เพราะความรีบร้อนทำให้แพรดาวใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เธอมาถึงก็รีบเข้าไปในโรงพยาบาลรักษาสัตว์ทันที “สวัสดีค่ะ มารับน้องแมวดำค่ะ” แพรดาวพูดแล้วยกมือมือปาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ใบหน้า “ขอโทษที่มาช้านะคะ เตรียมกรงให้น้องแมวอยู่ค่ะ” เจ้าของร่างเพรียวบางเดินตามผู้ช่วยเข้าไปด้านใน สองวันมานี้เธอแวะมาเยี่ยมน้องแมวดำทุกวัน อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แววตาวาววับที่จ้องมองก็มีชีวิตชีวามากขึ้น เธอยื่นนิ้วไปแตะๆ เจ้าก้อนจิ๋วสีดำนั้นแล้วพูดหยอกล้อ “เดี๋ยวไปอยู่บ้านใหม่ด้วยกันนะ” เมื่อวานแพรดาวหิ้วกระเป๋าแมวมาฝากไว้กับทางโรงพยาบาลสัตว์แล้ว วันนี้แค่รับเจ้าตัวเล็กกลับบ้านก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย “เมื่อไหร่น้องจะทำวัคซีนได้คะ” “ลูกแมวอายุสองเดือนขึ้นไปค่ะ เจ้าตัวจิ๋วนี้อายุเพิ่งจะเดือนเดียว ระหว่างนี้เจ้าของดูแลน้องอย่าให้ออกนอกบ้านหรือเจอกับแมวตัวอื่นนะคะ อาจจะได้รับเชื้อได้” “ขอบคุณค่ะ” แพรดาวพยักหน้ารับ อีกหนึ่งเดือนยังมีเวลาหาเงินมาจ่ายค่าวัคซีนแมว “ถ้าอย่างนั้นรับน้องกลับไปเลยนะคะ”
“คุณตาคะ” แพรดาวยื่นหน้าเข้าไปในบ้าน ชายชรานั่งบนเก้าอี้โยกเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอแท็ปเล็จแล้วส่งยิ้มให้จนดวงตาหยีเล็ก “ว่าไงล่ะหนูแพร” “เอาน้ำฟักทองนมสดมาฝากค่ะ” มือเรียวชูถุงน้ำฟักทองนมสดขึ้น “ยังร้อนๆ อยู่เลยค่ะ หนูเทใส่แก้วให้เลยดีไหมคะ” “เอาสิ ตาไม่ได้กินนานแล้ว” “คุณตาอยากกินก็บอกหนูได้นะคะ หนูแวะซื้อให้ได้ค่ะ” เพราะเข้าออกบ้านจนชินและยังช่วยทำความสะอาดให้ด้วย ตอบแทนที่คุณตาให้เช่าบ้านในราคาถูก คุณบรรพตขยับตัวนั่งตัวตรง เมื่อแพรดาวเดินกลับมาอีกครั้งก็วางแท็ปเล็ตบนโต๊ะเตี้ยที่ตั้งอยู่ด้านข้าง “ไอ้เครื่องนี้มันก็สะดวกดีนะ หน้าจอมันใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือ” “หนูแพรบอกแล้วไงคะ ใช้บ่อยๆ ก็ชินเอง คุณตาเป็นคนทันสมัยอีกหน่อยจะได้วีดีโอคอลคุยกับลูกๆหลานๆ ได้สะดวกขึ้นค่ะ” หญิงสาวได้ยินเสียงหัวเราะแหบแห้งแล้วค่อยๆ จิบน้ำฟักทองนมสด “เมื่อก่อนไม่เคยต้องซื้อกิน อยากกินอะไรยายก็ทำให้กิน” “ตอนนี้คุณตาอยากกินอะไรก็บอกหนูแพรได้นะคะ ฝีมือหนูแพรไม่ถึงขั้นคุณยายแต่ก็คงพอกิ
