มิหนำซ้ำ ความคิดเห็นข้างล่างก็ยังอยู่ และค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นจากความคิดเห็นของพวกเขา เวินเหลียงจับจุดได้คร่าว ๆ ว่า ต้องมีคนใส่ร้ายเธอแน่ ๆ บอกว่าเธอเป็นคนเปลี่ยนการแต่งหน้าและการแต่งตัวตามอำเภอใจถึงทำให้เกิดผลลัพธ์แบบนี้เวินเหลียงเลื่อนขึ้นเลื่อนลงไปในเฟซบุ๊ก ไม่นานก็หาต้นตอของข่าวเจอในเทรนด์การถูกพูดถึงของฉู่ซืออี๋มีคนแคปภาพหน้าจอคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้ดูแลกลุ่มแฟนคลับมาลงแน่นอนว่าผู้ดูแลกลุ่มย่อมเป็นคนของทีมฉู่ซืออี๋อยู่แล้วผู้ดูแลกลุ่มส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มว่า หวังว่าแฟนคลับทุกท่านจะใจเย็นลงก่อน อย่าไปคอมเมนต์อย่างสุดโต่งอะไรใต้แอ็กเคานต์ทางการของเอ็มคิว ไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อพี่ฉู่เอาได้ อันที่จริงเรื่องนี้พวกเราเองก็โมโหมากเหมือนกัน ทีแรกการแต่งหน้าของพี่ฉู่ก็ดีอยู่แล้วเชียว สุดท้ายผู้อำนวยการเวินอะไรนั่นจะให้เปลี่ยนการแต่งหน้าให้ได้ จะให้เปลี่ยนการแต่งหน้าให้ได้ท่าเดียว! เพียงแต่เธอเป็นผู้รับผิดชอบโปรเจกต์ พี่ฉู่เองก็ไม่มีทางเลือก ทำได้แต่เชื่อฟังฝ่ายเขามีคนถามขึ้นมาในกลุ่มว่า พี่ฉู่มีความสัมพันธ์กับประธานฟู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมเรื่องแค่นี้ก็จัดการอะไรไม่ได้
เวินเหลียงเงียบไป เธอเผยอริมฝีปาก แต่ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกไปดีเธอสูดลมหายใจเข้าลึกเบา ๆ ในใจขมขื่นและเจ็บปวดเธอไม่กล้าเธอไม่กล้าวางเดิมพันนี้เธอรู้ดีตั้งนานแล้วว่า ในใจของฟู่เจิง เมื่อเทียบกันระหว่างเธอกับฉู่ซืออี๋ มันเทียบอะไรกันไม่ติดเลยสำหรับฟู่เจิงแล้ว เขาถึงขั้นผลักให้เธอออกไปรับชั้นวางของที่หล่นลงมาแทนฉู่ซืออี๋ได้ ทำไมจะผลักเธอให้ออกไปรับคำด่าทอสาดเสียเทเสียแทนฉู่ซืออี๋ไม่ได้ล่ะ?ยิ่งไปกว่านั้นคำพูดพวกนั้นก็เป็นเพียงแค่คำพูดจาให้ร้ายบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ทำร้ายเธอไม่ได้อยู่แล้วอู๋หลิงเห็นเวินเหลียงเงียบ ก็ยิ่งกำแหงเข้าไปใหญ่ “ผู้อำนวยการเวิน คุณกล้าพนันไหม?”เวินเหลียงไม่ตอบ ทว่าตัดสายทิ้งไปเลยเธอรู้ดีว่า นี่คือเดิมพันที่มีแต่แพ้กับแพ้ ไม่มีความจำเป็นต้องไปพนันเลยต่อให้ฟู่เจิงไม่รู้เรื่องนี้ ถึงเขารู้แล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะสนับสนุนด้วยซ้ำไปเพียงแต่เธอจะยอมรับความพ่ายแพ้ไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้ เรื่องนี้ต้องมีคนหาคำอธิบายมาให้เธอผู้รับผิดชอบสตูดิโอส่งคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดภายในห้องแต่งตัวของวันนั้นมาให้เธอแล้วมันดันไม่มีเสียง ทว่า ด้วยเหตุการณ์ ณ ตรงนั้นและการกระ
