หมู่บ้านจำปาขาว ขึ้นชื่อเรื่องการทำเสน่ห์เมตตามหานิยมและปลุกเสกของขลัง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในย่านนั้นรวมถึงละแวกใกล้เคียง ต่างพร้อมใจกันยกย่องให้ พ่อหมอดำ เป็นอาจารย์ผู้มีวิชาอาคมไสยเวทย์เก่งกล้าอันดับหนึ่ง
ดอกแก้ว บุหงา การะเกด เก็บสัมภาระลงเรือเดินทางออกจากหมู่บ้านถลางน้อยตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่สว่าง พวกหล่อนร่วมแรงแข็งขันช่วยกันพายเรือ จนมาถึงหมู่บ้านจำปาขาวในตอนสายวันเดียวกัน
เรือนของพ่อหมอดำ ตามหาไม่ยาก แต่การเข้าพบพ่อหมอดำไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากหนุ่มใหญ่ผู้นี้มีนิสัยรักสันโดษ ไม่ชอบสุงสิงกับคนหมู่มาก และเขาสามารถหยั่งรู้ว่าเวลาใดจะมีคนเดือดร้อนมาหาเพราะต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ
แต่กว่าจะได้เจอหน้าพ่อหมอดำ พวกหล่อนก็ต้องนับนิ้วรอคอยอยู่นานถึงห้าวัน โชคยังดีที่สำนักคุณไสยของหนุ่มใหญ่มีเรือนพำนักให้กับคนต่างถิ่นที่เดินทางมาไกล
“ข้าทำเสน่ห์ให้ได้ แต่ข้าไม่รับลูกศิษย์”
พ่อหมอดำตอบปฏิเสธเสียงห้วน ทำให้สามสาวมองหน้ากันเลิกลัก ครั้นเห็นท่าทางสิ้นหวังของพวกหล่อน พ่อหมอดำก็อดที่จะรู้สึกเวทนาไม่ได้
เขาเป็นผู้ชายย่อมใจอ่อนกับสาวสวยเป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะกับเด็กสาวที่ชื่อดอกแก้ว รูปร่างหน้าตาของเจ้าหล่อนงามสะดุดตาสะดุดใจเขานัก
“เอ็งแน่ใจรึว่าต้องการทำเสน่ห์”
“จ้ะ” ดอกแก้วตอบโดยที่ไม่สบตากับพ่อหมอ
“ถ้าเช่นนั้น... คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ไสหัวออกไปให้หมด”
เมื่อโดนไล่แบบซี่งหน้า บุหงากับการะเกดจึงต้องยกมือไหว้ลาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ครู่ต่อมา ครั้นอยู่ในห้องพิธีกรรมกับพ่อหมอดำสองต่อสอง ดอกแก้วรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทว่ายังทำใจดีสู้เสือ เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นต้นไทรสูงตระหง่าน แผ่กิ่งก้านร่มครึ้มอยู่ข้างเรือนของพ่อหมอดำผู้มีวิชาอาคมไสยเวทย์เก่งกล้า
“เอ็งมาจากที่ใด”
พ่อหมอถามราวกับอยากชวนสนทนา… ตาคมกริบยังจับจ้องมองเรือนร่างงดงามของผู้มาเยือนมิวางตา ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงแทบจะเดินหนีเพราะใครๆ ก็รู้ว่าจอมขมังเวทย์ผู้นี้รักความสันโดษ วันๆ มักจะเข้าป่าเข้าถ้ำเพื่อมุ่งบำเพ็ญตบะให้แรงกล้า แต่ว่าสตรีที่ยืนอยู่เบื้องหน้านี้แตกต่างจากหญิงสาวทุกคนที่เคยพบเจอ
