Share

4.1

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-30 05:09:35

“นังอรุณใจเย็น ๆ ให้ฉันเล่าให้จบก่อนแล้วค่อยพองตัวเดี๋ยวฉันจะลืม” ส้มรีบพูดเบรกขณะที่แตงกวานั่งถอนหายใจระงับสติอารมณ์และใช้ความคิด

“เออ เออเล่าต่อ” อรุณนั่งลง เม้มปากแน่นขึงตรง ขยับเก้าอี้เข้าใกล้ด้วยความอยากรู้ ส้มจึงเล่าต่อด้วยน้ำเสียงเศร้า

“ฉันกับแตงกวาก็เข้าไปปลอบ นางก็พูดทั้งยังสะอื้นว่าขออยู่เงียบ ๆ คนเดียว”

“จบกัน กลายเป็นพี่เบิร์ดธงชัยไปซะงั้น” อรุณทำหน้าเซ็งคิดในใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ข้าวปุ้นคือคนที่รู้ดีที่สุด ส่วนส้มอยากอยู่ใกล้เพื่อนเพื่อให้กำลังใจ แต่พอเจอคำขอร้องเข้าจึงได้แต่เอ่ยอย่างจนใจ “นี่ไง ถึงพากันมานั่งกลุ้มอยู่ตรงนี้ เออยังมีอีกเรื่องนะ”

“มีอะไรอีก” อรุณทำตาโตกับข้อมูลใหม่

“ตอนเข้าไปคือ…ส้มหยุดหายใจก่อนจะระบายอารมณ์โกรธเสียงดัง “พรมแม่งอย่างเน่า เละตุ้มเป๊ะ”

อรุณยิ้มเย็นระบายความสะใจด้วยการเอากำปั้นทุบโต๊ะจนสะเทือน

“นั่นไง! ฉันว่าแล้วว่านังปุ้นไม่ยอมคนง่าย ๆ หรอก แปลงร่างเป็นแม่เสือสาวกระโจนตัวไปขยุ้มหัวไอ้เลวนั่นใช่ม้า”

“ผิด!” ส้มตอบเสียงดัง

อรุณกะพริบตาถี่ถูกช็อตฟีลจนทำหน้าเป็นหมาหงอย อีกฝ่ายเลยเล่าต่อ

“นังปุ้นบอกว่าไอ้บ้านั่นกินไก่แล้วพ่นกระดูกออก กระดกกระดาษแก้วเก้ยกระจายไปทั่วห้องเลย แม่งต่ำว่ะ”

“ตกลงเราได้หมาพันธุ์ไหนมาเป็นหัวหน้าวะ รุณเริ่มเครียดแล้วเนี่ย”

“หน้าตาก็ดีแต่นิสัยสถุลมาก” แตงกวาเสริมตามมาด้วยคำถามจากนักบัญชี “แล้วโทร. บอกป้าแพรวยัง”

ส้มตอบเสียงอ่อย “โทร.แล้วแต่ป้าบอกว่าลุงยิ้มส่งข้อความมาบอกว่าอย่าเข้าไปยุ่ง มันสั่งไว้ ป้าแพรวก็ดี๊ดีอุตส่าห์ขึ้นมาดู ยืนถอนหายใจกับพวกฉันอยู่พักใหญ่ ๆ บอกสงสารนังปุ้น”

“เฮ้อ นี่มันวันโลกาวินาศชัด ๆ” อรุณถอนหายใจยาว แตงกวาหลังจากนั่งคิดอยู่นานจึงพูดสรุป

“เรื่องวันนี้มันแปลกมากแก ฉันว่านังปุ้นกับไอ้บ้านั่นต้องมีซัมติงรองแน่ ๆ”

“เออว่ะ แกคิดเหมือนฉันเลย” อรุณเบิกตากว้างพยักหน้าเห็นด้วย แตงกวาสบตากับสองสาวพร้อมพูดแนะนำ

