Share

2. กาลครั้งหนึ่ง

last update Last Updated: 2024-02-18 00:15:52

คำโปรย

เธอเคยอยู่ในกาลครั้งหนึ่งที่ตราตรึง

----------------

“เฮ้ย!!! ...ดีโน่ เป็นไงมั่ง” ชายหนุ่มส่งเสียงถาม เขาถูกกระสุนปืนเข้าหัวไหล่ขวา เลือดไหลอาบแขนเสื้อสีขาวดูน่าสยดสยอง ส่วนบุรณีแค่ข้อเท้าพลิก แปลกสุดจริงๆ ที่กระสุนไม่เข้าส่วนไหนของเธอเลย วินาทีเพิ่งเฉียดตายมาสดๆ ร้อนๆ ทำเอาหญิงสาวนั่งตัวสั่นงันงกอยู่ในรถลักซ์ชัวรี่แวนสีดำกันกระสุนกระจกมืดมิด มันกำลังทะยานตัวพุ่งออกไปราวกับเหาะด้วยการกดคันเร่งอย่างรวดเร็วของเขา

หนุ่มลูกครึ่งอิตาเลียน-ไทย ที่เป็นคนขับมารับเขาตามคำสั่งของเจ้านาย บัดนี้นอนหายใจรวยรินอยู่ด้านหลังตัวชุ่มเลือดแดงฉาน ผ้าห่มที่วางอยู่ท้ายรถถูกบุรณีดึงมาซับเลือดให้เขา หญิงสาวมือไม้สั่นยังตกใจกับทุกวินาทีที่เธอผ่านพ้นวิกฤตนั้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ

สัญญาณจากมือถือดังขึ้น....ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด มันต่อตรงเข้ากับบลูธูทของเครื่องเสียง 

เสียงหนึ่งดังกังวานขึ้น

“Hey…เป็นไงวะ ยิงกันสนั่นกลางเมืองเลย”

“เออ...ฮากำลังไปที่บ้านคิง อยู่ก่อ”  เสียงอีกฝ่ายเงียบไป เป็นที่รู้กันว่าอีกฝ่ายคงรู้สถานการณ์ดี

บุรณีเอามือซับน้ำตาที่ร่วงลงมาอย่างไม่รู้ตัว สงสารหนุ่มที่กึ่งนั่งกึ่งนอนคอของเขาซึ่งพิงพนักตกลงมาซบหัวไหล่ของเธอ หญิงสาวจับชีพจรเขาเพื่อตรวจดูว่ายังพอมีชีวิตอยู่จนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางหรือไม่

“แย่แล้ว!!!  นายคนนี้ชีพจรเต้นเบาลงมาก เร็ว!!!” สาวใหญ่ส่งเสียงทั้งปาดน้ำตาที่ยังไหลลงมาที่พวงแก้มอีก ตาเธอแดงก่ำด้วยความสงสารหนุ่มคนนี้จับใจ

“หุบปาก!!!...ผมกำลังขับรถ เห็นไหมผมก็บาดเจ็บ” เสียงชายหนุ่มตะคอกเธอเสียงดัง เหมือนกับว่าโกรธใครอยู่เป็นแรมปี

“เออ...ปล่อยให้ตายกันไปเลย” บุรณีสาดเสียงประชดดังไม่แพ้กัน

ขณะนี้ในใจของเขากำลังย้อนเวลาหวนคิดถึงหญิงสาวที่เคยมีความสัมพันธ์ด้วย เธอผู้นั้นจากเขาไปก็เพราะเข้ามาพัวพันกับมาเฟียที่นี่ ตอนนี้เขามีเหตุผลมากขึ้นพยายามไม่บุ่มบ่ามใจร้อนเหมือนแต่ก่อน และเริ่มพะวงกับอีกหลายชีวิตที่เกี่ยวข้องอยู่รอบกาย

“พิม...ผมจะไม่มีวัน...ไม่มีวันปล่อยมันแน่ ใครที่มันทำให้คุณต้องไปจากผม” พันธ์ศักดิ์ วางดอกไม้จันทน์ส่งวิญญาณพิมพ์ชญาต่อหน้าเตาเผาศพในวัดไทย

“คิง...กลับไปบวชสงบสติอารมณ์ ที่เชียงคำเต๊อะ” เพื่อนที่เป็นหมอได้ภรรยาอิตาเลียนเปิดสถานพยาบาลขนาดเล็กอยู่ที่ชานกรุงโรม เดินเข้ามาตบไหล่เตือนสติเพื่อนรักจากเมืองไทยที่เป็นคนเหนือด้วยกัน