“ฉันมาจากหมู่บ้านถลางน้อย” ดอกแก้วตอบ
“หมู่บ้านถลางน้อย” พ่อหมอทวนคำแล้วกล่าวต่อ
“ข่าวว่าตอนนี้ไอ้เศรษฐีทองก้อนมันทำตัวกร่างเยี่ยงนักเลงคับเมืองถลาง”
รู้เรื่องนี้ก็เพราะว่าพ่อหมอดำอยู่ไม่ไกลจากถลาง วีรกรรมของเศรษฐีทองก้อนจึงลอยมากระทบหูบ่อยๆ
“นี่คือสาเหตุทำให้ฉันต้องดั้นด้นมาหาพ่อหมอ”
ดอกแก้วบอกธุระของหล่อน… รอยแค้นนี้ยังฝังตรึงอยู่ในใจ แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านพ้นไปแล้ว หากดอกแก้วยังไม่ลืมวันที่เฒ่าชิดกับนางบัวตองพ่อแม่ของหล่อนต้องจบชีวิตเพราะไม่ยินยอมให้ลูกสาวทั้งสามไปเป็นเมียน้อยของเศรษฐีทองก้อนผู้มีอำนาจบาตรใหญ่แห่งเมืองถลาง ทองก้อนมันชั่วนัก… ถึงกับวางอุบายให้คนใส่ร้ายป้ายสี โยนความผิดให้เฒ่าชิดกับนางบัวตองว่าลักลอบค้าขายฝิ่น ทำให้สองผัวเมียถูกทหารจับไปกุดหัว ทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์
“เอ็งจะให้ข้าช่วยอะไรก็ว่ามา”
“ฉันอยากให้พ่อหมอช่วยทำเสน่ห์ให้ที”
“ทำเสน่ห์” จอมอาคมได้ยินก็ถึงกับนิ่งไปชั่วขณ
“นี่แสดงว่าเอ็งมีชายที่รักแล้วสินะ… ชายผู้นั้นเป็นไคร” พ่อหมอดำซักไซ้ เมื่อรู้ว่าหญิงสาวรูปงามตรงหน้านี้มีชายคนรักอยู่แล้ว
“ขุนเรืองลูกชายคหบดีชุ่ม”
ดอกแก้วตอบอย่างไม่คิดจะปิดบัง… ถ้าเป็นคนอื่นหล่อนคงมิกล้าเผยความ แต่นี่เพราะว่าเป็น ‘พ่อหมอดำ’ ชายคนนี้ไม่ใช่จอมขมังเวทย์สายขาว แต่ยังเป็นสายเทาเพราะเชี่ยวชาญคุณไสยมนต์ดำเป็นที่เลื่องลือ หล่อนจึงกล้าเสี่ยงวัดดวงกับเขา
“อ้อ… ที่แท้ก็ลูกชายไอ้เศรษฐีผาดนั่นเอง”
คนในเมืองถลางไม่มีใครไม่รู้จักคหบดีชุ่ม เศรษฐีเมืองถลางผู้ร่ำรวยมั่งคั่งมาจากการค้าเครื่องปั้นดินเผาและผ้าไหม พ่อหมอดำเคยเจอเศรษฐีชุ่มเมื่อวันตักบาตรเทโวปีก่อน ยังไม่ลืมภาพของบุรุษผิวขาวร่างท้วมพุงพลุ้ยหัวล้านเหน่ง ใส่ทองเส้นโตเท่าโซ่มาตักบาตรพร้อมกับขุนเรืองผู้เป็นลูกชาย ที่จดจำได้เพราะว่าวันนั้นพากันขนบ่าวไพร่มากันอย่างเอิกเริกจนเป็นที่จับตาของชาวบ้าน
“หญิงงามผู้มีรูปเป็นทรัพย์อย่างเอ็ง ข้าไม่เห็นว่าจะมีความจำเป็นอันใดให้ต้องทำเสน่ห์ใส่ผู้ชาย แค่มันเห็นใบหน้างดงามของเอ็ง เห็นหุ่นทรงปลุกใจเสือป่าขี้คร้านจะพากันกรูเข้าหา”
ขณะกล่าวตาของพ่อหมอดำกวาดจากใบหน้าลงมาหยุดอยู่ที่ทรวงอก ทำให้ดอกแก้วต้องกำชับชายสะใบปิดเนื้อหนั่นปทุมถันคู่งาม สองเต้าใหญ่มากจนเนื้อหนั่นเนียนขาวแทบล้นออกมาเบียดต้นแขนกลมกลึง
“ถ้ามันง่ายอย่างที่พ่อหมอว่าก็ดี… แต่ปัญหาของฉันก็คือไม่อาจเข้าถึงตัวขุนเรือง”
ดอกแก้วตอบ… พ่อหมอได้ฟังก็เข้าใจ คหบดีชุ่มมีลูกชายคนเดียว ทั้งรักทั้งหวงราวกับไข่ในหิน ทุกวันนี้ไม่ว่าขุนเรืองจะเยื้องย่างไปไหนแต่ละทีก็ห้อมล้อมไปด้วยบ่าวไพร่ จึงไม่แปลกที่ดอกแก้วคิดจะพึ่งไสยดำทำเสน่ห์
“เอ็งชอบผู้ชายผิวขาวยังงั้นรึ”
พ่อหมอแอบนอกเรื่อง… ทั้งที่ปกติแทบไม่เคยเสียเวลาสนทนากับผู้หญิงคนใดเกินสามคำ แต่กับดอกแก้วคนนี้เหมือนมีความรู้สึกพิเศษบางอย่าง ทำให้อยากรู้เรื่องราวของหล่อนไปหมด
“ฉันไม่ได้ชอบผู้ชายผิวขาว อันที่จริงฉันชอบผู้ชายผิวคล้ำต่างหาก”
ดอกแก้วตอบ… เกือบจะตอบไปแล้วเชียวว่า หล่อนชอบผู้ชายผิวเข้มใบหน้าหล่อเหลาคมคร้ามอย่างพ่อหมอดำนี่แหละ
“อ้าว ถ้าชอบผู้ชายผิวเข้มแล้วเหตุใดเอ็งจึงเลือกขุนเรือง”
หัวคิ้วเป็นแพสีดำหนาเหนือกรอบดวงคาคมดุชิดเข้าหากันด้วยความสงสัย ดวงตาวาวประกายแอบยิ้มเมื่อรู้ว่าหล่อนชอบผู้ชายผิวคล้ำ
“ที่ฉันเลือกขุนเรืองก็เพราะว่าคหบดีชุ่มมีบารมีทัดเทียมกับไอ้เศรษฐีทองก้อน”
คำพูดของดอกแก้ว ทำให้พ่อหมอดำรู้ว่าจุดประสงค์ของการทำเสน่ห์ในครั้งนี้ก็คือการหาผัวเอาไว้คุ้มครองอย่างที่หล่อนว่า รู้สึกโล่งใจเมื่อรู้ว่าหาได้มีจิตพิศวาสขุนเรือง แต่ที่ต้องมาขอให้ทำเสน่ห์ก็เพราะว่าอยากมีคนคอยปกป้องคุ้มภัย
“ข้าว่าไอ้หนุ่มนั่นก็ไม่ได้หล่อไปกว่าข้า”
พ่อหมอดำหมายถึงขุนเรือง
“ฉันยังไม่เอ่ยสักคำว่าพ่อหมอไม่หล่อ”
คำพูดของดอกแก้วทำเอาพ่อหมอดำแอบยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่คิดว่าเมื่อโดนหญิงสาวกล่าวชมกันแบบซึ่งหน้าจะทำให้หัวใจหนุ่มใหญ่รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาอย่างประหลาด
“พ่อหมอยังไม่ตอบฉันว่าจะช่วยทำเสน่ห์ใส่ขุนเรืองได้หรือไม่”
ดอกแก้วรีบเปลี่ยนเรื่องสนทนาเข้ามาที่ธุระของหล่อน เมื่อสังเกตเห็นสายตาของพ่อหมอดำที่มองสำรวจเรือนร่างเอิบอิ่มไปด้วยเลือดเนื้อวัยสาวสะพรั่งตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ได้สิ… ทำไมจะไม่ได้ เดี๋ยวข้าจะทำพิธีร่ำน้ำรักสักยันต์ลงอักขระมหาเสน่ห์ในที่ลับของเอ็ง… วิธีนี้จะทำให้ไอ้ขุนเรืองคะนึงหาแต่ใบหน้าของเอ็งทั้งยามตื่นทั้งยามหลับ เมื่อได้เสพสมร่วมสวาทกับเอ็ง มันจะลุ่มหลงเอ็งจนโงหัวไม่ขึ้น และตกอยู่ในอำนาจของเอ็งแต่เพียงผู้เดียว”
“สักยันต์อักขระในที่ลับของฉันหรือ !?”