เวินเหลียงขำพรวดออกมาเขาทำไม่ได้อย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ เพียงแต่เขาโลภอยากจะได้ทุกสิ่งเขาอยากจะหย่ากับเธอ แล้วไปคบกับคนรักเก่าของเขา มิหนำซ้ำยังอยากให้เธอเป็นแพะรับบาปแทนคนรักเก่าของเขา รับคำสาดเสียเทเสียของทุกคน“ฉันคิดว่าคุณก็คงเข้าใจ ในเมื่อคนข้างนอกไม่พอใจที่ฉันนั่งตำแหน่งผู้อำนวยการนี่ งั้นฉันก็จะลาออก ได้ไหม?”“ไม่ได้ ฉันไม่ตกลงเงื่อนไขนี้” ฟู่เจิงปฏิเสธอย่างเด็ดขาดเวินเหลียงเหน็ดเหนื่อยอยู่เล็กน้อย เธอรู้ดีว่าเธอขอร้องอะไรจากฟู่เจิงไม่ได้ สิ่งที่ฟู่เจิงให้เธอได้มีเพียงแค่เงินเท่านั้น เพียงแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ ในสามปีมานี้เธอได้เงินเดือนและโบนัสจากฟู่ซื่อมาเป็นจำนวนมากแล้ว“เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ฟู่เจิง มากกว่านี้ฉันก็ไม่พูดแล้ว แค่นี้นะ”เวินเหลียงตัดสายทิ้งไปเลย เธอล้มตัวลงบนเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยาก ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าควรทำอะไรริงโทนของโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งเวินเหลียงรับสาย “ฉันบอกแล้วไงว่าแค่นี้นะ ไม่ต้องโทรมาอีกแล้ว”“อาเหลียงฉันเอง” เสียงของโจวอวี่แว่วมาจากปลายสายเวินเหลียงอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองที่หน้าจอโทรศัพท์ “ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันจำผิดคนน่ะ”
เวินเหลียงไถฟีดเฟซบุ๊กพลางพูดกับโจวอวี่ว่า “นี่คือบทละครที่หลายวันก่อนนายบอกกับฉันว่ากำลังดู ๆ อยู่งั้นเหรอ?” “ใช่ เรื่องนี้แหละ”เวินเหลียงหัวเราะ “ดีใจกับนายด้วยนะ ได้บทบาทที่ชอบมาได้ สู้ ๆ คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมาให้ได้”คำวิพากษ์วิจารณ์ของโจวอวี่ไม่เลวเลย กล้าลองรับเล่นบทบาทตัวตนหลากหลายรูปแบบ เป็นคนมีชื่อเสียงในกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุน้อยช่วงก่อนหน้านี้รับบทนักแสดงนำชายในละครแนวระทึกขวัญเรื่องหนึ่ง เขาก็ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ดีอย่างล้นหลาม“เธอชอบนักนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเหรอ?”“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ใครไม่ชอบนักแสดงมากฝีมือบ้างล่ะ?”“ที่เธอพูดก็ถูก ฉันจะพยายามเอารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมกลับมาให้เธอดูนะ”หลังจากวางสายจากโจวอวี่ เวินเหลียงก็ฉวยโอกาสไถฟีดเลื่อนลงข้างล่าง มีข้อความหนึ่งดึงดูดสายตาของเธอไปฟู่เจิงฉู่ซืออี๋ เวินเหลียงพอจะเดาออกว่าเนื้อหาข้างในเป็นอะไร ทว่าก็ยังยั้งมือไม่อยู่กดเข้าไปเป็นอย่างที่คาดเอาไว้ไม่มีผิด นี่เป็นข้อความที่เกี่ยวกับคู่จิ้นการโต้เถียงของแฟนคลับคู่จิ้นหาจุดฟินเจออีกแล้ว เมืองอวิ๋นสุ่ยเป็นละครเรื่องแรกที่ได้รับบทบาทนักแสดงน
