิดว่าตนเองคิดผิดหรือคิดถูกที่ตกลงยินยอมเป็นนางบำเรอของไอศูรย์ เธอบ้าไปแล้วแน่ๆ นี่หากอรลินกับเคียงภูรู้มีหวังโดนต่อว่าอย่างแน่นอนหรือไม่ก็อาจจะถูกหยิกจนเนื้อเขียวแน่ๆ
แต่เธอรักเขานี่นา เธอรักไอศูรย์.. มุกรวียอมรับกับตนเองอย่างไม่อาจจะปฏิเสธได้ เธอรักเขาตั้งแต่แรกพบในวันที่เจอเขาในห้องประชุมของบริษัทในวันนั้นหากแต่ไอศูรย์ก็ไม่มีทีท่าว่าสนใจเธอเลยสักนิดซึ่งมันก็ทำให้เธอรู้สึกผิดหวังแม้จะรู้ดีว่าเขาย่อมมีหญิงสาวให้เลือกที่ทั้งสวยกว่ารวยกว่าเธอมากมาย และมุกรวีไม่คิดเลยว่าเขาจะสนใจตนแต่สุดท้ายเขาก็ทำให้เธอมีตำแหน่งนี้ ผู้หญิงของไอศูรย์... และตอนนี้เธอก็ได้มาอยู่ในห้องนอนกว้างและตกแต่งอย่างงดงามหรูหราลงตัว พร้อมกับตำแหน่งที่ผู้หญิงหลายๆ คนใฝ่ฝันด้วยความเต็มใจ
เธอใจง่ายเกินไปหรือเปล่า ไม่วายที่มุกรวีจะขบคิดอย่างสับสนแต่อีกใจก็กระซิบบอกเธอว่า
ตอนนี้เธอเหมือนอยู่บนหลังเสือร้ายแล้ว และเสือตัวนี้ก็เป็นเสือหนุ่มที่เธอรักมิใช่หรือ เธอยังจะกลัวอะไรอีกเล่า เป็นไงเป็นกันสิ...
มุกรวีสูดหายใจลึกๆ เข้าปอดมือเรียวสั่นน้อยๆ ขณะเอื้อมไปเปิดประตูห้องน้ำ
“ไอนึกว่าไข่มุกจะนอนในห้องน้ำเสียอีก..” เสียงของชายหนุ่มซึ่งเธอคิดว่าเขาหลับไปแล้วเอ่ยขึ้นทำให้ร่างบางที่กำลังจะสวมชุดนอนผ้าฝ้ายตัวสวยถึงกับสะดุ้งจนเสื้อนอนตัวสวยหลุดมือ พร้อมๆ กับร่างงามซึ่งมีเพียงผ้าขนหนูสีขาวสะอาดห่อหุ้มปลิวหวือเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรง...
ตอนที่94. อวสาน“นี่แนะๆ เด็กช่างซัก” ไอศิยาซุกไซ้จมูกกับพวงแก้มยุ้ยๆ ของลูกสาวจนแม่หนูน้อยหัวเราะคิกคักอย่างถูกอกถูกใจ“เอ่อ คุณหนูซินดี้ครับ” เสียงเควินเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจครอบครัวสุขสันต์“มีอะไรคะพี่เควิน”“ให้ผมช่วยดูแลน้องเวียงพิงให้ไหมครับ น้องเวียงพิงครับอยากไปหาพวกพี่ๆ ไหมครับ คุณลุงเควินสุดหล่อจะพาไป” ชายหนุ่มเอ่ยขอและชักชวนหนูน้อยพลางพยักพเยิดไปทางพี่ๆ และหนูน้อยเวียงพิงก็พยักหน้าทันทีพร้อมกับกางแขนป้อมๆ ไปหาลุงเควินสุดหล่อ“ไปๆ พิงจาไปหา ปี้จาย ปี้ร้าก” แล้วเควินก็อุ้มน้องเวียงพิงไปหาพี่ๆ ซึ่งกำลังเล่นขี่ม้าลุงมาร์โคอย่างสนุกสนานทันที เคียงภูหันมามองภรรยาคนสวยด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ และนึกขอบคุณเควินที่เข้ามาได้จังหวะพอดี“ว้ายยย...