ชายหนุ่มวางแผนว่าจะกลับมาบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับอดีตคนรักรวมทั้งตอบแทนบุพการีที่เหลืออยู่คนเดียว แต่ก็ยังไม่ได้เวลาสักที แม่ ‘จันทนา’ กลุ้มอกกลุ้มใจกับลูกชายคนเล็กที่ไม่ยอมกลับมาดูแลไร่ที่ทำเป็นรีสอร์ตให้เข้าที่เข้าทาง ขืนยังปล่อยให้ลูกสาวคนโตช่วยบริหารไปพลางๆ แบบนี้ ธุรกิจของครอบครัวจะไม่มีวันเติบโต ทุกคนได้แต่หวังและตั้งตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อว่าจะถึงวันนั้นเมื่อไหร่

เกือบปีกว่าที่เขาไปต่อยอดการออกแบบผลิตภัณฑ์หลักสูตรระยะสั้น พันธ์ศักดิ์เอาแต่เที่ยวดูนิทรรศการตามที่ต่างๆ ไม่ค่อยเข้าเรียนตามที่กำหนดไว้ ทำให้เขาต้องลงทะเบียนซ้ำวิชาเดิมที่เขาเองก็บอกกับทุกคนว่า รู้หมดแล้วจะเรียนทำไม

“เรียนทำห่า...อะไรวะ ตระเวนไปทั่วทั้งนิทรรศการ พิพิธภัณฑ์ ห้องออกแบบเสื้อผ้า ฮาไม่ต้องเรียนให้มันเสียเงิน ดื่มเที่ยวยังมันกว่า...” เพื่อนสนิทที่เป็นหมอได้พลอยเป็นหมอส่วนตัวไปด้วย เขาสร้างวีรกรรมวิวาทปะทะกับนักเลงอิตาเลียนเป็นประจำ จนแฟนสาวเริ่มกังวล แล้วสุดท้ายเธอก็ต้องมาเสียชีวิตเพราะเขานั่นเอง

“ฮึ...ฮึ...ฮือ ...” เสียงสะอื้นในอกเบาๆ ของบุรณี ทำให้ใจที่หวนไห้ของชายหนุ่มยิ่งจ่อมจมถึงอดีตคนรัก ครั้งนั้นเธอสะอึกสะอื้นคร่ำครวญขอร้องให้ชายหนุ่มเลิกยุ่งกลุ่ม sicario พวกมือสังหารของ Bernado Esposito แบร์นาโด เอสโปสิโต้

“ทำไมล่ะ พัน...ไม่นึกถึงพิม ก็นึกถึงที่บ้านบ้าง คุณแม่เป็นห่วงนายมากนะ”

มันคือคำพูดสุดท้ายที่โทรหากัน ชายหนุ่มยังจำอยู่ไม่มีวันลืมก่อนที่พวกมันจะบุกไปอพาร์ตเม้นท์ของคนรักแล้วฆ่าเธออย่างเหี้ยมโหด

“Scopare e..e..e…” พันธ์ศักดิ์ตะโกนอย่างสุดเสียง มีแต่คำหยาบด่า ‘โคตรพ่อโคตรแม่’ คนลงมือออกมาอย่างหัวเสีย เขารักษาอาการซึมเศร้าที่สถานพยาบาลของเพื่อนหมออยู่เกือบสามเดือนโดยไม่ได้ติดต่อใครเลย ชายหนุ่มรู้สึกซังกะตายกับชีวิตอันแสนโหดร้ายที่เป็นตราบาปฝังอยู่ก้นบึ้งในหัวใจมาตลอด

“ถึงแล้ว...สะอึกสะอื้น...มันเป็นอะไรกับเธอ...ผัวก็ไม่ใช่” ชายหนุ่มโพล่งขณะจอดรถ น้ำเสียงและคำพูดดูหยาบคายสุดเถื่อน บุรณีสาดสายตาอย่างขุ่นเคือง

“ดีโน่...เสียเลือดเยอะเลย” เพื่อนหมอวิ่งออกมากับผู้ช่วยสามคน ดูอาการแล้วพูดขึ้นอย่างกังวล หนุ่มน้อยเอารถมารับเขายังจุดนัดหมาย แต่กลับกลายเป็นผู้รับเคราะห์จากเหตุการณ์นี้

หลังจากเพื่อนหมอสั่งให้ไปแจ้งหมอเวรรีบผ่าตัดหนุ่มดีโน่ แล้วจึงหันมาพูดกับเขา

“มา...ฮาจะทำแผลให้คิง นี่กระสุนมันเฉียดแบบมีดบาดนะ ไม่งั้นเรื่องใหญ่ ต้องได้นอนที่นี่หลายวันเลย...”