ฮอตแอนด์คูล “ใช่ ส่งมาให้ฉันภาพหนึ่งก็พอ เอาของที่ถ่ายวันแรกนะ”ไม่นานจูฝานก็ส่งภาพมาให้เวินเหลียงภาพหนึ่ง ภาพจากมุมของช่างภาพแตกต่างจากภาพแอบถ่ายเป็นพิเศษ ผ่านการแก้ไขในโฟโต้ชอปอีกครั้ง ก็จะให้อารมณ์อีกแบบหนึ่งที่แตกต่างออกไปเวินเหลียงส่งต่อภาพไปให้ผู้ช่วย “แคปรูปหน้าจอไปบางส่วน ใช้แอ็กเคานต์ทางการของเอ็มคิวลงรูปแอบถ่ายนี้ อย่าลงภาพต้นฉบับ”ไม่นานผู้ช่วยก็ใช้บัญชีทางการโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ตามคำสั่งของเวินเหลียง มาดูภาพหลุดกันเร็วเข้า กดไลก์กดแชร์ พี่ซืออี๋สวยจริง ๆด้านล่างคือรูปภาพที่แนบมาบรรยากาศใต้แอ็กเคานต์ทางการกลมกลืนกันเป็นอย่างมาก เหล่าแฟนคลับแห่บันทึกภาพกันไปเรื่องนี้ก็ผ่านพ้นไปทั้งอย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยขาของเวินเหลียงเองก็ดีขึ้นมากแล้ว วันพุธนี้จะเริ่มเข้าไปทำงานที่บริษัทแล้วเวินเหลียงออกมาจากห้องน้ำ เดินผ่านข้างลิฟต์ ประตูลิฟต์เปิดออกพอดี ด้านหลังฟู่เจิงมีเลขาสองสามคนออกมาจากภายในตัวลิฟต์ด้วยกันเมื่อพวกเลขาหยางเห็นเวินเหลียงก็รีบทักทาย “ผู้อำนวยการเวิน”เวินเหลียงพยักหน้าเบา ๆ พร้อมทั้งทักทายฟู่เจิง “ประธานฟู่ เพิ่งกลับมาเหรอคะ?”ฟู่เจิงมองไปที่เวินเหล
“นอกจากลาออก”“ไม่ใช่เรื่องนี้”“เธอว่ามาสิ”“ที่ฉันต้องการก็คือ ในด้านการประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์เอ็มคิวทั้งหมดหลังจากนี้ ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเหมือนอย่างแต่ก่อนเอง เป็นยังไง?”ฟู่เจิงวางตะเกียบ มองเธอแล้วก็ไม่พูดอะไรเวินเหลียงแสยะยิ้ม ทานอาหารต่อไปอย่างเอื่อยเฉื่อย “ถือซะว่าฉันไม่ได้พูดก็แล้วกัน”เธอรู้อยู่แล้วเชียวว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้เขากำลังป้องกันเธออยู่ โดยใช้อู๋หลิงมาถ่วงดุลเธอเขาไม่เชื่อใจเธอเลยสักนิด ไม่เชื่อว่าเธอจะไม่มีทางพุ่งเป้าเล่นงานฉู่ซืออี๋“เธอขออย่างอื่นได้นะ”“ไม่เอาค่ะ”ที่เธอต้องการฟู่เจิงก็ให้ไม่ได้ฟู่เจิงมองเธอพลางขมวดคิ้ว ก่อนจะเงียบไปทานข้าวจนกระทั่งใกล้หมดเวลาพัก ฟู่เจิงถึงพูดขึ้นมาว่า “ตอนค่ำ คุณปู่คุณย่าเรียกให้พวกเราไปกินข้าวที่บ้านใหญ่”เวินเหลียงพยักหน้า “ฉันรู้แล้ว”คงเป็นเพราะเรื่องที่ฟู่เจิงและฉู่ซืออี๋ติดอันดับการค้นหาร้อนแรง คุณท่านรู้ถึงการเคลื่อนไหวของฟู่เจิง จึงรอให้ฟู่เจิงกลับมาจากการไปทำงานนอกสถานที่ก่อนแล้วค่อยเรียกพวกเขาไปบ้านใหญ่เมื่อทานข้าวเสร็จเวินเหลียงก็วางตะเกียบลง “ขอบคุณที่เลี้ยงนะคะประธานฟู่ ฉันกินเส