หัสดินกุมขมับหลังจากฟังเสียงของตนเองที่บันทึกไว้ ให้ตายสิ! หลายต่อหลายครั้งที่ ‘ดาร์ก’ หาเรื่องให้เขาจนอยากไปรักษาโรคสองบุคลิกหรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่าโรคบุคลิกภาพแยกตัว เขาไม่ชอบที่ไม่มีความทรงจำของอีกคนหนึ่ง แต่ในขณะเดียวเขาก็รู้ดีว่า ‘ดาร์ก’ที่เหมาะกับงานสกปรกเหล่านั้นเพื่อตอบแทนบุญคุณ เขายอมให้มือตัวเองเปื้อนเลือด เพื่อให้แม่ได้รับการรักษาและชีวิตที่ปกติเรียบง่ายอย่างที่คนธรรมดาคนหนึ่งครอบครองได้ อาจเป็นจิตใต้สำนึกที่สร้าง ‘ดาร์ก’ ขึ้นมา หัสดินคิดแบบนี้มาตลอด ให้เขากลายเป็นแบบนี้ ‘ดิน’ ที่อ่อนแอ ‘ดาร์ก’ ที่เหี้ยมโหด การที่เขาเป็นอย่างนี้ก็ไม่ได้แย่นักหรอก เพียงแค่...ไม่รู้ว่าจุดจบจะเป็นอย่างไร และเพราะความลับนี้ เขาจึงยัง ‘โสด’ มาถึงทุกวันนี้ ใครจะอยากมีคนรักเป็นโรคบุคลิกภาพแยกตัวบ้างเล่า ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนบิดเอวไปมาไล่ความเมื่อยขบ ไม่รู้ทำไมดาร์กถึงขี้เกียจขนาดไม่ชอบนอนบนเตียง หลายครั้งหลายคราที่เขาตื่นมาบนโซฟาแบบนี้ ทั้งตัวเคล้าไปด้วยกลิ่นบุหรี่และเหล้า ท่อนบนเปลือยเปล่า แผ่นหลังมีรอยสักรูปงูอยู่ที่บั้นเอว นึกถึงรอยสักนั้นแ
เพราะลืมโทรศัพท์มือถือไว้ที่ทำงาน แพรดาวจำเป็นและจำใจต้องขอยืมโทรศัพท์จากชายแปลกประหลาดคนนี้ เขาทำหน้านิ่งแต่ก็ยื่นโทรศัพท์ให้เธอใช้ แพรดาวรีบโทรหาผู้จัดการดารินแล้วก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้ากังวลอยู่ในสายตาของชายหนุ่ม เขาหรี่ตามองก่อนพูดออกมา “มีอะไร” “เปล่าคะ” “ใช้เสร็จแล้วก็คืนมา” “ขอโทษค่ะ” แพรดาวรู้ว่าต้องคืนโทรศัพท์ให้เจ้าของ แต่เธอยังลังเลอยู่จึงยังกุมโทรศัพท์ของเขาไว้อย่างไม่รู้ตัว “มีคนที่ต้องโทรหาเหรอ ให้โทรให้ไหม?” “ไม่ๆ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่รบกวน” มือเรียวยื่นโทรศัพท์คืนให้ “โทรหาแฟนเหรอ” “ไม่ใช่ค่ะ! ฉันไม่มีแฟน” “ฉันไม่ได้สนใจเธอหรอกนะ” ชายหนุ่มพูดแล้วมองด้วยหางตา ตัวก็เล็ก ทั้งผอมทั้งบางอย่างกับเด็กขาดสารอาหาร มีอะไรน่ามองกันเล่า ริมฝีปากอิ่มสวยอ้าปากจะโต้เถียงแต่คุณหมอออกมาจากห้องตรวจพอดีทำให้แพรดาวหุบปากในทันที “น้องแมวมีขาดน้ำและมีภาวะขาดสารอาหาร ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดแต่แผลที่เท้าหน้าไม่น่าเป็นห่วงมากนักค่ะ ยังไงฝากน้องไว้ที่นี่ส