“แล้ว นั่นพาใครมาด้วยวะ อย่าบอกฮานะว่า หน้ารถคนใหม่…!!!” หมอมองหน้าบุรณีแล้วหันไปกระซิบถามเบาๆ กับพันธ์ศักดิ์

“เออ...เออ... ใช่ก็ได้ว่ะ” เสียงเขาตอบแบบขอไปที แล้วก็ปล่อยให้หญิงสาวเดินตามเข้าไป หมอสั่งให้ผู้ช่วยพยาบาลผิวคล้ำเข้ามาตรวจร่างกายเธอ และพาไปที่ห้องพักฟื้นเล็กๆ ด้านบน

“เธอต้องได้รับยานอนหลับเพื่อระงับอาการตกใจหวาดผวา” หมอเข้ามาสอบถามอาการกับผู้ช่วย แล้วหันมาบอกบุรณีให้พักอยู่ที่นี่จนถึงพรุ่งนี้เพื่อดูอาการว่าเป็นอย่างไร

“หมอคะ ฉันขออนุญาตกลับบ้านได้ไหมคะ ที่บ้านจะกังวลค่ะ” บุรณีพูดภาษาไทยออกมา ทำให้หมอยิ้มมองเธอ...งง งง

“เอ้า...ผมนึกว่าคุณเป็นคนที่นี่!!!”

“ค่ะ ฉันเป็นคนไทยที่นี่ อยู่กับแม่สามีและลูก”

“ที่ไหนครับ ผมจะให้คนขับรถไปส่ง แต่ขอให้คุณหายอาการช็อกก่อนดีกว่า ผมจะเปลี่ยนเป็นยาคลายเครียดแทน นอนพักก่อน...สักหนึ่งชั่วโมงผมจะขึ้นมาดูอาการอีกครั้ง” หมอเดินออกไปแล้ว แต่บุรณีรู้สึกกังวลเพราะเวลานี้เกือบบ่ายสามโมง

“Merde…ตายล่ะ ออกมาแต่เช้าจะซื้อชุดแต่งงานไปให้ Mamma มัมมา ป่านนี้ Luca ลูก้า น่าจะกลับจากโรงเรียนแล้ว” เธอพึมพำบ่นกับตนเอง อาการตกใจทำให้ลืมว่ายังทำธุระไม่เรียบร้อย งานแต่งลูกชายของญาติแม่สามีวันเสาร์ที่จะถึงนี้ จะทำยังไง เธอมีเวลาแค่เพียงพรุ่งนี้ที่จะเตรียมทุกอย่างทั้งของขวัญและชุดแต่งงานของแม่สามี สำหรับลูก้าและเธอใช้ชุดเดิมที่มีอยู่ แม่สามีตัวใหญ่ขึ้นไม่สามารถใส่ชุดเดิมได้ ทำให้วันนี้เธอต้องออกมาหาซื้อเสื้อผ้าถึงในโรม ทั้งอยากได้ชุดชั้นในใหม่อีกหนึ่งชุดเพื่อจะประเดิมใส่ไปงานนี้

“มาเจอเหตุอะไรเนี่ย ชุดแต่งงานมัมมา...ก็ยังไม่ได้ไปดู ชุดชั้นในคงเละอยู่ตรงเคาน์เตอร์ แถมขาดอีก...เฮ้อ ซวยชะมัด!!!”  

“บ้านคุณอยู่ไหน..." 