“เราแยกย้ายกันกลับบ้านไปตั้งหลักก่อนดีไหม ให้เวลานังปุ้นมันหน่อย ตั้งแต่รู้จักกันมาฉันไม่เคยเห็นนางอ่อนแอสติสตังล่องลอยไม่สู้คนได้ขนาดนี้ เดี๋ยวดึก ๆ ลองทักในกลุ่มดูเผื่อนางอยากจะระบาย จริง ๆ แล้วฉันก็ไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของนางหรอกน่ะ แต่ฉันห่วงมันว่ะ”

อรุณพยักหน้าเห็นด้วย ด้วยว่าเป็นคนช่างสังเกตจึงพูดเตือนสติเพื่อน ๆ โดยเฉพาะแม่แตงกวาขาชน

“ฉันเห็นด้วยว่ะ ถอยทัพกันก่อนเถอะ รอช่วงดึกอีกทีเผื่อปุ้นมันตอบ ส่วนไอ้บ้านั่นถ้าแรงได้เบอร์นี้ เส้นกวยจั๊บธรรมดาน่ะคงไม่ใช่ มันต้องเป็นแผ่นเปาะเปี๊ยะญวนแน่ ๆ”

แตงกวาถอนหายใจยาว “เฮ้อ หิวแล้วเหรอคุณอรุณ”

“แฮ่ะ แฮ่ะ แฮ่ะ ตอนบ่ายเค้าตกใจอะหมูหมาในพุงย่อยกระจุยกระจายหายไปหมดแย้ว”

คนพูดเอามือลูบท้องขณะที่ส้มพยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยสมทบ “อืม แตงกวาพูดถูก เป็นไปได้ น่าจะรู้จักกัน”

อรุณกับแตงกวาสบตากัน เพราะชินกับโหมดสโลว์ของส้ม ความคิดความอ่านของนางอาจจะช้าหน่อยแต่ก็มา ซึ่งพอจะให้อภัยได้ จากนั้นพวกเธอก็พากันเก็บข้าวของส่วนตัวลงในกระเป๋า แล้วพากันกลับบ้าน

ดวงตะวันเริ่มชิดขอบฟ้าทว่าการตรวจโรงงานนี้กลับไม่เสร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ นั่นทำให้ต้นกล้าหงุดหงิดพอสมควร

ถึงเขาจะไม่เคยทำงานในองค์กรใหญ่ แต่โดยนิสัยส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน พอมันไม่เสร็จตามที่กำหนดไว้เขาก็จะอารมณ์เสีย อาการเหล่านี้เขาก็ไม่วายโทษแม่เลขาที่ทำให้เขาเสียเวลา

ไหนจะเมื่อตอนเช้าก่อนมาอีก ก็เพราะใบหน้าของแม่เลขานี่อีกที่วิ่งวนอยู่ในหัว ในใจของเขานึกสับสบว่าจะมาดีหรือไม่มาดี เผื่อน้องกลับมา…แต่ก็ช่างเถอะ กว่าเขาจะตัดสินใจออกจากบ้านได้ก็สายเสียแล้ว

เพราะเธอนั่นแหละที่ทำให้ทุกอย่างของวันนี้รวนไปหมด โดยไม่รู้ตัวต้นกล้ากลับยกยิ้มมุมปากไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด

พอชายชรามาส่งถึงตึกของโชคอนันต์ ต้นกล้าก็ขับรถเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อของใช้จำเป็น ไม่นานนักรถเอสยูวีราคาเฉียดยี่สิบล้านป้ายแดงก็ขับเคลื่อนไปจอดหลังตึก