พี่ภูจะทำอะไรคะ” ไอศิยาร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ สามีสุดหล่ออุ้มเธอขึ้นแนบอก แต่เมื่อเงยหน้าสบตาสามีจอมเจ้าเล่ห์แล้วไอศิยาก็ต้องก้มหน้างุดอย่างขัดเขิน“คนบ้า...”“บ้าก็บ้ารักน้องซินดี้คนเดียวนั่นล่ะครับ”“ไม่น่ารักคนแก่จอมหื่นเลย” เธอเอ่ยเสียงเบาเมื่อสามีวางร่างเธอลงบนเตียงกว้างในห้องนอนแสนสวยของบ้านพักริมหาดอันงดงาม“แล้วรักมากไหมครับ”“ค่ะ รักมาก”ไอศิ
ตอนที่93.“ไอรักไข่มุกที่สุด และรักลูกๆ ของเรามากไอบอกไข่มุกรึยังนะ” เขาเอ่ยเสียงพร่าชิดแก้มแดงปลั่งอย่างแสนรัก“ค่ะไอบอกแล้ว ไข่มุกก็รักไอมากที่สุดและรักลูกๆ ของเรามากเหมือนกัน”“นับจากนี้เราจะรักกันทุกวันนะครับ” ชายหนุ่มพูดเข้าทางตนเองหน้าตาเฉยขณะเล้าโลมร่างงามอย่างไม่ปล่อยให้เธอได้มีเวลาคิด ริมฝีปากหยักสวยก็เคล้าคลอดูดดื่มหยอกเย้าริมฝีปากระเรื่อด้วยความเร่าร้อนหิวกระหาย เขาจุมพิตเธอเหมือนว่าห่างหายจากจุมพิตมาแสนนานนับปี ก่อนจะค่อยๆ แทรกกายแกร่งเข้าสู่ความอ่อนนุ่มชุมชื้นที่พรักพร้อมของเธอ แล้วจับจูงมือบางไปเที่ยวชมวิมานแห่งรักที่เขาถักทอขึ้นเพื่อเธอเพียงผู้เดียวอย่างสุขสม...งานแต่งงานของไอศูรย์กับมุกรวีถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ในเวลาสองปีถัดมาบนเกาะส่วนตัวของมาร์โค ซึ่งเขาได้รับมรดกจากผู้เป็นตาที่มอบให้เขาก่อนท่านจะเสียชีวิตจึงทำให้ในตอนนี้มาร์โคไม่ใช่เพียงเศรษฐีหนุ่มทายาทคนโตของควินซ์ กัสซินี่เท่านั้น หากแต่เขายังเป็นทายาทคนเดียวของ เดล ซาปาเตโน ตระกูลดังมั่งคั่งร่ำรวยอีกหนึ่งตระกูลของสเปนงานแต่งงานเรียบหรูที่มีรูปบ่าวสาวพร้อมลูกๆ วัยสองขวบครึ่งอยู่ในภาพแต่งงานนั้นดูอบอุ่นและอบอว
ตอนที่92.ภาพทารกตัวแดงยับย่นที่แผดเสียงร้องไห้จ้านั้นก็ตรึงตาตรึงใจของผู้เป็นบุพการีทั้งสองอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ น้ำตาแห่งความปลื้มปีติของผู้เป็นพ่อแม่ไหลซึมขอบตาเมื่อพยาบาลทำความสะอาดร่างกายทารกน้อยทั้งสองแล้วก็นำเด็กๆ มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้ชื่นชมและให้เด็กน้อยทั้งสองได้ดูดดื่มน้ำนมหยดแรกจากจากทรวงอกของมารดา แค่เห็นทารกตัวแดงๆ เมื่อแรกเกิดซึ่งทุกๆ ส่วนที่ประกอบขึ้นเป็นทารกน้อยก็บอกได้ทันทีว่าเด็กทั้งสองนั้นจะเป็นลูกของใครไปไม่ได้นอกจากลูกของเขา ไอศูรย์ อเล็กซิโอ กัสซินี่ กับมุกรวี กัสซินี่เท่านั้นมือบางสั่นระริกของมุกรวีไล้แก้มใสๆ ของทารกน้อยทั้งสองที่กำลังหลับตาพริ้มดื่มกินน้ำนมจากอกของตนอย่างตื้นตันใจในขณะที่ไอศูรย์เองก็รู้สึกไม่แตกต่างกัน เขาเฝ้ามองปากน้อยๆ นั้นดูดดื่มน้ำนมอย่างหิวหระหายด้วยความรักมือหนาโอบร่างของคนทั้งสามไว้อย่างสุดแสนรักสุดหัวใจ...“ขอบคุณนะครับที่รัก ขอบคุณที่ให้ลูกที่น่ารักกับผม...ลูก...ลูกๆ ของเรา” ชายหนุ่มจุมพิตหน้าผากมนเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มกระจ่างด้วยความยินดี“ค่ะลูกเรา ลูกของเรา...” มุกรวีกล่าวด้วยน้ำตานองหน้า หากแต่เป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม ความเจ็บป
ตอนที่91.“ว่าไงจ๊ะ ที่รัก” เคียงภูยั่วเย้า ดวงตาคมกรุ้มกริ่ม มองภาพนางฟ้าน้อยๆ ที่นั่งหน้าแดงก่ำอยู่ตรงหน้าอย่างแสนรัก“อ้าว.. นี่พี่ภูมีเมียเป็นใบ้รึไงน้า...”“คนบ้า...” สาวน้อยค้อนให้สามีซึ่งยิ้มยั่วใส่ตาพลางหลบริมฝีปากและจมูกคมที่ฉกวูบเข้ามาใกล้จนเคียงภูพลาดที่จะจุมพิตแก้มนวล แต่ได้จุมพิตเรือนผมสลวยแทน หากชายหนุ่มก็เกี่ยวรัดร่างบางไว้ในอ้อมแขนแนบแน่น“สายแล้วนะครับ น้องซินดี้ไม่หิวเหรอ”“ตายแล้ว กี่โมงแล้วคะ”“จะสิบโมงแล้วจ้ะที่รัก” เขาตอบพลางไล้เรือนผมสลวยเล่นอย่างเพลิดเพลินไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยให้เธอได้ห่างหายจากอ้อมกอด และไอศิยาก็ได้พบว่าเขาอาบน้ำแล้วและแต่งกายอยู่ในชุดลำลองสบายๆ“เอ่อ พี่ภูปล่อยน้องซินดี้สิคะ น้องซินดี้อยากอาบน้ำ” เธอบอกในขณะที่กอดผ้าห่มแนบกายแน่นเพื่อหลบเลี่ยงสายตาวาวๆ ของเขาที่มองมาด้วยความปรารถนาที่ปิดไม่มิด“ก็ไปสิจ๊ะ มาเดี๋ยวพี่พาไป”“มะ ไม่ต้องค่ะ น้องซินดี้จะไปเอง” เธอรีบบอกปัดเมื่อคนตัวโตทำท่าจะช้อนร่างเธออุ้มเข้าห้องน้ำอย่างปากว่าจริงๆ แต่คำพูดต่อมาของเขายิ่งทำให้เธอหน้าร้อนด้วยความขัดเขิน“เชื่อพี่เถอะว่าน้องซินดี้ต้องการความช่วยเหลือจากพี่ เพราะเมื่อ