แพรดาวเคยผ่านโรงพยาบาลรักษาสัตว์แห่งนี้ แต่มองจากด้านนอกเท่านั้น แต่เมื่อรถสปอร์ตหรูจอดนิ่งสนิทแล้ว เธอก็ทำตาโตจนกระทั่งประตูรถฝั่งเธอเปิดออก ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้ แสงสว่างจากหน้าโรงพยาบาลทำให้เธอเห็นใบหน้าเขาชัดเจนกว่าลานจอดรถ “เธอเป็นคนแรกที่ฉันเปิดประตูให้แบบนี้เลยนะ” “คะ? อ๊ะ! ขอโทษค่ะ” หญิงสาวได้สติรีบก้าวลงจากรถทั้งที่ประคองเจ้าแมวน้อยตัวสั่นในอ้อมอก แต่สายตาที่จ้องมองอย่างเปิดเผยทำให้ชายหนุ่มหงุดหงิด “เป็นอะไรไปอีก” “พี่...พี่ดิน...พี่ดินเองเหรอคะ” ใบหน้านี้คือ ‘พี่ดิน’ หรือ ‘หัสดิน’ เมื่อครู่อยู่ในลานจอดรถแสงไม่ค่อยสว่างนัก เธอจึงมองเห็นเขาไม่ชัด มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนยื่นหน้าไปใกล้จนหญิงสาวถอยหลังไปครึ่งก้าว “มุกนี้เจอมาเยอะแล้ว เปลี่ยนมุกเล่นบ้างเถอะ” “เอ่อ...คุณ...มะ...ไม่ใช่...” หน้าตาเหมือนกันมาก เหมือนจนแทบจะพิมพ์เดียวกัน แต่นิสัยต่างกันราวกับฟ้ากับเหว ‘พี่ดิน’ ใจดีและอ่อนโยน ส่วนผู้ชายคนนี้...ดุชะมัด! “จะพาแมวไปหาหมออยู่ไหม?”
หญิงสาวหิ้วถุงขยะไปไว้ที่ถังขยะด้านหลังร้าน จู่ๆ ก็มีแมวตัวน้อยโผล่หน้ามาจากหลังถังขยะ แพรดาวจ้องมองดวงตากลมโตที่มีความหวาดกลัว เธอคอยๆ วางถุงขยะใส่ในถังเพื่อไม่ให้เจ้าแมวน้อยตกใจแล้วยื่นมือไปหา “สวัสดีตัวเล็ก มาจากไหนเหรอ” แพรวดาวพยายามผูกมิตรกับแมวน้อย บริเวณนี้แสงไม่สว่างมากนัก เธอเพ่งมองว่าเจ้าแมวตัวจิ๋วสีอะไร ขณะที่ยื่นมือไปหา เจ้าจิ๋วมอมแมวก็วิ่งหนีไปทิศทางอื่น “เดี๋ยวก่อนสิ! อย่าไปทางนั้น แถวนั้นมีพี่หมาจรนะ!” เธอร้องบอก แต่เจ้าแมวน้อยก็วิ่งปรู๊ดไปบริเวณที่จอดรถ ด้วยความเป็นห่วงทำให้สองเท้าวิ่งตามลูกแมวน้อยจนเห็นมันผลุบหายไปใต้ท้องรถยนต์ที่จอดอยู่ “นี่ๆ ออกมานะเจ้าตัวเล็ก” แพรดาวเดินรอบรถหรู เธอกลัวว่าเจ้าแมวจะเข้าไปในห้องเครื่องยนต์เหมือนที่เห็นออกข่าวอยู่บ่อยๆ เจ้าของร่างเล็ก ก้มๆ เงยๆ มองหาเจ้าแมวน้อยพลางส่งเสียงร้องเหมียวๆ แล้วเธอก็เห็นความเคลื่อนไหวอยู่บริเวณใต้ท้องรถ หญิงสาวจึงนั่งลงแล้วก้มตัวมองไปใต้รถ “เหมี๊ยวๆ ออกมาเร็ว หิวไหม ออกมาแล้วจะหาของอร่อยให้กิน” เพราะมัวแต่สนใจลูกแมวน้อยจึงไม่รู้ว่าม