บ้านของเขาทำกิจการห้องพัก มีตั้งแต่ราคาย่อมเยาจนถึงอะพาร์ตเมนต์ราคาแพง ช่วงที่เขาเกิดกิจการของครอบครัวก็ไม่มีภาระหนี้สินกับธนาคารแล้ว แถมเขายังเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน ทำงานบ้างไม่ทำบ้างก็ไม่มีใครดุ บิดามารดาก็ไม่ได้ตามใจหรือเลี้ยงเขาแบบลูกคุณหนู จำได้ว่าพอรู้ความหน่อยเขาก็ต้องไปช่วยท่านทำงานเหมือนครอบครัวทั่วไป ซึ่งมีงานให้ทำได้ทั้งวัน แม้จะมีพนักงานช่วยแต่เขาก็ต้องลงมือทำเองถึงจะแก้ปัญหาได้ถูกจุด นั่นจึงทำให้เขาเก่งสารพัด ไม่ว่าจะเป็นช่างไฟ ช่างประปา ทาสี บัญชี ยาม หรือแม้กระทั่งกวาดพื้น ซึ่งเขาก็ชอบเพราะแต่ละวันคนงานจะมีเรื่องเล่าให้ฟังอยู่เสมอ

งานที่ทำส่วนมากต้องใช้แรงเขาจึงแต่งตัวตามสบายด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนเก่า ๆ ส่วนการใช้ชีวิตในแต่ละวันก็เรียบง่าย นั่นทำให้เขาเป็นคนประหยัดและไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน สิ้นเดือนมาหน้าที่หลักคือหอบเงินใส่เป้ไปฝากธนาคาร

เขาเคยคิดจะไปเรียนเมืองนอก แต่ก็อย่างว่าแหละ จบแล้วถ้าไม่ได้ทำงานสิ่งที่ได้เรียนมามันก็สูญเปล่า

ทว่าตั้งแต่โดนทิ้ง ศักดิ์ศรีของเขาถูกทำลาย ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นการทำร้ายอย่างที่เขาเองก็ไม่อาจให้อภัยได้ สมองของเขาก็เหมือนจะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างแรง เพราะจากคนที่เคยประหยัดก็กลายเป็นคนที่ใช้เงินเหมือนจะตายวันตายพรุ่ง แพงแค่ไหนถ้าเขาอยากได้คือซื้อหมด จิตใจที่เคยเย็นเหมือนพระก็เปลี่ยนเป็นคนขี้หงุดหงิด ใครขวางทางเขาพร้อมที่จะบวกเสมอ

ในคืนเดือนมืดเป็นธรรมดาที่ท้องฟ้าย่อมไร้ดวงดาว บรรยากาศโดยรอบก็เงียบสงัดไม่ต่างจากป่าช้า

ต้นกล้ากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ถอนหายใจกับสิ่งที่ไม่คุ้นชิน พลันใบหน้าของใครบางคนก็ผุดขึ้นให้ร้อนรุ่ม เพราะสิ่งที่เธอทำไว้มันหยามเขาเกินไป

เขาเป็นคนพูดตรงและซื่อสัตย์กับความรู้สึก จึงเกลียดคนโกหกที่สุด เพราะมันทำให้เขารู้สึกว่าเป็นคนโง่ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย พูดบอกกันตรง ๆ มันจะยากตรงไหน รู้แล้วเจ็บแต่มันก็จบ ยังไงก็ยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลยเพราะมันเจ็บแบบต่อเนื่อง

ชายหนุ่มทยอยขนกระเป๋าสองใบเข้าไปในลิฟต์ ใบหนึ่งคือของใช้ส่วนตัว อีกใบหนึ่งคือเสื้อผ้า เขากดปุ่มขึ้นไปชั้นบนสุดของตึกโชคอนันต์

บ้านพักของเขามีสามห้องนอนสามห้องน้ำ ห้องรับแขกกับครัวใหญ่พอสมควร ตกแต่งทันสมัยคล้ายคอนโดมิเนียมหรูในเมืองหลวง สถานที่แห่งนี้มีไว้รองรับครอบครัวโชคอนันต์เวลา มาตรวจงาน

ป้าของเขารักความเป็นส่วนตัวเหมือนกับเขา การออกแบบจึงแยกสัดส่วนชัดเจนระหว่างที่พักกับออฟฟิศ พนักงานส่วนมากเลยไม่ค่อยมีใครรู้ว่าด้านบนของตึกมีบ้านอยู่หนึ่งหลัง