"Monitola..." 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สะดุด (กลางใจ) ยัยเฒ่า   30. เพื่อเราสอง

    คำโปรย พระเจ้าจะอยู่เคียงข้างเราเสมอ ไม่ว่าวันนั้นที่เราทุกข์ที่สุด พระองค์จะไม่เคยทอดทิ้งเรา----------------บุรณีพยายามทำตามคำแนะนำของพันธ์ศักดิ์โดยจะไม่โต้เถียงใดๆ ต่อหน้าครอบครัวและคนงานของชายหนุ่ม เธอไม่อยากขัดคำสั่งของย่าที่คอยตักเตือนมาบ่อยๆ ผ่านทางไลน์ของพ่อ เธอจะให้เกียรติเขาในฐานะสามีซึ่งลูก้าเองพยายามจะเปลี่ยนสรรพนามให้เขากลายเป็นพ่อ แต่ชายหนุ่มบอกหนุ่มน้อยว่าไม่เป็นไรให้เรียกตามเดิมตั้งแต่ต้น ประมาณต้นเดือนธันวาคมป้ายชื่อของผู้ลงทะเบียนจองห้องพักที่ได้สั่งทำเป็นเครื่องไม้เอาผ้าทอลายไทลื้อไปหุ้มไว้ถูกส่งมาที่สำนักงานของไร่ บุรณีมาช่วยคัดรายชื่อและจัดเตรียมห้องพักซึ่งจะลงทำผังผู้จองว่าคนใดควรลงห้องพักหมายเลขใด เธอเห็นป้ายชื่อตัวอักษรภาษาอังกฤษ Burani Benroze หญิงสาวตกใจว่าเธอลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลยตั้งแต่ลงทะเบียนวันนั้นที่สถาบันของเดช ชายหนุ่มแนะนำว่าบุรณีควรพาครอบครัวมาเที่ยวที่นี่ เขาได้รับวิดีทัศน์โฆษณาทางออนไลน์ที่โปรโมตค่าจองที่พักล่วงหน้าลดเหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ เธอได้ให้เดชช่วยจองให้อย่างหวุดหวิดเกือบไม่ทันเวลา คืนนั้นเธอจึงถามเขาว่าได้ที่อยู่ของเธอจากที่ใดจึงตามไปถึ

  • สะดุด (กลางใจ) ยัยเฒ่า   29. สาวมั่น (แทบไม่) รอด

    คำโปรย เราไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีงาม นี่เป็นความรักระหว่างเราสองคน ให้ฟ้าดินเป็นพยาน...ว่าได้ครอบครองกัน----------------เช้าวันรุ่งขึ้นย่าขอให้พ่อกับแม่มาทำพิธีผูกข้อมือรับขวัญพันธ์ศักดิ์ ไม่มีพิธีรีตองอะไรมากมายแค่เฉพาะคนในบ้าน ย่าบอกว่าอายคนอื่นเพราะบุรณีเคยมีสามีมาแล้ว จะแต่งงานใหม่ก็ดูยังไม่เข้าท่าเข้าทางว่าที่เจ้าบ่าวดูเด็กกว่ามาก ย่าคงไม่อยากให้ครอบครัวตกเป็นขี้ปากชาวบ้านในชุมชนแถบนั้น ตอนเธอเป็นหม้ายกลับบ้านมายังถูกซุบซิบนินทามาตลอด เพื่อนๆ เคยเห็นว่าเธอเป็นคนเรียบร้อยหัวโบราณชอบสั่งสอน แต่พอเอาเข้าจริงเธอกลับไม่ใช่แบบที่ทุกคนคิด“แม่...ฉันว่ามันยังไงอยู่นะ ทำแบบนี้เหมือนยัยเฒ่ามันอยู่กับเขามานานแล้ว...” แม่ของบุรณีไปกระซิบย่าอย่างไม่เห็นด้วย“นี่...แกดีกว่ามันหรือไง อย่าให้ฉันพูดนะจะอายลูก” ย่าพูดเสียงดัง จนชายหนุ่มมองหน้าย่าอย่างสงสัย“ไป...ดูว่านางลูกสาวแกมันแต่งตัวพองามหรือยัง ลงมาแค่อวยพรพวกเขา และพ่อหนุ่มจะได้กลับบ้าน เขามีงานมีการต้องกลับไปทำ...เสียเวลาเขาหลายวันแล้ว” ย่าไล่ให้แม่ขึ้นไปเรียกบุรณีหญิงสาวเดินลงมาพอดี ถูกย่ามองอย่างหมั่นไส้“ทั้งคู่ไปกราบพระที่ห้องพระก่อน