ตอนที่90.หลังจากน้ำชำระร่างกายเสร็จแล้วเจ้าบ่าวหมาดๆ ก็เดินมาชะโงกหน้ามองเจ้าสาวแสนสวยซึ่งแกล้งนอนหลับอย่างขบขันเจ้าสาวผู้กลัวฝน เปลือกตาบางขยุกขยิกเหมือนระแวงนั้นน่ารักน่าเอ็นดูนัก“อืม นอนเร็วจัง เหนื่อยมากเหรอจ๊ะน้องซินดี้..” ชายหนุ่มแกล้งถามชิดแก้มนวล ลมหายใจร้อนๆ เป่ารดแก้มใสจนคนที่แกล้งหลับนอนใจสั่นและไม่สามารถควบคุมร่างกายที่ตื่นเร้าเพราะมือและริมฝีปากร้อนๆ ซึ่งแกล้งขบใบหูบางอย่างหยอกเย้า จนขนอ่อนในร่างกายลุกชัน“ไม่ตอบสงสัยหลับจริงๆ แบบนี้เราก็ลักหลับเจ้าสาวได้ล่ะสิ” ไม่พูดเปล่ามือหนาก็ยังแกล้งสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มนุ่มและลูบไล้บั้นเอวบางแผ่วๆ และมันก็ได้ผลเมื่อคนที่หลับตานิ่งอยู่นั้นลืมตาทันทีและหันมามองเขาตาเขียว“อะ...อุ๊บส์...” ยังไม่ทันที่เจ้าสาวจะได้เอ่ยอะไร เจ้าบ่าวที่จ้องจะพาเจ้าสาวเข้าหอก็ประทับจุมพิตเร่าร้อนลงบนกลีบปากงามทันที ลิ้นร้อนผ่าวดูดกลืนทุกอณูเนื้อหวานล้ำจากริมฝีปากสาวมือก็ไม่หยุดสร้างความปั่นป่วนให้เรือนกายสาวน้อยซึ่งบัดนี้เปล่าเปลือยโดยที่เธอเองไม่ทันได้รู้ตัว และเมื่อไอศิยารับรู้ว่าตัวเองเปลือยเปล่าก็พบว่าคนตัวโตที่กำลังมองเธอด้วยแววตาหวานล้ำนั้นก็ไม่มีเสื้อ
ตอนที่89.“คุณก็ตั้งแง่กับพ่อภูเขาเกินไป ทีคุณทำกับแอนนี่ยิ่งกว่านี้อีกทำไมไม่คิดบ้างล่ะคะ พ่อภูเขายังเป็นสุภาพบุรุษกล้าทำกล้ารับ ซ้ำยังรักษาเกียรติไม่ล่วงเกินน้องซินดี้มากไปกว่ากอดจูบประสาคนรักกันก็ดีเท่าไหร่แล้ว ผิดกับคนแถวๆ นี้กับลูกชายเขานะคะ ปากหนักแถมท่ามากจนเกือบเป็นเรื่อง”“โธ่ แอนนี่ล่ะก็”“มันจริงไหมล่ะคะ..” คุณอรสามองสามีตาเขียวและคุณควินซ์ก็ต้องเข้ามากอดร่างซึ่งยังคงความงามมิสร่างนั้นอย่างเอาใจแต่มิวายจะโอดครวญน้อยๆ เมื่อภรรยาอ้างถึงเรื่องเก่าคราวหลัง“เราก็แก่ลงทุกวันนะคะ เอาชนะคะคานกันไปก็ลูกหลานเราเองที่เป็นทุกข์” คุณอรสาปลอบสามีกลายๆ“ก็ผมแค่หมั่นไส้ไอ้ลูกเขยที่รักของคุณเท่านั้นล่ะ”“ก็คนมันเหมือนกันไงคะ พอเจอคนที่เหมือนกันก็เลยเขม่นกัน รับไม่ได้”“ครับผมยอมรับผิดแล้วครับ ให้ลูกแต่งงานอาทิตย์หน้าก็ได้”ในที่สุดคุณควินซ์ก็ยอมแพ้และเมื่อสิ้นคำพูดนั้นเสียงเฮของลูกๆ ก็ดังลั่น พร้อมกับร่างสูงของเคียงภูวิ่งถลามากอดว่าที่พ่อตาอย่างดีใจจนลืมตัว ส่วนว่าที่พ่อตาก็ได้แต่หน้าแดงจัดเพราะขัดเขินลูกๆ ที่ก็ต่างพากันยิ้มล้อเลียน แต่ทุกคนต่างก็มีความสุขและคนที่เป็นสุขออกนอกหน้ามากกว่าใค