เมื่อจัดการทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วต้นกล้าก็เปลี่ยนเป็นชุดกีฬา เขากลายเป็นคนหลับยากเพราะเธอ การออกกำลังกายจึงเป็นทางออกเดียวที่ทำให้ร่างกายเพลียและหลับไปในที่สุด

น้ำเย็นจัดถูกยกดื่มดับความร้อน แววตาดุดันมองดูเงาไม้ผ่านกระจกบานใหญ่ นึกถึงความเจ็บปวดตลอดระยะเวลาสามปี ที่ต้นกล้าพร่ำถามตัวเองว่าเขาผิดอะไร?

เกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา?

จะไปทำไมไม่ลา?

รักกันบ้างไหม?

วันนี้เป็นวันแรกที่เขารู้สึกว่าไม่อยากได้คำตอบนั้นแล้ว ขอแค่ได้เสพความสุขเวลาเห็นแววตาคู่สวยของเขมิกาเจ็บปวดนี้ไปอีกนาน ๆ

จะทรมานไปคนเดียวทำไม ใครทำอะไรไว้ต้นกล้าขอเช็กบิลครับ

แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนช่างคิดช่างแค้น ถ้าใช่เขาคงไม่ปล่อยให้เธอลอยนวลได้ถึงสามปีหรอก

ขอโทษครับผมไม่ใช่พระที่จะอภัยทานให้แบบชิว ๆ

ในเมื่อมีโอกาสได้แก้แค้นขนาดนี้ถ้าเขาไม่คว้าเอาไว้คงเสียดายน่าดู

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สัญญารักของยัยตัวร้าย   บทส่งท้าย-ต่อ-

    “ไอ้คนฉวยโอกาส” เสียงจากริมฝีปากกระจับที่ทำให้คนฟังหน้าชา พาลนึกถึงข้อความของเธอ ‘ฉันเกลียดนาย’ ทว่าเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะแก้ไขได้ ทุกอย่างถูกกำหนดตั้งแต่ท่านเรียกตัวเขาเข้าไปพบแล้ว“ผู้กองข้าวโอ๊ตต้องทำอะไรสักอย่างนะผมว่า ในข่าวเบลอหน้าให้ก็จริง แต่เบอร์ห้องกับแฟลตตำรวจชัดเจนแบบนี้ฝ่ายหญิงเขาเสียหาย ผมไม่อยากเสียเพื่อน ไม่ต้องการให้วงการสีกากีที่ประชาชนเคารพดูแย่ไปกว่านี้”ตอนนั้นเขานิ่งเงียบ หากปฏิเสธออกไปก็ดูจะไม่เป็นลูกผู้ชาย เพราะหลักฐานในโลกโซเชียลมัดแน่นว่าเขากับเธอจูบกัน พากันเข้าบ้านตอนดึกและออกจากบ้านเกือบเที่ยง โดยที่เขาเองแทบไม่รู้เลยว่าทุกฝีก้าวอยู่ในสายตาของนักข่าว“ครับผมจะแต่งงานกับเธอเอง”“ดีมากไอ้โอ๊ต กล้าทำกล้ารับแบบนี้สิวะถึงเป็นลูกผู้ชาย เยี่ยม ๆ เดี๋ยวกูขอโทรบอกไอ้ศักดิ์ก่อน”สรรพนามที่ท่านเรียกเพื่อนสนิทต่อหน้าบอกเป็นนัย ๆ ว่านี้คือทางรอดเดียวสำหรับตำรวจไร้เส้นสายอย่างเขา ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าเขากำลังต้องมนตร์ของเธออยู่ หรือแค่รักในอาชีพ จนยอมเสียศักดิ์ศรีของตัวเอง…คำต่อว่าของบุตรสาวทำให้ช่อทิพย์หน้าเจื่อน สมศักดิ์ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ตามใจจนลูกกลาย