ถามตะกุกตะกัก
“ข้าไม่ได้หมายความว่าจะใช้เข็มสักทิ่มแทงเนื้อหนังของเอ็ง”
“ถ้าหากไม่ใช้เข็มสัก แล้วจะลงอักขระด้วยวิธีไหนหรือจ๊ะ”
“ด้วยมือของข้า... อันที่จริง การทำคุณไสยมหาเสน่ห์มีหลายวิธี ทว่าจำเป็นต้องใช้สิ่งของหรือสิ่งที่งอกออกมาจากร่างกายของขุนเรือง อย่างเช่น เสื้อผ้า เส้นผมหรือเล็บ แต่เอ็งมามือเปล่า หากต้องการให้พิธีกรรมลงยันต์อักขระสัมฤทธิ์ผลโดยสมบูรณ์ ข้าจักต้องใช้น้ำสวาทของเอ็งผสมกับสีผึ้งและผงอิธะเจ[1] ขณะที่ชโลมน้ำมันจันทน์จวง ให้เอ็งนึกถึงชื่อของไอ้อีที่เอ็งมุ่งหมายทำเสน่ห์ผูกมัดใจ เพื่อให้มันรักใคร่หลงใหลเอ็งเสมือนดังเลือดในหัวอก”
ซุ่มเสียงเข้มขรึมจริงจังของพ่อหมอดำ ทำให้คนฟังรู้สึกตระหนกตกใจจนขนอ่อนลุกเกรียวไปทั่วร่าง
“เอ็งจะเปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังไม่สาย”
คำพูดเหล่านั้นท้าทายอยู่ในที ดอกแก้วเชิดหน้าตอบโดยไม่เสียเวลาคิด
“ดั้นด้นมาไกลถึงที่นี่แล้ว ฉันไม่เปลี่ยนใจหรอกจ้ะ”
[1] ผงอิธะเจ คือ ผงที่ใช้ในทางเสน่ห์เมตตา
“อูยยย... ตอดดุ้นถี่ยิบเลย ผัวทำเมียเจ็บหรือจ๊ะ”ชายหนุ่มเอ่ยถามน้ำเสียงห้าวพร่า ใบหน้าหล่อคมบิดเบ้ทรมาน สะโพกแกร่งบดโยกให้ช่องทางสวาทขมิบขยายเข้ากับขนาดพวงสวรรค์“มะ ไม่เจ็บจ้ะ... แต่จุกเสียดขึ้นมาถึงกลางอกเลย อื้อ...” เด็กสาวแยกขาชันเข่าขึ้นเพื่อเปิดทางให้เรือนกายบึกบึนขยับขย่มเข้าหาได้ถนัดถนี่ยิ่งกว่าเดิม ดวงตากลมโตคู่งามวาวเยิ้มด้วยอารมณ์พิศวาส“ถ่างขากว้างอีกนิดเมียจ๋า ซี้ด...”พ่อหมอเมฆินทร์สูดปากครางโหย ตาคมชำเลืองดูตรงจุดที่พวงเพศชายหญิงเสียบคาติดหนึบ โยนีอ่อนนุ่มบอบบางของหล่อนดูดกลืนองคชาตใหญ่ยักษ์ของเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์ชายหนุ่มค่อย ๆ ถอนความยาวออกไปทั้งยวง แล้วก็เสือกกายเข้ามาในรวงรูรัดรึงจนสุดขนาดบุหงาหวีดร้องเสียงหลง กายสาวที่ผวากอดร่างหนาสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทกกระทั้นหื่นห่าม ทุกครั้งที่ทั้งคู่สวมสอดร่วมรัก หล่อนรู้สึกราวกับว่าเพิ่งจะเสียสาวให้เขาครั้งแรก“แม่บุหงาเมียรัก... ชอบให้ผัวกระเด้าซอยลึก ๆ หรือจ๊ะ อูย... ขมิบรัวเชียว... ซี้ดดด...”ฟันคมขบเม้มริมฝีปากอิ่