  • สะดุด (กลางใจ) ยัยเฒ่า   28. ไร่เทียมฟ้าภูลังกา

    คำโปรย เงินทอง...ไม่มีหาใหม่ได้เสมอแต่รักแท้ไม่ใช่หากันได้ง่ายๆ----------------บุรณีพาลูก้าและพันธ์ศักดิ์ไปเดินเที่ยวชมตลาดนัดตอนเย็นหลังออกจากสถาบัน เธอพาชายหนุ่มไปรู้จักญาติคนที่แนะนำเดชให้มาดูตัวเธอ เรไรเป็นญาติผู้น้องของบุรณีสายทางย่าของเธอซึ่งเป็นน้องสาวย่าแสงคำของหญิงสาว เธออายุอ่อนกว่าบุรณีสามปีและยังโสดไม่ยอมแต่งงานกับใครแม้มีหนุ่มมามองอยู่หลายคนก็ตาม ร้านของเธออยู่ในบริเวณตลาดนัดริมโขงขายผ้าไหมอีสานซึ่งบุรณีเคยพาเพื่อนๆ มาอุดหนุนอยู่บ่อยๆ “เรไร...นี่พันธ์ศักดิ์...รู้จักกันที่อิตาลี มาขอดูผ้าไหมเผื่อซื้อกลับไปเป็นของฝาก” หญิงสาวแนะนำเขากับเรไร“ได้เลย...เดี๋ยวคืนนี้ไปกินข้าวด้วยนะ สนใจผ้าผืนไหนให้เด็กไปเอามาให้เลือกได้เลย” เรไรพูดทักทายเพียงไม่นาน เธอต้องไปทำธุระหลังร้าน วันนี้เธอยุ่งวุ่นวายกับพ่อค้าขายส่ง“ลาร่า...ผมว่าผ้าไทลื้อที่ผมออกแบบส่งมาขายที่นี่ได้ไหม...” ชายหนุ่มมองเห็นโอกาสเพราะหนองคายเป็นจังหวัดติดชายแดนไทย-ลาว“ได้สิ... คืนนี้คุยกับเธอเลย...เราไปส่งลูก้าให้กลับบ้านไปอยู่เป็นเพื่อนย่า แล้วค่อยออกมากินข้าวกับเธอ” บุรณีตะโกนลาญาติของเธอและบอกว่าหนึ่งทุ่มจะมารับบ

  • สะดุด (กลางใจ) ยัยเฒ่า   27. หนุ่มอัลฟ่า VS สาวซีต้า

    คำโปรย แม้รักใครบางคน แต่เลือกที่จะจากกันไป แม้คิดถึงกันเพียงใด แต่ยังเลือกที่จะไม่พบกัน----------------พันธ์ศักดิ์บินกลับเมืองไทยทันทีหลังจากหมอจีอนุญาตให้กลับได้หลังจากพักฟื้นเกือบครึ่งปี ช่วงพักฟื้นชายหนุ่มมีกิจกรรมเช่าเรือยอร์ชขับท่องเที่ยวในทะเลสาบโคโม ถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เขาคลายความปวดร้าวในจิตใจลงไปได้ อาการซึมเศร้าของชายหนุ่มดีขึ้นเมื่อแม่จันทนาโทรศัพท์มาทุกวันพูดคุยเล่าเรื่องราวทางบ้านให้เขาฟัง “แม่ครับ...ผมจะถึงกรุงเทพอาทิตย์นี้ และต่อลงเชียงใหม่เลย ผมขอพักเชียงใหม่หนึ่งคืน ให้ลุงถมช่วยมารับผมที่เชียงใหม่ ทุกคนรอที่บ้านนะครับ” เขาแจ้งกำหนดคร่าวๆ ให้แม่รับรู้ “ป้าคำดี...เปิ้นรอทำกับข้าวเมืองต้อนรับนะลูก รีบกลับมากินให้เปิ้นชื่นใจ” แม่จันทนาพูดถึงแม่ครัวของที่ไร่ซึ่งฝีมือทำอาหารเหนือที่ชายหนุ่มติดใจมาตั้งแต่เล็กๆแม่ของเขาไม่ใช่คนเหนือได้แต่งงานกับพ่อของพันธ์ศักดิ์แล้วมาช่วยกันแปลงที่ดินรอบบ้าน 50 ไร่ให้กลายเป็นรีสอร์ตขนาดย่อมในอำเภอเชียงคำ เขาเกิดที่นี่และเติบโตกลายเป็นคนเหนือของท้องถิ่นนี้ รับช่วงกิจการของครอบครัวจากมรดกที่พ่อทิ้งไว้ ห้าปีที่แล้วพ่อจากไปทำให้เขาซึม