  • สัญญารักของยัยตัวร้าย   บทส่งท้าย

    “อ่า…พี่ต้นกล้า”ข้าวปุ้นมองสามีโยกเอวพลิ้ว แท่งร้อนจากที่ขยับเนิบ ๆ นาบ ๆ ก็ดุดันขึ้นจนเกิดเสียงหยาบโลนไม่น่าฟัง เธอชอบความฟิตของเขา ยิ่งเวลาพี่ต้นกล้าออกแรงยิ่งเห็นกล้ามเนื้อของเขาขึ้นมัดสวยงาม ใบหน้าคมเข้มก็ดูเซ็กซี่ยั่วยวนอารมณ์มากดีหน่อยที่เขาสร้างความมั่นคงและมั่นใจให้ ไม่เช่นนั้นเธอคงหึงเจ้าของเอวดุ สะโพกหวาน และมีแท่งร้อนสุดแสนจะอร่อยคนนี้จนไม่ได้หลับได้นอนเป็นแน่“อืม…เมียจ๋า…” ต้นกล้าเพิ่มความเร็วสะโพกสอบ ใช้มือดันขาเรียวไปข้างหน้า แล้วจ้องโพรงแสนรักกลืนกินความแข็งแกร่งของเขาอย่างพอใจ“อือ อย่ามองค่ะ ปุ้นอาย” ก็นี่มันกลางวันแสก ๆ ถึงเขาไม่อายแต่เธออายนี่ ฝันไปเถอะว่าเขาจะฟัง“อ๊าย… อื่อ…” เสียงหวีดร้องระบายอาการเสียดเสียวเมื่อโดนอีกฝ่ายกระทุ้ง แถมเขายังทรมานเธอเพิ่มด้วยการบดขยี้บนตุ่มทับทิบ ที่ทำเธอปั่นป่วนจนต้องดิ้นเร่า ความสุขที่อัดแน่นในกายเธอนี้ใกล้จะระเบิดเต็มทีคนตัวโตเร่งจังหวะอย่างรู้ใจ ยิ่งโพรงแคบรัดตอดตัวตนของเขามากเท่าไรเขายิ่งทวีคูณความเผ็ดร้อน ตอกแท่งร้ายใส่โพรงแคบอย่างใจต้องการไม่นานนักคุณพ่อนักรักกับคุณแม่เสียงพิณต่างก็ประสานมือพากันท่องทุ่งดอกลาเวนเดอร์ สอง

  • สัญญารักของยัยตัวร้าย   ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ หนึ่งเดือนผ่านไปเช้าวันใหม่สำหรับคนไม่มีงานทำก็เป็นธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง เรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นขยับตัวหลายครั้งพยายามที่จะตื่น ทว่าร่างกายกลับหนักอึ้ง เพราะตั้งแต่เป็นคุณแม่ป้ายแดงนอกจากจะนอนเก่งแล้ว ครอบครัวธนโภคินยังสปอยล์เธอด้วยอาหารชั้นดี จนทำให้ร่างกายที่ซูบผอมเริ่มมีน้ำมีนวลขึ้นมาบ้างแล้วข้าวปุ้นหลับตาพริ้ม อดพรายยิ้มไม่ได้เมื่อแก้มนุ่มสัมผัสกับเพชรเม็ดงาม ที่พาลให้เธอนึกไปถึงคนให้ที่คุยอวดอยู่หลายวันว่าเป็นเพชรน้ำดีที่สุดจากจังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น‘พี่อยากให้ปุ้นรู้สึกมั่นคงห้ามทิ้งพี่นะ’ คิดถึงตรงนี้หัวใจของเธอก็พองโตกับเงินในบัญชีธนาคาร ที่ตัวเธอเองคิดว่าชาตินี้ไม่น่าจะมีปัญญาหาได้ จึงทำเรื่องเอาสมบัติของแม่ออกมาจากธนาคาร ต่อมาก็ซื้อลิปสติกฝากเดอะแก๊งตามที่เคยให้คำมั่นสัญญากันไว้โครกคราก! กลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาตามลมทำให้คนท้องต้องขยับลุก เพราะเจ้าตัวเล็กของเธอกินอาหารตรงเวลา“คุณพ่อทำอะไรให้ทานค่ะวันนี้” เสียงทักใสของคนที่ยื่นอยู่ด้านข้างทำให้พ่อครัวประจำบ้านโน้มหน้าไปหอมแก้มนุ่ม“ใกล้เสร็จแล้วครับผม” ต้นกล้าวางอุปกรณ์ครัวลงบนเคาน์เตอร์ รีบโอบลำตัวข