เพิ่งจะบ่ายแก่ ๆ แม้ว่าหน้าต่างและประตูทุกบานถูกปิดมิดชิด แต่ภายในห้องหับก็ยังสว่างคำพูดสัพยอกของพ่อหมอดำทำให้พ่อหมอเมฆินทร์ต้องลำบาก บุหงาบ่ายเบี่ยงอยู่นานกว่าจะยอมให้เขาถอดชุดเจ้าสาวของหล่อนออก“พี่เมฆินทร์ห้ามทำเสียงดังนะจ๊ะ ประเดี๋ยวคนข้างนอกได้ยิน ฉันอาย...” บุหงาพูดเบาราวกระซิบ มองชายหนุ่มด้วยสายตาบีบบังคับขู่เข็ญร่างบางอ้อนแอ้นนอนหนีบขากระมิดกระเมี้ยน ใช้มือซ้ายปิดจุกบนสองเต้าตูมเต่งและมือขวาปิดเนินเนื้อโหนกนูน แต่สัดส่วนโค้งเว้าและผิวพรรณขาวใสอล่องฉ่องก็ยังทำให้หล่อนดูยั่วยวนน่าใคร่เมื่อไหร่ที่พ่อหมอเมฆินทร์เห็นเมียเด็กคนนี้แก้ผ้า เขาจะมีอาการปวดหน่วงทรมานตรงเป้ากางเกงทุกครั้ง“แม่บุหงาคงต้องเอาอะไรยัดปากพี่ไว้”เขาก้มลงบดจูบกลีบปากอิ่ม พรมจูบหล่อนตั้งแต่บนลงล่าง ฝ่ามือหนาบีบขยำคลำเคล้นสองเต้ากลมโตไม่ออมแรงเสียงอ๊ะดังขึ้น เมื่อชายหนุ่มแหวกกลีบแคมอวบอูมแล้วดูดเลียน้ำหวาน เขาสอดนิ้วยาวใหญ่แทงคว้านเข้ามาลูบคลึงจุดกระสันภายในความสาวของหล่อน โดยไม่อนาทรต่อซุ่มเสีย
“แม่บุหงากล้าเสี่ยงตายช่วยชีวิตพี่เพราะเอ็งเชื่อใจพี่ ทั้งที่พี่ไม่กล้าเชื่อใจตัวเองด้วยซ้ำ เพียงแค่เรื่องผู้ชายต่อยตีกัน เอ็งจะไม่เชื่อใจพี่ได้อย่างไร”คำพูดเหล่านั้นทำให้บุหงาคิดได้ หล่อนไม่ควรบั่นทอนกำลังใจเขา“ฉันเชื่อใจพี่และจะไม่ขัดขวางอะไรแล้ว พอใจหรือยัง” ขยับเข้าไปกอดร่างหนาอย่างประจบประแจง“เอ็งไม่ขัดขวางอะไรแล้วแน่นะ”น้ำเสียงเขาเคร่งขรึม“ทำไมหรือ ?” หล่อนขมวดคิ้ว“เพราะพี่จะทำแบบนี้กับเอ็งอย่างไรเล่า”เขาจับหล่อนนอนตะแคงแยกขา เรือนกายบึกบึนขยับประชิดซ้อนแผ่นหลังบาง คว่ำฝ่ามือหนาตะปบเนินเนื้ออวบอูมบดขยี้อารมณ์สาวด้วยความเจนจัดช่ำชอง“อ๊าย! พี่เมฆินทร์... อย่าดันเข้ามา...”บุหงากรีดร้องเสียงหลงเมื่อชายหนุ่มเสือกกายเข้าหาอย่างใจร้อน ถึงแม้จะมีน้ำรักและเมือกเสียวเอ่อล้นเต็มร่อง แต่ลำลึงค์ของเขาใหญ่ยาวราวกับไอ้ช่อนตัวเขื่อง เพียงเขายัดเยียดเข้ามาแค่ส่วนหัว รวงรูสาวสดของหล่อนก็ปริตึงจนบวมเป่ง“แม่บุหงาบอกว่
พ่อหมอเมฆินทร์ครางเสียงแหบ สองมือรั้งสะโพกผายเข้ามากระเด้ากระทั้น ยิ่งกดดันเข้าลึกร่องกลีบอวบอูมยิ่งขมิบดูดหนึบแน่น เขาเร่งขยับบั้นเอวกระทุ้งกระถอกลำลึงค์เข้าไปในความสาว กึ่งกลางกายของทั้งคู่อัดกระแทกเข้าหากันเน้น ๆ“อ๊ะ ๆ พี่เมฆินทร์จ๋า... ผัวจ๋า... อ๊า... อร๊า!”บุหงาหวีดร้องเสียงแหลมขณะที่ชายหนุ่มตะบันกายบดขยี้ความอ่อนนุ่มด้วยจังหวะหนักหน่วงและถี่ยิบ หล่อนเกร็งก้นแอ่นเนินโหนกเด้งรับท่อนเอ็นใหญ่ยาวที่กระหน่ำตอกรวงรูรัดรึงอย่างเอาเป็นเอาตายเสียงเนื้อกับเนื้อปะทะกันดังระรัวแรงราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด ฉับพลันน้ำรักสองสายก็แตกซ่านสวนทาง“โอ...” พ่อหมอเมฆินทร์คำรามเสียงเข้ม ร่างสูงใหญ่บึกบึนโอบกอดร่างบางไว้แนบแน่น ก่อนจะทรุดฮวบนอนลงบนพื้นหญ้า สุขสมจนสั่นสะท้านไปถึงแก่นกระดูกความเหนื่อยล้าทำให้บุหงาผล็อยหลับไปครู่ใหญ่ ครั้นลืมตาขึ้นอีกครั้ง หล่อนก็ได้เห็นรอยยิ้มปลื้มปริ่มของพ่อหมอเมฆินทร์“งามเหลือเกิน... แม่บุหงาเมียพี่”ชายหนุ่มทำท่าจะก้มลงมาจูบ หล่อนจึงยกมือดันร่าง