  • สะดุด (กลางใจ) ยัยเฒ่า   26. สุนทรียบำบัด

    คำโปรย พลังของการเยียวยา...ไม่ว่าความเจ็บปวดใด... ลบล้างมลทินได้ด้วยกาลเวลาแห่งสุนทรียะของความสัมพันธ์----------------บุรณี ลูก้าและมัมมา ถูกส่งเข้าแอดมิตที่โรงพยาบาลในโรมจากอาการบาดเจ็บและปวดร้าวทั่วร่างกาย ทั้งยังจิตใจที่ต้องได้รับการเยียวยา ครอบครัวเธอได้รับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลเกือบหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่เธอจะออกจากโรงพยาบาล หมอจีติดต่อเข้ามาเยี่ยมดูอาการและพูดคุยกับหญิงสาว“Ciao ลาร่า...หน้าตาดูดีขึ้นแล้วนะเนี่ย...เอ่อ...ปุนโต อาการดีขึ้นแล้ว แต่ผมอยากให้เขาย้ายไปโคโมพักฟื้นสักระยะหนึ่งในบ้านหลังที่คุณเคยอยู่ ก่อนที่เขาจะกลับเมืองไทย จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจให้เขารู้สึกดีขึ้นกับเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา” หมอจียิ้มอารมณ์ดีเมื่อมองหน้าหญิงสาวที่มีสีเลือดฝาดบางๆ ที่แก้มของเธอ เขานิ่งรอฟังเสียงของเธอว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับข่าวคราวของพันธ์ศักดิ์“ฝากดูแลเขาด้วยค่ะ...ฉันคงไม่ได้กลับไปเจอเขาอีกแล้ว จะจัดการเรื่องของเขาให้เรียบร้อย บอกเขาด้วยนะคะ ไม่ต้องกังวล” เสียงของเธอดูเซื่องซึมเชื่องช้า ใจเหี่ยวแห้ง เธอไม่มีโอกาสบอกลาเขาด้วยซ้ำ“เอ้า...ไม่ไปเจอกันหน่อยรึ…!!! พอเขาเริ่มฟื้นมีสติพูดค

  • สะดุด (กลางใจ) ยัยเฒ่า   25. จู่โจม (รังมาเฟีย)

    คำโปรย ฝันอยากให้คนคนนั้นเข้ามาในชีวิต...ตลอดไป ----------------บุรณีกำลังถูกมาเฟียสูงวัยโอบฟัดร่างด้วยฝ่ามือแข็งประดุจเหล็กกล้า และจากความแรงราวลูกตุ้มเหล็กเหวี่ยงเธอล้มลงบนที่นอนเสียงดังตึงจนเธอรู้สึกปวดแปลบที่สะโพกร้าวถึงอุ้มเชิงกรานแทบทนไม่ไหว น้ำตาของหญิงสาวเริ่มไหลพรากด้วยทนเจ็บระบมมากมายเหลือเกิน ตลอดทั้งสัปดาห์มานี้เธออดทนกับความเจ็บปวดขนาดนี้ได้อย่างไร ขณะนี้อาการของมันยิ่งกำเริบหนักเป็นทบทวีทันใดนั้นเอง...เสียงดัง โครม...ตึง...ตึง...ปัง ราวฟ้าถล่ม จากการกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรง ประตูถูกพังเข้ามาอย่างรวดเร็วประดุจสายฟ้า“แบร์โด...เร็ว!!! เอานางไปด้วย...Ora…เดี๋ยวนี้ AM polizia หน่วยปราบปรามเต็มไปหมดแล้ว ลงบันไดหนีไฟ โจเช่รอนายอยู่ด้านหลัง ฉันจะยิงดักทางให้...!!!” เสียงตะโกนของเลโอ คนสนิทของแบร์นาโดโผล่พรวดเข้ามาตะโกนเสียงดังให้เขารีบพาเธอหนีไปอย่างไม่ต้องคิดชีวิตแล้ว เพราะเขาถูกกองกำลังปราบปรามของทางการล้อมคอนโดไว้ขณะนี้หญิงสาวถูกสมุนสองนายช่วยกันลากเธอลงบันไดไปได้แค่ครึ่งทาง เธอบอกจะเดินไม่ไหวแล้วเรี่ยวแรงแทบไม่มี พวกมันจึงผลัดกันอุ้มเธอรีบวิ่งตามมาเฟียนายใหญ่ลงไป เขาเป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status