  • สัญญารักของยัยตัวร้าย   -ต่อ-ตอนจบ

    “เป็นอะไรคะ บอกพี่หน่อยได้ไหม หึ” คนถามพูดยังไม่จบประโยคอีกฝ่ายก็ถลาตัวเข้ามากอด ข้าวปุ้นเงยหน้าขึ้นปลดปล่อยความรู้สึกผิดให้ไหลพรากไปกับน้ำตา เอ่ยถามด้วยเสียงสั่นเทาปนสะอื้น “พี่ต้นกล้าโกรธปุ้นไหม”ต้นกล้าโอบภรรยาสาวให้นั่งลงบนเก้าอี้เด็ก ส่วนเขานั่งชันเข่าจับคางเล็กเบา ๆ ขยับไปมาอย่างเอ็นดู“พี่จะโกรธปุ้นเรื่องอะไร ไหนบอกพี่สิ”“ก็พี่ต้นกล้าทำงานอย่างหนักแต่ปุ้นคิดว่าพี่ต้นกล้ากับมัดหมี่ อื่อ…อื่อ…วันนั้น วันที่แม่ของนายช่างป่วยปุ้นโทรหาพี่ แต่เป็นมัดหมี่รับสายบอกว่าพี่ต้นกล้านอนอยู่ข้าง ๆ ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น แล้วมัดหมี่อะใส่แต่เสื้อกล้าม อื่อ…อื่อ…ตอนปลุกยังเอานมถูแขนโชว์ปุ้นด้วย เดี๋ยว ดูนี่สิ โพสต์แบบนี้ด้วย ปุ้นเลยคิดว่าพี่ต้นกล้าไม่รักปุ้นแล้ว” ปากกระจับบิดเบี้ยวพูดฟ้องไม่ต่างจากเด็กสามขวบ คว้ามือถือโชว์โพสต์มหาภัย ร้องไห้สะอึกสะอื้นปาดน้ำตาระรัวขณะส่ายนมเลียนแบบท่าทางของอีกคนพูดถึงตรงนี้ความน้อยเนื้อต่ำใจของเธอก็ปะทุขึ้นอีกจนต้องสะอึกสะอื้นหนักยิ่งกว่าเก่า สิ่งนี้ทำให้คนฟังเข้าใจทุกอย่าง ต้นกล้าปลอบใจอีกฝ่ายด้วยการจูบซับน้ำตาทุกหยดบนใบหน้าอ่อนเยาว์ ชูสามนิ้วสบตาพูดอย่างจริงจัง