พ่อหมอเมฆินทร์ก้มลงจูบเด็กสาวอย่างดุเดือดเร่าร้อน กอดรัดร่างบางไว้เต็มอ้อมแขนชายหนุ่มแทรกตัวเข้าไปอยู่ตรงกึ่งกลางความเป็นหญิง ขยับสะโพกโยกเบียดจนหล่อนแฉะชื้น แล้วเสือกกายเข้าสู่รวงรูรัดรึงจนสุดขนาด ด้วยการสวมสอดตอกตรึงเพียงครั้งเดียว ความจุกเสียดคับแน่นนั้น ทำให้บุหงาเกร็งกระตุกตอดรัดรอบความเป็นชายระริกระรัว“พี่ทำให้เอ็งเจ็บหรือ” เขาถามน้ำเสียงแหบพร่า ฝ่ามือหนาเลื่อนไล้ลงมาตามสัดส่วนโค้งเว้า แล้วจับเรียวขาคู่งามถ่างกว้าง พลางบดเบียดกลีบแคมอวบอูมให้แบะบาน และควงลำคว้านลึกภายในความอบอุ่นคับแน่น เพื่อให้หล่อนเหยียดขยายเข้ากับสัดส่วนอลังการของเขา“อ๊ะ... เจ็บตัวแค่นี้ เทียบไม่ได้กับความเจ็บใจ ที่พี่ปิดบังเรื่องสำคัญกับฉันหรอก”หล่อนสูดหายใจลึกกับความเสียวซ่านวาบหวามที่มีเขาเติมเต็มอยู่ในกาย พลันตวัดแขนโอบรอบต้นคอแกร่ง เหนี่ยวกอดเรือนกายบึกบึนไว้เป็นหลักยึด“แม่บุหงา แอบไปรู้เห็นอะไรมาอีก อูยยย...”ชายหนุ่มสูดปากครางโหย จับร่างบางนั่งคร่อมหน้าตัก กุมกระชับแก้มก้นกลมกลึงเอาไว้เต็มฝ่ามือ พร้อมกับโยกตัวเข้าหาเนิ
“แม่บุหงายอดรัก พี่รักเอ็งทั้งหัวใจ หากชาตินี้พี่กับเอ็งไม่มีวาสนาต่อกัน ขอให้ชาติหน้าเราสองได้ครองคู่เป็นผัวเมียอยู่กินร่วมกันไปจวบจนสิ้นอายุขัย”วิญญาณของชายหนุ่มร่ำไห้ขณะที่สมสู่กับเด็กสาวด้วยร่างเสือสมิง เขาไม่อยากข่มเหงย่ำยี่หล่อนเช่นนี้เลย แต่สันดานเดียรัจฉานในตัวเขามันกระเสือกกระสนหาหนทางปลดปล่อยกามกำหนัดในตัวหล่อนอำนาจอาถรรพ์แห่งตัณหาราคะควบคุมให้พ่อหมอเมฆินทร์เสือกไสแก่นกายแข็งร้อนเข้าสู่ช่องทางสวาทของบุหงา ร่างบางสะดุ้งสะท้านทุกครั้งที่ร่างสัตว์กลัดมันถาโถมโจนจ้วงหล่อนกรีดร้องจนริมฝีปากสั่น ความใหญ่ยาวของท่อนเอ็นที่เบียดเสียดบดขยี้ติ่งเสียวอย่างถนัดถนี่ต่อเนื่องนั้นทำให้น้ำหวานแตกทะลักออกมาจากกายสาวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สมิงหนุ่มยังพุ่งโผนโจนทะยานเข้าใส่ร่างบางอย่างไร้ปรานีมันมุ่งหมายบดขยี้พรหมจรรย์ของหล่อนให้แหลกลาญยับเยิน ทว่าความดุร้ายป่าเถื่อนนั้นกลับปลุกเร้าอารมณ์รัญจวนได้อย่างประหลาดล้ำ“อ๊อย... พี่เมฆินทร์จ๋า ฉันระบมไปหมดแล้ว อ๊า...”บุหงาร้องครวญครางนัยน์ตาลอย ร่องกลีบอวบอูมขมิบดูดท่อนเอ็