คนใช้ยกอาหารอย่างอื่นออกมาคุณหญิงกำลังตักน้ำซุปให้เวินเหลียงและฟู่เจิงดื่มอย่างดีอกดีใจ “อาเหลียง อาเจิง พวกเธอต้องกินเยอะ ๆ นะ นี่น่ะย่าตุ๋นให้พวกเธอเป็นพิเศษเลยนะ รีบชิมเร็วเข้าสิ”“คุณย่า คุณย่ารีบมานั่งกินเถอะค่ะ”เวินเหลียงเอ่ย ระหว่างที่ก้มหน้า ทันใดนั้นกลิ่นเลี่ยนของน้ำซุปก็เตะขึ้นจมูก เธอควบคุมไม่อยู่ จึงรีบวิ่งไปห้องน้ำอย่างรวดเร็ว แล้วอาเจียนออกมา“อาเหลียง เป็นอะไรไป?” คุณหญิงคิดถึงปฏิกิริยาของเวินเหลียงเมื่อครู่ แล้วเอ่ยขึ้นด้วยความตกตะลึง “ให้ตายเถอะ อาเหลียงคงไม่ได้มีน้องแล้วใช่ไหม?”ฟู่เจิงส่ายหน้าอย่างใจเย็น “ไม่ใช่ครับ ช่วงนี้กระเพาะอาหารของเธอไม่ดี ต้องงดอาหารแล้วก็กินยาตลอด”“หา? แบบนี้นี่เอง? พวกแกไปตรวจดูที่โรงพยาบาลหรือยัง?” คุณหญิงกระวนกระวายใจ“อาเหลียงไปมาแล้วครับ” ฟู่เจิงเอ่ยครั้นได้ยินฟู่เจิงพูดแบบนี้ ท้ายที่สุดคุณหญิงถึงได้วางใจเธอจ้องตาทั้งสองข้างของฟู่เจิงอย่างเข้มงวดเพราะหวังดี “แกนะแก แต่งงานกันมาสามปีไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย ทำไมแกถึงไม่มีน้ำยาเลยนะ?”ฟู่เจิง “...”เมื่อเวินเหลียงบ้วนปากเสร็จก็ออกมาจากห้องน้ำ จากนั้นก็ดันซุปออกไปข้าง ๆ “
เวินเหลียงชี้ไปที่ห้องน้ำภายในห้อง “ฉันใช้ห้องน้ำเสร็จแล้ว คุณไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาเถอะ”ฟู่เจิงหยิบชุดนอนแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำภายในห้องน้ำที่แยกพื้นที่เปียกและพื้นที่แห้งทุกที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำนั่นคือกลิ่นที่อยู่บนตัวของเวินเหลียงพวกมันผ่านทางปลายจมูกของฟู่เจิง ไหลขึ้นไปบนสมองตามเส้นประสาททุกเส้นในร่างกายของฟู่เจิงยิ่งร้อนดังนั่งบนกองไฟจนยากจะอดกลั้นเอาไว้ขึ้นเรื่อย ๆ ครั้นเขาหลับตาในหัวก็เต็มไปด้วยภาพที่เขากับเวินเหลียงกอดและนัวเนียกันก่อนหน้านี้เวินเหลียงนั่งอยู่บนเตียงไถโทรศัพท์เล่นอย่างฉาบฉวย/สบาย ๆ ขณะที่กำลังจะเตรียมตัวนอนนั้น จู่ ๆ ก็ตระหนักได้ว่าฟู่เจิงเข้าไปในห้องน้ำพักหนึ่งแล้ว ทว่ากลับไม่ได้ยินเสียงน้ำเลยเวินเหลียงสงสัย เธอจึงเลิกผ้าห่มออกแล้วเดินไปที่ประตูห้องน้ำ ได้ยินเสียงลมหายใจหอบเหนื่อยและถี่แว่วดังมาจากด้านในผ่านไปสองสามนาที ทันใดนั้นเวินเหลียงก็ตระหนักได้ว่าฟู่เจิงทำอะไรอยู่ในห้องน้ำ สีหน้าของเธอพลันแดงระเรื่อขึ้นมา ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปบนเตียงผ่านไปครู่หนึ่งในห้องน้ำถึงได้มีเสียงน้ำหยดเปาะแปะดังขึ้นมา ทว่าไม่นานก็หยุดลง ฟู่เจิง