  • สัญญารักของยัยตัวร้าย   32 ทาสรัก -ตอนจบ-

    32 ทาสรักเมื่อความเงียบมาเยือนบวกกับความเย็นสบายจากเครื่องปรับอากาศในรถตู้ ดวงตาของคนท้องจากที่ปรือก็หลับไปในที่สุดช่อผกาสั่งให้รถจอดอีกครั้งเพื่อที่จะได้เปลี่ยนที่นั่งกับบุตรชาย ต้นกล้าทะนุถนอมโอบเรือนร่างเล็กที่หลับสนิทให้นอนทับลงบนตัวอยู่ในท่าสบาย ปลายจมูกโด่งพรมหอมผมนุ่มสลวยของเมียรักตลอดเวลา เมื่อความหนาวมาเยือนเรือนร่างบอบบางก็เบียดลำตัวเข้าไปในวงแขนอบอุ่น ลากยาวจนกระทั่งถึงจุดหมาย“ถึงบ้านเราแล้วเดินไหวไหมคะ” เสียงกระซิบจากริมฝีปากอุ่น มอบจูบบางเบาบนหัวกระหม่อมขณะลูบไล้อ่อนโยนบนผิวละเอียด ปลุกคนหลับใหลให้ตื่นหญิงสาวผู้แง่งอนเมื่อรู้สึกตัวก็ดันตัวเองออกจากร่างกำยำ ทว่าก็ไม่ได้เป็นอย่างคิดเพราะถูกเขากอดแน่น จึงเงยหน้าทำตาดุใส่ อยากกัดปลายจมูกโด่งบนใบหน้าคมคายสักที อยากถามเรื่องคาใจในตอนนี้แต่ก็เกรงใจผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ด้านหลังและแล้วนัยน์ตาดำขลับที่จ้องดุก็อ่อนลงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ใช่แค่พูดอ่อนโยนอย่างเดียว ทว่าแววตาของเขาก็อ่อนโยนเช่นกัน“ให้พี่อุ้มไหม”“ไม่ต้อง! ปล่อย!” เสียงดุเบาในลำคอ“อืม…เมียใครวะดุจัง” กระซิบพร้อมกับขโมยความหอมบนแก้มนุ่ม คนที่ยกมือจะทุบก็ลดกำปั้นลงส่

  • สัญญารักของยัยตัวร้าย   31.1

    “พูดให้ผมฟังหน่อยว่าไปทำลายชีวิตของใครเข้าอีก”ข้าวเม่าเม้มริมฝีปากเล็กน้อย แปลกใจพอสมควรที่หัวใจของเธอกำลังสั่นไปกับสายตาดุที่จ้องมองอย่างไม่ลดละ แน่นอนว่าสิ่งที่เธอทำไม่ว่าจะเป็นพี่ต้นกล้าหรือแม้แต่ป้าของเธอก็ต้องโกรธ แต่เขาอาจจะไม่ คิดได้ดังนั้นมือเรียวก็รีบคว้ากระเป๋าสะพายข้างใบขนาดเล็ก หยิบมือถือขึ้นมาเปิดรูปที่ทำให้คนมองหยุดหายใจไปชั่วขณะ เมื่อเห็นแตงกวาจูบกับชายอื่น“ฉันกลับไปเอารถแล้วถ่ายไว้”“แล้วยังไง”“ฉันปิดหน้าผู้หญิงแล้วส่งไปให้พี่ต้นกล้าน่ะ เขาคงคิดว่าเป็นน้องนายอะสิ”“ไม่คงล่ะครับ คิดแน่นอน ไม่รู้ว่าคุณตีบทนางเอกแตกได้ไงทั้งที่ทำตัวเหมือนพวกนางร้ายขี้อิจฉา”“นี่! ลากฉันมาเนี่ยจะช่วยหรือจะซ้ำเติมไม่ทราบ”“ผมเชื่อว่าคุณคงไม่ได้ตั้งใจ คุณก็แค่อยากให้เขาเจ็บเหมือนที่คุณเจ็บ ก็แค่นั้น” คำปลอบโยนแสนจะธรรมดาที่ทำให้คนฟังรู้สึกซึ้งใจ ด้วยว่าการทำงานในวงการบันเทิงหลายปีมานี้รายล้อมไปด้วยผู้คนที่หวังแต่ผลประโยชน์ หล่อหลอมให้เธอเป็นคนที่ไม่เชื่อใจใครง่าย ๆ และก็ไม่บ่อยนักที่จะมีคนเข้าใจและรับฟังเธอ“นายเชื่อฉันจริง ๆ นะ” เสียงบอกแผ่วเบาที่ทำให้หัวใจของคนฟังเต้นแรง…หลังจากที่ทั้ง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status